พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ขอบคุณครับผม ... เท่าที่ดูเห็นจะมี 2 วัดที่กำลังสร้างพระเจดีย์ อยู่บนยอดดอย ตรงข้ามกันคนละฟากฟ้าเลย แต่มองเห็นกัน เหมาะสมครับ ...

ผมอยู่ทางนี้ก็ค่อยๆทยอยกระจายออกไปหลายทิศทางเช่นกันครับ ...และผอบบรรจุฯนั้น ผมรบกวนพี่สั่งเพิ่มให้ผมซัก 20 อันนะครับ เพราะราคาทางนี้ค่อนข้างแพง อีกอย่างผมเองออกเงินส่วนตัวทั้งหมด ทั้งการเดินทาง ปัจจัย พระพิมพ์ ถ้าลดต้นทุนได้นิดหน่อยก็ยังดี

โมทนาสาธุครับ

 

เหอๆๆๆ เข้าทาง

 

พี่สั่งไว้ 30 โถ

เอาจากพี่ไปก่อนได้เลย 20 โถ

ส่วนพระพิมพ์ ทางพี่เองมีอีกพอสมควร จะนำบรรจุตามพระเจดีย์ต่างๆให้ได้มากที่สุด

เพราะว่า มีผู้ที่สนใจไม่มาก เราเองตายไปแล้วก็นำไปไม่ได้เลย ก็เลยให้ไว้กับคนรุ่นหลัง (ที่มีวาสนาและบารมี) ครับ

.

 

สุ่มตรวจ ลูกชิ้นปลา หาต้นเหตุเรืองแสง

http://hilight.kapook.com/view/46362

​

สุ่มตรวจ ลูกชิ้นปลา หาต้นเหตุเรืองแสง แม่ค้าซึมขายไม่ออก (เดลินิวส์)

ลูกชิ้นเรืองแสงพ่นพิษ พ่อค้าแม่ค้าโอดทำลูกค้าหดหาย "จุรินทร์" สั่ง สสจ.ทั่วประเทศ เร่งสุ่มตรวจลูกชิ้นปลาเรืองแสงค้นหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรแน่ หากพบเป็นสารอันตรายจับขึ้นบัญชีเป็นสารต้องห้ามชนิดที่ 7 แล้วรีบแจ้งให้ประชาชนทราบทันที คาดเป็นลูกชิ้นปลาทำมาจากปลาดาบคาว แนะผู้บริโภคควรทำตามคำแนะนำนักวิชาการ ทำให้สะอาดก่อนบริโภค

จากกรณีที่เดลินิวส์นำเสนอข่าวลูกชิ้นปลาเรืองแสง จนทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกสุ่มเก็บตัวอย่างลูกชิ้น ที่จำหน่ายตามสถานที่ต่าง ๆ ส่งไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อตรวจหาการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ จนทำให้ประชาชนทั่วประเทศตื่นตัว พยายามหลีกเลี่ยงการบริโภคลูกชิ้น เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย จนกว่าจะได้รับการยืนยันจาก อย. ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าลูกชิ้น ได้รับผลกระทบยอดขายลดลง ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจลูกชิ้นเรืองแสงว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำลังเร่งตรวจสอบในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้และอยากทราบเช่นกันว่า เกิดการเรืองแสงได้อย่างไร

ด้าน นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รอง เลขาธิการ อย. กล่าวว่า เคยเห็นลูกชิ้นปลาเรืองแสงเช่นกัน ตอนไปซื้อที่ร้านค้าเจ้าเดียวกับที่ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ไปซื้อมาให้ตรวจสอบ และขณะนี้ได้ส่งลูกชิ้นไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบแล้ว ขณะเดียวกันได้ส่งเจ้าหน้าที่กองควบคุมอาหารลงไปในพื้นที่เพื่อดูว่าโรงงานใช้ปลาชนิดใดมาผลิตลูกชิ้นปลา และเป็นปลาที่มีการเรืองแสงได้หรือไม่ เพราะอย่างที่บอก สารเรืองแสงไม่ได้พบในเนื้อปลา แต่พบในน้ำที่ไหลออกมา และตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสารเรืองแสงคืออะไร แต่คงต้องรีบหาคำตอบให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด

