ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พายุไต้ฝุ่นมรกตกระหน่ำไต้หวัน เสียชีวิต 1 สูญหาย 4

    [​IMG]

    ไทเป 8 ส.ค.- หน่วยกู้ภัยไต้หวันเปิดเผยวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน และสูญหายไป 4 คน จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นมรกตพัดกระหน่ำเกาะไต้หวัน ด้วยกระแสลมแรงและทำให้เกิดฝนตกหนัก

    ผู้เสียชีวิต 1คน เป็นหญิงในเมืองเกาสง ทางตอนใต้ของไต้หวัน เธอถูกกระแสลมแรงพัดทำให้ตกจากรถจักรยานยนต์ลงไปในคูน้ำ ส่วนอีก 4 คนที่สูญหายไปเป็นชาวประมง นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 14 คน แต่ไม่มีรายใดอาการสาหัส

    พายุไต้ฝุ่นมรกตพัดกระหน่ำเมืองฮัวเหลียน ทางตะวันออกเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น กระแสลมแรงทำให้อาคารสูงสั่นไหว นอกจากนี้ ยังทำให้ต้นไม้หักโค่น รวมทั้งป้ายสัญญาณต่าง ๆ ล้มระเนระนาดนอกจากนี้ อิทธิพลของพายุลูกนี้ยังทำให้หลังคาโรงเรียนประถมในเมืองฉางฮัวได้รับความเสียหาย และก่อให้เกิดฝนตกหนักในเมืองผิงตุง ทางตอนใต้ถึง 1,255 มิลลิเมตรเมื่อเช้าวันนี้ และทำให้เกิดน้ำท่วมถึง 100 จุด คาดว่าพายุลูกนี้จะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวสู่จีนในวันนี้. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 10:16:06

    ผู้เสียชีวิตจากเรืออับปางที่ตองกาอาจสูงถึง 87 คน

    [​IMG]

    นูกูอะโลฟา 8 ส.ค. - ตำรวจเปิดเผยว่า อาจมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 87 คน จากอุบัติเหตุเรือโดยสาร “ปรินเซส อชิกา” อับปางที่ประเทศตองกา เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ จากการทบทวนรายชื่อของผู้โดยสารและลูกเรือหลังจากสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต พบว่า อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ จำนวนลูกเรือและผู้โดยสารที่รอดชีวิตจนถึงขณะนี้มีอยู่ 54 คน แต่จากการสอบถามผู้รอดชีวิต ระบุว่า จำนวนคนบนเรืออาจมีมากถึง 141 คน ไม่ใช่ 79 คน ตามข้อมูลเบื้องต้น หากสอบถามเพิ่มเติมอาจมีจำนวนมากขึ้นอีก และจนถึงขณะนี้เพิ่งพบผู้เสียชิวิตเพียง 2 ราย

    ด้านนักประดาน้ำจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เดินทางถึงตองกาเมื่อคืนนี้ เพื่อช่วยสำรวจพื้นที่ที่เรืออับปาง และหาทางนำศพที่ติดอยู่ในเรือขึ้นฝั่ง ขณะที่นายพอล คาราลุส รัฐมนตรีกระทรวงขนส่งของตองกา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนทางทะเลจากนิวซีแลนด์จะเดินทางมาถึงตองกาในวันนี้ เพื่อเริ่มการสอบสวนเหตุโศกนาฏกรรมซึ่งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของตองกา นายคาลารุสปฏิเสธรายงานว่าเรือลำนี้เป็นเรือเก่าที่ซื้อมาใช้เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนเรือโดยสาร จนกว่าจะได้รับเรือลำใหม่ในปี 2554.- สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 08:41:12

    เกิดการระบาดของเชื้อซัลโมเนลลาในสหรัฐ

    [​IMG]

    ลอสแองเจลิส 8 ส.ค. - ประชาชนอย่างน้อย 27 คน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐโคโลราโด สหรัฐ ล้มป่วยจากการระบาดของเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา ทำให้ต้องเรียกเก็บเนื้อทำแฮมเบอร์เกอร์เป็นจำนวนกว่า 360,000 กิโลกรัม ใน 12 รัฐ

    รายงานระบุว่า เนื้อซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบทำแฮมเบอร์เกอร์มีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วย 21 ราย จากอาหารเป็นพิษที่เกิดจากเชื้อซัลโมเนลลา ในรัฐโคโลราโด โดยเนื้อดังกล่าวมีที่มาจากบริษัทบีฟ แพคเกอร์ ในเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทคาร์กิลล์ ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจเกษตรของสหรัฐ

    โฆษกของสำนักบริการตรวจสอบและความปลอดภัยอาหารของกระทรวงเกษตรสหรัฐ กล่าวว่า มีผู้ป่วยอีกอย่างน้อย 4 ราย ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และอีก 2 ราย ที่รัฐไวโอมิง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทานเนื้อที่มาจากบริษัทบีฟ แพคเกอร์

    หน่วยงานสาธารณสุขในอีก 8 รัฐ ประกอบด้วย แอริโซนา ไอดาโฮ นิวเม็กซิโก เนวาดา อิลลินอยส์ เนแบรสกา เซาท์ดาโกตา และเทกซัส พบตัวอย่างของเชื้อซัลโมเนลลาชนิดเดียวกันในผู้ที่ติดเชื้อ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทบีฟ แพคเกอร์ เรียกคืนเนื้อจำนวนเกือบ 375,000 กิโลกรัม โดยเนื้อดังกล่าวผลิตระหว่างวันที่ 5-23 มิถุนายน และจัดส่งไปยังร้านค้าปลีกใน 12 รัฐ ทางตะวันตกของสหรัฐ

    เชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลาที่ระบาดในรัฐทางตะวันตกของสหรัฐ เป็นชนิดสายพันธุ์นิวพอร์ต มีความทนทานต่อยาปฏิชีวนะชนิดสามัญจำนวนมาก ผู้ที่ได้รับเชื้อมักต้องเข้าโรงพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เชื้อชนิดนี้พบในโคนมที่แก่เกินกว่าจะให้นมได้อีกต่อไป จึงนำมาฆ่าเพื่อนำเนื้อไปทำแฮมเบอร์เกอร์.- สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 08:26:31

    ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในมาเลเซียยังพุ่งไม่หยุด

    [​IMG]

    กัวลาลัมเปอร์ 7 ส.ค.-กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกราย เป็นชายวัย 40 ปี นับเป็นเหยื่อรายที่ 15 ของประเทศ

    แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียระบุว่า ชายดังกล่าวเป็นคนอ้วน เขาเริ่มมีอาการไข้และไอเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันจันทร์ และเสียชีวิตในอีก 2 วันต่อมา รายงานระบุว่า ชายดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพียง 1 วันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

    ทั้งนี้ นับแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มาเลเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว 1,525 คน -สำนักข่าวไทย

    2009-08-07 18:01:30

    บริษัทยาฝรั่งเศสเริ่มทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้ว

    [​IMG]

    ลอนดอน 7 ส.ค.-ซาโนฟี-อะแวนติส บริษัทยาของฝรั่งเศส เริ่มการทดลองวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กับคนแล้วเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนเสริมกับสหรัฐแล้ว

    ซาโนฟีเผยว่า ในการขึ้นทะเบียนเสริมกับสหรัฐ บริษัทได้ขอให้สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) ประเมินการเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1 เอ็น 1 คาดว่าจะได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนโดยเร็วเพื่อทดลองกับอาสาสมัคร 2,000 คนในสหรัฐ อาสาสมัครจะได้รับทั้งวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่และวัคซีนพิเศษเสริมภูมิคุ้มกัน

    เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทยาหลายแห่งได้เริ่มทดลองทางคลินิกวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เช่น โนวาร์ติสของสวิตเซอร์แลนด์ ซีเอสแอลของออสเตรเลีย ด้านองค์การอนามัยโลกแนะว่า วัคซีนรุ่นแรกควรได้รับการอนุมัติและพร้อมใช้ในบางประเทศตั้งแต่เดือนหน้า.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-07 15:06:12

    ชาวเนปาลหลายล้านคนเผชิญปัญหาขาดแคลนอาหาร

    [​IMG]

    กาฐมาณฑุ 7 ส.ค. - สหประชาชาติแถลงเตือนว่า ประชาชนหลายล้านคนกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ภายหลังผลผลิตอาหารลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ แถลงว่า ชาวเนปาล 3.4 ล้านคนเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก เนื่องจากราคาอาหารแพงขึ้นและเกิดภัยแล้งต่อเนื่องในปีนี้และปีที่แล้ว ซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี ในแต่ละปีชาวเนปาลจำนวนมากขึ้นต้องเผชิญกับความหิวโหย เนื่องจากผลผลิตอาหารลดลงไม่เพียงพอเลี้ยงประชากรในประเทศที่มีจำนวนมากขึ้น รายงานของโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติระบุว่า ภาวะทุพโภชนาการในเด็กอายุไม่ถึง 5 ขวบมีร้อยละ 48 ส่วนในพื้นที่แถบภูเขามีถึงร้อยละ 60 นับเป็นสถานการณ์โภชนาการเลวร้ายที่สุดในเอเชีย หลายครอบครัวในเนปาลจำเป็นต้องขายที่ดินและลดมื้ออาหารในแต่ละวันลง .-สำนักข่าวไทย

    2009-08-07 16:12:49

    ข่าวภายในประเทศ

    เชียงรายอ่วม ฝนตกพนังกั้นน้ำพังทะลักท่วมหมู่บ้าน

    [​IMG]

    เชียงราย 8 ส.ค. - พนังกั้นแม่น้ำคำพังทลาย ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ 2 ตำบลของอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย กว่า 1,000 หลังคาเรือน

    เจ้าหน้าที่เร่งช่วยชาวบ้านตำบลจันจว้าใต้ และตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ขนย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงไปไว้ที่ปลอดภัย หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้พนังกั้นแม่น้ำคำพังลงทลาย ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านกว่า 1,000 หลังคาเรือน ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากบางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ล่าสุดทหารหน่วยทหารพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 นำกำลังพร้อมเครื่องจักรกลขนาดใหญ่และเรือเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่บางจุดไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และกระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดคอสะพานชำรุด ทั้งนี้ ได้ตั้งจุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากระดับยังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 01:02:46

    ดินถล่มทับชาวบ้านระนองดับ 1 ศพ

    [​IMG]

    ระนอง 7 ส.ค. - ฝนตกหนักทำให้ดินบนเขาบ้านทุ่งคา จ.ระนอง อุ้มน้ำไม่ไหว พังถล่มลงมาทับชาวบ้านที่เข้าไปร่อนแร่เสียชีวิต 1 คน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันค้นหากว่า 4 ชั่วโมง จึงพบร่างซึ่งเสียชีวิตแล้ว

    เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต่างช่วยกันค้นหาร่างของ นางจันทรา พรหมบังเกิด ซึ่งถูกดินจากภูเขาถล่มลงมาทับ บริเวณเหมืองนายช่างประกอบ ซ.พัฒนา หมู่ 1 บ้านทุ่งคา ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง โดยใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงพบร่าง นางจันทรา ซึ่งเสียชีวิตแล้ว

    นายอรุณ เกษจันทร์ สามีผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ คนในครอบครัวทั้งหมด 5 คน รวมถึงผู้ตาย ได้มาร่อนแร่ดีบุกกัน บริเวณร่องน้ำของเหมืองร้าง แต่ขณะกำลังช่วยกันขนหินที่ขวางทางน้ำออก ดินบนภูเขาได้ถล่มลงมาจากความสูง 15 เมตร เป็นร่องลึกถึง 5 เมตร ทำให้ทุกคนต่างหนีเอาตัวรอด แต่ภรรยาหนีไม่ทัน จึงถูกดินทับจนเสียชีวิต

    ล่าสุดป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอันตราย ห้ามประชาชนเข้าไปโดยเด็ดขาด. - สำนักข่าวไทย

    2009-08-07 16:17:56

    คนร้ายซุ่มยิงทหารเจ็บสาหัส 2

    [​IMG]

    นราธิวาส 7 ส.ค.- เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงทหารชุดลาดตระเวนนราธิวาส บาดเจ็บสาหัส 2 นาย คือ พลทหารวินัย ตันวงค์ และ พลทหารพงษ์พิทัก สุวรรณภา ถูกนำตัวส่ง รพ.นราธิวาสนครินทร์ อย่างเร่งด่วน หลังบาดเจ็บสาหัส จากการถูกคนร้ายยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ขณะเดินเท้าลาดตระเวน ถึงบ้านตืองอ ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

    จากการสอบสวนทราบว่า ขณะทหาร จำนวน 8 นาย เดินเท้าลาดตระเวนเส้นทาง รักษาความปลอดภัยประชาชน คนร้ายประมาณ 7 คน ดักซุ่มอยู่ป่าข้างทาง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม และเกิดการยิงปะทะกันขึ้น นานกว่า 10 นาที ก่อนจะอาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป คาดว่าคนร้ายน่าจะบาดเจ็บหลายคน เนื่องจากพบรอยเลือดเข้าไปในป่า ตำรวจ ทหารจึงจัดกำลังออกไล่ล่า ติดตามตัวมาดำเนินคดี. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-07 23:16:47

    สธ.เตรียมเข้มมาตรการควบคุมกาฬโรคตามด้านสินค้าไทย-จีน

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึงการควบคุมกาฬโรคในไทยว่า นอกจากการหาดัชนีหมัดหนู ด้วยการดักจับหนูตามด่านพรมแดน 64 แห่ง มาสางหาหมัดแล้ว ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการป้องกันมิให้หนูที่เป็นสัตว์พาหะเข้ามาพรมแดนไทย เนื่องจากการติดต่อของกาฬโรคเกิดขึ้นจากหมัดในตัวหนู

    ดังนั้น แหล่งสำคัญที่คาดว่าจะมีหนูเดินทางมาได้ คือ ตามด่านท่าเรือ โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูความสะอาดของท่าเรือขนส่ง และรถบรรทุกสินค้าที่เข้ามาทางจีน ซึ่งมี 3 เส้นทาง ได้แก่ ด่านเชียงของ ด่านมุกดาหาร ด่านหนองคาย และให้มีการตรวจสอบเอกสารด้านสุขภาพและสุขาภิบาลของเรื่องและสินค้าอย่างเข้มงวด ซึ่งจากการตรวจหาดัชนีหมัดในตัวหนูวันนี้ พบมีหมัดเพียง 3 ตัว หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.5 ต่อตัวหมัดต่อตัวหนู ซึ่งมีค่าน้อยมาก

    สำหรับประเภทสินค้าที่มีการขนส่งระหว่างไทยได้ ส่วนใหญ่มากจากมณฑลยูนนาน และเป็นสินค้าประเภทหอม กระเทียม แอปเปิล.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-06 17:22:05

    สังคมประณามแก๊งปาหินเสื่อมโทรมด้านจิตใจ ขาดจิตสำนึก

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 8 ส.ค.- สวนดุสิตโพลสำรวจความเห็นผู้ใช้รถใช้ถนน ระบุ “แก๊งปาหิน” เสื่อมโทรมทางด้านจิตใจ ขาดจิตสำนึกต่อคนในสังคม ทำด้วยความคึกคะนอง ทำให้ไม่กล้าขับรถไปต่างจังหวัดยามค่ำคืน ให้มีกฎหมายที่เข้มงวดและบทลงโทษที่เด็ดขาด

    “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศที่มีต่อ “แก๊งปาหิน” จำนวน 1,267 คน ระหว่างวันที่ 5-7 สิงหาคม 2552 พบว่าร้อยละ 42.86 เห็นว่าเป็นการกระทำที่แย่มาก ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ร้อยละ 32.14 ทำให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนรู้สึกกลัวและต้องคอยหวาดระแวงเมื่อขับรถในยามค่ำคืน และร้อยละ 17.86 ระบุเป็นปัญหาสังคมที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุของการเกิดพฤติกรรมดังกล่าว ร้อยละ 67.24 มาจากความคึกคะนอง / ไม่รู้จักคิด ร้อยละ 13.79 อยากดัง /เลียนแบบจากข่าวที่นำเสนอ ร้อยละ 10.34 ขาดการอบรมเลี้ยงดูที่ดีจากครอบครัวและร้อยละ 8.63 กฎหมายไม่เด็ดขาด /บทลงโทษยังไม่รุนแรงพอ

    ด้านความรู้สึกของผู้ที่ใช้รถใช้ถนน ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.84 รู้สึกกังวล เพราะทำให้ไม่กล้าขับรถไปต่างจังหวัดไกลๆ ในตอนกลางคืน ,รู้สึกกลัวและต้องคอยหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ,กลัวเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ,ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจตราในตอนกลางคืน ฯลฯ มีเพียงร้อยละ 24.13 ไม่รู้สึกกังวล เพราะปกติจะขับรถในช่วงกลางวัน ระยะทางไม่ไกลมาก อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 69.06 ไม่แน่ใจต่อการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะสามารถหยุด “แก๊งปาหิน” ร้อยละ 22.30 ไม่เชื่อมั่นว่าจะสามารถหยุด “แก๊งปาหิน” ได้เพราะบทลงโทษไม่เด็ดขาด ,เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวคนปาหินมาดำเนินคดีได้ มีเพียงร้อยละ 8.64 เท่านั้นที่เชื่อมั่นว่าจะสามารถหยุด “แก๊งปาหิน” ได้

