สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

[music]http://lexiaohong.googlepages.com/timeAcousticversion-korrapin.wma[/music]

-------------------------------------------------------------------------

 

นั่นนะสิ ปล่อยไปแค่นั้นไม่ยากเลย ง่าย
แล้วจะไปทำเรื่องง่ายทำไมหละครับ มันไม่เกิดประโยชน์

ก็โต้แย้งกันไป นั่นแหละ มีประโยชน์ คุณจะรู้สึกว่า มันมีทั้งกิเลส ทั้งตัวโง่ ทั้งตัวปัญญาผุดขึ้น นั่นแหละ ทีนี้ ใครโง่มากหลงมาก ก็นั่นแหละ ให้รู้ไว้ว่า คนที่ยังหลงอยู่ก็อาจจะหลงไปแบบนั้นได้

 

นั่นแหละ ครับ ว่าทำไมถึงต้องด่า สมศรี

เพราะว่า ติคนที่ควรติ

 

คุณธรรมภูต ตอนนี้ผมตอบอะไรไปคุณก็ไม่รู้เรื่องหรอก
เพราะภาคปฏิบัติของคุณมันแค่ระดับเด็กเข้า nursery
แต่สิ่งที่ผมกล่าวมันระดับเด็กมัธยม

คุณมันเด็กยังไม่รู้จักเหตุจักผลอะไร
เอาไว้ให้รู้จักเหตุจักผลมากกว่านี้ก่อนค่อยมาคุยกับผมใหม่

ผมถอดออกมาจากหัวใจมาตอบ
แล้วผมจะไปสนใจอะไรกับคำกล่าวที่เจือไปด้วยกิเลสของคุณ
ก็ผมรู้เองเห็นเองเป็นสันทิฏฐิโกถึงได้เอามาตอบ

ก็รู้มาแล้วเห็นมาแล้วผมถึงเอามาตอบ
จะไปสนใจอะไรกับคนที่มีกิเลสหนาอย่างคุณ

ฝึกจิตฝึกใจตนเองให้มีเหตุมีผลซะบ้างนะ
เผื่อจะได้เป็นคนดิบคนดีกับเค้าบ้าง

 

สวัสดีพระสี

ท่านพูดไม่หมดหรือหมดคำพูด
ธรรมบางอย่างเราเข้าใจแต่กลับอธิบายไม่ได้ หรือว่ายากจะอธิบาย
สิ่งที่ท่านเป็นอยู่ ไม่ว่าสภาวะไหนๆ มันคือภพที่ท่านสร้าง แม้อริยะสี่ภูมิยังเป็นภพ
เหมือนเรายืนมองวัตถุหนึ่ง แต่ไม่รู้ตัวว่ากำลังมองอยู่ ด้วยธรรมชาติรู้
เราก็เห็นแต่วัตถุ ถูกไหม

ทางที่ท่านปฎิบัตินั้นดีแล้ว แต่จะดียิ่งกว่า คือเป็นหรือไม่เป็นก็ไม่เอา
มีหรือไม่มีก็ไม่เอา
แม้สภาวะไม่เอา ก็ไม่มี
เข้าทำนองไม่โง่ ไม่ฉลาด กลางๆก็ไม่ใช่
ให้มันได้เป็นอารมณ์ ไม่ต้องไปอ้างตำราที่ไหนแล้ว

หยุดความคิดในหัว ฉุกรู้ในใจ ทุกกริยาจิตมีสติระลึกรู้ครอบอีกที จนเป็นปัจจุบันธรรม
แล้วจะพบว่าสิ่งที่ได้มานั้น เป็นสิ่งธรรมดา
ชีวิตไม่มีอะไรมากไปกว่าการหายใจเข้าออก ถูกไหม หุหุ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>นิวรณ์*, โชแปง </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
<!-- Who Has Read a Thread. -->

 

