ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

กัวเตมาลาปิดสนามบินจากปัญหาเถ้าถ่าน​

​

กัวเตมาลาต้องเผชิญทั้งวิกฤตเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ทำให้ต้องปิดสนามบิน ขณะที่พายุโซนร้อนพัดกระหน่ำซ้ำสร้างความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต ​

สนามบินนานาชาติกัวเตมาลาต้องปิดให้บริการหลังจากภูเขาไฟปากาย่าพ่นเถ้าถ่านออกมา ส่งผลให้ผู้โดยสารตกค้างหลายพันคน โดยมีเครื่องบินอย่างน้อย 3 ลำที่จอดอยู่ในลานบินถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน เช่นเดียวกันลานบินที่มีเถ้าถ่านปกคลุมหนา ทำให้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ด้านการบินพลเรือนกัวเตมาลาได้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินพาณิชย์ทุกเที่ยวไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ขณะที่การกวาดเถ้าถ่านออกจากลานบินก็ทำได้อย่างยากลำบากมากขึ้นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน Agatha จากมหาสมุทรที่เคลื่อนตัวพัดถล่มกรุงกัวเตมาลาซิตี้ตั้งแต่เมื่อวานนี้​

ความรุนแรงของพายุดังกล่าวทำให้เกิดอุทกภัยและแผ่นดินถล่มในหลายจุด คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 12 คน และสูญหายอีก 11 คน โดยมีรายงานว่าเด็ก 4 คน เสียชีวิตอยู่ใต้โคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือน ซึ่งทางการได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ออกมาเตือนว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นอาจจะเลวร้ายกว่าปกติเนื่องจากเถ้าถ่านภูเขาไฟไปทับถมจนปิดกั้นทางระบายน้ำ-พายุโซนร้อน Agatha นับเป็นพายุลูกแรกในฤดูเฮอริเคนของมหาสมุทรแปซิฟิค คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักวัดได้ 20 นิ้ว เช่นเดียวกับที่เอล ซาลวาดอร์ และที่เม็กซิโก​

ข่าวทีวีช่อง 3วันจันทร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ​

บีพีเชื่อควบคุมน้ำมันรั่วได้ในเดือน ส.ค.นี้​

​

​

ผู้บริหาร BP เผยอาจจะควบคุมการรั่วไหลจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่ที่ปรึกษาด้านพลังงานเตือนสหรัฐฯอาจเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุด ​

นาย Tony Hayward ผู้บริหารบริษัท BP เผยว่าจะใช้วิธีสุดท้ายก็คือการขุดเบาะพักเพื่อถ่ายเทน้ำมันออกมาจากจุดที่รั่วไหลซึ่งขณะนี้เริ่มขุดเจาะแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้​

นาย Carol Browner ที่ปรึกษาด้านพลังงานของทำเนียบขาว ออกมาเตือนว่าพื้นที่ชายฝั่งของสหรัฐฯในรัฐลุยเซียนากำลังเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยเผชิญมา เนื่องจากบริษัท BP ไม่สามารถควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันได้ก่อนสิงหาคม ขณะที่ BP พยายามใช้เทคนิคใหม่หลังจาก Top Kill ประสบความล้มเหลว โดย BP ไม่รับประกันว่าจะสำเร็จหรือไม่ หรือหากสำเร็จจะเพียงแค่ควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันได้ส่วนใหญ่ไม่ใช่ทั้งหมด​

ด้านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต ออกมาเรียกร้องให้ทั้ง BP และ รัฐบาลของนายบารัค โอบามา ประธานนาธิบดีสหรัฐฯ หามาตรการอื่นมากกว่านี้เพื่อช่วยให้ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกพ้นจากวิกฤตคราบน้ำมัน พร้อมเรียกร้องให้ BP จ่ายเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำในพื้นที่ดังกล่าว โดยจนถึงขณะนี้ BP ได้ทุ่มเงินงนการควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันไปแล้ว 940 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ​

ข่าวทีวีช่อง 3วันจันทร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553​

ที่มา http://www.krobkruakao.com​

ภูเขาไฟในเอกวาดอร์-กัวเตมาลาเริ่มลดการปะทุลง​

​

​

ภูเขาไฟ 2 ลูก ในเอกวาดอร์ และกัวเตมาลา อาจลดการปะทุรุนแรงลง โดยสนามบินระหว่างประเทศลาออโรราจะยังปิดให้บริการต่ออีก 5 วันเพื่อทำความสะอาดเถ้าที่หนาทึบ...​

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ว่า ภูเขาไฟ 2 ลูก ในเอกวาดอร์ และกัวเตมาลา อาจลดการปะทุรุนแรงลง หลังจากปะทุลาวาและเถ้าถ่านออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา​

ภูเขาไฟปากายาปะทุลาวาออกมาตั้งแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ทำให้กรุงกัวเตมาลา ซิตี้ ถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันและเถ้าถ่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน รวมถึงผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ที่มารายงานข่าวในครั้งนี้ รวมทั้งต้องอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบราว 2,000 คน ​

ขณะที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศลาออโรราของกัวเตมาลา จะยังคงปิดบริการต่อไปอีก 5 วัน เพื่อทำความสะอาดเถ้าถ่านหนาทึบออกจากรันเวย์ หลังจากปิดบริการมาตั้งแต่วันศุกร์​

ส่วนที่เอกวาดอร์ ภูเขาตุงกูราฮัว ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกิโต ก็เริ่มลดความรุนแรงของการปะทุลงแล้ว หลังเกิดการระเบิดพ่นลาวาและเถ้าถ่าน จนทำให้ต้องอพยพชาวบ้าน 2,600 คน และยกเลิกการเดินทางของเที่ยวบินจำนวนมาก​

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2553​

ปลาประหลาดโผล่จีน เจอจับเป็นเมนูเปิบพิสดาร​

​

ปลาหน้าตาประหลาด มีครีบคล้ายมือและเท้า หน้าตาคล้ายจะบอกข่าวร้ายอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นปลาหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวที่สุดในโลก แทนที่ "บล็อบฟิช" ปลาอารมณ์บูดก็เป็นได้ ล่าสุดถูกขายต่อเป็นเมนูพิสดารให้ภัตตาคารแห่งหนึ่งในจีนแล้ว...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่า พบปลาหน้าตาประหลาด มีครีบคล้ายมือและเท้า ซึ่งเชื่อว่าใช้ในการคืบคลานใต้ท้องทะเลลึกโผล่ที่ประเทศจีน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ปลาชนิดดังกล่าวอาศัยอยู่ในทะเลลึก ทางตอนใต้ของจีน สามารถทนต่อมลพิษได้สูง ซึ่งขณะนี้ข่าวระบุว่า ปลาประหลาดถูกขายต่อให้กับภัตตาคารแห่งหนึ่งในเมืองฟูเจี้ยน ทางภาคตะวันออกของประเทศ เพื่อนำไปเสิร์ฟเป็นอาหารจานเด็ดจำพวกเปิบพิสดารแล้ว

บล็อบฟิช ปลาหน้าเศร้า​

การปรากฏตัวของปลาหน้าตาน่าเกลียด อาจทำให้ "บล็อบฟิช" ปลารูปร่างหน้าตาแปลกประหลาด คล้ายคนเศร้าตลอดเวลา ซึ่งถูกค้นพบบริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียก่อนหน้านี้ ตกอันดับปลาหน้าตายอดแย่ก็เป็นได้​

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2553​

ที่มา http://www.thairath.co.th​

 

วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16:06 น. ข่าวสดออนไลน์


ตม.ระนองปัดอริสมันต์หนีผ่านด่านโผล่กาสิโนพม่า

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลา 2-3 วัน ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีข่าวลือสะพัดว่ามีนักพนันเห็นคนหน้าตาคล้ายกับนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่กำลังหลบหนีหมายจับตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.และหมายจับในคดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในบ่อนกาสิโนอันดามันคลับ บนเกาะสน จ.เกาะสอง ประเทศพม่า ใกล้ชายแดนด้านจังหวัดระนอง

พ.ต.ท.ธรา สรณารักษ์ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) จังหวัดระนอง รักษาราชการแทนสารวัตรใหญ่ด่าน ตม.จังหวัดระนอง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ ตม.ยังไม่เคยได้ยินข่าวดังกล่าว ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่นายอริสมันต์จะเดินทางออกนอกประเทศผ่านทางด่าน ตม.ระนอง เนื่องจากแกนนำ นปช.ทุกคนที่ถูกออกหมายจับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)ได้นำชื่อ-สกุล และรูปถ่าย ลงในคอมพิวเตอร์ออนไลน์ไปยังด่าน ตม.ทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อเฝ้าระวังและตรวจสอบบุคคลที่เดินทางออกนอกประเทศอย่างละเอียดทุกคน ซึ่งเชเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารการเดินทางและบุคคลอย่างละเอียด หากเดินทางผ่านช่องทางของ ตม.นั้นไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้แน่นอน แต่ถ้าลักลอบออกนอกประเทศทางช่องทางอื่นก็อาจจะเป็นไปได้ เนื่องจาก จ.ระนอง มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านกว่า 160 กิโลเมตร

เมล็ดพันธุ์วัยโจ๋ หนึ่งใจให้ธรรมะ

สดจากเยาวชน



<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ในวันนี้ "ความรู้" เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มีพระดำริว่า เยาวชนไทยควรได้รับการศึกษาที่สมบูรณ์ทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต จึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ผู้เป็นความหวังของสังคมไทยที่ถึงพร้อมทั้ง "ความรู้ คู่คุณธรรม"

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้ง "พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี" หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี เป็นผู้อำนวยการโครงการ "หนึ่งใจ...ให้ธรรมะ" เพื่อเป็นผู้นำขับเคลื่อนธรรมะสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ระดับแกนนำ โดยเริ่มต้นจากการคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งผู้ที่สนใจ ร่วมโครงการ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2422-9123, <?XML:NAMESPACE PREFIX = SKYPE /><SKYPE:SPAN id=softomate_highlight_0 class=skype_tb_injection title="Call this phone number in Thailand with Skype: +66811677273" mode=".compat" skypeid="0" skypeaction="call" nof="" isfax="" fwidth=".w16" type=".flex" path="file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/" durex2="1791" durex="662" context="08-1167-7273"><SKYPE:SPAN style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/inactive_a.compat.flex.w16.gif)" id=skype_tb_droppart_0 class=skype_tb_imgA title="Skype actions" skypeid="0" skypeaction="drop" skypesms="1"><SKYPE:SPAN style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/famfamfam/TH.gif)" id=skype_tb_img_f0 class=skype_tb_imgFlag></SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN id=skype_tb_img_s0 class=skype_tb_imgS></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN id=skype_tb_text0 class=skype_tb_injectionIn><SKYPE:SPAN id=skype_tb_innerText0 class=skype_tb_innerText>08-1167-7273 </SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN id=skype_tb_img_r0 class=skype_tb_imgR></SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN>, <SKYPE:SPAN id=softomate_highlight_1 class=skype_tb_injection title="Call this phone number in Thailand with Skype: +66892005172" mode=".compat" skypeid="1" skypeaction="call" nof="" isfax="" fwidth=".w16" type=".flex" path="file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/" durex2="1791" durex="662" context="08-9200-5172"><SKYPE:SPAN style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/inactive_a.compat.flex.w16.gif)" id=skype_tb_droppart_1 class=skype_tb_imgA title="Skype actions" skypeid="1" skypeaction="drop" skypesms="1"><SKYPE:SPAN style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/famfamfam/TH.gif)" id=skype_tb_img_f1 class=skype_tb_imgFlag></SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/inactive_s.flex.compat.gif)" id=skype_tb_img_s1 class=skype_tb_imgS></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/inactive_m.compat.gif)" id=skype_tb_text1 class=skype_tb_injectionIn><SKYPE:SPAN id=skype_tb_innerText1 class=skype_tb_innerText>08-9200-5172 </SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/inactive_r.compat.gif)" id=skype_tb_img_r1 class=skype_tb_imgR></SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN>

ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมุ่งพัฒนาเยาวชนไทยให้มี "ความรู้ คู่คุณธรรม" เริ่มต้นครั้งแรกที่ภาคเหนือและจะกระจายไปจนครบทั่วทุกภาคของประเทศไทย ในปีงบประมาณ 2553 นั้น จะจัดขึ้น 5 ครั้ง ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก และสุโขทัย โดยมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการครั้งละ 200 คน โดยคัดเลือกโรงเรียนในแต่ละจังหวัดเข้าร่วมโครงการ <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
1.ธรรมะกลางธรรมชาติ

2.น้องหลิง ริซ่า และมิลกี้

3.บอส บุ๊ค และท็อป


</TD></TR></TBODY></TABLE>

"นักเรียนในระดับชั้นมัธยมปลาย เป็นกลุ่มวัยรุ่นตอนปลาย ผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งถือเป็นจุดหักเหหรือจุดเปลี่ยนของชีวิต หากเด็กกลุ่มนี้มีความรู้แต่ขาดคุณธรรมจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สมองโต หัวใจตีบ คือเป็นผู้ที่มีความรู้แต่ขาดทักษะในการบริหารความรู้ มีความฉลาดแต่ไม่มีจรรยาบรรณในการบริหารความฉลาด โครงการนี้มุ่งปลูกฝังให้เยาวชนมีความรู้คู่คุณธรรม"

หลักสูตรกิจกรรม ประกอบด้วย 2 หลักสูตรใหญ่ ได้แก่ หลักสูตร 3 สิกขา 4 พัฒนาการ และ 3 วิชา กับ 5 ทักษะชีวิต

หลักสูตร 3 สิกขา 4 พัฒนาการนั้น เป็นหลักสูตรที่สอนเรื่องไตรสิกขา คือ ศีล ความมีระเบียบวินัย สมาธิ ฝึกสมาธิและปัญญา เป็นเรื่องการเรียนรู้ สำหรับ 4 พัฒนาการซึ่งเป็นตัวชี้วัด ได้แก่ กาย สังคม จิต และปัญญา

ส่วนหลักสูตร 3 วิชา ได้แก่ วิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต และ 5 ทักษะชีวิต ซึ่งเป็นธรรมะที่สอดแทรกลงไปในจิตใจของเด็กและเยาวชน ประกอบด้วยทักษะการเรียนรู้ มุ่งเน้นให้เด็กรักการอ่าน ทักษะการมีจิตสำนึกสาธารณะ คือการแบ่งปันและการอุทิศเพื่อสังคม โดยมีกิจกรรมเพื่อสังคมให้เยาวชนร่วมกันปฏิบัติด้วย ทักษะภาวะผู้นำ คือการค้นหาความฝันและดำเนินชีวิตเพื่อให้บรรลุในสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝัน ทักษะการค้นหาศักยภาพแห่งตน คือการค้นหาตัวตนของตัวเองให้เจอ และทักษะการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน

กิจกรรมครั้งแรกจัดขึ้นวันที่ 21-23 พ.ค. ที่ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยการอำนวยการของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ร่วมด้วยวิทยากรพิเศษร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อให้เยาวชนได้รับมุมมองในทุกมิติ มีความรู้ที่หลากหลาย เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน

ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการอบรมด้วย

น้องหลิง น.ส.ชาริณี กิจตระกูล น้องมิลกี้ น.ส.ชนัญชิดา ธนาบูรณศักดิ์ และ น้องริซ่า น.ส.มาริสสา ไชยชมภู นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ให้ความเห็นว่า ประทับใจการเข้าร่วมค่ายธรรมะในครั้งนี้มาก ทำให้เข้าใจธรรมะ ได้มิตรภาพ รู้จักเพื่อนมากขึ้น