    ส่วนวิธีการป้องกันตนเองของผู้ขับรถ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ร้อยละ 45.90 ไม่ขับรถไปต่างจังหวัดหรือขับรถระยะทางไกลๆ ในตอนกลางคืน ร้อยละ 31.15 หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เปลี่ยว มืด ไม่มีบ้านคน และร้อยละ 22.95 รีบทำธุระให้เสร็จในตอนกลางวัน สำหรับแนวทางแก้ไข ร้อยละ 70.34 ให้มีกฎหมายที่เข้มงวดและบทลงโทษที่เด็ดขาด ร้อยละ 18.75 เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหมั่นตรวจตราตามบริเวณที่มีความเสี่ยง และร้อยละ 10.94 ติดตั้งเสาไฟฟ้าตลอดเส้นทางที่มืด และตัดต้นไม้ที่ปกคลุมหรือหนาทึบ

    จากภาพรวมสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทย ณ วันนี้ ร้อยละ 68.63 มีความเสื่อมโทรมทางด้านจิตใจ /การขาดจิตสำนึกที่ดีของคนในสังคมปัจจุบัน ร้อยละ 19.60 ระบุความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเมื่ออยู่นอกบ้านและร้อยละ 11.77 ระบุการไม่เอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและความหละหลวมทางด้านกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 10:36:43

    เชียงใหม่กำชับ 24 อำเภอ รับมือฝนตกหนัก

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 7 ส.ค. - นายประจญ ปรัชย์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

    ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกหนัก ซึ่งในพื้นที่ทางตอนเหนือของเชียงใหม่โดยเฉพาะที่อำเภอฝาง และแม่อาย มีรายงานว่าที่ดอยผ้าห่มปกมีปริมาณฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร ซึ่งเข้าข่ายเสี่ยงภัยธรรมชาติ เพราะบางจุดน้ำเริ่มล้นตลิ่งท่วมพื้นที่การเกษตร จึงประสานแต่ละพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะระยะนี้เชียงใหม่มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง

    ล่าสุดนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ วิทยุด่วนแจ้ง ทั้ง 24 อำเภอแล้ว เพื่อประสานมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังเหตุภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากมีอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอาจจะมีอิทธิพลของพายุโกนีที่เคลื่อนผ่านจีนตอนใต้ลงมาระยะสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีรายงานเหตุภัยธรรมชาติรุนแรง. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-07 14:49:14

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    [​IMG]

    นึกว่ามีเราอยู่คนเดียวซะอีก
    ที่ไหนได้ แอบซุ่มอีกเป็นร้อยเลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Clipboard.jpg
      Clipboard.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7 KB
      เปิดดู:
      1,686
  3. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ภาคเหนือฟิลิปปินส์อ่วม!! เผชิญน้ำท่วม-ดินถล่ม ตาย 12 ศพ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 สิงหาคม 2552 10:54 น
    </TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> พื้นที่ทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม จากฝนที่ตกหนัก สร้างความเสียหายในหลายเมือง โดยเฉพาะ จ.แซมบาเรส ทางตะวันตกของกรุงมะนิลา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟพินาตูโบ เป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
    มีรายงานผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย และดินถล่ม อย่างน้อย 12 คน รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 3 คน และผู้นำของชาวฟิลิปปินส์อีก 2 คน ซึ่งเดินทางขึ้นไปบนภูเขาไฟพินาตูโบ ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
    รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินใน จ.แซมบาเรส และสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่ ขณะที่ชาวบ้านกว่า 1,000 คน ในเมืองโบโตแลน ต้องอพยพเข้าไปอยู่ในโรงเรียน หลังเขื่อนดินบนภูเขาไฟพินาตูโบเกิดรอยแยก ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนถึงหลังคา</TD></TR></TBODY></TABLE>

    แผ่นดินถล่ม!! ในมณฑลเสฉวน สูญหายเกือบ 30 คน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left></TD><TD class=date vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    </TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 สิงหาคม 2552 13:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สื่อทางการจีนรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินถล่มขวางทางแม่น้ำในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศและส่งผลกระทบต่อเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ นอกจากนี้ยังทำให้มีผู้สูญหายไป 29 คน
    แผ่นดินถล่มเกิดบริเวณแม่น้ำต้าตู้ในเขตฮันหยวน มณฑลเสฉวน ตั้งแต่เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยรายงานระบุว่า ผู้ที่สูญหายไป 29 คน เชื่อกันว่า ส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพที่กำลังเดินทางไปยังพื้นที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังมีรายงานรถยนต์อย่างน้อย 10 คันได้รับความเสียหาย แต่รายงานไม่ได้ระบุว่า ผู้สูญหายโดยสารมากับรถเหล่านั้นหรือไม่ ทางการกำลังระดมกำลังออกค้นหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
    ฝนและแผ่นดินถล่มคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 70 คน และสูญหายอีกจำนวนหนึ่งในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ นับแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อากาศยานและสงครามนิวเคลียร์ในครั้งอดีตกาล

    [​IMG]

    นักวิชาการผู้สนใจเรื่องอารยธรรมโบราณทั้งหลายแหล่ มีอยู่ส่วนหนึ่งครับ ที่ปักใจเชื่อมั่นว่า ในอดีตโลกของเรา เคยถูกครอบครองโดยสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากนอกโลกมาก่อน สำหรับท่านที่เข้ามาดูเว็บไซต์นี้บ่อยๆก็คงพอจะเข้าใจแนวคิดนี้ดี อินเดียเป็นหนึ่งในแหล่งอารยธรรมใหญ่ของโลก เคยรุ่งเรืองทั้งศาสตร์และศิลป์มาตั้งแต่อดีตกาล เรารู้จักกันในนามของอารยธรรมลุ่มน้ำ คงคา-สินธุ ครับ กลุ่มชนที่อาสัยในแถบนั้นสืบเชื้อสายมาจากชาวอินโด-อารยัน อันเป็นหนึ่งในเชื้อสายใหญ่ๆของโลก ชาวอินโดอารยันในแถบนี้มีความรู้ทางภาษามากครับ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ปรัชญา วรรณกรรม จึงมีให้เห็นเกลื่อนไปหมด ทว่ามีวรรณกรรมอยู่หลายเรื่องที่เก่าแก่จนหาที่มาที่ไปไม่ได้ว่าเริ่มต้นมาจากไหน บางเรื่องเก่ากว่าต้นกำเนิดของผู้คนในแถบหิมาลายันเสียอีก มหาภารตะ คือหนึ่งในเรื่องราวเหล่านี้ครับ

    จากต้นฉบับภาษาสันสกฤตโบราณที่ถูกค้นพบในอินเดีย และ ปากีสถาน ทำให้นักโบราณคดีถึงกับอึ้งครับ เมื่อพวกเขาแปลพบจารึกเหล่านี้ ร้อนถึงสภามหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัยของกองทัพอินเดียต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการแปลข้อความเหล่านี้ ต้นฉบับสันสกฤตของมหาภารตะถูกค้นพบนานมากแล้วครับ เพียงแต่แรกเริ่มเดิมที ต้นฉบับเหล่านี้ถูกมองเป็นเพียงนิทานเท่านั้น แปลไปแปลมามันไม่ยักกะใช่น่ะซีครับ เพราะเนื้อหาที่กล่าวถึงมันช่างล้ำยุคล้ำสมัยเป็นที่สุด ร้อนถึงหลายๆสถาบันที่เกี่ยวข้องในยุโรปและอเมริกาต้องมาประชุมเครียดกัน เพื่อถกเถียงปัญหาเกี่ยวกับต้นฉบับดังกล่าว ผลสรุปได้ออกมาดังนี้ครับ กลุ่มแรกเห็นว่ามันเป็นเพียง"ตำนาน"เท่านั้น ก็แค่นิทานและจินตนาการของกวี ไม่เห็นมีอะไรซักหน่อย

    แต่อีกกลุ่มเค้าไม่คิดแบบนั้นน่ะซีครับ เค้าบอกว่านี่แหละคือหลักฐานแบบจะๆที่สามารถอ้างอิงได้ว่า ในอดีตมนุษย์เคยมีการติดต่อกับสิ่งทรงภูมิปัญญาจากนอกโลก รวมถึงทำสงครามกันด้วยอากาศยานและเทคโนโลยีทางนิวเคลียร์มาแล้ว ว๊าว... เป็นไปได้ยังไงกัน?

    เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง นักโบราณคดีชาวจีนได้ค้นพบจารึกภาษาสันสกฤตในมณฑลลาซาของทิเบต ภาษาที่ใช้โบราณจนแปลลำบากมาก กลุ่มนักโบราณคดีได้ส่งจารึกชิ้นนี้ไปที่มหาวิทยาลัย Chandrigarh เพื่อขอความช่วยเหลือในการแปล ดร.Ruth Reyna หัวหน้าทีมแปลจารึกชิ้นนี้กล่าว่า เอกสารพวกนี้กล่าว ถึงวิธีการสร้างยานอวกาศครับ! เป็นยานที่ใช้โดยสารระหว่างดวงดาว มีการกล่าวถึงหลักการขับเคลื่อนของวิมานะ ด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า "laghima" (ลักษิมะ) ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไรกันแน่ ดร. Reyna กล่าวต่อไปว่า กลไกการขับเคลื่อนของตัวยานนั้น ตามจารึกเรียกว่า แอสตรา(Astras) สามารถที่จะนำมนุษย์ไปยังดาวดวงใดก็ได้ที่ต้องการ เหลือเชื่อดีมั๊ยล่ะครับ เอกสารโบราณของชาวภารตะเมื่อหลายพันปีก่อนเนี่ย

    นอกจากนี้ เนื้อหาในจารึกยังกล่าวถึง "อันติมะ" ยานยนตร์ที่ล่องหนได้ และ "การิมะ" อากาศยานขนาดใหญ่เท่าภูเขาขนาดย่อม เหมือนนิทานดีนะครับจารึกพวกนี้ แน่นอนว่าทีแรกทีมงานแปลไม่ได้ใส่ใจจารึกพวกนี้มากนัก จนกระทั่งกองทัพสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศว่า จะมีการนำเอาเนื้อหาส่วนหนึ่งของจารึกนี้มาวิจัยในโครงการอวกาศของจีนด้วย นั่นแหละ ทั่วโลกจึงหันมาจับตา "นิทานโบราณ"พวกนี้อย่างจริงจัง

    เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่า จารึกเหล่านี้ขาดหายตกหล่นไปเป็นจำนวนมาก ถึงกระนั้นนักวิชาการรวมไปถึงนักโบราณคดีก็ได้อะไรไม่น้อยจากจารึกนี้ เชื่อไหมครับว่ามีการกล่าวถึงการเดินทางสู่ดวงจันทร์ในมหากาพย์ รามายณะ อากาศยานที่พวกเขาใช้โดยสารเรียกว่า วิมานะ หรือ แอสตรา ที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้นก็คือมีการกล่าวถึง การทำสงครามอวกาศด้วยวิมานะด้วยครับ ระหว่างชาวอินเดียโบราณกับชาว Asvin (ขออ่านว่าอัศวินนะครับ) ด้วย ถ้าเรื่องในจารึกเป็นแค่นิทานหรือนิยาย ก็นับว่าเป็นนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องแรกของโลกที่กล่าวถึงการทำสงครามอวกาศ ก่อนหน้า Star Wars ของ จอร์จ ลูกัส เกือบหมื่นปีเชียวแหละคุณเอ๊ย

    เพื่อเจาะลึกเรื่องวิมานะนี้ให้มากขึ้นอีก ผมขออนุญาตพาท่านย้อนยุคไปยังอาณาจักรโบราณ ซึ่งตามจารึกกล่าว่าเจริญรุ่งเรืองมาเมื่อ 15,000 ปีก่อนหน้านี้ อาณาจักรนี้ชื่อ Rama Empire ครับ ตั้งอยู่ทางเหนือของอินเดียและปากีสถาน นักโบราณคดียืนยันว่า นครเก๋ากึ๊กแห่งนี้ไม่ใช่มีแต่ในนิทานเท่านั้น หากแต่มีอยู่จริงทำนองเดียวกับทรอยและไมซีนี่ เพราะมีการขุดพบโบราณสถาน โบราณวัตถุ ตลอดไปจนจารึกอีกจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ในบริเวณที่ตั้งของนคร ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นทะเลทรายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ร่องรอยของอาณาจักร Rama ยังหลงเหลืออยู่ในตำนานปัจจุบัน

    หลายเรื่องเช่นนครทั้งเจ็ดอันกอปร์ขึ้นเป็นอาณาจักร Rama นี้เรารู้กันกันตามตำนานในชื่อของ "The Seven Rishi Cities." หรือ นครของกษัตริย์ลิจฉวีนั่นเอง

    นครนี้มีคงความเจริญทางเทคโนโลยีไม่แพ้ปัจจุบันทีเดียว เพราะตามจารึกกล่าวถึงความเป็นอยู่ของพลเมืองไว้อย่างพิสดารมาก พวกเขาไปไหนมาไหนกันด้วยพาหนะที่เรียกว่า Vimanas หรือ วิมานครับ ลักษณะของมันประกอบด้วยดาดฟ้าสองชั้น ตัวยานมีลักษณะกลมเหมือนโดม มีรูระบายอากาศโดยรอบ โอ.. ศิวะเทพ! ทุกท่านคิดเหมือนผมไหมครับว่า ลักษระของเจ้าวิมานะเนี่ยช่างละม้ายคล้ายคลึงกับ UFOs เสียจริงๆ ยังมีอีกนะครับ วิมานะสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วยิ่งกว่าสายลม แถมยังมีเสียงเหมือนบรรเลงเครื่องดนตรีสี่ประเภทพร้อมกันอีก วิมานะมีอยู่หลายรุ่นหลายรูปแบบครับ ในจารึกยังมีคู่มือการขับวิมานะประเภทต่างๆ รวมถึงการหลักการสร้างและทำลายวิมานะของข้าศึก เดี๋ยวผมจะเอารายละเอียดให้ดูครับ

    ข้อมูลเกี่ยวกับ -วิมานะ ที่มีอยู่ในจารึก:-

    - ความลับในการสร้างวิมานะให้แข็งแกร่ง ไม่ไหม้ไฟ และไม่ให้โดนทำลายโดยง่ายจากข้าศึก

    - กรรมวิธีขับเคลื่อนวิมานะ การหยุดกลางอากาศ การชะลอความเร็ว, วิธีการทำให้วิมานะ สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากฝ่ายศัตรู

    - การดักฟังคำสนทนาและเสียงอื่นๆในวิมานะฝ่ายตรงข้าม, การตรวจจับและอ่านทิศทางการเคลื่อนไหวของวิมานะฝ่ายศัตรู

    - กรรมวิธีทำให้ผู้ขับวิมานะของศัตรูหมดสติหรือสับสน

    - การทำลายวิมานะข้าศึกด้วยวิธีต่างๆ

    อ่านๆดูแล้วงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับผม ท่านจะเชื่อหรือครับว่านี่คือจารึกโบราณเมื่อหลายพันปีก่อน ถ้ามันเป็นแค่นิทาน ก็นับเป็นนิทานที่เขียนได้เป็นตุเป็นตะดีมาก เพราะมีทั้งการจารกรรม การวินาศกรรม และการขับอากาศยานแบบครบถ้วนกระบวนการเหลือเกิน สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวแบบเต็มๆของเรื่องนี้ รายละเอียดมีอยู่ในงานแปลจารึกที่ถ่ายทอดออกมาจากต้นฉบับสันสกฤตเป็นภาษาอังกฤตครับ รู้สึกจะเป็น MAANIDASHAASTRA AERONAUTICS by Maharishi Bharadwaaja, translated into English and edited, printed and published by Mr. G. R.Josyer, Mysore, India, 1979 นี่แหละ หาอ่านกันตามสะดวกครับ

    ดร. Josyer สถาบันศึกษาภาษาสันสฤษนานาชาติกล่าวว่า จากลักษณะที่ปรากฏในจารึกโบราณหลายๆชิ้น เจ้าวิมานะนี้คงจะไม่ได้เป็นเพียงตำนานเสียแล้ว เขาให้ข้อสังเกตต่อไปว่า วิมานะสามารถขึ้นลงในแนวดิ่งและแล่นไปบนท้องฟ้าได้ด้วยความเร็วสูง หากเจ้าวิมานะไม่มีกลไกบางอย่างที่สามารถต้านทานแรงดึงดูดโลกแล้วล่ะก็ มันคงใช้หลักการขับเคลื่อนแบบเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ในปัจจุบัน คือสามารถขึ้นลงตรงๆได้โดยไม่ต้องอาศัยสนามบิน

    "วิมานะไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยกฤษฎาอภินิหาร แต่มันอาศัยเชื้อเพลิงเป็นตัวขับเคลื่อนครับ เชื้อเพลิงที่ว่าเป็นของเหลวสีเหลืองออกไปทางขาว บางที่ก็ใช้ปรอทเหลวเป็นเชื้อเพลิง รู้สึกว่าผู้จารึกจะสับสนในรายละเอียดของเชื้อเพลิงอยู่มาก มันเหมือนกับว่าเขาเขียนเอาจากการสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ หรือไม่ก้อ้างอิงเอามาจากตำราสมัยก่อนเสียมากกว่า" ดร. Josyer ทิ้งท้ายไว้แบบนี้ครับ เป็นไปได้ไหมครับว่านั่นอาจเป็นเพราะวิมานะมีหลายรุ่น มีทั้งแบบใช้เชื้อเพลิงเจ็ทและใช้ปีกหมุนแบบเอลิคอปเตอร์ คำถามนี้คงไม่มีใครตอบได้ นอกเสียจากจะตามขึ้นไปถามคนจารึกบนสวรรค์