เรื่องเซน บรรลุฉับพลัน มีจริงแต่เข้าถึงยากนัก
ทางเถรวาท น้อยนักที่จะได้ยินเรื่องสุญญตา แต่ใช่ว่าสุญญตาจะไม่มีในพุทธกาล

เซน กล่าวว่าทางลัดสั่นมีทางเดียวคือ จิต พุทธะ
ทางเถรวาท กล่าวว่าทางเอกคือสติปัฏฐาน
แต่สองทางนี้หากพิจารณาดีๆ วิธีปฎิบัติอาจแตกต่างกัน เหมือนกสินต่างๆ นั่นก็คืออุบายการเข้าถึง

ที่สุดแล้วมาลงเรื่องจิตล้วนๆ อยู่ที่ปัญญาจะเห็นได้แค่ไหน

 

ให้ความรู้สึก สุขุม คัมภีรภาพ สามีเราชอบดูหนังที่เฮียโจวแสดง บอกว่าคนนี้ เวลายิงปืน หน้า+ตา นิ่งมาก ไม่มีกระพริบตา เราสังเกตดู ก็เห็นด้วยกับเขานะ คนนี้เวลายิงปืน นิ่ง มากๆ

 

ก็มันหนัง เขาก็ต้องทำให้มันนิ่งนะสิ กว่าจะได้ออกมาแบบนั้น ปาเข้าไปกี่เทคหละ
ก็เมื่อวานผมก็บอกแล้วว่า คุณ ดูหนังมากไป

 

ธรรมชาติ ของนักแสดง ต่างกัน
บางคน ทำอย่างไร ก็ แสดง ความนิ่งออกมา ให้คนอื่น รับรู้ไม่ได้
อยากบอกแค่นี้ เราไม่รู้จักเฮียโจว เป็นการส่วนตัว
เราไม่รู้หรอกว่า นิสัยใจคอเขาเป็นอย่างไร แต่ผลงานการแสดงของเขา
มันสะท้อน คุณสมบัติพิเศษ บางอย่าง ที่คนอื่นเลียนแบบได้ยาก
เฮียโจว เขามีความสามารถ แสดงลักษณะที่พิเศษ ออกมาให้ผู้ชม รับรู้ ได้
อย่างน้อย ก็ สามีเรา เขารู้สึก แล้วบอกเรา เราก็สังเกตตาม แล้วเห็นด้วยกับ สามีเรา
ว่า มีนักแสดงน้อยคน ที่กระโดดยิงปืน ได้นิ่ง ไม่มีกระพริบตา บางคนแสดงท่ายิงปืนธรรมดา ก็กระพริบตาแล้ว

ปกติ เราไม่ชอบดูหนัง ก็เลยไม่ค่อยได้สังเกต แล้วก็ไม่มีดาราในดวงใจ
เรายกคำพูด ของคนช่างสังเกต มาเป็นตัวอย่าง ให้คนอื่นฟัง

ปล. กระทู้เมื่อวาน เป็น บทความของคนอื่น เราเพียงแต่ ยกมาให้เพื่อนอ่าน แล้วสังเกต เพื่อให้เพื่อนๆร่วมแสดงทัสนะ ต่อบทความ แล้วเราก็มีความรู้สึกว่า คนเขียนการ์ตูน เขามีจินตนาการ สูง ส่วนคนเขียนบทความก็มีจินตนาการสูง เอาเรื่องเด็กพิเศษ กับเรื่องการ์ตูนฮีโร่ต่างๆ มาเขียนแสดงทัสนะ ความเหมือนในความต่าง กันได้ และเพื่อนๆก็มีความเห็นต่อกระทู้ แตกต่างกันไปตามความคิดตน กระทู้เรื่องเดียวกัน อ่านไปแล้ว ก็จุดให้เกิดความคิด ความเห็น แสดงทัสนะ ต่างๆ กันไป ก็แปลกดี

 