"ประทับใจพี่ๆ วิทยากร และพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ท่านสามารถสอนธรรมะให้เข้าใจง่าย นำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการมาร่วมค่ายครั้งนี้ คือการสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง ทำให้รู้สึกไม่ท้อแท้ มีกำลังใจมากขึ้น ได้รู้ว่าความสุขมีมากกว่าด้านเดียว และสิ่งที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันคือ การรับประทานอาหารอย่างมีสติ ความอดทนอดกลั้น และการทำสมาธิ"

บอส นายภูมิทัศน์ สมเพชร บุ๊ค นายรัฐศาสตร์ โลหะเจริญสุข และ ท็อป นายกิตติ ทับเหล็ก ชั้นม.4 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม กล่าวว่า รู้สึกว่าพระอาจารย์และพี่ๆ วิทยากรสุดยอดเลยครับ ทำให้รู้สึกอยากค้นหาตัวเองมากขึ้น ชอบหลักธรรมที่พระอาจารย์สอน เข้าใจง่ายมากสำหรับหลักธรรมที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน คือ การมีสติ การระลึกอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ หากมีสติ อันตรายจะไม่เกิด

พี นายนภสินธุ์ คำเมืองเหนือ ชั้นม.4 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม กล่าวว่า รู้สึกดี ได้ฝึกตน และปฏิบัติในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน มีระเบียบวินัย ตลอดจนได้รับประสบการณ์จากพี่ๆ วิทยากร เข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้น

"สิ่งที่ได้เรียนรู้ในค่ายครั้งนี้ คือเรื่องการชนะใจตนเอง เพิ่งจะเข้าใจตัวเองก็ที่นี่ล่ะครับ ข้อคิดที่ได้คือ เราไม่ต้องมีชีวิตที่สุขสบายมากก็ได้ อยู่อย่างที่เราเป็น ไม่จำเป็นต้องได้อะไรที่ดีกว่านี้ อยากทำอะไรให้ทำไปเลย ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว ต้องกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวทั้งหลาย

ที่สำคัญคือฝึกความอดทน ในอนาคตผมอยากทำงานด้านแพทย์และสาธารณสุข ผมอยากช่วยเหลือคนอื่น คิดว่าคนเราเกิดมาอยู่คนเดียว ถ้าได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จะดียิ่งกว่าครับ"

เปิดผลโพลวันวิสาขบูชา"53



นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า แม้เทศกาลวันวิสาขบูชา ปี 2553 จะล่วงเลยผ่านพ้นไปแล้ว ขณะเดียวกัน กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนและเยาวชนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 6,310 คน จากทั่วประเทศ ในหัวข้อ "ความคิดเห็นเกี่ยวกับวันวิสาขบูชา" พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 80.11 ทราบประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชา ร้อยละ 10.79 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 9.10 ไม่ทราบ ขณะเดียวกันมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.57 ทราบว่าวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก ทั้งนี้ประเด็นคำถามเกี่ยวกับการทำ กิจกรรมในวันวิสาขบูชา พบว่า กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 55.85 คิดที่จะทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในวันวิสาขบูชา และอีกร้อยละ 44.15 ไม่คิดทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ขณะที่กิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่กลุ่มตัวอย่างจะทำในวันวิสาขบูชา ร้อยละ 72.69 ตักบาตร ร้อยละ 68.24 เวียนเทียน ร้อยละ 59.49 ทำบุญทำทาน และร้อยละ 58.53 สวดมนต์/ ไหว้พระ

นอกจากนี้ ยังได้มีการสอบถามถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชาที่มีต่อประชาชนกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 47.61 เห็นว่า เป็นโอกาสในการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ร้อยละ 25.01 เห็นว่า จะได้นำหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาใช้กับชีวิต และร้อยละ 16.23 เห็นว่า ทำให้มีเวลาทำจิตใจให้สงบ หาที่พึ่งทางใจ และร้อยละ 8.15 เห็นว่า เป็นช่วงเวลาพักผ่อน เพราะได้หยุดติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตามในส่วนคำถามเกี่ยวกับคติธรรมในวันวิสาขบูชาที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 33.47 ใช้หลักธรรม อริยสัจ 4 ในการจัดการกับปัญหาชีวิต ได้แก่ ทุกข์-ปัญหา สมุทัย-ต้นเหตุของปัญหา นิโรธ-วางเป้าหมาย มรรค-ลงมือแก้ไข เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ 24.88 นำการประสูติของพระพุทธเจ้ามาปรับใช้ทำให้มีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต และร้อยละ 14.42 นำการตรัสรู้มาปรับใช้ทำให้มีความพยายามพัฒนาตนเอง

วัดปทุมฯ-เขตอภัยทาน "พระธรรมธัชมุนี"ย้ำเจตนา



<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ท่ามกลางความแออัดของเมืองหลวง ตรงใจกลางกรุงย่านสยามสแควร์ อันเป็นแหล่งที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดยักษ์ ความจอแจของผู้คน การจราจรที่หนาแน่นทั้งหลายนี้ ได้มารวมกันอยู่มากที่สุด แต่ใจกลางเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยความพลุกพล่านเช่นนี้ กลับปรากฏสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ยังคงความสงบในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้ สถานที่แห่งนั้นคือ "วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร"

วัดปทุมวนาราม เป็นสถานที่ตั้ง "สวนป่าพระราชศรัทธา" บริเวณด้านหลังของวัด ที่มีบรรยากาศร่มครึ้มเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น และมี "ศาลาพระราชศรัท ธา" ซึ่งเป็นที่ประดิษ ฐานพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้ง ศาลาแห่งนี้ยังเปิดให้ประ ชาชนได้เข้าไปนั่งสมาธิและฟังธรรมได้ โดยจะมีเทปธรรมะเปิดให้ฟังตลอดทั้งวันอีกด้วย

ศาลาพระราชศรัทธาแห่งนี้ ดำเนินการโดย "พระธรรมธัชมุนี" หรือที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยรู้จักกันดีในนามของ "ท่านเจ้าคุณอมร" ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) ผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง และเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ถือเป็นพระปฏิบัติที่มีปฏิปทาน่าเลื่อมใสเป็นที่เคารพบูชาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนและคณะศิษยานุศิษย์โดยทั่วกัน ทั้งยังดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พระภิกษุและฆราวาสรุ่นหลัง สร้างคุณูปการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
พระธรรมธัชมุนี


</TD></TR></TBODY></TABLE>

หลังจากเกิดเหตุการณ์เข้ากระชับพื้นที่ของรัฐบาล ในการชุมนุมที่ราชประสงค์ของคนเสื้อแดง "วัดปทุมวนาราม" โดย พระธรรมธัชมุนี เจ้าอาวาส ได้เปิดวัดให้เป็น "เขตอภัยทาน" เพื่อเป็นที่พึ่งพิงของผู้ที่เดือดร้อนเข้ามาหลบภัย ด้วยการเน้นทุกคนที่เข้ามาอาศัยต้องปราศจากอาวุธ

การมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส จึงต้องเป็นผู้ปกครองดูแลวัดให้มีความเรียบร้อย การเปิดวัดให้เป็นเขตอภัยทานในครั้งนี้ ก็ด้วยความมีเมตตาธรรมโดยแท้ ท่านไม่เคยคิดเลยว่า "จิตอันเป็นกุศลบุญ" จะสร้างความไม่สบายใจให้กับตัวท่าน และบุคคลบางกลุ่ม ถึงขนาดต้องเปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง

พระธรรมธัชมุนี กล่าวว่า นปช.เข้ามาหลบในวัด เรื่องนี้ขอชี้แจงว่า กลุ่ม นปช.ได้เข้ามาปิดล้อมชุมนุมที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. เป็นต้นมา ทางวัดก็ได้รับความเดือดร้อนในการเดินทางเข้าออก เรามีการประสานงานกับทางแกนนำและการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมในเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเข้าออกของพระ-เณร ทางแกนนำก็มีการประสานในเรื่องการเข้ามาอาศัยใช้ห้องน้ำห้องท่าบ้าง ทางวัดก็อยู่ในภาวะจำยอมต้องดำเนินการไปตามความจำเป็น เพราะตอนนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลก็ดูแลไม่ได้ <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ต่อมาในวันที่ 15 พ.ค. พอเริ่มมีกระแสข่าวว่าจะมีการสลายการชุมนุม ทางวัดได้รับการติดต่อจากนายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อขอให้วัดเป็นเขตอภัยทาน อาตมาก็ไม่ขัดข้อง แต่ขอให้มีการตรวจค้นอาวุธ อย่าให้เอาเข้ามาในเขตวัดเลย ซึ่งข้อตกลงนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ข่าวก็ออกไปคนก็เริ่มทะลักเข้ามาในวัด ตอนแรกก็เป็นผู้หญิงเด็กตอนหลังก็เข้ามากันหมด มีคนโทร.มาต่อว่าวัดว่าเป็นแหล่งซ่องสุม ของนปช. ซึ่งขอให้เข้าใจว่าไม่ใช่เราต้อนรับทุกคนวัดเราเป็นวัดเปิด ประชาชนสามารถเข้ามาได้ตลอด พอตอนสลายคนก็วิ่งเข้ามาในวัด เราไม่สามารถตรวจค้นได้หรอกว่าใครมีอาวุธหรือไม่ตอนนั้นวุ่นวาย อาตมาเพียงสั่งให้พระลูกวัด เจ้าหน้าที่อยู่แต่ภายในกุฏิ อย่าออกมาเพราะไม่รู้ใครเป็นใคร และไม่นึกว่าเหตุการณ์จะบานปลายอย่างนี้

"พอตอนเช้าเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายเราก็ประสานตำรวจให้รีบนำคนพวกนี้ออกไป ซึ่งตำรวจก็รีบดำเนินการ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารก็เข้าตรวจค้นพื้นที่ของวัด เมื่อวานเป็นตำรวจ วันนี้เป็นทหาร อาตมาก็เปิดให้ค้น เพื่อความปลอดภัยของวัด อย่างกุฏิอาตมา ตอนแรกทหารเคาะไม่มีคนเปิด เพราะอาตมาจำวัดอยู่ จนมีคนมาตามอาตมาลงไป ตอนแรกทหารบอกว่าวัดไม่ให้ความร่วมมือ อาตมาบอกไม่ใช่เข้าไปตรวจเลย เค้าก็แค่ดูๆ แต่ไม่ยอมขึ้นไปข้างบน บางคนบอกวัดนี้สนับสนุนเสื้อแดงจริงๆ ไม่ใช่ อาจจะเป็นเพราะที่วัดมีพระอีสานเยอะ ขอบอกว่าเราเป็นสถานปฏิบัติธรรม ไม่มีฝ่าย ตอนเสื้อ เหลืองมาชุมนุม คุณจำลอง ศรีเมือง ก็มาเข้าห้องน้ำ นอนอยู่ที่นี่เหมือนกัน อยากให้คนมองวัดในแง่บวก เราไม่มีฝ่าย

"เหตุการณ์ครั้งนี้อาตมาจะได้นำไปปรับปรุงวัด อาจจะต้องมีประตูปิดเข้าออก ต้องมีเวรยามในการดูแลวัด เพื่อความปลอดภัย ส่วนคนตาย 6 รายนั้นทางวัดก็ไม่รู้เรื่อง เพราะช่วงมีเหตุการณ์ทุกคนอยู่แต่ในที่พักของตนเองไม่มีใครกล้าออกมา"

แต่ไม่วายรัฐบาลตั้งข้อสงสัยกับวัดและเจ้าอาวาส

ทหารช่วยชาวบ้าน แจกน้ำ-แก้ภัยแล้ง



พ.อ.ชาติชาย ขันสุวรรณ รองผบ.จังหวัดทหารบกสระบุรี กล่าวภายหลังนำกำลังพลและรถน้ำออกแจกจ่ายน้ำประปาแก่ประชาชนที่ศูนย์การเรียนรู้บ้านศาลารีไทย ต.เริงราง อ.เสาไห้ ว่า ขณะที่น้ำสำหรับการอุปโภคต้องใช้บริการน้ำประปาที่โรงสูบวัดหัวหิน ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเขตติดต่อ

แต่เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักและในเขื่อนกั้นน้ำมีระดับต่ำกว่าปกติ จึงไม่สามารถสูบขึ้นมาทำระบบประปาได้ ทำให้เกิดความเดือดร้อนในหลายหมู่บ้าน โดยทางจังหวัดทหารบกสระบุรีนำน้ำกว่า 10,000 ลิตร มาแจกจ่ายให้ประชาชนสำหรับการบริโภคและอุปโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

เรื่องนี้ทางกองทัพบกมีนโยบายให้หน่วยทหารในแต่ละพื้นที่ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค ซึ่งจังหวัดทหารบกสระบุรีได้รับการร้องขอจากองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน กำหนดออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้จ.สระบุรีได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินประสบปัญหาภัยแล้งจำนวน 5 อำเภอ คือ แก่งคอย หนองโดน หนองแซง พระ พุทธบาท และมวกเหล็ก

กทม.เตรียมติดกล้องซีซีทีวีหมื่นตัว เหตุชุมนุมทำกล้อง-ไฟจราจรพังเสียหาย27ทางแยก



นายวินัย ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เปิดเผยถึงความเสียหายของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุม และต่อเนื่องมาถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ากล้องซีซีทีวีตามทางแยกต่างๆ เพื่อใช้ด้านความปลอดภัยและด้านการจราจรนั้น เกิดความเสียหายทั้งสิ้น 27 ทางแยก

โดยเสียหายจากการถูกเผา ถูกทุบ ถูกถุงดำคลุม และไฟจราจรเสียหายจำนวน 18 ทางแยก ซึ่งเสียหายในแบบเดียวกัน โดยภายในสัปดาห์นี้จะมีการสรุปอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีความเสียหายในด้านใดรวมทั้งจำนวนด้วยเพื่อดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม

ทั้งนี้ ในส่วนการซ่อมแซมนั้นจะดูสัญญาจากเอกชนก่อนว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกล้องซีซีทีวีและสัญญาณไฟจราจรนั้น ครอบคลุมเหตุจลาจลหรือไม่ หากสาเหตุต่างๆ อยู่ในสัญญา ก็จะมอบหมายให้เอกชนเจ้าของสัญญา เป็นผู้ซ่อมแซม แต่หากสัญญาไม่ครอบคลุมความเสียหาย กทม.จะได้ของบประมาณส่วนกลางเพื่อนำมาซ่อมแซมอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกทม. เปิดเผยว่า หลังจากเกิด เหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ได้พิจารณาเรื่องการติดกล้องซีซีทีวีของกทม.ตามแผนเดิมที่จะมีการติดให้ครบ 20,000 ตัวภายใน 4 ปีนั้น จะมีการเร่งรัดให้ติดตั้งก่อน 10,000 ตัวภายในเวลา 18 เดือน เนื่องจากเห็นว่าการติดตั้งกล้องซีซีทีวีจะเป็นประโยชน์ในด้านการรักษาความปลอดภัยของคนกรุงเทพฯ มากขึ้น

มดดำกับมดแดงกัดกัน

โลกนี้ไม่สิ้นกลิ่นธรรม

โดย ศิษย์อาจารย์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก / ราชบัณฑิต



