จิตบังคับบัญชาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้...จะอบรมจิตได้อย่างไร???

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 27 มกราคม 2009.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ตกลงที่คุณพูดทั้งสองประโยคนี้มันขัดกันเองอย่างสิ้นเชิงครับ
    อบรมไม่ได้ บังคับไม่ได้ แล้วพระองค์จะทรงสอนทำไมครับ???
    แล้วที่คิดดี พูดดี ทำดี ใช่อบรมมาแล้วใช่มั้ยครับหรือเกิดขึ้นเอง???
    ถ้าไม่ได้อบรมมา ฝึกฝนมา จะเอาพลังจิตมาจากไหนครับ???


    ;aa24
     
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณจ้อนครับ ในเมื่อไม่มีตัวตนของตน
    ไม่มีตัวตนแล้วรู้ได้ยังไง ใครรู้ครับ???
    แล้วผู้รู้มาจากไหนครับ???
    เมื่อมีผู้รู้(มีผู้รู้แล้วครับและอย่าบอกหละว่าอะไรๆก็ไม่มี)
    ก็ต้องมีสิ่งที่ถูกรู้ใช่มั้ยครับ???


    เห็นพูดวกวนเป็นน้ำในอ่างเป็นประจำครับ พึ่น้อง
    ;aa24
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ชำระ อวิชชาไปทำไม???
    ในเมื่อคุณบอกว่ามันไม่มีตัวตน???
    จะเสียเวลาเปล่ากับสิ่งที่ไม่มีตันตนไปทำไม???

    ;aa24
     
  4. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    คุณนิวรณ์ครับ ตามสบายครับ
    ขอให้ตอบอยู่ในประเด็น คุณพูดได้เต็มที่เลยนะครับ

    ที่คุณยกตัวอย่างมานั้น ถ้าผมยกตัวอย่างท่านอาจารย์พาหิยะหละครับ
    ที่ท่านเพียงฟังพระพุทธองค์ตรัสสอนว่า ก็ให้สักแต่ว่าสิฯ ก็บรรลุได้เป็นพระอรหันต์
    อันนั้นเพราะว่าท่านได้อบรมจิตมาจนมีพลังมากพอที่จะปล่อยวางอย่างเฉียบพลัน
    เมื่อให้ยินคำสอนของจอมศาสดา
     
  5. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณขันธ์ครับ ในส่วนของการไหลเอิบอาบของน้ำนั้นเป็นคุณลักษณะของน้ำ
    ซึ่งมันเป็นอย่างนั้นเอง เช่นเดียวกับร่างกายที่เราอาศัยอยู่นะครับ
    เราไม่สามารถบังคับไม่ให้แก่เจ็บตายได้
    แต่ส่วนที่บังคับได้ เช่นการใช้สอยให้ทำความดี พูดดี คิดดี
    ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น แถมยังช่วยเหลือเกื้อกูลต่อสิ่งต่างๆรอบตัวเสียอีก
    น้ำก็เช่นกันเราสามารถบังคับให้ไหลไปในทิศทางที่ต้องการนะครับ


    คุณขันธ์ครับการบังคับ กับหน้าที่ย่อมแตกต่างกันนะครับ
    ในตอนต้นหรือในวัยเด็กนั้นต้องมีการบังคับควบคุมเพื่อให้เป็นไปตามที่เราต้องการ
    ต่อเมื่อการกระทำเหล่านั้นต่อเนื่องจนเป็นนิสัยแล้ว
    ก็ไม่จำเป็นต้องบังคับอีกแล้วนะครับ
    มันจะเป็นไปตามหน้าที่เท่านั้นครับ โดยไม่ต้องบังคับอีกต่อไปแล้ว
    จิตที่ได้รับการอบรมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ
    จนสามารถปล่อยวางกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง(จิตบริสุทธ์)ก็เช่นกันครับ
    เป็นหน้าที่ที่เกิดจากความเมตตาล้วนๆนะครับ....