​

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์กูเกิล พบว่า มีการค้นคำว่า "ลูกชิ้นเรืองแสง" ถึง 39,800 ครั้ง ลูกชิ้นปลาเรืองแสง 19,100 ครั้ง และเมื่อเข้าไปดูข้อความที่มีการโพสต์ทางอินเทอร์เน็ตในพันธุ์ทิพย์ และเอ็มไทย พบว่า มีการโพสต์ข้อความ และรูปภาพลูกชิ้นปลาเรืองแสง มาตั้งแต่ปี 2552 ระบุว่าน่าจะเกิดจากสารฟอกขาว สารฟอสเฟต บางคนพูดติด ตลกว่าเป็น "ลูกชิ้นปลาอวตาร" เหมือน กับชาวนาวี แต่นักท่องอินเทอร์เน็ตหลาย คนยังไม่รู้คำตอบว่า ลูกชิ้นปลาเรืองแสงสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศสุ่มเก็บตัวอย่างลูกชิ้นปลามาตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการแล้ว หากพบว่ามีการปนเปื้อนสารอันตราย จะได้รีบแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนให้ทราบ เพราะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าสารเรืองแสงดังกล่าวคืออะไร และเท่าที่ทราบทางเลขาธิการ อย. จะนำมาให้ดูในวันที่ 17 ก.พ. และหลังจากนั้นจะนำส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทันที โดยตนจะตามไปดูการตรวจด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า นโยบาย ที่มอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนิน การต่อจากนี้ไปคือเร่งตรวจสารปนเปื้อนในอาหาร 6 ชนิด คือ สารเร่งเนื้อแดง (ซาลบูทามอล) สารบอแรกซ์ (โซเดียมบอเรต) ฟอร์มาลิน สารกันรา (กรดซาลิซิลิก) สารฟอกขาว (สารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์) และสารเคมีกำจัดศัตรูพืช จึงต้องรีบตรวจให้รู้ผลโดยเร็ว เพราะจะได้รีบแจ้งประชาชน และ ผู้บริโภครับทราบหากเป็นสารอันตราย และในส่วนของผู้ผลิตจะได้เข้าไปดูแลให้เลิก ใช้สารที่เป็นอันตราย และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนผู้บริโภคจะต้องทำตามที่นัก วิชาการแนะนำ คือต้องล้างให้สะอาด และ นำมาลวกนาน ๆ

ที่กรมอนามัย นายจุรินทร์ กล่าว ระหว่างตรวจเยี่ยมกรมอนามัยว่า นอกจาก สารต้องห้าม 6 ชนิดที่พบมากในอาหารแล้ว หากผลการตรวจลูกชิ้นเรืองแสงออกมาพบว่ามีสารอันตราย อาจจะต้องประกาศให้เป็นสารต้องห้ามชนิดที่ 7 ต่อไป โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ อย.ไปสุ่มเก็บตัวอย่างลูกชิ้นปลามาตรวจสอบแล้ว และในวันที่ 22 ก.พ.จะแถลงผลการตรวจให้ทราบโดยเร็ว เพราะผู้บริโภคต้องการความกระจ่าง อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่บริสุทธิ์ ขายของไม่ได้

