ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

อนุโมทนากับอาจารย์ทุกๆท่านในการร่วมสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ สาธุ

 

เรียนเชิญญาติธรรมทุกๆท่านที่มีความตั้งใจไปร่วมงานกับชมรมฯ ในวันอาทิตย์ที่ 26 ก.ย. นี้ พร้อมกันที่บ้านเรือนไทย ซ.จรัญสนิทวงศ์ 35 เวลา 9.00 น.

เดือนนี้มีความพิเศษที่ยิ่งใหญ่ ซี่งท่านจะได้ชมบารมีของแต่ละอาจารย์ผู้ทรงญาณบารมีในแต่ละด้านมาพร้อมกันในวันนี้

ผู้ใดที่ต้องการสนทนาธรรม ไขปัญหาข้อข้องใจในเรื่องการบำเพ็ญ การปฏิบัติ และติดขัดในเรื่องใดๆ สามารถสอบถามกับท่านอาจารย์เหล่านี้ได้โดยตรง

ทางชมรมฯ ยินดีต้อนรับทุกๆท่านค่ะ (f):VO

 

ขอขอบคุณ คุณพี่จัมโบ้ อ.ภราดรภาพ พี่ใหญ่ แม่เล็ก แม่รอง{น้องแม่เล็ก}ขออภัยนะคะไม่ทราบชื่อค่ะ และ อาจารย์อีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม บรรยากาศเป็นกันเองเช่นเคยค่ะ และปลื้มใจมากๆที่ได้ชมบารมีแม่คำมีค่ะ
ขออนุโมทนาบุญ มา ณ.ที่นี้ดวยค่ะ

 

ได้รับรู้ชีวิตคนอื่น ๆ ในอีกแง่มุมหนึ่ง เห็นทั้งสุขและทุกข์ เพื่อเก็บมาประมวลผล สุขใจที่ได้ร่วมบุญกับท่านที่จะไปบวชเป็นพระ มอบปัจจัยร่วมบุญไป ๑๐๐ บาท ด้วยความปีติยิ่งนัก

เสียดายไปงานไม่ทันช่วงที่มีการแนะนำ อีกสองท่านที่นั่งเรียงลำดับ กับคุณภารดร ทำให้ไม่ทราบว่าอีกสองท่านคือใครค่ะ สาธุค่ะ ;ปรบมือ

 

ทุกท่านล้วนเป็นสหายร่วมเดินทางข้ามห้วงน้ำกันทั้งนั้นครับ
ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้และสนทนาธรรมกับเพื่อนๆทุกๆคนครับ

 

ยินดีเป็นอย่างยิ่งเช่นกันครับ

 

รายงานสรุปผลกิจกรรมชมรมฯ ครั้งที่ 8/2553:

วันอาทตย์ที่ 26 กันยายน 2553 เวลา 09.00 น. - 17.00 น.

เวลา 09.00 - 14.00 น. เริ่มพิธีเปิดบารมีวิชชาสาม มีจำนวนผู้ร่วมกิจกรรม 65 ท่าน ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา หากรวมกับรุ่นเก่า ก็ประมาณเกือบ 100 คน สำหรับการเปิดบารมีวิชชาสามในครั้งนี้ ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการเกือบ 6 ชม. ส่วนใหญ่ผู้ที่มาเปิดบารมีเป็นวัยกลางคน จำนวนชาย-หญิงใกล้เคียงกัน ทุกคนมีความตั้งใจจริง มุ่งหวังที่จะพัฒนาจิตใจให้ใฝ่สูงขึ้น และต้องการเรียนรู้ทั้งหลักการและแนวทางปฏิบัติตามจริต ตามสัญชาติญาณที่ใฝ่หา เพื่อมรรคาหรือหนทางที่จะไปข้างหน้า


สิ่งหนึ่งเคยกล่าวว่าทุกอย่างล้วนแล้วเป็นดาบสองคม เช่นเดียวกันกับการเปิดวิชชาสาม นอกจากจะสามารถเข้าถึงแก่นของจิตวิญญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังทำให้เกิดคุณวิเศษติดตัวไปด้วย เพราะปัจจุบันนี้ คนดีมักจะโดนเบียดบังอยู่เสมอ ทุกวันนี้คนทำดีกับเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด แต่การทำชั่วกับกลายเป็นเรื่องปกติ หากเราไม่มีสิ่งนี้เป็นอาวุธทั้งทางโลกและทางธรรม ก็เชื่อได้ว่าเราไม่สามารถอยู่ได้อย่างปกติสุขอย่างแน่แท้


