แจกแผ่นยันต์หนุนดวงชะตาฟรี

สาธุๆๆ อนุโมทนาบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลนะคับ บุญรักษาคับ

 

กระทู้นี้ขอตั้งจิตอนุโมทนาบุญกับลูกศิษย์ที่ไปปฏิบัติธรรมเมื่อวันศุกร์เสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาที่วัดอัมพวันสิงห์บุรี ลูกศิษย์ที่ไปมีจำนวน5 ท่านด้วยกัน
1 คุณ อรนุช
2 dididada
3 คุณ เก๋
4 คุณ แก้ม
5 คุณโอต
ขออนุโมทนาในจิตที่ตั้งใจปฏิบัติด้วยความดีทั้งหมดและที่สละเวลาส่วนตัวไปปฏิบัติธรรมขอบุญกุศลที่เราทั้งหลายได้ทำมาแล้วจงส่งผลให้เราทั้งหลายประสบกับความสุขความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ห่างหายจากทุกข์ภัยใดทั้งสิ้นทั้งมวลด้วยอำนาจแห่งบุญนั้นอนุโมทนาสาธุ

 

สาธุ ขออนุโมทนา

 

สูตรการคิดเรื่องไฝปานขี้แมลงวัน
ให้เอา วันเดือน ปีเกิดมาบวกกัน แล้วเอา 3 คูณ 8หาร เหลือเศษเท่าใดให้ดูคำทำนายดังต่อไปนี้
เศษ 1 ถือว่าไม่มีไฝปานที่เป้นกาลกิณี ที่ไม่ดี ถึงแม้ตัวท่านจะมีก้ไม่ต้องไปแก้ไขอะไรเพราะไฝปานต่างนั้นไม่ส่งผลแรงอาถรรณ์ใดๆในตัวท่าน
เศษ 2 คำทำนายเหมือนข้อที่1
เศษ 3 คำทำนายเหมือนข้อที่1
เศษ 4 ถ้ามีไฝปานอยู่ในตัวจะส่งผลที่ทำให้ต้องระวังภัยเกี่ยวกับเรื่องชีวิตคู่ความรัก
เศษ 5 ถ้ามีอยู่ต้องระวังมีเรื่องราวกับผู้ใหญ่เจ้านายผู้บังคับบัญชา
เศษ 6 ถ้ามีอยู่ จะมีปัญหาในเรื่องคู่ครองการเงินและบุตรมาก
เศษ 7 ถ้ามีอยู่ทำอะไรไม่ค่อยดีเท่าไหร่ลุ่มๆดอนๆทำอะไรไม่สำเร็จตามที่หวังไว้เช่นทำกิจการก็มักจะขาดทุน
เศษ 0 ถ้ามีอยู่มักถูกใส่ความมักมีคนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
สูตรอันนี้เป้นของเฉพาะเพศชายนะครับ

 

สาธุ สาธุ

 

ต่ออีกครับอันนี้เป็นสูตรของเพศหญิง
ให้เอา วันเดือน ปีเกิด มาบวกกันแล้วเอา 3 คูณ เอา 8 หาร เหลือเศษเท่าไรให้ดูคำทำนายดังนี้
เศษ 1 ถ้ามีตำหนิอยู่บนใบหน้าชีวิตจะไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นักทำอะไรจะติดๆขัดซักเล็กน้อย
เศษ 2 ถ้ามีอยู่ตามใบหน้าใต้คางถึงลำคอวิถึชีวิตจะราบรื่นดี (ยกเว้นผู้ที่เกิดวันอังคารนะครับ)
เศษ 3 ไฝปานที่มีอยู่ไม่ส่งผลใดๆทั้งสิ้นครับไม่ต้องไปแก้ไขใดๆ
เศษ 4 5 6 7 และเศษ 0 ถ้ามีไฝปานอยู่ตั้งแต่เอวถึงหัวเข่า ชีวิตอาภัพครับ ระวังได้รับความชอกชำระกำใจ จะประสบกับอุปสรรคอยู่เสมอ บุตรบริวารมักนำความเดือดร้อนมาให้ สามีก้มักจะมีปัญหากันบ่อยๆ (อันนี้ให้ทำพิธีแก้นะครับอะไรๆจะได้ดีขึ้น)

