ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2552 เวลา 16-17 น.
คุณอรัญญา เจนชัยภูมิ ได้โอนปัจจัยร่วมทำบุญ
สร้างสถานปฏิบัติธรรม จำนวน 1,000 บาทค่ะ

อนุโมทนาค่ะ

 

http://palungjit.org/threads/ความตา...ร-วันสุดท้ายของมนุษย์-ที่ไม่มีศีลธรรม.186854/

 

...บรรยากาศรอบๆก่อนวันงาน...

 

.....มาร่วมงาน.....

 

พระพุทธเมตตาและหลวงปู่ทวด

 

อาจารย์โม่ค้าฟ ขอจองสร้อยประคำ

199บาท จำนวน 5 เส้นค้าฟ

กลับจากเขากะลา เน็ตที่บ้านใช้ไม่ได้

กาลังตั้งข้อสงสัยว่า

เสาส่งสัญญาณทรู ข้างบ้านจะงานเข้า

เพิ่งจะได้มาใช้บริการที่ร้านเน็ตค้าฟ

(แอบชำเลืองๆระบบ อยู่เหมือนกัน

รู้สึกว่าชอบตุกติก ยุกยิก ยึกยัก

ตัวอย่างเช่น

ตื่นเช้ามาตู้เย็นเสีย

เครื่องซักพักลางานยาว

เครื่องเสียงพักผ่อนเสียง

ทีวีไม่มีภาพ

เอ็มพี3พัง

กล้องวีดีโอน็อค

พัดลมลาป่วย

เน็ตลาพักร้อน

มือถือลากิจเป็นระยะ ๆ

หลอดไฟในบ้านก็เอากะเค้าด้วย

แหม..ทามปายด้าย..)

_Hi__ (deejai) hello8

 

ขอโมทนามหาโมทนา กับ พระอภิธรรม ว่าด้วยเรื่อง จิต เจตสิก รูป นาม ที่อาจารย์นีโม่นำมาขยายในส่วนที่สำคัญกับชีวิตด้วยครับ

ผมเคยอธิบายให้คนๆหนึ่งฟัง เขาบอกว่าอย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรมนะซี ทำบุญกันมามากมาย ทำดีสงเคราะห์คนมาก็เยอะแยะ แต่พอใกล้ตาย คิดถึงสิ่งเลวร้ายที่เคยทำมาเล็กน้อย ก็ต้องไปเยือนอเวจีนรกภูมิ ก่อนหรือ ผมก็พยายามอธิบายเรื่องดวงจิตดวงสุดท้ายก่อนดับ เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ เลยต้องหยุดบรรยายไปโดยปริยาย

นี่แหละหนอ ที่เขาเรียกว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
กรรม คือการกระทำ ถ้าเรากระทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญญา
สั่งสมไว้ให้มีกำลัง มากกว่าอกุศลกรรมที่เคยกระทำมา
กำลังของกุศล เมื่อแรงกว่า คิดขึ้นมาคราใด ก็จะเสนอหน้ามาให้เห็นในดวงจิต อันนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต้องไปอยู่ในภพภูมิที่สูงกว่า หรือที่เราเรียกว่าขึ้นสวรรค์นั่นแหละครับ

ดังนั้น เมื่อกระทำกรรมดี ที่เป็นกุศล ควรหมั่นระลึกถึงอยู่เสมอๆ

แต่มนุษย์ นี่แปลก ส่วนมาก ชอบอาฆาตพยาบาท นึกคิดแต่จะกอบโกยเอารัดเอาเปรียบ จิตก็จะฝังอยู่แต่เรื่องเหล่านี้ มันมีกำลังแรงมาก ลองสังเกตจากใบหน้าของคนเหล่านี้ดู จะแสดงออกทางกายได้อย่างเด่นชัด แล้วใจเขาละ คงไม่ต้องกล่าวให้เสียเวลา เวลาจิตสุดท้ายก่อนดับ กำลังแรงของจิตตัวนี้ก็จะโผล่มาแสดงทันที สร้างหนทางสู่เส้นทางสายไหมอบายภูมิ

มีตัวอย่างของจริง มาแสดง คือ ท่านเจ้ากรมทหารเรือ มีตำแหน่ง มีหน้า มีตา ท่านหนึ่ง ทำบุญกุศลมาก็มาก

