ขอปิดงานบุญครับงานนี้ไม่มีปาฎิหารย์มีแต่งานบุญร่วมบุญกันครับสร้า้งห้องน้ำวัดสบหลม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 9 กันยายน 2009.

  1. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    ขอบคุณครับ ว่าง ๆ มาเล่าให้ฟังอีกนะครับ ชอบ ๆ ๆ :D
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343

    ขอบคุณครับท่านที่นำเอาสิ่งที่เกิดขึ้นมาเล่าให้ฟัง
    .......

    งานนี้ท่านอาจจะแสดงอะไรให้เห็นตอบแทนจากการที่เราได้ทำบุญสร้า้งห้องน้ำ

    กับวัดสบหลม......
     
  3. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ขอบคุณสำหรับน้ำใจที่มอบให้ ครับ

    ผมโอนเงินเพิ่มเติม 109.99 บาท เข้าเลขที่บัญชี 053904200492142
    แล้ว วันที่ 24/09/09 16:06 น.

    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ...งานนี้เป็นงานบุญโดยแท้ที่สุขใจทุกท่านที่ร่วมบุญ

    ครับผมพยายามคิดจะทำให้ทุกท่านที่ร่วมงานบุญครั้งนี้สบายใจที่สุด...

    ทั้งเรื่องระยะเวลาการโอนเงินร่วมบุญที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาเพราะวัดยังไงก็ต้อง

    ให้คนร่วมบุญได้ทุกวันเวลาไม่มีกำหนด......วัดไม่ไปไหนงานนี้ไม่ใช้กฐิน

    ทุกท่านยังสามารถร่วมบุญกับวัดสมหลมได้ตลอดชีพครับ
     
  5. ตนโอวันติน

    ตนโอวันติน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +43
    วันนี้ผมก็มีประสบการณ์อีกแล้ว

    ไม้ที่ผมวางเสียบอยุ่ดีๆไม่มีทางที่มันจะหล่นเองได้
    แต่แล้วอยุ่ๆไม้มันหล่นลงเฉยๆเลยผมนั่งอยุ่กับแม่งงกันเลยครับ
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ลมอาจจะแรงหรือเปล่าครับ....อนุโมทนาด้วยครับ

    เรื่องจะโอนเงินร่วมบุญก็โอนเข้าบัญชีพระอาจารย์รอดเลยครับ...

    แล้วจองในกระทู้ได้เลยครับจะได้คิดยอดจองถูกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343

