::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wannabexcite, 19 มกราคม 2009.

  1. donjudo077

    donjudo077 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,719
    ค่าพลัง:
    +14,438
    ผมขอแนะนำอีกหนึ่งเสียงครับ สำหรับพระอาจารย์พรสิทธิ์ วัดสว่างอารมณ์ อ.สันป่าตองนั่นแหละครับ ถ้าคุณชอบด้านข่ามคง ทำเสร็จก็ลองยิงกันเลยครับ จะได้เห็นกับตาครับ เอาไปจะได้ไปบูชา มีตะกรุดหลายรุ่นที่ประสบการณ์เยอะๆครับ เช่น ตะกรุดรุ่นนักศึกษาม.รังสิตที่เขามาช่วยสร้างห้องสมุดของโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ พระอาจารย์ท่านจึงแจกตะกรุดคนละดอกครับ เอาไว้เป็นที่ระลึกถึงน้ำใจอันดีงามครับ พวกนักศึกษาก็ได้มาก็นึกลองดีครับ เอามีดมาแทงคนละที ผลคือไม่เข้าครับ ตอนหลังไปดังที่กรุงเทพครับ มีคนถามหากันอีกเยอะครับ ข้างในถ้าผมจำไม่ผิดพระอาจารย์จะลงยันต์ นวหรคุณ เป็นคุณของพระพุทธเจ้าเก้าประการครับ หรือ คนภาคกลางจะเรียกว่าอิติปิโสเก้าห้อง ครับ ผมยังเสียดายอยู่เลยครับ ตะกรุดดอกนั้นผมก็ได้รับมา แต่ปัจจุบันผมให้ อดีตแฟนผม ไปครับ เนื่องจากเขาต้องเดินทางบ่อย และตอนที่คบกันก็มักจะเล่าประสบการณ์ทางด้านแคล้วคลาดอยู่เสมอครับ

    ท่านชำนาญเรื่องอักขระเลขยันต์เป็นที่สุด ทั้งตัวเมือง ตัวขอม ตัวไทยใหญ่ ตัวพม่า และตัวลาว ที่สำคัญท่านใจดีครับ ถ้าคุณสนใจลองไปกราบท่านดูครับ วัดอยู่ใกล้กับวัดท่าจำปี ครูบาดวงดีใหญ่ครับ จะได้ร่วมกันทำบุญสร้างศาลาซึ่งเป็นกุฏิไปในตัวด้วยครับ
     
  2. อัสดงส์

    อัสดงส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,319
    ค่าพลัง:
    +3,697
    ตะกรุดลองไปวัดสว่างอารมณ์ ตามที่น้องโจบอกครับ ส่วนที่จอมทองได้ข่าวว่ามีพระหนุ่มเกศาท่านกลายเป็นพระธาตุไปแล้ว เสียดายผมจําชื่อวัดไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2009
  3. donjudo077

    donjudo077 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,719
    ค่าพลัง:
    +14,438
    ใช่ที่น้องเณรบอกหรือเปล่าครับ สามเณรเจมส์ อะครับ ผมก็คุ้นๆเหมือนกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2009
  4. maxkyman

    maxkyman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,473
    ค่าพลัง:
    +6,406
    เข้ามาฟังเพื่อเก็บเรื่องราวครับ อิอิ ไม่แน่ผมจะขึ้นไปเชียงใหม่เช่นกันครับ จะได้ไปหาพระอาจารย์พรสิทธิ์เพราะบ้านผมอยู่ทุ่งท้อครับ
     
  5. แมวขาว

    แมวขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +241
    thank....
    งันๆวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปวัดสว่างอารมกันคับเพ่ไก
     
  6. สายครูบา

    สายครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    4,224
    ค่าพลัง:
    +22,130
    สวัสดีครับพี่ๆ ไม่ได้เข้ามาซะนานเลย

    รับน้องกันขนาดหนัก

    Freshy เหน่ยเน้อ

    ไว้มาเที่ยวหากันบ้างนะครับพี่ๆ

    พี่ไก่ๆ อยากไปหา ครูบาตั๋น ครูบาจันทร์แก้ว ครูบาท่าจำปี ไปไหว้สาขอบคุณ แห่ะๆ ขอเรื่องที่เรียนไว้...
     
  7. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804
    สวัสดีครับ...
    ขอขอบคุณคุณฉัตรที่มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับครูบาต๋า หรือตุ๊ลุงต๋า วัดอุโบสถบ้านเหล่านะครับ
    วัดบ้านเหล่า อยู่ไม่ไกลบ้านผม ขี่มอไซต์ ปื๊ดเดียวก็ถึง...
    ใกล้กว่าวัดฟ้าหลั่ง
    ใกล้กว่าวัดร้องขุ้ม เสียอีก


    อันที่จริงก็ตั้งใจว่าจะนำเอาประวัติท่านมาพูดคุยในเวปเหมือนกัน
    ติดแต่ตรงที่ไม่ค่อยมีวัตถุมงคลของครูบาต๋า

    เลยยังไม่ได้เอามาโพส

    ครูบาต๋าท่านเป็นหลานครูบาชุ่ม เคยไปอยู่ ไปเรียน ไปช่วยสร้างวัด
    ไม้เท้าและพัดหางนกยูง ของครูบาเจ้าศรีวิไชย ครูบาต๋า ก็สืบมาจากครูบาชุ่ม
    วิชาทำตะกรุด ทำผ้ายันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคลท่านก็สืบมาจากครูบาชุ่ม
    เรื่องขลัง เรื่องเหนียว หายห่วง...