วันเดียวกัน นพ.นรังสรรค์ พีรกิจ รองเลขาธิการ อย. ภกญ.พิกุล เสียงประเสริฐ เภสัชกรเชี่ยวชาญ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุข จ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจร้านค้าตลาดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รวมทั้งหมด 8 ราย หลังจากมีชาวบ้านซื้อลูกชิ้นปลาแล้วพบมีสีเรืองแสง จึงเกรงว่ารับประทานไปแล้วจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย พร้อมกับนำตัวอย่างลูกชิ้นส่งไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับลูกชิ้นที่พบว่ามีสารเรืองแสง เป็นลูกชิ้นปลาทำมาจากปลาดาบคาว ซึ่งเป็นปลาทะเล ซื้อมาจากร้านแห่งหนึ่ง ใน ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงประสานให้สาธารณสุข จ.สมุทรสงคราม เข้าไปตรวจสอบดูว่าลูกชิ้นปลาเรืองแสงเกิดจากสาเหตุใดแน่ ขณะที่มีผู้ทำลูกชิ้นปลารายหนึ่งเปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นปลายฝนต้นหนาว และเมื่อนำปลามาทำลูกชิ้นปลา จะเกิดเรืองแสงไปในลูกชิ้นด้วย แต่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

ด้าน ภกญ.พิกุล กล่าวว่า ได้ส่งตัวอย่างลูกชิ้นปลาไปตรวจหาสาเหตุแล้ว ส่วนลูกชิ้นปลาเรืองแสง เคยพบครั้งหนึ่ง เมื่อปลายปี พ.ศ. 2550 แต่เมื่อตรวจแล้ว ไม่พบสารตกค้างแต่อย่างใด แต่ผู้ซื้อลูกชิ้นปลาไปบริโภค ควรจะทำอาหารให้สุก เพื่อป้องกันอันตราย อย่างไรก็ดี ประชาชนไม่ต้องตกใจกลัว เนื่องจากสาธารณสุขออกสุ่มตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว

ขณะที่ นางกนิษฐา ปุยขาว อายุ 33 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวซุ้ยเฮง ถนนอุบล ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวยืนยันว่าลูกชิ้นที่ร้านมีคุณภาพดี ไม่มีสารเคมีเจือปน แต่ลูกค้าก็ยังไม่มั่นใจ พากันหนีหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จนต้องหันมาใช้เนื้อวัว หมู ไก่ แทนลูกชิ้นปลาชั่วคราว เพื่อเรียก ลูกค้ากลับมารับบริการเหมือนเดิม

ด้าน ภก.ธีรยุทธ ประชุมรัตน์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวว่า อย่าวิตกกังวลถึงขั้นไม่กล้ารับประทานลูกชิ้น เพราะหากใช้อุณหภูมิสูงปรุงให้สุกจะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่คาดว่าก่อให้เกิดการเรืองแสงได้ ส่วนสารโซเดียม ไตรโพลีฟอสเฟต ที่คาดว่าผสมอยู่ในลูกชิ้นนั้น หากใช้ใน ปริมาณที่ อย.กำหนดถือว่าปลอดภัย แต่ หากจะซื้อลูกชิ้นไปบริโภค ควรดูบรรจุภัณฑ์ ว่ามีความสะอาด ปลอดภัย และน่าเชื่อถือได้เพียงใด


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

<!-- google_ad_section_end -->

 

เรียน ท่าน เล ครับ
ปรากฎว่าหุ้นเริ่มขึ้นแล้วครับพรายกระซิบยังไม่ส่งสัญญานมาอีกหรือครับ หุ หุ

 

ขอบคุณครับพี่ ...
คิดเหมือนกันเลยครับ เบาใจ สบายใจ ไม่เสียดาย ที่ได้ทำครับผม

 

อ่า ยังเลยครับ ยังไม่มีสัญญาญใดๆมาเลย

ยกเว้นแต่ ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลมาอย่างเดียว

.

 

ไม่เป็นไรครับ

ร่วมกันทำบุญไว้ครับ

สมัยโบราณ ยังมีเรื่องของการสร้างพระพิมพ์ต่างๆ เพื่อเป็นกฐินหลวง หรือ ผ้าป่าหลวง ครับ

.