 

เพิ่มเติมซักเล็กน้อยครับเผื่อมีบางท่านอาจแอบถามผมอยู่ในใจว่าตั้งวันเดือนปีเกิดอย่างไรในการคิด
ยกตัวอย่างครับ
วันอาทิตย์ คือ 1 จันทร์ คือ 2 อังคาร คือ 3 พุธ คือ 4 พฤหัส คือ 5 ศุกร์ คือ 6
เสาร์ คือ 7 ถ้าเกิดพุธ กลางคืนก้ใช้เลข 4 เหมือนกันครับ
ส่วนเดือนให้นับตามเดือนไทยครับ เช่น เดือนธันวาคม คือ 1 มกราคม คือ 2 ไปเรื่อยๆอย่างนี้ครับ
ปีก็ ขวด 1 ฉลู 2 ไปเรื่อยๆจนถึงปีกุน คือ 12 ครับ
ทีนี้สมมุติ ว่าเราจะหาของคนที่เกิดวันอาทิตย์ เดือน4 ปีมะแม 8
เราก้เอาวันเดือนปีมาบวกกัน ครับ อาทิตย์ 1 บวก

 

เอ้ามาต่อครับ อาทิตย 1 บวกเดือน 4 บวกปีมะแม 8 รวมแล้ว = 13
เมื่อได้= 13 เราก้นำ 3 มาคูณ ได้= 39 แล้วเราก้เอา 8 มาหาร จะได้= เศษ 7 เราก้ตามมาดู คำทำนายของ เศษ 7 ได้เลยครับ

 

เรียน อาจารย์คนวัด
ผมโอนเงินร่วมทำบุญแล้วน่ะครับ จำนวน 400.-บาท
รายละเอียดและที่อยู่จะ PM ให้ทราบครับ
ขอบพระคุณครับ

 

เมื่อได้วิชากันพอสมควรแล้วก็มาพูดถึงการทรงอารมณ์ในญาณ
การทำสมาธิ นั้นคือการเอาจิตไปตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งซึ่งมีอุบายวิธีในการเจริญภาวนาที่พระพุทธท่านทรงเมตตาสอนไว้ถึง 40 กองของกรรมฐาน
แต่มีหลายท่านที่ยังทำสมาธิกันไม่ค่อยได้เพราะว่ายังหาวิธีที่ทำล้างจริตอันเก่าที่มีมากไม่ได้ส่วนมากมาทำกันก้นั่งกันเลย จริงๆแล้วตามที่พระพุทธองค์ท่านทรงสอนท่านให้ทำดังต่อไปนี้
1 ให้หาจริตของตนให้เจอก่อน จริต หมายความว่าจิตที่ท่องเที่ยว หรืออามรณืที่เป้นนิสัยความเคยชินที่มีอยู่ในตัวมากที่สุด ซึ่งพระองค์ท่านได้จำแนกออกมีด้วยกันอยู่ ถึง
6 จริต ดังนี้
1 ราคะจริต พวกรักสวยรักงามชอบสวยชอบหล่อชอบของที่ปราณีตเป็นต้น
2 โทสะจริต เป็นพวกเจ้าอารมณ์ฉุนเฉียว แปรปรวนรวดเร็วโมโหง่าย
3 โมหะจริต เป็นพวกที่คิดเองไม่ค่อยเป้นไม่ค่อยได้ ไม่มีเหตุมีผล
4 ศรัทธาจริต เป็นพวกที่ชอบแสวงหาสิ่งที่ดีเข้าสู่ตนชอบพัฒนา เมื่อพบสิ่งที่ดีที่ถูกใจก้จะหลงไหลคลั่งไคล้มาก
5 ปัญญาจริต คือพวกที่รอบรู้สามารถหาเหตุและผลได้ทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ในความคิดเห็นของตน
6 วิตกจริต คือ พวกที่ขอบคิดมาคิดไปเดี๋ยวคิดเรื่องนี้เรื่องนั้นอยู่ตลอดมีความกังวลลังเลสงสัยอยู่เป้นประจำ
อันนี้ให้หาตนเองให้เจอว่าเรามีจริตประเภทไหนอยู่ในนิสัยและจิตใจมากที่สุด
2 เมื่อหาเจอแล้วว่าตนเองมีจริตอยู่ในข้อไหนมากที่สุดให้เลือกทำกรรมฐานตัวแก้ไขจริตดังนี้ก่อนเป้นอันแรกแล้วถึงทำกรรมฐานกองอื่นที่พึงพอใจต่อไป
ราคะจริต ใช้ อสุภะ อาหาเรปฎิกูลสัญญา ธาตุวัฏฐาน แก้ไข
โทสะจริต ใช้ อัปปมัญญาสมาธิ และกสิณ แก้ไข
โมหะจริต ใช้ อานาปานสติ แก้ไข
ศรัทธาจริต ใช้ อนุสติ อุปสมนุสติ แก้ไข
ปัญญาจริต ใช้ อุปสมานุสติ มหาสติปัฏฐานสี่ แก้ไข
วิตกจริต ใช้ มรณานุสติ แก้ไข (คิดมากไปทำไมอยู่ไม่นานเท่าก็ลาโลกไปแล้ว55)
เอาเดี๋ยวมาต่อนะครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