    เรื่องเหรียญของครูบาต๋า ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากที่คุณฉัตรเล่าไว้อีกสักเล็กน้อยนะครับ

    เหรียญรุ่นแรก สร้างปี 2522
    คณะศิษย์ครูบาชุ่มมาสร้างถวาย เป็นเหรียญรูปไข่ เล็กๆ
    มีเนื้อเงิน 58 เหรียญ เนื้อทองแดง 5000
    ปลุกเสกโดยพระเถระ 9 รูป ที่ดังๆ ในยุคนั้น เช่น...
    ครูบาอินโต วัดบุญยืน, ครูบาอินตา วัดห้วยไซ, ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ฯ...
    และครูบาต๋าเสกเดี่ยวอีกองค์
    ประสบการณ์ บอกได้เลยว่าเพียบบบบบบบบบ+++++


    เหรียญรุ่น 2 สร้างปี 2525 คณะศิษย์พระประแดงสร้างถวาย
    เป็นเหรียญรูปทรงคล้ายๆ ระฆังคว่ำ มีหยักๆ อธิบายไม่ถูก
    ด้านหลังเขียนไว้ชัดเจนว่า “คณะศิษย์พระประแดงสร้าง”
    เป็นเหรียญเนื้อทองแดงรมดำ 2,500 เหรียญ
    เหรียญรุ่นนี้หายากแฮะ ผมตามเก็บมาหลายปียังไม่เจอเลย


    เหรียญรุ่น 3 ปี 2530 ด้านหน้า ใช้บล็อกเดียวกับเหรียญรุ่นแรก
    แต่ด้านหลัง เปลี่ยนเป็นพ.ศ.2530 วัดอุโบสถบ้านเหล่า
    และแก้ไขยันต์ที่แกะบล็อกตกไปตอนทำเหรียญรุ่นแรก
    สร้างจำนวน 5,000 เหรียญ
    เหรียญรุ่นนี้ ตุ๊ลุงต๋า เสกกับหลวงพ่อวัดสันคะยอม

    องค์นี้ได้ยินมาว่าเก่งมากเหมือนกัน
    วัดสันคะยอมอยู่ห่างจากบ้านผมสักประมาณ 200 เมตรได้
    แต่ไม่เคยได้ไปกราบท่านเลย
    ท่านมรณภาพไป โอ้... นานมาก ก่อนตุ๊ลุงต๋าอีกมั้ง
    ตอนนั้นผมยังเด็ก ไม่ได้สนใจ เลยไม่ได้ไป...


    เอารูปครูบาต๋ามาให้ชมกันก่อนเดี๋ยวมาเล่าต่อครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    รูปถ่ายถือไม้เท้าครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ครูบาต๋า สืบมาจากครูบาชุ่ม
    พัดหางนกยูงผมไม่เคยเห็นที่วัดนะ
    ไม่รู้ว่าเค้าเก็บไว้ที่ไหน
    ส่วนไม้เท้า ใส่กรงเหล็กกันขโมยแน่นหนาเลย

    [​IMG]

    รูปวาดของท่าน บนผนังศาลาการเปรียญ...

    [​IMG]

    อันนี้เป็นรูปขนาดเล็กๆ ที่ท่านแจกสมัยก่อนครับ

    ธีระยุทธ

     
  8. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804
    เท่าที่ผมทราบ....
    ลูกศิษย์ที่ “สืบทอดวิชา” จากครูบาต๋า “อย่างเป็นทางการ” ไม่มีครับ
    แต่ที่ไปต่อวิชาเป็นครั้งคราว น่าจะพอมี

    อย่างพระอาจารย์พรชัย (พระครูป๋า) เจ้าอาวาสวัดทุ่งปุย
    ก็เคยไปอยู่ที่วัด เพื่อช่วยครูบาต๋าทำตะกรุดก๋าสะท้อน
    ท่านเล่าว่า เหมือนกันเลยกับตำราของครูบาปัญญา และครูบาบุญมี วัดศิลามงคล
    (((ครูบาอินท่านไม่ทำตะกรุดก๋าสะท้อนแบบเฉพาะตัว ใครมาขอท่านให้ไปเอาที่ครูบาปัญญา
    ครูบุญมี วัดสิลามงคล และครูบาติ๊บ วัดท่าวังพร้าว... หรือก็ที่พ่อหนานจันทร์ ไจยสิทธิ์
    ท่านว่ายกให้เขาไปแล้ว)))

    ถ้ายังจำกันได้ ครูบาปัญญา เป็นหลานของครูบาอิน
    และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งปุยต่อจากหลวงปู่ เมื่อครั้งหลวงปู่ย้ายมาอยู่วัดฟ้าหลั่ง
    ส่วนครูบาบุญมี ก็มาต่อวิชาทำตะกรุดก๋าสะท้อน “เฉพาะตัว” จนเป็นที่รู้จัก
    ติดทำเนียบ “ตั๋น ปั๋น มี มา” ยอดขุนพลสายใต้
    เรื่องนี้เล่าแล้ว ข้ามดีกว่า
    เรื่องเก่าเล่าซ้ำเดี๋ยวคนอ่านจะเบื่อ...

