นู๋ฟ้า>ใหม่!แก้วขนเหล็ก,แก้วจอมขวัญ,แก้วโป่งข่ามเถินราคาถูกที่นี่ที่เดียว

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย nu_fah, 23 มีนาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    รอรับของน้องฟ้าพรุ่งนี้ (วันสำคัญพอดีเลย) อิอิ
     
  2. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    เมื่อวานซืนเค้าลงแก้วฯใหม่พี่ได้มา 2 เที่ยวนี้ไม่ค่อยมีอะไรเป็นสีสรรเท่าไหร่อ่ะจ้า

    -ก้อสวยดีนะ แต่ยังไม่โดดเด่น แปลกตาเท่าไหร่นัก เพราะทุกทีแก้วของพี่แก้วจะแปลก ดูแตกต่างมากกว่านี้อ่ะค่ะ
     
  3. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    งวดนี้อ่ะ "แก้วขนเหล็กนางพญา" หละแปลกสุดเลยน้องดาเอ๋ย

    ชิ้นนี้เป็นผลึกเข้าแก้ว + ปวกเขียวลอย (ชิ้นใหญ่) ของร้านพี่ตูมเค้าอีกแหละ

    ซื้อไว้นานแล้วจ๊ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8159.JPG
      DSCN8159.JPG
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      221
    • DSCN8174.JPG
      DSCN8174.JPG
      ขนาดไฟล์:
      30.9 KB
      เปิดดู:
      173
    • DSCN8170.JPG
      DSCN8170.JPG
      ขนาดไฟล์:
      35.6 KB
      เปิดดู:
      192
  4. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    สมบัติผลัดกันชม

    เมื่อวานลองเอาแก้วมาวางเล่นๆ (แบ่งไปล้างส่วนนึง ไม่ได้เอามารวมอ่ะจ้า)

    ส่วนพวกที่เป็นแหวนก็ไม่ได้เอามา ขี้เกียจขั้นไปหยิบเจ้าค่า...
    (เดินขึ้น เดินลง กลัวผอมอ่ะพี่น้อง):boo:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8139.JPG
      DSCN8139.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.6 KB
      เปิดดู:
      199
    • DSCN8142.JPG
      DSCN8142.JPG
      ขนาดไฟล์:
      58.5 KB
      เปิดดู:
      197
    • DSCN8143.JPG
      DSCN8143.JPG
      ขนาดไฟล์:
      63 KB
      เปิดดู:
      443
    • DSCN8131.JPG
      DSCN8131.JPG
      ขนาดไฟล์:
      45.8 KB
      เปิดดู:
      165
    • DSCN8132.JPG
      DSCN8132.JPG
      ขนาดไฟล์:
      59.4 KB
      เปิดดู:
      253
    • DSCN8133.JPG
      DSCN8133.JPG
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      167
    • DSCN8146.JPG
      DSCN8146.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.2 KB
      เปิดดู:
      193
  5. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    เมื่อวานลองเอาแก้วมาวางเล่นๆ (แบ่งไปล้างส่วนนึง ไม่ได้เอามารวมอ่ะจ้า)

    ส่วนพวกที่เป็นแหวนก็ไม่ได้เอามา ขี้เกียจขั้นไปหยิบเจ้าค่า...
    (เดินขึ้น เดินลง กลัวผอมอ่ะพี่น้อง):boo:<!-- google_ad_section_end -->

    -อู้หู สุดยอด แจ่มไปเลย ข้าน้อยขอยกนิ้วให้(good)
    ;aa34;k03
     
  6. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    อันนี้สุดยอดเลยจ้าพี่จ๋า เหมือนปวกเขียวลอยนำมาเข้ามือพี่แก้วเลย:boo:
     
  7. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    หวัดดีค่ะ คุณเสาวรส
    ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยมชม...
     
  8. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    ลองเลือกดูเลือกชมก่อนนะค๊ะ หากสนใจ จะถ่ายมุมอื่นให้ดูได้ค่ะ
    สนใจจองแก้วโป่งข่ามและร่วมทำบุญกับฟ้าเชิญติดต่อ 083-323-0243
    หรือ e-mail:
    nufah_ganes@live.com
    ปัจจัยส่วนหนึ่งฟ้าจะนำไปทำบุญที่วัดแม่คีหลวง.แม่จัน จ.เชียงรายด้วยค่ะ
     
  9. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    สนใจบูชาพระพิฆเณศ เชิญเข้าไปดูได้นะคะ...มีของใหม่มาแล้วค่ะ..<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->มีทั้งงานชิ้นเล็ก และชิ้นใหญ่ ตั้งไว้ที่ทำงาน หรือ บูชาที่บ้านก็ได้ค่ะ...
    และมีงานแกะจากแก้วโป่งข่ามของพม่าด้วยค่ะ...
    (ตัวอย่าง) [​IMG]

    เชิญเข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ@ใหม่องค์ละ200฿หน้า9-10พระพิฆเณศแกะจากโป่งข่ามใสน้ำหาย,หินแร่มงคล ของแท้ และองค์พระ แกะด้วย หินจุยเจียแท้ๆ***<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2009
  10. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    ...........วิธีสังเกตลักษณะดวงแก้วจากหินแก้วใสแท้...................
    ดวงแก้วใสที่เจียรนัยจากหินแก้วแท้ๆนั้น มี ๔ ลักษณะใหญ่ คือ