 

ผมขอลาพักร้อน 2 วันครับ

ไปเข้ารับการอบรมบ่มนิสัยให้ดีขึ้น มาพบกันอีกครั้งวันจันทร์หน้าเลย

วันเสาร์และวันอาทิตย์ คงไม่ได้เข้าเว็บฯ เครื่องคอมฯยังเสียเหมือนเดิม ยังไม่ได้นำไปซ่อมเลย

พบกันวันจันทร์ครับ

.

 

"บังเอิญ" จริงๆครับ คุณน้องนู๋ ผมต้องลองก่อนว่า บังเอิญบ่อยขนาดไหน55555 บังเอิญบ่อยๆผมชอบ อกครุฑก็ชอบ เศียรบาตรก็ชอบ ชอบไปหมด

ครั้งแรกของสมเด็จอัศจรรย์โกลาฤกษ์ก็ประทับใจสุดๆแล้ว มาทำให้ดูในสถานการณ์ความโกลาหลของการซ้อมอพยพหนีไฟคล้องจองกับชื่อ แถมยังกักผมไม่ให้ออกจากตึกจอดรถไปไหนได้อีกครึ่งช.ม.อีกต่างหาก หัวเสียมาก แต่พอออกจากตึกได้นี่ ถนนโล่งมากไปถึงจุดหมายอย่างไม่น่าเป็นไปได้ในช่วงบ่ายสามโมงบนถนนสาทร.....

 

นำพระสมเด็จมายั่วกันอีกรอบ ว่าแต่ในนี้มีสมเด็จอัศจรรย์โกลาฤกษ์หรือเปล่านี่...มาช่วยกันดูหน่อย..

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>:::เพชร:::, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

อยู่กัน 2 ต่อ 2 แบบนี้ ก็ถือว่า คุยกันสนุกๆนะครับคุณน้องนู๋ อาทิตย์ก่อนโน้น ไปเจอท่านผู้รู้อยู่ท่านหนึ่ง ท่านพูดถึงเรื่องเบี้ยแก้ ผมก็ฟังดูว่าเป็นความรู้ใหม่เพิ่มจากที่เรารู้กันหรือไม่ พอฟังเสร็จก็สรุปได้ว่าไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าที่รู้กันอยู่ ก็ยังเดิมๆ พูดถึงหลวงปู่รอด วัดนายโรง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ฯลฯ แต่ของดีอย่างเบี้ยแก้วังหน้ากลับไม่เคยได้ยิน หากไปคุยให้ฟังว่ามีบุทองคำ มีบุเงิน บุนาค สงสัยเขาจะหาว่าเราสติเฟื่องกันไปใหญ่ รู้ไว้ และเงียบไว้ดีกว่า

ผมก็คงจะเหมือนคุณน้องนู๋ คุณหนุ่ม ที่ไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวความจริงได้ ต้องปล่อยให้ผู้ศึกษาได้รู้เห็นเอง ผมกลับไม่กังวลว่า เขาจะเห็นถูก หรือเห็นผิด เพราะเมื่อเวลามาถึงวันที่เขาจะเข้าใจพระวังหน้า เขาจะได้เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญ แล้วจะไม่มีใจเหหันไปเสาะหาอะไรอีก เพราะจะเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความเชื่ออย่างชนิดที่ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำ และเรื่องราวแบบนี้ผมยังเชื่ออีกว่า ทั้งคุณหนุ่ม คุณน้องนู๋จะไม่มีวันเผยให้ใครทราบอย่างเด็ดขาด เพราะมันสำคัญมาก คนทราบอยู่ในวงจำกัดมาก เพียงพระพิมพ์ที่มีปรากฎขึ้นในเวลานี้ก็มากพอที่จะทำให้คณะรักษ์พระวังหน้ายอมรับกันมากอยู่แล้วเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์...หุ..หุ..