เรื่องเล่าหลังฉัน จากพระอาจารย์อนันต์ อกิญฺจโน วัดป่าหนองป่าพง ๗๓ (วัดมาบจันทร์ จ.ระยอง) หลังจากผ่านเหตุการณ์เคอร์ฟิวอันน่าสลดคืนแรกของกรุงเทพฯ (แต่ดูหมือนรัฐบาลก็จำเป็นต้องทำ) ครั้งแรกในรอบ ๑๘ ปีของไทย, ท่านอาจารย์เองก็มีสีหน้าอันแสดงออกถึงความห่วงใยคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ (ผมสังเกตเอาเอง)...เรื่องเล่าหลังฉันเรื่องแรกในวันนี้ ท่านจึง เปรยให้ผมฟัง เรื่องมดดำมดแดงกัดกัน

นานมาแล้ว ลูกศิษย์ในวัดของหลวงปู่กินรี กำลังเชียร์มดดำ มดแดง ที่กำลังกัดกัน ใครที่เชียร์มดดำเวลามดดำได้เปรียบ พวกเขาก็เฮดังลั่น ส่วนพวกที่เชียร์มดแดงก็เช่นกัน ในขณะที่กำลังสลับ ผลัดกันเฮอยู่นั้น หลวงปู่กินรีก็มาอยู่ข้างหลังแต่เมื่อไรไม่ทราบ ท่านก็ตะโกนบ้าง

"เฮ้...ขึ้นสวรรค์ เฮ้...ลงนรก,

เอ้า เฮ้...ขึ้นสวรรค์ เฮ้...ลงนรก"

ลูกศิษย์หันมาเห็นอาจารย์เท่านั้น ก็วงแตก แยกย้ายไปตามกัน ลูกศิษย์ที่พอมีปัญญา ก็มานั่งคิดพิจารณาตามที่ท่านอาจารย์พูดอีกที ไม่นานก็เข้าใจว่า แท้ที่จริง หลวงปู่กินรี พยายามสอนให้พวกเรารู้ว่า เวลาเห็นฝ่ายเราได้เปรียบ ก็ร้องเฮ้ ดังลั่น เหมือนดั่งขึ้นสวรรค์ พอฝ่ายเราเสียเปรียบ ก็ได้ยิน เฮ้ ดังลั่นของฝ่ายตรงข้าม เหมือนกับตกนรก...ที่สลับไปสลับมา ระหว่างขึ้นสวรรค์กับลงนรกนั้น ก็คือ "จิต" ของเรานั่นเอง

เมื่อเข้าใจ (ซาโตริ) เช่นนี้แล้ว ก็เลิกเล่นมดดำ มดแดงกัดกันโดยสิ้นเชิง แล้วหันมาปฏิบัติ ทำความเพียร เพื่อดูจิตของตน มิให้แกว่งไปมา ระหว่างนรก-สวรรค์ เช่นนั้นอีก

เรื่องเล่าหลังฉัน เรื่องที่ ๒

ท่านอาจารย์ไม่พูดอะไรมาก กลับเล่าด้วยการแสดงกิริยา ด้วยการยกมือขวาขึ้นมาตีแขนซ้าย ๑ ที ดังเพียะ ...แล้วก็สลับ ยกมือซ้ายขึ้นมาตีแขนซ้าย ๑ ที ดังเพียะ เช่นกัน

แล้วท่านก็มองหน้าพวกเรา (ตอนนั้นอยู่กันหลายคน) ไม่ว่าจะเป็นมือขวาตีแขนซ้าย หรือมือซ้ายตีแขนขวา มันก็เจ็บเหมือนกันทั้งคู่

แล้วท่านก็ปล่อยให้พวกเราไปตีความกันเอาเอง...(ผมเข้าใจว่า) สงครามของคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าฝ่ายไหนจะได้เปรียบฝ่ายไหน หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะอีกฝ่ายหนึ่งก็ตาม มันก็เจ็บปวดทั้งสองกรณี เสมือนมือตัวเอง ที่ตีแขนอีกข้างหนึ่งของตัวเอง

และแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้ก็ได้เกิดขึ้น แล้วมันจะผ่านพ้นไป...แล้วมันจะผ่านพ้นไป ชีวิตยังต้องดำเนินกันต่ออย่าท้อแท้ (Life goes on), แล้วคนไทยได้บทเรียนอะไรบ้าง พุทธศาสนาที่พวกเรานับถือ มิได้ช่วยอะไรได้บ้างเลยหรือ ตั้งแต่ระดับที่เข้าใจได้ง่าย เช่น การครอง "สติ" ควบคุมความโกรธ การมี "หิริโอตตัปปะ" ควบคุมความเห็นแก่ตัว ละอายชั่วกลัวบาป, ไปจนถึงระดับที่เข้าใจยากหน่อย เช่น "อิทัปปัจจยตา" คิดให้รอบทั้งระบบ ไล่เหตุไล่ผลให้ครบ ตลอดทั้งสาย ทั้งกระแสแห่งอิทัปปัจจยตา-แปลว่า

๑. เมื่อมีสิ่งๆ นี้ สิ่งนี้ๆ จึงเกิดขึ้น ; เมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว ลองคิดทบทวนดู กูเผลอทำอะไรลงไปบ้าง กูทำอย่างนั้นไปทำไม เพื่อใคร กูมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ใครโน้มน้าวให้มา ความเชื่อในลัทธิใดผลักไสให้ฉันทำสิ่งนั้นๆ หรือความนิยมชมชอบใครเป็นพิเศษ จึงได้เทใจทำสิ่งที่ก้าวล่วง เบียดเบียนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ทำให้ส่งผลมาเป็นเช่นวันนี้ได้ แล้วที่ทำไปทั้งหมดนั่น มันเป็นมงคลต่อชีวิตไหม? (หากไม่รู้ ก็ไปเปิดมงคล ๓๘ ไล่ดู สิ่งที่พวกคุณได้ทำไปทั้งหมด เป็น ๑ ใน ๓๘ หรือไม่?) เริ่มจากมงคลที่ ๑ การไม่คบคนชั่วเป็นมิตร, เอาแค่ข้อนี้หลายคนก็อาจถึงบางอ้อได้แล้ว คนรอบข้างตัวเรา พวกเขาเป็นคนดี มีอุดมการณ์รักชาติ รักในหลวง แน่หรือ??? เหตุใดพวกเขาจึงมักที่จะเสี้ยมให้เราเกิดโทสะ กริ้วเมือง พาลคนอื่นไปทั่วตั้งแต่ดิน ไปถึงฟากฟ้า, ไยพวกเขาต้องพาเราเผาบ้านเผาเมืองด้วย ฯลฯ ต่างๆ เหล่านี้...หรือว่าพวกเขาคือ "คนชั่ว" ที่เราอาจเผลอไปนับพวกเขาเป็น "มิตร" หรือเปล่าครับ?

๒. เมื่อดับสิ่งนี้ สิ่งนี้ๆ ก็ดับไป ; เมื่อไล่ไปจนถึงต้นตอ บุคคลอันเป็นต้นเรื่อง ต้นทางจริงๆ (ซึ่งบุคคลต้นทางจริงๆ อาจไม่ได้อยู่ในประเทศด้วยซ้ำ) ก็จะพบความจริง ไม่สายเกินไปหรอกครับ แล้วเราก็ดับ เหตุแห่งความชั่วร้าย ความเชื่อร้ายๆ นั้นเสีย หายนะต่างๆ ก็จะดับไป นี้คือกลไกแห่งอิทัปปัจจยตา (กรณีนี้คือเหตุแห่งปัญหา)

อย่าไปคิดแบบตัดตอน โกรธแค้นทหารที่มาสลายการชุมนุม ควรเปิดใจให้กว้าง แล้วย้อนคิดกลับไปด้วย ว่า เพราะอะไรเขาจึงต้องทำแบบนี้ มันเริ่มมาจากตรงไหน เมื่อไหร่ คิดให้ได้ว่าใคร ที่มาหลอกใช้กู จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แล้วสุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นก็หลบหนีหายไปต่างประเทศบ้าง เข้าเซฟเฮาส์บ้าง แอบๆ หาทางลงให้ตัวเอง แบบเกี้ยเซี้ย ปลอดภัย เรียบร้อยโรงเรียนนักการเมืองไทย ตามระเบียบ...

เมื่อเข้าใจและตาสว่างแล้ว ก็ค่อยๆ เริ่มสายแห่งปัญญาตามมา เลิกเสียซึ่งปาปมิตร เพื่อนชั่ว หลอกใช้ ให้กูไปตาย ให้กูหลงเข้าใจผิด หนีห่างจากพวกนี้ให้ไกลที่สุด อันตรายอย่างยิ่ง ถ้าไม่อันตรายจริง ไม่สำคัญจริงๆ พระพุทธเจ้าคงไม่จัดให้เป็นมงคลแรก จากทั้ง ๓๘ มงคลเป็นแน่, แล้วหันไปคบกัลยาณมิตร เพื่อนดีจริง อันเป็นมงคลที่ ๒ ที่จะช่วยนำพาเรา ชี้ทางแนะนำ ทางแห่งการพ้นทุกข์ให้กับเราจริงๆ ซึ่งเป็นทางสว่างด้วยแสงแห่งปัญญา มิใช่แสงจากไฟ ที่เผายาง เผาบ้านเผาเมืองอย่างที่เห็น

เมื่อไหร่น้า...มดดำกับมดแดงจะเลิกกัดกัน หรือคนไทยจะเลิกเอามือมาตีแขนตัวเองกันเสียที... เฮ้อ!

มหาเถรฯยังไม่ได้รับรายงานทหารจับพระในม็อบแดง

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม ว่า ที่ประชุมมหาเถรฯ ไม่ได้มีการหารือถึงกรณีข่าวที่ระบุว่ามีพระสงฆ์ที่เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดนทหารจับตัวไปสอบสวน ขณะที่ สำนักพุทธฯ ก็ยังไม่ได้รับรายงานจากทางส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนาเช่นกัน แต่ถ้าพูดกันตามกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการกับพระสงฆ์ที่เข้าร่วมชุมนุมได้ทันที หากพบว่ามีพฤติกรรมที่ละเมิด พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม หากมีการจับตัวพระสงฆ์ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง คือ หากมีเจ้าคณะผู้ปกครองรับรองพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ถูกจับก็ไม่จำเป็นต้องสึก แต่ให้อยู่ในการดูแลของเจ้าคณะผู้ปกครองในระหว่างที่มีการสอบสวนพระสงฆ์ที่ถูกจับ แต่หากไม่มีเจ้าคณะผู้ปกครองรองรับ ก็ต้องมีการนิมนต์เจ้าคณะผู้ปกครองในพื้นที่ที่มีการคุมตัวพระสงฆ์ไปมาทำการสึกก่อน ที่จะมีการนำตัวไปคุมขัง นอกจากนี้ สำนักพุทธฯ ยังได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจเยี่ยมวัดปทุมวนาราม ภายหลังจากการเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุม และได้กราบเรียนถามพระธรรมธัชมุนี เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ซึ่งท่านก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น

 

ปราจีนบุรี -ไข้เลือดออกระบาดที่จังหวัดปราจีนบุรี พบเด็กวัยเพียง 7 เดือน ส่วนอายุสูงสุด 55 ปี ด้านสาธารณสุขชี้ควรรักษาความสะอาด ปลอดขยะในหมู่บ้าน-ในบ้านเรือน ล่าสุดพบผู้ป่วยแล้ว 143 คน

วันนี้(29 พ.ค.53 ) นพ.ระวี สิริประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ในช่วงต้นฤดูฝนนี้ สถานการณ์ไข้เลือดออกในประเทศไทย ปี 2553 พบผู้ป่วยจำนวน 13,973 ราย เสียชีวิต 17 ราย สำหรับจังหวัดปราจีนบุรีนั้น มีอัตราผู้ป่วย อยู่ในอันดับที่ 24 ของประเทศ อันดับ 5 ของเขต 3 และเขต 9 ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่าพบผู้ป่วยแล้ว รวม 143 ราย

สำหรับพื้นที่ที่พบผู้ป่วย สูงสุดได้แก่ อ.ศรีมหาโพธิ รองลงมา อ.ศรีมโหสถ และ อ.เมืองปราจีนบุรี ซึ่งพบในกลุ่ม อายุ 5 – 14 ปี โดยมีทั้งอายุที่สูงสุด และผู้ป่วยอายุต่ำสุด วัยเพียง 7 เดือนเท่านั้น ส่วน อายุสูงสุด 55 ปี ที่ อ.บ้านสร้าง

ที่ผ่านมาสถานการณ์ การเสียชีวิตลดน้อยลง แม้สถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก จะพบมากในเด็กและเยาวชน แต่ให้ระวังไข้เลือดออกในผู้ใหญ่ซึ่งจะซับซ้อนรักษาและวินิจฉัยยาก โดยผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก เป็นแล้วอาการอ่อนเพลีย-อาการปวดเมื่อย ปวดศีรษะรุนแรง โดยให้หลีกเลี่ยงอย่าให้ป่วยเป็นไข้เลือดออกในหน้าฝนนี้

นพ.ระวี กล่าวถึงการป้องกันและไม่ให้ป่วยเป็นไข้เลือดออก โดยต้องช่วยกันการรักษาความสะอาด ที่ริมถนน จัดการทิ้งขยะ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมถึงในบ้านเรือนประชาชนและนอกบ้านเรือด้วย เพราะจะช่วยลดอัตราการป่วยการตายไข้เลือดออก ซึ่งปัจจุบันรพ.มีเตียงทั้งสิ้น 500 เตียง โดยบางเดือนมีผู้ป่วยมากถึง 200-300 เตียง บางเดือนผู้ป่วยเต็ม ซึ่งเตียงมีไม่เพียงพอในการรองรับ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤษภาคม 2553 18:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เผยภาพน้ำมันรั่วกลางทะเล จากภาพถ่ายดาวเทียมและภาพถ่ายจากสถานีอวกาศสุดสะเทือนใจ ด้านนักบินอวกาศเผยว่า เป็นภาพที่น่ากลัวมาก

นับเป็นอีกปัญหาใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อมของโลก สำหรับการรั่วไหลของน้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทน้ำมันสัญชาติอังกฤษบริติชปิโตรเลียม (British Petroleum) หรือบีพี ซึ่งรั่วไหลมาตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.53 ที่ผ่านมา และยังคงรั่วอยู่ โดยไม่อาจระบุถึงความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์ต่างๆ ได้

อย่างไรก็ดี ภาพถ่ายจากดาวเทียมเทอร์รา (Terra satellite) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ซึ่งบันทึกเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงภาพถ่ายโดยนักบินอวกาศที่โดยสารแอตแลนติส (Atlantis) ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นอีกหลักฐานความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้

สเปซด็อทคอมระบุถึงคำพูดของ โอเลก โกตอฟ (Oleg Kotov) นักบินอวกาศรัสเซียที่เผยต่อสื่อผ่านสัญญาณเชื่อมต่อวิดีโอมายังโลกว่า เพียงแค่ผ่านอ่าวเม็กซิโไม่นานพวกเขาก็บันทึกภาพน้ำรั่วได้จำนวนมาก

“มันดูน่ากลัวมาก มันไม่ดีเลย ผู้รู้สึกว่า...เรื่องนี้ไม่ดีเลยจริงๆ" โกตอฟกล่าว ซึ่งนอกจากเห็นภาพน้ำมันรั่วแล้ว พวกเขายังเห็นภาพเถ้าภูเขาไฟเอยาฟยาลาเยอคูล (Eyjafjallajökull ) ในไอซ์แลนด์ที่ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่องด้วย โดยเห็นเถ้าภูเขาไฟปกคลุมทั่วยุโรป โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ

ด้าน ปิแอร์ เซลเลอร์ส (Piers Sellers) นักสิ่งแวดล้อมซึึ่งเดินทางขึ้นไปบนสถานีอวกาศด้วยนั้น กล่าวถึงกรณีน้ำรั่วว่า เป็นตัวอย่างผลกระทบจากน้ำมือมนุษย์ที่กระทำต่อโลกอันเป็นเสมือนบ้านของเราเองซึ่งไม่สามารถเขย่าทิ้งได้

“สิ่งเรานี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย" เซลเลอร์สกล่าว และบอกว่าเมื่อโคจรไปรอบโลกเราจะได้เห็นการกระทำของมนุย์ประทับรอยไปทั่วทุกหนทุกแห่ง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นการกระทำในเชิงบวก อย่างเมืองทีมีความยั่งยืนและการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกเพื่อการเกษตร แต่ก็มีสัญญาณการทำลายล้างที่มนุษย์กระทำต่อโลกด้วย ถึงกระนั้นโลกก็ยังคงให้สัญญาณที่เป็นความหวังแก่เขา

“เรายังมีความหวังอยู่ ผมคิดว่าในที่สุดคนเราจะเรียนในการดูและโลกใบนี้" เซลเลอร์สกล่าว

ทั้งนี้เซลเลอร์สเป็น 1 ในลูกเรือของแอตแลนติส5 คน ที่เพิ่งขึ้นไปปฏิบัติการต่อเติมโมดูลวิจัยของรัสเซียบนสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อสุดสัปดาห์ทีผ่านมา และยังมีภารกิจลำเลียงอุปกรณ์สำรองเพื่อใช้ซ่อมแซมสถานีอวกาศด้วย โดยมีระยะเวลาปฏิบัติการประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนเดินทางกลับสู่โลก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 พฤษภาคม 2553 13:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นอกประเด็นนิดนึงนะคะ
ศุกร์ 15 ที่ผ่านมา ก็ไปรอรับลูกตามปกติ เดินเล่นที่โลตัสพระราม 4 เพราะมาก่อนเวลา ลูกเรียนอยู่ รร พระหฤทัยคอนแวนต์ชั้นอนุบาล
โทรศัพท์เราดูข่าวได้ เราก็เปิดดูตลอด ได้ข่าวปิดถนนและเผายาง ตอนใกล้ๆบ่ายสอง เดินสวนกับผู้ปกครองเหมือนกัน เขารีบบอกเราว่าให้ไปรับลูกได้เลย ประตูโรงเรียนเปิดเป็นกรณีพิเศษ

--จากตรงนั้นลุ้นอย่างกะในหนัง มาถึงโรงเรียนรถผู้ปกครองบางส่วนมาจอดรอแน่นแล้ว คุณครูอนุบาลเองยังไม่ได้เห็นภาพข่าวเลย พอเราคว้าลูกได้ รีบบอกพ่อเขาขับออกจากเส้นนี้ให้เร็วที่สุด ห้ามขึ้นทางด่วน (ก็เห็นชอบปาอะไรลงมาจากทางด่วนกันนิ ก็เลยไม่ชอบ) ไปทางธรรมดา ให้ถึงแถวพระโขนงออกพระรามเก้าก็จะปลอดภัย หลังจากนั้นไม่นาน ถนนแถวหน้าคลองเตยก็ถูกปิด--

--ย้อนหลังวันที่มีการประกาศเคอฟิวแบบกะทันหัน ที่รู้กันตอนห้าโมงเย็นน่ะค่ะ วันนั้นเราอยู่บ้านตามข่าวตลอด แต่ประมาทเ้อ้อระเหย พอสามโมงก็คิดว่า เออ ต้องรีบไปซื้อของสดก่อนตะวันตกดินดีกว่า ออกมาจัสโก้ศรีนครินทร์ อ้าว ปิดซ่อมแซม วนมาเดอะมอล์ดีกว่า ของสดเยอะดี ตอนนั้นดูทีวีทางมือถือ อ่ะ ประกาศเคอฟิวแล้วแฮะ (สังหรณ์อยู่เหมือนกัน แต่ประมาท) มาเดอะมอล์ เอ๊ ทำไมคนหน้าห้างเยอะแยะ สงสัยจะปิดแน่เลย จริงดังคาด เจ้าหน้าที่ประกาศว่า ห้าโมง ห้างปิดแล้วนะครับ ไปไหนดี ฟู้ดแลนด์ตรงลาดพร้าวนี่แล้วกัน โอ้โห รถจอดพรึ่บ คนเต็มห้าง ซื้ออะไรดี ฯลฯ สัญญาโทรศัพท์ล่ม คนอื่นๆก็ว้าวุ่นๆๆๆๆๆ จ่ายเงิน ขับออกมา รถติดไม่ขยับ กว่าจะถึงบ้านเกือบหนึ่งทุ่ม เป็นการซื้อของที่วิบากมาก--

ตราบใดที่ไม่มีแผนการอพยพที่ชัดเจนจากภาครัฐ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ


เศร้า แต่เป็นเรื่องจริง -*-

 

มันเป็นบททดสอบแบบเบาๆ ครับ อนาคต อาจจะหนักกว่านี้

 

ผักแพงหนีเคอร์ฟิว​

​

"โพสต์ทูเดย์ได้สำรวจราคาสินค้าในตลาดสดคลองเตย พบว่าราคาอาหารสดยังสูงต่อเนื่องจากช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะผัก เช่น ถั่วฝักยาว เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เป็น กก.ละ 100 บาท จากปกติ 30-40 บาท ผักคะน้า ราคา กก.ละ 40 บาท จากปกติ 20 บาท"

วิกฤตการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง แต่ในยามนี้ก็มีบางธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการของรัฐ เช่น การประกาศเคอร์ฟิว (ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด) รวมถึงการซ่อมแซมบูรณะที่อยู่อาศัย ห้างร้าน และอาคารต่างๆ และความเสี่ยงภัยเหตุการณ์จลาจล

“โพสต์ทูเดย์” ได้สำรวจราคาสินค้าในตลาดสดคลองเตย พบว่าราคาอาหารสดยังสูงต่อเนื่องจากช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะผัก เช่น ถั่วฝักยาว เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เป็น กก.ละ 100 บาท จากปกติ 30-40 บาท ผักคะน้า ราคา กก.ละ 40 บาท จากปกติ 20 บาท

ส่วนตลาดสดย่านรังสิต พ่อค้าแม่ค้าบ่นเสียงเดียวกันว่าผักมีราคาสูงขึ้น 25-30% เช่น ผักชี ใบตั้งโอ๋ จากปกติ กก.ละ 280 บาท เพิ่มเป็น 300-350 บาท นอกจากนี้ผักที่ซื้อมาจากตลาดไทหรือตลาดสี่มุมเมืองก็มีน้อยลง สาเหตุหลักมาจากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และผู้ค้าส่งบางรายอ้างเคอร์ฟิว ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่ม นอกจากนี้กลุ่มพ่อค้าที่ขายช่วงกลางคืนก็ต้องเก็บแผงเร็วขึ้นเพราะลูกค้าที่เป็นร้านอาหารมาไม่ได้ ทำให้รายได้หายไป

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะปกติ มีเพียงผักสดที่ราคาเพิ่มขึ้นจากอากาศร้อนจัดและอาจเกิดปัญหาขนส่งในช่วงประกาศเคอร์ฟิว

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า บางธุรกิจได้รับผลกระทบเพียงช่วงสั้นๆ แต่ระยะยาวน่าจะดีขึ้น เช่น ธุรกิจประกัน เพราะประชาชนรวมถึงภาคธุรกิจจะให้ความสำคัญและหันมาทำประกันมากขึ้น ซึ่งหากบริษัทใดตื่นตัวมาทำประกันในช่วงนี้ก็จะต้องจ่ายเบี้ยแพง ทำให้บริษัทประกันได้รับส่วนต่างมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทขายวัสดุก่อสร้าง รวมถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้างก็จะมีรายได้ดีขึ้น หลังเกิดเพลิงไหม้ในกรุงเทพฯ หลายแห่ง ทำให้ต้องมีการปรับปรุงหรือสร้างที่อยู่อาศัยและตึกหลายแห่ง

น.ส.ยุคนธร วิเศษโกสิน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาดระหว่างประเทศ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เดอะพิซซ่า คอมปะนี เปิดเผยว่า ยอดขายพิซซาผ่านบริการส่งถึงบ้านหรือเดลิเวอรีในช่วงที่เกิดเหตุชุมนุมทางการเมือง รวมถึงช่วงเคอร์ฟิว เพิ่มขึ้น 60-70% จากปกติ แต่ยอดขายในร้านลดลงมากกว่า 50% เนื่องจากลูกค้าไม่กล้าออกจากบ้าน หรือมีเวลาที่อยู่นอกบ้านน้อยลง

ส่วนร้านที่อยู่นอกเมืองและในต่างจังหวัด ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอยู่ โดยเฉลี่ยราว 7-8% และบางเดือนโตถึง 10% ทำให้ยอดขายรวมไม่ได้รับผลกระทบ

ประเด็น:เศรษฐกิจเจอพิษม็อบ , วันที่ 24 พฤษภาคม 2553 เวลา 07:14 น.

ที่มา สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์
http://www.posttoday.com

 

เหยื่อพายุ 'อะกาธา' ยอดตาย 3 ชาติขึ้นหลักร้อย​

​

พายุโซนร้อนลูกแรกของฤดูกาลแห่งเฮอร์ริเคน แถบมหาสมุทรแปซิฟิคปีนี้ คร่าชีวิตผู้คนแล้วอย่างน้อย 101 คน ทั่วทวีปอเมริกากลาง และยังเกิดน้ำท่วมและดินถล่มหลายพื้นที่...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วันนี้ (31 พ.ค.) ความคืบหน้าของ “อะกาธา” พายุโซนร้อนลูกแรกของฤดูกาลแห่งเฮอร์ริเคนแถบมหาสมุทรแปซิฟิคปีนี้ คร่าชีวิตผู้คนแล้วอย่างน้อย 101 คน ทั่วทวีปอเมริกากลาง หลังพัดถล่มชายฝั่งกัวเตมาลาเป็นชาติแรก ตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 29 พ.ค.53 ด้วยความเร็วลม 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนลดระดับรุนแรงเป็นพายุดีเปรสชั่น เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 30พ.ค.ที่ผ่านมา กระนั้นก็ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ทำลายบ้านเรือน ถนนหนทาง และระบบไฟฟ้า เสียหายเป็นบริเวณกว้าง

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. อิทธิพลของอะกาธายังทำให้เกิดฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มทั่วกัวเตมาลา, เอล ซัลวาดอร์, ฮอนดูรัส และเม็กซิโก ผู้คนจำนวนมากต้องอพยพหนีภัยเหตุฝนตกหนัก ยังอาจกระทบต่อผลผลิตกาแฟในกัวเตมาลา และเอล ซัลวาดอร์ ตัวเลขผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกัวเตมาลา คือ 82 คน ประชาชนเกือบ 112,000 คน อพยพทิ้งบ้านเรือนหาที่หลบภัย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนที่เอล ซัลวาดอร์ มีผู้เสียชีวิต 9 คน ฮอนดูรัสมีอย่างน้อย 10 คน โดยทั้ง 2 ชาติประกาศภาวะฉุกเฉินรับมือภัยพิบัติแล้ว ด้านประเทศโคลอมเบียและสหรัฐฯ เสนอช่วยเหลือโดยส่งอากาศยานลำเลียงข้าวของ และช่วยอพยพผู้ประสบภัย กรณีของกัวเตมาลา ยังต้องเฝ้าระวังภัยจากเหตุภูเขาไฟระเบิดปะทุด้วย

ในวันเดียวกัน เกิดพายุฝนถล่มภาคเหนือของอินเดีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐอุตรประเทศ การจราจรทางรถไฟ และถนน เป็นอัมพาตหลายชั่วโมง และในพื้นที่ดังกล่าวโดยเฉพาะรัฐคุชราต มหาราษฎระ ราชสถาน และพิหาร ยังเผชิญภาวะคลื่นความร้อน มีผู้เสียชีวิตรวมกันแล้วร้อยกว่าคนในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และยังเชื่อกันว่าเป็นฤดูร้อนที่มีสภาพอากาศร้อนสุด นับแต่ปลายทศวรรษปี 1800

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2553

จีนสั่งคุมเข้มโรงเรียน รับวันเด็กชาติ หวั่นภัยทำร้าย​

​

ทางการจีนสั่งเพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัยสถานรับเลี้ยงเด็กเล็กและโรงเรียนทั่วประเทศในช่วงวันเด็กแห่งชาติ ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ...

ทางการจีนสั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานรับเลี้ยงเด็กเล็กและโรงเรียนทั่วประเทศในช่วงวันเด็กแห่งชาติ วันที่ 1 มิ.ย. ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน หลังเกิดคดีคนร้ายบุกใช้มีดไล่แทงทำร้ายเด็กนักเรียนตามสถานศึกษามากกว่า 5 ครั้ง ตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต17 ราย บาดเจ็บมากกว่า 50 คน

มาตรการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งให้มีตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าโรงเรียน บ้างติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดและติดสัญญาณเตือนภัยกรณีมีผู้บุกรุก ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ ทางการจีนเพิ่งประหารชีวิตนักโทษคดีไล่แทงนักเรียน 29 ราย ครู 3 ราย เหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2553

กระรอกเทาขี้หวง สู้สุดพลัง เจอพิราบแย่งถั่ว​

ภาพจาก : www.dailymail.co.uk

​

กระรอกเทาขี้หวง แห่งสวนไบรตัน เปิดฉากปะทะกับนกพิราบอย่างดุเดือด เพราะโดนขโมยกินถั่ว หนุ่มผู้ดีเห็นโดนใจ ถ่ายภาพเก็บไว้เผยแพร่...