    จากส่วนหนึ่งของมาหกาพย์ มหาภารตะ มีวิมานะอยู่ประเภทหนึ่งครับมีลักษณะเป็นลูกกลมๆ ส่งเสียงดังปานฟ้าผ่า แถมยังวิ่งด้วยความเร็วสูงมาก ลักษณะเหมือน UFOs ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันไม่มีผิดครับ เมื่อเร็วๆนี้เอง มีการแถลงการจากนักโบราณคดีรัสเซียถึงการค้นพบเครื่องยนต์ปริศนา ที่ถ้ำเล็กๆในทะเลทรายโกบี เครื่องยนต์ที่ว่าทำจากแก้วและโลหะ คาดว่าต้องเป็นชิ้นส่วนของยานพาหนะสักอย่างในอดีต ในโคนซึ่งมีลักษณะคล้ายท่อไอเสียของเครื่องยนต์พบสารปรอทตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก เล่นเอานักโบราณคดีกลุ่มนั้นงงเป็นไก่ตาแตก เพราะนึกไม่ออกเหมือนกันว่าใครหนอ ที่มาทิ้งเครื่องยนต์อายุเกือบแปดพันปีเหล่านี้ไว้ในถ้ำเล็กๆ ในทะเลทรายที่ปราศจากผู้คนแบบนี้

    น่าเสียดายครับ ที่วิมานะก็เหมือนอากาศยานที่ใช้กันในปัจจุบัน คือเน้นงานสงครามเป็นหลัก ชาวภารตะโบราณเล่าขานถึงการขับเคี่ยวในเชิงยุทธ ระหว่างพวกเขาและคู่สงครามด้วยวิมานะอย่างน่าฟัง คู่สงครามของพวกเขาเป็นมหานครที่เจริญด้วยอายธรรมเสียยิ่งกว่าพวกเขาอีก ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ Rama Empire ไกลโพ้นออกไปกลางมหาสมุทร ชาวภารตะโบราณเรียกอาณาจักรนั้นว่าอาณาจักรของพวก Asvin และเรียกวิมานะของฝ่ายนั้นว่า Vailixi ครับ

    มีอยู่บทหนึ่ง(ในหลายๆบท)ในมหภารตะที่โด่งดังมากครับ เพราะให้ภาพชัดเจนเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์มาก มีการใช้ขีปนาวุธที่ "ยาวราวเจ็ดชั่วตัวคน ขับเคลื่อนด้วยเปลวไฟในตัวเอง สามารถทำลายเมืองได้ทั้งเมือง" ถล่มกันจากวิมานะ มีอยู่บทหนึ่งกล่าวว่า อาวูธของฝ่ายข้าศึกช่างร้ายแรงราวกับรวมพลังจากทั่วสากลโลกมาไว้ในตัวเอง

    อานุภาพการทำลายเต็มไปด้วยไฟ ควัน และคลื่นความร้อนราวกับดวงอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันทีละสิบดวง อาวุธนี้สามารถแปรสภาพพื้นที่รอบบริเวณได้ในพริบตา มันเผาผลาญธัญญาหารจนเกรียมวายวอดไปทั้งท้องทุ่ง ผู้คนจะผมเผ้าขาวโพลนและหลุดร่วง นกบนท้องฟ้าจะเปื้อนฝุ่นละอองสีขี้เถ้า ตกลงมาตายนับพันตัว มิช้ามินาน อาหารและเสบียงที่มีจะเป็นพิษจนหมดสิ้น วิธีการหนีรอดจากไฟบรรลัยกัลป์นี้ของทหารภารตะโบราณคือ ถอดเสื้อผ้าและชุดเกราะออก ลงไปชำระกายในน้ำครับ เพื่อมิให้ฝุ่นละอองนี้ติดตัว

    จินตนาการหรือครับ? นี่เป็นเพียงจินตนาการหรือการถ่ายทอดภาพของสงครามนิวเคลียร์ให้ชนรุ่นหลัง ได้รับทราบ? โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นด้วยกับเจ้าของหนังสือเล่มที่ผมแกะมานี้มากเลย ระเบิดและฝุ่นกัมตภาพรังสี ผลที่เกิดกับร่างกายมนุษย์ การปนเปื้อนและตกค้างของฝุ่นนิวเคลียร์ ไม่มีอะไรจะต้องสงสัยอีกแล้วว่า เมื่อนานแสนนานมาแล้ว มนุษย์ได้ทำลายล้างกันด้วยอาวุธมหาประลัยชนิดนี้มาก่อนและบันทึกเรื่องราว เอาไว้เพื่อตักเตือนอนุชนรุ่นหลังถึงพิษภัยของมัน

    ในเมืองโมเฮนโจดาโร อดีตชุมชนแสนโบราณบริเวณลุ่มน้ำสินธุ มีการพบว่าโครงกระดูกในสุสานจำนวนมากที่ปนเปื้อนกัมตภาพรังสีอยู่ รวมทั้งกำแพงเมือง และภาชนะบางชิ้นที่หลอมละลายจนกลายเป็นแก้ว เนื่องจากโดน "ความร้อนที่ไม่ทราบที่มา" หลอมละลายจนกลายเป็นแบบนี้

    ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าวิมานะของชาวภารตะโบราณ เกี่ยวข้องอย่างไรกับ UFOs ที่พบเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เพราะตามจารึกแล้ว Rama Empire ล่มสลายไปหมดเนื่องจากสงครามครั้งใหญ่ครั้งนั้น ทว่านักวิชาการส่วนหนึ่งยังมีความหวังอยู่ เนื่องจากในจารึกมีการกล่าวถึงการเดินทางระหว่างดวงจันทร์กับพื้นพิภพด้วยวิมานะ มีการรบกับระหว่างชาวภารตะกับชาว Asvin บนน่านฟ้าเหนือวงโคจรดวงจันทร์ ไม่แน่นะครับ ในหลืบใดหลืบหนึ่งของดวงจันทร์ อาจมีผู้รอดตายจากสงครามครั้งนั้นเหลืออยู่ก็ได้

    โพสต์โดยคุณ TheKingdom วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552, 03:20:00

    ที่มา http://asia-search.com/forum/index.php?topic=863.msg7677
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไต้หวันส่งทหารช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    [​IMG]

    ไทเป 9 ส.ค. – ไต้หวันส่งทหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลายหมื่นคนในเหตุน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ขณะที่ผู้สูญหายเพิ่มขึ้นเป็น 29 ราย

    อิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นมรกตส่งผลให้มีฝนตกหนักทางภาคใต้ของไต้หวันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยวัดปริมาณน้ำฝนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 100 นิ้ว และเป็นผลให้มีน้ำท่วมที่เมืองทางชายฝั่งอย่างน้อย 3 แห่ง ขณะที่คาดว่ามีประชาชนติดค้างอยู่ในพื้นที่ประสบภัยหลายหมื่นคน จนทางการต้องส่งทหารมากกว่า 1,200 นายพร้อมยานพาหนะลำเลียงและเรือยางออกปฏิบัติการกู้ภัยแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

    พายุไต้ฝุ่นมรกตพัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกของไต้หวันเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ด้วยลมกำลังแรงจนทำให้อาคารสูงสั่นไหว รถพลิกคว่ำ ขณะที่ต้นไม้และป้ายสัญญาณจราจรหลายแห่งโค่นล้มลง ไต้ฝุ่นมรกตสร้างความเสียหายแก่ภาคการเกษตรแล้วเป็นมูลค่ากว่า 832 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 900 ล้านบาท) ทั้งเป็นเหตุให้ประชาชนกว่าล้านครัวเรือนขาดแคลนกระแสไฟฟ้าชั่วคราว.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 13:39:18

    ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นมรกตถล่มไต้หวันเพิ่มอย่างน้อย 6 คน

    [​IMG]

    ไต้หวัน 8 ส.ค. - ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นมรกต ที่พัดถล่มไต้หวัน เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 คนแล้ว และบาดเจ็บอีกกว่า 10 คน

    สำนักอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน เผยว่า เมื่อช่วงสายจุดศูนย์กลางของพายุไต้ฝุ่นมรกต ซึ่งมีกำลังแรงลม 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ห่างจากกรุงไทเปราว 30 กิโลเมตร และกำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วลม 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อิทธิพลของพายุทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน นอกจากนี้ยังมีชาวประมงสูญหายอีก 4 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 15 คน

    ด้านศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติของจีน คาดกันว่าพายุไต้ฝุ่นมรกต จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ก่อนขึ้นฝั่งที่มณฑลฟูเจี้ยน และมณฑลเจ้อเจียง ทางตอนใต้ของจีน ในค่ำวันนี้หรือเช้าวันพรุ่งนี้ แต่ทางการได้อพยพประชาชนกว่า 252,000 คน ออกนอกพื้นที่แถบชายฝั่งแล้ว รวมทั้งสั่งปิดโรงเรียนและแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 13:08:12

    มีลูกเรือ 100 คนสูญหายในน่านน้ำตอนใต้จีน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 8 ส.ค.– สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า มีลูกเรือราว 100 คนบนเรือกว่า 10 ลำจากจีน เวียดนาม และกัมพูชา สูญหายไปในน่านน้ำนอกชายฝั่งตอนใต้ของจีน ขณะเกิดคลื่นลมแรงจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโกนี

    ซินหัวรายงานว่า เรือและเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยได้กระจายกำลังออกค้นหานอกชายฝั่งเกาะไหหลำ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีรายงานว่า มีเรือประมงอย่างน้อย 1 ลำล่มลงท่ามกลางพายุ ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานการพัดกระหน่ำของพายุไต้ฝุ่นมรกต ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในไต้หวันแล้ว 2 คน และทำให้สูญหายไปอีก 4 คน และคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนในค่ำวันนี้. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 16:04:50

    เกิดแผ่นดินถล่มขึ้นจีน มีผู้เสียชีวิต 2 สูญหาย 29 คน

    [​IMG]

    จีน 8 ส.ค. - เกิดแผ่นดินถล่มขึ้นในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนทำให้มีผู้สูญหาย 29 คน และส่งผลกระทบต่อเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ

    กระทรวงทรัพยากรน้ำของทางการจีนเผยว่า เหตุแผ่นดินถล่มครั้งนี้ เกิดที่มณฑลเสฉวน บริเวณแม่น้ำต้าตู้ในเขตฮันหยวน โดยดินได้ถล่มลงมาขวางทางน้ำ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 18 คน และสูญหายอีก 29 คน เชื่อกันว่า ส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพที่กำลังเดินทางไปยังพื้นที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังมีรายงานรถยนต์อย่างน้อย 10 คัน ได้รับความเสียหาย จนถึงขณะนี้ทางการยังคงระดมกำลังออกค้นหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 15:08:23

    จำนวนคนเสียชีวิตจากเรือข้ามฟากล่มที่ตองกาเพิ่มอย่างน้อย 87 คน

    [​IMG]

    ตองกา 8 ส.ค. - ที่ตองกา ตำรวจแถลงวันนี้ว่าจำนวนคนเสียชีวิตจากเรือข้ามฟากล่มเมื่อกลางสัปดาห์เพิ่มเป็นอย่างน้อย 87 คนแล้ว

    เจ้าหน้าที่แก้ไขจำนวนคนอยู่บนเรือปรินเซส อะชิกะซึ่งจมก่อนเที่ยงคืนวันพุธที่ผ่านมา จาก 79 คน เป็น 141 คน หลังสอบปากคำผู้รอดชีวิต ผู้บัญชาการตำรวจตองกาบอกว่า หายนะภัยทางเรือครั้งนี้เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศ จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน อีก 85 คน ยังหาไม่พบ ส่วนจำนวนคนที่รอดชีวิตมี 54 คน

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ซึ่งเดินทางถึงตองกาเมื่อคืนที่ผ่านมาจะสำรวจพื้นที่บริเวณที่เรืออะชิกะจมก่อนจะพยายามกู้ศพที่ติดอยู่ในเรือ นายกรัฐมนตรีตองกาปฏิเสธข้อกล่าวหาของชาวตองกาที่ไม่พอใจซึ่งระบุว่าเรือข้ามฟากเป็นเรือเก่าที่ไม่เหมาะสำหรับออกทะเลแล้ว ผู้รอดชีวิตเล่าว่าเรือจมอย่างรวดเร็วและคนที่อยู่ใต้ดาดฟ้าเรือหนีไม่ทัน. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 12:39:33

    ผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 ในมาเลเซียเพิ่มเป็น 18 คนแล้ว

    [​IMG]

    กัวลาลัมเปอร์ 8 ส.ค.- นายเลียว เตียง ไล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิตอีก 3 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ เพิ่มเป็น 18 คนแล้ว

    ผู้เสียชีวิต 3 รายล่าสุด เป็นเด็ก 2 คน และผู้สูงอายุ 1 คน โดยเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในมาเลเซียตั้งแต่เดือน พ.ค.จนถึงวันนี้ มีจำนวน 1,578 คน.- สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 16:57:40

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. jho7799

    jho7799 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    สั่งสมไว้เยอะเยอะนะครับจะได้มาเกิดนานนาน ไม่น่าเชื่อนะครับว่ายังมีคนแบบนี้ในโลก อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระใหญ่ลงอเวจี
    (พระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    [​IMG]
    ภาพพระเทวทัตถูกธรณีสูบลงอเวจีมหานรก

    หลังจากฉันฟื้นจากตายได้ไม่ครบ ๑ ปีดี พระที่ท่านยายกับท่านแม่ชอบนิมนต์มาเทศน์ และเป็นพระองค์เดียวกันกับที่ท่านหาว่าฉันมีอารมณ์ใกล้บ้า เพราะชอบเอาเรื่องของคนตกนรกมาเล่าให้ท่านยายฟังเกือบทุกวัน ​

    ทั้งนี้เพราะท่านยายชอบฟังเรื่องคนตกนรก และเขาทำอะไรมาจึงลงนรก เพราะท่านยายชอบฟังเรื่องนรกนี่เอง ฉันก็เลยต้องลงนรกเป็นประจำวัน เวลาไปนรกฉันไปไหนไม่ได้ นอกจากยืนอยู่ที่ยอดเขาที่ตาลุงแกสั่งว่าห้ามเข้า ​

    ความจริงมีสิทธิ์จะไปได้ แต่ทว่าตอนนั้นฉันเป็นเด็กไม่รู้เรื่องธัมมะธัมโมอะไรกับเขาเลย ปกติก็เป็นคนเคารพในคำสั่งของท่านยายและท่านแม่เคร่งครัดอยู่แล้ว เรื่องคำสั่งไม่เคยละเมิด เว้นไว้แต่เป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็เลยไม่ถูกลงโทษเพราะขัดคำสั่ง แม้อยู่โรงเรียนเรื่องขัดคำสั่งไม่เคยถูกลงโทษเลย เมื่อไปเมืองนรกก็เลยไม่กล้าขัดคำสั่งตาลุง แต่ก็ทำให้ตาลุงคนนั้นลำบากไม่น้อย เพราะถ้าฉันเกิดสงสัยไม่เข้าใจอะไร ฉันก็นึกถึงตาลุงคนนั้น เมื่อนึกถึงแก ๆ ก็มาหาทันที ถามอะไรแกก็บอกให้ฟังละเอียดตามที่ต้องการรู้ ​

    เมื่อฉันได้ยินข่าวว่าท่านเจ้าคุณที่คุณยายนับถือมาตาย ท่านเจ้าคุณองค์นี้ฉันไม่ไหว้และไม่ยอมประเคนของ ด้วยเกลียดท่านที่ท่านหาว่าเรื่องนรกที่ฉันเล่าให้ท่านยายฟังเป็นเรื่องโกหกพกลม ตัวท่านเองท่านพูดว่า บวชมา ๓๐ ปีเศษแล้ว ไม่เคยเห็นนรกสักนิด ฉันเลยเกลียดท่าน ด้วยคิดว่าพระแบบนี้หลอกลวงชาวบ้านหากิน เป็นความคิดของเด็กโง่ที่ยังไม่ได้ศึกษาธรรม เลยไม่ยอมเคารพ แม้แต่นิ้ว ๑๐ นิ้ว ก็เสียดายเวลาที่จะยกมือไหว้ท่าน ​

    เมื่อท่านมา ท่านยายให้ประเคนของก็ไม่ยอมประเคน โดยเรียนท่านยายต่อหน้าท่านว่า พระที่มีความสามารถไม่เท่าเด็กไม่อยากให้อะไร ท่านโกรธมาก เพราะท่านเป็นเจ้าคุณ วัดอยู่ฝั่งพระนคร ท่านมีศักดิ์ใหญ่ แต่ท่านจะทำอะไรฉันได้ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของท่าน ท่านยายไม่กล้าขัดใจฉัน ​

    เมื่อทราบข่าวว่าท่านเจ้าคุณตาย ท่านยายไปเยี่ยมศพท่าน ไม่ได้ชวนฉันไป ถ้าชวนฉันก็ไม่ไปเพราะเกลียดมาก เมื่อท่านอยากไปเยี่ยมศพท่านเจ้าคุณ ฉันว่างเพราะไม่มีคนสั่งงาน ฉันไปนั่งเล่นที่ชานบ้าน บ้านอยู่ริมน้ำ มีต้นจากที่ปลายสะพาน ๑ ต้น ฉันไปนั่งในต้นจาก เอากระดานพาดทางจาก ด้วยจากต้นนั้นท่านยายปลูกไว้นาน ต้นใหญ่มาก เมื่อลมพัดเย็นสบายใจก็เลยคิดว่าท่านเจ้าคุณท่านตายแล้วท่านจะไปทางไหน จะไปถามตาลุงดู ​

