จิตบังคับบัญชาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้...จะอบรมจิตได้อย่างไร???

ธรรมมี๒ โลกียะธรรม โลกุตตระธรรม คุณบอกว่าอยู่โดยธรรม <O</O
ไม่ใช่มีอยู่โดยธรรมนะครับ
.คำ ว่ามีอยู่โดยธรรม ผมหมายถึง มันมีอยู่คู่โลกมานานแล้ว
แล้วท่านอ่านแล้วเข้าใจว่าอย่างไรเหรอครับ...
...แล้ว โลกุตตระธรรม กับ โลกียะธรรม มันอยู่คู่โลก นานมาแล้วหรือเปล่าครับ??
แล้วโลกุตตระธรรม กับโลกียะธรรม มันไม่ใช่ธรรมเหรอครับ??

 

ครับเพราะมีเราเป็นเหตุไปจุดเทียนขึ้นมาใช่มั้ย??? <O</O
ครับใช่ครับ

ถ้าเราไม่ไปจุดเทียนขึ้นมาเทียนจะติดขึ้นมาเองได้มั้ยครับ???<O</O
ครับใช่ครับ

คุณกำลังพูดสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว(มีเหตุสร้างผลแล้ว) <O</O
ผมพยายามชี้อธิบายยกมาเปรียบเทียบเฉยๆครับ<O</O
อันนี้เป็นการเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนะครับ

.......ท่านธรรมภูติ เกิดมาจนได้ทุกวันนี้ เป็น เหตุสร้างผลแล้วใช่ไหมครับ??

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ธรรมภูต<O</O
*ครับควรที่จะต้องพยายามสลัดนิสัยที่ไม่ดีออกไปให้ได้ก่อนใช่มั้ยครับ???
วิษณู12.... <O</O
เปล่าเลย เพียงให้จิต รู้ถึง นิสัยจิต ไม่ว่าดีหรือไม่ดี โดยอาศัย การเดินตาม มรรค ทั้ง 1-6 เพื่อให้อยู่ในความดีเข้าไว้ แล้วต่อด้วยมรรค 7-8
</TD></TR></TBODY></TABLE>
**การจะดูจิตในจิตไม่ใช่อาศํยมรรคองค์ที่๑-๖ ต้องอาศํยมรรคองค์ที่๖ ๗ ๘ก่อนนะครับ<O</O
ในมหาจัตตารีสกสูตรกล่าวไว้ครับ

การจะดูจิตในจิตไม่ใช่อาศํยมรรคองค์ที่๑-๖ ต้องอาศํยมรรคองค์ที่๖ ๗ ๘ก่อนนะครับ<O</O
ในมหาจัตตารีสกสูตรกล่าวไว้ครับ

ถามท่านธรรมภูติว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เรียก ไตรสิกขาใช่ไหมครับ??
ทำไม จึงเรียง ศีล สมาธิ ปัญญา ???

 

*ครับ สุขกับสุขยิ่งต่างกันยังไงครับ???
ท่านธรรมภูต เคยกิน น้ำตาลไหมครับ หากอายตนะท่านไม่เสีย มันจะรู้รสหวาน แล้วท่านตอบผมได้ไหม รสหวานเป็นอย่างไร

 

แล้วคุณว่าตัวเดียวกันมั๊ยล่ะคะ....

 

แว๊กกกกกกกกกกกกสนุก และสนุกยิ่ง.....
กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก><~

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิษณุ12
อวิชชา เป็นมูลเหตุแห่งกิเลสทั้งปวง....
ตัวแดงๆนี่ตัวเดียวกันไหมครับ??
</TD></TR></TBODY></TABLE>
แล้วคุณว่าตัวเดียวกันมั๊ยล่ะคะ....
<!-- / message --><!-- sig -->__