ของของใคร ของใครก็ห่วง ของใคร ใครก็ต้องหวง ... สงสัยเจ้ากระรอกเทาแห่งสวนไบรตัน เมืองที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างชายทะเลและเมืองใหญ่ บนเกาะอังกฤษ คงกำลังร้องเพลงนี้อยู่เป็นแน่แท้

โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า กระรอกเทาเจ้าสวนหย่อมเมืองไบรตัน เปิดฉากปะทะกับนกพิราบอย่างดุเดือด เนื่องจากเจ้านกหิวโซ บินเข้ามาจิกแย่งกินเมล็ดถั่วของกระรอกจอมหวงนั่นเอง

ไซมอน แดก ผู้ถ่ายภาพการต่อสู้ข้ามสายพันธุ์ภาพนี้ ระบุว่า ประทับใจเหตุการณ์ดังกล่าว จึงเก็บภาพไว้ดูเล่น เพราะเหมือนกับการจัดแสดงโชว์มวยสัตว์จิ๋วให้ดูนั่นเอง

กระรอกเทาเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ตามสวนต่าง ๆ บนเกาะอังกฤษตั้งแต่ปี 2413 โดยกระรอกเทามีลำตัวที่ใหญ่ และดุกว่ากระรอกแดง รวมถึงมักมีพฤติกรรมแย่งชิงอาหารจากพวกนก และหากตัวเองถูกแย่งชิงอาหารบ้าง ก็จะพยายามต่อสู้เพื่อนำกลับคืนมาเสมอ ดังภาพที่ไซมอนถ่ายไว้ได้นั่นเอง​

ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

โหรชี้"อภิสิทธิ์"เสี่ยงถูกลอบสังหาร​

นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ​

"ภานุวัฒน์"ระบุ 23 รมต.ดวงตก"อภิสิทธิ"เสี่ยงลอบฆ่า"ประยุทธ"ดวงหนุนรัฐบาล "ตู่-ณัฐวุฒิ-เหวง-กี้ร์-สุพร"ไม่ยอมลงจะดวงกุด ปลายปีมีรัฐบาลแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2553 ที่สถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบัน โหรซินแสได้แถลงคำทำนายดวงเมือง 2553ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่ง ปี 2551 เมื่ออายุย่างเข้าปลายปี 52 นายอภิสิทธิ์จะทำงานเหนื่อยมาก ประเทศเสียหาย ประกอบกับผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนใหญ่ดวงไม่ดี หากวิเคราะห์รัฐมนตรีทั้งหมด 36 คน ช่วงต้นปี 2552 มีรัฐมนตรีดวงดี 24 ดวงตก 22 เมื่อรัฐบาลผ่านเข้ากลางปีดวงไม่ดีมาก

แต่เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2553 มีการปรับรัฐมนตรี จึงทำให้มีรัฐมนตรีดวงดี 13 คนดวงตก 23 คน ซึ่งช่วงนี้หนักที่สุด คือปลายปี 2553 เมื่อรัฐบาลอดทนและประคับประคองก็น่าจะผ่านช่วงนี้ไปได้ แต่รัฐบาลจะอยู่รอดหรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ซึ่งเกิดปีฉลู ปีเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่อายุย่างเข้า 61 ปี

พล.อ.อนุพงษ์ จะวุ่นวาย แต่จะผ่านพ้นเคราะห์ไปได้ หลังเดือน ก.พ.54 หลังจากเกษียณราชการไปแล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเกิดปีระกา อายุเริ่มเข้าเคราะห์ โหงวเฮ้งดี จะเกื้อหนุนรัฐบาลได้

ส่วน พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา เกิดปีมะเมีย ดวงสมพงษ์กับปีขาล จะพ้นเคราะห์ในเดือนมิถุนายน ดังนั้น เดือนหน้าจะโดดเด่น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ มีโหงวเฮ้ง ช่วงคางบนใบหน้าสวย โครงสร้างใบหน้ามั่นคง จะใหญ่โต หากดู พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง มีคางแหลมเล็กสั้น ซึ่งเคยเตือนแล้วจะอายุสั้น โดยโหงวเฮ้งคล้ายกับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ขณะนี้หายตัวไป

ครม.ดวงอับเฉา-มิ.ย.คนจะมองหาอัศวินม้าขาว

ซินแสภานุวัฒน์ ทำนายอีกว่า ดวงรัฐบาลจะทำงานเหนื่อย นายอภิสิทธิ์ ดวงกำลังเข้าเคราะห์ พ้นเคราะห์ 10 พ.ย. 53 ส่วนมือรอง นายสุเทพ ปีฉลู อายุเข้าเคราะห์ พ้นคราะห์ 6 พ.ย. 53 นายกอร์ปศักดิ์ อายุเข้าเคราะห์พ้นเคราะห์ 10 สิงหา 53 นายกรณ์ จาติกวานิช รมว.คลัง พ้นเคราะห์ 29 พ.ค. 53

ตอนนี้ รมต.ในรัฐบาลนี้ดวงดี 13 คนดวงตก 23 จึงแนะนำรัฐบาลต้องปรับครม.ถึงจะอยู่ยาว ถ้านายกฯไม่ปรับครม.ก่อนเดือน มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ต้องลาออก ส่วนช่วงเดือน ก.ค. นายอภิสิทธิ์จะโดนขุดคุ้ยหนักจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่พอใจแบ่งเค้กเรื่องงบประมาณกันไม่ลงตัว แต่นายอภิสิทธิ์ต้องอย่าท้อแท้ ต่อสู้ต่อไป ขอให้อดทนใจเย็น ยืนอยู่บนความถูกต้องชอบธรรม ขอชมทหารครั้งนี้อดทนมากกว่าในอดีต มือที่สามมาคอยยิง รัฐบาลอยู่ได้เพราะความจริงปรากฏ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ถือว่าโชคดีมีทหารเป็นแบล็คอยู่ข้างหลัง

เขาทำนายต่อไปว่า ปีนี้เป็นปีปืนไฟคุมดวงเมือง เริ่มด้วยยิงเอ็ม 79 ยิงเข้าห้อง ผบ.ทบ. สำหรับเดือน พ.ค. ถือว่าเป็นเดือนพญางู จะมีการเปลี่ยนแปลง พลิกล็อคพลิกโผ กลับสู่วงจรถูกต้อง มีความรับผิดชอบชั่วดี สังคมส่วนรวมพร้อมให้อภัย ใครที่รับเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ มาก็ขอให้อภัยเขา แต่หากไม่ยอมกลับตัวเป็นคนดีก็จะมีการหักหลังกันมากขึ้น

เดือนมิถุนายน เริ่มเห็นอัศวินม้าขาว

ส่วนเดือนมิ.ย. ทุกคนจะเริ่มมองหาอัศวินม้าขาวมาช่วย ทำให้คนดีมีคุณธรรมเริ่มมีกำลังใจในการทำงาน และบ้านเมืองในต้นเดือนนี้จะสงบ แต่พอเข้าเดือน ก.ค. จะเริ่มมีกลุ่มคนออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความไม่เป็นธรรมทางการเมือง ผู้มีอำนาจทำอะไรไม่ดีไว้จะปกปิดไม่มิด เศรษฐกิจสังคมจะเริ่มเคลื่อนตัวไปทางที่ดีขึ้น ประชาชนจะออกมาเรียกร้องเรื่องการทุจริตของรัฐบาล กลุ่มเสื้อแดงอาจจะยุติไปช่วงขณะหนึ่ง

"อภิสิทธิ์" ระวังถูกลอบสังหาร

ส่วนดวงนายอภิสิทธิ์ ให้ระวังเดือน ก.ค.มีเคราะห์หนัก โดนลอบสังหาร ถ้านายอภิสิทธิ์ลงไปมีคนขึ้นมาแทน อาจจะเป็นนายกรณ์ จาติกวณิช หรือ นายชวน หลีกภัย ซึ่งรัฐบาลประชาธิปัตย์จะไปได้อีกระยะแต่ไม่เกินสามเดือน นอกจากนี้ยังมีอัศวินม้าขาวมาช่วยประเทศ คนที่ดีจริงๆ จะมีมือประสานสิบทิศออกมาคลี่คลายพูดคุย ซึ่งจะช่วยบ้านเมืองให้สงบระยะหนึ่ง จะมีข่าวดีจากแดนไกล ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ จะโดนกรรมหนัก บัญชาการสั่งฆ่าคนจะได้รับเวรกรรม ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้จักเบรกจะดีกับตัวเองและประเทศชาติ

สิงหาคม-ตุลาคม อาจนองเลือดอีก แนวโน้มรัฐประหาร

ส่วนในเดือนส.ค.น่าเป็นห่วง จะมีความวุ่นวายสับสน มีการปล่อยข่าวลือ บ้านเมืองถึงขั้นนองเลือด ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองจะกลับดำเป็นขาว ทำอย่างพูดอีกอย่าง จะเกิดการเสียเลือดเสียเนื้ออีกครั้ง เดือนก.ย.เริ่มมีสารพัดปัญหา เกิดการปะทะเสียเลือดเสียเนื้อมากขึ้น เป็นเดือนที่วุ่นวายหนัก เป็นช่วงจัดสรรงบประมาณผลประโยชน์ทะเลาะกันหนัก

นายอภิสิทธิ์ เกิดปีมะโรง ในเดือน ต.ค. ชงกับนายอภิสิทธิ์ เต็มๆ อายุเข้าเคราะห์เดือนก็ชง และเดือนนี้ก็วิฤกตที่สุดของรัฐบาล เป็นช่วงผลพวงจากการทะเลาะเบาะแว้ง การใส่สีตีไข่จากที่ผ่านมา เริ่มมีอำนาจมืด อำนาจทมิฬมาสร้างความหวาดกลัวให้กับสังคม ต้องเอาน้ำแข็งเข้าลูบ นายอภิสิทธิ์ควรลาพักร้อนช่วงนั้นน่าจะดี เพราะในช่วงนั้นเสื้อแดงจะออกมาเคลื่อนไหว ขณะเดียวกันเสื้อเหลืองก็จะออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน หากรัฐบาลทำไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรมรับปากไว้ไม่ทำก็อยู่ไม่รอด

ส่วนโอกาสรัฐประหารมีสูงในปีนี้ โดยเฉพาะในช่วง ส.ค.-ต.ค. จะเป็นช่วงวิฤกติสุดๆ จะมีการเสียเลือดเสียเนื้อหนักกว่าที่ผ่านมาคุมเกมไม่อยู่ อำนาจปืนไฟ ระเบิด มาสร้างปัญหาสังคมส่วนรวม ผู้ใหญ่ตัดสินใจถ้าทำอาจจะถูกด่า ถ้าปฏิวัติก่อนเดือน ต.ค.จะไม่เสียเลือดเสียเนื้อ แต่จะถูกด่าว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วปฏิวัติทำไม แต่ไม่ว่าจะปฏิวัติก่อนหรือหลัง แต่จะมีรัฐบาลแห่งชาติมาช่วยทำให้ประเทศสงบในปลายปี

ซินแสนุวัฒน์ ทำนายว่า รัฐบาลไหนมาทำงานก็จะวุ่นวาย ดังนั้น ฮ้วงจุ้ยทำเนียบรัฐบาลต้องเปลี่ยนทิศที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะทางเข้าประตูทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากฮวงจุ้ยที่จัดไว้เดิมหมดไปแล้วตั้งแต่ปี 2547 สมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ซึ่งตามหลักที่ควรทำคือให้ทำประตูใหญ่เข้า-ออกฝั่งสะพานอรทัย นอกจากนี้ศาลหลักเมืองของกรุงเทพฯถือว่าอยู่ต่ำกว่าแผ่นดิน ตอนนี้เบื้องสูงถูกโจมตีหนัก อาจจะมาจากฮวงจุ้ยของเสาหลักเมืองที่ต้องทำให้สูงขึ้น ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะมีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบ ดังนั้นอยากให้ผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจพิจารณาปรับฐานศาลหลักเมืองให้สูงขึ้น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 18 พฤษภาคม 2553 23:00

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/news-maker/20100518/116273/news.html
<!-- Tags Keyword -->

 

เกิดแผ่นดินไหว 6.6 ริกเตอร์ที่หมู่เกาะอันดามัน ​

​

กรมอุตุนิยมวิทยา เผย เกิดแผ่นดินไหวระดับความรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ ที่หมู่เกาะอันดามันของประเทศอินเดีย เบื้องต้น ยังไม่พบความเสียหาย และ ไม่มีรายงานว่า กระทบต่อไทย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย โดยระบุ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ "USGS" รายงานว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวระดับความรุนแรง 6.4 ที่บริเวณหมู่เกาะอันดามัน ในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อเวลา 01:21 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 02:51 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ลึกลงไปใต้ทะเลราว 127.7 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองพอร์ท แบลร์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของหมู่เกาะดังกล่าวไปทางตะวันออกราว 120 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ รวมถึง ยังไม่มีการประกาศเตือนภัยการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิเช่นกัน
ทางด้าน กรมอุตุนิยมวิทยาของไทย รายงานว่าแผ่นดินไหวดังกล่าว มีขนาดความรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2553

เผาตู้-หม้อแปลง ป่วนทั่วยะลา ระเบิดทหารขาขาด​

​

จ.ยะลาป่วน คนร้าย ลอบเผาหม้อแปลง ตู้โทรศัพท์ วางกล่องวัตถุต้องสงสัยไว้ทั่วเมือง แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ทัน พร้อมวางเพลิงใกล้เสาทวนสัญญาณ ทหารรุดเข้าพื้นที่เหยียบกับระเบิดที่ฝังไว้ขาขาดรุ่งริ่ง...

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 1 มิ.ย. 2553 พ.ต.อ.เฉลิมเกียรติ อัมรากระสินธุ์ ผกก.สภ.ธารโต จ.ยะลา พ.ต.ท.มานพ สืบบุก สวป.พ.ท.วิรัตน์ วทัญญู ผบ.ฉก.ยะลา 16 สนธิกำลังไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงที่บ้านหน้าเกษตรหมู่ 2 ต.ธารโต ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง พบหม้อแปลงไฟฟ้าได้เสียหายทั้งชุด นอกจากนั้นบริเวณใกล้กันยังพบการลอบเผาสายไฟฟ้าขดใหญ่ที่แขวนไว้ข้างเสาจนเสียหายทั้งหมด เบื้องต้น ทราบว่าเหตุเกิดตอนตีสี่ ไม่มีผู้ใดเห็นพฤติการณ์คนร้าย เชื่อว่า เป็นฝีมือพวกก่อความไม่สงบต้องการสร้างความวุ่นวาย เพราะหลังจากเกิดเหตุทำให้ไฟฟ้าดับไปเป็นบริเวณกว้าง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

เวลาเดียวกันคนร้ายยังลอบเผาหม้อแปลงอีกชุดที่บ้านเจาะซีโป๊ะ หมู่ 9 ต.บ้านแหร เสียหายหมดทั้งชุด และ ที่บริเวณโค้งแม่ศรี บ้านบ่อหิน หมู่ 5 ตำบลเดียวกัน พวกแนวร่วมคนร้ายยังได้ช่วยกันนำยางรถยนต์ออกมาเผา พร้อมนำวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องเหล็กพันเทปดำวางไว้หัวสะพานบ้านแหร หมู่ 4 ต.บ้านแหร เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 16 เข้าทำการเก็บกู้ได้สำเร็จ

นอกจากนั้น พวกคนร้ายคาดว่า ได้นัดหมายกันวางแผนก่อเหตุสร้างความวุ่นวายขึ้นอีกหลายจุดในเวลาเดียวกัน โดยที่ อ.กรงปินัง นายอวยชัย จุฬาศิริวงศ์ ปลัดป้องกัน อ.กรงปินัง พร้อม อส.ไปตรวจสอบลอบเผายางรถยนต์บ้านลือมุ หมู่ 8 ต.กรงปินัง บนถนนสาย 410 ยะลา-เบตง รอยต่อ อ.บันนังสตา ช่วยชาวบ้านดับไฟไว้ได้ และบริเวณหน้า อบต.กรงปินัง พวกคนร้ายได้ร่วมกันถอดน็อตเสาไฟฟ้าข้างทางจำนวนหลายต้น คาดว่านำไปประกอบวัตถุระเบิด และ ที่ หมู่ 1 และ 3 ต.สะเอะ คนร้ายยังป่วนไม่เลิกโดยตัดต้นไม้ใหญ่ขวางถนน ถอนเสาคอนกรีตกั้นบริเวณทางโค้งริมถนนทิ้งขวางถนนไว้จำนวน 3 ต้น

ที่ อ.บันนังสตา เวลา 07.30 น.พ.ต.ท.วิชัย แจ้งสกุล รอง ผกก.สภ.บันนังสตา นำกำลังไปตรวจคนร้ายทุบเสาคอนกรีตหลักกม.บริเวณหน้าโรงพยาบาลบันนังสตา บนเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง เป็นหลัก กม.39 พบคนร้ายวางกล่องต้องสงสัยพันเทปดำไว้ภายในหลัก จึงได้ปิดเส้นทางพร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด จ.ยะลา ไปตรวจสอบ และสามารถเก็บกู้ไว้ได้ พบว่าเป็นระเบิดปลอมเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์