    จึงนึกถึงพระรูปสวยองค์ที่เคยมาหาฉัน พอภาวนาว่าพุทโธ ๓ คำ ท่านก็มาหา ท่านยิ้ม ก็กราบเรียนท่านว่าผมอยากไปดูนรก ท่านยิ้มอีกครั้ง ฉันก็ปรากฏตัวอยู่บนยอดเขาลูกที่เคยไป เมื่อไปถึงก็นึกถึงตาลุงๆก็มาหา แกถามว่าหลานต้องการพบทำไม บอกแกว่าได้ข่าวว่าพระตาย ๑ องค์ มีชื่อว่า.... เขามีชื่อว่าอะไรจะบอกชาวบ้านทำไม ไม่บอกให้รู้แต่บอกให้ตาลุงรู้ เมื่อตาลุงทราบแล้วก็บอกว่าเขาตัดสินแล้ว ขณะนี้อยู่ในอเวจี ​

    ถามแกอีกว่าพระตกนรกด้วยหรือ แกตอบว่า พระตกนรกเป็นประจำ เพราะพระบวชแล้วไม่ทำตัวเป็นพระก็ต้องตกนรก ถามแกว่า พระเทศน์สอนชาวบ้านเรื่องนรกสวรรค์ได้ ทำไมต้องตกนรก แกตอบว่า ก็พระดีแต่สอนชาวบ้าน ตัวเองไม่ได้ปฏิบัติตนตามที่สอนเขา บอกให้คนอื่นทำดี แต่ตัวไม่ทำด้วย พระอย่างนี้ลงนรกหมด และมีโทษหนักมาก ฉันอยากเห็นท่านเจ้าคุณ ก็บอกตาลุงว่าผมอยากเห็นท่านเจ้าคุณ แกก็บอกว่าได้ แล้วก็ร่ายเวท แกยกมือขึ้นเท่านั้นเองแล้วก็ปรากฏว่าภาพอเวจีมาปรากฏใกล้ตัวฉัน ฉันเห็นท่านเจ้าคุณฉันก็จำได้ ภาพของท่านที่ปรากฏมีดังนี้​

    ๑. ยืนกางแขน มีหอกปักจากเพดานเหล็กด้านบนปักติดอยู่ที่มือทั้ง ๒ ข้าง ปลายด้ามหอกติดเพดาน หัวหอกติดพื้นเหล็กด้านล่างที่เป็นพื้น​

    ๒. หอกปักด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง ตรงหัวสลับกัน ส่วนหอกด้านปลาย และด้าม ตรึงติดกำแพงเรื่องหอกเว้นพรรณนา เป็นอันว่าปักยึดจนขยับเขยื้อนไม่ไหว ถามท่านลุงว่า ท่านเจ้าคุณมีโทษอะไร มีหอกปักตรึงแล้วมีเปลวไฟละเอียดร้อนมากกว่านรกทุกขุมพุ่งมาเผาตลอดเวลา ตาลุงบอกว่าลุงจะไม่บอก จะให้ท่านบอกเอง ​

    แล้วตาลุงก็บอกให้แกขึ้นมาหา พอตาลุงเรียก ปรากฏว่าเครื่องพันธนาการหลุดหมด ไฟดับ ท่านเดินขึ้นมา ท่านเห็นฉันเข้า ท่านกล่าวขออภัย ท่านลุงบอกว่าการขออภัยขณะนี้ไม่มีประโยชน์ เพราะโทษที่เหยียดหยามผู้ทรงฌาน ถูกตัดสินแล้ว ฉันถามท่านลุงว่าใครเป็นผู้ทรงฌาน ท่านลุงบอกว่าเธอนั่นแหละเป็นผู้ทรงฌาน คำนี้ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันคิดว่าเมื่อฉันจะมาฉันเดินไปที่ชานบ้านไปที่สะพานติดกับชาน ฉันเอาสะพาน พาดก้านจาก เพราะเหตุนี้กระมังที่เขาเรียกว่าผู้ทรงฌาน แต่ฉันก็ไม่ได้ถามเรื่องนี้กับตาลุง ตาลุงบอกให้ท่านเจ้าคุณนรกบอกเรื่องที่ตนทำผิดเมื่อตายแล้วลงอเวจี ท่านเจ้าคุณบรรยายให้ฟังดังนี้​

    ๑. เมื่อบวชแล้วไม่สนใจในการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ สมถะ วิปัสสนา ไม่เคยสนใจ ผิดความหมายของพระ ด้วยพระเป็นสรณะที่พึ่งระดับ ๑ ใน ๓ ระดับ เมื่อทำตนไม่สมควร จัดเป็นความผิด คือ เป็นคนลวงโลกหลอกลวง ชาวบ้านว่าเป็นพระ เอาเปรียบชาวบ้าน​

    ๒. ศึกษาพระปริยัติธรรมแล้วไม่ยอมประพฤติตามธรรม มุ่งเอาความรู้ไปสอนชาวบ้าน เป็นทางนำทรัพย์สินให้เกิดแก่ตน ไม่เคยนำทรัพย์นั้นๆ ไปสงเคราะห์ส่วนสาธารณะประโยชน์หรือบำรุงพระศาสนา เอาไปซื้อที่ดิน ซื้อทอง ให้กู้ อันเป็นวิสัยของฆารวาส พระท่านห้ามไม่ให้ทำ แต่ฝืนทำ​

    ๓. เมื่อมีทรัพย์ก็มีความทะเยอทะยานอยากได้ยศ เมื่อมียศแล้วก็เมายศคิดว่าตัววิเศษ แม้แต่ผู้ทรงฌานแกพูดแล้วแกชี้มาที่ฉัน ก็ยังกล้าคัดค้านเหยียดหยาม เป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง​

    ๔. ในฐานะที่ท่านเป็นพระทรงสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ สมัยนั้นพระราชาคณะ ไม่มีสะพรั่งเหมือนดอกเห็ดอย่างสมัยนี้ ใครเป็นพระครูหรือเจ้าคุณ ศักดิ์ศรีท่านใหญ่น่าดู เจ้าคุณหายากเหมือนหาหัวอุตพิด และมีพิษมาก ฃเพราะจะไปที่ไหนต้องต้อนรับกันอย่างเจ้า (เจ้าไม่มีศาล) เมื่อเป็นพระมีศักดิ์ใหญ่ อำนาจก็ต้องใหญ่ ครองความเป็นใหญ่ไว้มาก ลูกน้องใต้บังคับบัญชาก็มาก ใครอยากได้ยศได้ตำแหน่งก็ต้องเสียเงินตามอัตราของตะกร้าใหญ่ ต้องนิมนต์เทศน์ติดเงินก้อนใหญ่ๆ เวลามาขอยศขอตำแหน่งก็ต้องหาพานมาประเคนมีแบงค์ใบใหญ่ๆ ท่านก็เลยกลายเป็นพระมหาเศรษฐีใหญ่ มีลูกหนี้ใหญ่ ๆ คือมีเงินให้กู้มาก ๆ มีทองจำนำเส้นใหญ่ๆ มีกระเป๋าใส่เงินใบใหญ่ ๆ แล้วก็เลยตกนรกขุมใหญ่ มีความทุกข์ทรมานใหญ่ รวมความแล้วท่านเป็นพระใหญ่ หลอกลวงใหญ่ เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ ตกนรกขุมใหญ่ สมกับวาสนาบารมีใหญ่​

    ได้ถามท่านว่า ขณะนี้มีทรัพย์สินอะไรที่พอจะเป็นเครื่องยืนยันความใหญ่ของท่านบ้าง ท่านตอบว่า ตามที่คณะกรรมการสำรวจสิ่งของที่ได้แล้วขณะนี้ มีเงินสดอยู่ ๗๓,๐๓๒.๗๕ บาท ทองคำที่รับจำนวนไว้ ๓๕ บาท ทองคำที่ซื้อไว้เองเพื่อเตรียมหมั้นแม่สาวน้อยเจ้าของร้านขายของมีค่ามีน้ำหนัก ๕๐ บาท ของที่คณะกรรมการตรวจพบไม่ได้ คือ เงินที่ชาวบ้านกู้ไปอีก ๔ หมื่นบาทเศษ อันนี้ไม่มีหลักฐาน ถามท่านว่าของที่ว่ามีขณะนี้อยู่ที่ไหน ท่านบอกว่าคณะกรรมการควบคุมไว้ ถามท่านอีกว่าวันนี้คุณยายไปเยี่ยมศพท่าน คุณยายจะทราบเรื่องนี้ไหม ท่านตอบว่าทราบ เพราะกรรมการเขาเขียนทรัพย์สินที่ค้นได้ใส่แผ่นกระดาษประกาศไว้ ดีใจที่ได้หลักฐานมายืนยันกับท่านยาย​

    ๕. ที่ท่านว่าเป็นกรรมหนักในฐานะที่ท่านเป็นพระปลอม คือ บวชแต่ตัว และมัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ และกามสุข มีพระที่มีศีลบริสุทธิ์บ้าง มีสมาธิตั้งมั่นบ้าง มีวิปัสสนาดีที่เป็นอริยเจ้ามาไหว้ท่าน ท่านก็เลยทำใหญ่ในฐานะเป็นเจ้าคุณ กรรมนี้อีกข้อหนึ่งที่ชวนท่านลงอเวจี
    เมื่อได้เรื่องแล้วก็ดีใจมาก ลาตาลุงกลับ ท่านเจ้าคุณก็ลงนรกไปตามตำแหน่งใหญ่ของท่าน เมื่อคุณยายกลับก็เอาเรื่องทรัพย์สินของท่านเจ้าคุณออกบรรยาย คุณยายตกใจมาก ถามว่า พ่อเล็กรู้มาได้อย่างไร เรียนท่านว่าเมื่อคุณยายไปฝั่งโน้น ฝั่งพระนคร ชาวธนบุรีเรียกว่าฝั่งโน้น สมัยนั้นจากตลิ่งชันก็ไปลำบาก ต้องมีเรือยนต์หรือไปเรือโดยสาร ที่บ้านไม่มีเรือยนต์ก็ต้องอาศัยเรือโดยสารขนาดเล็กของพระยาภิรมย์ภักดี ออกเป็นเวลา วันหนึ่งเรือออกไม่เกิน ​

    ๕ เที่ยว การที่จะแอบอ่านป้ายเอามาเบ่งนั้นไม่มีทางทำได้แน่ เมื่อคุณยายท่านฟังแล้วท่านจึงแปลกใจถามว่าทราบมาได้อย่างไร จึงเรียนท่านว่า เมื่อคุณยายไปเยี่ยมศพท่านเจ้าคุณ ผมก็ไปสืบทางเมืองนรก พบท่านเจ้าคุณลงอเวจี ท่านลุงเรียกมาให้เล่าความประพฤติเมื่อท่านมีชีวิต ท่านเจ้าคุณบอกให้ฟัง ผมจึงทราบ เมื่อพูดจบท่านยายก็เรียกน้าสมใจที่ไปด้วยให้เอากระดาษที่จดทรัพย์สินท่านเจ้าคุณที่คณะกรรมการเขียนประกาศไว้ น้าสมใจอ่านให้ท่านฟัง เมื่ออ่านแล้วน้าสมใจก็บอกว่าตรงกันทุกอย่าง ท่านยายถึงกับเปล่งอุทานว่าไม่น่าเลย พระใหญ่พระโตทำไมเลวทรามอย่างนี้ พ่อเล็กไม่เคารพนั้นถูกแล้ว ยายเองเสียอีกยังโง่กว่าพ่อเล็ก​

    นี่เป็นมุมหนึ่งของนรกที่ใคร ๆ ก็สามารถเห็นได้บวชเพื่อความเป็นพระ แต่ถ้าท่านบวชกันเพื่อแสวงหาความรู้มาเป็นอาชีพ หรือเพื่อยศศักดิ์ เพื่อลาภผล เพื่อเป็นเหยื่อล่อสตรีที่เห็นว่าดีว่างาม ท่านไปตามท่านเจ้าคุณองค์นี้ ถ้าบวชแล้วปฏิบัติตามคำปฏิบัติตามคำปฏิญาณที่ให้ไว้เมื่อวันบวชว่า "นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา ปัพพาเชถะ มัง ภันเต" เขียนตัวหนังสืออาจพลาดจังหวะบ้างก็ช่างมัน แปลความว่า ท่านทั้งหลาย ข้าฯ ขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน เป็นอันว่าท่านที่บวชเพื่อเข้าถึงพระนิพพานทุกองค์ เรื่องเห็นนรกสวรรค์เป็นเรื่องกล้วย ๆ ไม่มีอะไรหนักเลย ถ้าทำไม่เห็นก็จงทำตามแบบเจ้าเล็กเด็กอายุ ๑๒ ปี เอาแบบฉบับของเจ้าเด็กคนนี้เป็นครู มันก็คงไม่ยากอะไรเลย คุณยายหลังจากทราบเกียรติความดีเด่นระดับอเวจีของท่านเจ้าคุณแล้ว ต่อนั้นมาท่านพยายามหาแต่พระที่ควรบูชาเท่านั้น คนที่เป็นนักดูพระก็คือเจ้าเล็กคนเดนตายนั่นเอง เมื่อท่านยายปรึกษาจะหาพระมาเทศน์ เจ้าเล็กก็ต้องไปหาตาลุง ตาลุงก็ชี้พระพอที่จะพบได้ในสมัยนั้น อยู่ไม่ไกลเกินไป ก็คือ​

    ๑. ท่านพระครูพิทักษ์สุวรรณบรรพต คณะ ๑๑ วัดสระเกศ จ.พระนคร
    ๒. ท่านอาจารย์พริ้ง วัดมะกอก จ.พระนคร
    ๓. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ จ.ธนบุรี
    ๔. หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๕. หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๖. หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๗. หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
    ๘. หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี​

    แกบอกว่ามีอีกมาก เป็นพระอริยะก็มี เป็นพระโพธิสัตว์ก็มี ที่บอกมาแล้วนั้นมีทั้งพระอริยะและพระโพธิสัตว์ ทำบุญด้วยผลมากกว่าการลงทุน ท่านยายเคยรู้จักหลวงพ่อปานมาก่อน เมื่อเห็นหลวงพ่อปานติดอยู่ในบัญชีพระดีก็เลยไม่ไปไหน เกาะหลวงพ่อปานแจ คือ ยึดความรู้ที่หลวงพ่อปานสอนแบบง่าย ๆ ท่านภาวนาคำว่าพุทโธจนท่านสิ้นลมปราณ คือ พอขาดเสียง ท่านก็หมดลมพอดี ตอนจะตายถามท่านว่าคุณยายเห็นอะไร ท่านตอบว่าเห็นพระพุทธ ถามท่านว่าสวยไหมครับ ท่านบอกว่าสวยมาก และท่านก็บอกว่าพระท่านสวยมากขึ้นทุกที ​

    ในที่สุดหลวงพ่อองค์ยิ้มท่านก็มา ท่านใกล้จะสิ้นลมปราณเต็มที แต่ท่านสติดีมาก ท่านยิ้มทั้ง ๆ ที่ปากก็ว่าพุทโธ ท่านบอกว่า พ่อเล็ก หลวงพ่อองค์ยิ้มของหลานมาหายายแล้ว ถามว่าคุณยายอยากไปไหนครับ คุณยายบอกท่าน ท่านพาไปได้ ท่านยายบอกว่ายายไม่อยากเกิด ยายเบื่อเกิด ถามว่าท่านว่าอย่างไร ท่านยายบอกว่า ท่านยิ้มแล้วบอกว่าจะเอาไปพักในที่ไม่ต้องกลับมาเกิด ต่อไปจะสบายมาก ท่านยายเรียก พ่อเล็กจุดธูปให้ยาย ๕ ดอก เอาดอกบัวมา ๕ ดอก จุดเทียนด้วย ยายจะเอาไปไหว้พระจุฬามณี ยายเห็นบ้านยายแล้ว พระท่านชี้ให้ดู เมื่อจุดธูปเสร็จบอกท่านให้ทราบ ท่านบอกว่า ท่านขอลาทุกคน อะไรที่ล่วงเกินกันขอให้ต่างอภัยกัน แล้วท่านก็ว่าพุทโธ ๆ ๆ จนท่านสิ้นลมปราณ เมื่อคุณยายตายก็เลยถือโอกาสไปหาท่านลุง เมื่อพบแล้วถามท่านว่าคุณยายไปอยู่ที่ไหน ท่านลุงบอกว่าอยู่ดาวดึงส์ ถามว่าท่านยายจะมาเกิดอีกไหม ท่านลุงบอกว่า บารมีเขาดี เขาจะนิพพานบนสวรรค์ ฉันฟังแล้วไม่รู้เรื่องเลยว่านิพพานเป็นอย่างไร ​

    คัดลอกมาจากหนังสือ ประวัติหลวงปู่ปาน หน้าที่ 17-19


    [​IMG]

    หมายเหตุ

    ที่ผมจำเป็นต้องนำเรื่อง"พระใหญ่ลงอเวจี" นี้มาโพสไว้ในกระทู้นี้ก็เพื่อจะเตือนสติให้ผู้ที่ชอบใช้ "วจีกรรม" ทำร้ายจิตใจของผู้อื่นอยู่เป็นอาจิณกรรม จะได้รู้ว่า จะต้องรับผลแห่งการใช้คำพูด ทิ่มแทงจิตใจของคนอื่นนั้น จะต้องได้รับผลกรรมอย่างไรบ้าง เนื่องด้วยคำทำนายส่วนใหญ่ในกระทู้นี้ เป็นคำบอกเตือนมาจากพระอริยเจ้าผู้ทรงศีลทรงธรรมอันบริสุทธิ์ และจาก "ผู้ทรงฌาน" ทั้งที่เป็นพระและฆราวาสอีกหลายท่านด้วยกัน

