ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    ขอบคุณที่แนะนำท่านหัวหน้าน่ะค่ะ
    ท่านปราถนาดี ที่จะ " ขออำนวย อวยชัย "
    ให้ คุณ หล่อลากดิน มีความสุขกาย สบายใจน่ะค่ะ
    หายจากความเจ็บ .... น่ะค่ะ

    ท่านได้ " ให้ " ความปราถนาดี
    ท่านได้ " ให้ " ก่อนที่จะ " ขอ " เสมอ ค่ะ

    ขอบพระคุณที่เข้าใจ และ รับความปราถนาดี ๆ นี้ได้ค่ะ
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ในหลวงท่านคือพระพุทธเจ้าองค์ที่ 10 ในอนาคตกาล"

    [​IMG]

    ในสมัยที่หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ท่านยังดำรงสังขารอยู่ ทุกๆครั้งที่ประเทศไทยกำลังประสพสภาวะวิกฤติครั้งร้ายแรงใดๆ หลวงปู่สิมท่านจะให้เอาธงชาติมาแขวนคู่กับผ้ากาสาวพัตร์ ซึ่งเป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์เป็นสื่อสัญลักษณ์ พร้อมกับนำพระภิกษุสามเณรสวดมนต์แผ่เมตตา สยบบรรเทาเหตุร้ายและเคราะห์กรรมแห่งประชาชาติไทยให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ด้วยระยะเวลาอันยาวนานเป็นพิเศษทุกคราวไป เป็นที่น่าซาบซึ้งประทับใจในความกรุณาแห่งหลวงปู่สิมท่าน ที่มีต่อสัตว์โลกผู้ยากอย่างหาที่สุดมิได้เป็นที่ยิ่ง......

    และด้วยเหตุแห่งความเป็นพระขีณาสวเจ้า ผู้ทรงอริยญาณอันบริสุทธิ์ล่วงส่วนสามัญวิสัย หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร จึงหยั่งรู้อธิวาสนาและพระบารมีอันยิ่งใหญ่แห่งองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ผู้ทรงเป็นหลักบ้านหลักเมืองของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รองรับพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตราบเท่า 5,000 พระวัสสาพระองค์นี้เป็นอย่างดี ในฐานะที่ทรงเป็น"พระโพธิสัตว์" ผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่ ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็น"พระสุมังคลสัมมาสัมพุทธเจ้า" พระองค์ที่ 10 ต่อจากพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้าในที่สุดแห่งอนาคตวงศ์ ภายภาคหน้าไม่ผิดผัน หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโรนั้น จึงได้ถวายความ"จงรัก"และ"ภักดี"ในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้เป็นอย่างยิ่ง และได้น้อมถวายอริยกุศลแด่พระองค์ตามฐานานุฐานะแห่งพระคุณท่านตลอดมา มิได้ว่างเว้นสักวันเวลาเลยทีเดียว....

    (คัดลอกบางส่วนมาจากบทความเรื่อง ความ"จงรักภักดี"ด้วย"ชีวิต")

    ที่มา http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-071204131122160
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p-26840.jpg
      p-26840.jpg
      ขนาดไฟล์:
      145.1 KB
      เปิดดู:
      44
    • p-483.jpg
      p-483.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.7 KB
      เปิดดู:
      2,619
  3. krisdasri

    krisdasri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +759
    ;aa14
    ถ้าเป็นจริง ขอโมธนาสาธุครับ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผู้สร้างอนันตริยกรรมและอาจิณกรรม
    จะไม่ผ่านสำนักพระยายมราช

    [​IMG]

    เรื่อง.....ท่านลุง

    (คัดลอกมาจากหนังสือพ่อสอนลูก ของพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) หน้า ๔๑-๔๕ )

    ถ้าหากว่าก่อนจะตาย นึกถึงหรือเห็นสิ่งที่เป็นบุญกุศลอย่างใดอย่างหนึ่ง อะไรก็ได้ ไปสวรรค์ทันที...ที่ผ่าน สำนักพระยายม มีการสอบสวน คือว่าความชั่วความดีทั้งสองอย่างไม่หนักเกินไป ผ่านสำนักพระยายม มีการสอบสวน ถ้ากำลังใจหนักเกินไป ไม่ทำความดีมาก ลงดิ่งตรง(นรก)

    เคยสังเกตเวลาลงตรง มันลงเร็วจริงๆ ปรี๊ดถึง ลงแรงมาก ก็ไม่ผ่านสำนักพระยายม ก็เลยแวะไปถามท่าน "ทำไมไม่ผ่าน" ท่านบอก "คนที่มีบารมีสูงเขาไม่ผ่านสำนักพระยายมหรอก ลงขุมไปเลย" ถ้ากรรมหนักเกินไปเป็น อนันตริยกรรม ก็ดีหรือ อาจิณกรรม ก็ดีมีผลเหมือนกัน ลงนรก

    วันนั้นยังไม่ไป ก็บอกกับท่านว่า ถ้าเอาไปเมื่อไรบอกด้วยนะ เวลาที่ท่านนำไปมันเดินช้าๆ ที่นี้ ถ้าหากว่ากรรมที่เป็นอกุศลเขาไม่หนักเกินไป กรรมที่เป็นกุศลก็พอมี ถ้าจิตใจเขาไม่เกาะทั้งสองฝ่ายก็ไปสำนักพระยายมก่อน

    ก็อย่างที่อุทิศส่วนกุศล ท่านบอกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ปีนั้นเพิ่งเริ่มฝึกมโนมยิทธิเป็นปีแรกก็มีคนได้กันหลายคนท่านก็เลยมาบอกว่า "ท่านครับลูกหลานท่านก็คือลูกหลานผม" ท่านก็บอกตรงๆ ว่า ท่านนะเป็นพี่ชายมาหลายแสนชาติ "ลูกหลานท่านก็คือลูกหลานผม แต่ก็ไม่แน่นัก การบำเพ็ญการกุศล ถ้าเป็นฌานโลกีย์ ฌานโลกีย์นี่ยังเป็น อนิยตบุคคล คนที่ไม่แน่นอน จะไปสวรรค์ก็ได้ ไปนรกก็ได้ ยังมีสิทธิ์ มันก็ไม่แน่ใจก็อาจจะลืมกันได้

    แต่ว่าถ้าหากบังเอิญเรานึกถึงกุศลไม่ทัน ถ้าจำเป็นจะต้องไปสำนักของผม ถ้ากรรมบางอย่างมันปิดปากไว้ มันไม่ให้พูดเรื่องบุญ มันมีอยู่ เวลาอุทิศส่วนกุศลก็ขอให้บอกผมเป็นพยานไว้ ถ้าถามเรื่องบุญกุศล มันนึกไม่ออก ๓ เที่ยว ผมจะประกาศให้เขาทราบว่า เขาสั่งผมไว้ให้เป็นพยาน ก็ไล่ไปสวรรค์เลย" ท่านไม่ได้เล่นพวก แค่เป็นเมตตาเฉยๆ