    ผมไม่แน่ใจว่า พระอาจารย์พรสิทธิ์ ท่านได้เคยไปต่อวิชากับครูบาต๋าหรือเปล่า
    เพราะว่าครูบาอาจารย์สายสันป่าตอง แม่วาง จอมทอง
    พระอาจารย์พรสิทธิ์ท่านไปต่อวิชามาหมด
    ก็ไม่น่าจะพลาดที่ครูบาต๋า...

    พระอาจารย์พรสิทธิ์ ครูบาอาจารย์ท่านเยอะมากจริงๆ
    พระอาจารย์อิรนทรยังเคนออกปากกับผมครั้งหนึ่ง
    ตอนที่ผมไปขอต่อคาถาจากท่าน... ท่านบอกว่า....

    “ไปต่อคาถาจากอาจารย์พรสิทธิ์มาแล้ว ยังจะไปหาที่อื่นอีกเหรอ
    นั่นแหละ พ่อคาถา แม่คาถา อยู่นั่นหมดแล้ว”

    คงต้องฝากภราดร หรือคุณฉัตรช่วยเรียนถามพระอาจารย์ดูว่าท่านได้เคยต่อวิชากับครูบาต๋าหรือเปล่า
    พนันกันได้เลย ผมว่า “เคย” แน่นอน....

    คุณฉัตรเล่าว่า “ครูบาต๋าผีกลัว” ... ถูกต้องเลยครับ
    ผมเองเคยมีประสบการณเกิดขึ้นกับญาติพี่น้องเรื่องนี้มาแล้ว
    ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังครับ

    ที่วัดอุโบสถบ้านเหล่า ไม่มีวัตถุมงคลอะไรเหลือแล้วครับ
    หลังจากที่ครูบาต๋ามรณภาพ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง
    มีอยู่ช่วงหนึ่งว่างเว้นเจ้าอาวาส
    ชาวบ้านเลยไปนิมนต์ หลวงพ่ออินถา จากลำพูนมาเป็นเจ้าอาวาส
    หลวงพ่ออินถา มาจากวัดหนองซิว วัดครูบาคำจันทร์
    คนลำพูนน่าจะรู้จักดี เพราะเหรียญรุ่นแรกของครูบาคำจันทร์ปี 22 นิยมกันมาก

    ขอปิดท้ายด้วยภาพเหรียญรุ่นแรกครูบาต๋า จากร้านไม้มงคลนะครับ
    ((ขออนุญาต อ้ายต้น อ้ายเอก อ้ายแจ็ค และอ้ายกิม ด้วยนะครับ))

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  9. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804

    ตระเวณแก้บนครบทุกที่รึยังโต้ง

    ช่วงนี้เปิดเทอมใหม่ ไหนจะต้องเข้าห้องเชียร์ ไหนจะต้องมีงานรับน้อง
    ให้ผ่านช่วงยุ่งๆ นี่ไปก่อนก็ได้... แล้วจะได้ไปตะลอนทัวร์กัน

    ช่วงเข้าห้องเชียร์ก็ผูกมิตรกับเพื่อนๆ (สาว) ไว้เยอะๆ นะ
    วันไหนเราไปวัดกัน จะได้ชวนน้องๆ เขามาทำบุญด้วย
    อิอิ... พี่คนธรรมะ ธัมโม

    แฮะๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2009
  10. กริด99

    กริด99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    754
    ค่าพลัง:
    +558
    ถึงเวลานั้นผมขอติดไปด้วยคนได้ไหมครับ ผมก็คนธรรมะ ธัมโมเหมือนคุณธีระยุทธ แฮะๆ
     
  11. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804
    โหลๆๆๆ.... มีใครอยู่บ้างครับนี่...
    พอดีจะโพสเรื่องตะกรุดหลวงปู่...
    หาคนฟังก่อน... เดี๋ยวไม่ได้พวงมาลัย
     
  12. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804

    มาๆๆๆ ไปกันเยอะๆๆ หนุกดี
    แต่.....

    ให้พอดีคู่...

    ห้ามขาด เดี๋ยวแย่งกัน

    ห้ามเกิน เดี๋ยวแย่งกันอีก

    55555+++

    คุณกริด ผมยังไม่ได้ส่งผ้ายันต์หลวงปู่จันทร์แก้วให้เลย
    ใจร่มๆ นะครับ ส่งทั้งทีให้ได้อะไรๆ เยอะๆ หน่อย
    จะได้คุ้มค่าส่ง 5555+++
    ช่วงนี้มีคนไปบูชารูปหล่อหลวงปู่ครูบาอินกันเยอะ
    สงสัยจะรีบตุนก่อนที่ทางคณะกรรมการวัด ปรับราคาวันที่ 1 มิ.ย. นี้
    คุณกริดอยากได้อะไรไหมครับ เดี๋ยวจะเก็บไว้ให้
    บอกได้เลย มิต้องเกรงใจ