    การแสดงความคิดเห็นที่ "ไม่เห็นด้วย" ด้วยถ้อยคำที่สุภาพนั้นไม่ผิด แต่การเลือกใช้ถ้อยคำที่ เสียดสี กระทบกระแทก แดกดัน เยาะเย้ย ถากถาง ประชดประชัน อาฆาตมาดร้าย ให้ผู้ฟังเกิดความเจ็บช้ำน้ำใจนั้น เป็นการล่วงละเมิดในกรรมบถ 10 ด้านวจีกรรม เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ทรงฌาน และพระอริยสงฆ์อีกหลายองค์ด้วย

    เพราะฉะนั้นท่านที่ตั้งใจ กดปุ่มอนุโมทนา (ร่วมยินดีในการกระทำ) ให้กับคำพูดที่เหยียดหยามผู้ทรงฌานเหล่านั้น ก็ย่อมจะได้รับผลกรรมนั้นร่วมกันไปด้วย ผมจึงจำเป็นต้องนำเรื่องพระใหญ่ลงอเวจีนี้ มาโพสเอาไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ไม่ให้ผู้ใดทำตามและไม่ให้ผู้ใดเอาเป็นเยี่ยงอย่างครับ

    **********************************************​
    <!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยน้ำท่วมเชียงราย

    [​IMG]

    เชียงราย 9 ส.ค.- มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก มอบถุงยังชีพช่วยชาวเชียงรายที่ประสบภัยน้ำท่วม ล่าสุดลำน้ำแม่ต๊ากเอ่อท่วมหนัก อ.พญาเม็งราย เดือดร้อนกว่า 500 ครัวเรือน

    ศาสตราภิชาน นพ.พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 700 ชุด มอบช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน ต.แม่คำ และ ต.จันจว้า อำเภอแม่จัน จ.เชียงราย จากนั้นศาตราภิชาน นพ.พิชิต เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของผู้ประสบภัยรายหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 261 ม.13 ต.แม่คำ ของนายหวัง สิทธิชัยวงศ์ อายุ 70 ปี ที่ต้องดูแลนายปั๋น สิทธิชัยวงศ์ อายุ 45 ปี ลูกชายที่พิการ

    ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.เชียงราย ล่าสุด (9 ส.ค.) ยังคงมีฝนตกหนักใน อ.พญาเม็งราย ส่งผลให้ลำน้ำแม่ต๊าก เพิ่มสูงและล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน 4 ตำบล 34 หมู่บ้าน คือ ตำบลแม่เปา ตำบลตาดควัน ตำบลเม็งราย และตำบลแม่ต่ำ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน ถนนหลายสายจมน้ำเกือบ 1 เมตร รถเล็กสัญจรไม่ได้ รวมทั้งนาข้าว ไร่ข้าวโพด และสวนผลไม้ถูกน้ำท่วมเช่นกัน โดยเฉพาะนาข้าวกว่า 1,000 ไร่ ที่เพิ่งปักดำ ชาวบ้านเร่งอพยพสิ่งของและสัตว์เลี้ยงขึ้นบนที่สูง.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 17:07:33

    ใกล้วันแม่ ดอกมะลิที่จันทบุรีราคาพุ่งเกินเท่าตัว

    [​IMG]

    จันทบุรี 9 ส.ค.-ราคาดอกมะลิในจังหวัดจันทบุรีขยับขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเข้าใกล้ช่วงวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม จาก กิโลกรัมละ 150 บาท เป็นกิโลกรัมละ 350 บาท ร้านร้อยพวงมาลัยสู้ราคาไม่ไหวหันไปใช้ดอกรักแทน

    นางสมเพชร สายประเสริฐ ผู้ค้าส่งดอกไม้ในจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาดอกมะลิตามสวนมะลิต่าง ๆ ในจังหวัดมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณกิโลกรัมละ 150 บาท เพิ่มเป็น 350 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่แพงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี และแม้จะมีราคาแพงขึ้น แต่ปรากฏว่า ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ สาเหตุเนื่องจากขณะนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อดอกมะลิจากหลายจังหวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เข้าไปยังจังหวัดจันทบุรี

    นางสมเพชร กล่าวว่า ผลจากดอกมะลิที่ราคาแพงมาก ทำให้ผู้ค้าพวงมาลัยหลายรายในจังหวัดจันทบุรี สู้ราคาไม่ไหว ต่างหันไปใช้ดอกไม้ชนิดอื่นนำมาร้อยมาลัยแทนดอกมะลิ โดยเฉพาะการใช้ดอกรัก ซึ่งมีราคาถูกกว่าดอกมะลิหลายเท่าตัว และหาง่ายได้กว่า ซึ่งหากใน 1 – 2 วันนี้ ราคาดอกมะลิยังไม่ปรับลดลงมา ผู้ค้าพวงมาลัยจำนวนไม่น้อยอาจต้องจำหน่ายมาลัยดอกรักในวันแม่ แทนดอกมะลิ.- สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 10:01:05

    แก๊งปาหินเส้นทางใต้อาละวาดหนักคืนเดียวโดน 12 คันรวด

    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 9 ส.ค.- แก๊งปาหินเส้นทางลงสู่ภาคใต้โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและรอยต่อกับจังหวัดชุมพร อาละวาดหนัก คืนเดียวรถโดนปาหินใส่ 12 คัน ทั้งรถทัวร์ รถกระบะ รถบรรทุก

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า ตั้งแต่กลางดึกจนถึงช่วงใกล้สว่าง แก๊งปาหินได้ออกอาละวาดอย่างหนักบนถนนสายเอเชีย 41 ตั้งแต่เขตอำเภอบ้านนาสาร ไปจนถึงรอยต่อจังหวัดชุมพร โดยเฉพาะที่เกิดเหตุห่างจากสี่แยกอำเภอท่าชนะมาประมาณ 1 กิโลเมตรครึ่ง มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ร่องกลางถนน แล้วใช้หนังสติ๊กยิงใส่กระจกรถทัวร์ปรับอากาศได้รับความเสียหายที่บริเวณกระจกด้านหน้าและกระจกด้านข้าง จำนวน 6 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่พื้นที่ สภ.ท่าชี อำเภอบ้านนาสาร รถกระบะ ถูกปาหินกระจกแตกทั้งบาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

    ส่วนที่บริเวณรอยต่อจังหวัดชุมพรกับสุราษฎร์ธานี นายประทีป แก้ววิเศษ ผู้ขับขี่รถทัวร์ ของบริษัทสมบัติทัวร์ กล่าวว่า ได้ขับรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ช่วงหัวค่ำ มุ่งหน้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะรถวิ่งมาใกล้จะถึงสี่แยกละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร ในเวลาประมาณ 04.00 น. ถูกคนร้ายขว้างก้อนหินขนาดใหญ่มาจากข้างทางถูกกระจกด้านหน้าบริเวณคนขับแตกเป็นแผลใหญ่ แต่โชคดีไม่ทะลุ จึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ละแม เป็นหลักฐานแล้ว

    นายประทีป ระบุว่า ในบริเวณดังกล่าวยังมีรถทัวร์ปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด อีก 2 คัน รถทัวร์ปรับอากาศของ บริษัท ศรีสุเทพทัวร์ และรถบรรทุก 10 ล้อ 1 คัน ถูกปาก้อนหินใส่กระจกด้านหน้าทะลุเข้าไปข้างในกระจกแตกละเอียด แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ – สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 09:58:44

    น้ำท่วมเพิ่มอีก 2 ตำบล อ.เชียงแสน

    [​IMG]

    เชียงราย 9 ส.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย เริ่มคลี่คลาย แต่น้ำได้ไหลไปท่วมบ้านเรือนราษฎรใน 2 ตำบลของอำเภอเชียงแสน โดยระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

    แม้ว่าระดับน้ำที่ท่วมขังในบางตำบลของอำเภอแม่จัน จะเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่ยังมีบ้านเรือนราษฎรในตำบลจันจว้า ตำบลจันจว้าใต้ และตำบลแม่คำ กว่า 300 หลังคาเรือน รวมทั้งพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมขังสูง อีกทั้งน้ำในแม่น้ำคำยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในตำบลศรีดอนมูล และตำบลป่าสัก ของอำเภอเชียงแสน ที่อยู่ด้านล่างอีกกว่า 500 หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรอีกหลายพันไร่ โดยเฉพาะที่บ้านศรีบุญยืน หมู่ 10 ในตำบลศรีดอนมูล ระดับน้ำท่วงสูงกว่า 1 เมตรแล้ว

    นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้นำน้ำดื่มและถุงยังชีพไปมอบให้ผู้ประสบภัยในอำเภอแม่จัน โดยกำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานให้เร่งเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมประกาศให้พื้นที่อำเภอแม่จัน อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงแสน เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากอุทกภัย. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 02:03:26

    ลอบวางระเบิดทหารพราน นราฯ เจ็บสาหัส 3 นาย

    [​IMG]

    นราธิวาส 8 ส.ค. - เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (8 ส.ค.) ร.ต.ต.ริฎวาน มะ ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบนถนนในหมู่บ้านไอร์กือเดร์ หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และยิงถล่มจ้าหน้าที่ทหารพรานสังกัด ร้อย ทพ.4509 กรมทหารพรานที่ 45 จนเกิดการยิงปะทะนานกว่า 5 นาที คนร้ายจึงหลบหนีไป โดยมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัส 3 นาย คือ ร.อ.รุ่งศักดิ์ ศรีสุระ ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 4509 หัวหน้าชุด ส.ท.ธีระยุทธ สมเกิด และ ส.ต.สุริยะ บำเพ็ญ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

    จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเนินดินริมถนนเป็นหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 5 ฟุต และเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ และพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 ของคนร้าย ตกอยู่ภายในสวนยางพาราอีกกว่า 20 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายวางระเบิดเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ที่เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายยิงถล่มใส่ฐานทหารร้อย ร.1744 ฉก.นราธิวาส 37 ที่ตั้งฐานอยู่บ้านตืองอ ม.3 ต.ศรีบรรพต ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บสาหัส 1 นาย เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ส.ค.)

    นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.30 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหน่วยนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ยังสามารถเก็บกู้และทำลาย ระเบิดน้ำหนัก ประมาณ 35-40 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในท่อระบายน้ำข้างถนน สายกาเยาะมาตี-ชูโว บริเวณบ้านปะลุกา ม.5 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ก่อนที่คนร้ายจะลงมือจุดชนวนระเบิดไว้ได้สำเร็จ.- สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 15:12:19

    พบฉลามหูดำเกยตื้นหาดทับสะแก

    [​IMG]

    ประจวบคีรีขันธ์ 8 ส.ค.- นายเสกสรร สมหมาย อายุ 22 ปี ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก หมู่ 3 ตำบลทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้พบฉลาม 2 ตัว ยาวประมาณ 2 เมตร ว่ายวนอยู่ริมหาดทับสะแก

    ล่าสุด ว่ายออกนอกฝั่งไปได้ 1 ตัว เหลืออีก 1 ตัว ยังว่ายวนอยู่ริมสะพานปลาทับสะแก ชาวบ้านต้องเข้าไปช่วยชีวิต เนื่องจากฉลามว่ายชนเสาสะพานปลาหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ และว่ายมาเกยตื้นหาดทราย จนไม่สามารถกลับลงทะเลได้ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะต้องระวังไม่ให้ฉลามตกใจกัด และต้องใช้เรือเล็กลากฉลามลงทะเลให้เร็วที่สุด เนื่องจากฉลามเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย เบื้องต้นลากลงไปในทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร

    ด้านนายปราโมทย์ ฉิมหาด นักวิชาการจากโครงการสัตว์หายากของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนกลาง เปิดเผยว่า ฉลามที่พบน่าจะเป็นฉลามหูดำ ซึ่งไม่เคยพบพลัดหลงมาเกยตื้นชายหาด เพราะมักอาศัยอยู่ในทะเลลึก อย่างไรก็ตาม จะเร่งศึกษาความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางทะเล ที่อาจส่งผลกับสัตว์น้ำมากขึ้น.- สำนักข่าวไทย

    2009-08-08 13:01:40

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนย้ายคนร่วมล้านออกจากชายฝั่งเจ้อเจียง-ฮกเกี้ยนหลบไต้ฝุ่นมรกต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 สิงหาคม 2552 15:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไต้ฝุ่นตั้งเค้าถล่มมณฑลฮกเกี้ยนรอบสอง-ภาพเอเจนซี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี--เจ้าหน้าที่จีนโยกย้ายประชาชนร่วมหนึ่งล้านคนออกจากพื้นที่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าไต้ฝุ่นมรกตจะบ่ายหน้าเข้าจู่โจมพื้นที่ดังกล่าวในเย็นวันนี้(9 ส.ค.)

    สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างสำนักงานควบคุมน้ำท่วม พร้อมแจงรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่กำลังโยกย้ายผู้อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลในเขตมณฑลเจ้อเจียง จำนวน 473,300 คน ออกจากพื้นที่ และยังได้ย้ายประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลในเขตมณฑลฝูเจี้ยนหรือฮกเกี้ยน มากกว่า 480,000 คน ออกจากพื้นที่ด้วยเช่นกัน

    เจ้าหน้าที่ยังเรียกเรือต่างๆ มากกว่า 35,000 ลำ เข้าหลบภัยตามท่าเรือต่างๆขณะที่พายุกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา พร้อมกับห่าฝนและลมแรง และยังดำเนินมาตรการป้องกันภัยล่วงหน้า ได้แก่ ปิดการจราจรบนทางด่วนหลายสายในมณฑลฝูเจี้ยน มีฝนตกในพื้นที่บางส่วนตั้งแต่เช้าในวันเสาร์ถึงเช้าวันอาทิตย์นี้(9 ส.ค.)

    ในวันก่อนหน้า ไต้ฝุ่นมรกตถล่มไต้หวัน จนมีผู้เสียชีวิตไป 1 คน และอีกอย่างน้อย 29 คน สูญหายไปในวันเสาร์(8 ส.ค.) จากเปิดเผยของหน่วยกู้ภัย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=399 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=399>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    ชาวจีนในเขตฉางเล่อ มณฑลฝูเจี้ยน กำลังช่วยกันลากต้นไม้ที่ล้มลงมากีดขวางถนนในวันที่ 8 ส.ค.หลังจากที่ไต้ฝุ่นมรกตเข้าจู่โจมแผ่นดินใหญ่ -เอเอฟพี
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000090349
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  10. Super V.I.P

    Super V.I.P สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18

    เว็บบอร์ดเป็นเวทีอิสระ ที่จะแสดงความเห็น หรือเป็นเวทีของพวกนักเลงคีย์บอร์ดไร้น้ำยาใช้แสดงความเก่ง
    พวกนักเลงคีย์บอร์ดไร้น้ำยานั้น มักจะใช้เวทีนี้ ในการร่ายนิ้วพริ้วสบัด โชว์ลีลาในการใช้ท้อยคำเหน็บแนม
    กระแทกแดกดันผู้อื่น หรือใช้เป็นเวทีในการแสดงความเก่ง อวดฉลาด อยู่เป็นกิจวัติ

    เวลาที่พวกนักเลงคีย์บอร์ดไร้น้ำยา อยู่หน้าคอมฯ คนพวกนี้จะรู้สึกว่าตัวเองนั้นปลอดภัย เพราะจะพิมพ์อะไรออกก็ได้
    โดยที่ตัวเองไม่ต้องเสี่ยงต่อการโดนหมัดกระแทกปาก
    คนพวกนี้ รู้ดีว่าในชีวิตจริงหากแสดงความก้าวร้าวแบบนี้
    มีหวังโดนกระทืบตายแน่ๆ

    พวกนักเลงคีย์บอร์ดไร้น้ำยา จึงมักจะหาสิ่งที่จะมาชดเชยปมด้อยของตัวเองในการแสดงความเก่ง โดยใช้เว็บบอร์ด
    เป็นเวทีให้ตัวเองได้ปลดปล่อยความเก่ง โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาชกปากตัวเองได้


    จึงน่าสงสารคนจำพวกนี้เป็นอันมาก คนพวกนี้มีปมด้อยสูง ถึงขนาดใช้คอมฯ ในการแสดงความเก่ง ทั้งๆที่ตัวเอง
    ปอดแหกกว่าคนทั่วไปอยู่หลายเท่าตัวนัก

    เราๆท่านๆจึงควรเห็นใจ "นายเฌ" แล้วให้เค้าได้ปลดปล่อยปมด้อยของเค้าออกมาอย่างเต็มที่ เพราะนี่คือเวทีเดียว
    ที่เค้าจะแสดงศักยภาพความเก่งออกมา ได้อย่างเต็มประสิทธภาพสูงสุด
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ดินถล่มในอินเดีย ตายอย่างน้อย 15</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เกิดเหตุดินถล่ม ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 15 ราย

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันนี้ (9 ส.ค.) อ้างการเปิดเผยของสำนักข่าวเพรส ทรัสท์ ของอินเดีย ระบุว่า ประชาชนอย่างน้อย 15 ราย เสียชีวิต จากเหตุดินถล่ม ทางตอนเหนือของรัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย ขณะที่บ้านเรือนหลายหลัง ใน 2 หมู่บ้าน ถูกพัดทำลาย จากการเกิดฝนตกหนัก ในเขตอำเภอพิโธรากาห์ นอกจากนี้ ยังมีประชาชนจำนวนมาก ติดอยู่ภายในบ้านเรือน ของตัวเอง ขณะที่เกิดดินถล่ม และมีผู้สูญหายจำนวนมาก

