ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Pleased, 30 พฤษภาคม 2009.

  1. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ขออนุโมทนา เป็นคำถามที่มีประโยชน์โดยทั่วกัน

    ภาษาเทพเทวัญ เป็นการสื่อสารที่เกิดจากจิต ถือว่าเป็นอภิญญาอย่างหนึ่ง ภาษานี้จะครอบคลุมถึง ภาษามนุษย์ ภาษาสวรรค์ ภาษาเทพพรหม ภาษาสัตว์ ภาษาภูติผี ภาษาบาดาล เป็นต้น

    ภาษาเหล่านี้ ได้รังสรรค์เพื่อมนุษย์โลกได้ติดต่อสื่อสารกันตามแต่เผ่าพันธ์ ประเพณี และวัฒนธรรม เช่น ภาษาเทพจีน ภาษาเทพภารตะ ภาษาเทพทิเบต ภาษาเทพอีอิปต์ ภาษาเทพไทย เป็นต้น

    สำหรับนักปฏิบัติธรรม เมื่อมีการปฏิบัติและเกิดสภาวะจิตที่มีความละเอียด กายทิพย์ก็ดี จิตทิพย์ก็ดี เมื่อมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือครูบาอาจารย์มาแฝง ท่านก็จะเปิดภาษาให้เราได้ติดต่อสื่อสารระหว่างกัน เป็นภาษาที่เกิดจากจิตเดิมก่อน เช่น หากท่านอุบัติมาจากชั้นสวรรค์ ภาษาสวรรค์ก็จะถูกเปิดมาก่อน หากท่านมาจากชั้นพรหม ภาษาพรหม ก็จะติดและถูกเปิดมาด้วย อันนี้ ก็แล้วบุญสะสมในอดีต

    แต่ภาษาพรหมส่วนใหญ่เป็นภาษาราชการ ใช้ได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าสัญชาติใดก็แล้วแต่ เคยไปคุยกับชาวพม่าท่านหนึ่งที่ชายแดนเชียงราย-พม่า

    ถามว่าเหตุใดจึงมาเป็นหมอดูฝั่งไทย (พูดไทยไม่ค่อยได้) ต้องให้เพื่อนอีกคนช่วยแปลเป็นไทยให้ เขาก้บอกว่าเขาต้องมาที่นี้ ทุกๆ วัน เขาต้องก้มกราบศรีษะกระทบ (โขกศรีษะ) กับขั้นกระไดทุกๆ ขั้น เป็นเวลา 3 ปี

    แล้วเหตุใดต้องกระทำเยี่ยงนี้ ก็ปรากฎว่า ชาติที่แล้ว เขาทำลายวัดพระพุทธศาสนาในเมืองไทย เหตุเกิดที่เชียงราย จึงต้องกลับมาเพื่อไถ่โทษที่นี้ ในระหว่างสนทนากันไปนั้น ก็พูดเป็นภาษาเทพไปด้วย ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น

    ภาษาเทพเทวัญ หากยังไม่ควรแก่เวลา หากเปิดไป อาจส่งผลเสียได้ด้วยเช่นกัน มีหลายท่านที่พยายามเปิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น เปิดโอษฐ์ด้วยมนตรา ด้วยการระเบิดจิต ด้วยการสวดมนต์เร็วๆ เป็นต้น โดยเฉพาะคนที่เปิดทางโทรศัพท์ และอยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เจ้ากรรมนายเวรแทรกหรือหมู่มารเข้ามาได้

    ผมมักจะแนะนำให้คนที่วาระถึงแล้วเท่านั้นให้เปิดได้ หากจะเปิด ควรเปิดในที่อันควร ควรเป็นสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเปิดควรนั่งสมาธิและปฏิบัติจิตให้สะอาดพร้อม เพื่อความเป็นศิริมงคล ไม่งั้นเปิดไปก้ไม่สมบูรณ์ ต้องมาเปิดใหม่อีกครั้ง

    แต่สำหรับใครบางคน อาจเปิดไม่ได้ เพราะเจ้ากรรมนายเวรเขาจ้องหรือเล่นงานอยู่ เปิดไปแทนที่จะเป็นครูบาอาจารย์ กลับกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวร คราวนี้ก็ฟ้องแหลก เช่น ไปทำแท้งมาก ไปฆ่าสัตว์ใหญ่มา เป็นติดสินบนมา ฯลฯ แล้วแต่วาระกรรม ที่นี้หากเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่อาฆาต หรือหมู่มารที่คอยจ้อง ในระหว่างเปิด กับครูบาอาจารย์ (เจ้าพิธี) ที่ไม่มีบารมีมากพอ ก็ซวยไป แทนที่จะได้สิ่งดีๆ กลับได้ผีได้หมู่มารไปแทน เห็นมาเยอะครับเรื่องแบบนี้