    ถ้ากรรมหนักมันไม่ผ่าน ถ้าผ่านสำนักท่านท่านก็ช่วยได้ ถ้าไม่ผ่านเบ่งจัด ท่านช่วยยังไง ลงปรี๊ดเลย คนที่ไปสำนักพยายมแล้วตัดสินใจไปนรกจะมีคนนำไป ไปช้า ๆ มีท่านผู้มีเกียรติมาเชิญไป แต่ว่าพวกที่ลงตรงมันพุ่งแรงจริง ๆ พุ่งปรี๊ดถึงเลย เคยสังเกตคนที่เขาจะตาย ดูว่าเขาจะไปไหนแน่นะ ไปไหนก็ตามมันเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับเรา ถ้าทราบว่าคนนั้นป่วยเขาจะตาย นอน ๆ อยู่ในกุฏิมองดูไอ้บ้านนั้น ท่านทั้ง ๔ มาเชิญแล้วใช้ได้ ก็นั่งจ้อง ดีไม่ดีท่านมา วันนั้นยังไม่ไป ถ้าบอกกับท่านว่า ถ้าเอาไปเมื่อไหร่บอกด้วยนะ เวลาที่ท่านนำไปมันเดินช้า ๆ

    เวลาพวกที่ไปตรง ท่านทั้ง ๔ มาเหมือนกันแต่ไม่ได้คุมไป ท่านมาคุมเชิงเฉย ๆ เวลาออกพุ่งปรี๊ดเร็วมาก เหมือนจรวด ป๋อง ! อเวจีนี่ถนัด อเวจีนี่คนชอบจริง ๆ แหมมันน่าพิสมัย ไม่มีใครเถียงใคร ไม่มีใครทะเลาะใคร สงบสงัด เพราะปากมันขยับไม่ได้ หอกเสียบ มือไม้ก็ไม่มีทำร้ายกัน อย่าลืมว่า "อจรัง" ไม่ไหวตัว ขยับไม่ได้ ไปดูเขาขยับไม่ได้จริง ๆ

    เสื้อผ้าเขาใช้ชุดที่ทนมาก คือ ชุดวันเกิด นรกทุกขุมใส่ชุดวันเกิดทั้งนั้น ไม่มีใครอายใคร เพราะเวลาอายไม่มี มันทั้งเจ็บทั้งร้อน อายใครล่ะ อย่างเทวทัต ไปดูซิ ถ้าอเวจีนี่กระดูกมันแดงซ๊าดเหมือนเหล็กเขาเผาแดงโชนก็สลดใจเหมือนกัน เราไม่มีสิทธิ์จะเอาท่านขึ้นมาคุยได้ ขุมนั้นน่ะไม่มีสิทธิ์ คือว่า ถ้าขุมเล็ก ๆ อย่างยมโลกียนรก อันนี้ เราพอจะขอเวลาเขานิดหน่อยได้ เข้ามาคุยกันได้ อเวจีนี่ไม่มีเวลาขอได้เลย

    ยมโลกียนรกนี่ต้องบอกเทวดาที่ไปด้วย นายนิริยบาล นี่เขาไม่พูดกับเรา เดินไปคนเดียวเขาไม่พูดหรอก เฉย ทำเหมือนคนหูตึง ถ้าไปกับเทวดาชั้นจาตุมหาราช บอกขอพูดกับคนนี้ ท่านก็บอกนายนิริยบาล พอบอกปั๊บเครื่องพันธนาการก็หลุด ไปก็ดับ เขาก็คุมมา เปลี่ยนสภาพเลย ทีนี้มีผ้านุ่ง ผ้านุ่งมันคอยอยู่ปากขุม เวลาลงผ้านุ่งไม่ลงไปด้วย ขึ้นมาแล้วก็ถามความเป็นมาได้ เพราะว่าโลกที่โกหกมีอยู่โลกเดียวคือโลกมนุษย์ โลกอื่นเขาไม่โกหกพูดตามความเป็นจริงหมด

    ตัวอย่างก็มีพระอยู่องค์หนึ่ง อายุ ๗๒ ปี ท่านตายแล้วก็ไปเสวยสุขสมบัติที่ มหาตาปนรก คือขุมนรกที่ ๗ พอท่านจะไปก็มีเทวดาองค์หนึ่งมาบอกว่ามาจากสำนักพระยายม บอก "ท่านใหญ่นิมนต์ครับ" ถาม "ทำไม" บอก "มีพระลงไป" ถ้ามีพระลงไปส่วนมากจะมีเทวดามาตาม มาตามนี่ไม่ใช่ไปช่วยนะ ให้ไปดูตัวอย่าง พอไปถึงถาม "ลุงให้มาทำไม" บอก เพื่อนท่านมาอีกองค์หนึ่งแล้ว" ถาม "อยู่ไหน" บอก "ขุม ๗ " ก็เลยไปดูกันกำลังเสวยสุขอย่างแสนสาหัส

    ที่ขุมนี้มันมีดอกบัว จมไปแค่คอ เท้าก็จมไปแค่ข้อเท้า ดอกบัวคมจัดดิ้นไปดิ้นมามันก็กัดขาขาดกัดหัวขาดหล่นลงมาข้างล่างโดนหอกเสียบนายนิริยบาลเอาหอกแทงขึ้นไปใหม่ หัวขาดก็ขาดว๊าบเดียว เดี๋ยวก็มีใหม่ พอไปเห็นท่านเข้าก็ขอให้เขานำขึ้นมา เขาก็เอาขึ้นมาให้ พอขึ้นมาสภาพก็เป็นพระ รูปร่างหน้าตาดี

    ถามว่า "บวชพระทำไมจึงลงมาแบบนี้" ท่านอยู่จังหวัดไหนอย่างถามเลยนะ ท่านก็บอกตามความเป็นจริงว่า "ผมบวชมาจนอายุ ๗๒ ปี ก็ ๕๒ พรรษา ผมเป็นสมมุติสงฆ์จริงๆ แค่ ๒ พรรษา นอกนั้นหมดสภาพจากความเป็นพระ แล้วครองผ้าเหลืองอยู่เรื่อยๆ โทษถึงหนัก"