    ๑.ดวงแก้วบางดวงที่เป็นหินแท้ จะใสบริสุทธิ์จริงๆ ไม่มีฟองอากาศไม่มีจุดฟองอากาศ มีแต่ความใสสะอาดบริสุทธิ์ เป็นดวงแก้วเกรดดีชั้นหนึ่ง
    ส่วนดวงแก้วที่ทำจากแก้วกระจก แก้วหล่อหลอมนั้น เนื้อแก้วจะมีฟองอากาศปะปนในเนื้อแก้ว และเนื้อแก้วมีลักษณะคล้ายเนื้อวุ้นกวน เห็นได้ชัด

    ๒.ดวงแก้วกายสิทธิ์แท้บางดวง หรือส่วนมากจะมีลักษณะมีฝ้า มีหมอก มีลายหิน ม่านหิน กายหินเป็นแผ่นฝ้าขาว หรือคล้ายแผ่นปรอท บางดวงมีลักษณะมีหมอกขุ่นฝ้าขาวภายใน จนสะท้อนแสงเป็นประกายขาว ประกายรุ้ง อยู่ภายใน จัดว่าเป็นของดีตามธรรมชาติของหินแก้ว และล้วนแต่วิเศษศักดิ์สิทธิ์ มีกายสิทธิ์สามารถนำมาเจริญวิชาได้ผลศักดิ์สิทธิ์เท่ากันกับดวงแก้วใสบริสุทธิ์ทุกประการ

    ๓.ดวงแก้วบางดวง เจียรนัยมาจากหินแก้วธรรมชาติสีต่างๆ เช่นสีขาวใสปนสีน้ำชา สีชมพู สีม่วง สีขาวขุ่นนวล สีขาวใสมีเส้นสีทอง สีนาคภายใน หรือสีเงินภายใน หรือมีลักษณะคล้ายตะไคร่น้ำภายใน ก็ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติเป็นแก้วกายสิทธิ์

    ๔.แก้วกายสิทธิ์บางดวงเจียรนัยกลม บางดวงเจียรนัยเป็นรูปดอกบัว เรียกว่า รัตนปทุมกายสิทธิ์ มีรูปร่างคล้ายดอกบัวตูม หรือเรียกอีกอย่างว่า กายสิทธิ์เกศพระธรรมกาย มีลักษณะคล้ายรูปทรงไข่ไก่ หรือดอกบัวตูม

    นอกจากนี้แก้วกายสิทธิ์บางดวง อาจมีรูปร่างรีคล้ายไข่เต่า ไข่นก ไข่ไก่ คล้ายลูกหรือเมล็ดผลไม้ แก้วกายสิทธิ์บางดวง ก็ขุ่นทึบเหมือนก้อนกรวด ก้อนหิน แต่ภายในศักดิ์สิทธิ์มีองค์กายสิทธิ์


    ผลดี จากการตรึกนึกในทางในกุศลบ่อยๆ ที่จะพึงเห็นได้ชัดในปัจจุบัน เช่น

    ๑. มีจิตใจปลอดโปร่ง แจ่มใส สามารถที่จะคิด ทำอะไร ให้สำเร็จได้ด้วยดี

    ๒. บุคลิก หน้าตา เบิกบาน ชวนให้คนอื่น ยินดีคบหาเป็นมิตรสนิทสนม เป็นผู้ใหญ่ก็เป็นที่เคารพรักของผู้น้อย เป็นผู้น้อยก็เป็นที่เมตตา หวังดีของผู้ใหญ่

    ๓. จิตใจของบุคคลนั้น จะแนบแน่นอยู่ด้วยธรรม พร้อมที่จะแสดงออกซึ่ง เมตตา กรุณาระมัดระวังใจของตน ตามสมควรแก่กรณี

    ๔. สามารถปิดกั้นกระแสเวร ภัยไม่ให้เกิดขึ้นแก่ตน และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตน

    ๕. จิตสงบเป็นสมาธิได้เร็ว เป็นปัจจัยสนับสนุนให้คนเช่นนั้นรู้อริยสัจตามความจริงได้ไม่ยากนัก


    ขอบคุณข้อมูลจากhttp://palungjit.org/threads/ชมภาพและความรู้อิทธิพลังของโป่งข่าม-หินแก้วกายสิทธิ์.48405/page-43 โดยพี่น้าเม้า



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2009
  11. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    สรุป
    "เงินทอง ถึงแม้จะมีค่ามหาศาล แต่ก็หาได้ง่ายเกลื่อนกลาด<O:p></O:p>
    ส่วนหินแก้ว หินหายากนั้นไซร้ บางคนมีเงินเป็นล้านๆ<O:p></O:p>
    ก็ยังไม่มีวาสนาได้พบได้ครอบครองเลย<O:p></O:p>
    แม้แต่ดวงเล็กนิดเดียว ก็ไม่มี... "<O:p></O:p>

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2009
  12. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    หอบเอาของมงคลๆๆมาให้พี่แก้วชม น่าสนใจนะ ซื้อเก็บสักตัวสิคะ

    ข้อมูลน่ารักๆๆภาพกะประวัติเจ้าตุ๊กตาน่าสนใจ
    เก็บเป็นของฝากมาฝากเพื่อนสมาชิกค่ะ
    "ตุ๊กตาแม่ลูกดก" หรือ มาตรีโอสคา เป็นของฝากสุดฮิตที่รัสเซีย
    เรากะลังจะได้ไปร่อนๆ ที่รัสเซีย
    [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    [​IMG]

