จิตบังคับบัญชาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้...จะอบรมจิตได้อย่างไร???

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 27 มกราคม 2009.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    เจตนา ก็คือ สังขารขันธ์....เกิดได้อย่างไรเหรอครับ
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
     
  3. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    สัญญา ทำให้เกิด สังขาร(เจตนา).....[​IMG]
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ทุกข์เป็นผล เพราะละเหตุแห่งทุกข์ เมื่อละเหตุได้ทุกข์จึงดับ <O:p</O:p
    ที่ถูกต้องควรเป็นแบบนี้นะครับ...ถ้าอย่างนั้นผมก็เข้าใจอย่างท่านธรรมภูติครับ <O:p</O:p

    ที่คุณพูดว่าดับหนะ หมายถึงไม่เกิดอีกแล้วใช่มั้ยครับ???
    ดับ ที่ผมอธิบายท่านธรรมภูต ผมว่าต่อ1ขณะจิตครับ ไม่ใช่ว่าไม่เกิดอีก
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    สัญญา ทำให้เกิด สังขาร(เจตนา)
    สัญญาเกิดจากอะไรหรอกครับ..
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ถึงว่าสิครับคุณวิฯ ละกับดับต่างกันโดยสิ้นเชิงนะครับ
    เทียนที่ติดขึ้นมาได้นั้น เหตุเพราะเราไปจุดด้วยประกายไฟมันใช่มั้ยครับ???
    ถ้าเราละเหตุได้ เทียนก็ไม่ติดไฟใช่มั้ย??? ใช่ครับเพราะมีเรานี่ล่ะครับ ....แต่เทียนที่จุดมาแล้ว ผมยกมาเพื่อนอุปมาให้ท่านธรรมภูติ เพื่อเข้าใจสิ่งที่ผมอธิบายน่ะครับ ว่าวิธีดับความร้อนหรือแสดงสว่าง จะดับไปได้อย่างไร เลยต้องดับที่เชื้อ คือ ใส้เทียน ซึ่งเป็นเหตุ ให้ไฟลุกอยู่ ผมถึงพยายามชี้ตรงนี้น่ะครับ

    ส่วนที่คุณพูดหนะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
    คุณไม่รู้หรือครับว่า เปลวเทียนและความร้อนเป็นอัญญะมัญญะปัจัจยซึ่งกันและกัน ..ถูกต้องแล้วครับ ต่างกันโดยสิ้นเชิง
    เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วหากรรมวิธีที่ถูกต้องในการดับครับ...ไม่เกี่ยวกับการละเลยนะครับ....ครับ ถือว่าผมเข้าใจ คำว่าละ ผิดไปเองครับตรงนี้ ต้องขออภัย...
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เป็นไปได้หรือครับว่า เพียงแค่มีคนบอกว่าวิธีนี้เป็นการรู้ถูก เราเข้าใจเองว่าอย่างนั้น
    โดยไม่เคยสมาทานนำมาลงมือปฏิบัติก่อนเลย แล้วเพ้อฝันว่าที่รู้มานั้นถูกแล้ว
    ต่อเมื่อลงปฏิบัติจริงๆจังๆก่อนสิครับ สิ่งที่รู้มาอาจผิดก็ได้นะครับ ...ต้อง อ่านรู้ถูกให้เข้าใจก่อนซิครับ ไม่ใช่อ่านยังไม่เข้าใจก็ลงมือทำ

    ในมหาจัตตารีสักกสูตร พระองค์จึงได้ยกเอา
    สัมมาสมาธิเป็นประธาน โดยแวดล้อมด้วยมรรคอีก๗องค์
    และใน๗องค์นั้นทรงให้สัมมาทิฐิเป็นใหญ่เป็นประธานนะครับ

    ลงมือปฏิบัติสัมมาสมาธิให้รู้เห็นตามความเป็นจริงก่อนสิครับ
    คุณจึงจะรู้ว่าที่รู้มานั้นมันถูกต้องตามความเป็นจริงหรือมันผิดจากความเป็นจริง
    ..ก่อนจะลงมือก็ต้องให้เข้าใจกระบวนการก่อนซิครับ ...การรู้เห็นตามความเป็นจริงเป็นอย่างไรบ้างครับ..

    ยังไม่เคยปฏิบัติจริงๆจังๆ อย่าเดาสวดไปเลยนะครับ เป็นบาปโดยไม่ได้ตั้งใจครับ

    ใช่แล้วครับ การเดาสวดเป็นบาปจริงๆครับ...
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    คุณทำความดีโดยไม่ไปยึดถือมัน ก็ไม่เป็นการสะสมครับ
    ต่อเมื่อคุณยึดว่านั่นเป็นความดีของเรา แน่นอนครับ คุณเริ่มสะสมมันแล้วครับ
    ...ใช่แล้วครับ
    เป็นการติดดีในดีครับ
    แต่ความดีที่ไม่ยึดถือนั้น ก็ไม่ได้สูญหายไปไหนครับ
    ยังถูกบันทึกไว้เพื่อส่งผลให้เราในภายภาคหน้าครับ
    ...ใช่ครับ ดีแล้วครับ
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    คุณวิฯครับ
    คุณแยกไม่ออกจริงๆ หรือแกล้งเพื่อเอาชนะเท่านั้นครับ
    ...ผมไม่ได้แกล้งหรอกครับ ตอบตามที่ผมเข้าใจเท่านั้นเอง
    ความเป็นคนดี กับ ความที่มีจิตใจสงบตั้งมั่นไม่หวั่นไหว ต่างกันนะครับ
    ...ใช่แล้วครับต่างกันอย่างไรเหรอครับ?
    คนที่ชอบทำความดีจนเป็นนิสัย อาจจะมีจิตใจว้าวุ่นทั้งวันก็ได้ครับ
    ....ก็ใช่เหมือนกันครับ และอาจจะไม่ว๊าวุ่นก็ได้เหมือนกันครับ
    ส่วนคนที่ได้ฝึกอบรมปฏิบัติ จนเป็นผู้มีจิตใจสงบตั้งมั่นแล้ว
    อาจเป็นคนเฉยๆในสายตาคนอื่นก็ได้นะครับ
    ....ก็ใช่เหมือนกันครับ เฉยๆในสายตาคนอื่น