    ด้านหน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น ต้องทำงาน ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย

    ขณะที่นายราเมช โปกริยาล มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ ได้ลงพื้นที่ประสบภัย เพื่อดูแลการบรรเทาทุกข์ ทั้งนี้ เขตพิโธรากาห์มีลักษณะเป็นภูเขา อยู่ใกล้กับชายแดน ระหว่างจีนกับอินเดีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักมีแนวโน้มเกิดมรสุม หลังเดือนมิถุนายน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ระทึก! เครื่องบินชนฮ.กลางอากาศเมืองนิวยอร์ก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันนี้ (9 ส.ค.) นิวยอร์ก สหรัฐฯ นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก

    แถลงเหตุการณ์อุบัติเหตุเครื่องบินเล็กที่มีผู้โดยสาร 2 คนและเฮลิคอปเตอร์บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี 5 คน บินชมทิวทัศน์เหนือน่านฟ้านครนิวยอร์ก เกิดชนกันกลางอากาศเหนือแม่น้ำฮัดสันเมื่อวานที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยนายไมเคิล กล่าวว่า ขณะนี้พบศพผู้เคราะห์ร้าย 2 ราย และไม่หวังว่าจะมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่

    นายบลูมเบิร์ก กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ประดาน้ำพบเศษซากบางส่วน

    ขณะที่ต้องทำงานกู้ภัยเสี่ยงอันตรายและทัศนวิสัยไม่ดีบริเวณแม่น้ำฮัดสันซึ่งอยู่ระหว่างย่านแมนฮัตตันกับรัฐนิวเจอร์ซี ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ร่วงลงแม่น้ำทันทีหลังชนกันกลางอากาศ ซึ่งเป็นเส้นทางบินของทั้งสายการบินพาณิชย์ นักบินส่วนบุคคล และเฮลิคอปเตอร์นักท่องเที่ยว.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :ฟากฟ้าทะเลฝัน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันอาทิตย์ ที่ 9 สิงหาคม 2552 เวลา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อย.ประสาน"ตร.-ไอซีที"ล่าขายยาต้านหวัด09 ปลอม"วิทยา88-วิทยา68"ผ่านเว็บ สธ.เล็งปรับแผนกระจายยาอีกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อย.เตรียมประสาน"ตำรวจ-ไอซีที"ล่าขบวนการขายยาต้านหวัด 09 ปลอมชื่อ "วิทยา 88-วิทยา 68" ผ่านเว็บไซต์ สธ.ประเมินกระจายยาไม่สมบูรณ์ เล็งปรับแผนอีกรอบ หวังรับมือระบาดหนัก ช่วงสิงหาฯ-กันยาฯ พร้อมถกหลังพบเชื้อดื้อยา


    ขณะที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีการโฆษณาขายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ปลอม ผ่านทางเว็บไซต์ภายใต้ชื่อ วิทยา 88 และวิทยา 68 ที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบ ตามที่รายงานข่าวไปแล้วนั้น

    ล่าสุดเมื่อ วันที่ 8 สิงหาคม นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เลขาธิการ อย.) กล่าวว่า ยาที่มีชื่อว่า วิทยา 88 และวิทยา 68 คาดว่าจะเป็นยาปลอม เบื้องต้นได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจล่อซื้อแล้ว ขณะเดียวกันยังประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ติดตามเว็บไซต์ที่เข้าข่ายขายยาลักษณะดังกล่าว

    ด้านนายวิทยา กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมนี้ สธ.จะระดมพลังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศ 987,019 คน ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์สุขอนามัยต้านภัยหวัดใหญ่ ถวายแด่พระแม่แห่งแผ่นดิน เน้นในเขตชุมชนเมืองที่มีประชากรหนาแน่น กิจกรรมที่จะจัดรณรงค์ครั้งนี้ เช่น การเดิน การวิ่งออกกำลังกาย การทำความสะอาดอาคารสถานที่ การให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และการคัดกรองค้นหากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรง โดยกิจกรรมจะดำเนินการในที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ขณะนี้ได้ให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมไว้แล้ว

    ด้านนพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในการซ้อมแผนรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของชุมชนทั่วประเทศ ได้จัดสาธิตการซ้อมแผนปฏิบัติการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ในชุมชน นำร่องเป็นต้นแบบภาคละ 1 ชุมชน ภาคใต้ ที่ จ.สงขลา เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ภาคกลาง ที่ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ภาคเหนือ จ.ลำพูน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ยโสธร โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละภูมิภาคร่วมชมและนำไปขยายผลต่อในชุมชน

    ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันการส่งมอบวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล็อตแรก จะสามารถทำได้ในเดือนกันยายนนี้แน่นอน ซึ่งขณะนี้บริษัทผู้ผลิตหลายรายได้ร่วมกันทดสอบวัคซีนกับมนุษย์แล้ว และยืนยันผลความปลอดภัยขั้นต้น

    วันเดียวกัน นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เพื่อติดตามช่องทางพิเศษในการรตรวจรักษาผู้ป่วยไข้หวัดทุกชนิด ว่า ได้ติดตามการใช้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ และระบบการส่งข้อมูลการใช้ยาของโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ที่ส่งข้อมูลการใช้ยาผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) พบว่า ขณะนี้ระบบยังไม่สมบูรณ์ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนและปรับข้อมูล เพื่อให้ทราบว่าในรอบ 1 วัน ทั่วประเทศมีการจ่ายยาโอเซลทามิเวียร์กี่เม็ด เพื่อใช้ในการคำนวณการสำรองยาให้เพียงพอ หากเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากเมื่อเข้าสู่เดือนสิงหาคม- กันยายน ซึ่งเป็นช่วงปกติที่ไข้หวัดใหญ่จะระบาดมากที่สุด คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น

    "สิ่งสำคัญต้องปรับปรุงระบบการแจ้งข้อมูลการใช้ยาโอเซลทามิเวียร์ เนื่องจากขณะนี้ อภ.จะรู้แต่ยอดคงเหลือ ไม่มีลงข้อมูลยอดการใช้ยาแต่ละวัน ซึ่งยาที่เข้ามาของระบบโรงพยาบาลบางแห่ง ไม่ได้มาจากแหล่งของ อภ.เพียงแห่งเดียว ทำให้ยอดไม่นิ่ง ต้องปรับยอดให้นิ่ง ส่วนการจ่ายยาให้ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศรีสัชนาลัย ไม่มีปัญหา เพราะมีผู้ป่วยจำนวนน้อย และผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่จ่ายยาโอเซลทามิเวียร์เป็นผู้ป่วยในเท่านั้น ก็ได้มอบนโยบายว่า เมื่อตรวจพบผู้ป่วยเข้าข่าย ตามแนวทางปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ หรืออาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของ สธ. สามารถให้ยาโอเซลทามิเวียร์ทันที หากอาการไม่หนักให้จ่ายยาและกลับไปพักที่บ้าน พร้อมทั้งให้สังเกตสมาชิกในครอบครัว หากป่วยมีไข้ให้รีบไปรักษาในโรงพยาบาลทันที" นายมานิต กล่าว

    นายมานิต กล่าวถึงกรณีที่โรงพยาบาลรามาธิบดีพบเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า จากการสุ่มตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังไม่พบเชื้อดื้อยา แต่เมื่อพบในห้องทดลองของ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ จะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข โรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่มี ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ เป็นประธาน เพื่อให้นักวิชาการร่วมกันพิจารณาว่า เชื้อดื้อยาที่พบในแล็บของโรงพยาบาลรามาฯมีปริมาณเท่าใด แนวทางการรักษาอย่างไร และพิจารณาว่าจำเป็นต้องสำรองยาซานามิเวียร์ ซึ่งเป็นยาป้องกันการดื้อยาเพิ่มหรือไม่

    "กรณีพบเชื้อดื้อยาทางการแพทย์ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ประชาชนจึงไม่ต้องตื่นตระหนก สำหรับการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ได้กำชับสถานพยาบาลและคลีนิคระมัดระวังการใช้ยาอย่างเคร่งครัด ส่วนยาโอเซลทามิเวียร์สำหรับเด็กชนิดแค็ปซูลจะแจกได้ในสัปดาห์หน้า แต่ยาโอเซลทามิเวียร์ชนิดน้ำต้องใช้เวลาผลิตอีกระยะหนึ่ง เพราะต้องพิถีพิถัน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการตกตะกอนของตัวยา" นายมานิต กล่าว

    ขณะที่ รศ.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าหน่วยไวรัสวิทยาและจุลชีววิทยาโมเลกุล คณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงโอกาสดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ของคนไทยว่า หากใช้ยาก็ต้องมีการดื้อยาเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งโรงพยาบาลรามาฯ ได้ศึกษาโดยการถอดรหัสพันธุกรรมพบความเปลี่ยนแปลงของยีนตำแหน่ง H274Y ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยพบยีนดังกล่าวในผู้ป่วยเพียง 1 คน จาก 50 คนที่ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยผู้ป่วยรายนี้หายป่วยได้เอง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม กรณีพบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังไม่ถือว่าประเทศไทยเข้าขั้นวิกฤตในการพบเชื้อดื้อยา เพราะยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนไทยดื้อยาจริงหรือไม่ เนื่องจากจำนวนที่พบน้อยมาก ต้องศึกษาและเฝ้าระวังต่อไป

    "ที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการพัฒนาชุดตรวจเชื้อดื้อยาทราบผลเพียง 24-48 ชั่วโมง จากการถอดรหัสพันธุกรรม ปัจจุบันได้นำมาใช้จริงในโรงพยาบาลแล้ว โดยพบการเปลี่ยนแปลงของยีนในผู้ป่วยเพียง 1 คนเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างมากขึ้น พร้อมทั้งจะมีการตรวจหาเชื้อไวรัสชนิดอื่นอีก 18 ตัว อาทิ เชื้ออะดิโน ไวรัส ที่พบร่วมกับไวรัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดปอดอักเสบ และส่งผลต่ออาการรุนแรง หากพบเชื้อไวรัสพวกนี้ก่อน จะทำให้การรักษาง่ายขึ้น ลดความรุนแรงของโรคได้" รศ.วสันต์กล่าว

    รศ.นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ รองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้นักวิจัยไบโอเทค รวมทั้ง รศ.วสันต์ทำการพัฒนาชุดตรวจเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ โดยต้องการให้มีความไวและรวดเร็ว ให้สามารถตรวจพบเชื้อได้ภายในครึ่งวันเท่านั้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องที่น่าฟังน่าคิดจากคุณเตารีด

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เตารีด<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2332456", true); </SCRIPT> สมาชิก

    คำทำนายในอดีต ที่ผิดพลาดเพราะ ไม่ใช่คำทำนายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนื่องจากว่ายังไม่ถึงหลังกึ่งพุทธกาลนั่นเอง จึงมีความผิดพลาดทุกครั้ง เพราะผู้ทำนายไม่มีญาณหยั่งรู้(เท่าพระพุทธเจ้า) คือไม่รู้จริงนั่นเอง

    แต่ ค.ศ.2012 หรือ พ.ศ. 2555 นั้น มันเข้ายุคหลังกึ่งพุทธกาลแล้ว ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงทำนายไว้ที่ศิลาจารึก ในเขตมหาวิหารเชตวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย มึใจความประมาณว่าหลังกึ่งพุทธกาล (พ.ศ. 2500 เป็นต้นไป) โลกจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก นั่นหมายความว่า ภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงในอีก 3 ปี ข้างหน้า (พ.ศ.2555) เป็นเรื่องจริง

    หลายคนพยายามจะเอาคำทำนายที่ผิดพลาดในอดีตมาอ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าในปี 2012 มันจะไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะคำของพระพุทธเจ้าไม่เป็นอื่น

    ...หมดเวลาที่จะมาปลอบใจตัวเองแล้ว ทุกวันนี้โลกเกิดภัยธรรมชาติ แปลกๆ มันเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้านั่นเอง

    สำหรับคนที่ไม่มีปัญญา ก็จะมองไม่ออกว่ามันคือสัญญาณเตือน กลับใช้เวลาที่เหลืออันน้อยนิด (แค่ 3 ปี) ไปใช้ในทางไร้สาระ สนุกสนาน รื่นเริง ไปวันๆแทนที่จะเอาเวลาไป ให้ทาน รักษาศีล ฯลฯ เพื่อใช้เป็นเสบียงยามเมื่อตัวเองต้องเสียชีวิตในวันนั้น

    ...เป็นกรรมของสัตว์จริงๆ สมดั่งคำของพระพุทธเจ้าว่าไว้คือ "คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน" น่าสงสารสัตว์โลก คิดว่าตัวเองนั่นเก่ง แต่เก่งอย่างไร ก็ไม่สามารถมาเทียบคำทำนาย "พุทธพยากรณ์หลังกึ่งพุทธกาล" ไปได้

    [​IMG] อนุโมทนา [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก-เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก-ของมิตรจากต่างพิภพ-และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-23
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2009
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวในกรุงโตเกียว รถไฟหยุดเดินชั่วขณะ

    [​IMG]

    โตเกียว 9 ส.ค.- เกิดแผ่นดินไหวในกรุงโตเกียว วัดความรุนแรงเบื้องต้นได้ 6.9 ริกเตอร์ ทำให้ต้องหยุดบริการเดินรถไฟชั่วขณะ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

    สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า แผ่นดินไหวรู้สึกได้ในกรุงโตเกียวช่วงก่อนเวลา 20.00 น.เล็กน้อยวันนี้ตามท้องถิ่น ตรงกับเวลา 18.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ทำให้ต้องหยุดให้บริการเดินรถไฟความเร็วสูงชั่วขณะเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของรางรถไฟ ยังไม่มีรายงานความเสียหายและคาดว่าจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากนักเนื่องจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดินถึง 340 กิโลเมตร

    1 ใน 5 ของแผ่นดินไหวทั่วโลกที่มีความรุนแรงตั้งแต่ 6 ริกเตอร์ขึ้นไปเกิดขึ้นในญี่ปุ่น เช่น แผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริกเตอร์ที่เมืองนีงาตะ ทางตอนเหนือของประเทศเมื่อเดือนตุลาคม 2547 มีผู้เสียชีวิต 65 คน บาดเจ็บมากกว่า 3,000 คน แผ่นดินไหวขนาด 7.3 ริกเตอร์ที่เมืองโกเบ เมื่อปี 2538 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,400 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 19:09:26

    ไต้ฝุ่นถล่มญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิต 4 คน

    [​IMG]

    โตเกียว 10 ส.ค. - ตำรวจญี่ปุ่นเผยว่า พายุไต้ฝุ่นเอตาว ที่เคลื่อนเข้าใกล้เกาะฮอนชูของญี่ปุ่นทำให้เกิดฝนตกหนักทางภาคตะวันตกของประเทศวันนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และสูญหายอีก 11 คน

    ตำรวจระบุว่า ชาย 2 คน และผู้หญิง 1 คน ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตจากเหตุที่เกี่ยวเนื่องจากฝนตกหนักในจังหวัดเฮียวโงะ ทางภาคตะวันตกของประเทศ โดยชายคนหนึ่งถูกพบในรถยนต์ที่จมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ผู้หญิงถูกพบในคูน้ำแห่งหนึ่ง ส่วนเหยื่อผู้ชายอีกรายไม่สามารถยืนยันสถานที่พบศพได้ และในจังหวัดโอกายามะ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง มีสตรีวัย 68 ปี เสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม

    สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่า ไต้ฝุ่นเอตาว ซึ่งเป็นภาษาปาเลา แปลว่า เมฆฝน กำลังมุ่งหน้าสู่เกาะฮอนชู ด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตก และมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 25 ซม. (10 นิ้ว) ภายในเช้าพรุ่งนี้ .-สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 08:46:52

    ผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นถล่มญี่ปุ่นเพิ่มเป็น 9 คน

    [​IMG]

    โตเกียว 10 ส.ค. - ตำรวจ และสื่อญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนัก และดินถล่มอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเอตาวเพิ่มเป็น 9 คน และมีผู้สูญหายอีก 9 คน

    บรรษัทกระจายเสียงญี่ปุ่น (เอ็นเอชเค) รายงานว่า ฝนตกหนักบนเกาะฮอนชูตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต และสูญหายอย่างน้อย 18 คน ภาพจากสถานีโทรทัศน์แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังรื้อซากปรักหักพังของบ้านเรือนหลายหลังที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วมฉับพลันในเมืองซาโยโจ ของจังหวัดเฮียวโงะ

    ขณะที่ตำรวจ ระบุว่า ในจำนวนเหยื่อของไต้ฝุ่นลูกนี้มีชาย 2 คน และหญิง 1 คนได้รับการยืนยืนยันว่า เสียชีวิตในจังหวัดเฮียวโงะ ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย ส่วนจังหวัดโอกายามะ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงพบสตรีวัย 68 ปีเสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม

    สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น พยากรณ์ว่า ไต่ฝุ่นเอตาว ความเร็วลมสูงสุด 108 ก.ม./ช.ม. จะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกของญี่ปุ่น และเข้าพัดถล่มกรุงโตเกียวภายในเช้าวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตก และมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 25 ซม. (10 นิ้ว)

