พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ขอจอง 10 องค์ค่ะ


.

 

รับทราบครับพี่อ้อย

.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เมื่อหัวค่ำนี้ ผมกำลังจะกลับบ้าน เดินมาที่โรงรถที่ทำงาน มีความคิดขึ้นมาแวบนึง

ผมอยากสร้างพระขึ้นมาสักรุ่นนึง พิมพ์พระสมเด็จ

โดยผมเองมีแม่พิมพ์ ผมจะสร้างพระผงคลุกรัก โดยด้านหลังองค์พระจะติดล็อกเก็ต ล็อกเก็ตจะเป็นรูปองค์หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ,คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณ-อุตร) 5 องค์ ,หลวงปู่แจ้งฌาณ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ

ส่วนผงที่จะใช้สร้างนั้น จะเป็นผงที่ได้จากพระวังหน้าที่แตกหัก(ที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้) ,พระธาตุพระสิวลีเถระเจ้า และยังมีมวลสารอื่นๆอีกมาก

ส่วนพระพิมพ์นั้น จะสร้างเท่ากับจำนวนการสั่งจองเท่านั้น

กติกาในการจอง
1.ต้องอยู่ในคณะพระวังหน้า,กลุ่มลูกศิษย์พระอาจารย์ผมและบุคคลที่ท่านอาจารย์ประถม เห็นสมควรเท่านั้น
2.ผู้ที่สั่งจองต้องรับข้อแม้จำนวน 5 ข้อดังนี้
2.1 เป็นผู้ที่ช่วยเหลือและค้ำจุนพระศาสนา ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่
2.2 เป็นผู้ที่ช่วยเหลือประเทศชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่
2.3 เพื่อระลึกถึงครูบาอาจารย์
2.4 เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีไว้ ในการทำความดีตามข้อ 2.1 , 2.2 และ 2.5
2.5 ช่วยกันปกป้องและเผยแพร่พระวังหน้า ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่

ผมจะใช้กติกานี้ในการจอง และผมจะให้มีการเซ็นชื่อในใบจอง โดยข้อความจะมีการตั้งจิต ตั้งสัจจะตามกติกาด้วยนะครับ

ส่วนขั้นตอนแรก ผมขอทราบจำนวนท่านที่มีความประสงค์ที่จะสั่งจอง และจำนวนที่จองก่อนนะครับ

ล็อกเก็ต เท่าที่ผมคุยกับพี่ท่านนึง พี่ท่านนี้บอกว่า ทางร้านคิดมา 300 บาท ผมเองคิดว่า พระพิมพ์ 1 องค์ จะให้จอง 500 บาท ในส่วนต่างอีก 200 บาทนั้น จะเป็นอุปกรณ์ต่างๆเช่น รัก หรือ ค่าใช้จ่ายในงานพิธีพุทธาภิเษก แต่หากมีเงินเหลือ ก็จะทำบุญกันต่อไป แต่หากว่า เงินไม่พอ อาจจะขอเก็บเพิ่มเติมในภายหลัง

ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจองครับ

ขอให้แจ้งผมก่อนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 นี้นะครับ

หมายเหตุ การจองเป็นการตรวจสอบจำนวนก่อน ยังต้องขออนุญาตองค์หลวงปู่พระอุปคุต ,คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีก่อน และยังมีอีกหลายขั้นตอนครับ


เรื่องมวลสาร ผมเองจะสละ ลูกอมผงยาวาสนา(ของวังหน้า) มาเป็นมวลสารด้วยครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ส่วนหนึ่งของใบจอง ซึ่งมีการตั้งจิต ตั้งสัจจะไว้ครับ

เผื่อพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ จะได้ตัดสินใจได้


</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://palungjit.org/threads/เธžเธฃ...นˆเธˆเธฐเน„เธ”เน‰.22445/page-1532#post2088067

ยอดที่จองและผมรับจองแล้ว จำนวน 46 องค์

.