    แน่นอนครับ คุณไม่เคยลงมือฝึกฝนปฏิบัติให้จิตตั้งมั่นไม่หวั่นไหวได้อย่างรวดเร็ว
    เมื่อมีเหตุใกล้เกิดขึ้นมา คุณจะมีความเห็นชอบได้อย่างไรครับ???
    .....ท่านเก่งนะครับท่านธรรมภูต รู้ได้ด้วย
    ที่คุณพูดกันมาๆหนะ เป็นการคิดเองครับ
    ใช่แล้วครับเป็นการคิดเองของผม ถูกต้องเลย เป็นการคิดเองของผม... [​IMG]
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *ครับ คุณวิฯเข้าใจถูกแล้วครับ
    การระลึกชอบ(สัมมาสติ)ในที่๔สถานนั้นเป็นไปเพื่อความหน่ายคลายละ(นิพิททา)ครับ
    เพื่อปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์๕
    เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานเพียงอย่างเดียวครับ...
    *ที่คุณเข้าใจ๓อย่างนั้น ยังไม่ถูกต้องนักครับ
    เป็นเพียงความตั้งใจหรือที่คนในโลกเรียกว่า
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *คุณวิฯครับ เข้าใจถูกครับเป็นชนิดของจิตในขณะนั้นครับ
    ผมขอยกตัวอย่างพอให้พิจารณาดูครับ
    เปรียบเสมือนจิตเป็นเหมือนหลอดไฟ
    เมื่อเราเอาโคมสีแดงไปครอบไว้ แสงที่ออกมาก็เป็นสีแดง
    เมื่อโคมสีแดงออก เอาสีเหลืองครอบแทน แสงที่ออกมาก็เป็นสีเหลือง
    เมื่อเอาโคมสีเหลืองออก เอาสีน้ำเงินครอบแทน แสงที่ออกมาก็เป็นสีน้ำเงินครับ...


    *ถ้าไม่มีสัญญเจตนาในตอนนั้น
    คุณจะรู้หรือครับว่า หายใจเข้าหรือหายใจออก หยาบหรือละเอียดฯ
    ในคนปกติทั่วไปไม่ต้องมีเจตนาอะไรทั้งสิ้น เค้าก็หายใจของเค้าอยู่แล้ว
    โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าขณะนั้นหายใจเข้าหรือออก หยาบหรือละเอียด
    แม้กระทั่งตอนโกรธยังไม่รู้เลยว่าลมหายใจทั้งหยาบ ทั้งสั้นและเร็ว ฯลฯ


    ;aa24
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *คุณวิฯครับ คุณเคยหัดท่องสูตรคูณมั้ยครับ???
    ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่เคยผ่านการฝึกหัดท่องมาแล้ว
    เมื่อผ่านขั้นตอนการฝึกหัดมาแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการใช้
    คุณจะใช้ก็ต่อเมื่อมีเหตุให้ใช้(เจตนา)
    คุณคงไม่ท่องขึ้นโดยไม่มีเหตุอันควรใช่มั้ยครับ???

    ;aa24
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ครับ คุณธรรมะสวนัง
    จิตปุถุชน ย่อมคุ้นเคยกับการออกไปยึดอารมณ์ที่ชอบหรือที่ชังจนเป็นนิสัย
    พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่อุบัติขึ้นในโลกนี้
    ล้วนทรงสอนให้ฝึกฝนอบรมเพื่อปล่อยวางอารมณ์ จนเป็นนิสัยเช่นกันครับ

    ;aa24
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *ไม่ว่าสมถะและวิปัสสนาก็เช่นเดียวกับการฝึกหัดท่องสูตรคูณเช่นกันครับ....<O:p</O:p
    ;aa24
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *เป็นไปได้หรือครับที่คุณพูดว่า
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *อ้าวก็เห็นคุณพูดว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นเองได้เองโดยไม่ต้องเจตนานิครับ???
    ดีครับกราบขอขมาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์...อยู่เนืองๆ
    เหมือนที่ผมทำวันละหลายครั้ง
    เพราะท่านเหล่านั้นยังคงอยู่กับเราจนทุกวันนี้ครับ

    ;aa24
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    *คุณวิฯครับ คุณกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่าครับ
    งั้นพวกโจรผู้ร้ายหรือมือปืนรับจ้างก็เป็นเช่นเดียวกับคุณน่ะสิ
    เพราะในบางครั้งเมื่อสำนึกที่เคยถูกพ่อ-แม่หรือผู้หลักผู้ใหญ่
    อบรมสั่งสอนไว้แต่เก่าก่อนผุดขึ้นมาโดยไม่มีเจตนาว่าการทำความชั่วไม่ดี
    แสดงว่า พวกเค้าก็มีวิปัสสนาเกิดขึ้นโดยไม่เจือเจตนาบังคับสิ

    ถามนะครับว่าทำไมพวกคนเหล่านั้นเมื่อมีวิปัสสนา(ปัญญา)เกิดขึ้น
    ทำไมยังไม่เลิกทำชั่วอีกหละครับ???
    ทุกครั้งที่ทำผิดกฎหมายแล้วโดนจับได้ก็จะพูดว่าไม่อยากทำเลยครับพี่น้อง...

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...