    โทษของการโกหก หลอกลวง


    ๑) ทุกข์ทางใจ
    จิต ที่เป็น ปกติสุขไม่อาจคิดพูดโกหกมดเท็จ การจะโกหกมดเท็จได้ต้องใช้จิตที่เป็นทุกข์เท่านั้น เพราะไหนจะต้องพยายามแต่งเรื่องขึ้นใหม่ ไหนจะต้องออกแรงบิดความจริงอันเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ด้วยปากอันเล็กกระจ้อยร่อย แม้แต่การกลับซ้ายให้กลายเป็นขวาเพียงนิดเดียว ก็อาจพาคนหลงตามคำหลอกของเราไปลงเหวได้แล้ว ทุกคำมุสาที่นึกว่าเล็กน้อย จึงอาจก่อมหันตภัยใหญ่หลวงเกินกว่าจะคาดเดาได้
    การ รู้ตัวว่าโดนหลอก เป็นความทุกข์ของผู้ถูกหลอก ถ้าเราเป็นคนหลอกเขา ใจเราจะเป็นสุขไปได้อย่างไร การสังเกตเข้ามาในตนเองจะทำให้เห็นทุกข์เป็นขณะ ๆ อย่างชัดเจน
    ทุกข์ เริ่มต้นตั้งแต่เมื่ออยากหลอกลวงให้คนอื่นหลงเชื่อ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะรู้สึกถึงความฝืดฝืน นั่นเพราะธรรมชาติของความจริงมีเหตุมีผล การอยากโกหกก็คือการอยากทำลายเหตุผล ซึ่งค้านกันกับสำนึกแบบมนุษย์ที่ต้องการเหตุผลตามจริง
    ทุกข์ จะทวีตัว ขึ้นเมื่อตัดสินใจหลอกลวงให้คนอื่นหลงเชื่อ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเหมือนใจถูกคลุมไว้ด้วยฝ้าหมอกมายา นั่นเพราะการตั้งใจแต่งเรื่องหลอกคนอื่น ก็คือการพลิกเอาตัวเองออกจากความจริงอันสว่างไปสู่ความเท็จอันมืด จึงไม่มีทางที่ใจจะสดใสโปร่งโล่งไปได้
    ทุกข์ จะทวีตัวขึ้นอีกเมื่อ พยายามคิดคำลวงให้คนอื่นหลงเชื่อ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นคล้ายมีตัวเราที่รูปร่างหน้าตาแตกต่างไปจากเดิมกำลังดิ้นพล่าน พยายามจินตนาการจับต้นชนปลายความจริงกับความเท็จให้ต่อกันติด ที่มโนภาพของตัวเราแตกต่างจากเดิม ราวกับแปลกไปไม่ใช่ตัวเรา ก็เพราะขณะจิตนั้นเราไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ตัวจริงตามที่กำลังเป็น
    ทุกข์ จะทวีตัวขึ้นถึงขีดสุดเมื่อต้องฝืนขยับปากหลอกลวงคนอื่นให้หลงเชื่อ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นการออกแรงเค้นคำ แตกต่างจากเมื่อพูดความจริงอย่างสบายอารมณ์ นั่นเพราะเรารู้ว่าความจริงเป็นเส้นตรง แต่จะอาศัยปากของเราเข้าไปดัดเส้นตรงนั้นให้เบี้ยวบิดผิดรูป แน่นอนว่าจิตใจและปากคอของเราย่อมเบี้ยวบิดผิดตามไปด้วย ไม่อาจตรงอยู่ได้
    ทุกข์ จะไม่จบโดยง่ายแม้เมื่อหลอกลวงให้คนอื่นหลงเชื่อได้สำเร็จ สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นความรู้สึกเหมือนมีสองภาค ภาคหนึ่งรู้ความจริง อีกภาคหนึ่งรู้ว่ามีความลวงซ้อนความจริงขึ้นมา อีกทั้งต้องคอยปกปิดให้ดี ยิ่งภาคแห่งความลวงหนาขึ้นกลบภาคแห่งความจริงมากขึ้นเท่าใด เราจะยิ่งรู้สึกคล้ายเกิดหน้ากากปิดบังหน้าตาของตนมากขึ้นเท่านั้น จนวันหนึ่งส่องกระจกเงาแล้วอาจรู้สึกครึ่งจริงครึ่งฝัน ถามตัวเองว่านี่ใบหน้าของเราแน่หรือ?
    ในทาง ปฏิบัติแล้ว การหลอกคนได้มักทำให้ภูมิใจ เพราะหลงนึกว่าตัวเองฉลาด และเห็นว่าคนอื่นโง่ ดังนั้น ทุกข์ที่เกิดจากการฝึกเป็นนักแต่งเรื่องจึงไม่ปรากฏชัดในช่วงต้นวัย ต่อเมื่อหลอกคนอื่นจนกระทั่งจิตทำงานเป็นอัตโนมัติ คล้ายหลอกได้แม้กระทั่งตัวเองให้เชื่ออะไรผิด ๆ หลงตัดสินใจโง่ ๆ และด้วยเหตุนี้เอง เราจึงตระหนักว่าที่สุดของการเป็นคนลวงโลก ก็คือการพาตัวเองไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ร้อนจากการไม่รู้จักตนเองเสียแล้ว