มาต่อกันครับ
3 เมื่อใช้กรรมฐานแก้ไขจริตแล้วให้วางอารมณ์ ออกจาก นิวรณ์ทั้งห้าอย่าง โดยใช้วิธีการคิดมองถึงเหตุและผลเสียของการปล่อยให้นิวรณ์ทั้งห้ามาคอยขวางกั้นจิตในการทำดีให้ออกเมื่อละได้แล้วจึงค่อยกำหนดสมาธิต่อไป จิตจะทรงตัวและเข้าถึงญาณที่ละเอียดและปราณีตได้ดีขึ้นกว่าเดิมบางท่านลองทำตามที่ผมบอกสามารถเข้าได้ถึงญาณสี่เลยทันทีก็มี
4 .ให้หาลูกประคำมือเส้นเล็กๆมาพกติดตัวหรือท่านที่สามารถกำหนดจิตได้ดีแล้วจะไม่มีก้ได้ แล้วให้หายใจเข้าออกช้าๆยาวซักสองสามครั้งเพื่อระบายลมหยาบออกมาแล้วจึงค่อบปรับจิตกำหนดลมหายใจเข้าออกต่อไป
5 การฝึกทรงอารมณ์ในญาณให้ทำดังนี้ ให้นับลมหายใจเข้าออกเป็นคู่ๆเช่น หายใจเข้านับหนึ่ง หายใจออกนับหนึ่ง หายใจได้หนึ่งคู่ให้นับลูกประคำไปหนึ่งลูก แล้วก้หายใจเข้านับสอง หายใจออกนับสอง แล้วก็นับลูกประคำไปอีกหนึ่งลูก และก้ทำต่อไป ในตอนแรกๆให้ทำแค่นับหนึ่งไปถึงห้าก็พอ แล้วเราลองสังเกตุดูว่าในขณะที่เรานับนั้นจิตเราฟุ้งซ่านไม่อยู่ในสมาธิตอนที่เรานับลมหายใจเข้าออกในคู่ที่เท่าไหร่ เช่น หายใจเข้าออกคู้หนึ่งผ่านไปพอมาถึงคู่ที่สองจิตมันฟุ้งซ่านแล้วให้เราตั้งต้นไปนับที่หนึ่งใหม่จนเราสามารถนับจากหนึ่งไปถึงห้าได้โดยที่จิตของเราไม่ออกจากสมาธิเลย นั่นก็แสดงว่าจิตเราเริ่มทรงอยู่ในอารมณืได้ในเวลาเท่าที่เรานับ วันต่อมาเราก็ค่อยเพิ่มการนับจากหนึ่งไปถึงสิบและเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ จนถึงหนึ่งถึงร้อย เมื่อเรามานั่งสมาธิใหม่เราจะทราบได้ทันทีจะรู้สึกว่าจิตเราสามารถที่จะทรงอยู่ในสมาธิได้นานบางคนนานเป็นชั่วโมงเลยก็มีที่เรียกกันว่าเข้าญาณนั่นแหละ ลองเอาเคล็ดลับนี้ไปฝึกกันดูนะครับ