    ;aa24


     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณวิฯครับ ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป
    ส่วนสุขนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อทุกข์ดับไป
    ถ้าเรา(จิต)ยึดสุขอย่างเดียวก็กลับกลายเป็นทุกข์ได้อีกเช่นกัน
    ฉะนั้นสุข-ทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าจิตถูกอบรมมาให้ยึดอารมณ์เหล่านั้น(รู้ผิด)
    หรือจิตถูกอบรมมาให้ปล่อยวางอารมณ์เหล่านั้น(รู้ถูก)นะครับ

    คุณวิฯครับ ถ้าคุณเข้าใจว่าบังคับไม่ได้
    นั่นต้องหมายถึงว่าแม้แต่ชั่วขณะหนึ่งก็ยังไม่ได้นะครับ

    ส่วนที่ว่าบังคับได้ชั่วครั้งชั่วคราวนั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมครับ
    ผุ้ที่ฝึกอบรมมาดีพอควรแล้ว
    ย่อมต้องควบคุมบังคับจิต(ใช้สอยจิต)ให้ทำแต่สิ่งดีๆได้
    นานเท่าที่พลังความสามารถของผู้นั้นนะครับ

    ในเรื่องบางเรื่องคุณไม่สามารถบังคับจิตใจได้เลยต้องถูกสิ่งเหล่านั้นดึงดูดเข้าไปหา
    แต่ในบางคนนั้นเค้ามีสามารถในการสลัดได้ในทันทีทันใด
    หรืออาจต้องใช้เวลาบ้างเท่านั้นครับ

    ที่เราเพียรฝึกจิตกันอยู่ทุกวันนี้
    ก็เพื่อให้จิตมีพลังความ(บังคับ)สามารถในการทำความดี
    จนกระทั่งเป็นหน้าที่โดยไม่ต้องบังคับอีกนะครับ....
    (
    ถ้ามีเวลาช่วยอ่านที่ผมตอบคุณนิวรณ์และคุณขันธ์ด้วยนะครับ)

    ;aa24
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ดีครับ การอบรมและชำระจิตเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายครับ...

    ดีครับ วัตรปฏิบัติที่กล่าวมานั้น ถ้าพยายามทำได้ต่อเนื่อง
    เป็นสิ่งดีครับโดยเฉพาะการทำสัมมาสมาธิ
    ถ้าเราฝึกจนได้กรรมฐาน(ฐานที่ตั้งแห่งการงาน)แล้ว เราทำได้ทั้งวันครับ
    ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา คอยน้อมระลึกอยู่เสมอย่อมอยู่เป็นสุข

    ดีครับ เป็นการควบคุมกายและจิตให้เป็นคนมีระเบียบวินัยในตัวเองครับ

    ดีครับ คำว่าสัมมาสตินั้น นิยามไว้ชัดเจนว่าเป็นการตั้งสติในที่๔สถานครับ
    แสดงว่าคุณได้กรรมฐานแล้วใช่มั้ยครับ???
    แต่เท่าที่คุณเปรียบเทียบมายังไม่ใช่กรรมฐาน(ฐานที่ตั้งแห่งการงาน)
    เมื่อคุณยังต้องชำเลืองด้วยหางตาอยู่
    แสดงว่าจิตใจคุณขณะนั้นไม่ได้จดจ่ออยู่ที่ฐานนะครับ

    คุณลองพิจารณาดูดีๆสิครับ เกิดคุณชำเลืองไปเจอคนที่คุณประทับใจ
    แน่นอนครับจิตคุณต้องแว๊บออกไปอยู่กับสิ่งนั้น
    แต่ถ้าจิตใจคุณจดจ่ออยู่ที่ฐานตั้งของสติ(สัมมาสติ)
    คุณเพียงแต่รู้ว่ามีคนเดินผ่านไปมาเท่านั้น
    แต่ไม่รู้หรอกครับว่าเป็นใครบ้าง ถึงจะเป็นคนที่คุณประทับใจอยู่ก็ตาม...

    วิธีที่คุณพูดมานั้น เป็นการพยายามสลัดอารมณ์ต่างๆออกจากจิตนะครับ....

    ;aa24
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ค ค ค ครับ

    อบรมได้ ขอรับ แต่บังคับให้มันทำเลยนี่ มันยาก ต้อง บ่ม นานหน่อย

    ท ท ท ท ที นี้ ถ้า คำว่า "บังคับได้" ของพี่ภูติ มีเงื่อนเวลาปลายเปิด

    ต ต ต ต ตรง นี้ ก็ไม่มีอะไรขัดแย้งกันครับ

    ต ต ต แต่ ว่า ต้องขอเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง ถึงความนิยมในการใช้คำว่า
    บังคับ นั้น ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะรู้ในมุมที่ไม่มีเงื่อนเวลาเปิด คือ ถ้าบังคับ
    ก็หมายถึง เอาเดี๋ยวนี้