 

การที่รับการตั้งจิต ตั้งสัจจะ เวลาปฎิบัติแล้ว อย่าคิดและหาเหตุผลเข้าข้างตนเองนะครับ

หากเป็นเช่นนั้น อันตรายมากครับ

 

คุณพี่หนุ่ม ขอจอง 2 องค์คะ

 

รับทราบครับ

กลับมาแล้วหรือครับ หรือว่าจองมาจากต่างประเทศเนี่ย

คิดว่าจองมาจากต่างประเทศแน่เลย ไม่รู้ว่าหน้าแตกกลางอากาศหรือเปล่า
.

 

จากไทยคะ เพิ่งถึงบ้านเองคะ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เมื่อหัวค่ำนี้ ผมกำลังจะกลับบ้าน เดินมาที่โรงรถที่ทำงาน มีความคิดขึ้นมาแวบนึง

ผมอยากสร้างพระขึ้นมาสักรุ่นนึง พิมพ์พระสมเด็จ

โดยผมเองมีแม่พิมพ์ ผมจะสร้างพระผงคลุกรัก โดยด้านหลังองค์พระจะติดล็อกเก็ต ล็อกเก็ตจะเป็นรูปองค์หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า ,คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณ-อุตร) 5 องค์ ,หลวงปู่แจ้งฌาณ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ

ส่วนผงที่จะใช้สร้างนั้น จะเป็นผงที่ได้จากพระวังหน้าที่แตกหัก(ที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้) ,พระธาตุพระสิวลีเถระเจ้า และยังมีมวลสารอื่นๆอีกมาก

ส่วนพระพิมพ์นั้น จะสร้างเท่ากับจำนวนการสั่งจองเท่านั้น

กติกาในการจอง
1.ต้องอยู่ในคณะพระวังหน้า,กลุ่มลูกศิษย์พระอาจารย์ผมและบุคคลที่ท่านอาจารย์ประถม เห็นสมควรเท่านั้น
2.ผู้ที่สั่งจองต้องรับข้อแม้จำนวน 5 ข้อดังนี้
2.1 เป็นผู้ที่ช่วยเหลือและค้ำจุนพระศาสนา ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่
2.2 เป็นผู้ที่ช่วยเหลือประเทศชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่
2.3 เพื่อระลึกถึงครูบาอาจารย์
2.4 เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีไว้ ในการทำความดีตามข้อ 2.1 , 2.2 และ 2.5
2.5 ช่วยกันปกป้องและเผยแพร่พระวังหน้า ตามกำลังของตนเองอย่างเต็มที่

ผมจะใช้กติกานี้ในการจอง และผมจะให้มีการเซ็นชื่อในใบจอง โดยข้อความจะมีการตั้งจิต ตั้งสัจจะตามกติกาด้วยนะครับ

ส่วนขั้นตอนแรก ผมขอทราบจำนวนท่านที่มีความประสงค์ที่จะสั่งจอง และจำนวนที่จองก่อนนะครับ

ล็อกเก็ต เท่าที่ผมคุยกับพี่ท่านนึง พี่ท่านนี้บอกว่า ทางร้านคิดมา 300 บาท ผมเองคิดว่า พระพิมพ์ 1 องค์ จะให้จอง 500 บาท ในส่วนต่างอีก 200 บาทนั้น จะเป็นอุปกรณ์ต่างๆเช่น รัก หรือ ค่าใช้จ่ายในงานพิธีพุทธาภิเษก แต่หากมีเงินเหลือ ก็จะทำบุญกันต่อไป แต่หากว่า เงินไม่พอ อาจจะขอเก็บเพิ่มเติมในภายหลัง

ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจองครับ

ขอให้แจ้งผมก่อนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 นี้นะครับ

หมายเหตุ การจองเป็นการตรวจสอบจำนวนก่อน ยังต้องขออนุญาตองค์หลวงปู่พระอุปคุต ,คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีก่อน และยังมีอีกหลายขั้นตอนครับ


เรื่องมวลสาร ผมเองจะสละ ลูกอมผงยาวาสนา(ของวังหน้า) มาเป็นมวลสารด้วยครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
ส่วนหนึ่งของใบจอง ซึ่งมีการตั้งจิต ตั้งสัจจะไว้ครับ

เผื่อพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ จะได้ตัดสินใจได้



</TD></TR></TBODY></TABLE>
พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....