    ถามว่า "ทำไมไม่ลงอเวจี" ท่านบอกว่า "ตอนใกล้จะตาย ๒-๓ ปี ก็รู้สึกตัว แต่ว่าถอนตัวไม่ได้ ก็ขอขมาพระรัตนตรัย ของที่เคยขนไปขายก็ไม่ขายละ ทรัพย์สมบัติต่างๆที่ได้จากเงินไม่ดีนี่ก็มาทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ต่างๆ สังฆทานบ้าง ทำอะไรบ้าง จึงกระตุ้นให้มาอยู่ที่ขุม ๗"

    แต่ว่าองค์นี้มีสมณศักดิ์นะ มียศ สมัยนั้นมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอและเป็นพระราชาคณะ ไม่นานนักหรอก ไม่ใช่องค์ที่เล่าในเรื่อง "หลวงพ่อปาน" นะ โอ๊ยมีเยอะมาก ถ้าผ่านเข้าไปโดยมากท่านจะให้เทวดามาตาม สมัยนั้นยังไม่ลาจากพุทธภูมิ ไปดูตัวอย่างไงล่ะ แต่ไม่ได้สร้างความระยำแบบนั้นนะ

    อเวจี ตามอายุเขาก็ ๑ กัป แต่ไม่แน่นะ บางคนก็ต้องคูณ ๒ คูณ ๓ บางคนถึงคูณ ๔ ก็ลงโลกันต์ไปเลย เอาไปเก็บโลกันต์ก่อนแล้วจึงขึ้นมาคิดกันใหม่ ถ้าคูณด้วย ๔ นี่ลงโลกันต์ทุกคน ก็อนันตริยกรรมหนักๆ อย่างขโมยของสงฆ์บ่อยๆ ก็ลง ว่างๆ ไปขโมยกระเบื้องจากวัดมาสักแผ่น กระเบื้องหักๆ ก็ได้ ถ้า ๒-๓ แผ่นก็ไปแล้ว

    รู้ตัวก็ชำระหนี้สงฆ์ เสีย สรุปเลย สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ถ้าคนเดียวก็หมื่นเดียว ถ้าหลายคนก็ห้าหมื่น ความจริงก็ดีเหมือนกันแหละ ท่านช่วยแก้ให้ดีมาก เรื่องนี้เราเป็นทุกข์กันมาก เพราะเรื่องของสงฆ์นี่เราไม่ค่อยรู้กัน ที่นาไม่ปรากฏเป็นวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ที่เขาถวาย สิทธิของสงฆ์มีอยู่ แม้แต่หญ้าต้นเดียวก็ถือว่าขโมยของสงฆ์ ขโมยของสงฆ์มันมีตราเดียว คือ "อเวจี" ไม่มีผ่อน

    สมัยหลวงพ่อปานยังอยู่ ที่วัดมีไม้ไผ่มาก เวลานี้เขาโค่นหมด ถึงปีท่านก็ซื้อของสงฆ์ ท่านประชุมสงฆ์ มะม่วงก็ดี ขนุนก็ดี ฝรั่งก็ดี มะดันก็ดี ของที่มีอยู่ในวัด ไม้ไผ่ก็ดี หน่อไม้ก็ดี ท่านขอซื้อ สมัยนั้นท่านตีราคา ๘๐ บาท ถ้าอนุมัติขอให้สงฆ์ "สาธุ" พระสงฆ์สาธุก็ใช้ได้ ท่านก็ตั้งใจให้เป็นทานเมตตาคน แต่ว่าที่วัดท่าซุงฉันยังไม่ได้ซื้อนะ ถ้ามันเกินไปไม่ได้หรอก

    อย่างดอกไม้นี่ไม่เป็นไรแน่ ดอกไม้ที่ในวัด ถ้าเจ้าของเขาปลูกยังมีอยู่ ถ้าคนปลูกยังเป็นพระอยู่ ยังไม่สึกไปยังไม่ตาย เขามีสิทธิ์จะให้ใครก็ได้ ถ้าคนปลูกนั้นเขาสึกไปก็ดี เขาตายก็ดี ก็ตกเป็นของสงฆ์ แต่ว่าเรื่องนี้ฉันกันไว้แล้วเพราะว่าสงฆ์เป็นหนี้ฉันเยอะ

    อ้าว...ถ้าเงินสงฆ์ไม่พอ เงินญาติโยมที่ให้ฉัน ฉันก็ให้แทนสงฆ์เรื่อย สร้างวัด ฉันก็เลยเอาเงินส่วนนี้กันให้

    "ของหลวง" สบายมาก ของหลวงนี้เท่าของสงฆ์เลย เพราะอะไรรู้ไหม ภาษีอากรจากคนทั่วประเทศ สบายมาก ไม่ถึงโลกันต์ก็บุญตัวแล้ว

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?p=1298804

    [​IMG]

    สำหรับตอนที่สอง ที่ให้เทวดาโมทนา พระยายมราช ท่านบอกว่า
    “เวลาอุทิศส่วนกุศลน่ะ ขอบอกให้ผมเป็นพยานด้วย”
    พระยายมราช ท่านบอกว่า “ลูกหลานของท่าน ก็คือลูกหลานของผม และมันก็ไม่แน่นักหรอก บางทีไปอยู่สำนักผมมันอาจจะลืมก็ได้ เขาอาจจะนึกถึงบุญไม่ออก ถ้านึกถึงบุญไม่ออก ผมก็จะได้บอกว่า เขาสั่งให้เป็นพยาน มันเป็นธรรมดา ถ้าทำทั้งบุญทั้งบาป บางทีกรรมบางอย่างมันปกปิด เวลาถามเรื่องบุญนี่มันนึกไม่ออก ถ้านึกไม่ออก ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปล่อยให้ตกนรก หากว่าถาม 3 เที่ยว นึกไม่ออก ผมจะได้ประกาศว่า นี่เขาเคยบอกฉันไว้ เวลาทำบุญเขาบอกให้ฉันเป็นพยาน แล้วก็ประกาศกุศลนั้น ก็ได้ไปสวรรค์”

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=33385
    <!-- / message -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2008
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ขอเชิญร่วมทำบุญถวายพระไตรปิฎกไว้ในพระพุทธศาสนา ณ ปรียนันท์ธรรมสถาน

    [​IMG]
    ตู้พระไตรปิฎก(ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต)