    ตุ๊กตาแม่ลูกดกชุดหนึ่ง มีหลายตัว

    ลักษณะของตุ๊กตาแม่ลูกดกนั้น จะเป็นตุ๊กตาไม้หลายตัว เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อยู่ภายใน ตุ๊กตาแม่ลูกดกชุดหนึ่ง จะประกอบด้วยตุ๊กตาที่อยู่ภายในกี่ตัวก็ได้ ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวแม่ที่อยู่ด้านนอกสุดว่าจะบรรจุลูก ๆ ได้กี่ชั้น โดยแต่ละตัวก็จะมีลักษณะที่เป็นโพรงอยู่ตรงกลาง เว้นแต่ตัวที่เล็กสุด และทุกตัวก็จะมีรูปร่างและสีสันเหมือนกันหมดffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    รูปร่างหน้าตาของตุ๊กตาแม่ลูกดกแบบดั้งเดิมนั้นจะเป็นหญิงชาวนา แต่งกายแบบดั้งเดิม มีผ้าคลุมศีรษะ ซึ่งต่อมาก็มีการวาดลวดลายแต่งเติมให้เป็นที่นิยมมากขึ้น ทั้งรูปนางฟ้า เทพธิดา และบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย<O:p></O:p>
    สำหรับต้นกำเนิดของตุ๊กตาแม่ลูกดกนั้น มีการเล่าต่อ ๆ กันมาเป็นสองทางด้วยกัน ทางหนึ่งว่า พระชาวรัสเซียเป็นบุคคลแรกที่นำวิชาทำตุ๊กตาไม้ไปจากเกาะฮอนชูของญี่ปุ่น และเมื่อมาถึงรัสเซีย ก็ผสมผสานรูปแบบเข้ากับศิลปะท้องถิ่น เช่น แนวคิดในการซ้อนตุ๊กตาที่คุ้นเคยกันดีในรัสเซีย และประยุกต์เข้ากับงานประดิษฐ์แอปเปิ้ลไม้ รวมถึงไข่อีสเตอร์ จากนั้นจึงตั้งชื่อขึ้นใหม่ว่ามาตรีโอสคา<O:p></O:p>
    อีกทางหนึ่งก็ว่ามาตรีโอสคา ได้แรงบันดาลใจมากจากตุ๊กตาที่ระลึกจากเกาะฮอนชูในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเราเทียบ มาตรีโอสคา กับตุ๊กตาไม้ของญี่ปุ่นแล้ว จะเห็นว่ามีลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน<O:p></O:p>
    ทั้งนี้เซียร์เกย์ มัลยูติน ศิลปินคนหนึ่ง ได้ร่างแบบตุ๊กตาแม่ลูกดกขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อป พ.. 2434 และได้มีการถกเถียงและแก้ไขรูปแบบกันอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะได้ข้อยุติว่า ตุ๊กตาแม่ลูกดกนั้น จะมีลักษณะเป็นเด็กหญิงหน้ากลม ตาใส สวมชุดซาราฟัน (ชุดยาวถึงพื้น มีสายรัดทั้งสองข้าง) ผมสวย ที่ศีระษะคลุมผ้าสีสดใส ส่วนลูก ๆ ที่อยู่ด้านในนั้น จะแต่งตัวไม่เหมือนกับแม่ โดยจะใส่โคโซโวรอตคัส (กระโปรงแบบรัสเซีย) และเสื้อเชิต ปอดดิออฟคัส (เสื้อคลุมยาวถึงเอวของผู้ชาย) และผ้ากันเปื้อน<O:p></O:p>
    ในขั้นตอนของการทำนั้น จะเริ่มตั้งแต่การเลือกไม้เนื้อนิ่มที่มีคุณภาพ มาลอกเปลือกออกจนหมด ป้องกันไม่ให้ไม้แตกเวลาที่แห้ง เสร็จแล้วนำไม้เหล่านั้นไปเก็บจนเนื้อไม้แห้งพอดี<O:p></O:p>
    เมื่อจะนำไม้มาขึ้นงาน ก็จะต้องเลือกเวลาให้เหมาะสม โดยสภาพอากาศต้องไม่ชื้นหรือแห้งจนเกินไป ซึ่งต้องอาศัยผู้ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น และจะมีการตัดไม้ตามขั้นตอนต่าง ๆ มากถึง 15 ขั้นตอน<O:p></O:p>
    การผลิตนั้น จะเริ่มตั้งแต่ตัวที่อยู่เล็กสุด ที่บรรจุอยู่ภายใน ซึ่งต้องใช้ความละเอียดสูง หลังจากนั้นก็จะทำตุ๊กตาตัวรองซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย พอให้ใส่น้องคนสุดท้องได้ โดยวิธีการตัดไม้ออกเป็นสองท่อน หลังจากนั้นก็จะแกะสลักท่อนล่างก่อน โดยขุดเอาเนื้อไม้ด้านในออก จากนั้นลองใส่ตุ๊กตาน้องคนสุดท้องลงไป ถ้าไม่ได้ก็ต้องค่อย ๆ ขุดเนื้อไม้ออกทีละนิด จนกว่าจะพอดี โดยตุ๊กตาที่ใส่ด้านในนั้น จะมีจำนวนกี่ตัวก็ได้<O:p></O:p>
    เมื่อได้ตุ๊กตาแม่ลูกดกทั้งหมดแล้ว ก็นำกาวมาปิดส่วนที่มีร่องรอยบนผิวหน้าให้เรียบ ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นนำไปขัดผิวให้เรียบเสมอกัน วาดรูปร่างหน้าตา รวมถึงการลงสีสัน จากนั้นเคลือบเงาเพื่อเพิ่มความสวยงามอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