    สำหรับภาษาเหล่านี้ แรกๆ เราจะแปลไม่ออกหรอกครับ ต้องใช้เวลาฝึกจิตอีกนาน โดยเฉพาะต้องได้เจโตฯ หรือหมั่นพูดบ่อยๆ แต่ระวัง เด๊ยวใครจะหาว่าบ้า แรกๆ ก้เหมือนเด็กอนุบาล ค่อยๆ ผูกคำ ผูกประโยคนะครับ

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  2. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    เรียน ท่านอาจารย์

    ที่จริงเรื่องนี้ทิพย์ว่าจะถามหลังจากวันที่ 26/9 ไปแล้ว แต่เมื่อมีผู้ถามปัญหาในทำนองเดียวกัน ก็เล่าให้ฟังเสียเลย ท่านอาจารย์ทราบแล้ว มีข้อเสนอแนะ ชี้นำเพื่อปฏิบัตเพิ่มเติมอย่างไร กรุณาด้วยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า

    เมื่อคืนวันที่ 18/6/52 ทิพย์ฝันว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง ให้ทิพย์ท่องภาษาอะไรไม่รู้ ยังหาคำแปลไม่ได้ ในฝันทิพย์ท่องจนจำได้ เสียงผู้ชายบอกว่า จำได้แล้วให้ลุกขึ้นมาเขียน ได้ตอบกลับไปว่า เช้าขึ้นมาค่อยเขียนแล้วกัน ง่วงนอน พลันก็ได้ยินเสียงตะคอกใส่หูว่า "ลุกขึ้นมาเขียนเดี๋ยวนี้ เช้าขึ้นเจ้าก็ลืม" เจอไม้นี้ สะดุ้งเลยค่ะ งวงเงียขึ้นมาควานหากระดาษ ปากกา เหลือเชื่อที่คืนนั้นก่อนนอน เอากระดาษ ปากกา มาจดโน่น จดนี่ ก่อนนอน เลยหยิบได้ไม่ยาก มือถือก็อยู่ใกล้ ๆ คืนนั้นดูพร้อมทุกอย่าง แสงจากมือถือ ปากกา กระดาษ พร้อม เขียนเสร็จ มองดูนาฬิกา ประมาณตีสาม เห็นนาฬิกาแล้วก็หลับไปเลย

    ตื่นเช้าขึ้นมาอาบน้ำจะไปทำงาน นึกมาได้ว่า "เฮ้ย ... เมื่อคืนเขียนอะไรไว้นี่หว่า.."
    เลยไปที่เตียงนอน ควานหากระดาษ ปากกา เอามาอ่านแล้วก็ขนลุก " เขียนมาได้อย่างไงวะเนี่ย แปลว่าอะไร " จำได้ว่าในฝันให้ท่องขึ้นใจ จะใช้เมื่อไหร่ให้พร้อม เลยท่องปิดท้ายหลังจากสวดมนต์ทำวัตรเช้า กับเย็น ค่ะ

    เรื่องมีแค่นี้ ทราบแล้วอาจารย์แนะนำด้วยค่ะ หากอยากทราบว่าข้อความเขียนว่าอย่างไรบ้าง บอกมาค่ะ จะส่งให้ทาง PM ขอบคุณนะคะ:cool:
     
  3. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ขออนุโมทนาเต็มกำลังครับ
    ข้อความที่ได้ลิขิตตามประสงค์ของพระองค์นั้น ย่อมเป็นเนื้อนาบุญแก่คุณ
    ขอให้จดจำและน้อมนำมนตราแห่งพระองค์ไว้ตลอดกาล
    แล้วรู้ไหม เป็นใคร ท่านเอยพระนามด้วยหรือไม่ นอกเหนือจากมนตรา

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  4. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    เรียนท่านอาจารย์

    ทิพย์เคยถามเรื่องนี้กับพระสงฆ์ท่านหนึ่ง หลังจากถามไปแล้ว เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ภาพพระที่จับได้หลังจากได้มโนที่วัดท่าซุง เปลียนไป ปกติภาพท่านพ่อ ท่านแม่ ที่ได้มาจะนั่งอยู่คนละมุม เวลากราบท่านจะต้องไปมุมซ้าย ย้ายมุมขวา นั่งกันคนละตั่ง พอถามเรื่องนี้กับพระอาจารย์เมื่อเดือนมิถุนาที่ผ่านมา ภาพท่านพ่อท่านแม่ ที่เราต้องกระโดดไปซ้ายที ขวาที มานั่งรวมกันอยู่บนตั่งเดียวกันได้อย่างไง ไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน พยายามบังคับให้ท่านนั่งรวมกัน กำหนดจิตคิดอย่างไง ๆ ก็ไม่มานั่งรวมกัน ส่วนสีเสื้อ กางเกง ท่านพ่อเปลี่ยนไป เคยเห็นเป็นแดงทั้งชุด มีปีกว่า เปลี่ยนสีเป็นน้ำเงินทั้งชุด เมื่อเป็นดังนั้น ก็เลยถือโอกาสถามชื่อทั้งสองท่านเสียเลย เมื่อก่อนเรียกแต่ท่านพ่อ ท่านแม่ พอทิพย์ถามท่านบอกว่า ท้าวเวสสะภู แม่ชื่อ แม่จันทร์ ให้เรียกตามนี้
    แถมท้ายอีกหน่อย ปกติก่อนสวดมนต์ทำวัตรเช้า เย็น จะจุดธูปเชิญพระภูมิที่บ้านมาร่วมโมทนาบุญด้วยกัน มีอยู่วันหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด สงกรานต์ที่ผ่านมา ทิพย์แกล้ง ๆ ถามชื่อท่าน บอกเรียกแต่พระภูมิ ๆ ไม่รู้ท่านชื่ออะไร ไม่ทันคำถามจะหมดประโยคเลย "ท้าวสะหัสสะภูมิ" ก็กำหนดรับรู้ขึ้นมาอย่างนั้น ตั้งแต่นั้นมาเลย เรียกท่าน ท้าวสะหัสสะภูมิ เชิญร่วมสวดมนต์ด้วยกันทุกครั้งไปค่ะ
     