    ในแต่ละปีญี่ปุ่นจะเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นในช่วงฤดูร้อน และต้นฤดูใบไม้ร่วงหลายสิบลูก และบ่อยครั้งมักจะทำให้การเดินทางอากาศ และรถไฟต้องชะงักงัน. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 11:12:59

    ไต้ฝุ่นมรกตถล่มจีนแล้ว ฝนตกหนักพายุโหม

    [​IMG]

    จีน 9 ส.ค.-ไต้ฝุ่นมรกต เคลื่อนขึ้นฝั่งพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของจีนแล้ว ทำให้เกิดฝนตกหนักและพายุรุนแรง รวมถึงมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ไต้ฝุ่นมรกตเคลื่อนขึ้นฝั่งพัดถล่มเมืองเหวินโจว ในมณฑลเจอเจียงแล้วเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลม 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและพายุรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง บ้านเรือนอย่างน้อย 10 หลังคาเรือนพังเสียหาย และอีกหลายสิบหลังจมอยู่ใต้น้ำ ต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าหักโค่น มีรายงานเด็กเสียชีวิต 1 คนเนื่องจากจมน้ำ ขณะที่ทางการท้องถิ่นเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

    อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ทางการจีนได้อพยพผู้คนเกือบ 1 ล้านคน ออกจากมณฑลเจ้อเจียงและฝูเจี้ยนแล้ว ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นมรกต คร่าชีวิตไปแล้ว 3 คน ทำให้มีผู้สูญหาย31 คน และบาดเจ็บ 19 คน ในไต้หวัน รวมถึงทำให้ฝนตกหนักและน้ำท่วมมากที่สุดในรอบ 50 ปี.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 22:06:19

    ดินถล่มหลังฝนตกหนักในอินเดียผู้เสียชีวิตแล้ว 45 คน

    [​IMG]

    นิวเดลี 9 ส.ค.- เจ้าหน้าที่อินเดียเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 คน ในเหตุดินถล่มกลบท่วม 3 หมู่บ้านหลังเกิดฝนตกหนักในรัฐอุตตระขันท์ ทางเหนือของประเทศ

    ดินถล่มเกิดขึ้นช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ ขณะนี้ยืนยันได้ว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 45 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาตามโคลนและหินที่ถล่มลงมาเพื่อหาร่างผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มเติม รัฐอุตตระขันท์เป็นพื้นที่เทือกเขาห่างไกล มักเกิดดินถล่มทุกปีหลังฝนตกหนักในช่วงฤดูมรสุม. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 17:37:20

    โรงแรมเก่าแก่ในไต้หวันเจอพายุไต้ฝุ่นมรกตพังถล่มทั้งหลัง

    [​IMG]

    ไต้หวัน 9 ส.ค.-ไต้ฝุ่นมรกตสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับไต้หวัน โรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่งได้พังถล่มลงมาทั้งหลัง

    สถานีโทรทัศน์ อีที ทีวี ได้แพร่ภาพ โรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องบ่อน้ำพุร้อนในเขตจี้เผิง พังถล่มลงมา หลังจากถูกน้ำท่วมอย่างหนัก อย่างไรก็ดี คาดว่าไม่น่าจะมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านั้นได้มีการอพยพคนออกจากโรงแรมหมดแล้ว อิทธิพลของไต้ฝุ่นมรกตที่พัดถล่มไต้หวันในครั้งนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดในรอบ 50 ปี ขณะนี้พายุลูกดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของจีน ซึ่งการทางได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่และมีการสั่งอพยพประชาชนเกือบ 1 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 15:13:22

    กู้ร่างเหยื่อเครื่องบินเล็กชน ฮ.ได้แล้ว 7 ศพ

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 10 ส.ค.-เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมหานครนิวยอร์กกู้ซากศพผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กชนกับเฮลิคอปเตอร์เหนือแม่น้ำฮัดสัน ได้เพียง 7 ศพ จากทั้งหมด 9 ศพ

    นางเด็บบี้ เฮอร์สแมน โฆษกคณะกรรมการด้านความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยว่า ในจำนวน 7 ศพที่เก็บกู้ได้นั้นเป็นนักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนถึง 5 ศพ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของผู้คนนับพันคนที่ออกมาเที่ยวชมบริเวณริมแม่น้ำฮัดสัน เนื่องจากเป็นวันอันสดใสในฤดูร้อนของสหรัฐ

    สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นเป็นนักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนที่มากับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์จำนวน 5 คน และนักบิน 1 คน กับครอบครัวชาวเพนซิลเวเนียที่มีด้วยกัน 3 คน มากับเครื่องบินเล็กส่วนตัว อุบัติเหตุครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดนับแต่ปี 2544 ที่เครื่องบินพาณิชย์ตกในย่านควีนส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 265 คน

    นางเฮอร์สแมน เผยว่า นักบินเฮลิคอปเตอร์อีกลำที่อยู่ใกล้เคียงได้พยายามวิทยุแจ้งแก่นักบินเฮลิคอปเตอร์ลำที่ประสบอุบัติเหตุว่า มีเครื่องบินเล็กบินอยู่ด้านหลัง แต่ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด หลังจากนั้นปีกของเครื่องบินเล็กก็ฟาดเข้ากับลำตัวเฮลิคอปเตอร์จนฉีกกลางและเครื่องบินทั้ง 2 ลำก็ตกลงสู่แม่น้ำฮัดสันเกือบจะพร้อม ๆ กัน และจุดที่เครื่องตกนั้นไม่ห่างจากจุดที่เครื่องบินโดยสารยูเอส แอร์เวย์ ร่อนลงฉุกเฉินกลางแม่น้ำโดยปลอดภัยเมื่อ 7 เดือนก่อนเท่าใดนัก เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากและขุ่นมากทำให้มองไม่เห็นใต้ผิวน้ำ การเก็บกู้ซากเครื่องบินและศพที่เหลือจึงดำเนินไปอย่างยากเย็น.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 07:36:52

    มีผู้บาดเจ็บ 55 คนจากเหตุจลาจลในเรือนจำรัฐแคลิฟอร์เนีย

    [​IMG]

    ลอสแองเจลิส 10 ส.ค. - โฆษกเรือนจำรัฐแคลิฟอร์เนีย เผยวานนี้ว่า เหตุจลาจลที่เรือนจำแห่งหนึ่งทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล 55 คน ส่วนอีกกว่า 200 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

    เหตุจลาจลปะทุขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ หลังกลุ่มนักโทษในแดนที่มีการรักษาความปลอดภัยระดับกลางของเรือนจำแคลิฟอร์เนีย อินสติติว ฟอร์ เมน ในเมืองชีโน ก่อเหตุวิวาทขึ้น โดยผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยกว่า 200 คนได้รับการรักษาจากเจ้าหน้าที่แพทย์ประจำเรือนจำ ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสอีก ราว 55 คน ถูงส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลนอกเรือนจำ เพิ่มขึ้นจากตัวเลขที่สื่อสหรัฐรายงานก่อนหน้านี้ว่ามีผู้บาดเจ็บเพียง 40 คน

    โฆษกเรือนจำระบุว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เข้ารับมือกับเหตุจลาจลทันทีโดยใช้กระบอง สเปรย์พริกไทย และกำลัง ซึ่งไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็นวิธีใด เข้าควบคุมสถานการณ์ได้เมื่อเวลาราว 07.00 น. วานนี้ โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว ส่วนทรัพย์ที่เสียหายนั้นได้รับการซ่อมแซมแล้ว ซึ่งรวมทั้งเรือนนอนที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ ส่วนสาเหตุของการวิวาทอยู่ระหว่างการสอบสวน

    ทางการระบุว่า เรือนจำในรัฐแคลิฟอร์เนียทุกแห่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาเมื่อวานนี้ หลังเกิดเหตุจลาจลขึ้น ทั้งยังระงับการเข้าเยี่ยมนักโทษทั้งหมดจนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติม ทั้งนี้รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นหนึ่งในรัฐที่มีระบบเรือนจำที่มีปัญหานักโทษแออัด และขาดแคลนงบประมาณ ส่งผลให้เมื่อสัปดาห์ก่อนผู้พิพากษารัฐบาลกลาง 3 คน สั่งการให้ทำแผนปล่อยนักโทษราว 40,000 คน ในอีก 2 ปีข้างหน้า -สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 09:19:49

    แคนาดาเพิ่มความช่วยเหลือศรีลังกาเป็น 3 เท่า

    [​IMG]

    มอนทรีออล 9 ส.ค. – แคนาดาจะเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ศรีลังกาเป็น 3 เท่า เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ลี้ภัย

    นางเบเวอร์ลีย์ โอดะ รมว.ความร่วมมือระหว่างประเทศของแคนาดา แถลงเสร็จหลังการเยือนศรีลังการะบุว่า แคนาดาจะเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือแก่ศรีลังกาจากเดิม 7.5 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 235 ล้านบาท) ขึ้นเป็น 22.5 ล้านแคนาดา (ราว 700 ล้านบาท) และว่า แคนาดามีความวิตกต่อปัญหามนุษยธรรมในศรีลังกา โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากในค่ายผู้ลี้ภัยจากการสู้รบระหว่างรัฐบาลกับกบฏพยัคฆ์ทมิฬแบ่งแยกดินแดน

    การสู้รบระหว่างกองทัพศรีลังกากับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬที่สืบเนื่องมายาวนานทวีความดุเดือดถึงขีดสุดเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจบลงโดยที่ทางการสามารถปราบปรามกลุ่มกบฏได้อย่างราบคาบ ทว่าผลจากการสู้รบทำให้ประชาชนจำนวนมากไร้ที่อยู่อาศัย.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-09 15:37:30

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เพิ่งไปอ่านเจอจากร้านหมอปุ้มพอดีครับ

    พออ่านเรื่องนี้เสร็จ จุดที่ฉุกคิดสนใจก็คือ เรื่อง "ปรอท"

    ที่พวกเราหลายคนได้รับการสืบทอดวิชชากันมา

    เรื่องที่หลวงปู่.... ท่านสอนว่าเมื่อสำเร็จ สามารถใช้เดินทางไปทั่วหมื่นโลกธาตุได้ (ทั่วจักรวาล) เพียงแค่ลัดฝ่ามือ หลวงปู่เพื่อนท่านอีกองค์ก็ไปอยู่จักรวาลอื่นแล้ว

    แต่ที่น่าตกใจก็คือพอได้อ่านเรื่องนี้ จบ ทำฟันเสร็จ นั่งรถกลับบ้าน ระหว่างทางดันไปเจอยูเอฟโอลำใหญ่เปิดไฟสว่างสีทองเข้า บินตามไปห่างๆจนเราเลี้ยวเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์

    คราวนี้ก็รอเวลา นำปรอทสำเร็จไปใช้แล้วครับ เมื่อภาระกิจมาถึง
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นมรกตถล่มไต้หวันขยับขึ้นเป็น 15 คน

    [​IMG]

    ไทเป 10 ส.ค. - หน่วยกู้ภัยไต้หวัน เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่น “มรกต” พัดกระหน่ำไต้หวัน ก่อให้เกิดอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 15 คนแล้ว และยังมีผู้สูญหายไปอีก 55 คน

    กองทัพไต้หวันกำลังเร่งระดมช่วยเหลือประชาชนหลายพันคนที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากสะพานพังถล่ม กระแสน้ำเชี่ยวกราก เนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นมรกต ทำให้เกิดฝนตกหนักถึง 100 นิ้ว ก่อนจะเคลื่อนตัวไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีรายงานประชาชนได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 32 คน รายงานระบุว่า ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางการต้องประกาศเตือนอันตรายจากแผ่นดินถล่ม โดยเฉพาะประชาชนใน 35 เมือง

    มีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นมรกตสร้างความเสียหายในภาคการเกษตรของไต้หวันแล้วอย่างน้อย 3,400 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) นอกจากนี้ ยังทำให้บ้านเรือน 110,000 หลัง ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และอีก 850,000 หลัง ไม่มีน้ำใช้. - สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 19:05:50

    ไต้ฝุ่นเอตาวคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นแล้วอย่างน้อย 13 คน

    [​IMG]

    ญี่ปุ่น 10 ส.ค.- หลายประเทศในเอเชียยังคงถูกพายุไต้ฝุ่นถล่มอย่างหนัก โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศล่าสุด วันนี้ถูกพายุไต้ฝุ่นเอตาว กระหน่ำ อย่างรุนแรง คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว อย่างน้อย 13 คน

    พายุไต้ฝุ่นเอตาวที่พัดกระหน่ำชายฝั่งตะวันตก ของญี่ปุ่นในวันนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 13 คนในจังหวัดเฮียว โหงะ และโอกายามะ โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่ม ตำรวจญี่ปุ่นเปิดเผยว่าขณะนี้ตำรวจกำลังมุ่งไปที่ปฏิบัติการกู้ภัยและพยายามจะตรวจสอบจำนวนผู้คนที่สูญหาย สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้นายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ ของญี่ปุ่น ต้องยกเลิกแผนการเยือนจังหวัดเฮียวโหงะและโตกูชิมะเพื่อช่วยลูกพรรครณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ สภาพอากาศที่เลวร้ายยังเป็นอุปสรรคต่อการบินและการรถไฟด้วย โดยสายการบินของญี่ปุ่นต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศ บริการรถไฟอย่างน้อย 15 สายต้องหยุดให้บริการชั่วคราว

    ส่วนที่เมืองซาโยในจังหวัดเฮียวโหงะมีปริมาณน้ำฝนมากเป็นประวัติการณ์ถึง 326.5 มิลลิเมตร บ้านเรือนต้องจมอยู่ใต้น้ำเกือบ 500 หลัง ผู้คนเกือบ 2,300 คน ต้องอพยพไปพักพิงอยู่ตามโรงเรียนต่างๆ โดยมีทหารกว่า 100 นาย จากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นเข้าให้ความช่วยเหลือ คาดว่าพายุไต้ฝุ่นเอตาว ซึ่งมีกำลังแรงลม 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเคลื่อนตัวถึงกรุงโตเกียวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น ได้ประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศให้ระวังภัยจากฝนตกหนักและดินถล่ม. -สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 19:39:44

    บังกลาเทศเผยผู้ลอบเข้าเมืองโรฮิงญาสร้างปัญหาหลายด้าน

    [​IMG]

    ธากา 10 ส.ค.- บังกลาเทศระบุว่า ผู้ลอบเข้าเมืองชาวโรฮิงญาหลายแสนคน ที่มาจากพม่า สร้างปัญหาใหญ่ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม

    นางดิปู โมนี รัฐมนตรีต่างประเทศบังกลาเทศ กล่าวว่า ผู้ลอบเข้าเมืองชาวโรฮิงญา ทำให้บังกลาเทศ ต้องแบกรับภาระหนักมาก เพราะสร้างปัญหาต่อทรัพยากรธรรมชาติของบังกลาเทศ ที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งยังก่อปัญหาด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม รัฐมนตรีต่างประเทศบังกลาเทศ ขอให้รัฐบาลพม่า หยุดยั้งไม่ให้ชาวโรฮิงญา หนีออกจากประเทศบ้านเกิด และขอให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ช่วยส่งกลับผู้ลอบเข้าเมืองเหล่านี้ อย่างไรก็ดี รัฐบาลพม่าไม่ถือว่าชาวโรฮิงญาเป็นพลเมืองของตนเอง

    ข้อมูลของรัฐบาลบังกลาเทศ ระบุว่า มีผู้ลอบเข้าเมืองโรฮิงญา อาศัยอยู่ราว 400,000 คน ในจำนวนนี้ 28,000 คน อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ และในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีชาวโรฮิงญาลอบเข้าเมืองทางตอนใต้ของบังกลาเทศ เพิ่มมากขึ้น ด้านกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนกล่าวหาตำรวจบังกลาเทศ ว่าใช้กำลังขับไล่ชาวโรฮิงญา ด้วยการรื้อทำลายบ้านพักชั่วคราวของพวกเขา.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 16:18:48

    อินเดีย-มาเลเซียพบผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 เพิ่ม

    [​IMG]

    มุมไบ 10 ส.ค. - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินเดีย เผยยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในอินเดียเพิ่มเป็น 6 คน ขณะที่มาเลเซียยืนยันผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 6 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งแตะ 32 ราย

    ผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายล่าสุดของอินเดีย เป็นแพทย์แผนโบราณในเมืองปูเน่ ห่างจากนครมุมไบราว 120 กม. และเด็กชายวัย 4 ขวบ ในเมืองเจนไน ทางตอนใต้ของประเทศ ส่วนชายที่เดินทางกลับรัฐคุชราตจากสหรัฐ เมื่อปลายเดือน ก.ค. และสตรีคนหนึ่งในนครมุมไบ ก็เสียชีวิตลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ครูอีกรายเสียชีวิตในเมืองปูเน่ เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นเมืองเดียวกับที่พบเด็กหญิงวัย 14 ปี เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว

    รัฐบาลอินเดียเรียกร้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก และดำเนินมาตรการคัดกรองผู้เดินทางตามท่าอากาศยาน พร้อมขอให้ผู้มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ หลีกเลี่ยงการออกไปยังแหล่งชุมชน และให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยทันที ขณะที่โรงเรียนบางแห่งสั่งปิดทำการเรียนการสอน หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์รายงานข่าวประชาชนจำนวนมากแห่เข้าคิวรับการตรวจร่างกายที่ศูนย์อนามัย
    กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อรายใหม่ 82 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 864 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นทั้งผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่เคยไปต่างประเทศ รัฐบาลจึงจัดส่งยาต้านไวรัสทามิฟลู 100,000 ชุด ไปให้เมืองต่าง ๆ ที่พบการแพร่ระบาดของโรค