ในชีวิตของท่าน ครั้งหนึ่งเกิดอารมณ์จิตที่เลวร้ายฝังจำไม่ลืม คือ สุนัขข้างบ้าน วิ่งมาจะกัดลูกชายท่าน ท่านยกขาเตะอย่างแรง ด้วยอารมณ์โมโห ฉุนเฉียว แค้นกันแบบแค้นฝังหุ่น อย่างนั้นเลย หรือประเภท ลูกข้าใครอย่าแตะ ถ้าแตะก็เจอเตะ ทำนองนี้

เมื่อเวลาท่านป่วยจิตใกล้ดับ อารมณ์จิตตัวที่เตะสุนัข ก็โผล่มาทันที เพราะว่ามีกำลังแรงกว่า อารมณ์ที่เป็นกุศล พอสิ้นลมหายใจ ท่านก็ไปเกิดเป็นสุนัขทันที..มีชื่อว่า หูตั้ง (เคยพิมพ์เป็นหนังสือออกจำหน่าย นานแล้ว)

ดังนั้นชีวิต ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เรากำลังยืนอยู่บนขอบเหวของนรก
พลาดพลั้งนิดเดียว ก็ลงไปนั่งอยู่ในอบายภูมิแล้ว จะขึ้นมาอีกก็ยาก เพราะต้องไปเสวยทุกขเวทนา ตามกรรมที่ทำมา ไม่มีช่องว่างให้คิดถึงผลบุญเลย.

 

*** สถานการณ์ศาสนศาสตร์โลก ****

ผู้คนไม่เข้าใจในแก่นสารหลักสัจจะธรรมที่มีอยู่ในธรรมชาติ
ผู้คนส่วนใหญ่ขาดการพิจารณาเหตุผลจริงในธรรมชาติ
ผู้คนยึดถือในเนื้อหาตัวอักษรในตำราที่เขียนกันขึ้นมาว่าถูกต้อง
เนื้อหาในบางตำราเป็นความเห็นที่ไม่ตรงกับหลักสัจจะธรรม ความจริงในธรรมชาติ
มีคนน้อยมากที่เข้าใจหลักสัจจะธรรม ไม่สามารถพูดอะไรได้ในสังคม
เพราะไปขัดกับตำราที่ถือเป็นความถูกต้อง จึงปล่อยให้เป็นไปตามเหตุที่เกิดขึ้น
ปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงานองค์กรใดไปค้นคว้าศึกษาในหลักสัจจะธรรมอย่างจริงจัง
หลักสัจจะธรรม หลักความจริงในธรรมชาติจึงไม่ได้รับการเผยแพร่
การกระทำของมนุษย์ จึงยังถือตามความเห็นบางอย่างที่ไม่ตรงกับความจริง
ส่งผลให้ผู้คนยังไม่เข้าใจและไม่เห็นความสำคัญของสัจจะ
สัจจะปฏิบัติ ที่จะนำให้ตนเองกระทำตัวในชีวิตประจำวันไปตามหลักสัจจะธรรม
สถานการณ์นี้ ทำให้ผู้คนทำตนขัดกับหลักสัจจะธรรม คือ กาย วาจา ใจ ไม่ตรงกัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒

 

กาย วาจา ใจ ไม่ตรงกัน

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณหนุมาน ผู้นำสารแห่งสัจจะธรรม

มนุษย์ หาก ทำ พูด คิด ไม่ตรงกัน ก็ยากที่จะสร้างสันติสุขแท้จริงให้เกิดขึ้นได้ เพราะจะมีแต่การ โกหก ฉ้อฉล ปริ้นปร้อน กระล่อน เอาตัวรอดไปวันๆ โดยไม่สนใจในความเดือดร้อนของผู้อื่น

วัดถ้ำกระบอก ....ช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ให้มีชีวิตอยู่รอด ก็ด้วยการให้คำมั่นสัจจะวาจา นั่นเอง..



ใครทำ ใครได้ ใครพบ ใครพ้น

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k.......
ผมรบกวนถามเรื่องภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหน่อยนะครับ
คุณMOUNTAIN พอจะทราบไหมครับว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อีกนานเท่าไหร่ครับ
พอจะบอกได้ไหมครับ



</TD></TR></TBODY></TABLE>

เรื่องภัยพิบัติครั้งใหญ่ ยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าเกิดเมื่อไหร่ เพราะเงื่อนไข ถูกผูกอยู่กับ การกระทำของมนุษย์โลก ด้วยครับ

หากเกิดขึ้นจริง ผู้ที่มีสติ และเข้าถึงการปล่อยวางได้จริง จะเป็นผู้อยู่รอด ได้เป็นส่วนใหญ่ครับ