สำหรับใครบางคน อาจมองเหมือนว่าเป็นสิ่งเหลวไหล ไม่ใช่มรรคาแห่งการหลุดพ้น อันนี้ขอยอมรับว่าเป็นจริง แต่สุดท้ายเราก็มักจะเจอและมักจะหวังจากสิ่งนี้กันแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือพระสงฆ์องค์เจ้าก็ตาม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัตตังทั้งสิ้น บางคนก็ได้ติดตัวมา ตามการสั่งสมบารมีในอดีตชาติ บางคนก็ได้จากการเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันนี้ก็แล้วแต่บุพกรรม


ส่วนคนที่ได้สัมผัสแล้ว เข้าถึงแล้ว และยอมรับกับสิ่งที่เห็นสิ่งที่ได้สัมผัส ก็โปรดรับรู้และปฏิบัติให้ถูกแนวทาง โดยยึดหลักทางสายกลาง ไม่หลงกับสิ่งนี้ ไม่คิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ ไม่ใช่นำมาอวดอิทฤธิ์กันเล่นๆ เพราะสิ่งนี้มีได้ก็เสื่อมได้ หากเรารู้คุณประโยชน์จากสิ่งนี้ ย่อมจะนำพาเราสู่ที่สูงขึ้น บารมีก็จะสูงขึ้นเช่นกัน


สิ่งสำคัญเมื่อรับสิ่งนี้ไปแล้ว เสมือนหนึ่งว่าท่านมีครูบาอาจารย์ทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน ดั่งคนเดินทางขึ้นเขา ก็ต้องย่อมถามคนลงจากเขา ไม่งั้นก็ต้องเข้ารกเข้าพงป่าลึกไป ทำให้ต้องหลงเสียเวลาไปนาน


ความรู้หรือคุณวิเศษในทิพย์จักขุญาณ ย่อมนำพาให้เราเข้าใจและการติดต่อสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และจิตวิญญาณในรูปแบบต่างๆ ได้ อีกทั้งภาษาเทพพรหม สวรรค์ มนุษย์โลก และภาษาเอกภพ เพื่อความรู้ในระดับต่างๆ เช่น ระดับโลกธาตุ พืช สัตว์ มนุษย์ จิตวิญญาณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเอกภพอันเป็นคุณเอนกอนันต์


ส่วนอดีตตังสญาณย่อมทำให้เราเข้าใจในชาติภพ กรรมบันดาลทั้งในอดีตและชาติภพ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจว่า กฎแห่งกรรมนั้นมีจริง พระพุทธองค์ทรงค้นหาพบแนวทางเพื่อไขปริศนาและรู้แจ้งเพื่อหนทางแห่งการหลุดพ้นจากวัฏฏสังสารแห่งนี้


ทุกวันนี้เราอยู่ปัจจุบันเพื่อชดใช้กรรมเก่าให้เป็นโมฆะ และสร้างกรรมดีเพื่อยกจิตยกธรรมของตนให้สูงมากยิ่งขึ้น เพื่อมรรคาวิถีแห่งการหลุดพ้นในอนาคต สำหรับใครบางคน วาระนั้นอาจยังไม่ถึง ก็ขอให้มั่นต้องบำเพ็ญเพียรต่อไป อย่าได้ท้อถอย


จงใช้อาวุธที่ท่านมีอยู่ให้เหมาะสมกับวาระและโอกาสอันควร โดยเฉพาะมั่นใช้อาสาวะขยญาณ เพื่อประหารกิเลสต่อไป ชำระจิตใจของเราอย่างเนื่องๆ อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ก็คือ การบรรยายธรรมและการเจริญกรรมฐานวิชชาสาม เนื่องจากมีคนมาเปิดบารมีเยอะทำให้ต้องใช้เวลานาน จนล่วงเลยเวลาที่กำหนด

หากสิ่งใดที่ทำให้ท่านต้องกระเทือนใจหรือความรู้สึกที่ไม่ดี จะด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี

ก็กราบขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้

สุดท้าย ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ได้มีร่วมกิจกรรมไว้ ณ โอกาสนี้