 

บางอย่างตอบยาก บางอย่างอธิบายยาก บางอย่างจะพบยิ่งยาก หากไปเหมารวมสิ่งที่พบเห็นทั่วไปด้วยแล้ว ก็ย่อมยากที่จะเข้าใจครับ ผมยกตัวอย่างนิดครับมีน้อยท่านมากที่จะทราบว่าพระอภิญญาใหญ่ในกลุ่มที่ ได้รับเชิญมาร่วมพิธีพุทธาภิเสกเมื่อ 2451 ล้วนกลับไปร่วมสร้างเบี้ยแก้ของท่านเอง ทั้งนั้นครับ หุ หุ

 

เดี๋ยวโหลดกระจายอีกแน่ครับ

สำหรับพระสมเด็จ "อัศจรรย์โกลาฤกษ์" จะบอกว่า ดูเพียงเนื้อหาทรงพิมพ์ อย่างเดียว ลำบากมาก เนื่องจากฤกษ์ "อัศจรรย์โกลาฤกษ์" ในหนึ่งวันมีเพียงแค่ ไม่เกิน 10 นาที(โดยส่วนใหญ่) หากกดพิมพ์พระหลังจากฤกษ์ "อัศจรรย์โกลาฤกษ์" แล้ว ก็ไม่ใช่ พระสมเด็จ "อัศจรรย์โกลาฤกษ์" ทั้งๆที่เนื้อหาทรงพิมพ์เหมือนกัน

ผมเองมีอยู่ครับสำหรับ พระสมเด็จที่สร้างขึ้นพร้อมๆกับ พระสมเด็จ "อัศจรรย์โกลาฤกษ์" แต่ฤกษ์การกดพิมพ์ ไม่ใช่ฤกษ์ "อัศจรรย์โกลาฤกษ์" ซึ่งเนื้อหาทรงพิมพ์เหมือนกัน หุหุหุ


.

 

เบี้ยแก้ของวังหน้า เป็นเบี้ยแก้ที่สร้างโดยหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร และช่างสิบหมู่
ส่วนการอธิษฐานจิต หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร และหลวงปู่อิเกสาโร อธิษฐานจิตครับ

ผมเดินทางไปอบรมแล้วนะครับ วันนี้ผมเลิกอบรม ประมาณ 18.30 น. หากกลับมาที่ทำงานแล้วเขายังไม่กลับกัน จะเข้ามาในกระทู้พระวังหน้าฯ ครับ



.

 

...รู้สึกแปลกใจมากๆ เพราะมื่อคืนราวตี 3-4 ฝันเจอท่านรอง nongnooo เป็นเวลาราว 5-10 นาที ท่านไปแสดงความเป็นอัจฉริยะให้ผมเห็นกะตาน่าเลื่อมใสมากครับ

...ผมเองสวดมนต์ ไหว้พระตามปกติ เพียงแต่ไม่ได้นั่งสมาธิ เพราะรอบบ้านเสียงดัง คิดว่าจิตไม่ฟุ้งซ่าน ก็แจ้งให้ทราบครับ

 

5555ผมไม่บังอาจครับ แต่ถ้าจะให้ผมเดาเอาเป็นว่าแบบผมรึกันมีช่วงหนึ่งในปีที่ผ่านมา ผมไม่สามารถเจริญสมาธิต่อไปในขั้นต่อไปได้ติดอยู่หลายเดือนมาก จนเริ่มท้อใจแล้วคิดว่าช่างมันเถอะแต่แล้วในคืนหนึ่งก็ได้ฝันเห็นพระอาจารย์นิล ท่านกล่าวว่าไหนโยมติดตรงไหนลองทำให้ดูหน่อย ปรากฎว่าเมื่อผมลองนั่งปฏิบัติให้ท่านดู ก็เป็นที่น่าแปลกว่าที่เราติดขัดกลับผ่านจุดนั้นไปได้อย่างง่ายดาย ผมก็คิดเช่นนั้นว่าพระอาจารย์นิลคงมาช่วยแต่เมื่อได้สอบถามจากท่าน ผมถึงได้เข้าใจว่าครูบาอาจารย์ที่คอยเฝ้ามองเราอยู่ท่านมาในแบบที่เราคุ้นเลื่อมใสเพื่อไม่ให้เกิดความกลัวเกินไปครับ อ่าบรรยายมากไปแล้วครับ หุ หุ