    ๒) การสั่งสมบาป
    เมื่อ ทราบแล้วว่าความมืดเป็นเครื่องหมายของบาป เราก็สามารถสำรวจใจตนเองแล้วทราบได้ว่าการโกหกเป็นบาป เพราะไม่มีการโกหกครั้งใดที่ทำให้จิตของเราสว่างขึ้น มีแต่จะหม่นหมองลง กับทั้งไม่มีแก่ใจคิดอะไรในทางดี ในทางที่เจริญเอาเลย
    แรง ผลักดันให้ โกหกได้เต็มปากเต็มคำคือโลภะ โลภะต้องชนะความอยากสบายใจ จึงขับให้เราก่อบาปด้วยการหลอกลวง แท้จริงมนุษย์เราต้องการความสบายใจเหนือสิ่งอื่นใด แต่เพราะอยากได้สิ่งที่ต้องการมากเกินไป หรือจำต้องเห็นแก่สิ่งอื่นยิ่งไปกว่าใจตน จึงยอมทำลายความสบายใจด้วยการพูดคำเท็จ
    ที่น่า กลัวก็คือบาปสามารถ สั่งสมตัวได้ นั่นหมายความว่ายิ่งโกหกมากขึ้นเท่าไร ใจก็ยิ่งอึดอัดทรมานมากขึ้นเท่านั้น มองไปทางไหนความจริงทั้งหลายดูน่าบิดเบือนให้ผิดจากเดิมไปหมด
    แม้ ขยับปากเอาตัวรอดหรือสร้างภาพให้ดูดี เช่น คนที่บ้านถามว่าไปไหนมา ความจริงเราไปสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนฝูง แต่เราไพล่พูดโกหกว่าไปช่วยงานสำคัญที่นั่นที่นี่ ปากของเราก็ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดัดจิตให้เบี้ยวบิดผิดรูปแล้ว เพียงคำลวงเล็ก ๆ ก็จุดชนวนความคิดไม่ตรงไปตรงมาได้ ต่อไปเมื่อต้องตอบแบบเสียภาพลักษณ์นิดเดียว ระบบความคิดของเราจะพยายามสร้างคำพูดไปในทางรักษาภาพทันที โดยไม่คำนึงว่าภาพดี ๆ จะมีความจริงปนอยู่ด้วยมากน้อยเพียงใด
    ความ คิดในทางปั้นน้ำเป็นตัวจะลดความฉลาดในการอธิบายให้คนเข้าใจความจริง ทั้งที่พูดความจริงโดยไม่ต้องให้คนฟังเสียความรู้สึกก็ได้ แต่เพราะมัวไปเชื่ออยู่ว่าขืนพูดความจริงก็พังเท่านั้น เลยเท่ากับปิดโอกาสฝึกใจให้ซื่อ ฝึกคิดให้ฉลาด น้อยคนจึงสามารถพูดแบบให้เกิดเรื่องดี ๆ โดยไม่ต้องแต่งเรื่องหลอก ๆ ขึ้นมา
    ฉะนั้น เพียงไม่ตั้งใจไว้ก่อนว่าจะเว้นขาดจากการโกหก ก็นับว่ามีโทษแล้ว เพราะเมื่อถูกตั้งเงื่อนไขให้เกิดโลภะอย่างแรงกล้า ความอยากสบายใจก็ลดระดับแทบไม่เหลือ ยังผลให้สติพร่าเลือนลง เปิดช่องให้โลภะเข้าครอบงำจนโง่เขลา หลงนึกว่าบาปแห่งการโกหกเป็นสิ่งสมควรทำยิ่งกว่าบุญแห่งการพูดความจริงให้ เกิดประโยชน์
    ๓) ความเป็นอยู่ที่เลวร้าย