ขอบคุณ อ. อัคนีวาต ที่ได้มาสงเคราะห์ช่วยเหลือญาติธรรม
ขอบคุณ คุณจัมโบ้ และเจ้าของเคหะสถานแห่งนี้ ที่ได้สงเคราะห์ให้พวกเราได้มีสถานที่ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
ขอบคุณ แม่ตุ๊กตา ที่เมตตาอาหารเที่ยงให้แก่พวกเรา
ขอบคุณพี่ใหญ่ คุณวิเชียร และคุณแอ็ด
ขอบคุณทุกท่าน ที่ได้ร่วมอนุโมทนาการลาบวชของคุณเวฬุวัน
ขอบคุณทุกท่าน ที่ได้ร่วมบุญกุศลสร้างพระพุทธเจ้าปางเทศนา ณ วัดโป่งขาม จ. กาญจนบุรี

ขออำนวยพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุข ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมง

ด้วยความเคารพ
ภราดรภาพ

 

เรื่อง ประกาศขอความอนุเคราะห์จัดหาสถานที่สำหรับกิจกรรมของชมรมฯ
เรียน ญาติธรรมทุกๆ ท่าน

เนื่องด้วยปัจจุบันชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์ได้ดำเนินกิจกรรมมาเกือบ 2 ปี (ตั้งแต่ปี 2552 - ปัจจุบัน) ปัจจุบันสถานที่ใช้ประกอบกิจกรรมเป็นเคหะสถาน ไม่สามารถจะรองรับจำนวนผู้ที่ต้องการเจริญกรรมฐานวิชชาสามได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งมีคนรุ่นเก่าที่ยังตกค้างเป็นจำนวนมากที่ต้องการสอบอารมณ์ คาดว่าประมาณ 200 กว่าคน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์หรือคำชี้แนะในการจัดหาสถานที่เพื่อการเจริญพระกรรมฐานวิชชาสามที่เหมาะสม

สำหรับสถานปฏิบัติเจริญกรรมฐานวิชชาสามดังกล่าว มีปัจจัยพิจารณาดังต่อไปนี้
1) สถานที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ
2) สถานที่เหมาะสมกับการเจริญกรรมฐานวิชชสาม สงบ เงียบ เป็นบ้านหรืออาคารหรือวัดก็ได้ครับ หากมีที่จอดรถก็จะดีมากครับ
3) สถานที่สามารถบรรจุนักปฏิบัติธรรมได้ไม่น้อยกว่า 100 คน
4) มีค่าใช้จ่ายดำเนินการที่เหมาะสม
5) เจ้าของเต็มใจและยินดีต้อนรับ

อนึ่ง สำหรับรุ่นใหม่นั้นยังคงใช้สถานที่เดิมเพื่อการเปิดบารมีวิชชาสาม

จึงเรียนมาเพื่อขอความอนุเคราะห์
ด้วยความเคารพ

ภราดรภาพ

 

คุณ ภราดร ค่ะ ถ้าต่างจังหวัด ที่ภาคอิสานคือจังหวัดอำนาจเจริญ จะให้ทำเป็น สถานปฎิบัติที่ วิเวก เงียบ สงบ ไว้สำหรับฝึกปฎิบัติวิปัสสนาโดยตรง ถ้าหากคุณมีโครงการ ที่จะจัดนอกสถานที่ ดิฉันยินดีอย่างยิ่งค่ะ

 

ต้องขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงกับกิจกรรมที่พี่ภารดรภาพได้จัีดขึ้นมาจนเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความสำเร็จในทางธรรม อย่างน้อยข้าพเจ้าก็รู้สึกดีและมีปิติเสมอที่เข้ามาอ่าน เห็นเพื่อน ๆ
รวมใจกันปฏิบัติ แม้บางคนจะไปได้เร็ว บางคนจะไปได้ช้า แต่อย่างน้อยเราทุกคนก็ได้ไป
ในแนวทางเดียวกันคือธรรมแห่งโลกุตรธรรม เพราะธรรมนั้นย่อมเกิดกับผู้ใฝ่ธรรมทุกท่าน
สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน นั่นคือว่างเปล่า

 

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
หากจะไม่เป็นการรบกวน ผมขอรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เพิ่มเติมด้วยครับ
ผมจะลองจัดทำแผนงานเพื่อประกอบการนำเสนอ แล้วจะแจ้งให้ทราบในโดยเร็วนะครับ

ด้วยความเคารพ
ภราดรภาพ

 

ขอบคุณมากครับ ที่เป็นกำลังใจให้แก่เหล่าญาติธรรมและทีมงานทุกๆ ท่าน
ทุกกำลังใจของท่าน เป็นสิ่งที่จะทำให้เราต่างมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เพื่อเจริญรอยธรรมต่อไป