  5. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    พระนามที่พระองค์ประทานมานั่น ...ตั้งข้อสังเกตุ ดังนี้
    พระนามแรก ท้าวเวสสะภู และแม่จันทร์
    พระนามที่สอง ท้าวสะหัสสะภูมิ
    พระนามที่สาม พระภูมิเจ้าที่

    อันนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นองค์เดียวกันทั้งสามชื่อหรือเปล่า หรือแตกต่างกัน

    หากแตกต่างกัน ก็พอจะบอกเป็นนัยว่า...

    ท้าวเวสสะภู และแม่จันทร์ น่าจะหมายถึง พระเวสสุวรรณ และพระมเหสี
    หรืออาจจะหมายถึง ท้าวสะหัสสะนัย (พระอินทร์) และแม่ศรีสุชาดา

    แต่น่าจะเป็น พระเวสสุวรรณ มีอีกพระนามหนึ่งว่า ท้าวกุเวร (Kubera)
    ส่วนพระมเหสีของพระเวสสุวรรณ มีพระนามว่า
    หาริตี (Hāritī) คือกษัตริย์และพระราชินีของเหล่ายักษ์

    ปกติมเหสีประจำพระองค์ เช่น พระอินทร์ (อินทรานี) พระยม (ยมนี) พระกุเวร (กุเวรี) เป็นต้น


    ท้าวสะหัสสะภูมิ ไม่แน่ใจ ไม่เคยได้ยิน ได้ยินแต่ท้าวสะหัสสะนัย (พระอินทร์) ครับ

    แต่หากหมายถึง พระภูมิเจ้าที่ ละก็ อีกเรื่องหนึ่ง

    แล้วท่านบอกไหมละว่า แท้จริงพระนามเดิมท่านมีว่ากระไร
    เพราะอย่าลืมว่า พระนามแต่ละพระองค์มีมาก เป็นร้อยพันพระนาม
    ดังนั้น หากไม่แน่ใจ ก็ขอพระนามที่รู้จักกันโดยทั่วไป

    ขอให้เจริญในธรรม



     
  6. LightSeed of Buddha

    LightSeed of Buddha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +2,492
    ดีครับ เป็นเด็กใหม่กระทู้นี้ ฝากเนื้อฝากตัว เผอิญแม่บุญธรรมแนะนำมาให้รู้จักกระทู้นี่ เอ๊ะ...แต่แม่บอกจะไปงานวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายนนี้ แล้วไมแม่ไม่มาเขียนจองละเนี้ย
     
  7. LightSeed of Buddha

    LightSeed of Buddha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +2,492
    สวัสดีครับ เด็กใหม่ครับ แม่บุญธรรมแนะนำมาละ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย
     
  8. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    คิดว่า แม่เคยเป็นนักปฏิบัติธรรมรุ่นเก่า นะครับ เลยไม่ต้องสมัคร
    สำหรับนักปฏิบัติรุ่นเก่า มาสอบอารมณ์ได้เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2010
  9. พุทธาวตาร

    พุทธาวตาร "อีกเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป..."

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +398
    สวัสดีครับ อาจารย์ภราดรภาพ และเพื่อนสมาชิกทุกรุ่นครับ

    ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์และผู้สนับสนุนกิจกรรมนี้ทุกๆ ครั้ง
    ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ มากล้นด้วยแรงศรัทธาด้วยจิตเมตตาล้วนๆ
    ไร้ซึ่งอกุศลจิตอื่นใดมาเจือปน แน่นอนครับถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งคงไม่มา
    ถึงรุ่นปัจจุบันแน่นอน เท่าที่ทราบมาก็เกือบจะ 2 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นแรก

    ผมในฐานะศิษย์เก่า และใช้แนวทางปฏิบัติของอาจารย์ภราดรภาพมาพอสมควร
    ก็ขอเป็นกำลังใจให้ท่านที่กำลังสนใจเข้าชมรม และเพิ่งเริ่มปฏิบัติมาทางสายนี้
    ทุกท่านด้วยครับ