_อวิชชา เป็นมูลเหตุแห่งกิเลสทั้งปวง....
_______________
ความคิดเห็น...มันคนละตัวกันครับ
มูลเหตุ อย่างหนึ่ง กิเลสอย่างหนึ่ง

สีเขียว มีส่วนผสมของ สีน้ำเงินและสีเหลือง จึงกลายเป็น
สีเขียว
ทั้ง ..สีเหลือง .. สีน้ำเงิน ..สีเขียว ล้วน เรียกว่าสี
แต่คำตามหลังสี มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน น้ำเงินอย่างหนึ่ง เหลืองอย่างหนึ่ง เขียวอย่างหนึ่ง
ผมจึงเข้าใจว่า ...กิเลส อย่างหนึ่ง... อวิชา อย่างหนึ่ง

 

โดยความคิดเห็น

อวิชชา ก็คือ กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิต
เป็นกิเลสตัวต้นเหตุทำให้สัตว์ต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารจักร (กิเลส กรรม วิบาก)
จึงกล่าวว่า อวิชชาเป็นมูลเหตุแห่งกิเลสทั้งปวง

หรืออวิชชาเป็นมูลการแห่งสังสารวัฏฏ์....

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิษณุ12
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิษณุ12
อวิชชา เป็นมูลเหตุแห่งกิเลสทั้งปวง....
ตัวแดงๆนี่ตัวเดียวกันไหมครับ??


</TD></TR></TBODY></TABLE>
แล้วคุณว่าตัวเดียวกันมั๊ยล่ะคะ....
<!-- / message --><!-- sig -->__

_อวิชชา เป็นมูลเหตุแห่งกิเลสทั้งปวง....
_______________
ความคิดเห็น...มันคนละตัวกันครับ
มูลเหตุ อย่างหนึ่ง กิเลสอย่างหนึ่ง

สีเขียว มีส่วนผสมของ สีน้ำเงินและสีเหลือง จึงกลายเป็น
สีเขียว
ทั้ง ..สีเหลือง .. สีน้ำเงิน ..สีเขียว ล้วน เรียกว่าสี
แต่คำตามหลังสี มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน น้ำเงินอย่างหนึ่ง เหลืองอย่างหนึ่ง เขียวอย่างหนึ่ง
ผมจึงเข้าใจว่า ...กิเลส อย่างหนึ่ง... อวิชา อย่างหนึ่ง
</TD></TR></TBODY></TABLE>
โดยความคิดเห็น

อวิชชา ก็คือ กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิต
เป็นกิเลสตัวต้นเหตุทำให้สัตว์ต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารจักร (กิเลส กรรม วิบาก)
จึงกล่าวว่า อวิชชาเป็นมูลเหตุแห่งกิเลสทั้งปวง

หรืออวิชชาเป็นมูลการแห่งสังสารวัฏฏ์....
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

ความคิดเห็น...
มะม่วงดิบก่อน..มะม่วงสุกจึงตามมา

มะม่วงดิบ มาก่อน สุก เป็นมูลเหตุ ใช่ไหมครับ??
มะม่วงสุก เป็นผลของมูลเหตุใช่ไหมครับ??
แต่เป็นมะม่วงเหมือนกันใช่ไหมครับ??
สถานะดิบ กับ สถานะสุกจึงต่างกันใช่ไหมครับ??
ผมจึงเข้าใจว่า ตัวอวิชาตัวหนึ่ง ตัวกิเลสตัวหนึ่ง

 

ในพระพุทธศาสนานี้
คำว่า

 

ขออนุญาตสอดแทรก

กิเลสมีหลายอย่าง
อวิชชาเป็นรากเหง้าของกิเลสอื่นๆ เช่น โทสะ โลภะ
โทสะ โลภะ ก็คือ กิเลส
อวิชชา ก็คือ กิเลส
แต่จะกล่าวสลับกันว่า
กิเลส คือ อวิชชา จะถูกเพียงส่วนเดียว
ดังนั้น อวิชชา เป็นซับเซตของกิเลส แต่กิเลส ครอบอวิชชาอีกทีหนึ่ง
ข้อความด้านบนต้องการชี้ให้เห็นถึงอวิชชา โดยอาศัยคำว่า กิเลสในการอธิบาย ซึ่งคนทั่วไปเข้าใจความหมายของคำว่ากิเลสดีอยู่แล้ว แต่คำว่า อวิชชา อาจยังไม่เคลียร์