    ธีระยุทธ
     
  13. donjudo077

    donjudo077 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,719
    ค่าพลัง:
    +14,438

    เอาน้องผู้หญิง(สาวๆ)มา พี่ไก่แอบหวังอะไรหรือเปล่าครับ เหอๆ ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว เหอๆๆ
     
  14. donjudo077

    donjudo077 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,719
    ค่าพลัง:
    +14,438
    เล่ามาได้เลยครับพี่ไก่ ว่างๆผมจะเข้ามาอ่านครับ
     
  15. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  16. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  17. แมวขาว

    แมวขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +241
    อยากทราบสักนิดว่าตระกรุดในรูปขณะนี้ใครเป็นผู้ครอบครองครับ.....เพ่ไก่ป่าว
     
  18. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804


    สวัสดีครับ...

    โพสรูปทิ้งไว้ตั้งนาน มัวไปเข้าประชุม
    ขอโททีครับ....

    ตะกรุดที่โพสรูปข้างบน เป็นตะกรุดยุคแรกๆ ของหลวงปู่ครับ
    ทั้งหมดเป็นตะกรุดจารมือ ที่หลวงปู่เป็นผู้ลงอักขระเอง

    ตะกรุดยุคหลังเกือบทั้งหมด หลวงปู่ไม่ได้ลงตะกรุดเอง
    แต่จะให้พ่อหนานจันทร์ ไจยสิทธิ์ หลานของท่านเป็นผู้จาร
    บางครั้งก็ให้พระครูป๋า (พระอาจารย์พรชัย) วัดทุ่งปุย ท่านพิณ (พระอาจารย์ไพบูลย์) อดีตพระเลขาของหลวงปู่เป็นผู้ลงอักขระ แล้วท่านมาเสกอีกที

    ตะกรุดของท่านมีหลากหลายชนิดมาก
    ทั้งแคล้วคลาด และเมตตามหานิยม ค้าขาย

    นี่ถ้าไม่ได้รับกับมือ (บางชิ้นได้รับจากพระอาจารย์ปรีชา)
    คงจะดูไม่ออกว่าเป็นของหลวงปู่จริงหรือเปล่า
    แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตุได้คือ ตะกรุดยุคแรก จะใช้ด้ายแบบโบราณ
    ไม่ใช่ด้ายที่เป็นยางสังเคราะห์เหมือนปัจจุบัน

    รายละเอียดก็ตามที่พิมพ์แจ้งไว้บนรูปนะครับ
    จำนวนสร้างเท่าไหร่ไม่รู้... ไม่มีใครจดบันทึกไว้
    เท่าที่เห็น ท่านก็สร้างไปเรื่อยๆ หมดก็ทำอีก
    อยากทำตะกรุดอะไรที่คิดว่าแจกไปแล้วคนเอาไปใช้ ท่านก็ทำ
    ไม่ได้กำหนดรุ่น กำหนดแบบตายตัว

    ตะกรุดยุคแรกพวกนี้แหละครับ ที่มีประสบการณ์
    ทหารที่อินทนนท์ เอาไปลองยิง แล้วยิงไม่ออก
    ประทับใจ เลยรีบกลับมาบูชาเพิ่ม...
    กลับโดนหลวงปู่ดุให้ว่า
    "“ต่อไปถ้าบ่เชื่อก็บ่ต้องเอาไป อย่าได้ลองของของเฮา เฮาบ่อชอบ”
    จ๋อยกันทั้งคณะ...
    ที่น่าแปลกคือ...
    หลวงปู่รู้ได้ยังไงว่ามีคนเอาตะกรุดท่านไปลอง
    ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเล่าให้ท่านฟังสักคน (เพราะกลัวท่านดุนี่แหละ)

    ตะกรุดชุดนี้ เป็นตะกรุดเก็บบูชาไว้ที่บ้าน
    ไม่กล้าเอาออกมาใช้เท่าไหร่ เพราะกลัวจะพัง
    ด้ายเริ่มเปื่อย และแผ่นทองแดงก็เก่าได้ที่กำลังดูขลังเลยครับ

    ธีระยุทธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2009
  19. wannabexcite

    wannabexcite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,804
    ผมไม่แน่ใจว่า.... เป็นภราดร หรือคุณกริด ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องตะกรุด ของหลวงปู่
    ขี้เกียจย้อนกลับไปดู...
    เอาเป็นว่า... ไม่ว่าใครเป็นคนถาม ผมก็คงจะตอบเหมือนกัน

    ที่ล่าช้า เพราะอยากมีรูปประกอบด้วย
    ซึ่งกว่าจะได้ฤกษ์ถ่ายรูปตะกรุดของหลวงปู่เพื่อเตรียมนำมา “เล่าสู่กันฟัง” ก็กินเวลาหลายวัน
    ตอนแรกผมว่าจะเขียนใหม่...
    แต่พอไปค้นๆ ดูบทความเก่าๆ ที่เคยเขียนไว้... อืม... ข้อมูลก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว
    เอามาโพสเลยดีกว่า...
    แล้วถ้ามีอะไรเพิ่ม ค่อยเขียนเติมลงไป...
    ตามนี้ครับ
    =============================