    ไม่ มีความ รู้สึกอึดอัดอันใดย่ำแย่ไปกว่าความรู้สึกอึดอัดอันเกิดจากการโกหก เพราะบาปข้ออื่นยังทำลงไปแบบมีเหตุผลให้โล่งใจกันได้ เช่น เราอาจฆ่าโจรโฉดตามหน้าที่ของตำรวจ เราอาจโกงใครเพราะเขาโกงก่อน เราอาจกินเหล้าเพื่อไม่ให้คนรินเสียใจ แต่ถ้าต้องฝืนใจโกหกครั้งหนึ่ง เราก็ต้องฝืนทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับความจริงอันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่หนึ่งครั้ง เมื่อสั่งสมมากแล้ว ในที่สุดทั้งอกทั้งใจก็เต็มแน่นไปด้วยความอึดอัดครัดเครียด และสับสนอยู่กับตนเองว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ อันไหนตื่นอันไหนฝัน เห็นความจริงเป็นสิ่งไม่น่าเชื่อ กับทั้งมีนิสัยดื้อด้าน ไม่ยอมรับความจริงอย่างน่าสลดสังเวชได้
    เมื่อ บาปจากการการโกหกถูก สั่งสมมากแล้ว คนโกหกย่อมเลื่อนฐานะเป็นคนลวงโลก ดูเผิน ๆ เหมือนโกหกได้หน้าตาย คิดแต่งเรื่องได้เป็นตุเป็นตะในเวลาอันรวดเร็ว หลอกได้แม้กระทั่งเครื่องจับเท็จ ซึ่งสะท้อนว่าสามารถสะกดจิตตัวเองให้สำคัญไปว่ากำลังพูดเรื่องจริงอย่างเป็น ธรรมชาติ แต่นั่นแหละคือความผิดธรรมชาติอย่างใหญ่หลวง จนก่อให้เกิดกระแสในตัวที่น่าระแวง ไม่ชวนให้อยากคบ อยู่ใกล้แล้วอึดอัด เหมือนอีกาที่ซื่อกับใครไม่เป็น หรือเหมือนลิงที่พร้อมจะล้อเลียนเราทั้งต่อหน้าและลับหลัง
    การ โกหก หลอกลวงแต่ละครั้งคือการบิดเบือนความจริง ซึ่งก็มีผลสะท้อนให้ความจริงของเราบิดเบี้ยวไปด้วย อาจจะในรูปของการโดนใส่ไคล้ หรืออาจจะในรูปของการถูกเข้าใจผิด คิดให้ดีก็สมกันแล้ว ไม่มีทางที่เราจะบังคับใครต่อใครให้พูดถึงเราตรงตามความจริงไปทั้งหมด เท่า ๆ กับที่เราเองก็ไม่ได้พูดถึงตัวเองตรงตามจริงทุกครั้ง เช่นที่เป็นกันมากคือโกหกเพื่อรักษาหน้า ไม่ยอมรับผิด เป็นต้น
    จิต ของคนลวงโลกย่อมมีความบิดเบี้ยว กลับกลอกไปมา แม้แต่เจ้าตัวเองก็ควบคุมไม่ได้ว่าจะให้ชอบอะไรหรือรักใคร คล้ายตกอยู่ในห้วงฝันหลอนที่โยกเยกไหวเอนอยู่เกือบตลอดเวลา
    จิต ที่ บิดเบี้ยวย่อมเหมาะกับภพใหม่ที่เบี้ยวบิด เต็มไปด้วยความหลอกหลอนให้ผิดหวัง วันนี้นึกว่าดี พรุ่งนี้กลายเป็นร้ายให้ช้ำใจ น่าอึดอัดระอา ถ้ายังมีวาสนาพอจะเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ ก็ย่อมตกอยู่ในภาวะผันผวนไม่แน่นอนอย่างรุนแรง
    หาก ตายเยี่ยงคนลวงโลก ผู้ยังไม่อิ่มไม่พอกับการปั้นน้ำเป็นตัว แต่ยังพอมีบุญพยุงไม่ให้ร่วงหล่นถึงนรก ก็อาจไปเสวยภพของพวกหาสัจจะได้ยากในระดับเดรัจฉานภูมิ เช่น อีกา หรือลิงป่าบางจำพวก เป็นต้น
    แต่หากตายเยี่ยงคน ลวงโลกที่ดีแต่เยาะ หยัน เห็นคนอื่นโง่กว่าตนเสมอ ก็จัดว่ามีความเหมาะกับสภาพความเป็นอยู่ที่ถูกกดขี่อย่างน่าสะพรึงกลัว ดังเช่นนรกภูมิสถานเดียว!
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    กระทู้นี้คงไม่มีปาฎิหารย์จากผม.คงจะมีแต่งานบุญและบุญให้ท่านร่วมเท่านั้นเอง