.
</TD></TR></TBODY></TABLE>


มาบอกเรื่องของมวลสารกันนิดนึง

1.ผงที่เข้าพิธีพุทธาภิเษก เมย.50 (องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กุกกุสันโธ มีพระเมตตาอธิษฐานจิต)
2.พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า (เป็นผง) คุณเพชรมอบให้
3.พระธาตุพระสิวลี (สันฐานเพชร) คุณเพชรมอบให้
4.พระธาตุพระสิวลี พี่ท่านนึงมอบให้
5.พระวังหน้าที่แตกหัก และไม่สามารถซ่อมได้ นำมาบดเป็นผง เช่นพิมพ์พุทธประวัติ , พระสมเด็จ (top of the top) เป็นต้น
6.ลูกอมผงยาวาสนา (ไม่น้อยกว่า 5 ลูก)
7.เศษพระวังหน้า ที่มีพระธาตุ พี่อ้อยhongsanart จะส่งมาให้ร่วมสร้าง

เท่านี้ก่อนนะครับ

.

 

พี่ใหญ่กับพี่ ยังบ่นเป็นห่วงอยู่เลย เนปาลมีปัญหาการเมืองภายในประเทศอยู่

;k01 ว่าแต่ว่า น้ำหนักลดลงมั่งป่าว อิอิ

 

จุ๊จุ๊ เรื่องนี้พูดไม่ได้คะ อิอิ

ขอบคุณคุณพี่หนุ่มและคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วงคะ ปลอดภัยดีทุกประการคะ

 

พี่หนุ่ม เปลี่ยนเป็น 5 องค์คะ

 

งั้นพี่เปลี่ยนใจมั่ง เปลี่ยนเป็นไม่ให้

 

ไม่ให้น้องรักได้อย่างไร อิอิ

รับทราบครับ

 

ผมคุยกับคุณเพชร เมื่อสักพักใหญ่ที่ผ่านมา คุณเพชรได้บอกผมเรื่องที่จะมอบ พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า (เป็นผง) และพระธาตุพระสิวลี (สันฐานเพชร) ส่วนคุณเพชรจะจองกี่องค์ ผมจะให้คุณเพชรมาแจ้งเองครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 22 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 18 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, nongnooo+, dragonlord+, ADSAMIN+</TD></TR></TBODY></TABLE>

คุณnongnooo เป็นไงครับ ผมเดาแม่นไหมครับ

ส่วนคุณเพชร ที่บอกผมเรื่องจอง ก็ตัวเลขเดียวกันกับที่ผมบอก

เหลือน้องหมอ ถ้าถูกอีก สงสัยว่า งวดนี้ต้องหาเลขซื้อหวยแล้วครับ หวังว่าจะถูกเหมือนกันครับ อิอิ

 

คุณเพชรบอกว่า น่าจะจองกันเกิน 100 องค์แน่นอน

.

 

น้ำผึ้ง หวาน หวาน...ละมุน ละไม

รายงานโดย :สาโรจน์ มีวงษ์สม:

ที่มา โพสต์ทูเดย์ ��ʵ� ������ - �Թ-����-��ͻ - ��Ӽ��� ��ҹ ��ҹ...���ع ����

แมลงตัวเล็กแสนขยัน เที่ยวบินว่อนเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้นานา