ขอให้ท่านเจริญในธรรม

 

ภาพประกอบในงานพิธีเปิดบารมีวิชชาสามและการลาอุปสมบทของคุณเวฬุวัน


ภาพที่ 1: บรรยายกาศผู้เข้าร่วมในพิธี



ภาพที่ 2: สล่าป้อมผู้กล่าวนำอาราธนาและมอบผ้าไตรจีวรแก่คุณเวฬุวัน



ภาพที่ 3: คุณวิเชียรขณะกำลังมอบบาตรให้แก่คุณเวฬุวัน



ภาพที่ 4: คุณภราดรภาพขณะกำลังมอบผ้าไตรชุดครองให้แก่คุณเวฬุวัน



ภาพที่ 5: คุณเวฬุวันขณะกำลังกล่าวปฏิญาณตนต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



ภาพที่ 6: คุณเวฬุวันขณะกำลังกล่าวคำขอขมาอโหสิกรรม กายกรรม มโนกรรม
และวจีกรรมต่อญาติธรรมทั้งหลาย



ญาติธรรมทั้งหลายต่างกล่าวอนุโมทนาพร้อมเพรียงกันทั่วหน้า
ณ บัดนี้ บุรุตชายผู้นี้ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร ขอพระพุทธองค์ทรงโปรดเมตตา ขอทรงโปรดชี้ทางสว่างแห่งปัญญาด้วยเทอญฯ


เหล่าญาติธรรมทั้งหลายขออนุโมทนา สาธุ

ด้วยความเคารพ

 

สถานที่แห่งนี้ตรงปากทางเข้า อยู่ตรงข้าม โรงเรียน เทคนิคอำนาจเจริญ บ้าน โนนหนานแท่ง เส้นทางไป มุกดาหาร เลี้ยวเข้าซอยขวามือซึ่งติดกับหน่วย นพค 51 เข้าไปลึกประมาณ สิบกิโล ไม่แน่ใจ ที่แน่นอนที่สุดให้คุณ โทร เบอร์ของคุณแม่ดิฉันท่านจะให้ข้อมูลละเอียดยิ่งขึ้นค่ะ 0852023647 แย้ม หวานอ่อน

 

เรียน คุณอัคนีวาตครับ

ผมได้มีโอกาสร่วมงานในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเห็นท่านเมตตาเปิดจักระให้กับผู้ร่วมงานหลายท่าน เสียดายที่ช่วงบ่ายคุณอัคนีวาตไม่ว่างกลับไปก่อน หากมีงานหน้า
ที่คุณอัคนีวาตเมตตาเช่นนี้อีก ผมขอเปิดจักระบ้างนะครับ

 

ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
และต้องขอขอบคุณอ.ภารดรภาพที่ให้โอกาสผมได้ช่วยเหลือสหายธรรมในครั้งนี้ด้วยครับ

 

ขอบคุณ อ.อัคนีวาต เป็นอย่างสูง
ที่เมตตาสงเคราะห์ญาติธรรมในครั้งนี้
ขออนุโมทนาเต็มกำลัง

เนื่องจากเวลาไม่ค่อยเอื้ออำนวยในวันงาน
ทำให้ได้สนทนากับ อ. ได้เพียงเล็กน้อย
หากต้อนรับไม่ดีเท่าที่ควร ก็ขอโทษไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ด้วยความเคารพ

 

น้องที่โดนวิญญานเด็กตามในงานของชมรมครั้งที่ 8 ที่พี่ใหญ่บอกให้ไปสร้างพระและได้ร่วมบุญด้วย ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้ ใช่น้องฝนหรือน้องแหม่มหรือเปล่า ถ้าได้อ่านข้อความนี้แล้วช่วยติดต่อกลับมาด้วยครับ หรือจะ PM มาก็ได้ อยากคุยด้วยครับ

 

นารีรัตน์ อ้างอิงข้อความ:

คุณนารีรัตน์ ขออนุโมทนา ผลการปฏิบัติ คนฉลาดย่อมเรียนรู้โดยไม่ลังเลใจ

พระองค์หรือครูบาอาจารย์เราจะปรากฎอยู่เคียงข้างเราเสมอ
จิตเราจะรับรู้ได้จากมโนจิต ในเมื่อเราสามารถคว้านหาจิตตนเองได้
แล้วทำไมเราจะหาจิตครูบาอาจารย์ไม่ได้ การสื่อสารมีตั้งหลายวิธี เช่น สนทนา (ตั้งคำถาม คำตอบจะออกมาเอง)
ใช้ตาทิพย์ (จิตคล้ายเห็น ไม่ใช่ตาเนื้อ) การรับรู้ถึงพลังกระแสรังสีครูบารอาจารย์ (เช่น ขนลุกขนพอง มีปิติในระดับต่างๆ เป็นต้น)
อันนี้ ต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อยๆ จะได้รับรู้ถึงพลังบารมีของครูบาอาจารย์ เดี๋ยวก็รู้เอง