    ผมได้มีโอกาสเข้าไปกราบหลวงปู่ครูบาอินครั้งแรกเมื่อเกือบจะยี่สิบปีก่อน
    สมัยนั้นผมยังเป็นนักเรียนมัธยมโรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดฟ้าหลั่งของหลวงปู่เท่าไหร่

    สาเหตุก็เพราะว่าเพื่อนผมคนหนึ่ง เป็นคนบ้านสันหิน บ้านอยู่เยื้องๆ กับประตูหน้าวัดฟ้าหลั่ง และคุณตาของเพื่อนผม คือพ่ออุ้ยจันทร์ ปัญญาไว ท่านเป็นหนึ่งในคณะชาวบ้านสันหินที่ไปนิมนต์หลวงปู่มาสร้างโรงเรียนวัดฟ้าหลั่งเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน ผมกับเพื่อนคนนี้ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่ง แม่ของเพื่อนก็ชวนผมไปทำบุญที่วัด ก็เลยได้มีโอกาสเข้าไปกราบหลวงปู่ ซึ่งตอนนั้นท่านก็มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งที่เป็นชาวบ้านในละแวกนั้น และก็ยังมีทหารจากกองบิน ๔๑ และกลุ่มครูบาอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    ด้วยความเป็นเด็กและในตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนใจในเรื่องกิตติคุณ วิทยาคมและวัตถุมงคลสักเท่าไหร่ ไปกราบท่านก็เหมือนไปวัดตามปกติ ได้กราบครูบาอาจารย์อาวุโส แต่ท่านมีเมตตากับเด็กๆ อย่างพวกเรามาก ท่านเรียกผมเข้าไปลงกระหม่อมด้วยน้ำมันมนต์ ท่านที่เคยไปกราบหลวงปู่ก็คงจะเคยเห็นขวดน้ำมันมนต์ แป้งเจิมและขันน้ำมนต์ที่ตั้งอยู่ข้างกายท่านเสมอ พร้อมที่จะเมตตาลงกระหม่อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้กับคนที่ไปกราบไหว้

    เมื่อได้รับเมตตาจากหลวงปู่ก็เกิดความรู้สึกปีติยินดี อยากไปกราบไปเยี่ยมอยู่บ่อยๆ เพราะไปแต่ละครั้งท่านก็จะแจกวัตถุมงคลให้เสมอ เป็นเหรียญบ้าง เป็นพระผงบ้าง แล้วแต่ว่าในตอนนั้นทางวัดจัดเตรียมอะไรไว้ให้หลวงปู่

    จากจุดนั้นผมก็เริ่มสนใจ เรียกว่าติดตามประวัติและเรื่องราวประสบการณ์ที่มีลูกศิษย์ลูกหามาเล่าสู่กันฟัง แต่นู่นครับที่อยู่ประจำของผมคือ กุฏิด้านหลังกุฏิของหลวงปู่ ท่านพิณ ซึ่งที่ตรงนั้นจะมีท่านพิณ (พระอาจารย์ไพบูลย์ อินฺทปัญโญ พระเลขาของหลวงปู่ในขณะนั้น เป็นผู้ดูแล) และก็มีพระเณรอยู่กันเยอะ คอยดูแลคนที่มาบูชาวัตถุมงคล และถ้าวันไหนโอกาสดีก็จะได้เห็นพระเณรในวัดช่วยกันทำวัตถุมงคลอยู่ด้านหลัง เพื่อรอฤกษ์งามยามดีให้หลวงปู่ปลุกเสก หรือยามว่างที่มีลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่แวะเวียนมาเช่าบูชาวัตถุมงคล ใครมีอะไรดี หายากก็จะควักออกมาอวดมาส่องกัน หรือใครมีประสบการณ์จากการใช้วัตถุมงคลก็จะเล่าสู่กันฟังที่นี่ เพราะถ้าไปเล่าต่อหน้าหลวงปู่ก็จะโดนเอ็ดเอา เพราะหลวงปู่ท่านไม่ชอบ

    เรื่องการทดลองของของท่านก็เหมือนกัน ท่านรู้เป็นเจอดีแน่ มีอยู่ครั้งหนึ่งมีกลุ่มนายทหารประจำอยู่ที่ดอยอินทนนท์ (ขออภัยที่จำชื่อและสังกัดไม่ได้) ได้ลองเอาตะกรุดของหลวงปู่ท่านไปยิง ปรากฏว่าปืนยิงไม่ออกถึงสามแชะ แต่พอหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้า ก็ตูมเลย เมื่อเห็นอย่างนั้นก็เกิดศรัทธาพากันยกขบวนมาเช่าบูชาตะกรุดของหลวงปู่ที่กุฏิท่านพิณ แล้วก็ได้เล่าประสบการณ์การลองของในครั้งนั้นให้พวกเราฟัง ก็คุยกันแค่ในกลุ่ม เป็นไปไม่ได้เลยที่หลวงปู่ซึ่งอยู่กุฏิหน้าจะได้รู้ได้ยิน

    เมื่อเลือกเช่าหาวัตถุมงคลกันเป็นที่พอใจแล้วก็รวบรวมใส่พานไปขอให้หลวงปู่อธิษฐานจิตให้อีกคำรบหนึ่งตามธรรมเนียม แต่พอก้าวขึ้นกุฏิยังไม่ทันได้นั่ง ท่านหันมาดุทันที “ต่อไปถ้าบ่เชื่อก็บ่ต้องเอาไป อย่าได้ลองของของเฮา เฮาบ่อชอบ” เล่นเอากลุ่มนายทหารและพวกเราที่เดินตามขึ้นไปเป็นพรวนหน้าเสียไปตามๆ กัน พอได้สติก็ก้มกราบหลวงปู่ขอขมาลาโทษกันยกใหญ่ ว่ามิได้มีเจตนาลบหลู่ เพียงแต่อยากขอชมบารมีเท่านั้น...

    ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ครูบาอาจารย์ท่านจะไม่เห็นดีเห็นงามกับการทดลองอะไรแบบนี้ ยิงพระก็เหมือนยิงตัวแทนของท่าน ท่านรู้ว่าของท่านดีจริงแล้ว ท่านถึงได้นำออกมาแจกจ่าย ให้เช่าบูชา ก็จริงอย่างท่านว่า ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องเอาไปแขวนไปห้อยให้หนักคอ ผมเชื่อว่าพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ จะปกปักรักษาคนที่เคารพศรัทธา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแน่นอน... แต่พูดก็พูดเถอะครับ สำหรับเวไนยสัตว์ที่ยังกิเลศหนาอย่างเราๆ ท่านๆ โดยเฉพาะตัวผมเอง ได้ยินเรื่องราวการทดลองทดสอบแบบนี้ หรือได้ยินประสบการณ์อภินิหารวัตถุมงคลจากใครก็เป็นหูผึ่งทันที

    =================

    วัตถุมงคลในยุคแรกๆ ของหลวงปู่เป็นตะกรุด ผ้ายันต์ และพระเนื้อดินต่างๆ ก็คงจะเหมือนครูบาอาจารย์ที่อยู่บ้านป่าบ้านดอยรูปอื่นๆ การจะสร้างเหรียญ สร้างพระผงแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องมีเจ้าศรัทธา มีทุนรอนที่จะแกะแม่พิมพ์ ปั๊มรูปปั๊มเหรียญ ลำพังแต่ศรัทธาชาวบ้านที่ทำนาทำไร่ คงไม่มีทุนรอนมาร่วมสร้างบุญสร้างกุศลได้มากมายนัก ก็ได้แต่อาศัยวัสดุหาง่ายใกล้ตัว อย่างผ้าจีวร ผ้าขาว แผ่นทองเหลืองทองแดง ที่พอหาได้ไม่ยาก มาสร้างเป็นวัตถุมงคลแจกจ่ายแก่ผู้ร่วมศรัทธาสร้างศาสนสถานร่วมกับทางวัด

    ด้วยเหตุนี้ วัตถุมงคลยุคแรกจึงเป็นตะกรุด กับผ้ายันต์เสียเป็นส่วนใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่ากันว่า หลวงปู่ครูบาอินท่านสร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่ท่านยังจำพรรษาอยู่ที่วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) ตะกรุดของท่านได้รับการกล่าวขานว่าขลังนัก ถึงขนาดปืนยิงไม่ออกเลยทีเดียว อย่างเรื่องทหารลองยิงตะกรุดของท่านที่เคยได้เล่าสู่กันฟังไปแล้ว ก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง

    ย้อนกลับไปที่ประวัติของท่านสักเล็กน้อย ครูบาอินท่านมีประอุปัชฌาย์คือครูบามหายศ วัดทุ่งรวงทอง ซึ่งหลังจากอุปสมบทแล้ว ก็ได้ศึกษาวิชชา ทั้งกรรมฐานและพระเวทย์คาถาจากครูบามหายศอยู่ระยะหนึ่ง และได้กลับมาบำเพ็ญเพียรศึกษาด้วยตนเองต่อที่วัดทุ่งปุย

    ต่อมาเมื่อสิ้นพระอธิการยศ ครูบาติ๊บ หรือตุ๊ลุงติ๊บ ซึ่งเป็นหลานของท่านครูบามหายศได้ครองวัดทุ่งรวงทองต่อ ในระหว่างนั้นครูบาอินได้รับอาราธนานิมนต์มาสร้างวัดฟ้าหลั่งแล้ว

    ครูบาติ๊บได้มาปวารณาตัวขอเป็นลูกศิษย์ต่อวิชากับครูบาอิน นับว่าเป็นการสืบทอดสรรพวิชชาของท่านครูบามหายศต่อมาถึงครูบาติ๊บนั่นเอง หนึ่งในวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจากครูบาอิน ก็คือวิชาการสร้างตะกรุดโทน ครูบาติ๊บท่านเป็นพระที่บู๊โผงผาง แต่ท่านก็เป็นครูบาอาจารย์ที่มีเมตตาต่อสัตว์เลี้ยงในวัด ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว ท่านจะดูแลให้ข้าวให้น้ำเป็นประจำ มีหมาอยู่ตัวหนึ่งเข้าใจว่าคงจะเกเรพอสมควร ชอบไปรื้อข้าวของของชาวบ้านในละแวกวัด จนชาวบ้านโดยเฉพาะพวกหนุ่มๆ ขี้เมาต่างก็ประเคนมือประเคนเท้าให้กับมันบ่อยๆ หนักข้อเข้าถึงเลือดตกยางออกก็มี