    เมื่อทุกท่านเริ่มปฏิบัติตามอาจารย์จริงๆ จังๆ มุ่งมั่น แน่วแน่ ในข้อปฏิบัติไม่ว่าจะใช้
    กรรมฐานกองใดก็แล้วแต่ มุ่งมั่นในกองนั้นอย่าวอกแวก อย่าลืมใช้คำอาราธนากรรมฐาน
    "นะโมพุทธายะ" ก่อนนะครับ ทำอย่างไร้ข้อสงสัยต้องขอเน้นย้ำคำว่าต้องแบบเอาจริงๆ จังๆ นะครับ
    เพราะหลายๆ ท่านบอกว่าปฏิบัติๆ แต่แค่วันละ 5-10 นาที 3-4 วันครั้ง และแน่นอนบางคนปฏิบัติ 5 ปี 10 ปี
    แต่ทำไมไม่พัฒนาเหมือนคนปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง แค่ปีเดียว มันแตกต่างกันตรงนี้ครับ

    ผมเชื่อแน่ว่าทุกท่านต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะแต่ละท่านมีแบ๊คอัพบารมีทุนเดิมมาก่อนอยู่แล้ว
    เคยเดินทาง เคยถึงมาก่อน ก็ต้องไปถึงอีกได้ และยิ่งได้เนวิเกเตอร์หรือเครื่องจีพีเอสดีๆ ที่พาไปทางลัดได้ อย่างหลักสูตรนี้...ชัวร์ครับ

    เจริญในธรรม เพื่อธรรมนำพาเราเจริญครับทุกท่าน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2010
  10. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    เรียนท่านอาจารย์ :cool:

    1. วันนี้ แวะไปซอยแก้วเงินทอง 2 มาค่ะ พอดีในแผนที่ที่ติดตัวไปด้วย ไม่ได้ลงบ้านเลขที่ไว้ แต่ในหมู่ทาวเฮ้าส์ทั้งหลาย ท้ายซอยมีบ้านทรงไทย หลังคาสีเขียว อยู่หลังหนึ่ง
    บ้านเลขที่ 712 ใช่หลังนี้ ไหมค่ะ :cool:

    2. การบ้านที่ให้มายากจังเลย ความสามารถถึงหรือเปล่าไม่รู้ คุยทาง PM ก็แล้วกันค่ะ :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ปกติก่อนวันงานหนึ่งวัน จะมีการติดป้าย "ชมรมนักปฏิบัติธรรมแห่งภราดรภาพ" ตั้งแต่ปากซอยแก้วเงินทอง 2 จนถึงบ้านเรือนไทย ครับ
     
  12. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ขออนุญาตนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง เพราะเห็นว่ามีประโยชน์โดยทั่วกัน
    หากคัดค้าน ก็ขอให้แจ้งลบได้ครับ

    เรื่องเล่า โดย ทิพย์ปทุโม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>

    เรื่องแบบนี้ เพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิต ตอนปลายปี 51 เริ่มเมื่อไปเก็บต้นแคนตัสรูปสมองคนที่กองกระถางแตกถูกทิ้งไว้ เอากลับบ้านมาปลูก แล้วปรากฏว่าเป็นต้นโพธิ์แฝงมาโดยไม่รู้ จึงต้องปลูกเอาไว้ในบ้าน แล้วก็บอกเขาว่าถ้าได้ไปวัดไหน จะเอาเธอไปปลูก

    พอวันที่ 18/2/52 ได้ไปเขาคิชกูฏเป็นครั้งแรกในชีวิต เอาแล้วซิ รับปากไว้แล้วด้วย ฉันต้องแบกเธอไปถึงยอดเขาเลยหรือนี่ พอดีกับที่ต้นไม้สมบูรณ์แข็งแรงพอที่จะอยู่ได้ด้วยตนเองตามธรรมชาติ แบกก็แบก ขึ้นเขาคิชกูฏมีตันโพธิ์สะพายหลังเท่ห์มากค่ะ ใครเจอ ใครทักตลอดทาง ส่วนใหญ่จะทักว่า ปลูกแก้บนหรือ ยิ้มอย่างเดียว


    เนื่องจากไปครั้งแรกไม่รู้เวลาว่าจะไปถึงยอดเขาเวลาใด ปรากฏว่าไปถึงยอดเขา ที่เขาเรียกผ้าแดง ตีสองค่ะ มืดตึบ เลยไม่ได้ปลูกด้วยตนเอง ฝากแม่ชีกับพระสงฆ์บนยอดเขาให้ท่านช่วยปลูก แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไม เราจึงร้องไห้มากจากการกระทำครั้งนี้ เหมือนต้นโพธิ์คือลูกสาวที่เราได้ให้ชีวิตใหม่กับเขาอย่างสูงที่สุดในชีวิตของต้นโพธิ์ต้นหนึ่งจะพึงได้ แม่ชีคงเห็นความพยายามและน้ำตาของเราในตอนนั้น ท่านทั้งหลายจึงสานฝันของทิพย์อย่างดีมาก ๆ