    ด้วย "ปรียนันท์ธรรมสถาน" ได้ถูกสร้างขึ้นจากการร่วมแรงร่วมใจของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติและสมาชิกเว็บพลังจิตโดยทั่วไปที่มีจิตศรัทธา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมและใช้เป็นสถานที่พักพิงยามเกิดภัยพิบัติ ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ได้แก่ ศาลาพรหมยาน กุฏิพระ ที่พักของผู้ปฏิบัติธรรม ห้องน้ำและห้องส้วม และกำลังดำเนินการก่อสร้างพระเจดีย์ไว้บนยอดเขารัง ซึ่งถาวรวัตถุทั้งหลายเหล่านี้ ทั้งที่ได้สร้างขึ้นแล้วและที่จะสร้างต่อไปในวันข้างหน้า ได้มีการน้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    นอกจากถาวรวัตถุดังกล่าวแล้ว ยังได้มีการสร้างพระพุทธรูปที่สำคัญ คือ สมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ และ สมเด็จพระพุทธไตรโลกนาถ (พระพุทธรูปปางเปิดโลก) โดยได้อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ ศาลาพรหมยาน พร้อมกับ พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปัจจุบัน รูปหล่อหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และรูปหล่อหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    เพื่อให้ "ปรียนันท์ธรรมสถาน" เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่มีความพร้อมในเรื่องการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้มีดำริที่จะจัดซื้อ "พระไตรปิฎก" พร้อมตู้ และหนังสือธรรมะ ตลอดจนซีดีคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เพื่อใช้เป็นแหล่งอ้างอิงในการศึกษาและปฏิบัติธรรมต่อไป

    ผมจึงขอเชิญชวนท่านที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญในการจัดซื้อ "พระไตรปิฎก" พร้อมตู้ และหนังสือธรรมะ ตลอดจนซีดีคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด อันถือเป็นการสร้างกุศลในธรรมทาน โดยสามารถโอนเงินร่วมทำบุญได้ที่

    ชื่อบัญชี นายณัฐพัชร จันทรสูตร
    ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานใหม่ดอนเมือง เลขที่บัญชี 081 - 2 - 44912 - 3


    [​IMG]

    อนึ่ง งบประมาณในการจัดซื้อพระไตรปิฎกพร้อมตู้ และหนังสือธรรมะ ตลอดจนซีดีคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ประมาณการไว้ดังนี้

    1. พระไตรปิฎก ฉบับ มจร. จำนวน 1 ชุด (45 เล่ม) ราคา 15,000 บาท

    2. ตู้ใส่พระไตรปิฎก จำนวน 1 ตู้ ราคาประมาณ 5,000 - 7,000 บาท

    3. หนังสือธรรมะและซีดีคำสอนของหลวงพ่อ วงเงินประมาณ 5,000 บาท

    4. ตู้ใส่หนังสือและซีดีคำสอน ราคาประมาณ 10,000 บาท

    5. ค่าขนส่งจาก กทม. ไป นครสวรรค์ (ปรียนันท์ธรรมสถาน) ประมาณ 5,000 บาท

    รวมวงเงินทั้งสิ้นประมาณ 42,000 บาท

    จึงบอกบุญมายังท่านผู้มีจิตศรัทธาเพื่อร่วมทำบุญกันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    [​IMG]
    นายณัฐพัชร จันทรสูตร (ดร.ตั้ม)

    หมายเหตุ

    ยอดเงินทำบุญซื้อพระไตรปิฎกฯ ณ วันที่ 27/12/08 มีจำนวนเงิน 26,390.15 บาท ยังขาดปัจจัยอยู่อีกจำนวน 15,609.85 บาท

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมทำบุญซื้อพระไตรปิฎกและหนังสือคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ด้วยนะครับ

    tamsak<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1760831", true); </SCRIPT> ทีมงามสร้างพระไตรปิฏก

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=153461
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นักท่องเที่ยวนับหมื่นแห่ชมเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม

    [​IMG]

    เชียงราย 28 ธ.ค.-นักท่องเที่ยวนับหมื่นแห่ชมดอกไม้ในงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม โดยเฉพาะทุ่งดอกทิวลิบหลากสีได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ

    บรรยากาศบริเวณหาดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย ซึ่งมีการจัดงานเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 5 ค่ำคืนนี้คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนนับหมื่นคน พากันมาชมความงามของไม้ดอกเมืองหนาว ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น โดยเฉพาะทุ่งดอกทิวลิปที่ชูช่อสีสันสดสวย ดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวพากันถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

    สำหรับในส่วนของข่วงภูมิปัญญาล้านนา สล่าเชียงราย และวัฒนธรรมชนเผ่า ซึ่งเป็นการแสดงวิถีชีวิตของชาวชนเผ่าใน จ.เชียงราย ก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้กัน เนื่องจากมีการประกวดชุดชนเผ่าที่ต่างมีเอกลักษณ์และความงดงามเป็นของตนเอง อย่างไรก็ตาม เทศกาลเชียงรายดอกไม้งามจะมีไปถึงวันที่ 5 มกราคมปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-28 00:19:32

    ผู้เชี่ยวชาญยืนยันตำราพิชัยสงครามเป็นของจริง สำคัญถึงขั้นมรดกโลก

    [​IMG]

    เพชรบูรณ์ 28 ธ.ค.-ผู้เชี่ยวชาญด้านทหาร ยืนยันตำราพิชัยสงคราม 2 ฉบับซึ่งพบใน จ.เพชรบูรณ์ เป็นของจริง ที่ใช้ในการทำศึกสงครามแล้วหลายครั้ง และมีความสำคัญถึงขั้นเป็นมรดกโลก

    พ.อ.อำนาจ พุกศรีสุข ผู้เชี่ยวชาญวิธียุทธศาสตร์ทหารและการวางแผนทางทหาร วิทยาลัยการทัพบก และนายปริญญา สัญญะเดช นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธไทยโบราณ รวมกันตรวจสอบตำราพิชัยสงคราม 2 เล่ม ที่หอประวัติศาสตร์เพชรบุระ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ประมาณ 200 ปี เป็นสมุดข่อยไทยดำหรือสมุดข่อยลงฝุ่นสีดำ ในตำราประกอบด้วยภาพเขียนสีฝุ่นชอล์ก ส่วนอีกเล่มเขียนด้วยอักขระไทยช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ ลงสีหรดาล รูปเล่มมีสภาพสมบูรณ์ และมีรายละเอียด ผังและรูปการจัดทัพตั้งกำลังพลอย่างเป็นระบบ

    ซึ่งแม่ทัพจะนำติดตัวไปทำสงคราม และเชื่อว่าถูกนำไปใช้ในการทำศึกสงครามมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากมีรายละเอียดลักษณะชัยภูมิที่จะตั้งพลับพลาชัย ทัพชัย ทัพพยุหะกลางแปลง และตั้งกองทัพเพื่อเข้าโจมตี รวมถึงการนำทัพผ่านชัยภูมิต่าง ๆ ทั้งภูเขาและแม่น้ำ ตอนท้ายของเล่มยังมีการตั้งทัพในชัยภูมิ 8 สถาน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้เขียน แต่ยืนยันเป็นตำราพิชัยสงครามของจริงอย่างแน่นอน และมีความสำคัญถึงขั้นเป็นมรดกโลกได้.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-28 08:15:13