 

ขอบพระคุณมากๆครับ พี่อ.คนวัด สิ่งที่พี่กล่าวมาแล้วนั้นโดนใจผมมากๆครับ และเป็นสิ่งที่ผมกำลังใคร่รู้ เพราะจิตของเรานั้น ควรจะต้องถูกฝึกฝนเพื่อให้มีสมาธิ สติ และปัญญา ไม่ให้เกิดความฟุ้งซ่านในจิตของเรา เหมือนอย่างที่พี่บอกผมว่าให้ตัดสิ่งที่มากระทบผัสสะทั้ง5 ให้ได้

 

สาธุอนุโมทนาบุญด้วยที่เกิดธรรมปิติขึ้นในใจ ชีวิตของคนเรานะครับเราหาความสุขทางร่างกายโดยอาศัยปัจจัยภายนอกกันมามากแล้วแต่ว่าความสุขทางจิตในภายเราไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเท่าไรนักชีวิตของคนเราจึงถูกกิเลสพาให้วิ่งหากันวุ่นวายไปหมดดังนั้นถึงเวลาที่เราต้องมาหาความสุขให้กับทางจิตและใจบ้างหรือที่เรียกว่าอาหารทางใจทางจิตนั่นเองชีวิตคนเราถึงจะพบกว่าความสุขที่แท้จริง สุขใดไม่สุขเท่าสุขที่เกิดจาการภาวนา
โมทนาสาธุกับการทำดีของคุณด้วยครับ

 

ได้ทําตามที่อาจารย์เเนะนําเเล้วครับ ม้วนปักไว้ที่กระถางธูปพระเเล้วครับ
ขอบพระคุณมากๆครับ
จากคําเเนะนําของอาจารย์จากที่ผมทํามาทุกวัน(สวดมนต์ นั่งสมาธิ) ผมจะทําต่อไปให้มากขึ้นครับ ขออนุโมธนาบุญกับอาจารย์ด้วยครับ^^

ปล.ตั้งตารอคาถายันต์ปลดหนี้อาจารย์ครับ ^^

 

คาถายันต์ปลดหนี้นะครับ
ตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วย พุทธัง ชีวิตังลาภะลาภัง ธะนังโภคัง เอหิมะมะ
ธัมมัง ชิวิตังลาภะลาภัง ธะนังโภคัง เอหิมะมะ
สังฆัง ชีวิตังลาภะลาภัง ธะนังโภคัง เอหิมะมะ
นะมามีมาเงินมากับคน คนมากับเงิน เงินไหลกอง ทองไหลมา นะชาลีติ พุทธังโหมพามา ธัมมังโหมพามา สังโหมพามา มะมะ มัง มีมังมะ นะอะอุ มามา
การงาน การเงิน การค้า การขาย มามา มะมะ พุทธังวิตะจิต ธัมมังวิตะจิต สังฆังวิตะจิต
จงพาเอาผุ้คนเงินทองโชคลาภ เกียรติยศ มาสู่ตัวข้าพเจ้าและครอบครัว บุญบันดาลจงเกิดทานอันประเสริฐที่ข้าพเจ้าทำจงส่งผลการงานการเงินการค้าการขาย โดยเร็วด้วยเทอญ
พุทธังประสิทธิ โชคลาภเงิน ทอง
ธัมมังประสิทธฺ โชคลาภเงินทอง
สังฆังประสิทธิ โชคลาภเงินทอง ภะวันตุเม
( ก่อนท่องให้อาราธนาถึงคุณพระรัตนตรัย บิดามารดา ครูอาจารย์ เทวดาเทพพรหมและบรมครูปู่ฤาษีทั้งร้อยแปด โดยเฉพาะบรมครูปู่ฤาษีทั้ง ห้าพระองค์ )