    <O:p></O:p>
    ที่สำคัญการใส่ตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ ซ้อนกันลงไปหลาย ๆ ตัวนั้นคนรัสเซียถือว่าเป็นเครื่องหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ และความมีชีวิตที่ยืนยาวจึงนับเป็นของฝากที่เป็นมงคลอีกอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนรัสเซียส่วนใหญ่นิยมซื้อกลับมาเป็นของฝาก...

    ขอบคุณข้อมูลจากpimmie.212cafe.com/<WBR>user_blog/pimmie/Matryoshk...

    ตุ๊กตาแม่ลูกดกสมัยใหม่
    [​IMG]

    ตุ๊กตาแม่ลูกดกสมัยใหม่ของญี่ปุ่น


    การผลิตตุ๊กตามาตรีโอสคานั้นเริ่มแพร่หลายจากมอสโกไปยังเมืองอื่นๆ ช่างแต่ละรายจะมีเอกลักษณ์การตกแต่งของตัวเอง เอกลักษณ์ดั้งเดิมจึงสูญหายไป
    เมื่อฉลองร้อยปีสงครามระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศส มีคนสั่งทำตุ๊กตามาตรีโอสคาเป็นรูปนายพลมิฮาอิล คูตูซอฟ ของรัสเซีย และนโปเลียน โบนาปาร์ต ของฝรั่งเศส นายพลทั้งสองมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีการแกะรูปนายพลของทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมในสงคราม บรรจุในพุงของแม่ทัพแต่ละฝ่าย ถึงจะเป็นตุ๊กตานายทหาร แต่พวกเขาก็ยังคงเรียกว่า มาตรีโอสคา
    ปัจจุบันนี้ นอกจากผู้คนพบเห็นตุ๊กตาแม่ลูกดกในรัสเซียแล้ว ประเทศอื่นๆ ที่แยกจากรัสเซียเดิม เช่น อุซเบกิสถาน ก็มีการผลิตมาตรีโอสคาแพร่หลายเช่นกัน ผู้ที่ไปเยือนดินแดนเหล่านี้ มักจะไม่ลืมที่จะเที่ยวซื้อหาตุ๊กตามาตรีโอสคา เป็นของที่ระลึกแก่ญาติมิตรตลอดเวลา นอกจากทำเป็นรูปเด็กหญิงแล้วยังมีรูปอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ดอกไม้ โบสถ์ ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางศาสนา เป็นต้น
    การใส่ตุ๊กตาตัวเล็กซ้อนลงไปหลายๆ ตัวนั้น เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และความมีชีวิตยืนยาว จึงนับเป็นเครื่องหมายอันเป็นมงคล และไม่น่าแปลกใจที่ตุ๊กตาแม่ลูกดกจะเป็นที่นิยมมานาน

    ขอบคุณwww.porthee.freeforums.org
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2009
  13. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    <TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=15></TD><TD vAlign=bottom background=/Horoscope/box3_02.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=subHead5 height=25>ธาตุและอัญมณี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=44>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=nSport1>
    [​IMG]


    ใครเกิดธาตุอะไร ใครสงสัยว่าตัวเองธาตุอะไรกันแน่

    ธาตุทอง

    ปี ฉลู มะเส็ง และระกา
    สีที่คู่ควร สีแดง สีเหลือง สีฟ้า สีน้ำเงิน และสีขาว
    สีที่ไม่คู่ควร สีเขียว และสีน้ำตาล
    อัญมณีที่คู่ควร เพชร ทอง และบุษราคัม
    นิสัยโดยรวม ร่าเริง คล่องแคล่วว่องไว รักอิสระเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิด

    โทนสีที่เหมาะกับคนธาตุทอง คือโทนสีสดใส เช่น สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงินซึ่งเราสามารถนำโทนสีต่างๆนี้มาประยุกต์ใช้กับการแต่งตัวและแฟชั่นเสื้อผ้าเพื่อเสริมบุคลิกและดวงชะตาได้เช่นคนเกิดธาตุทองถ้าใส่เสื้อผ้าโทนสีสดใส อาทิสีแดงจะช่วยทำให้บุคลิกดูโดดเด่นและดูกระฉับกระเฉงขึ้น

    ธาตุไม้

    ปี เถาะ มะแม และกุน
    สีที่คู่ควร สีดำ สีน้ำเงิน และสีชมพู
    อัญมณีที่คู่ควร ไพลิน พลอยชมพู และนิล
    นิสัยโดยรวม เป็นคนนิ่งๆ น่าเกรงขามเหมาะกับงานด้านการติดต่อสื่อสาร

    โทนสีที่เหมาะกับคนธาตุไม้ คือโทนสีทึบ เช่นสีดำ สีน้ำเงินเพราะถ้าใส่สีสดใสจะลดความน่าเชื่อถือลง แต่โทนสีสดใสที่ใส่ได้ คือสีชมพู