การปล่อยวาง การประคองสติ ได้ อย่างน้อยก็เป็นผลดีกับเรา หากพบผู้คนตายจากภัยพิบัติ โดยที่ช่วยอะไรไม่ได้ เราจะได้ไม่ทุรนทุรายหรือเป็นบ้าไปกับเหตุการณ์นั้นๆ นะครับ

สบายๆครับ อะไรจะเกิด ก็เพราะมันมีเหตุปัจจัยอย่างนั้นเอง จึงเกิด

เรามีหน้าที่ออกจากทุกข์ให้ได้ ก่อนที่ทุกข์จะรุมกินเรา

 

เก็บภาพบรรยากาศวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์มาฝาก

 

*** จักรวาลกับการมองเห็น ****

ปลาหางนกยูง ที่เกิดในโอ่ง อาศัยในโอ่งมานาน
จะเห็นมนุษย์ ที่มาให้คอยอาหาร มาเติมน้ำ เป็นพระเจ้าไหม !!!

ปลาหางนกยูง ที่เกิดในโอ่ง อาศัยในโอ่งมานาน
จะเห็นนก ที่มายืนขอบโอ่ง มาคอยจิกกินพวกปลา เป็นพญาครุฑไหม !!!!

ปลาหางนกยูง ที่เกิดในโอ่ง อาศัยในโอ่งมานาน
จะเห็นเด็กๆ ที่ชอบมาช้อนจับปลาในโอ่งไปโยนเล่น เป็นยักษ์ไหม !!!

ตกลงว่า...
มนุษย์อาจจะเป็นพระเจ้าก็ได้
มนุษย์อาจจะเป็นยักษ์ก็ได้
นกอาจจะเป็นพญาครุฑก็ได้
ก็แล้วแต่จะมอง...ดูการกระทำเป็นสิ่งสำคัญ
โอ่งเลี้ยงปลาใบเล็ก....ก็อาจเป็นโลก เป็นจักรวาลใหญ่โตก็ได้

จิตวิญญาณของปลา ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากจิตวิญญาณของคน.... เป็นสัตว์โลกเวียนว่ายตายเกิดในสังขารต่างกัน
เป็นไปตามผลการกระทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อาจารย์โม่คะ จอยรบกวนถามนิสนึง เรื่องสร้อยประคำ จอยซื้อสร้อยรุ่นก่อนหน้านี้ กับอันใหม่ที่ำทำ มันเหมือนกันมั้ยคะ แล้วบทสวดมนต์ของสร้อยนี้ เป็นบทสวดของ องค์ไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ใช่มั้ยคะ

 

คัดลอกข้อความดี ๆ มาให้พิจารณาค่ะ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
<o></o> “สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง เป็นเพียงปฏิกิริยาของธรรมชาติ<o></o>
เมื่อเห็นก็สักว่าเห็น ได้ยินก็สักว่าได้ยิน จิตคิดเรื่องราวอะไร ๆ<o></o>
ก็สักว่าความคิด ไม่มีอะไรเป็นตัวตน มีสติรู้ตัวเสมอว่า<o></o>
บัดนี้จิตใจเราอยู่ในลักษณะอย่างไร มีอารมณ์อันใดอยู่<o></o>
จิตเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ จิตมันโกรธหรือมันรัก<o></o>
จิตอยู่ในอารมณ์ไหนก็เห็นความเกิดดับตรงนั้นเลย<o></o>
ผู้ปฏิบัติพึงจำแนกให้ออก ระหว่างจิตผู้รู้กับอารมณ์ที่เกิดตรงหน้า<o></o>
แล้วตามดูจิตดูอารมณ์ สักว่าธรรมชาติไป<o></o>
โดยไม่เอาตัณหาไปก้าวก่ายมัน<o></o>
อริยสาวกท่านเอากรรมฐานอย่างนี้ เป็นเครื่องสลัดกิเลสตัณหา<o></o>
ผู้ปรารถนานิพพาน พึงเป็นผู้มีใจเห็นชัดว่า<o></o>
ไม่มีการงานอะไรที่ไหนอีกแล้ว ที่จะมีคุณค่าสูงสุด<o></o>
เสมอเหมือนการงานทำกรรมฐาน”

 

ตอนสายของวันที่ 16-05-52 คุณพีทและกลุ่มเขากะลาได้เข้าพบเพื่อหารือกับคุณมานพ อำพันธุ์ซึ่งเป็นประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์ เกี่ยวกับการขอขึ้นไปทำการบูรณะพื้นที่บนเขากะลา