สิ่งสำคัญต้องเ้ข้าใจประเภทของอภิญญา ดังนี้
1) อภิญญา 5 (ตาทิพย์ หูทิพย์ ระลึกชาติ รู้จิตผู้อื่น อิทธิฤทธิ์)
2) อภิญญา 6 (อภิญา 5 + อาสวักขยญาณ)
3) วิชชาสาม (ระลึกชาติ ตาทิพย์ อาสวักขยญาณ)
4) วิชชาแปด (อภิญญา 6 + ญาณทัสนะ + มโนมยิทธิ )

สำหรับเตวิชโช (วิชชา 3) ประกอบด้วย...
1) ปุเพนิวาสานุสสติญาณ - การระลึกชาติได้
2) จุตูปปาตญาณ - รู้ว่าสัตว์ที่ตายไปแล้ว และเกิดมานี้ตายแล้วไปไหน ก่อนเกิดมาจากไหน รวมถึงอดีตและชาติภพ
2.3 อาสวักขยญาณ - รู้จักทำอาสวกิเลสให้สิ้นไป

ส่วนมโนมยิทธิ หรือฤทธิ์ทางจิต คล้ายๆ กับวิชชาสาม
ต่างกันเพียง มโนมยิทธิ ส่งกายทิพย์ออกนอก แต่วิชชาสามไม่ต้องส่งกายทิพย์ออกนอก
เพราะการออกแต่ละครั้ง หากกำลังไม่พอ ก็จะเป็นเพียงครึ่งกำลัง หากกำลังพอ ก็จะเต็มกำลัง
จะครึ่งหรือเต็มกำลัง ก็คือการออกนอก เช่น ถอดกายทิพย์ (รูปทิพย์) ที่ตาเนื้อมองไม่เห็น แล้วก็เดินท่องไปในแดนต่างๆ

ซึ่งถือว่าเป็นดาบสองคม หาำกไม่มีกรรมฐานที่แน่นพอ เดี้ยงกันทุกราย เพี้ยนง่ายครับ และก็เพี้ยนกันมาเยอะด้วย
หากฝึกมโนมยิทธิ ต้องศึกาษและเข้าใจสภาวะนี้ก่อน ไปเปิดใหม่ๆ (สมาธิไม่พร้อม) นั่งเหม่อ เอ่อ ทั้งวัน
ต้องฝึกจิตมองในสิ่งที่ไม่เห็น จนเกิดอำนาจฤทธิ์ จนกว่าจะเกิดความชำนาญ

นี้คือข้อแตกต่างระหว่างวิชชาสามกับมโนมยิทธิ
วิชชาสามก็ถอดออกได้ แต่ต้องอาศัยครูบาอาจารย์คุมตลอด ไม่งั้นกลับบ้านไม่ถูก

ที่สำคัญวิชชสามที่ผมเปิดให้ นอกจากจะได้อานิสงค์จากคุณวิเศษ 3 ประการแล้ว
ยังได้ภาษาที่สามารถสื่อสารได้ทุกระดับไม่ว่าจะเป็น พหรมโลก สวรรค์โลก มนุษย์โลก บาดาลโลก นรกโลก ฯลฯ รวมถึงความรู้ตั้งแต่โลกธาตุ พืช สัตว์ มนุษย์ จิตวิญญาณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเอกภพ

ฉลาดตั้งคำถามจริงๆ

ขอให้เจริญในธรรม

 

เรียนถามอาจารย์ภราดร

การที่เราสวดมนต์ เช่น คาถาอิติปิโส ทุกวันๆละร้อยเก้าจบ เป็นเวลาหนึ่งเดือน และมาบัดนี้ สวดได้ส่วนหนึ่งยังไม่ถึง ยี่สิบจบ แต่จิตดับ นั่งสมาธิไปโดยไม่รู้สึกอะไรเลย เสียงเงียบ ดับหายไป จะพิจารณาอย่างไรต่อไปค่ะ ขอความกรุณาตอบด้วยค่ะ