 

โมทนา สาธุ สาธุ ธรรมะเดินหน้า ใจนั้นสำคัญยิ่ง ไม่มีติดขัด ยิ่งปฎิบัติยิ่งก้าวหน้า เหมือนเขื่อนทำนบแตกครับ รอวันเท่านั้นครับ

 

เห็นว่า load กันไปพอสมควรบ้างแล้ว เลยมาเฉลยกันให้ทราบว่า พระสมเด็จที่ post ไว้ 4-5 องค์นั้น ยังไม่ใช่อัศจรรย์โกลาฤกษ์ครับ สมเด็จอัศจรรย์โกลาฤกษ์มีลักษณะที่พิเศษอยู่อย่างหนึ่งที่ต่างจากสมเด็จวัดระฆัง หรือสมเด็จทั่วไป เพียงรู้ลักษณะพิเศษก็ยังไปหาไม่พบอยู่ดี...

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ psombat
...รู้สึกแปลกใจมากๆ เพราะมื่อคืนราวตี 3-4 ฝันเจอท่านรอง nongnooo เป็นเวลาราว 5-10 นาที ท่านไปแสดงความเป็นอัจฉริยะให้ผมเห็นกะตาน่าเลื่อมใสมากครับ

...ผมเองสวดมนต์ ไหว้พระตามปกติ เพียงแต่ไม่ได้นั่งสมาธิ เพราะรอบบ้านเสียงดัง คิดว่าจิตไม่ฟุ้งซ่าน ก็แจ้งให้ทราบครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
5555ผมไม่บังอาจครับ แต่ถ้าจะให้ผมเดาเอาเป็นว่าแบบผมรึกันมีช่วงหนึ่งในปีที่ผ่านมา ผมไม่สามารถเจริญสมาธิต่อไปในขั้นต่อไปได้ติดอยู่หลายเดือนมาก จนเริ่มท้อใจแล้วคิดว่าช่างมันเถอะแต่แล้วในคืนหนึ่งก็ได้ฝันเห็นพระอาจารย์นิล ท่านกล่าวว่าไหนโยมติดตรงไหนลองทำให้ดูหน่อย ปรากฎว่าเมื่อผมลองนั่งปฏิบัติให้ท่านดู ก็เป็นที่น่าแปลกว่าที่เราติดขัดกลับผ่านจุดนั้นไปได้อย่างง่ายดาย ผมก็คิดเช่นนั้นว่าพระอาจารย์นิลคงมาช่วยแต่เมื่อได้สอบถามจากท่าน ผมถึงได้เข้าใจว่าครูบาอาจารย์ที่คอยเฝ้ามองเราอยู่ท่านมาในแบบที่เราคุ้นเลื่อมใสเพื่อไม่ให้เกิดความกลัวเกินไปครับ อ่าบรรยายมากไปแล้วครับ หุ หุ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
จากอีแร้ง แปลงกายมาเป็นพรายกระซิบ นิมิตกายเข้าไปในจิตใต้สำนึกคุณpsombat ไปได้ หุ..หุ...คุณน้องนู๋บรรยายมากเกินไปกว่าทุกครั้งจริงๆ บทอีแร้งเขาบรรยายไม่มาก ต้องง่ายๆ และสั้นๆ...55555

ตรงที่เริ่มท้อใจ ผมคิดว่าน่าจะเป็นการถอยจิตลงมา สูงไปก็ไปไม่ได้ ต่ำไปก็ไม่มีแรงปีนขึ้น อารมณ์ต้องพอดีๆ ความพอดีต้องแค่ไหน ต้องลองเองครับ ความนี้คล้ายสมัยที่พระอานนท์พระพุทธอนุชาท่านสำเร็จอรหันต์เมื่อขณะจะเอนกายลงนอน...