    ธาตุไฟ

    ปี ขาล มะเมีย และจอ
    สีที่คู่ควร สีเขียว สีแดง สีน้ำเงิน และสีขาว
    สีที่ไม่คู่ควร สีเทา สีครีม
    อัญมณีที่คู่ควร เพชร ทองคำขาว และเครื่องเงิน

    โทนสีที่เหมาะกับคนธาตุไฟ คือได้ทั้งโทนสีเข้มและสว่าง เช่น สีเขียว สีแดงสีน้ำเงิน และสีขาว เพราะสีโทนเข้ม เช่นสีน้ำเงินจะทำให้บุคลิกของผู้สวมใส่ดูมีพลังอำนาจ และน่าเกรงขามมากขึ้น แต่ถ้าใส่สีสว่างเช่น สีขาวจะทำดูเป็นคนมี มนุษย์สัมพันธ์มากขึ้น

    ธาตุน้ำ

    ปี ชวด มะโรง และวอก
    สีที่คู่ควร สีเทา สีครีม สีขาว
    สีที่ไม่คู่ควร สีเขียว และสีน้ำตาล
    อัญมณีที่คู่ควร เพชร และไพลิน
    นิสัยโดยรวม สนุกสนาน ถนัดในเรื่องของการใช้พูดเหมาะกับงานที่ใช้คำพูด เช่นค้าขาย

    โทนสีที่เหมาะกับคนธาตุน้ำคือ โทนสีเย็นสว่างๆ เช่นสีขาว สีครีม และสีเทาเพราะคนที่เกิดธาตุน้ำมีทั้งน้ำร้อน และน้ำเย็น ดังนั้นถ้าใส่เสื้อผ้าโทนสีขาวสีครีมก็จะทำให้บุคลิกของคนธาตุน้ำดูอ่อนน้อมมากขึ้น แต่ถ้าใส่โทนสีร้อน เช่น สีแดงก็จะทำให้บุคลิกดูก้าวร้าวขึ้น

    นิสัยโดยรวม มี 2 บุคลิก ทั้งนิ่งๆ และสดใสร่าเริงมีความคิดสร้างสรรค์ แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไดีด้

    นอกจากการแต่งกายให้ถูกโฉลกกับราศีแล้วเครื่องประดับก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยเพราะเครื่องประดับจะทำให้เราดูแตกต่างและโดดเด่นจากคนอื่นที่สำคัญสามารถใส่ได้ทุกฤดูกาลอีกทั้งสีของอัญมณียังมีอิทธิพลต่อผู้ที่สวมใส่อีกด้วยเพราะคนส่วนใหญ่ก็จะมองคนที่การแต่งตัวก่อนที่จะเข้ามาพูดคุยด้วยดังนั้นหากเราเลือกสวมใส่อัญมณีและโทนสีของเสื้อผ้าที่ช่วยส่งเสริมดวงชะตาของเราแล้วก็จะช่วยเรื่องการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ราบรื่นขึ้นเช่น การเจรจาการค้า การติดต่องาน

    “อัญมณีที่คู่ควรกับธาตุน้ำ หรือปีชวด ปีมะโรง ปีวอก คือเพชร และไพลิน ส่วนธาตุไม้หรือปีเถาะ ปีมะแม และปีกุน อัญมณีที่คู่ควรคือไพลิน พลอยชมพู และนิล สุดท้ายธาตุไฟคือปีขาล ปีมะเมีย และปีจอ อัญมณีที่คู่ควรคือเพชร ทองคำขาว และเครื่องเงินเป็นต้น”

    สำหรับการแต่งตัวตามราศีว่า การแต่งตัวเหมือนการทดลองและงานศิลปะไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว เราต้องสนุกกับมันและทดลองไปเรื่อยๆซึ่งในชีวิตประจำวันสามารถนำความรู้เรื่องสีที่ส่งเสริมดวงชะตาตามปีเกิดได้มามิกซ์แอนด์แมตช์กับแฟชั่นเสื้อผ้าได้อันดับแรกเราต้องหาสไตล์ของตัวเองให้เจอก่อนหรือดึงเอาความเป็นตัวเองออกมาให้ได้และต้องรู้ว่าเราชอบอะไรแล้วก็นำมาประยุกต์ให้เข้าเทรนด์แฟชั่นโดยเลือกโทนสีที่ช่วยส่งเสริมบุคลิกและดวงชะตาของเรา แต่ให้ดูเป็นตัวเราที่สุด ดังนั้นการแต่งตัวเพื่อเสริมราศีจึงไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ขอบคุณhttp://horoscope.thaiza.com/horoscope108_8.html</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2009
  14. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    <TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=/Horoscope/box3_02.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=subHead5 height=25>แก้วจอมขวัญ จอมมหาเสน่ห์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=44>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=nSport1>
    [​IMG]

    แก้วจอมขวัญเป็นโป่งข่ามสีม่วง มีทั้งสีเข้มและอ่อน ลักษณะคล้ายอเมทิสมากแต่ความสวยอาจจะด้อยกว่าอเมทิสอยู่บ้าง


    เป็นแก้วชั้นสูงสมัยโบราณจะใช้แก้วชนิดนี้ วางรองเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และใช้เป็นเครื่องประดับของพระมหากษัตริย์และ ราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น เป็นแก้วที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม สมัยก่อนนั้นจึงห้ามมิให้ราษฎร แม้กระทั่งเจ้าขุนมูลนายนำมาใช้