แล้วกลั่นกรองจนเป็นน้ำทิพย์หวานฉ่ำ ที่ใครได้ลิ้มลองต่างก็ติดใจและหลงใหลในรสชาติ อันเป็นเอกลักษณ์และมากด้วยคุณประโยชน์...
สมัยยังเด็กจำได้ว่าพอปิดเทอมใหญ่ทีไร พวกเราจะรู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่ว่าขี้เกียจไปโรงเรียนกันหรอกนะครับ แต่มันเป็นเพราะเจ้าลิงน้อย 4 พี่น้อง จะได้ผจญภัยในป่าใหญ่อันน่าตื่นเต้นต่างหาก
<TABLE class=content_caption cellSpacing=0 cellPadding=2 width=130 align=right border=0><TBODY><TR><TD class=""></TD></TR><TR><TD class="">อโวคาโดน้ำผึ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE>ยามนี้คุณตาสุดซ่าจะพาเราเข้าป่าหาฟืน ขุดมัน และที่เราชอบที่สุดคือจะได้ดูคุณตาล่าผึ้ง เพื่อเอาน้ำหวานมาทำขนม ทำยา และดื่มกิน
พูดแล้วจะหาว่าคุย คุณตาของผมนะเป็นนักล่าผึ้งที่หาตัวจับได้ยากทีเดียว พอตาเหลือบเห็นรังผึ้ง คุณตาก็จะให้ช่วยสุมไฟใต้รัง พร้อมกับจุดยาเส้นเพื่อนำไปเป่าที่รังอีกแรง เจ้าผึ้งงุนงงและคงจะเวียนหัว เผลอแป๊บเดียวก็ค่อยๆ ถอยห่างจากรัง คุณตาของผมถือโอกาสนี้ใช้มีดอีโต้ฟันกิ่งไม้ฉับ แล้วค่อยๆ ส่งรังที่อุดมด้วยน้ำผึ้งฉ่ำหวานมาให้พวกเรา เจ้าลิงน้อยพากันส่งเสียงและออกอาการลิงโลดด้วยความดีใจกันยกใหญ่ หลังจากที่นิ่งเงียบและคอยลุ้นอย่างใจจดใจจ่อตามคำสั่งของคุณตาที่ว่าห้ามเสียงดัง เพราะผึ้งจะพากันแตกรัง และอาจจะโดนต่อยเอาได้
อีกเคล็ดลับที่ควรจดจำให้ขึ้นใจ คือ ห้ามปากเสียหรือตะโกนถามว่า “ไม่กลัวผึ้งต่อยเหรอครับ” โบราณเขาถือ เพราะมันจะจู่โจมทันที ข้อนี้จริงหรือไม่ยังไม่เคยพิสูจน์ แต่ที่แน่ๆ นิ่งเอาไว้ดีกว่าเจอกองทัพผึ้งเล่นงาน!
น้ำผึ้งเจ้าของตำนานความหวาน
คุณตาผมไม่ได้เป็นคนแรกที่รู้จักน้ำผึ้งหรอกนะครับ แต่มนุษย์เรานั้นรู้จักลิ้มรสน้ำผึ้งมานานนับหมื่นปีกันมาแล้ว จากหลักฐานภาพวาดบนผนังถ้ำของมนุษย์ยุคเมโซลิกธิกในประเทศสเปน ซึ่งเป็นภาพคนกำลังปีนขึ้นไปตีรังผึ้งที่อยู่ในโพรงไม้ และเก็บน้ำผึ้งใส่หม้อดิน ซึ่งภาพนี้เองที่แสดงว่าน้ำผึ้งเป็นของหวานชนิดแรกที่มนุษย์รู้จักและต้องการมาจนถึงทุกวันนี้
<TABLE class=content_caption cellSpacing=0 cellPadding=2 width=130 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=""></TD></TR><TR><TD class="">น้ำส้มผสมน้ำผึ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE>ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักเขียนหนังสือ หรือประมาณเมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว ในประเทศอียิปต์โบราณได้ใช้ตัวอักษรฮีโรกลิฟส์ จารึกเรื่องราวเกี่ยวกับผึ้งเป็นครั้งแรก ซึ่งพบว่าในสมัยของพระเจ้าเมนิส แห่งเมืองอบิโดส พระองค์ได้นำรูปตัวผึ้งมาเป็นสัญลักษณ์ของอียิปต์ตอนล่าง และรูปต้นอ้อเป็นสัญลักษณ์ของอียิปต์ตอนบนมารวมกัน และยังใช้เป็นเครื่องหมายประจำตำแหน่งขององค์ฟาโรห์ ในขณะนั้นอีกด้วย