 

มีอาจารย์ท่านนึงครับได้โทรมาสอบถามถึงการทำเบี้ยแก้ ผมขออนุญาติตอบในกระทู้นี้นะครับจะได้เป็นวิทยาทานให้แก่ทุกท่านที่สนใจด้วยแต่ในเรื่องการหาปรอทป่าการดักปรอทนั้นผมขอตอบเป็นการส่วนตัวนะครับเอามาเปิดเผยได้ไม่มากครับ
เบี้ยแก้ คือชื่อหอยชนิดหนึ่งที่เกิดจากนำเค็ม หรือหอยทะเลประเภทที่มีลักษณะกาบเดี่ยวคล้ายเหมือนเบี้ยจั่น แต่เบี้ยจั่นเปลือกข้างนอกจะมีสีขาวทั้งหมดอาจจะมีสีเหลืองเจือปนอยู่บ้างแต่ไม่มาก สำหรับเบี้ยแก้นั้นเปลือกนออกจะมีสีนำตาลแก่เข้มอยู่ตามขอบด้านหน้าและด้านหลัง ตรงกลางเบี้ยแก้จะมีลักษณะนูนกลมรีคล้ายรูปไข่ มีจุดสีขาวในพื้นที่สีนำตาลอยู่ทั่ววงกลมรี เป็นมันงามระยิบระยับครับ ด้านหน้าตรงกลางของกาบเบี้ยแก้ มีปากเป้นร่องทางยาวๆ ที่ขอบร่องทั้งสองข้างมีหยักเป็นฟันเหมือนคมเลื่อย มีเนื้ออยู่ภายในเปลือกหอย ถ้าหอยเบี้ยแก้นี้ได้ตายลง นานวันเข้าเนื้อข้างในของหอยจะเน่าเปื่อยหลุดออกมาทั้งหมด จะทำให้ภายในเปลือกหอยเบี้ยแก้เป้นโพลงใช้สำหรับบรรจุสิ่งอาถรรพ์ได้ครับ
การบรรจุปรอทในเบียแก้ให้บรรจุหนัก 1 บาท หรือจะเกินกว่านี้ก็ได้ครับ แล้วให้เอาชันโรงใต้ดินอุดปิดปากรูของเบี้ยแก้ให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้ปรอทไหลออกมาได้ เมื่ออุดปิดชันโรงแล้วให้เอาเชือกถ้กหุ้มเบี้ยแก้ เอารักทาให้ทั่วเพื่อให้เกิดความหนาแน่นถาวรครับ แล้วจึงนำไปปลุกเสกอีกครั้ง
การบรรจุสิ่งอาถรรพ์ในเบี้ยแก้
เอาปรอทมาเทใส่ในเบี้ยอย่าให้เต็มมาก กะพอให้ปรอทสามารถกลิ้งไปมาอยู่ในเบี้ยแก้ได้เวลาเทใส่ต้องบริกรรมคาถาลงไปด้วย
คาถาเทปรอท
นะท่องฟ้า โมท่องดิน พุทท่องสายสินธาท่องสมุทร ยะท่องอากาศ นาสังสิโม สังสิโมนา
สิโมนาสัง นาโมสังสิฯ คาถานี้ท่องตอนเทปรอทลงในเบี้ย

 