    อานุภาพของแก้วจอมขวัญนั้นเป็นที่ประจักษ์ในด้านฤทธิ์อำนาจ มหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ และใช้อธิษฐานเสี่ยงทาย เสี่ยงรักได้อีกด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=/Horoscope/box3_02.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=subHead5 height=25>แก้วพิรุณฝนแสนห่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=44>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=nSport1>
    [​IMG]
    แก้วชนิดนี้จะมีลวดลายข้างในคล้ายสายฝน หรือสะเก็ดดาวตกๆลงมาจากฟากฟ้า สวยงามแปลกตาเป็นแก้วที่ธรรมชาติรังสรรค์ได้วิจิตรพิสดารมาก มีอาถรรพ์มีอิทธิฤทธิ์ สูงสุดยอดทางด้านแคล้วคลาด กันภัย ความเจริญรุ่งเรือง ดับร้อน กลับร้ายให้กลายเป็นดี

    ในสมัยโบราณบูรพาจารย์ได้นำแก้ววิเศษชนิดนี้มาทำสายวิชาแคล้วคลาดชั้นสูง แม่ทัพ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่จะใช้แก้วชนิดนี้ออกรบจับศึก เพื่อต้านอาวุธจากข้าศึกไม่ว่าจะเป็นปืนผาหน้าไม้ ปืนไฟต่างๆที่ยิงเข้ามาจะไม่อาจถูกต้องตัวของผู้ที่ใช้แก้ววิเศษทำวิชาฝนแสนห่า นี้ได้เลย ท่านตีค่าวิชานี้ว่ามีค่าควรเมืองทีเดียว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=/Horoscope/box3_02.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=subHead5 height=25>แก้วหมอกมุงเมือง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=44>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=nSport1>ลักษณะของแก้วหมอกมุงเมืองนั้นจะมีลายภายในแก้วคล้ายกับเมฆหมอกลอย มาปกคลุม บางทีมองดูเหมือนเป็นก้อน บ้างก็เห็นลอยแบบบางเบาคล้ายธรรมชาติบนท้องฟ้ามาก [​IMG]

    หลายต่อหลายคนพากันสงสัยว่าเพราะเหตุใดโบราณจารย์ท่านถึงเรียกชื่อ แก้วชนิดนี้ว่า “ หมอกมุงเมือง “ มันคงไม่ใช่แค่เพียงแต่มีรูปลักษณ์คล้ายเมฆหมอกเท่านั้นหรอก

    อันที่จริงแล้วไซร้แก้วชนิดนี้เมื่อสมัยก่อนท่านปุโรหิตจอมขมังเวทย์ท่านได้นำมาใช้ประกอบพิธีบังเมือง เพื่อกำบังตาไม่ให้ข้าศึกศัตรูมองเห็น เรียกว่าวิชาบังเมือง หรือวิชาหมอกมุงเมืองนั่นเอง

    คงเห็นแล้วใช่ไหมว่าชื่อแต่ละชื่อที่บูรพาจารย์ท่านใช้เรียกชื่อโป่งข่ามแต่ละอย่าง นั้นมันจะต้องมีที่มาที่ไปแบบไม่ธรรมดาๆเลยจริงๆ ส่วนอานุภาพของแก้วหมอกมุงเมือง ท่านกล่าวว่าดีทางร่มเย็นเป็นสุข นิราศภัยจากศัตรูหมู่มาร ปรับอารมณ์ กันไข้ป่า คุ้มครองตัว เมตตามหานิยม โชคลาภ

    สมัยก่อนผู้ที่ใช้แก้วชนิดนี้ออกทัพจับศึกจะเป็นพวกแม่ทัพ นายกองชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น จึงจะมีสิทธิครอบครองเพื่อใช้ปกป้องบ้าน เมือง ปราบปรามผู้รุกรานจนราบคาบครองความเป็นไทยมาได้จนถึงพวกเราทุกวันนี้..

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=/Horoscope/box3_02.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=subHead5 height=25>หินเขี้ยวหนุมาน หินศักดิ์สิทธิ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=44>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=nSport1>“เขี้ยวหนุมาน”เป็นหินตระกูลเดียวกันกับเพชร แต่มีความแข็งน้อยกว่าเพชร มีผู้เชื่อว่าเขี้ยวหนุมาณนี้ ถ้าทิ้งไว้ตามสภาพเดิมนานต่อไปอีกประมาณ 1,000 ปี จะกลาย เป็นเพชรจริง ๆ

    [​IMG]

    หินเขี้ยวหนุมาน เป็นรัตนชาติที่มีพลังอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์อยู่ในตัวเอง เป็นพลังที่สั่งสมมาเป็นเวลาช้านาน และเป็นพลังที่ดี มีพุทธคุณในตัวเองทั้งที่ยังไม่ได้ปลุกเสก เป็นหินแห่งโชคลาภ เมตตามหานิยมและช่วยคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ทำให้เกิดความแคล้วคลาด มหาอุด ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคน ป้องกันภยันตราย ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล ช่วยเสริมส่งวาสนาบารมี นำโชคลาภมาสู่ผู้ครอบครอง