    ก็ผลบุญนั้นแลบาปที่จะติดตัวเราไปยังสัมปราภพ......

    แม้วัตถุมงคลใดๆที่ว่าสูงค่าเลิศล้ำด้วยราคา..อันไม่มีราคาจะเปรียบก็มิอาจติดตัวเราไปได้

    งานบุญนี้จึงไม่มีปาฎิหารย์ขอให้มีแต่กุศลผลบุญและสิ่งอันเป็นมงคลเกิดขึ้นกับสาธุชน

    พี่ๆน้องๆทุกท่านที่ร่วมงานบุญนี้ติดตามไปแลเป็นสิ่งที่พึ่งหนึ่งในห่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

    มุนษย์นี้ครับ.

    งานนี้จึงไม่มีปาฎิหารย์ใดนอกจากปาฎิหารย์ในบุญที่เกิดขึ้นจริงเกิดขึ้นในห่วงขณะจิตที่คิดร่วม

    บุญสละปัจจัยร่วมบุญ...........

    นี้แหละครับงานบุญนี้.................
     
  9. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,079
    ค่าพลัง:
    +52,187
    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  10. ขมังเวทย์

    ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    ทุกอย่างมีเหตุ แลผล อยู่ในตัว ขอให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลดีกว่าครับ หากเชื่อแล้วมั่น

    คงในการทำดีก็ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  11. nu_wa

    nu_wa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,740
    ค่าพลัง:
    +10,698
    ปาฎิหารย์ในบุญ ในบุญที่ยิ่งใหญ่
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    ผมเคยได้ยินพระท่านว่าทำดีดีกว่าขอพร...

    แต่ผมก็เป็นพวกกำลังใจต่ำถ้าได้ยินพรจากครูบาอาจารย์ที่นับถือแล้วมันนึกฮึก

    เฮิมยังไงชอบกล......

    ใครจะใหญ่เกินกรรม
    .ผมชอบประโยคนี้มากครับจริงที่สุด.........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2009
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    บุญคืออะไร

    คำว่า บุญ เป็นข้อสงสัยของใครหลายคนว่าอะไรคือบุญ ทำอย่างไรจึงได้บุญ บุญ คือ

    การกระทําใดๆ ที่มีวัตถุประสงคที่จะชํ าระล้างความโกรธ ความโลภ และความหลงทั้งปวง

    การสร้างคุณงามความดีโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน คนเป็นจํานวนมากเข้าใจว่า การทําบุญ

    คือ การบริจาคทานเพียงอย่างเดียว ทั้งที่จริงแล้ววิธีสร้างบุญมีอยู่ด้วยกันถึง 10 ประการ

    เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 ประกอบด้วย

    1. การบริจาคทาน ทานคือ การให้สิ่งที่เป็นประโยชนแก่ผู้รับ การให้สิ่งที่ควรให้แก่คนที่ควร

    ให้ แบ่งออกเป็น ๓ อย่างได้แก่ ๑.อามิสทาน คือ การให้วัตถุ สิ่งของ หรือเงินเป็นทาน

    ๒.ธรรมทาน คือ การสอน การเผยแพร่ธรรมะ เป็นความรู้ เป็นทานที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง ๓.อภัยทาน คือ การให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำ

    ไม่ดีกับเรา ไม่จองเวร หรือพยาบาทกัน นับว่าเป็นทานอันยิ่งใหญ่ประการหนึ่ง ดังนั้นการทำ

    ทานจมิใช่ทำด้วยเงินแต่เพียงอย่างเดียว

    การให้ทานที่ถือว่าเป็นความดี และได้บุญมากนั้นจะประกอบด้วยปัจจัย ๓ ประการอัน

    ได้แก่

    ๑.วัตถุบริสุทธิ์ คือ เป็นของที่ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้ไปยักยอกมา โกงมา หรือได้

    มาด้วยวิธีแยบยล

    ๒.เจตนาบริสุทธิ์ คือ มีจิตยินดี ผ่องใสเบิกบาน ไม่รู้สึกเสียดายสิ่งที่ให้ ตั้งแต่ก่อนให้

    ขณะให้ และหลังให้

    ๓.บุคคลบริสุทธิ์ คือ ให้กับผู้รับที่มีศีลธรรม ตัวผู้ให้เองก็ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์

    2. การรักษาศีล คือการปฏิบัติ เพื่อควบคุมรักษากาย วาจามิให้เป็นไปในทางทุจริต และ

    สามารถอุดหนุนให้สมาธิ ปัญญา และมรรคเกิดขึ้นได้ 3. การภาวนา การอบรมจิต เจริญ

    สมาธิ 4. การอ่อนน้อมถ่อมตน คือ การมีสัมมาคารวะ การอ่อนนนอมต่อผู้ใหญ้ 5. การช่วย

    เหลือในกิจการงานที่ชอบ คือ การช่วยเหลือทํ าการงานต่างๆ ของบิดา มารดาครู อาจารย

    ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง 6. การอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้อื่น เมื่อเราได้ทําบุญไม่ว่าจะเป็นการให้

    ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ฯลฯ เราก็อุทิศส่วนกุศลนั้นให้แก่เพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย 7.