ขั้นตอนต่อมาให้เอาชันโรงอุดปากรูเบี้ยแก้ ถ้าจะถามผมมาว่าชันโรงคืออะไรเอ้าตอบให้
ตัวชันโรงเป็นแมลงชนิดนึง ประเภทแมลงผึ้งขนาดเล็กมีลำตัวยาวไม่เกิน10 มิลฯชอบอยู่รวมกันเป้นฝูง แต่ในตัวจะไม่มีเหล็กใน รังจะทำจากขี้ผึ่งผสมดินและพวกยางไม้ต่างๆ ส่วนมากรังจะใหญ่ประมาณเท่าขนาดหอยโข่งเท่านั้น คนอิสานมักเรียกกันว่า ขี้สูด ที่เจขาเอาใช้ติดเต้าแคนเครื่องเป่านั่นแหละครับ ส่วนมากมักชอบทำรังตามพื้นดินครับมีมากตามที่เป้นหลุมหรือเป้นบ่อครับ หรือบางทีอาจทำรังอยู่บนจอมปลวกก็ได้ครับ อันนี้สามารถเอารังมาทำได้นะครับ
ส่วนที่ทำรังอยู่ตามต้นไม้หรือ ตามโคนต้นเสาสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อาจารย์ห้ามนำมาทำนะครับ เขาห้ามเด้อครับ ถือว่าไม่เป้นสิ่งอาถรรพ์ ป้องกันภัยไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีอาจารย์จะเอามาทำก็ได้นะครับแต่เบี้ยแก้ไม่ขลังนะ55
ลักษณะของชันโรงนั้นจะเป็นสีนำตาลไหม้หรือออกเป้นสีดำเหนียวๆครับคล้ายยางมะตอย
คาถาเสกอุดชันโรง
อะทามะสะ นะศัตรูมิอาจจะทำอันตรายได้ โมศัตรูมิอาจจะเข้ามาใกล้ พุทศัตรูหลีกหนีห่างไปพ้น ธาศัตรูเห็นหน้าพากันเกรงกลัวสยบทั่วปฐพี ยะศัตรูคิดร้ายพากันพินาศสิ้น นะโมนะมัด กำจัดออกไปให้พ้นเสนาฆลทล ศัตรูเข้าใกล้วินาศสันติ นะมะพะทะ นะอุด จะภะกะสะจะอุด นะมะอะอุนะอุด อุทธังอัทโธ โธอุดธังอัท ฯ อันนี้ท่องตอนอุดชันโรงนะครับ

 

ขั้นตอนต่อมาให้ลงอักขระในแผ่นโลหะปิดทับชันโรง
ลงอักขระในแผ่นโลหะ
๑ อุทธังอัทโธ นะมะพะทะ จะพะกะสะ นะมะอะอุ
อักขระคาถาหัวใจทั้ง4 บทนี้ให้เขียนลงในแผ่นโลหะนะครับแผ่นโลหะที่เป็นเงินหรือดีบุก ตะกั่ว อันนี้ดีที่สุดครับรับพลังได้ง่ายครับ ผมลองดุแล้วครับแต่เดี๋ยวนี้ขี้เกียจทำครับหามวลสารยาก อย่างไรอาจารย์ทำแล้วผมขอซักตัวเด้อครับ55
คาถาปิดแผ่นอักขระทับชันโรง
๑ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ คะเตสิ คะเตสิ กิงกะระนัง อะหังปิดตัง ชานามิ ชานามิ อิมังกายะพันทะนังอะทิถามิ ๑ คาถานี้เสกตอนเอาแผ่นอักขระทับชันโรง
ผมตอบแค่นี้พอนะครับ

 

เรียนสอบถามทุกท่านในกระทู้ของผมนี้ผมได้นำเอาเรื่องราวที่เป็นประโยชน์มาเล่าสู่กันฟังท่านมีความคิดเห้นอย่างไรกันบ้างครับอยากทราบความคิดเห็นครับหรืออยากให้หาข้อมูลเรื่องใดที่อยากจะทราบเป้นพิเศษก้ได้ครับ อย่างไรช่วยออกคะแนนเสียงให้ได้รับทราบด้วยครับ
ขอผู้ดุแลเว็ปและกระทู้ผมขอนำเรื่องราวต่างๆมาลงเพื่อให้ครบทุกรสชาตินะครับ