    สุราษฎร์ฯ ฝนตกอีกระลอก เตือน 149 จุด เสี่ยงภัยระวังน้ำป่า-ดินถล่ม

    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 28 ธ.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุดินถล่มทับเส้นทางสายสุราษฎร์ธานี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    เพชรบูรณ์ 28 ธ.ค.-ผู้เชี่ยวชาญด้านทหาร ยืนยันตำราพิชัยสงคราม 2 ฉบับซึ่งพบใน จ.เพชรบูรณ์ เป็นของจริง ที่ใช้ในการทำศึกสงครามแล้วหลายครั้ง และมีความสำคัญถึงขั้นเป็นมรดกโลก

    พ.อ.อำนาจ พุกศรีสุข ผู้เชี่ยวชาญวิธียุทธศาสตร์ทหารและการวางแผนทางทหาร วิทยาลัยการทัพบก และนายปริญญา สัญญะเดช นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธไทยโบราณ รวมกันตรวจสอบตำราพิชัยสงคราม 2 เล่ม ที่หอประวัติศาสตร์เพชรบุระ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ประมาณ 200 ปี เป็นสมุดข่อยไทยดำหรือสมุดข่อยลงฝุ่นสีดำ ในตำราประกอบด้วยภาพเขียนสีฝุ่นชอล์ก ส่วนอีกเล่มเขียนด้วยอักขระไทยช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ ลงสีหรดาล รูปเล่มมีสภาพสมบูรณ์ และมีรายละเอียด ผังและรูปการจัดทัพตั้งกำลังพลอย่างเป็นระบบ

    ซึ่งแม่ทัพจะนำติดตัวไปทำสงคราม และเชื่อว่าถูกนำไปใช้ในการทำศึกสงครามมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากมีรายละเอียดลักษณะชัยภูมิที่จะตั้งพลับพลาชัย ทัพชัย ทัพพยุหะกลางแปลง และตั้งกองทัพเพื่อเข้าโจมตี รวมถึงการนำทัพผ่านชัยภูมิต่าง ๆ ทั้งภูเขาและแม่น้ำ ตอนท้ายของเล่มยังมีการตั้งทัพในชัยภูมิ 8 สถาน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้เขียน แต่ยืนยันเป็นตำราพิชัยสงครามของจริงอย่างแน่นอน และมีความสำคัญถึงขั้นเป็นมรดกโลกได้.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-28 08:15:13


    ได้เวลาเอาออกมาใช้เพื่อประเทศ เสียแล้วกระมังขอรับ . . . .
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทะเลหมอกท่วมทะลักหังโจว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 ธันวาคม 2551 10:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ย่านธุรกิจในเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง ในช่วงเช้าวันที่ 25-26 ธ.ค. ปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกหนาทึบราว 500 เมตร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้น้อยครั้ง ส่งผลให้การจราจรบริเวณแถบที่เกิดหมอกนี้ประสบปัญหา ส่วนในพื้นที่อื่นๆ มีหมอกบ้างแต่ไม่รุนแรงนัก - ไชน่าเดลี่

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000152056
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โบราณว่าไว้แม้แต่เศรษฐียังมีโอกาสขาดไฟ(อะไรๆ มันก็ไม่แน่นอน)

    [​IMG]

    โอบามา ฉลองวันหยุดคริสต์มาสแบบไม่มีไฟฟ้าใช้

    โฮโนลูลู 28 ธ.ค.- นายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ฉลองวันหยุดคริสต์มาสโดยไม่มีไฟฟ้าใช้ นานถึง 12 ชั่วโมง ที่บ้านพักบนเกาะโออาฮู ของฮาวาย คาดว่า ฟ้าผ่าทำให้เกาะที่มีประชากรมากที่สุดของฮาวายแห่งนี้ ไม่มีไฟฟ้าใช้

    ชาวเกาะโออาฮู 900,000 คน และครอบครัวของ นายโอบามา ต้องอยู่ท่ามกลางความมืดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ครอบครัวนายโอบามา รู้สึกซาบซึ้งที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเสนอความช่วยเหลือ เช่น เครื่องปั่นไฟ แต่พวกเขาไม่ได้ใช้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้การอารักขาเป็นพิเศษ มีเพียงเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองดูแลบริเวณบ้านพักว่าที่ประธานาธิบดี และไม่ได้ย้ายพวกเขาไปยังฐานทัพทหารเรือที่อยู่ใกล้เคียง บ้านพัก นายโอบามา มีกระแสไฟฟ้าใช้อีกครั้งเมื่อเช้าวันเสาร์ คาดว่า ทั่วทั้งเกาะจะมีกระแสไฟฟ้าตามปกติในคืนวันเสาร์ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าดับแต่คาดว่าอาจเกิดจากฟ้าผ่าถูกสายส่งไฟฟ้า

    นายโอบามา พาครอบครัวไปพักผ่อนที่เกาะฮาวาย บ้านเกิดของเขาตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา มีกำหนดพักผ่อนเป็นเวลา 12 วัน ก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันที่ 20 มกราคมนี้.- สำนักข่าวไทย

    2008-12-28 10:27:32

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. สายน้ำผึ้ง

    สายน้ำผึ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +379
    เมื่อคืนฝันว่าเต่าขึ้นไปบนหลังคาบ้านแต่น้ำสามารถท่วมถึงหลังเต่า แล้วมีผู้พยากรณ์บอกว่าสึนามิกำลังจะมา
     
  11. ปัชฌา

    ปัชฌา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +1,428
    เวลาดูมันจะสั้นลงๆมาเรื่อย จะเร็วจะช้าคงห้ามไม่ให้เกิดคงไม่ได้ แต่ห้ามใจไม่ให้หวั่นไหวด้วยการปฏิบัติธรรม
     
  12. ปุณกะ

    ปุณกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +5,058
    (good)" ไม่ควรประมาทครับ"(good)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2008
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยอดเหยื่ออิสราเอลถล่มฉนวนกาซาเกินกว่า 271 คนแล้ว

    [​IMG]

    กาซา 28 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่แพทย์ปาเลสไตน์ กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์ 271 คนถูกสังหารจากเหตุอิสราเอลถล่มโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาซึ่งเป็นที่มั่นของกลุ่มหัวรุนแรงฮามาสช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

    แพทย์ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 271 คน และบาดเจ็บ 620 คน นับตั้งแต่วันเสาร์ที่อิสราเอลใช้เครื่องบินรบถล่มโจมตีที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธในดินแดนที่มีประชากรหนาแน่น โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 6 คนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศล่าสุดของอิสราเอลในวันอาทิตย์ .- สำนักข่าวไทย