ไม่ เหมือน ผม เพราะ ผม ชอบ ดู หนัง ของ ท่าน โจว ซิง ฉือ

แบบที่ 2 ฟังธรรมแล้ว จำธรรมนั้นได้ แบบนี้น่าชมเชย
คนฟังแบบที่ 2 ก็มี สองแบบ
แบบเอ....ฟังธรรม..จำธรรมนั้นได้ แล้ว ก็ไม่ทำอะไร ได้แต่จำไว้ ไม่นำมาปฏิบัติ อย่างนี้น่าติเตียน

อ่าน อัน นี้ แล้ว งง นะ ท่าน

ไอ้ ที่ ต่อ จาก บรร ทัด ข้าง บน น่ะ

ตก ลง ก็ น่า ติ เตียน ทั้ง นั้น น่ะ สิ แล้ว จะ มา บอก ว่า น่า ชม เชย ทำ ไม ตอน แรก และ ตอน กลาง งง

การ เลือก ก็ คือ การ ถูก เลือก นั่น เอง ชอบ ครับ ชอบ ท่าน ศรี(smile)

 

เราชอบดูหนัง สารคดี

ดาราอีกคนที่สามีเราชอบพูดถึงเวลาดูหนัง คือ เหลียงเฉาเหว่ย เขาบอกว่า แสดงความรู้สึกออกมาทางดวงตา ได้ดีทำให้เขาประทับใจได้ เป็นคุณสมบัติพิเศษ ที่เลียนแบบได้ยาก

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>โชแปง, haha4959 </TD></TR></TBODY></TABLE>

เหมือนเดิม
ดูดกัน และผลักกันในตัว เหมือนแม่เหล็ก
ต่างรักษาระยะห่าง ใครกระดิกเป็นโดนเสียบ
รู้ว่าว่าโดนเสียบก็ยังกระดิก
รู้ว่ากระดิก ก็ยังหาเรื่องเสียบ หุหุ

ทั้งหมดไม่ได้ขึ้นที่กระดิกหรือเสียบ แต่เป็นอารมณ์หลังกระดิก และหลังเสียบ

 

ไม่แปลกหรอก เพราะว่า อารมณ์ที่หลายหลายของคนยกมา นั่นแหละเป็นตัวทำให้คนอื่นเข้าใจที่แตกต่าง

 

ที่ยากก็ยากที่ปาก ด่านแรก
ที่ว่ายากเพราะทำไม่ได้ ด่านสุดท้าย

 

จริงๆ แล้ว ใครมาเสียบผม ก็ไม่น่าจะได้นะ เพราะว่าผมเจริญเมตตาพรหมวิหารบ่อย
ใครเจริญ เมตตาพรหมวิหารบ่อยแล้ว ศาตราวุธจะไม่กินกาย อันนี้เรื่องจริง

คนที่พูดอะไร กั๊กๆ เอาไว้นั่นแหละ พวกคิดมาก พวกระวังหลัง มันไม่เปิดเผย
อัตตายังจัดอยู่ พวกนี้กระทบไม่ได้นะ มันเปราะ

 

เป็นการกล่าว เพื่อแนะนำนะครับ การกระทำให้แจ้งมีเป็น ลำดับ หากยังไม่ถึงที่สุดแห่งการทำให้แจ้ง ย่อมได้รับ การติเพื่อก่อ ให่เกิดประโยชน์ครับ

 

พระอรหันต์ ที่ไม่มีกิเลสมาครอบงำแล้ว สิ่งที่แสดงออกคือ กิริยาจิต
คนมีกิเลส แสดงอารมณ์ในแบบเดียวกับพระอรหันต์แสดง คือ โดนกิเลสครอบงำจิต

 

กิเลสจะครอบงำหรือไม่ครอบ คนอื่นที่ยังมีกิเลสไปรู้ดีกว่าเจ้าของจิตนั้น เรียกว่า โดนกิเลสครอบงำจิตอย่างแท้จริง