    ตัวอย่าง พระพาหิยะ นี่ ชี้ได้ว่า เงื่อนเวลาของพี่ภูติ ยาวนานมาก ข้ามพุทธันดร
    เลย เพราะ พระพาหิยะนั้นฝึกสติปัฏฐาน4 ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า
    แต่ไม่สำเร็จ ตายเสียก่อน เวลาผ่านไป 1 พุทธันดร โชคดีที่มีพรหมที่เคยฝึก
    ด้วยกันมานิมิตเตือนว่ามี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรากฏแล้ว จึงได้ดั้นด้นข้าม
    น้ำข้ามทะเลมาหา จึงได้ของดีเพียงได้ยินคำสั้นๆมาสกิดใจ ก็เห็นธรรม
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ ธรรมภูติ นั่นแหละ คุณกำลังคิด คุณกำลังนึกว่า ตกลงแล้วจิตบังคับบัญชาได้หรือไม่

    อันนี้เป็นเรื่องนักคิด ก็เช่นเดียวกับการตั้งคำุถามว่า ตกลง เราบังคับบัญชาแหล่งน้ำได้หรือไม่
    เราบังคับบัญชาลม ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ เราจะเอาลมมาใช้ได้หรือ

    นี่คือ นักคิด ไม่ใช่ สาวกแห่งพุทธะ เพราะตั้งคำุุถาม ไปในทำนองที่ผิดทาง

    ตั้งคำถามใหม่ เอาให้ตรงกว่านี้ เช่นว่า ใครที่บอกว่า จิตบังคับบัญชาไม่ได้ ก็ช่างเขา

    เราไม่ใช่นักคิด นักสรรหาคำพูด แต่เป็นนักปฏิบัติ เพราะเวลาผมปฏิบัติ มันจะเรียกว่า บังคับได้หรือไม่ได้ อันนี้ไม่สน สนแต่ว่า จะฝึกจิต ให้มันดี

    เอาอย่างนั้นแล้วกัน
     
  10. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    บังคับจิตให้เดินตามมรรค

    แล้วแก้จิตด้วยไตรลักษณ์
    พิจารณาว่าจิตนี้บังคับไม่ได้(เป็นอนัตตา)

    ทีนี้จิตจะบังคับได้หรือไม่
    ก็ไม่มีความจำเป็น
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    คุณวิฯครับ ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น(กิเลสเท่านั้นที่เกิดขึ้น) ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป(ทุกข์นั้นเป็นผล แต่ที่ดับนั้นเป็นเหตุ เมื่อเหตุดับ จึงไม่มีทุกข์ดับ)
    ส่วนสุขนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อทุกข์ดับไป(สุขเกิดเมื่อเหตุแห่งทุกข์ ดับ )
    ถ้าเรา(จิต)ยึดสุขอย่างเดียวก็กลับกลายเป็นทุกข์ได้อีกเช่นกัน
    ฉะนั้นสุข-ทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าจิตถูกอบรมมาให้ยึดอารมณ์เหล่านั้น(รู้ผิด) (สุขที่ท่านเข้าใจ และทุกข์นี้ ความหมายเดียวกัน เพราะเป็นทุกข์ล้วนๆ นอกจากนิพพานเรียกว่าสุขยิ่ง)
    หรือจิตถูกอบรมมาให้ปล่อยวางอารมณ์เหล่านั้น(รู้ถูก)นะครับ
    (จะรู้ถูก หรือรู้ผิด อยู่ที่กระบวนการอบรมน่ะครับว่าถูกต้องไหม)

    คุณวิฯครับ ถ้าคุณเข้าใจว่าบังคับไม่ได้
    นั่นต้องหมายถึงว่าแม้แต่ชั่วขณะหนึ่งก็ยังไม่ได้นะครับ (ถ้าอย่างนั้นผมคงเข้าใจไม่ตรงกับท่านธรรมภูต) แล้วท่านธรรมภูตว่าบังคับได้ไหม ??

    ส่วนที่ว่าบังคับได้ชั่วครั้งชั่วคราวนั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมครับ
    ผุ้ที่ฝึกอบรมมาดีพอควรแล้ว
    ย่อมต้องควบคุมบังคับจิต(ใช้สอยจิต)ให้ทำแต่สิ่งดีๆได้
    นานเท่าที่พลังความสามารถของผู้นั้นนะครับ (ฉนั้นก็เป็นการสะสมดีใช่ไหมครับ??)แต่จอมศาสดาสอนว่า ธรรมใดเป็นเหตุให้สะสม ไม่ใช่คำสอนของจอมศาสดา ...