    2008-12-28 15:21:41

    คณะมนตรีความมั่นคงเรียกร้องยุติความรุนแรงในฉนวนกาซา

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 28 ธ.ค.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    เมอรรี่คริสมาตส์แอนด์แฮปปี้นิวเยียร์ครับเพื่อนๆ(ล่วงหน้า)

    ด้วยอํานาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เพื่อนๆสมาชิกนับถือ ขอจงดลบันดาลให้เพื่อนๆสมาชิกมีความสุข สมหวัง สมความปรารถนา โชคดีวิ่งเข้าหาในปีหน้าฟ้าใหม่นี้ โชคดีครับทุกท่าน สุขสันต์ปีใหม่ 2552/2009




    [​IMG]

    [​IMG]
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    54 ข้อกรรมชั่วที่ผู้ใดประพฤติ
    จะถูกกวาดล้าง
    โดยคุณ bumrung

    [​IMG]
    เจ้าแม่กวนอิม

    54 ข้อกรรมชั่วที่ผู้ใดประพฤติ จะถูกกวาดล้าง ในช่วงมหันตภัยยุคสุดท้าย ผมนำมาจากโอวาทธรรม"คัมภีร์กัปป์สุดท้าย" ทั้งหมดมี 54 ข้อ ที่เป็นกรรมชั่ว จะต้องละ ที่ผมอ่านดูก็มีศีลห้ารวมอยู่ในนี้เป็นฐานด้วยและมีข้ออื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาอีก 49 ข้อ ซึ่งผมเห็นว่าดี เพื่อนำมาสำรวจตัวเองว่าเรายังมีสิ่งใดที่ไม่ดีอยู่บ้าง ที่ต้องละ จึงนำมาให้อ่านกัน ใครจะนำไปใช้ก็เชิญครับ
    1. พวกที่กล่าวโทษฟ้าดิน
    2. พวกที่ดำเนินชีวิตปฏิบัติตนผิดหลักฟ้า ฝืนหลักธรรม
    3. พวกที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่
    4. พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าเป็นอาชีพ ฆ่าเป็นกีฬา
    5. พวกที่ลักขโมย ปล้นชิง หยิบฉวยทรัพย์สมบัติ สิ่งของของผู้อื่น
    6. พวกที่โกหกมดเท็จ พูดจาหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ
    7. พวกที่ประพฤติผิดในกาม มักมากในตัณหาราคะ
    8. พวกที่ชอบดื่มสุรายาเมา สูบบุหรี่ หลงไหลสิ่งเสพติดของมอมเมาสติ
    9. พวกที่ไม่ยึดถือศีลธรรม จิตใจขาดหิริโอตัปปะ ไม่สำนึกละอายในการกระทำชั่ว ไม่เกรงกลัวบาปกรรม
    10. พวกที่ทำลายพระศาสนา บิดเบือนหลักธรรม หลอกลวงเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    11. พวกที่เหยียบย่ำทำลายคัมภีร์หลักธรรม อักษรหนังสือ
    12. พวกที่เหี้ยมโหด เข่นฆ่าเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ตน
    13. พวกที่ทำลายผู้อื่น เพื่อมุ่งผลกำไรและความสุขส่วนตน
    14. พวกที่ค้าขายใช้เล่ห์เหลี่ยม ขูดรีด คดโกงตาชั่ง
    15. พวกที่ค้าขายสินค้าปลอม ยาปลอม หลอกลวงชาวบ้าน
    16. พวกที่ใช้เล่ห์เหลี่ยม กลอุบายค้าขายเอาเปรียบคนอื่น
    17. พวกที่หาประโยชน์จากผู้อื่นด้วยการหลอกลวงต้มตุ๋น
    18. พวกที่พูดจาหยาบคาย ชอบทุบตีด่าว่าบุพพการี ปู่ย่าตายาย
    19. พวกที่ชอบพูดจาให้ร้ายป้ายสีผู้อื่น
    20. พวกที่อารมณ์ร้าย โมโหโกรธา ด่าว่าคนอื่นไปทั่ว
    21. พวกที่ชอบว่ากล่าว ตำหนิโทษผู้อื่น ด้วยใจอคติไม่เที่ยงธรรม
    22. พวกผู้ชายที่ไม่จริงใจต่อภรรยา พวกผู้หญิงที่ไม่เคารพซื่อสัตย์ต่อสามี
    23. พวกที่ชอบยุแหย่ทำลายชีวิตครอบครัวผู้อื่นให้แตกแยกล่มสลาย
    24. พวกพี่น้องที่ไม่รักใคร่ปรองดองกัน คอยแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์มรดก
    25. พวกที่วงศ์ตระกูลเดียวกัน แต่กลับทะเลาะเบาะแว้ง ไม่สามัคคีกลมเกลียว
    26. พวกที่ชอบยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่น ฟ้องร้องคดีความ
    27. พวกที่ไม่มีความจริงใจ เป็นคนลวงโลก สวมหน้ากากเข้าหากัน
    28. พวกหน้าเนื้อใจเสือ ภายนอกแต่งกายให้ดูดี แต่ภายในสกปรกโสมม
    29. พวกที่อาศัยอำนาจหน้าที่ใช้อิทธิพลในทางที่ผิด
    30. พวกที่กดขี่ราษฎร ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกินบ้านเมือง
    31. พวกที่ชักศึกเข้าบ้าน ล้างผลาญประเทศชาติ เพื่อผลประโยชน์ของตน
    32. พวกผู้ปกครองที่ไม่ปฎิบัติหน้าที่ของตนให้ดี กลับใช้อุบายวางแผนแก่งแย่งชิงกันเป็นใหญ่
    33. พวกที่ประจบสอพลอ พะเน้าพะนอ ยกย่องเชิดชูรับใช้คนเลว
    34. พวกที่คอยมุ่งร้าย รังแกคนทำงานที่ซื่อสัตย์สุจริต
    35. พวกคนพาลสันดานหยาบที่คอยก่อกวนให้ผู้อื่นเดือดร้อน อยู่ไม่เป็นสุข
    36. พวกคนรวยแต่ใจร้าย ข่มเหงคนยากไร้
    37. พวกที่ชอบยกย่องคนรวย เหยียบย่ำคนจน
    38. พวกที่เห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ไม่อยากช่วยเหลือ
    39. พวกที่พบเห็นคนอยู่ในฐานะลำบาก กลับเมินเฉย แล้งน้ำใจ
    40. พวกที่เห็นผู้อื่นร่ำรวย ก็เกิดความอิจฉาริษยา
    41. พวกที่เห็นผู้อื่นฐานะสูงส่งด้วยเกียรติยศ ก็เกิดความโกรธแค้นชิงชัง
    42. พวกที่มีจิตใจอาฆาตมาดร้าย ใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำ สาปแช่งผู้อื่น
    43. พวกที่ร่ำเรียนคาถาอาคมทำร้ายผู้อื่น ทำเสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอย
    44. พวกที่ชอบฝึกวิชามาร ทำพิธีใช้ภูตผีกลั่นแกล้ง ทำลายล้างผู้อื่น
    45. พวกที่ชอบเผาป่า ทำลายสุสาน บุกรุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    46. พวกที่กินทิ้งกินขว้าง ไม่รู้จักพระคุณข้าว น้ำอาหาร
    47. พวกที่ทุบตีเด็กเล็กไร้เดียงสาด้วยโทสะ ข่มเหง รังแกเด็กๆ ผู้ที่ไม่สามารถจะช่วยตนเองได้
    48. พวกที่อกตัญญูไม่รู้คุณคน
    49. พวกที่ประพฤติตน คิดแบบอย่างชี้นำสอนให้เด็กอนุชนรุ่นหลังกระทำตาม จนต้องกลายเป็นคนเลว ชีวิตไร้แก่นสาร
    50. พวกที่ถือตัวว่าอาวุโส สูงอายุ ใครว่ากล่าวไม่ได้ ทำผิดไม่ยอมรับ ตักเตือนไม่ยอมแก้ไข
    51. พวกอนุชนรุ่นหลัง ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ยึดถือหลักคุณสัมพันธ์
    52. พวกที่ไม่พิจารณาสำรวจดูกรรมดีกรรมชั่วของตนเอง
    53. พวกที่เคยตักเตือนให้ทำความดี กลับทุ่มเถียงดื้อด้านไม่ยอมฟัง
    54. พวกที่คอยเสาะแสวงหาแต่ช่องทางกระทำชั่ว อยู่ไม่ว่างเว้น