    หลังจากกลับมาจากเขาคิชกูฏแล้ว ทิพย์กลับมาทำงานตามปกติ ผ่านไป 7วัน นั่งทำงานอยู่ จิตคิดถึงต้นไม้โพธิ์ พร้อมกับชื่อ “โพธิจุติญาณ” ได้เกิดแล้ว ตั้งชื่อให้ด้วย เออ...แปลกแฮะ อยู่ ๆ ก็คิดถึงต้นโพธิ์ แต่ก็จดชื่อเอาไว้ เพราะอีกหนึ่งปีข้างหน้า ถึงจะเจอกัน


    หลังจาก18/2/52 เป็นต้นมา ตัวเองก็เปลี่ยนไป สมาธิไม่เคยทำ ก็ฝึก หาเทปฝึกสมาธิมาฟัง ตอนนั้นพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมทโชกำลังบูม ทิพย์ฟังและปฏิบัติตาม ไปเรื่อย ๆ (ระหว่างนี้ ถึง 18/6/52 ที่ลุกมาเขียนภาษาเทพ) จนคิดว่าจิตนิ่งแล้ว ขยับไปปฏิบัติในวัดบ้างซิ ในบ้านพอแล้ว จึงเริ่มไปบวชวัดเขาสุกิม

    ... มีต่อ
     
  13. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    08/08/52 เริ่มบวชเป็นจริง เป็นจังที่ วัดสังฆทานค่ะ

    วัดนี้อยู่ใกล้บ้านแต่ชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยสนใจเข้าไปเลย วันนั้นไปวัดสังฆทาน เห็นเขาบวชเนกขัมมะ กันเยอะไปหมด จิตอยากบวชกับเขาบ้าง ตั้งใจว่า วันที่ 8/8/52 จะไปบวช

    พอไปถึงวัด นักศึกษาเขามาบวชยกวิทยาลัย คนเยอะมาก เราถอดใจจะกลับบ้าน ก็ปรากฏอาการแน่นหน้าอก หมดแรง กลับบ้านไม่ไหว ต้องหาที่นั่งพัก ระหว่างนั่งพักรอให้ร่างกายปกติเพื่อจะได้กลับบ้าน เหมือนมีคนมาต่อว่า ว่าตนเองผิดสัจจะวาจา ตั้งใจจะบวชแล้ว

    พอเห็นปัญหาเล็กน้อยก็หยุด จึงพูดในใจว่า ถ้าอย่างนั้น เธอช่วยให้ทุกอย่างไม่มีอุปสรรคได้ไหม ถ้าได้ฉันจะบวช สักพักอาการเวียนหัวหมดแรงหายสนิท ลุกได้แล้วไปสมัครลงทะเบียนบวช ใจกังวลเรื่องที่นอนกลัวไม่มี ก็ได้คนที่มาบวชบ่อย ๆ รู้ลู่ทางดี มาทักว่ามีที่นอนหรือยัง ถ้ายังไปพักด้วยกัน อ้าว .... ทำไมง่ายจัง

    8/8/52
    จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้บวชเนกขัมมะ ต่อจากนั้น ครั้งที่ 2,3,4 ฯลฯ ตามมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนี้ ทุกวันอาทิตย์ต้องไปวัดสังฆทาน คิดถึงหลวงพ่อโต พระประธานในโบสถ์แก้ว และชอบไปนั่งสวดมนต์อยู่กับท่านค่ะ และถ้าได้หยุดสองวันก็ไปบวชเนกขัมมะ ถือธุดงควัตรเนสัชชิก 1 คืนวันเสาร์ ลาศีลวันอาทิตย์

    อนุโมทนา สาธุ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ
     
  14. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    บวชถือศีล 8 ที่วัดท่าซุง


    04-06/12/52 ที่วัดท่าซุง

    หลังจากบวชเนกขัมมะที่วัดสังฆทานบ่อย ๆ ชักคิดว่าน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ จึงเริ่มมองหาวิธีปฏิบัติแบบอื่นบ้าง มาศึกษาเทปธรรมะของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ และหาข้อมูลของคำว่า “มโนมยิทธิ” คืออะไร เอาแล้ว....จิตอยากไปเรียนรู้มโนฯแล้ว ทันทีทันใดค่ะ ไปวัดท่าซุงทันทีที่ได้วันหยุด 3 วัน