    คนสมัยก่อนนิยมนำหินเขี้ยวหนุมานพกติดตัวไว้ เพื่อกันคุณไสย เขี้ยวงาต่างๆ สามารถป้องกันปัญหา และขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายให้ออกจากร่างกาย อาคารบ้านเรือน และสถานที่ที่ทำงานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถปรับสมดุลตามธรรมชาติของร่างกายได้และพลังที่เปล่งออกมาเป็นพลังที่มีแต่ความเยือกเย็น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าจากธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมทั้งสามารถรับและดักเก็บพลังได้มาก เมื่อเทียบกับวัตถุอื่นๆ เช่น ทองคำ ตะกั่ว

    นอกจากนี้ยังเชื่อกันอีกว่า ใครมีหินเขี้ยวหนุมานจะเป็นการเพิ่มพูนบารมีอำนาจวาสนา ให้กับตัวเอง และหากจะนำมาใช้ในทางปฏิบัติธรรม ก็จะช่วยทำให้จิตเป็นสมาธิได้เร็วขึ้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=15></TD><TD vAlign=bottom background=/Horoscope/box3_02.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=subHead5 height=25>หิน "จุยเจีย" หินมงคลปัดเป่าความชั่วร้าย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=44>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=nSport1>"จุยเจีย" เป็นภาษาจีน มีความหมายว่า หินที่มีความใสเหมือนน้ำ และใน ภาษากรีก มาจากรากศัพท์ที่แปลว่า ก้อนน้ำแข็ง ซึ่งหมายถึงความใสนั่นเอง [​IMG]

    ตามคตินิยมของชาวจีนโบราณถือว่า แก้วจุยเจีย เป็นรัตนชาติที่มีความ ศักด์สิทธิ์ และมีพลังอานุภาพแห่งความขลังที่ได้สั่งสมมาเป็นเวลาช้านาน เป็นพลังที่ดี สามารถ ป้องกันปัญหาต่างๆ และสามารถขจัดปัดเป่า สิ่งเลวร้าย ออกจากร่างกาย อาคารบ้านเรือน ตลอดจนสถานที่ทำงานได้อีกด้วย

    นอกจากนี้ แก้วจุยเจีย ยังสามารถปรับสมดุลตามธรรมชาติ ของร่างกาย ได้เป็นอย่างดี พลังที่เปล่งออกมาจาก แก้วจุยเจีย เป็นพลังที่มีแต่ความเยือกเย็น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ ทรงคุณค่า จากธรรมชาติอย่างแท้จริง

    พระโบราณาจารย์ในแคว้นล้านนา มักจะเอา แก้วจุยเจีย มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปขนาดห้อยคอ แล้วนำไปสมโภชปลุกเสกโดยพระสุปฏิปัณโณ เพื่อให้มีพุทธคุณครบถ้วน ในทุกด้าน ตั้งแต่เมตตามหานิยม คุ้มครอง แคล้วคลาด ปลอดภัย มหาอุด คงกระพันชาตรี ป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจ คุณคน มหาอำนาจ ตลอดจนเพิ่มพูนวาสนาบารมี

    ถ้านำ แก้วจุยเจีย มาใช้ในทางปฏิบัติธรรม ก็จะช่วยทำให้จิตเป็นสมาธิได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันภยันตราย ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอัปมงคลต่างๆ ช่วยเสริมส่งวาสนาบารมี นำโชค ลาภมาสู่ผู้ครอบครอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=15></TD><TD vAlign=bottom background=/Horoscope/box3_02.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=subHead5 height=25>หินทิเบต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=44>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=nSport1>
    มีตำนานเล่าว่าในสมัยเริ่มแรกของทิเบต ได้เกิดโรคระบาดอย่างรุนแรง ชาวทิเบตต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน โชคดีที่ได้พระองค์หนึ่งผ่านมานามว่า Vajravarahi ได้มาช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ โดยทำให้หินวิเศษหล่นมาจากฟ้า ใครก็ตามที่เชื่อมั่นก็จะปลอดภัยจากโรคร้าย ปลอดจากความหายนะและโชคร้ายทั้งปวง

    ประวัติความเป็นมาของหินทิเบต

    [​IMG]

    หินทิเบต ปรากฏในสมัย 3,000-1,500 ปีก่อนคริสตกาล ในอินเดียโบราณมีชนเผ่าอารยันอาศัยอยู่ ผู้คนในสมัยนั้นนับถือและสวดอ้อนวอนพระเจ้า ใช้เวทย์มนต์ มีการแกะสลักหินเป็นรูปสัตว์และสัญลักษณ์อื่น ๆ เพื่อทำให้วิญญาณบริสุทธิ์ หินในสมัยนั้นเรียกว่า เวด้า (Veda) เริ่มแรกลวดลายนั้นเกิดจากสภาพแวดล้อมและความรุนแรงของปรากฏการณ์ธรรมชาติ ต่อมาพวกเขาจึงได้คิดวิธีการรักษาโรคร้ายโดยใช้หินที่แกะลวดลายต่าง ๆ นำมาสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า

    หินทิเบต ในภาษาทิเบต มีความหมายว่าสวยงาม อำนาจ ร่ำรวย ในภาษาสันสกฤตเรียกว่า ไมซีก้า (Meiziga) ในสมัยฮ่องเต้ถังไท่จง พระธิดาของพระองค์ได้อภิเษกสมรสกับกษัตริย์ของทิเบต พระธิดาได้นำพระพุทธรูปจากอินเดีย เป็นสินสมรส และได้ประดิษฐานไว้ที่วัดโจคังในเมืองลาซา ชาวทิเบตได้ใช้หินทิเบตมากกว่าร้อยเม็ดฝังไว้ในองค์พระ