    การอนุโมทนาส่วนบุญที่เขาอุทิศให้ คือ การที่ผู้ใดได้ทําบุญและนํ ามาอุทิศส่วนกุศลให้

    และผู้รับมีความปติชื่นชมยินดี หรือ อนุโมทนาบุญที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว 8. การฟังธรรม

    9. การแสดงธรรม 10. การมีสัมมาทิฏฐิ คือ การมีความเห็นที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง

    เห็นเหตุตรงกับผล
     
  14. ขมังเวทย์

    ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    [​IMG]

    เอาภาพตำราเก่ามาให้ดูครับ อายุร้อยกว่าปี และ ระบุชื่อผู้เขียนว่า

    ข้าพเจ้า สีวิชัย ภิกษุหนุ่มแต้มใว้
     
  15. ขมังเวทย์

    ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    ปาฎิหารย์ ในพระศาสนานี้แลมี2ประการ เป็น ไฉน

    อาราธนา อ.โบ้ วิสัชนา เถิด
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,782
    ค่าพลัง:
    +21,343
    โอ้ๆตอบยากครับท่านผมก็แค่ประเภทจำมาอวดเท่านั้นเอง.

    ปาฎิหารย์ที่ว่านั้นคือปาฎิหารย์ในผลของกรรมดีแลกรรมชั่วใช่ไหมท่าน

    ดังเช่นสมัยพุทธกาลที่กรรมดีเกิดกับท่าน นางวิสาขา หรือท่านอานันทบิลฑิก

    เศรษฐี...ส่วนปาฎิหารย์ในกรรมชั่วก็เกิดกับท่านเทวทัต...

    ผิดถูกเช่นใดเชิญท่านอธิบายด้วยครับ ตอบไปก็อายๆเหมือนกัน...

    ช่วยเอาความคิดถูกเห็นถูกมากล่าวด้วยผมประเภทคิดไปเอง555
     
  17. supatach

    supatach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,638
    ค่าพลัง:
    +6,666
    สิ้นเดือนเงินเดือนออกแล้วจะรีบโอนเงินทำบุญให้นะครับ
    ส่วนเรื่องไปวัดสะแก ผมยังคงไม่สะดวกครับ ขอบคุณที่ชวนนะครับ
    คิดว่าต้องได้ไปด้วยกันแน่ๆซักงานนึง
     
  18. getter

    getter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    353
    ค่าพลัง:
    +1,209
    ผ้ายันต์ที่มีแผ่นยันต์โลหะติดอยู่ที่มาพร้อมวัตถุมงคล คือผ้ายันต์แบบไหนครับ
    ขอบคุณครับ
     
  19. ขมังเวทย์

    ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    เรียกว่ายันต์ นวภามงคล9 สำหรับหนุนดวง วิธีใช้ให้ย้อนดูในกระทู้นี้ แล
     
  20. ขมังเวทย์

    ขมังเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,829
    ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

    เรื่องปาฏิหารย์ในพระสูตร ควรใส่ใจหรือไม่ อย่างไร?
    สิ่งใดที่พระองค์แสดงสิ่งนั้น ย่อมเป็นประโยชน์ ซึ่ง ปาฏิหารย์ 3 อย่าง

    1. อิทธิปาฏิหารย์(แสดงฤทธิ์ได้)

    2. อาเทศนาปาฏิหารย์(รู้จิตดักใจคนได้)

    3. อนุสาสนีปาฏิหารย์(การพร่ำสอนให้บรรลุ)

    ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าและสาวกมากมาย ย่อมประกอบด้วย ปาฏิหารย์ 3 อย่างนี้

    ซึ่งเมื่อคิดแยบคายย่อมนำมาซึ่งความเลื่อมใสต่อพุทธบริษัท แต่ในบรรดา ปาฏิหารย์

    3 อย่างนี้ ปาฏิหารย์ 2 อย่างข้างต้นไม่ประเสริฐเท่ากับ อนุสาสนีปาฏิหารย์ที่สามารถ
    ทำให้ดับกิเลสได้ ดังตัวอย่างในพระไตรปิฎก ที่พราหมณ์ผู้หนึ่ง ไม่ชื่นชม ปาฏิหารย์

    2 ข้อต้นเพราะเหมือนรูปลวง เหมือนการหลอกลวงแต่ท่านชอบใจอนุสาสนีปาฏิหารย์

    เพราะสารถทำให้เข้าใจตามความเป็นจริง และเห็นเองแก่ผู้ที่ฟังครับ
    เรื่อง อนุสาสนีปาฏิหารย์ประเสริฐที่สุด


    ที่จริงมีอยู่ 3 ประการ นี้ แล
     

แชร์หน้านี้

Loading...