    ครูบาติ๊บท่านคงจะสงสารหมาแมวของท่าน ครั้นจะเรียกมาอบรมสั่งสอนเหมือนคน ก็ยากที่จะสื่อสารให้เข้าใจกันได้ อย่าว่าแต่หมาที่เป็นสัตว์เดรัจฉานเลย แม้แต่คนเดินดินกินข้าวบางครั้งยังสั่งยังสอนอะไรไม่ได้ความเลย ครูบาติ๊บท่านก็ได้แต่ดูแลเยียวยายามที่มันเจ็บตัวกลับมา จนมีอยู่วันหนึ่งท่านคงไม่อยากให้ชาวบ้านทำร้ายมันจนเป็นเวรเป็นกรรมติดตัว ท่านก็เลยทำตะกรุดดอกเล็กๆ ผูกคอมันไว้ เผื่อมันไปเกเรรื้อข้าวของชาวบ้านจนถูกเขาเอาไม้ไล่ตี ก็จะได้ไม่ถึงกับเลือดตกยางออกให้ต้องลำบากรักษา

    หมามันก็ยังเป็นหมาอยู่วันยังค่ำ สำนึกผิดชอบชั่วดีเหมือมนุษย์ก็คงไม่มี เลยเข้าอีหรอบเดิม ไปคุ้ยข้าวของชาวบ้านกระจุยกระจายอีก แต่ครั้งนี้โชคร้ายหน่อยที่ไปเกิดเหตุการณ์ต่อหน้านายตำรวจคนหนึ่งที่เป็นชาวบ้านอาศัยอยู่แถวๆ นั้น ด้วยความโกรธตำรวจคนนั้นเลยชักปืนออกยิง แต่ยิงเท่าไหร่ก็ยิงไม่ออก ก็เลยสงสัยช่วยกันตะครุบจับตัวเจ้าจอมยุ่งไว้ได้ ก็เลยได้เห็นตะกรุดดอกเล็กที่ท่านครูบาติ๊บทำห้อยคอหมาของท่านไว้

    พอเรื่องนี้กระจายออกไป ก็มีคนมาเฝ้าขอตะกรุดจากท่านอยู่เรื่อยๆ ซึ่งท่านก็เมตตาทำให้ตามจิตศรัทธา...

    นี่ก็เป็นเกร็ดประวัติอีกเรื่องหนึ่งที่ชาวบ้านแถบนั้นได้รู้เห็นกันอย่างดี กล่าวกันว่า นี่ขนาดลูกศิษย์ท่านทำตะกรุดยังขลังได้ถึงขนาดนี้ แล้วตะกรุดของหลวงปู่ครูบาอินซึ่งมีจริตที่สงบนิ่ง และสำเร็จในสรรพวิชามากมาย ของของท่านจะขลังและเหนียวขนาดไหน

    ผู้ที่ได้รับตะกรุดและผ้ายันต์ของหลวงปู่ ส่วนมากก็จะเป็นชาวบ้านทุ่งปุย บ้านสันหิน ฟ้าหลั่ง และคนในละแวกนั้น ใครมีต่างก็หวงแหน แค่จะควักออกมาให้ชมก็ยากแล้ว ผมเองเคยเห็นครั้งสองครั้งเมื่อตอนยังเด็ก ที่มีชาวบ้านเขาห้อยจนเปื่อยจวนเจียนจะขาดอยู่รอมร่อ เคยเอามาอวดมาชมกันที่กุฏิของท่านพิณเมื่อหลายปีก่อน น่าเสียดายที่ตอนนั้นยังไม่มีกล้องดิจิตอลที่จะควักออกมาถ่ายรูปเก็บไว้ แม้ไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าของ แต่ได้เห็นได้ถ่ายรูปเก็บไว้ ก็นับว่าเป็นบุญวาสนาของเราแล้ว

    ถ้าจะนับรุ่นวัตถุมงคลกันจริงๆ แล้ว "ผ้าสันต์สิวลี ปี ๑๙" น่าจะนับเป็น "ผ้ายันต์รุ่นแรก" ของหลวงปู่ แต่เป็นผ้ายันต์ที่มีการพิมพ์ขึ้นเป็นจำนวนมาก ต่างจากผ้ายันต์ยุคแรกๆ ที่เป็นผ้ายันต์ที่เขียนด้วยมือ ท่านสร้างมาตั้งแต่ยุคที่ประเทศชาติเผชิญสงครามในอดีตนู่นแล้ว โดยที่หลวงปู่ท่านเขียนอักขระเลขยันต์เองบ้าง หรือพระเณรที่วัดเขียนบ้าง ถึงวันดียามดี ก็ขอบารมีท่านเมตตาปลุกเสก จนเป็นที่พอใจแล้วก็แจกจ่ายกันไปในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นชาวบ้านในแถบนั้น และก็มีบ้างที่กระจายไปถึงเหล่าทหารอากาศที่แวะเวียนมากราบนมัสการหลวงปู่ครูบาอินอยู่เป็นประจำ