    ด้านกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ระบุว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งแตะ 32 รายแล้ว เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าตัว ในช่วงสัปดาห์ก่อน ส่วนตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 1,983 ราย นับแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลเตือนว่า อาจต้องยกเลิกการชุมนุมที่ไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ. - สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 16:09:50

    อินเดียตรวจหานิวเคลียร์บนเรือเกาหลีเหนือ

    [​IMG]

    พอร์ตแบลร์ 10 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดียรายงานว่า กำลังตรวจสอบเรือเกาหลีเหนือที่ยึดไว้ได้ในอ่าวเบงกอล เพื่อดูว่ามีวัตถุหรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หรือไม่

    ตำรวจบนเกาะอันดามันและนิโคบาร์ของอินเดียกล่าวว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นของนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ยังไม่พบกัมมันตภาพรังสีบนเรือบรรทุกน้ำตาล แต่จะยังคงทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป เรือเอ็มวีมูซานจอดทอดสมอนอกเกาะฮัตเบย์ในหมู่เกาะอันดามันโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และถูกเจ้าหน้าที่ยามฝั่งอินเดียเข้ายึดไว้ หลังจากไล่ติดตามอยู่นานถึงกว่าหกชั่วโมง ยูเอ็นอนุญาตประเทศสมาชิกเข้าตรวจสอบสินค้าของเกาหลีเหนือได้ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ นอกจากนี้ ยังสามารถยึดและทำลายสินค้าที่ละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาด้วย

    เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวว่า กำลังพยายามตรวจสอบว่าเรือลำนี้ไปจอดใกล้พม่าซึ่งต้องสงสัยว่ารับความช่วยเหลือในการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 18:41:41

    ระเบิดรุนแรงในอิรัก มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คนแล้ว

    [​IMG]

    แบกแดด 10 ส.ค.- เกิดเหตุระเบิดรถบรรทุก 2 คัน ใกล้เมืองโมซุล ทางเหนือของอิรัก คร่าชีวิตประชาชน 25 คน และบาดเจ็บ 75 คน ส่วนที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงแบกแดด ก็เกิดระเบิดรถยนต์ 2 คัน ซึ่งมีเป้าหมายที่คนงานก่อสร้าง มีผู้เสียชีวิต 16 คน และบาดเจ็บ 81 คน

    นับเป็นเหตุระเบิดรุนแรงที่เกิดขึ้น 2 ครั้งซ้อน จากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ใกล้มัสยิดของชาวชีอะห์ นอกเมืองโมซุล คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 38 คน

    การก่อการร้ายในอิรัก ลดลงในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงมีอยู่มากที่เมืองโมซุล และในพื้นที่อีก 2-3 แห่ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-08-10 13:17:34

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เล่นแร่แปรธาตุ ปรอทวิเศษ(สำเร็จ)ด้วยพลังจิต

    [​IMG]

    (เรื่องนี้อ่านไว้พอเป็นความรู้นะครับ เหมาะสำหรับผู้สนใจจะฝึกอภิญญาเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมโดยทั่วไป)

    การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่ง ที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้น ชาวสยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านาน จากตำนานพบว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวชมพูทวีป ที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขาน นอกจากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้น ยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้างวัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับ ทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่กล่าวถึงโลกจินไตยว่า อันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขาคือ​

    ๑. มนิกาวิชชาคือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆ ทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ​

    ๒. ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการคือ ​

    - มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ
    - มันตาตัชชารีวิชชา ได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆ ที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี
    - อังกตัชชารีวิชชา ได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ
    - ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่างที่มีอิทธิฤทธิ์ รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์เรียกว่ารสายนเวท ที่เป็นความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆ เช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ(สีสัน-ลักษณะโครงสร้างภายนอก) การแปรธาตุปรอท เป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จ ธาตุกายสิทธิ์วิชาเรื่องการแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนาน เพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆ ก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น​

    การแปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูง เพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจ ทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ(ฌานสมาบัติ)จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้น มีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่มาก ทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลัง ที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรรสร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆ แสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น ​

    หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่อง คงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอ ก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่ง และพระเครื่องที่ทรงฤทธานุภาพสูง ที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพนคร ที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาทที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสาย จนปัจจุบันความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่า ถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนากำพระเครื่องนี้ แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ ก็ถือว่าพระเครื่องท้ายย่านองค์นั้นปลอม ​

    นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีต จนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบัน นอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้ว ท่านทราบไหมว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุ ที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์นั่นเอง เมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุพระปรอทนั้น ก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก ​

    บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสา ก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้างจากแร่พลวง(วุลแฟรม)ชนิดหนึ่งเท่านั้นและท่านทราบอีกหรือไม่ว่า พระชุดนี้มิได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน!!!!แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะหนก ที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัว หลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจบอกว่าเหลือเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ​

    ก่อนที่จะมาถึงการหลอมปรอท โดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ ? บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าวแบบขอไปทีว่า ถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไป บังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราว ที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่เป็นของวิเศษ​

    ในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่า ใครหากทำได้เเล้วก็นับว่าบรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่ง เเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้น จึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบหนึ่ง ซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่ เท่าที่พบไม่น้อยกว่ายี่สิบตำราครับ การหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่มหนึ่ง กล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้ จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าวถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ​

    ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้น หากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้ว ฤทธิอันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้น อาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิ์ และกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้​

    ๑. ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมัง อันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย)
    ๒. เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง)
    ๓. ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน)
    ๔. ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้)
    ๕. คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา​

    ต่อไปนี้เป็นการสร้างปรอทวิเศษ​

    เตรียมการ ทำเบ้ายา ชั้นที่ ๑ สำหรับใส่ปรอท (สิ่งละเท่าๆกัน)
    ๑. หนังกระบือเผือก บดให้แหลกละเอียด
    ๒. สังข์
    ๓. หัสคุณ
    ๔. เจตมูลแดงเพลิง
    ๕. ยางสลัดใด
    ๖. ใบส้มป่อย
    ๗. ใบพลูแก่
    ๘. เปลือกตะแบก
    ๙. เปลือกหมาก
    ๑๐. เปลือกรากมะไฟ​

    เครื่องยาทั้งหมดนี้ บดละเอียดใส่ลงเคี่ยวจนเหลวเละดัง ขี้วัว แล้วนำมา ปั้นเป็นเบ้าหุงปรอท......​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_9171.jpg
      IMG_9171.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      1,140
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2009
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ฟ้าทะลายโจร" แค่ยาเสริม ชูสมุนไพร "5 ราก" แก้หวัดพันธุ์ใหม่ได้ผลชะงัด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 สิงหาคม 2552 14:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ โชว์ขวดบรรจุยาสมุนไพร 5 ราก หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ยาเบญจโลกวิเชียร ที่ผลิตโดย ม.รังสิต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>จากซ้าย ยาจันทลีลา, ยาเบญจโลกวิเชียร และยาจันทหฤทัย ยา 3 ตำหรับ จากคัมภีร์ตักศิลาในตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ สำหรับรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ทุกชนิด</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>อาจารย์แพทย์แผนไทย ม.รังสิต แนะใช้ยาสมุนไพรสู้หวัด 2009 เผยตำรับยารักษาไข้หวัดใหญ่มีมาแต่โบราณ ชูสมุนไพร "5 ราก" มีในบัญชียาหลักแห่งชาติ กินแก้หวัดตั้งแต่เริ่มมีอาการ ประสิทธิภาพฆ่าเชื้อไวรัสเทียบชั้นยาปัจจุบัน รับประกันได้ผลชะงัด พร้อมตัดโอกาสเชื้อดื้อยา ระบุฟ้าทะลายโจรเป็นยาแฟชัน ใช้เสริมได้แต่ไม่ควรใช้เป็นยาหลัก

    รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณบดีผู้ก่อตั้งคณะการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยถึงแนวทางการใช้แพทย์แผนตะวันออกในการต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในระหว่างการประชุมระดมความคิดเห็นเรื่อง "แนวทางการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมสมุนไพรไทยมาใช้ในการป้องกันและรักษาการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอช1เอ็น1 (H1N1)" ที่จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 7 ส.ค.52 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมสยามซิตี

    "การแพทย์แผนตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นตำราอายุรเวชของอินเดีย การแพทย์แผนจีน และการแพทย์แผนไทย มีหลักการคล้ายกัน คือเมื่อร่างกายเกิดความผิดปกติ ก็จะต้องหาวิธีรักษาโดยปรับเข้าสู่สมดุล ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ขณะที่การแพทย์ตะวันตกรักษาทางร่างกายเพียงด้านเดียว จึงทำให้การรักษาไม่ได้ผลในบางครั้ง" รศ.ดร.สุรพจน์ เผย

    สำหรับกรณีของโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 สายพันธุ์ใหม่นั้นมีลักษณะอาการไข้เช่นเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ตักศิลา ซึ่งเป็น 1 ใน 14 คัมภีร์ ของตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ซึ่ง รศ.ดร.สุรพจน์ เผยกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชนว่า ตำราดังกล่าวเป็นตำราแพทย์แผนไทยที่รวบรวมไว้ตั้งแต่ปี 2416 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งรวบรวมขึ้นจากตำราพระโอสถพระนารายณ์

    "วิธีการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ตามที่ระบุในคัมภีร์ตักศิลา แบ่งเป็นยา 3 ตำรับ ตำรับที่ 1 เป็นยากระทุ้งพิษ ใช้ขับพิษออกจากร่างกายหรือฆ่าเชื้อไวรัส โดยใช้ยา 5 ราก (ยาเบญจโลกวิเชียร) ที่ประกอบด้วยรากของพืชสมุนไพร 5 ชนิด ได้แก่ ชิงชี่, เท้ายายม่อม, มะเดื่อชุมพร, คนทา และย่านาง ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรไทยที่หาได้ไม่ยาก และยานี้ยังได้รับการบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้วย" รศ.ดร.สุรพจน์ อธิบาย

    หลังจากรักษาด้วยยากระทุ้งพิษแล้วจึงรักษาตามด้วยตำรับยาแปรไข้ ได้แก่ ยาจันทลีลา ช่วยลดอาการไข้ จากนั้นรักษาด้วยตำรับยาครอบไข้ ได้แก่ ยาจันทหฤทัย ช่วยบำรุงร่างกาย ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแทรกเข้าสู่อวัยภายใน และไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

    "จุดเด่นของการรักษาด้วยตำรับยาสมุนไพรคือเชื้อไม่ดื้อยา ไม่มีผลข้างเคียง เพราะในยาสมุนไพรมีหลายสูตรโครงสร้างของโมเลกุลมากมายหลายร้อยโมเลกุล ทำให้โอกาสที่เชื้อจะดื้อยาเป็นไปได้ยาก และในแต่ละตำรับจะมีตัวยาหักฤทธิ์ด้วยนอกจากตัวยาหลักและยารอง จึงไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงเมื่อนำไปใช้ ขณะที่ยาแผนปัจจุบันอาจมีผลข้างเคียงในการรักษา และเชื้อมีโอกาสดื้อยาได้ง่าย เพราะในตัวยาปัจจุบันมีสูตรโครงสร้างเดียว ทำให้เชื้อปรับตัวและดื้อยาง่าย" อาจารย์ด้านแพทย์แผนไทย อธิบาย

    นอกจากนี้ รศ.ดร.สุรพจน์ ยังได้แนะนำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ได้แค่ อิคินาเซีย เป็นสมุนไพรท้องถิ่นในอเมริกา ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลกว่ามีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเห็ดหลินจือ ขมิ้นชัน ปัญจขันธ์ และชาจีน

    อย่างไรก็ดี รศ.ดร.สุรพจน์ ได้กล่าวถึงฟ้าทะลายโจรด้วยว่าเป็นยาแฟชันในขณะนี้ เพราะมีการโปรโมทกันมาก ทั้งที่จริงๆ แล้วฟ้าทะลายโจรสามารถนำมาใช้เป็นยาเสริมในการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้เป็นยาหลัก เพราะฤทธิ์ต้านไวรัสอ่อน และเตือนว่าไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่เป็นโรคความดัน เพราะอาจมีผลข้างเคียงต่อทารกในครรภ์ และมีผลทำให้ความตันต่ำด้วย

    อาจารย์ด้านแพทย์แผนไทยจาก ม.รังสิต ย้ำว่าตำหรับยาสมุนไพรไทยสามารถใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้และได้ผลดีกว่ายาโอเซลทามิเวียร์ที่ใช้กันอยู่ด้วยซ้ำ จึงควรสนับสนุนให้ประชาชนได้เข้าถึงยาสมุนไพรเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้มหาศาล

    พร้อมกันนี้ได้เสนอแนวทางการพัฒนายาในประเทศไทยว่าควรพัฒนาต่อยอดจากภูมิปัญญาไทย และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วย ด้วยการสกัดสารสำคัญออกมา ทำให้เข้มข้นขึ้น และพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้ง่ายคล้ายยาแผนปัจจุบัน ซึ่งตำรับยาสมุนไพรเป็นภูมิปัญญาไทยที่ใช้กันมาแต่โบราณ จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใช้รักษาโรคได้ผลและไม่เป็นอันตราย ซึ่งวันนี้อาจเป็นการแพทย์ทางเลือก แต่ต่อไปอาจเป็นทางหลักของคนไทย.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000089942
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เช้านี้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริคเตอร์ในมหาสมุทรอินเดีย

    โดยทางอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนสึนามิ

    ทางพี่ๆน้องๆที่อยู่ภูเก็ตและพังงา ทราบข่าวแล้วครับ

    <table class="border1" width="100%" align="left" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr bgcolor="#f8f8f8"><td align="center">10.08.2009 - 19:55:39</td><td align="center" bgcolor="#800000">7.6</td><td align="left">Asia</td><td align="left">India</td><td align="left"> Union Territory of Andaman and Nicobar Islands</td><td align="left">Bamboo Flat</td><td align="center">[​IMG]</td><td align="center">[​IMG]</td><td align="center">[​IMG]</td><td>RSOE-EMSC</td><td>Result</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td align="center">10.08.2009 - 19:55:38</td><td align="center" bgcolor="#800000">7.7</td><td align="left">Asia</td><td align="left">India</td><td align="left"> Union Territory of Andaman and Nicobar Islands</td><td align="left">Bamboo Flat</td><td align="center">[​IMG]</td><td align="center">[​IMG]</td><td align="center">[​IMG]</td><td>USGS</td><td>Result</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td align="center">10.08.2009 - 19:55:38</td><td align="center" bgcolor="#800000">7.6</td><td align="left">Asia</td><td align="left">India</td><td align="left"> Union Territory of Andaman and Nicobar Islands</td><td align="left">Bamboo Flat</td><td align="center">[​IMG]</td><td align="center">[​IMG]</td><td align="center">[​IMG]</td><td>RSOE-EMSC</td><td>Result</td></tr></tbody></table>
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <table id="post2335577" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">vibe<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2335577", true); </script>
    ทีมงานเว็บพลังจิต

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2005
    ข้อความ: 857
    [​IMG]
    Groans: 1
    Groaned at 2 Times in 2 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 632
    ได้รับอนุโมทนา 3,564 ครั้ง ใน 476 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1689 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2335577" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ด่วน!แผ่นดินไหวหมู่เกาะอันดามัน เตือนอาจเกิดสึนามิไทย-อินโดฯ <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="baseline" align="left">11 สิงหาคม 2552 03:40 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เกิดแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 7.6 ริกเตอร์ บริเวณมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งหมู่เกาะอันดามันของอินเดีย โดยทางสำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ เตือนจับตาสึนามิ ในอินเดีย, พม่า, อินโดนีเซีย, ไทย และ บังกาลาเทศ

    สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานในเบื้องต้นว่าแผนดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมือง พอร์ทแบลร์ 160 กิโลเมตรทางเหนือของหมู่เกาะอันดามัน ลึกลงไปใต้พื้นดิน 20.6 กิโลเมตร ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกประกาศแจ้งให้จับตาดูสถานการณ์สึนามิใน ภูมิภาคนี้

    ขณะเดียวกัน ในเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.6 ริกเตอร์ ใจกลางประเทศญี่ปุ่น รู้สึกได้ถึงกรุงโตเกียวและมีการประกาศเตือนภัยสึนามิ แต่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจมีความสูงเพียง 50 เซนติเมตรเท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    ข้างหน้ามีอะไรบ้างที่ไม่ใช่มายา?

    </td></tr></tbody></table>
     
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ตอนนี้ยกเลิกการเตือนภัยสึนามิแล้วครับ เกิดเพียงสึนามิลูกเล็กๆประมาณ 50 ซม.เข้ามา

    แต่อย่างไรก็ตามจากการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลกบ่อย ถี่ขึ้น ก็อยากให้ทุกคนจับตาสถานการณ์เอาไว้ด้วย ติดตาม ข่าวสารและอย่าได้ประมาท

    ตอนเช้านี้ น้องที่อยู่พังงาต้องข้ามไปเรียนหนังสือที่ ภูเก็ต ก็มีประกาศห้ามข้ามสะพานสารสิน ครับ เพราะเป็นการป้องกันหากเกิดสึนามิ

    ยกเลิก

    Tsunami watch issued for five countries canceled - CNN.com

    "Sea level readings indicate that a significant tsunami was not generated," the warning center said in a bulletin. "Therefore, the tsunami watch issued by this center is now canceled."
     

แชร์หน้านี้

Loading...