 

ขออนุญาตสอดแทรก (แทรกได้เลยครับ สนทนากัน)

กิเลสมีหลายอย่าง
อวิชชาเป็นรากเหง้าของกิเลสอื่นๆ เช่น โทสะ โลภะ
โทสะ โลภะ ก็คือ กิเลส
อวิชชา ก็คือ กิเลส
แต่จะกล่าวสลับกันว่า
กิเลส คือ อวิชชา จะถูกเพียงส่วนเดียว
ดังนั้น อวิชชา เป็นซับเซตของกิเลส แต่กิเลส ครอบอวิชชาอีกทีหนึ่ง
ข้อความด้านบนต้องการชี้ให้เห็นถึงอวิชชา โดยอาศัยคำว่า กิเลสในการอธิบาย ซึ่งคนทั่วไปเข้าใจความหมายของคำว่ากิเลสดีอยู่แล้ว แต่คำว่า อวิชชา อาจยังไม่เคลียร์.........
.....กิเลส ครอบอวิชชาอีกทีหนึ่ง... กิเลสครอบอวิชาอีกที
เหรอครับ...
อวิชา คือ ความไม่รู้ พอถูกแทงตลอดด้วยปัญญา คือ ความรู้ ขณะจิตนั้น อวิชาจึงดับไปใช่ไหมครับ?? ....

 

ตรงนี้เป็นเรื่องของการตีความ
ผมจะชี้ให้ชัดขึ้นแล้วกัน
อวิชชาเป็นมูลเหตุของกิเลสทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปฏิฆะ อุทธจะ กามราคะ เป็นต้น
เมื่อแทงตลอดด้วยปัญญา อวิชชาดับ กิเลสที่เป็นผลพวงมาจากอวิชชา ก็ดับ
ที่ผมกล่าวว่า กิเลสครอบอวิชชา หมายถึง กิเลสมีหลายอย่าง ซึ่งในนั้นก็มีอวิชชาด้วย ที่ว่าครอบ หมายความอย่างนี้
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ ในคอกมีสัตว์หลายอย่าง มีหมู ไก่ วัว ม้า แพะ เป็นต้น
ผมบอกว่า คอกสัตว์ ครอบ หมู ก็ถูก
คอกสัตว์ ครอบ วัว ก็ถูก
...
กิเลส ครอบ อวิชชา ก็คือๆกัน
เนื่องจากคอกกิเลส มี อวิชชา สักกายะ วิจิกิจฉา อุทธัทจะ กามราคะ และอื่นๆเป็นต้น

 

อวิชชา นั้น ไม่ได้มีความหมายแค่คำว่า กิเลส

เพราะ สิ่งที่ไม่ใช่กิเลส ก็มี เช่น บุญกุศลทั้งหลาย

คำว่า อวิชชา นั้นกินความทั้ง กุศล และ อกุศล และ สภาพกลางๆ

การที่เอาคำว่า กิเลส ไปครอบ อวิชชา ก็นับว่า ตีความได้แย่มาก

สมเป็นศิษย์ อ.ขันธ์ ที่ต้องคอยออกมาตักเตือนตลอดเวลา

 