    ผ้ายันต์เหล่านี้ผมเองไม่เคยเห็น... ได้ยินแต่คำบอกเล่าของชาวบ้านเท่านั้น ว่ากันว่า... กันผีสางได้ชะงัดนัก

    ที่วัดฟ้าหลั่งเองมีต้นมะม่วงโบราณอยู่ต้นหนึ่ง ที่ว่าเป็นต้นมะม่วงโบราณก็เพราะมันมีลำต้นสูงใหญ่มาก มีรังผึ้งรังมดแดงอยู่เต็มไปหมด ในสมัยก่อนที่วัดฟ้าหลั่งยังเป็นวัดร้าง เชื่อกันว่าที่ต้นมะม่วงต้นนี้ มีผีสางนางไม้สถิตอยู่ ใครที่ทำไม่ถูกไม่ควรเป็นต้องเจอดีทุกรายไป วันดีคืนดีก็จะมีชาวบ้านนำเอาข้าวปลาอาหาร ของคาวของหวานมาเลี้ยงผี ขอขมาหากได้ล่วงเกินโดยตั้งใจก็ดีหรือโดยไม่ตั้งใจก็ดี มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ ท่านชา (พระอธิการปรีชา เปสโล เจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่งรูปปัจจุบัน) เล่าว่า กระดูกไก่ กระดูกหมูที่หลงเหลือจากการเลี้ยงผีกองกันเกลื่อน แต่พอหลวงปู่ครูบาอินรับอาราธนานิมนต์มาสร้างวัดฟ้าหลั่ง พิธีกรรมเหล่านี้ก็ค่อยๆ หายไป ชาวบ้านศรัทธาบูชาพระมากขึ้น ประกอบกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ระบบความเชื่อเรื่องผีสางเป็นต้นเหตุของอาการเจ็บไข้ได้ป่วยค่อยๆ ลดลงจนเลือนหายไปในที่สุด

    แต่สำหรับชาวบ้านในแถบนั้น เชื่อกันว่า ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะบุญญาอภินิหารในองค์หลวงปู่ครูบาอิน ที่ได้ปลดปล่อยวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นมะม่วงในวัดร้างฟ้าหลั่งนั้น ให้ไปสู่สุขคติ ไม่เป็นเหตุให้เกิดอาเพศเจ็บไข้ได้ป่วยในหมู่ชาวบ้านอีกต่อไป ปัจจุบันจึงเป็นต้นมะม่วงโบราณที่ออกลูกออกผล ให้พระเณรได้เก็บกินกันตามฤดูกาล ไม่หลงเหลือความน่าสะพรึงกลัวเช่นในอดีตอีกต่อไป
    ส่วนพระเนื้อดินรุ่นเก่าๆ ของหลวงปู่ ผมเองยังไม่มีวาสนาได้เห็นเลย เคยได้ยินแต่คำบอกเล่าจากพระเณรในวัดว่า หลวงปู่จะเอาดินจอมปลวกที่ด้านหลังวัด มานวดมาตำกดพิมพ์เป็นพระรอดบ้าง พระคงบ้าง ซึ่งครูบาอาจารย์ทางเหนือนิยมทำกัน พูดได้ว่าเกือบทุกวัด หากมีงานบุญงานกุศลและมีการแจกวัตถุมงคล ก็จะมีพระรอดพระคง เนื้อดินเผาแจกอยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนมากก็ทำกันเองที่วัด ทำเสร็จก็ให้ตุ๊ปู่ครูบาเจ้าวัดปลุกเสก เป็นอันเสร็จพิธี ไม่ต้องไปซื้อหาให้เปลืองเงินวัด

    ด้วยเหตุนี้ พระรอดพระคง หรือแม้แต่พระเนื้อดินต่างๆ ยุคก่อนจึงมีลักษณะคล้ายกัน ยากที่จะแยกแยะได้ว่าได้มาจากวัดไหน ถ้าไม่มีถุงพลาสติกใส่มา หรือไม่ได้ปั๊มชื่อวัดติดหลังองค์พระ ได้มาก็เก็บๆ ไว้รวมกัน วัดเหนือวัดใต้ นานๆ ไปก็บอกไม่ได้แล้วว่าองค์ไหนเป็นของใคร นอกจากคนที่ได้เอาไปเลี่ยมขึ้นคอ หรือทำถุงใส่ติดเข็มกลัดติดเสื้อ ก็ยากที่จะบอกที่มาของพระแต่ละองค์ได้

    ตรงนี้คงต้องขอฝากไปยังศรัทธาชาวบ้านวัดทุ่งปุย วัดฟ้าหลั่ง ใครที่มีวาสนาได้รับแจกพระรอดพระคง เนื้อดินเผาจากหลวงปู่เมื่อสามสิบสี่สิบปีก่อน น่าจะเอาออกมาแบ่งปันกันชมให้เป็นวิทยาทานแก่ลูกๆ หลานๆ ที่เกิดไม่ทันอย่างพวกเราก็คงจะดีไม่น้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2009
  20. donjudo077

    donjudo077 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,719
    ค่าพลัง:
    +14,438
    ผมกับพี่กริด ๒ คนเลยครับที่ถาม

    เก๊าไม้หลวง คือ ฉายาพี่หรอครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...