    ไปไหว้พระ สวดมนต์ ไปกราบสักการะหลวงพ่อฤๅษีฯ ท้าวเวสสุวรรณ และรู้จักสมเด็จองค์ปฐมที่วัดท่าซุงเป็นครั้งแรก และก็เพิ่งรู้ว่า พระพุทธเจ้ามีมาแล้วตั้ง 28 พระองค์(ตลอดชีวิตคิดว่ามีเพียงองค์เดียวมาตลอด ) ท้าวเวสสุวรรณ ทิพย์รู้จักแต่หน้ายักษ์ แบบที่วัดพระแก้ว พอมาเห็นท้าวเวสสุวรรณที่วัดท่าซุง รูปร่างงดงาม ดังเทพ จิตก็ไปเกาะท่าน หลังจากที่ได้มโนฯ มาแล้ว จึงรู้ว่าที่ตนเองเปลี่ยนแปลงแบบสายฟ้าแล๊บ เป็นเพราะมีท่านพ่อ ท่านแม่ ช่วยเหลืออยู่นั่นเอง อย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้ว


    เข้าปี 2553 ช่วงเดือนมกราคม ทิพย์เริ่มมีวิญญาณมาขอส่วนบุญ ตัวเองนั่งสมาธิจะมีเงามืด ๆ ตาเป็นแสงสีแดง มาให้เห็น เราตกใจเล็กน้อยแต่รีบแผ่ส่วนกุศลให้ทันที การอุทิศส่วนกุศลของทิพย์ จะเห็นเป็นผ้าขาวบาง ๆ คลุมลงไปที่ร่างนั้น หรือบางทีมาตอนที่ไม่ได้ทำสมาธิก็มี เช่นชั้น 10 ที่ทำงาน ขึ้นไปเก็บดอกมะลิไหว้พระ ก็มีวิญญาณที่บอกว่าเป็นวิญญาณที่เขาผูกไว้กับกุมารทองร้านอาหารที่ชั้น 10 นี้ คนเอามาเลี้ยงไม่เป็น ให้กินแต่ขนมกับน้ำแดง จนอดโซ ไม่เคยทำบุญให้เลย ช่วยปลดปล่อยวิญญาณจากการผูกมัดด้วย เอาแล้วไง ฉันจะไปรู้ได้อย่างไงละว่าจะทำอย่างไร

    ทันใดก็นึกถึงท้าวเวสสุวรรณที่วัดท่าซุง ทิพย์ขอบารมีท่านช่วยวิญญาณดวงนี้ด้วย ท่านบอกให้ ทิพย์นึกถึงอธิสมานกายของตัวเอง ทิพย์กำหนดจิตเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นกายแก้ว ในชุดสีทอง สวมชฎา แล้วท่านก็มอบทับทิมสีแดง ติดไว้ที่ยอดชฎา ทีนี้เจ้าสามารถช่วยวิญญาณที่ตกทุกข์ได้แล้ว โดยการกำหนดจิตให้ทับทิมมีแสงกระจายไปทั่ว ๆ แล้วอุทิศส่วนกุศลให้เขา คลุมผ้าขาวให้พลันเขาก็หายไป

     
  15. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    บวชถือศีล 8 ที่วัดท่าซุง

    (ล่าสุดต้นเดือน 8 /53 พนักงานบริษัท ตายไปด้วยโรคมะเร็ง มาหาในวันที่สองของงานศพ ทิพย์กำหนดจิตมอบหีบสมบัติทองคำให้เขา บอกว่าเอาไว้ใช้ในโลกทิพย์ แล้วต่อมา พ่อเพื่อนตายไป 2 เดือนแล้ว

    เขาก็มาเล่าว่า มีคนเห็นพ่อยังอยู่ วนเวียนอยู่ที่บ้าน ให้ลูกหลานได้พบเห็น เขากลัวกัน บ่นอย่างนี้มาหลายวัน แล้วอยู่ ๆ วันหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร เอารูปพ่อของเขาที่ตายไปแล้วมาให้ดู ตกดึกทิพย์สวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จ พักสมาธิ แกมาหาเลยค่ะ ทิพย์ตกใจว่าแค่เห็นรูปแกเท่านั้น แกมาหาได้เลยหรือเนี่ย แกบอกว่าตอนมีชีวิตกินแต่เหล้าไม่เคยทำบุญ ทิพย์ก็เลยกำหนดจิตมอบหีบทองคำให้แก บอกว่าเก็บไว้ใช้ในโลกทิพย์ จนกว่าจะเปลี่ยนภพนะ นี่ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้วเพื่อนไม่เคยพูดถึงพ่อเขาเลย แต่ทิพย์ไม่ไปถามเขานะว่าพ่อไปไหนแล้วละเพิ่งสังเกตตนเองว่าผ้าขาวที่แทนด้วยบุญที่อุทิศให้วิญญาณหายไป แต่มีหีบทองคำแทน
    )

    ... มีต่อ
     
  16. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    บวชถือศีล 8 ที่วัดท่าซุง

    วันต่อมาไม่นาน ทิพย์กำลังทำงานอยู่ก็คิดถึงท้าวเวสสุวรรณที่วัดท่าซุงขึ้นมาจับจิต เห็นอธิสมานกายของตัวเอง เดินเอามือเกาะกระจกเดินรอบตู้กระจกที่วัดท่าซุง อยากเข้าไปหาแต่เข้าไม่ได้ กระจกกั้นไว้ เดินวนอยู่อย่างนั้น ทันใดท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านก็บอกว่า “ ถ้าอยากเข้ามาในตู้กระจก บวชให้ข้าซิ ที่วัดท่าซุง แล้วมาหาข้าด้วย ”