    ...........................................................................

    ที่มา http://palungjit.org/archive/i...-3906-p-8.html
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  16. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    สวัสดีปีใหม่ และขออนุโมทนาบุญพี่เกษมและสมาชิกสัมมาทิษฐิทุกท่านค่ะ
    ขอให้ ๒๕๕๒ เป็นปีเจริญธรรมนะคะ
     
  17. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,446
    จะสิ้นปีแล้ว
     
  18. ไม้บรรทัด

    ไม้บรรทัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +293
    ส่งท้ายปีเก่า ยินดีต้อนรับปีใหม่
    ขอให้ชาวเว็บพลังจิต คิดดี พูดดี ทำดี
    มีความเมตตา กรุณา เอื้ออาทร กันและกัน
    ขอให้ทุกท่าน มีจิตใจเป็นสุข อิ่มเอิบ รู้แจ้ง เทอญ
    ;aa36;aa14;aa12;aa25;aa13;aa24
     
  19. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    คงต้องขออนุญาตเขียนเรื่องนอกหัวข้อกระทู้นี้นะครับ สืบเนื่องจากที่ได้อ่านข้อความที่อ้างอิงแล้วก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
    เพราะโดยพื้นฐานส่วนตัวเชื่อมั่นในพระองค์มาโดยตลอดเรียกว่าภักดีอย่างสุดหัวใจก็ว่าได้ น้อมถวายชีวิตเป็นราชพลี แม้ว่าเราจะตัวเล็กคนหนึ่งก็ตาม แต่ก็คิดอย่างนั้นจริง ๆ
    เผอิญมีความฝันเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้วช่วงเช้ามืดมาเล่า(ซึ่งก็ผมเองก็ยังไม่ทราบความหมาย) ฝันว่า ได้กราบพระบาทท่าน ภาพต่อมาเห็นท่านอยู่ในบ่อซีเมนต์สำหรับเลี้ยงปลา(ในขณะที่ผมยืนอยู่นอกขอบบ่อมองดูท่านอยู่) เห็นท่านกำลังใช้ทัพพีผสมอาหารสัตว์ในกะลามังขนาดใหญ่ เสร็จแล้วท่านก็ยกกะลามังเอง พร้อมกับตักอาหารให้สัตว์ตามบ่อเล็ก บ่อน้อย จนหมด ขณะที่ท่านกำลังจะผสมอาหารอีกครั้ง ใจผมที่อยากช่วยท่านเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงได้ปีนขอบบ่อลงไปพร้อมกับหยิบทัพพีจากพระหัตถ์ท่านและลงมือผสมอาหารนั้นเอง เมื่อผสมเรียบร้อยก็ยกกะลามังเดินตามท่านให้ท่านตักอาหารใส่บ่อปลาขนาดเล็กจนเสร็จ จากนั้นท่านก็ตรัสว่าหิว อยากเสวยไข่เจียว ในขณะที่ข้าราชบริพารได้ทูลต่อท่านว่าอาหารที่ดีกว่านี้ก็มี ท่านก็ตรัสตอบว่า เราจะกินไข่เจียว ผมเองเป็นผู้เจียวไข่ให้ท่าน ขณะที่กำลังจะหาข้าวสวยอยู่นั้น (หายังไม่เจอ) ท่านก็เดินเข้ามา ผมนั่งคุกเข่ากับพื้น ท่านตรัสถามผมว่า "ต่อไปถ้าจะช่วยงานเราจะว่างหรือ.."(ท่านทรงแย้มพระสรวล) ผมเอง(ในฝัน) ดีใจอย่างบอกไม่ถูก จึงทูลท่านว่า "ท่านเรียกใช้ผมได้ทุกเวลาทุกนาที" ท่านจึงตรัสถามต่อว่า "แล้วแม่เธอล่ะใครจะดูแล" ผมก็ไม่รู้จะทูลยังไง เลยทูลว่า "ไม่เป็นไรครับ พ่อผมดูแลแม่ผมอยู่" ท่านแย้มพระสรวลแล้วท่านก็เสด็จไป แล้วผมก็ตื่นนอนเวลาขณะนั้นประมาณตีห้ากว่า ๆ (ตอนที่ตื่นผมยังคิดเลยว่าน่าจะทูลท่านว่าแม่ผมคงดีใจมากที่ได้ทำงานให้ท่านทำนองนั้น น่าจะดีกว่าตอบว่า"ไม่เป็นไรครับ พ่อผมดูแลแม่ผมอยู่") ก็เป็นความฝันที่ชัดเจน และมีการสื่อสารโต้ตอบอย่างมีรูปแบบครับ แปลกดี นำมาเล่าสู่กันฟังครับ
    อย่างที่บอกแต่ต้นว่าอาจนอกหัวเรื่องภัยพิบัติไปบ้าง แต่ต้องขออนุญาตครับ เห็นพี่เกษมนำข้อความข้างต้นมาลง เลย อดไม่ได้ที่จะขอแจมด้วยครับ : )
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]
    พระพุทธสิหิงค์