ที่ อ.ยะหา พบคนร้ายเผาตู้โทรศัพท์ และ เผาสายไฟฟ้าที่สามแยกบ้านลากอ ทางไปโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา และในเขตเทศบาลตำบลยะหา นอกจากนั้น ยังแอบวางวัตถุต้องสงสัยที่ใกล้สามแยกบ้านปะแต หมู่ 6 ต.ปะแต เป็นกล่องกระดาษพันเทปดำมีเสาอากาศวิทยุสื่อสารโผล่ออกมา จุดที่ 2 ที่หัวสะพานบ้านแคแระ หมู่ 4 ต.บาโระ เป็นกล่องบรรจุไข่เค็ม เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 14 ได้จัดการยิงทำลายทิ้งปรากฏว่า เป็นระเบิดปลอม มีก้อนอิฐ และ ทรายอัดไว้ภายใน นอกจากนั้น ที่บ้านปาแดรู หมู่ 1 ต.กาตอง พวกแนวร่วมยังแอบเผาสายโทรศัพท์จนได้รับความเสียหาย พ.ต.อ.สวัสดิ์ เตียวิรัตน์ ผกก.สภ.ยะหา นายโอทาน สายสิญจน์ ปลัดป้องกันสนธิกำลัง ไปตรวจสอบพร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาทราบต่อไปแล้ว

ด้าน อ.รามัน พวกคนร้ายแอบโค่นต้นไม้ เผายางรถยนต์ และ เสาเสาไฟฟ้าจนได้รับความเสียหายในพื้นที่ ต.ท่าธง ต.เกะรอ ต.ยะต๊ะ และ ต.บือมัง แห่งละ 2-3 จุด พ.ท.อิศรา จันทกระยอม ผบ.ฉก.ยะลา 12 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ออกไปช่วยเหลือจัดการดับไฟเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านนำผลผลิตออกสู่ท้องตลาดได้ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เสียเวลาเดินทางไปทำมาหากินคับแค้นใจในการกระทำของพวกป่วนเมืองต่างบ่นกันจำนวนมาก

และล่าสุด เวลา 08.40 น.ขณะที่ พ.ต.ท.มนตรี จุลานุพันธ์ รอง ผกก.สส.สภ.รามัน พ.ต.ท.กฤษณะพงษ์ แพทย์สิทธิ์ สว.สส.พ.ท.อิศรา จันทกระยอม ผบ.ฉก.ยะลา12 นำกำลังเข้าตรวจบริเวณคนร้ายลอบวางเพลิงที่ตั้งเสาสถานีทวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทำให้ได้รับความเสียหาย ที่บริเวณบ้านตลาดล่าง หมู่ 6 ต.กายุบอเกาะ เขตเทศบาลตำบลกายูบอเกาะ ปรากฏว่า จ.ส.อ.พิสิษฐ์พงศ์ พิมพ์วาที รอง หัวหน้าชุด ร้อย ร.1522 ฉก.ยะลา 12 ไปเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายแอบฝังไว้เกิดระเบิดขึ้นเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วตลาดเมืองรามัน สะเก็ดระเบิดกระจายปลิวว่อนไปทั่วส่วน

จ.ส.อ.พิสิษฐ์พงศ์ ถูกแรงอัดระเบิดบริเวณขาขวาแหลกเละจนขาดรุ่งริ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนั้น ส.ต.อ.นิพล จันทรมณ ผบ.หมู่ ป.สภ.รามัน บาดเจ็บเล็กน้อยและที่มีอาการหูอื้ออีกหลายนาย ทั้งหมด ถูกนำส่งโรงพยาบาลรามันโดยเร่งด่วน ตรวจสอบ ต่อมาพบจุดที่คนร้ายแอบฝังกับระเบิดอยู่ข้างอาคารคุมเครื่องปลูกอยู่ใกล้เสาทวนสัญญาณ คาดว่าคนร้ายวางแผนลอบเผาเสาทวนสัญญาณ แล้วฝังกับระเบิดไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหยียบ ซึ่งเป็นไปตามแผน ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2553

ผวา!รอยเท้า สัตว์ดุร้าย งาบสุนัขหาย​

​

ชาวอ่างทองผวา! พบรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้วฟุต มีอุ้งเท้าและกรงเล็บข้างโรงเรียนเทศบาล 1 คาดเป็นเสือขนาดใหญ่ ล่าสุดงาบสุนัขหนัก 20 กก.หายไร้ร่องรอย...

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบสัตว์ดุร้ายขนาดใหญ่ออกอาละวาดคาบสุนัขไปที่บริเวณป่าทึบข้างโรงเรียน เทศบาล 1 วัดต้นสน ต.ย่านซื่อ อ.เมืองอ่างทอง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส. กาญจนา สุขใจ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ถนนอ่างทอง-สิงห์บุรี ต.ย่านซื่อ เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง ได้พาไปดูที่บริเวณทางเดินเข้าบ้านด้านติดกับป่าทึบด้านข้าง พบรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้วฟุต มีอุ้งเท้าและกรงเล็บปรากฏที่พื้นชัดเจน คล้ายรอยเท้าเสือขนาดใหญ่ และมีช่วงก้าวเท้าห่างกันถึง 2 ฟุต

น.ส.กาญจนา เล่าว่า เมื่อ 3 วันก่อน ช่วงประมาณสี่ทุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้ 2 ตัวได้เห่ากรรโชกอย่างรุนแรง และยังแสดงอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เหมือนพบเห็นสิ่งที่น่ากลัวจนสุนัขต่างวิ่งเข้ามาหาตน และพ่อตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ขณะที่ตนกำลังดูทีวีอยู่ในบ้าน สุนัขได้เห่าขึ้นมาอีกแต่คราวนี้เห่ากรรโชกนานกว่า 30 นาที และเหมือนกับเห็นสัตว์บางอย่างวิ่งเข้ามาในบริเวณบ้าน เจ้าเฉาก๊วย สุนัขพันธุ์ทางเพศผู้ ลายเสืออายุ 3 ปีที่เลี้ยงไว้ ได้วิ่งออกจากบ้านไล่กวดไปจนถึงชายป่าด้านเหนือ ด้วยความเป็นห่วงตนจึงรีบถือไม้ตามออกไปเรียกสุนับกลับเข้าบ้านเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเจ้าเฉาก๊วยก็เดินตามตนมา แต่ปรากฏว่าพอตนเปิดประตูบ้านและหันกลับไปมอง ก็ต้องตกใจเพราะเจ้าเฉาก๊วยหายตัวไปอย่างลึกลับ จึงได้ร้องตะโกนเรียกอยู่นาน แต่สุนัขของตนกลับหายไปแบบไร้ร่องรอย

ครูสาว กล่าวต่อว่า จนกระทั่งรุ่งเช้าตนจึงออกมาตรวจดู ก็พบรอยเท้าสัตว์ปริศนาดังกล่าว จากนั้นจึงได้ออกตามหาเจ้าเฉาก๊วย ซึ่งตามปกติจะไม่ยอมออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น แต่ไม่ก็พบตัว ทำให้ตนเกิดความสงสัยว่าสัตว์ปริศนาที่บุกเข้ามาในบ้านและคาบเอาสุนัขของตน ซึ่งมีน้ำหนัก 20 กิโลกรัมไปด้วยนั้น ต้องเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ อาจเป็นสัตว์ป่าดุร้ายขนาดใหญ่ เพราะที่ป่ารอบบ้านตนและโรงเรียนเทศบาลมีพื้นที่ป่าจำนวนกว่า 10 ไร่ และมีสัตว์ป่ามาอาศัยอยู่ เท่าที่เคยพบมีทั้งหมูป่า กระต่ายป่า เสือปลา และสัตว์ป่าอีกหลายชนิด ทำให้เกิดความกลัวว่า หากเป็นสัตว์ป่าดุร้ายอาศัยอยู่จริง ก็เกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายกับพ่อของตนซึ่งอายุมากและมักชอบออกมานอนเล่นบนเตียงหน้าบ้าน รวมทั้งเด็กนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล 1 ซึ่งมีตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลไปจนถึงประถมปลาย และมีเด็กเล็กอายุเพียง 2 ขวบครึ่งจำนวนนับร้อยคน จึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลทราบเพื่อตรวจสอบและช่วยเหลือดังกล่าว

ด้าน น.ส.สุพัฒนตราสุวพันธุ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองอ่างทองเปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องได้รายงานให้นายชัย สุวพันธุ์ นายกเทศมนตรีทราบ ซึ่งได้สั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบในเบื้องต้นแต่ยังไม่พบตัวสัตว์ต้องสงสัย จึงแจ้งให้ผู้บริหารโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสนประชาสัมพันธ์ให้เด็กนักเรียนและครูพี่เลี้ยงเด็กเล็กช่วย ระมัดระวังและให้อยู่ในที่ปลอดภัยเฉพาะภายในโรงเรียน ห้ามแอบหนีไปเล่นชายป่าหลังโรงเรียนอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันได้ประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ร่วมตรวจสอบต่อไป

ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

เหลือเวลา อีกไม่นาน

 

======================================

31 พ.ค. 53

ความลับในภาพ พระมหาชนก
ทัพช้างแดงกับทัพช้างเขียวเข้าพันตูกัน ตรงกลางจะมีรถถัง หน้า 18


24 พ.ค. 53

หนังตัวอย่าง

ในภาพผมแสดงหนัง ตัวผมเองแต่งตัวคล้ายทหารบกส่วนเพื่อนที่เรียนหนังสือ
ในสมัยเรียนมัธยมก็แต่งตัวคล้ายผม ผู้กำกับสั่งเดินกล้อง ในมือผมมีปืนเอ็มอยู่
สองกระบอกก็สาดออกไป เพื่อนผมที่อยู่ตรงข้ามหลายคนต่างก็ล้มลง

ดาวหางในจอทีวี หน้า 17


27 พ.ค. 53

ข่าวสั้น

วันนี้เห็นตัวเอง กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับอุกาบาตที่จะมาชนโลก ว่ามีขนาด
และน้ำหนักเท่าไร?

หน้า 126-127 ภาพซึนามิที่เกิดไปแล้ว (ซ้ายล่าง)
หน้า 144 ภาพน้ำท่วมเมืองในอนาคต (ซ้ายบน) ให้สังเกตุว่าน้ำจะไหลบ่า
จากภาคเหนือลงมา


องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

พายุ "อกาธา"ถล่มอเมริกากลาง สังเวยแล้ว 132 ศพ



ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุพายุอกาธาพัดถล่มหลายประเทศในอเมริกากลางเพิ่ม เป็นอย่างน้อย 132 รายแล้ว..

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากพายุฤดูร้อน "อกาธา" ที่พัดถล่มหลายประเทศแถบอเมริกากลางได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 132 ราย ขณะเดียวกันมีประชาชนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนมากกว่า 94,000 คนแล้ว นับตั้งแต่พายุลูกดังกล่าวพัดถล่มประเทศในแถบนี้เมื่อวันเสาร์ (29 พ.ค.) ที่ผ่านมา จนเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่

รายงาน ข่าวระบุว่า กัวเตมาลาเป็นประเทศที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากพายุอกาธาโดยมีตัวเลข ผู้เสียชีวิตในกัวเตมาลาแล้วอย่างน้อย 109 คน สูญหายอีกมากกว่า 62 คน ส่วนในเอลซัลวาดอร์และฮอนดูรัสมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 และ 14 รายตามลำดับ รวม 132 คน


ขณะที่แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่งในกัวเตมาลาออกมา เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากเชื่อว่า ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากติดอยู่ใต้กองโคลนและซากปรักหักพังต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงพุ่งสูงขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ มีความกังวลว่าพายุอกาธาอาจสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับภาคการผลิตกาแฟ ของกัวเตมาลา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของภูมิภาค หลังจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันนานกว่า 3 วันทำให้เกิดน้ำท่วมไร่กาแฟแล้วเป็นจำนวนมาก.


ที่มา : พายุ "อกาธา"ถล่มอเมริกากลาง สังเวยแล้ว 132 ศพ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

ปล. ข่่าวพายุแต่รูปเป็นแผ่นดินยุบ งงสิฮะ...

 

นครราชสีมา-ไข้เลือดออกระบาดไม่หยุด ป่วยกว่า 600 ราย ​

​

ไข้เลือดออกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ระบาดไม่หยุด พบผู้ป่วยแล้วกว่า 600 คน สาธารณสุขส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ควบคุมโรค หวั่นระบาดหนัก

นายแพทย์วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่ว่า จากรายงานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 พ.ค.53 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 636 คน คิดเป็นอัตราการป่วย 22.76 ต่อแสนประชากร และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน สำหรับช่วงอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด ระหว่าง 10-14 ปี โดยอำเภอที่มีอัตราการป่วยสูงสุด คือ แก้งสนามนาง

ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ เจ้าหน้าที่สถานีอนามัย รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทุกชุมชน ทุกอำเภอ ลงพื้นที่ออกตรวจร่างกายให้ชาวบ้าน และเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกอย่างเข้มงวด เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงเริ่มระบาดหนักเพราะฝนเริ่มตกชุก นอกจากนี้สาธารณสุขยังขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งเทศบาล และ อบต.ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นควันกำจัดยุงลายให้กับชาวบ้านทุกพื้นที่

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เพชรบูรณ์-พบผู้ป่วยโรคหูดับแล้ว 23 คน ตายแล้ว 5 คน​

​

สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ เตือนผู้ที่ชอบรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เสี่ยงเป็นโรคไข้หูดับสูง เผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-ปัจจุบัน พบผู้ป่วยแล้ว 23 คน เสียชีวิตแล้ว 5 คน มากสุดที่อำเภอเมือง

นางนับ ผาสี อายุ 57 ปี ชาวเมืองเพชรบูรณ์ ผู้ป่วยโรคหูดับ นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ หลังได้รับเชื้อ สเตรปโตคอคคัส ซุอิส จากการบริโภคก๋วยเตี๋ยวน้ำตก แล้วเกิดอาการเป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกายไม่สามารถขยับตัวเองได้ สายตาเริ่มมองไม่เห็น และหูเริ่มไม่ได้ยิน จนนางสมจิตร คำทอง บุตรสาว ต้องรีบนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว

สำหรับโรคไข้หูดับ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ สเตรปโตคอคคัส ซุอิส (Streptococcus Suis) เชื้อจะอยู่ในโพรงจมูก และในช่องปากของหมู โดยไม่แสดงอาการแต่จะแพร่เชื้อมาสู่คนได้ โดยการบริโภคหมูสุกๆ ดิบๆ ทั้งเนื้อ เครื่องใน เลือด หรือผู้สัมผัสหมูที่ติดเชื้อ โดยอาการหลังได้รับเชื้อ 1-3 วัน จะมีไข้สูง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อาเจียน บางรายอาการหนักอาจชักกระตุก เป็นอัมพาต หรืออาจมีอาการอักเสบที่เยื่อบุหัวใจ ปอด สายตาพร่ามัว เชื้อโรคหูดับจะทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ในบางรายอาจทำให้เยื่อบุหัวใจ ปอดเกิดการอักเสบ มีโอกาสเสียชีวิต ร้อยละ 20-30 และยังทำให้หูหนวกถาวร ซึ่งพบได้ร้อยละ 50-80%