    ในเรื่องบางเรื่องคุณไม่สามารถบังคับจิตใจได้เลยต้องถูกสิ่งเหล่านั้นดึงดูดเข้าไปหา
    แต่ในบางคนนั้นเค้ามีสามารถในการสลัดได้ในทันทีทันใด
    หรืออาจต้องใช้เวลาบ้างเท่านั้นครับ

    ที่เราเพียรฝึกจิตกันอยู่ทุกวันนี้
    ก็เพื่อให้จิตมีพลังความ(บังคับ)สามารถในการทำความดี(เมื่ออยู่ในความดี ก็จะตรงกับมรรค องค์ที่ 1)
    จนกระทั่งเป็นหน้าที่โดยไม่ต้องบังคับอีกนะครับ....
    (
    ถ้ามีเวลาช่วยอ่านที่ผมตอบคุณนิวรณ์และคุณขันธ์ด้วยนะครับ)
    ขอบคุณครับ
     
  12. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ท่านนุสวิด กล่าวได้ชอบนัก ผมจะน้อมไปเพื่อเห็นตาม โดยอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ และอาศัยนิพพาน (ฟัง ๆ ท่านมาอีกที) ^-^
     
  13. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    อรหัตตผล หรือ วิสุทธิญาณ มีเหตุจาก วิมุตติ
    วิมุตติ มีเหตุจาก วิราคะ
    วิราคะ มีเหตุจาก นิพพิทา
    นิพพิทา มีเหตุจาก ยถาภูตญาณทัสนะ
    ยถาภูตญาณทัสนะ มีเหตุจาก สมาธิ
    สมาธิ มีเหตุจาก สุข
    สุข มีเหตุจาก ปัสสัทธิ
    ปัสสัทธิ มีเหตุจาก ปีติ
    ปีติ มีเหตุจาก ปราโมทย์
    ปราโมทย์ มีเหตุจาก ศรัทธา

    เจริญธรรมเหล่านี้ให้มากเถิด...
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณนิฯครับ คำว่าบังคับบัญชา แปลว่า ควบคุมใช้สอยให้ทำตามคำสั่งนะครับ

    ได้หรือไม่ได้ผู้ควบคุมใช้สอยยอมรู้ดีกว่าใครอื่นนะครับ

    .................................

    ถ้าให้ได้เดี๋ยวนั้นเป็นการบังคับขืนใจซะมากกว่านะครับ...ปลายปิด


    ;aa24
     
  16. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    ตามรู้กาย ตามรู้จิต ทุกสิ่งไม่ใช่ของเรา เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป ทุกสิ่งทุกอย่างคงบังคับไม่ได้ ถ้าจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าจะดับก็คงต้องดับ
     
  17. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณขันธ์ครับ คุณเคยเข้าสู่สภาวะหยุดคิดมั้ยครับ???
    ใครที่บังคับบัญชาจิตใจของตนเองไม่ได้
    ก็ไม่มีใครช่วยได้อยู่แล้วจะช่างไม่ช่างไม่เกี่ยวกันครับ
    แต่ที่สำคัญถ้าเราไม่สามารถควบคุมจิตใจตนเองได้แล้วใครเล่าครับจะทำให้เรา???
    ตนนั่นแหละ เป็นที่พึ่งแห่งตน ใครไหนเล่าจะเป็นที่พึ่งได้(พุทธพจน์)

    สนแต่ว่า จะฝึกจิต ให้มันดี ต้องบังคับหรือเปล่าครับ หรือว่ามันดีเองโดยไม่ต้องฝึก???


    ;aa24
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณนันฯครับ ตรงลายเซ็นที่บอกว่าจงรู้จักที่จะรัก จงรู้จักที่จะให้
    มันเกิดขึ้นเองหรือคุณทำ(บังคับ)ให้มันเกิดครับ???
    พวกนักโทษผู้ร้าย คนชั่วเราก็ไม่ควรเอาไปลงโทษนะครับ???
    เดี่ยวก็กลับกลายเป็นคนดีเองใช่มั้ยครับ???


    ;aa24
     
  19. หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ

    หัตถ์เทพหมื่นวิญญาณ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +22
    คุณธรรมภูตครับ
    เราขอเรียกว่า สร้างเหตุใกล้ให้เกิด แทนคำว่า บังคับ ดีกว่าไหมครับ
    อาจเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192



    คุณวิฯครับ ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น(กิเลสเท่านั้นที่เกิดขึ้น) กิเลสเป็นทุกข์มั้ยครับ???

    ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป(ทุกข์นั้นเป็นผล แต่ที่ดับนั้นเป็นเหตุ เมื่อเหตุดับ จึงไม่มีทุกข์ดับ) เหตุมีไว้ให้ละนะครับ ไม่ใช่มีไว้ให้ดับ เมื่อละเหตุได้ทุกข์ก็ดับครับ

    ส่วนสุขนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อทุกข์ดับไป(สุขเกิดเมื่อเหตุแห่งทุกข์ ดับ )เมื่อละเหตุแห่งทุกข์ได้ ทุกข์จึงดับ เมื่อทุกข์ดับสิ่งที่ตามมาน่าจะเป็นสุขครับ

    ถ้าเรา(จิต)ยึดสุขอย่างเดียวก็กลับกลายเป็นทุกข์ได้อีกเช่นกัน
    ฉะนั้นสุข-ทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าจิตถูกอบรมมาให้ยึดอารมณ์เหล่านั้น(รู้ผิด) (สุขที่ท่านเข้าใจ และทุกข์นี้ ความหมายเดียวกัน เพราะเป็นทุกข์ล้วนๆ นอกจากนิพพานเรียกว่าสุขยิ่ง) ใช่ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้ที่ดับไป ทุกข์ล้วนๆมั้ยครับ???

    หรือจิตถูกอบรมมาให้ปล่อยวางอารมณ์เหล่านั้น(รู้ถูก)นะครับ
    (จะรู้ถูก หรือรู้ผิด อยู่ที่กระบวนการอบรมน่ะครับว่าถูกต้องไหม)
    รู้ถูกคือรู้อริยสัจจ๔ตามความเป็นจริงนะครับ อันนั้นมันเป็นการเข้าใจถูกหรือเข้าใจผิดครับ(ขึ้นกับการอบรม)

    คุณวิฯครับ ถ้าคุณเข้าใจว่าบังคับไม่ได้
    นั่นต้องหมายถึงว่าแม้แต่ชั่วขณะหนึ่งก็ยังไม่ได้นะครับ (ถ้าอย่างนั้นผมคงเข้าใจไม่ตรงกับท่านธรรมภูต) แล้วท่านธรรมภูตว่าบังคับได้ไหม ??
    ถ้าจิตบังคับไมได้ คุกมีเท่าไหร่ก็ไม่พอขังคนที่ไม่บังคับจิตใจตนเองครับ???

    ส่วนที่ว่าบังคับได้ชั่วครั้งชั่วคราวนั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกอบรมครับ
    ผุ้ที่ฝึกอบรมมาดีพอควรแล้ว
    ย่อมต้องควบคุมบังคับจิต(ใช้สอยจิต)ให้ทำแต่สิ่งดีๆได้
    นานเท่าที่พลังความสามารถของผู้นั้นนะครับ (ฉนั้นก็เป็นการสะสมดีใช่ไหมครับ??)แต่จอมศาสดาสอนว่า ธรรมใดเป็นเหตุให้สะสม ไม่ใช่คำสอนของจอมศาสดา ...
    การสะสมเป็นการติดดีในดี แต่การอบรมจิตให้ปล่อยวางเป็นการฝึกให้สลัดความยึดถือออกไปไม่สะสมนะครับ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับครับ

    ในเรื่องบางเรื่องคุณไม่สามารถบังคับจิตใจได้เลยต้องถูกสิ่งเหล่านั้นดึงดูดเข้าไปหา
    แต่ในบางคนนั้นเค้ามีสามารถในการสลัดได้ในทันทีทันใด
    หรืออาจต้องใช้เวลาบ้างเท่านั้นครับ

    ที่เราเพียรฝึกจิตกันอยู่ทุกวันนี้
    ก็เพื่อให้จิตมีพลังความ(บังคับ)สามารถในการทำความดี(เมื่ออยู่ในความดี ก็จะตรงกับมรรค องค์ที่ 1) มรรคองค์ที่๑จะเกิดขึ้นได้ยังไงถ้าไม่ฝึกฝนอบรมให้จิตรู้จักความสงบ
    จนกระทั่งเป็นหน้าที่โดยไม่ต้องบังคับอีกนะครับ....
    (
    ถ้ามีเวลาช่วยอ่านที่ผมตอบคุณนิวรณ์และคุณขันธ์ด้วยนะครับ)
    ขอบคุณครับ

    ไปละหมดเวลา


    ;aa24

     

แชร์หน้านี้

Loading...