    ในบันทึกทางประวัติศาสตร์กล่าวว่าได้มีการติดต่อกันระหว่างทิเบตและยูหยวน และมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันดังนั้นตำนานการทำหินdZi จึงมีการถ่ายทอดกันมาหลายรุ่นจนถึงปัจจุบัน

    หินทิเบตพบมากในประเทศแภบเทือกเขาหิมาลัย เช่น ทิเบต ทิเบตตะวันออก ภูฏาน สิกขิม ลาดัค ชาวทิเบตเรียกอีกชื่อว่า เทียนจู ย้อนไปเมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว ชาวทิเบตพบว่ามีสนามแม่เหล็กรอบ ๆ หินนี้จึงนำมาทำก้อนกลม ๆ และแบบต่าง ๆ

    แต่ในสมัยนั้นยังไม่มีเทคนิคในการทำมากนัก จึงได้หินที่มีลายตื้น ๆ ต่อมาชาวทิเบตได้วาดลวดลายหินนำโชคหลาย ๆ ลายเช่น แจกันโภคทรัพย์ ดอกบัว ลายเขี้ยวเสือ ตาหลาย ๆ แบบ และลายเส้น ฯลฯ แล้วนำไปเผาด้วยความร้อนสูง เพื่อให้ลวดลายซึกเข้าไปลึก ถ้าหินทิเบต ได้ผ่านการสวดหรือปลุกเสกโดยพระผู้มีวิชาหรือปรมาจารย์ทางลัทธิเต๋า จะทำให้มีพลังวิเศษ กล่าวกันว่าเฉพาะผู้ที่มีบุญวาสนาเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้ครอบครองหินนำโชคนี้

    ส่วนประกอบของหินแท้ ทำจากหินอาเก็ต เรียกว่า คาลซีโดนี (Chalcedony) มีชื่อทางเคมีว่า ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2) หินทิเบตแท้จะปล่อยสนามแม่เหล็กที่มีพลังงานสูงมากออกมาลักษณะภายนอกจะแบ่งได้ 4 ชนิด ได้แก่ หินสีแดงซึ่งอยู่ลึกที่สุดของภูเขาขณะเดียวกันก็ทีค่าพลังวัตรและมีมูลค่ามากที่สุด นอกจากสีแดงยังมีหินสีดำ หินสีดำขาว และหินสีขาวหรือสีใสซึ่งอยู่ชั้นนอกสุดที่ระดับความลึกประมาณ 2-3 เมตร

    [​IMG]
    ความหมายของสัญลักษณ์บนหิน

    ลวดลายบนหินทิเบตแบ่งออกตามสัญลักษณ์ 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้


    1. ความสงบสุข จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปวงกลม หมายถึง ป้องกันความหายนะ เปลี่ยนโชคร้ายกลายเป็นดีและขจัดอุปสรรค
    2. ความก้าวหน้า มีสัญลักษณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยม หมายถึง ธุรกิจรุ่งเรือง ความร่ำรวยรวดเร็ว มิโชคลาภและสมปรารถนา
    3. ความสมบูรณ์แบบ มีสัญลักษณ์เป็นเส้นโค้ง หมายถึง ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น มีมนุษญสัมพันธ์ที่ดี สร้างความเป็นผู้นำ
    4. พลังอำนาจ มีสัญลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยม หมายถึง ต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย ปราบภูตผีปีศาจ ขับไล่พลังที่ชั่วร้าย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ขอขอบคุณข้อมูลจาก
     
  15. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
     
  16. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    hello3น้องๆห๊ายไปไหนกันหมด....ฝนตกหละสิ นอนกันหมดแล้วมั้ง หรือว่าดูทีวีกันอยู่
    วันนี้คุณน้องชายจันทร์จะกลับถึงเคหาสน์สถานอ๊ะยังน้อ....ชักจะคิดฮอดแล้วน๊า

    ;aa27;aa7 ก่อนไปซ่อนตาดำ ให้น้องๆดูรูปแล้วทายกันนะจ๊ะ ทายอ่ะ ทายเฉยๆเลย ว่าถ่ายรูปนี้ทำมายยย??? อ่ะคริ ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8218.JPG
      DSCN8218.JPG
      ขนาดไฟล์:
      32.9 KB
      เปิดดู:
      689
  17. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
     
  18. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    วันครบรอบแต่งงานหรอ หรือวันเกิดพี่แก้วอ่ะ...;38
     
  19. วิมุติมรรค

    วิมุติมรรค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,753

    [​IMG]


    สุขสันต์วันเกิดครับ...คุณเเก้ว

    HBDs



     
  20. mssoda

    mssoda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,182
    ค่าพลัง:
    +50
    อ้อ วันเกิดพี่แก้วนั่นเอง...;aa48

    HAPPY Birthday to P' Kaew
    ขอให้มีความสุข คิดสิ่งใดก้อสมหวัง สมความปรารถนาทุกประการ
    ปราศจากอุปสรรค มีคนคอยอุปถัมภ์คำชู มีเพื่อนสนิทมิตรสหายที่ดี
    มีสุขภาพแข็งแรง การงานเจริญก้าวหน้า เงินไหลมาเทมา รวยๆๆๆ เฮงๆๆๆ
    และสุดท้ายมีลูกหลานเหลนโหลนเต็มล้นบ้านนะค๊า...........สาธุ
    -love mode-(sing)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...