ในปี 2553 จากการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียชื่อ สเตรปโตคอคคัส ซุอิส หรือโรคหูดับ พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-ปัจจุบัน มีผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 23 คน เสียชีวิตแล้ว 5 คน มากสุดที่อำเภอเมือง รองลงมาเป็นอำเภอเขาค้อ และอำเภอชนแดน สาเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ และลาบดิบ หรือรับประทานก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่ปรุงโดยใช้เลือดดิบ จากสถิติพบว่าจังหวัดภาคเหนือพบผู้ป่วยโรคหูดับมากขึ้น เนื่องจากยังมีคนบางกลุ่มนิยมกินลาบ ลู่ ซึ่งทำจากหมูดิบๆ โดยเฉพาะการนำมาแกล้มเหล้า

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ลพบุรี-เขื่อนป่าสักฯ วิกฤติอย่างหนักไม่สามารถปล่อยน้ำได้​

​

เขื่อนป่าสักฯ วิกฤติอย่างหนัก ไม่สามารถปล่อยน้ำผ่านสปริงเวย์หลักทั้ง 6 บานได้ เนื่องจากน้ำแห้งขอด ทางเขื่อนต้องเปิดประตูระบายน้ำฉุกเฉิน เพื่อใช้น้ำจากสะดืออ่าง หล่อเลี้ยงระบบนิเวศแทน

สถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ ยังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำในเขื่อนล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ เหลือเพียงร้อยละ 9.11 ของความจุเขื่อน จากปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บได้ 960 ล้าน ลบ.ม. เหลือเพียง 84.48 ล้าน ลบ.ม จนทางเขื่อนไม่สามารถปล่อยน้ำผ่านสปริงเวย์หลักของเขื่อนทั้ง 6 บานได้อย่างปกติเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนขณะนี้อยู่ต่ำกว่าสปริงเวย์ ถึงจะมีการเปิดบานสปริงเวย์ทั้ง 6 บาน น้ำก็ไม่ไหลผ่าน จนชาวบ้านสามารถเดินข้ามและลงไปเล่นน้ำหาปลาได้ ทั้งที่จุดดังกล่าวเคยเป็นจุดที่มีอันตรายสูงสุดของเขื่อน

ขณะที่ จนท.ฝ่ายซ่อมบำรุงของเขื่อน ถือโอกาสใช้เวลาที่วิกฤติน้ำน้อย ไม่ไหลผ่านสปริงเวย์ เร่งทำความสะอาด และซ่อมบำรุงสปริงเวย์ ทั้ง 6 บาน หลังจากเปิดใช้งานมานานกว่า 10 ปี

ส่วนการปล่อยน้ำ จากเขื่อนในขณะนี้ต้องเปิดประตูระบายน้ำฉุกเฉิน เพื่อปล่อยน้ำจากสะดือเขื่อนจุดที่เป็นท้องกระทะ และยังพอมีน้ำเหลืออยู่ เพื่อใช้หล่อเลี้ยงระบบนิเวศในลุ่มน้ำป่าสักช่วงท้ายเขื่อน ตั้งแต่จังหวัดลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพบว่า ขณะนี้ระบบนิเวศเริ่มเสียหายแล้ว ฝูงปลาที่เคยมีอยู่เป็นจำนวนมาก ตามจุดให้อาหารปลา และเขตอภัยทาน เริ่มย้ายถิ่นที่อยู่ตามระดับน้ำที่ลดต่ำลง ซึ่งไม่แน่ใจว่า จะมีโอกาสได้กลับมาอีกหรือไม่ เมื่อระดับน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีชาวประมงมารอดักจับปลาในช่วงท้ายเขื่อนกันเป็นจำนวนมาก

ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยว ก็ซบเซาอย่างหนัก พ่อค้าแม่ค้าในเขื่อนขายของแทบไม่ได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวลดลงตามไปด้วย

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ขอนแก่น-บ้านโนนแต้ขาดน้ำดื่มนานกว่า 3 เดือน​

​

สถานการณ์ภัยแล้งยังส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ของ จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะหมู่บ้านโนนแต้ ต.สำราญ ขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ มานานกว่า 3 เดือน ต้องรอรับน้ำจากเทศบาลนครขอนแก่นเท่านั้น

ซึ่งปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านหลายคนต้องซื้อน้ำจากรถน้ำที่เข้ามาขายในหมู่บ้านในราคาที่แพง คันละ 120 บาท จึงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่มีรายได้น้อย ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านวอนให้ทางจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

นายประเสริฐ อิ่มนาง ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนแต้ กล่าวว่า ทุกปีไม่แห้งแล้งเท่าปีนี้เพราะปีที่ผ่านมาน้ำยังมีพอกินพอใช้ ไม่หมดเร็วเท่าปีนี้ จึงอยากได้ความช่วยเหลือที่สามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ อยากให้หน่วยงานรัฐช่วยในเรื่องของการวางท่อเพื่อสูบน้ำจากแหล่งน้ำลำห้วยบุรีเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ภายในหมู่บ้าน แต่ยังขาดงบประมาณในการวางท่อ โดยลำห้วยดังกล่าวนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 7 กม.

และวันนี้ มีชาวบ้านนำรถเข็นน้ำมารอรับน้ำจากเทศบาลนครขอนแก่นที่ศาลากลางบ้านเป็นจำนวนมาก โดยนางปุ้ย แก้วกล้า ที่นำรถเข็นมารอรับน้ำบอกว่าได้รับความเดือนร้อนจากภัยแล้งอย่างมาก เนื่องจากครอบครัวยากจนไม่มีเงินซื้อน้ำใช้ ต้องมานั่งรอเทศบาลนครขอนแก่นนำรถบรรทุกน้ำมาแจกจ่าย ถ้าไม่มารอก็จะไม่มีน้ำอาบน้ำใช้ ซึ่งตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นปีไหนที่แห้งแล้งมากเท่าปีนี้มาก่อน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

โลกรุมกดดัน "ยิว" หลังส่งคอมมานโดบุกเรือบรรเทาทุกข์​

​

อิสราเอลเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติ หลังหน่วยคอมมานโดอิสราเอลบุกโจมตีและสังหารเจ้าหน้าที่ในขบวนเรือบรรเทาทุกข์ ที่กำลังมุ่งหน้านำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซา...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ว่า รัฐบาลอิสราเอลกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากนานาชาติ หลังจากที่หน่วยคอมมานโด พร้อมอาวุธครบมือของอิสราเอลบุกเข้าโจมตี และสังหารเจ้าหน้าที่พลเรือนในขบวนเรือลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ จากตุรกีที่กำลังมุ่งหน้านำความช่วยเหลือจากนานาชาติ ทั้งอาหารและยารักษาโรคเข้าไปช่วยชาวปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม

ขณะที่มีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากปฏิบัติการของอิสราเอลครั้งนี้ มีอย่างน้อย 19 รายแล้วและ มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 60 คน รวมถึง เจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ "ไอดีเอฟ" ของอิสราเอลอีก 10 นาย แม้ว่าทางการอิสราเอลจะระบุว่ามีผู้ที่ถูกสังหารเพียง 9-10 รายเท่านั้น

นายบัน คี มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติชาวเกาหลีใต้ระบุว่า เขารู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องการให้รัฐบาลอิสราเอลออกมาตอบคำถามต่อชาวโลกโดยเร็ว เนื่องจากเรือลำที่ถูกโจมตีเป็นเรือบรรเทาทุกข์ของพลเรือน นอกจากนั้น เหตุโจมตียังเกิดขึ้นขณะที่เรือลำดังกล่าวลอยลำอยู่ในเขตน่านน้ำสากล ห่างจากชายฝั่งฉนวนกาซาถึง 65 กิโลเมตร พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการปิดล้อมฉนวนกาซา ที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2007

ขณะที่ไรอัน มันซูร์ ผู้สังเกตการณ์ด้านปาเลสไตน์ขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในครั้งนี้ เข้าข่ายเป็นการกระทำเยี่ยง "อาชญากรสงคราม" พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลปล่อยตัวเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ราว 700 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวตุรกีที่เดินทางมากับขบวนเรือดังกล่าวโดยเร็วเช่นกัน

ขณะที่ผู้แทนของสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกแถลงการณ์ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยี่ยมโดยมีใจความว่า ทางอียูขอประณามอิสราเอลต่อเหตุอุกอาจที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนปฏิบัติการบุกเรือ " เอ็มวี มาวี มาร์มารา" ซึ่งเป็นเรือสัญชาติตุรกีในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่า ในขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากในประเทศต่างๆ ทั่วยุโรป ที่โกรธแค้นการกระทำของอิสราเอล ได้เดินทางไปรวมตัวประท้วงบริเวณด้านหน้าสถานทูตอิสราเอล และสถานทูตสหรัฐฯ ในหลายประเทศเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ซึ่งมีอันต้องยกเลิกแผนการเดินทางเยือนทำเนียบขาวของสหรัฐฯและบินกลับประเทศเป็นการด่วนได้ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่า หน่วยคอมมานโดของอิสราเอลจำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันชีวิตของตนเอง เนื่องจากคนที่อยู่บนเรือเอ็มวี มาวี มาร์มารา มีอาวุธสงครามอยู่ในมือ พร้อมแสดงความเสียใจที่ปฏิบัติการดังกล่าวทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ปฏิบัติการดังกล่าวของอิสราเอลเกิดขึ้นหลังจากที่เรือเอ็มวี มาวี มาร์มารา สัญชาติตุรกีพยายามมุ่งหน้าฝ่าการปิดล้อมของกองทัพเรืออิสราเอลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เข้าไปยังฉนวนกาซา ทำให้อิสราเอลต้องส่งหน่วยคอมมานโดบุกขึ้นเรือลำดังกล่าวซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนเรือลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์รวม 6 ลำ หลังจากที่ขบวนเรือจากตุรกีปฏิเสธที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังท่าเรือเมืองแอชด็อดของอิสราเอลเพื่อให้ทางการอิสราเอลตรวจค้นสิ่งที่อยู่บนเรือเสียก่อน

ไทยรัฐออนไลน์ วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th

 

ถาวโร(ถา-วะ-โร)<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3365447", true); </SCRIPT> ;

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width=450><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#abcdef colSpan=2 height=25>แผ่น ดินไหวหมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย </TD></TR><TR><TD>ขนาด</TD><TD>: 6.6 ริกเตอร์ </TD></TR><TR><TD>จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว</TD><TD>: หมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย </TD></TR><TR><TD>วันที่</TD><TD>: 01 มิถุนายน 2553 02:51 น. </TD></TR><TR><TD>ละติจูด</TD><TD>: 11° 07' 48'' เหนือ </TD></TR><TR><TD>ลองจิจูด</TD><TD>: 93° 46' 12'' ตะวันออก </TD></TR><TR><TD>ความลึกจากระดับผิวดิน</TD><TD>: 136 กิโลเมตร </TD></TR></TBODY></TABLE>

ตื่นมาตอนตี 3 วิทยุสื่อสารแจ้งเหตุแผ่นดินไหว โทร.แจ้งคุณนาคาให้ทราบ

หน่วยงานกำลังประมวลผลกระทบ ถ้าเกิดคลื่นสึนามิคาดว่าจะถึงฝั่งเวลา 05.15

ตอนนี้รายงานสถานการณ์ทุก 1นาทีครับ<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Kongp<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3365701", true); </SCRIPT> ;

เห็นเมื่อวานคนบอก เห็นเมฆแผ่นดินไหวเยอะมาก<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ณ.<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3365767", true); </SCRIPT> ;





โมทนา และ ขอขอบคุณ คุณถาวโร(ถา-วะ-โร) ในการ แจ้งข่าวสาร ครับ
ทราบข่าว ทางคุณ ถาวโร(ถา-วะ-โร) และ เพื่อน ฝ่ายเกี่ยวข้อง ในการ เฝ้า เตรียมการ หลาย ท่าน ไม่ใด้ หลับ ใด้ นอน ใน ช่วงเวลา ดังกล่าว (02.30 -06.00 โดยประมาณ )

เช่นเดียว กับ ที่ทางคุณFalkmanใด้ แจ้งมา ก่อนหน้านี้ ครับ ประมาณ 2 อาทิตย์ เกี่ยวกับ เมฆ ...

เมื่อ คืน วิสาขะบูชา
ผม และ เพื่อน 3 ท่าน ใด้ ปักกลด ปฏิบัติ ธรรม บนยอดเขานาคเกิด ปรากฏ เมฆ คล้ายกัน และใน ช่วงประมาณ 01.30 มีหมอก ลงหนามาก ซึ่ง ทราบข่าว ว่า มีเหตุแผ่นดินไหว ทาง เกาะสุมาตรา เหมือนกัน แต่ ไม่มี ข่าว...

เช่นเดียวกับ ที่ ทางเพื่อน ที่โคราช หมูเล็ก, และ น้อง <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เกษา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3116426", true); </SCRIPT> จาก ฟินแลนด์ ใด้ ฝัน เกี่ยวกับ เรื่อง บางอย่าง จาก ท้องฟ้า มุ่งดิ่งตรงมาที่ กลาง มหาสมุทร
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR class=auto onmouseover="this.style.background='#DDDDDD';" style="BACKGROUND: #edf3fe" onmouseout="this.style.background='#EDF3FE';"><TD class=comment2 style="LINE-HEIGHT: 1.3em" width=170>2010-06-01 09:42:14.1</TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px; TEXT-ALIGN: right" width=60>3.06 </TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=10>S </TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px; TEXT-ALIGN: right" width=60>129.66 </TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=10>E </TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px; TEXT-ALIGN: right" width=30>30</TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=15></TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px" width=30>mb</TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=20>4.5</TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 4px"> SERAM, INDONESIA</TD><TD class=comment style="TEXT-ALIGN: right">2010-06-01 10:09</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR class=info onmouseover="this.style.background='#DDDDDD';" style="BACKGROUND: #edf3fe" onmouseout="this.style.background='#EDF3FE';"><TD class=comment2 style="LINE-HEIGHT: 1.3em" width=170>2010-06-01 03:54:23.5</TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px; TEXT-ALIGN: right" width=60>25.03 </TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=10>N </TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px; TEXT-ALIGN: right" width=60>96.23 </TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=10>E </TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px; TEXT-ALIGN: right" width=30>2</TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=15></TD><TD class=comment2 style="PADDING-RIGHT: 0px" width=30>mb</TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 0px" width=20>4.7</TD><TD class=comment2 style="PADDING-LEFT: 4px"> MYANMAR</TD><TD class=comment style="TEXT-ALIGN: right">2010-06-01 07:21</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พายุฝนนี้ ทำให้เกิดหลุมยุบนั่นเอง

Tropical Storm Agatha

A giant sinkhole caused by the rains of Tropical Storm Agatha is seen in Guatemala City May 31, 2010.… Read more »
<CITE id=captionCite>REUTERS/Casa Presidencial/Handout</CITE>

 

มาดูคำทำนายปี 2010 ที่น่าตื่นเต้น ๆ ต้องรอดูกัน !!
คัดลอกมาจาก www.music.songtoday.com​

​

เท่า ๆ ที่รวบรวมมาเป็นคำทำนายต่าง ๆ ในปี ค.ศ.2010 ก็ไม่ต้องเอาวิทยาศาสตร์มาวิเคราะห์ให้เสียเวลาหรอกเพราะเป็นคำทำนาย เวลาคือเครื่องพิสูจน์ มีดังนี้

1. จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาดไม่ต่ำกว่า 8 ริกเตอร์ที่ ลอสแองเจลิส อเมริกาทำให้ทั้งรัฐพังพินาศ และอาจจะทำให้ Yellowstone ระเบิดได้

2. จะเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลทำให้ภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด เกิดคลื่นซึนามิ แต่ไม่ได้บอกว่าแถวไหน

3. จะมีอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่มีผลทำลายล้างสูง ตกใส่โลกไม่น้อยกว่า 2 ลูก แต่ไม่ถึงขั้นล้างโลก

นับแต่ปี ค.ศ.2001 เป็นต้นมา มีอุตกาบาตตกใส่โลกมาตลอด และมีลูกใหญ่ ๆ ขนาดทำลายล้างโลกได้ผ่านเฉียดระหว่างโลกและดวงจันทร์มาตลอด (แต่ไม่ออกข่าวเลย เพราะไม่สำคัญ) เช่น

2002 ตกที่ไซบีเรีย รัสเซีย

2003 ตกที่อิลลินอย ชิคาโก อเมริกา

2004 ตกที่ตอนเหนือของอิหร่าน และมีลูกไฟอุกกาบาตขนาดใหญ่มากวิ่งผ่านตอนเหนือของสเปน และที่ออสเตรเลีย แต่ไม่ตกลงโลกอาจเฉี่ยวในบรรยากาศ อุกกาบาต 2004H ขนาด 100 ฟุตวิ่งเฉียดโลกที่ระยะ 26,000 ไมล์ ลูกขนาดนี้หากตกลงมาแม้ไม่ถึงกับล้างโลกแต่ก็เหมือนระเบิดปรมูาณเล็ก ๆ ถ้าตกใส่เมืองก็พินาศ อีกลูกในปีคือ Toutatis ขนาดใหญ่ 3 ไมล์ คือขนาดล้างโลกได้ วิ่งเฉียดไป และปลายปีตกที่ จาร์กาต้า อินโดนีเซียจนระเบิด 7 วันก่อนเกิดซึนามิ

2005 ขนาด 10 ปอนด์ตกที่กัมพูชา ใกล้ ๆ ไทยเรานี่เอง และปลายที่ที่ เพิร์ธ ออสเตรเลียมีคนเห็นลูกไฟขนาดใหญ่มากวิ่งผ่านบรรยากาศโลกและมีเสียงระเบิดดังสนั่น 2006 Comet S-W3 73P วิ่งใกล้โลก

2008 อุกกาบาต TU24 วิ่งผ่านโลกที่ระยะ 300,000 ไมล์ และมีลูกไฟวิ่งผ่านบรรยากาศโลกแถวอาฟริกา

2009 อุกกาบาตวิ่งผ่านบรรยากาศที่รัฐเท็กซัส และอุกกาบาตขนาดเล็ก DD45 วิ่งผ่านโลกที่ระยะ 40,000 ไมล์

กล่าวกันว่าระบบสุริยะของเรากำลังเดินทางเข้าแนวศูนย์กลางกาแล็กซี่ ซึ่งเต็มไปด้วยหินอุตกาบาตเป็นจำนวนมาก และคาดว่ายังไงก็ต้องโดนลูกใหญ่ ๆ ที่จะก่อให้เกิดการระเบิดในระดับ 100 MT ขึ้นไป ชนแน่นอนในเร็ว ๆ นี้ ไม่ใช่ในหลาย ๆ สิบปีข้างหน้าอย่างที่เชื่อกัน เพราะระบบสุริยะไม่ได้อยู่ที่เดิมแต่เดินทางเข้าเขตแนวห่าอุกกาบาตนั่นเอง

นี่คือเหตุผลที่ NASA ได้มีโปรเจ็ค Deep Impact ที่สร้างยานเพื่อไปยิงระเบิดใส่อุตกาบาตขึ้นมา และมีโปรกเจกค์สร้า้งหลุมหลบภัยด้วย แ่ต่ทว่าโครงการนี้ไม่ค่อยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐมากนักเหมือนโครงการอื่น ๆ เพราะนักการเืมืองและประชาชนที่เสียภาษีเห็นว่าไร้สาระ น่าจะเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า คือไม่มีใครเชื่อว่าจะมีอุกกาบาตขนาดใหญ่ตกใส่โลก

4. สงครามโลกครั้งที่ 3 ทีุ่ทุกคนรอคอยกันมานานแสนนาน จะเริ่มต้นประมาณเดือน กันยายนถึงพฤศจิกายน หรือช่วงปลายปี 2010 ผู้นำที่คาดว่าทรงพลังอำนาจที่สุดในโลกเวลานี้ืคือ วลาดิเมียร์ ปูิติน ของรัสเซีย คาดกันว่า อิสราเอลจะถล่มโรงงานนิวเึคลียร์อิหร่านในปี 2010 นี้แน่นอน! เพราะไม่ไว้ใจอิหร่านที่อาจผลิตอาวุธนิวเคลียร์ไว้โจมตี ซึ่งแผนการณ์ถล่มอิหร่านของอิสราเอลนี้มีการวางแผนกันมานานหลายปีแล้ว แต่รอดูท่าทีของอิหร่านว่าจะยอมให้มีการตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์จากโลกภายนอกหรือไม่

แต่อิหร่านก็ปิดประเทศและนั่นทำให้อิสราเอล จะต้องเิดินหน้าถล่มอิหร่านด้วยตนเองโดยไม่รีรออีกต่อไป และนั่นจะทำให้รัสเซียซึ่งปัจจุับันนี้เป็นหนึ่งในคนกลางที่ช่วยเจรจาสันติภาพระหว่างอาหรับกับอิสราเอล ก็จะยกเลิกสัญญานี้และช่วยอาหรับเนื่องจากรัสเซียนั้นก็ค้าอาวุธกับอาหรับ เพราะอิสราเอลเป็นฝ่ายโจมตีอิหร่านก่อน การบุกอิสราเอลนั้นน่าจะเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด โดยรัสเซียจะเป็นผู้นำ

จีนจะบุกอเมริกา ชาวบ้านแถว ๆ รัฐเทกซัสที่ติดชายแดนเม็กซิโก ได้พบกองกำลังทหารจีนจำนวนนับพัน ๆ คนมาตั้งแคมป์ที่ชายแดนเม็กซิโกจำนวนมากและมากขึ้นเรื่อย ๆ และการเิิดินทางบกก็สามารถทำได้ โดยผ่านรถไฟจากจีนตอนเหนือไปยังอลาสกา เข้าอเมริกาทางฝั่งตะวันตกคือ แคลิฟอเนียร์ ซึ่งจะถูกถล่มด้วยแผ่นดินไหวจนราบคาบ

ซึ่งนักพยากรณ์คาดกันว่าจีนและรัสเซีย รอเวลาให้อเมริกาโดนแผ่นดินไหวเล่นงานเสียก่อน หรือรอใ้ห้อเมริกาเริ่มต้นโจมตีเกาหลีเหนือ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมาถึงครั้งที่ 3 ที่จะเกิดในปี 2010 นี้ห่างกัน 65 ปีพอดี ซึ่งในปัจจุบันนี้ประชากรโลกก็มีจำนวนประมาณ 6.5 พันล้านคนด้วย เลข 65 เป็นเลขอาถรรพ์เลขหนึ่ง ก็รอดูกันไป (6+5=11)

ที่มา http://www.music.songtoday.com

 

คำทำนาย 67 เหตุการณ์ร้ายทั่วโลก
(ทำนายเอาไว้เมื่อปี ค.ศ.2009)​

​

ถึงแม้จะผ่านมาเกือบค่อนปีแต่ก็อยากให้ทุกคน ได้สังเกตและจับผิดคำทำนายของ แม่หมอคนนี้ดู แม่หมอคนนี้ชื่อ นิกกี้ ข้าฯผู้รูอนาคต หล่อนได้ทำนายเหตุการณ์ไว้มาก ถึง 67 เหตุการณ์ซึ่งรวมถึงเมืองไทยด้วย งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่าว่าหล่อน ทำนายอะไรไว้บ้าง

1.ดาไล ลามะ(ผู้นำของทิเบต)จะตกอยู่ในอันตราย
2.ทิเบตกับจีนทะเลาะกัน (อันนี้รู้ๆกันอยู่)
3.เกิดระเบิดขึ้นบนกำแพงเมืองจีน
4.ฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบาเสียชีวิต
5.เรือเดินสมุทรแบบหรู เรือรัก เรือสำราญจะโดนจี้จับเป็นตัวประกัน
6.เกิดแผ่นดินไหว-เกิดสึนามิ ถล่มชายฝั่งอลาสก้า
7.ประชาชนจะลุกฮืดขึ้นประท้วงในเวเนซูเอล่า
8.แผ่นดิวไหวรุนแรงระดับยักษ์ล้มในแคลิฟอร์เนีย,แอลเอ,ซานฟรานซิสโก, ซานดิเอโก
9.พระราชวังบักกิ้งแฮม อังกฤษไฟไหม้
10.ทิเบตกับจีนทำสงครามกัน (ถัดจากทะเลาะเฉยๆเป็นทำสงคราม คนไทยห้ามทำนะ)
11.สัตว์ประหลาดที่อยู่ในทะเลสาบล็อคเนสแห่งสก๊อตแลนด์ ที่เป็นเรื่องลี้ลับมานานจะถูกจับตัวได้ (อยากเห็น แต่คงน่าสงสารถ้าเจ้าล็อคเนสถูกจับตัวได้)
12.แผ่นดินไหวในบริติช โคลัมเบีย
13.ปธน.ฝรั่งเศส นาย ซาร์โกซี อยู่ในอันตราย (อันตรายที่ว่าอาจจะเป็นคุณศรีภรรยาก็ได้....คุณสามีเจ้าชู้ซะขนาดนั้น)
14.หอไอเฟลกลางกรุงปารีสจะ...ระเบิดตูม!!!!
15.พวกนักถ้ามฤตยูจะปีนหอไอเฟล(สงสัยจะไปวางระเบิด)
16.เครื่องเพชรของราชวงศ์จะถูกขโมย (ราชวงศ์ไหนค่ะเจ้)
17.ซาร่า พาลิน ที่เคยสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอเมริกาจะเขียนหนังสือ แฉ....!!!!!?????
18.เรื่องฉาว-คาวเซ็กส์ของ ซาร่า พาลิน ได้รับการเปิดโปง (โดนเองซะงั้น)
19.เจ้ซาร่าคนเดิม ได้ออกทีวีถี่ยิบ
20.อดีตปธน.บุชกับภรรยา มีปัญหาชีวิต อาจถึงขั้นอย่าร้าง
21.ฮิลลารี่ คลินตันมีปัญหาด้านสุขภาพ
22.มูฮัมหมัด อาลี มีปัญหาเรื่องสุขภาพ (สงสัยจะเป็นไข้หวัด 2009)
23.บารัค โอบามา อยู่ในอันตราย
24.มีคนพยายามจะลอบสังหาร บารัค โอบามา (มันก็คือๆกับข้อที่ 23 นั้นแหละ)
25.บารัค โอบามา โดนลอบสังหาร (จะรวมมันเข้าด้วยกันเลย ก็ไม่ได้ เจ้นิกกี้เนี่ย..)
26.เกิดจลาจลในอเมริกา เนื่องจากการเหยียดสีผิว
27.ภูเขาไฟเซนท์ เฮเลนระเบิดอีก
28.เกิดระเบิดขึ้นในกรุง โคลัมโบ ศรีลังกา
29.มีผลงานใหม่ทางการแพทย์ สามารถรักษา มะเร็ง,อัลไซเมอร์ และโรคหัวใจได้สำเร็จ
30.ผลงานการวิจัยเรื่องสเต็มเซลล์ก้าวหน้า
31.ได้ค้นพบดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
32.เครื่องบินโดยสารเกิดชนกับอุกาบาต
33.อเมริกาส่งกองทัพบุกคิวบา
34.ปัญหาจากเกาหลีเหนือ (ทุกวันนี้เขาไม่เรียกว่าปัญหาเหรองัย)
35.เกิดไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวใหม่อาละวาด
36.เกิดการยึดรถไฟและระเบิดสถานีรถไฟที่แกรนด์เซ็นทรัล สเตชั่นในนิวยอร์ก
37.เกิดระเบิดที่ตลากหุ้นในนิวยอร์ก
38.เกิดระเบิดขึ้นในกรุงอ๊อตตาว่า ประเทศแคนนาดา
39.หนังสือพิมพ์ วอลล์สตรีทเจอร์นาล โดนวางระเบิด
40.จะเกิดไฟไหม้ใหญ่ขึ้นในชิคาโก
41.โรงงานช็อกโกแลตในเบลเยียมจะเกิดไฟไหม้
42.ค้นพบนกฟลามิงโก้พันธุ์ใหม่ สีเขียว
43.ค้นพบหมีสีเขียวในจีน
44.แผ่นดินไหวในจีน อลาสก้าแคลิฟอร์เนีย กรีซ น้ำตกไนแองการา โรม อิตาลี
45.เกิดเกมใหม่ "เกมเศรษฐกิจตกต่ำ"
46.อุกกาบาตชนประเทศรัสเซีย
47.แม่คลอดลูกทีเดียว 7 คนในจีน (แฝด 7)
48.มีการลักพาตัวที่ทำเนียบขาว
49.เกิดการจลาจลในบูดาเปสท์ ฮังการี
50.ฉลามขาวเพ่นพ่านไปทั่วท้องมหาสมุทร แม้แต่ในเขตน่านน้ำที่ไม่เคยพบมาก่อน
51.สะพานโกลเด้นเกตถล่ม (เคยเห็นแต่ในหนัง)
52.น้ำท่วมยูเครน
53.รถไฟใต้ดินในนิวยอร์กเกิดเหตุร้ายแรง ขั้นโศกนาฏกรรม
54.ผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีเมือง การาจี ปากีสถาน
55.ผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีเมือง กัลกัตตา อินเดีย
56.ผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีเมือง ออสโล นอร์เวย์
57.ผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีเมือง โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
58.ผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีตุรกี
59.ผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีเมือง โตรอนโต แคนาดา
60.อเมริกาบุกอิหร่าน
61.สัตว์ป่าอพยพหรือเล็ดลอดเข้าเมืองเนื่องจากปัญหาโลกร้อน
62.ตลาดหุ้นขึ้นๆลงๆ
63.นายกรัฐมนตรีบราวน์ของอังกฤษโดนลอบทำร้าย
64.ราชินีอังกฤษ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 จะโดนปะทุษร้าย
65.ฉลามไล่กัดคน
66.โอ.เจ.ซิมป์สัน อดีตอเมริกันฟุตบอลผู้โด่งดังในยุคเซเวนตี้ มาดังมากในยุคนี้จากคดีฆาตกรรม อาจแหกคุก

67.เกิดปัญหารุนแรง เกิดระเบิดหลายครั้งในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย !!!!

เอาล่ะ หลังจากที่เราได้ดูคำทำนายของ เจ้นิกกี้กันแล้ว โดยเฉพาะข้อสุดท้าย ยิ่งทำให้เราหวังว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นจริง

แหล่งที่มาของข้อมูล:ขอขอบคุณ นิตยสาร "คู่สร้าง คู่สม" (ฉบับที่ 635 ประจำวันที่ 10-20 มิ.ย. 2552) เจ้าของคอลัมภ์ คุณมาโนช พุฒตาล

ที่มา http://thaigoodview.com/node/22133