    ทันทีเลยค่ะ 26 – 28 /02/53 มาฆะบูชา ไปบวชถือศีลแปดที่นั่น วันที่2 ของการบวช หลังจากฝึกมโนฯเต็มกำลังที่วิหาร100เมตร เสร็จแล้ว ทิพย์แวะไปกราบท่านท้าวเวสสุวรรณ ก้าวแรกที่เหยียบบันไดวิหาร ท่านทักทายทันที “มาแล้วหรือน้องหญิง ข้ากำลังรออยู่” จำคำพูดนี้แม่นมากเลย ทิพย์นั่งสมาธิอยู่ที่นั่นจับเวลาแล้ว 1 ชม. ค่ะ 1ชั่วโมงที่ไม่มีใครขึ้นมาไหว้ท่านเลยแม้แต่คนเดียว ทำให้ทิพย์ทำสมาธิได้ดีมาก ณ ที่นั้น เห็นตัวเองมีสองคน คนหนึ่งชุดขาวนั่งสมาธิอยู่

    อีกคนหนึ่ง เป็นอธิสมานกาย สวมชฎาแหลม ยืนคุยกับท่านท้าวฯ ในตู้กระจก ท่านท้าวฯ บอกกับอธิสมานกายว่า ให้รักขันธ์นี้ให้มาก ๆ เขารักเจ้า เขาทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ ให้สำนึกในบุญคุณของเขา ท่านท้าวก็หันมาบอกทิพย์ที่นั่งสมาธิอยู่ว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป ใจของเจ้าจะไม่เจ็บปวดเพราะถูกคำพูดจาเสียดแทงจิตใจอีกต่อไปแล้ว (ท่านรู้ได้อย่างไรว่าทิพย์มีศัตรูที่ปากร้ายมาก ชอบว่าเสียดแทงจิตใจ ตีวัวกระทบคราด “ เอ๊ะ... เขาว่าเราหรือเปล่า “ )

    ... มีต่อ

     
  17. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    บวชถือศีล 8 ที่วัดท่าซุง

    สุดท้าย ท่านมอบของขวัญให้อีกชิ้นกับอธิสมานกาย โดยวาดรูป “อนุโลมสีแดง” ที่หน้าผากให้เธอ มีรายละเอียดอีกเยอะ แต่ลืม ๆ ไปบ้าง ที่หลัก ๆ จำได้ ก็ตามที่เล่าให้ฟังค่ะ พอท่านไปแล้ว ทิพย์กว่าจะถอนตัวออกจากสมาธิยากมาก นิ่งอยู่อีกนาน แปลกมากตรงที่ พอท่านไปแล้ว คนขึ้นมากราบกันมากมาย เหมือนถูกกักไว้ พอปล่อยได้ก็กรูกันขึ้นมาแบบนั้น

    ส่วนคนที่ชอบพูดเสียดแทงใจคนนั้น ตอนนี้ออกจากงานไปได้สามเดือนแล้ว เพราะไปรักษามะเร็งที่จมูก เมื่อ 2 วันที่แล้วไปเยี่ยมเขามา จากคนไม่สนใจธรรมะ กลับพูดเรื่องธรรมะ เรื่องจิตวิญญาณ เขาบอกว่า รพ.สอนธรรมะให้กับคนไข้ที่รักษาอย่างไรก็ไม่หายให้ปลง แล้วก็ยึดจิตวิญญาณให้จิตมีความสุข แม้กายจะเจ็บ แกบอกว่า ถ้าหายจะบวชให้เจ้ากรรมนายเวร ส่วนทิพย์ สงสารในชะตากรรมของแกมาก ไม่คิดว่าคนที่อยู่สูงมาก ฟาดฟันคนอื่นได้ตามต้องการเพราะอำนาจอยู่ในมือ จับผิดผู้อื่น ตำหนิผู้อื่น สุดท้ายชีวิตก็แค่นั้น เศษเนื้อที่รอวันเน่าสลายกันทุกคน

    ขันธ์ที่ยังแข็งแรงควรเร่งทำความดีต่อตนพระศาสนา และต่อสังคม สร้างบุญกุศลไว้ดีกว่า ทิพย์โชคดีที่ยังมีโอกาสทำบุญ สร้างกุศล ในปั้นปลายของชีวิต ก่อนที่จะไปนอนอยู่บนเตียงรอความตาย เพราะลุกไปไหนมาไหนไม่ได้แล้ว

    ขอขอบคุณ คุณทิพย์ปทุโมเป็นอย่างสูง
    ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวและแบ่งปันประสบการณ์

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  18. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    อุ๊ย...ท่านอาจารย์ ลงหน้าจอเลยหรือ