ความมหัศจรรย์ของน้ำผึ้งยังไม่หมด เพราะยังถูกนำไปใช้เป็นเครื่องบรรณาการจากประเทศที่เป็นเมืองขึ้น และในพระพุทธประวัติก็มีเอ่ยถึงน้ำผึ้งว่า มีลิงนำรวงผึ้งมาถวายพระพุทธเจ้า อันเป็นที่มาของพระปางปาริไลยก์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าปางป่าเลไลยก์นั่นเอง
ความสนใจในเรื่องผึ้งของบ้านเรา ก็มีมานานหลายร้อยปีเช่นกัน ดังมีหลักฐานจากศิลาจารึกที่พบพยัญชนะไทยตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงได้มีตัว “ผ” แล้ว ซึ่งเราอ่านว่า “ผ-ผึ้งทำรัง” ทั้งยังมีจารึกบนศิลาหลังที่สองที่พบที่วัดศรีชุม กล่าวถึงเรื่องฝูงผึ้งและผึ้งในนิทานชาดก ตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย นอกจากนี้ยังมีการบันทึกว่ายาไทยนั้นส่วนใหญ่จะใช้ผสมกับน้ำผึ้ง เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมาแต่โบราณ
และมิใช่แต่มนุษย์เท่านั้นที่รู้จักน้ำผึ้งหวานฉ่ำ แม้แต่เจ้าลิงชิมแพนซีก็รู้จักขโมยน้ำผึ้ง โดยใช้ไม้แหย่หรือแทงเข้าไปในรังผึ้ง แล้วให้น้ำผึ้งหยดไหลลงมาแล้วดื่มกินอย่างสบายอุรา
จากป่าสู่วิมานหลังงาม
ด้วยความพิสมัยและติดใจในรสชาติ เกษตรกรหัวใสจึงพยายามที่จะนำผึ้งมาเลี้ยง โดยในสมัยอริสโตเติลได้มีการพยายามจับผึ้งมาเข้ารังเลี้ยง แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตและพฤติกรรมของผึ้งอย่างแท้จริง แม้กระทั่งจีนเองถึงจะมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตีผึ้งป่ามานานกว่า 3,000 ปี แต่เพิ่งจะเริ่มเลี้ยงผึ้งกันจริงจังเมื่อประมาณ 300 ปีมานี้เอง โดยนำผึ้งจากในป่ามาเลี้ยงกันตามบ้าน และเก็บน้ำผึ้งมาใช้เมื่อมีน้ำผึ้งเต็มรัง
ด้วยความพยายามที่ศึกษาวิถีชีวิตอย่างเอาจริงเอาจัง จนในที่สุดมนุษย์เราก็สามารถนำผึ้งมาเลี้ยงได้สำเร็จ โดยผึ้งที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมในการเลี้ยงผึ้งก็คือ ผึ้งพันธุ์ยูโรเปียน ฮันนี บี (European Honey Bee) ซึ่งถือกำเนิดและกระจายพันธุ์อยู่ในเขตร้อนของทวีปแอฟริกา และในเขตหนาวของทวีปยุโรป
<TABLE class=content_caption cellSpacing=0 cellPadding=2 width=130 align=right border=0><TBODY><TR><TD class=""></TD></TR><TR><TD class="">ไก่ย่างน้ำผึ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE>ปัจจุบันผึ้งพันธุ์นี้ ได้กลายเป็นผึ้งสากลและนิยมเลี้ยงไปทั่วโลก ทั้งในทวีปออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกากลับกลายเป็นแหล่งเลี้ยงผึ้งที่มีการค้นคว้าวิจัยการเลี้ยงแบบสมัยใหม่ และเป็นต้นตำรับของการเลี้ยงผึ้งแบบเคลื่อนย้ายไปในที่สุด ในปัจจุบันประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้งมากที่สุด มี 3 ประเทศคือ จีน รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา
สำหรับบ้านเราก็มีการเลี้ยงผึ้งกันจำนวนไม่น้อย ทั้งของศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ผึ้ง และของโครงการหลวงที่ได้ทดลองเลี้ยงผึ้งพันธุ์ในภาคเหนือ นอกจากนี้ยังนิยมเลี้ยงผึ้งพันธุ์ออสเตรเลียเพราะนอกจากนิสัยอ่อนโยน ขยันขันแข็ง และปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี แถมยังรักรัง ผิดกับผึ้งของไทยที่มีนิสัยรักอิสระ ชอบเอาตัวรอด และพร้อมทิ้งรังได้ทุกเมื่อที่คิดว่าภัยมาเยือน (นิสัยคล้ายๆ คนไทยเลยว่ามะ!)
น้ำผึ้ง น้ำทิพย์จากธรรมชาติ
สรรพคุณของน้ำผึ้งนั้นได้มีจารึกไว้ในประวัติศาสตร์มากมายทั้งในประเทศอียิปต์ กรีก โรมัน อินเดีย และประเทศจีน ซึ่งต่างกล่าวถึงประโยชน์ของน้ำผึ้งในทางคุณค่าของอาหาร ยารักษาโรค และใช้ประกอบทำเครื่องสำอาง นอกจากนั้นในการสงครามก็ยังมีการใช้ผึ้งให้ออกไปต่อยศัตรูอีกด้วย
ชาวกรีกโบราณจะดื่มน้ำผึ้งก่อนลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะเชื่อว่าน้ำผึ้งช่วยขจัดความเมื่อยล้าได้ ว่ากันว่าแม้แต่คลีโอพัตราก็ยังนำน้ำผึ้งมาใช้เพื่อความงามอีกด้วย ลำพังแพทย์ชาวอียิปต์โบราณก็ได้ใช้น้ำผึ้งช่วยสมานแผลในการผ่าตัดเพื่อฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งรักษาโรคอีกหลายๆ ชนิด
จะว่ากันไปแล้วน้ำผึ้งนับเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นอย่างยิ่งในอุตสหกรรม ทั้งด้านเครื่องสำอาง ขนมปัง ลูกกวาด เครื่องดื่ม และยารักษาโรค โดยเฉพาะในประเทศจีนประเทศเดียวที่ใช้ประโยชน์จากน้ำผึ้งมากที่สุด นอกจากเพื่อการบริโภคโดยตรงแล้ว ยังสามารถผลิตยาสมุนไพรผสมน้ำผึ้งมากกว่า 100 ชนิด ที่ล้วนมีสรรพคุณในการรักษาโรค รวมทั้งเป็นยาบำรุงกำลังและยาอายุวัฒนะอีกด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี อย่างเช่น รอยัล เจลลี (Royal Jelly) อาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง นมน้ำผึ้ง (Honey Royal Jelly) ผลิตภัณฑ์อาหารและยาชนิดใหม่ที่มีคุณค่าสูง และราคาแพง
นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังถูกนำมาเป็นส่วนผสมและรังสรรค์เป็นเมนูอาหารจานเด่น และเครื่องดื่มรสเยี่ยมได้อย่างหลากหลาย ที่ผู้ใดลิ้มลองต่างถูกอกถูกใจในรสชาติอันหวานล้ำ
เหล่านี้คือความมหัศจรรย์ของ “น้ำผึ้ง” น้ำทิพย์จากธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุด ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะมีน้ำหวานชนิดใดในโลกมาแทนที่ได้ !

​

 

อ้าวงั้นเลขอารายดีอ่ะครับ หุ หุ

 

ในหลวง รับสั่งหาพื้นที่ทำแก้มลิงรับน้ำท่วม

ที่มา โพสต์ทูเดย์

 

เดี๋ยวขอไปเดาก่อนครับ
แล้วจะมาแจ้งให้ทราบ เหอๆๆๆๆ