กิเลส ครอบ อวิชชา ก็คือๆกัน
เนื่องจากคอกกิเลส มี อวิชชา สักกายะ วิจิกิจฉา อุทธัทจะ กามราคะ และอื่นๆเป็นต้น...
ความคิดเห็น...สีแดง สีเขียว สีส้ม เป็นสัญลักษณ์ที่ใช่ในการจราจร ซึ่ง แดง เขียว ส้ม ตัวลักษณะต่างกัน แต่เรียกว่าสีเหมือนกัน
หากพอ....ไฟ สีเขียว แสดงว่ารถวิ่งไปได้
.............ไฟ สีแดง แสดงว่ารถวิ่งไปไม่ได้รถหยุด
.............ไฟ สีส้ม แสดงว่าให้ระวังเตรียมหยุดสำหรับรถวิ่งอยู่ส่วนรถหยุดอยู่ก็ให้เตรียมวิ่ง
หาก ท่านเทพกล่าวว่า กิเลส ครอบ อวิชชา ก็คือๆกัน...
ถ้าอย่างนั้น ไฟ สีแดง ก็คือ ไฟสีเขียว
ไฟ สีเขียว ก็คือ ไฟสีแดง คนรู้ตาม จะเป็นอย่างไรหากไม่แยกให้ชัดเจนนะครับ

มะม่วงดิบก่อนแล้วจึงสุกตามมา แต่ก็ยังเป็นมะม่วง ต่างกันที่ สุกเป็นอย่างหนึ่ง ดิบเป็นอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นมะม่วงเหมือนกัน
หาก สุก กับ ดิบ ก็คือๆกัน ก้ถูกอยู่ เพราะเป็นมะม่วง...แต่หากว่า สถานะดิบ กับสถานะ สุก ไม่เหมือนกัน

หากเราใช้ ให้คนไปเอามะม่วงสุกมา ด้วยความที่ว่า มัน คือๆกัน เค้าคงเอามะม่วงดิบมา ...เราจะทำอย่างไร??

 

ไม่ใช่อย่างนั้น หุๆๆๆ

 

ขอบคุณที่ชี้แนะ ท่านเอกผู้มีอคติติดตรึงใจยาวนาน

คำว่ากิเลส ผมมองว่าทั้งหมดทั้งสิ้น ที่ทำให้หลงผิด เกิดเป็นภพชาติ เวียนว่ายต่อไป

ขออภัยที่ผมไม่ถนัดเรื่องภาษา พยัญชนะ อนุพยัญชนะ อนุของอนุพยัญชนะ รากเหง้าของพยัญชนะ ...

 

หากรู้ว่า ความรู้มีน้อย อีก ทั้งยังไม่เคารพ หลักการสอน แบบแผนการสอน

ที่บัณฑิต พระ และ สงฆ์ ท่านกำหนดเอาไว้ ก็ควรจะไปศึกษาเพิ่มเติม

หรือ จะกล่าวว่า ภาษาเหล่านั้นเยิ่ยเย้อต่อการสอน ต่อความเข้าใจ แล้ว
คุณจะยืนยันการใช้ตามอำเภอใจ ก็เรื่องของคุณครับ

 

จากสุตมยปัญญา หรือสัญญาปัญญา
--------
อวิชชา เกี่ยวเนื่องกันกับ อาสวะกิเลส
ความรู้ที่สำคัญที่สุด คือ อาสะวักขยาญาณ ได้แก่ การรู้อริยสัจ 4 อย่างถ่องแ้ท้
ตามความเป็นจริงแล้ว จิตก็หลุดพ้นจากอาสวะ คือ กามสวะ ภวาสวะ และอวิชชสวะ
ด้วยการพิจารณาปฏิจจสมุปบาททั้งขบวนการเกิด(สมุทยวาร)
และขบวนการดับ(นิโรธวาร) จนเห็นชัดแจ้งตามความจริง

กล่าวเฉพาะอาสะวักขยญาณนี้ั เป็นญาณของ อเสขบุคคล
คือ ความรู้ที่เปลี่ยนอริยเสขบุคคล เป็นพระอรหันต์
เมื่อบรรลุความรู้ขั้นนี้แล้ว จิตก็หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง (วิมุตติ)