    แล้วแต่จะเห็นสมควรค่ะ ที่เล่า ๆ มา ยังมีอีกเยอะ เป็นความรู้สึกแปลก ๆที่เข้ามา สมุด ปากกาเดี๋ยวนี้ วางติดหัวเตียง กับหิ้งพระ เจอเรื่องอะไรที่เข้ามา ใครมาคุยกับเรา คุยเรื่องอะไร จด หมด บอกตรง ๆ ว่า กลัวตัวเองจะเป็น บ้า เพราะนั่งคุยกับตัวเองอะไรอย่างเนี้ย กำลังจับผิดตัวเองดูว่า มีเรื่องอะไรที่เราไม่มีพื้นฐานความรู้มาก่อน แล้วอยู่ ๆ มีใครมาบอก

    ซึ่งเรื่องจับผิดตัวเองนี้ นอกจากภาษาที่ให้จดจำ ที่เห็นกันจะ จะ แล้ว มีอีกเรื่องล่าสุด เป็นความรู้ที่ไม่เคยมีพิ้นฐานมาก่อน มีอยู่วันหนึ่งหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว นั่งสมาธิแต่ใจไปคิดถึงเพื่อนที่เป็นอัมพฤกษ์ จะช่วยเขาในเรื่องจิตใจ และร่างกายได้อย่างไร พลันก็เหมือนมีคนมาบอกว่า "เจ้ามีพระอรหันตธาตุใช่ไหม อัญเชิญท่านมาแช่น้ำ ทำน้ำมนต์ซิ สวดมนต์ทุกวันช่วยได้"

    อันนี้เป็นความรู้ใหม่ ที่ตัวเองไม่มีพื้นฐานมาก่อนแน่นอนค่ะ ตอนนี้ทำให้เพื่อนทาน และเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นมะเร็งจมูกทานด้วย ช่วยได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่อย่างน้อยให้จิตเกาะพระไว้ยังดี ทิพย์ให้เขาท่องคาถาบูชาพระอรหันต์ก่อนทานน้ำมนต์ พร้อมระลึกถึงภาพท่านไปด้วย ทุกครั้งที่ดื่ม:cool:

    ฝากแก้คำผิดด้วยค่ะ "อุนาโลมแดง" ค่ะ ไม่ใช่อนุโลม ทิพย์พิมพ์ผิด
     
  19. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    [​IMG]

    เป็นนิมิตที่เกิดหลังจากการปฏิบัติช่วงแรกๆ พร้อมทั้งสุรเสียงอันก้องกังวาล มาสืบค้นพบหลังจากที่ได้พบรูปนี้ในอินเตอร์เน็ตหลังจากเห็นในนิมิตประมาณ 5-6 ปี
    อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัว
    ความรู้สึกตอนนั้นอุนาโลมเปิดเช่นกันครับ เป็นครั้งแรกในชีวิต
    มาถามครูอาจารย์ภายหลังท่านบอกว่า เป็นสัญญาณเซนต์เปิด และแต่ละบุคคลจะมีลักษณะอุณาโลมที่แตกต่างกันไป จะสัมผัสได้ชัดเจน ช่วง 5 ทุ่มถึงตี2(เฉพาะผู้ที่เปิดแล้ว)และ การเปิดก็ไม่เหมือนกับการเปิดพระโอษฐ์แบบในปัจจุบันที่ผ่านร่างมนุษย์การนี้ทําได้จากองค์โดยไม่ผ่านร่างมนุษย์ครับ การเปิดก็จะไม่เหมือนกัน
    อันนี้ส่วนของผม (ได้ขณะมีสติและนั่งกรรมฐานในรูปแบบบริกรรมชินบัญชร)
    นั่งกรรมฐาน
    มีสังวาลมาคล้องก่อน
    สักพักมีชฎา มีมงกุฏ ครอบหัว
    สักพักก็มีเสียงแห่นาค เสียงมโหรี
    หลังจากนั้นหน้าผากเปิด เปิดเหมือนกับมีคนเอามีดมากรีดหน้าผากเลย
    ทุกอย่างมีความรู้สึกชัดเจนมาก

    เปิดหมดยกเว้นตา แต่มาได้นิมิตหลังจากออกกรรมฐาน เป็นรูปข้างต้นที่โพสให้ดู ตอนนั้นไม่ทราบว่าท่านคือใคร มาทราบเอาหลังจากนิมิต 5-6 ปี

    เมื่อได้อ่านข้อความในส่วนของคุณทิพย์ปทุโม ผมเลยหวนคิดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาก่อน และค่อนข้างเชื่อครับ
     
  20. DMZ_ZONE

    DMZ_ZONE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +649
    ถามนิดนึงนะครับว่าถ้าหน้าผากหว่างคิ้วเรามันตุงๆ เวลาเราเจอรูปหรือเทวรูปรวมถึงพระพุทธรูป

    มันตึงแทบระเบิดออกมาเนี่ยเป็นอาการอะไรเหรอครับขนาดไม่เอาจิตว่างแล้วเผลอก็เป็นอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...