    สถานที่ประดิษฐาน วิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตำบลพรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

    อยากทราบตำนานพระพุทธสิหิงค์ครับ

    ตามพุทธพยากรณ์ กล่าวว่า เมื่อสัตว์โลกเสื่อมศีลธรรม รบราฆ่าฟันกันล้มตายลง เมื่อนั้นพระพุทธสิหิงค์จึงจะปรากฏขึ้นมา แล้วสัตว์โลกก็เลิกเข่นฆ่ากัน โลกก็สงบลงและเข้าสู่ยุคใหม่

    อยากทราบตำนานพระพุทธสิหิงค์ครับ ประวัติเป็นอย่างไร มีในพระไตรปิฏกหรือไม่ สิหิงคนิทานคืออะไร

    โดย สิริปโภ 5/1/2007 19:45

    ที่มา http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=8845

    ย้อนรอยโบราณสถานล้านนาอายุกว่า 600 ปี

    องก์ที่ 1 ตำนานเลื่องวัดลีเชียงพระ ณ นพบุรีศรีนครพิงค์

    พุทธศักราช 1887 มหานครนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ พญาผายู กษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์มังราย ได้โปรดให้สร้างสถูปขึ้นองค์หนึ่ง เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา กับให้สร้งวัด สร้างพระเจดีย์ และ กุฏิสงฆ์ ให้เป็นที่สักการะบูชาระลึกถึงพระบิดาเจ้า

    ชาวเวียงทั้งหลายจึงได้ ขนานนามวัดนี้ว่า "วัดลีเชียงพระ" อันหมายถึงวัดตลาดเมือง ด้วยเขตหน้าวัดแห่งนี้เคยเป็นกาด(ตลาด)มาก่อน

    องก์ที่ 2 อัศจรรย์พระพุทธสิหิงค์ลังกาประเทศ

    ตามตำนานสิหิงคนิทาน ได้จารึกไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 700 ปี กษัตริย์ในลังกาทวีป ใคร่จักได้เห็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้ปรึกษาเหล่าพระอรหันต์แนะให้ไปอัญเชิญพญานาคตนที่เคยเห็นพระพุทธองค์มาเนรมิตกายให้ประจักษ์

    พญานาคตนนั้นจึงได้เนรมิตกายเป็นพระพุทธองค์ ประทับนั่งสมาธิเหนือบัลลังก์ กษัตริย์ตรัสสั่งให้ช่างหลวงเร่งปั้นพระปฏิมาตามกายนิรมิตโดยพลัน ทว่าขณะที่ช่างปั้นอยู่นั้น กษัตริย์พระองค์หนึ่งบังเกิดความกริ้วที่ช่างไม่สามารถปั้นได้ดังพระทัย จึงฟาดธารพระกรไปโดนนิ้วของช่างหลวง ได้รับความเจ็บปวดเป็นยิ่งนัก

    ครั้นเมื่อถอดแบบสำริดออก ปรากฎที่นิ้วพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้า มีรอยชำรุดละม้ายรอยที่ ช่างหลวงถูกฟาดด้วยธารพระกร พระอรหันต์รูปหนึ่งจึงทำนายว่า ในภายหน้าจักมีพระราชาองค์หนึ่งซึ่งเลื่อมใสในพระพุทธรูปองค์นี้ จักได้ทำการบูรณซ่อมแซมให้รอยที่ปรากฏนี้หายสิ้น

    เสร็จการบูชาสมโภชแล้ว พระพุทธรูปองค์นั้นจึงได้รับการถวายนามว่า "พระพุทธสิหิงค์" เนื่องด้วยทรงมีพุทธลักษณะงามประดุจราชสีห์ เป็นที่เคารพสักการะของชาวลังกาสืบมา

    องก์ที่ 3 มรรคาสู่เชตขัณฑสีมา ล้านนาไทย

    จนกระทั่งถึงพุทธศักราช 1500 ตามตำนานล้านนา ชินกาลมาลีปกรณ์ กล่าวว่า พระเจ้าไสยรงค์กษัตริย์แห่งเมืองสุโขทัย ได้เสด็จไปยังนครศรีธรรมราชและได้ทรงทราบข่าวพระพุทธสิหิงค์ว่ามีพุทธลักษณะงามยิ่งนัก จึงโปรดให้เจ้าเมืองนครศรธรรมราชเป็นทูตไปเจรจากับทางลังกาทวีป ครั้นได้รับมาแล้ว จึงได้เสด็จไปรับพระพุทธสิหิงค์ถึงนครศรีธรรมราช อัญเชิญมาประดิษฐานยังสุโขทัยด้วยพระองค์เอง

    เมื่อกรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง สมเด็จพระรามาธิบดีแห่งกรุงศรีอยุธยา ก็เสด็จมาอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ไปยังอยุธยา

    ต่อมา พระยาญาณดิศ เจ้าผู้ครองเมืองชียงรายได้ทอดพระเนตร และบังเกิดจิตเลื่อมใส จึงมีโอกาสให้พระสุคันธมหาเถรเป็นทูตไปขอพระพุทธสิหิงค์ มาประดิษฐานยังเชียงราย และโปรดให้ซ่อมนิ้วพระหัตถ์ที่ชำรุดจนงดงามหาตำหนิมิได้ สมดังคำที่พระอรหันต์เจ้าเคยทำนายไว้

    สมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเชียงรายโดยทางชลมารค เมื่อกระบวนเรือมาถึงนพบุรีศรีนครพิงค์ในยามเช้า บังเกิแสงสว่างลุกโชติช่วงขึ้นจากองค์พระเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง

    ครั้นขบวนแห่อัญเชิญ เคลื่อนมาถึงวัดลีเชียงพระ รถบุษบกที่ประดิษฐานองค์พระเกิดติดขัดมิอาจเคลื่อนขบวนต่อไปได้ เจ้าแสนเมืองมาจึงได้อาราธนาพระพุทธสิหิงค์ไว้ ณ วัดลีเชียงพระ แห่งนั้น ประชาชนทั้งหลายจึงพร้อมใจกันเรียกนามวัดลีเชียงพระว่า "วัดพระสิงห์" แต่นั้นสืบมา

    กาลเวลาผ่านไปร่วมสองร้อยปี พระเจ้าดิลกนัดดาธิราช กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์มังราย ได้โปรดให้สร้างวิหารลายคำอันงามวิจิตร เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์นับแต่นั้นจวบจนปัจจุบันสมัย

    ด้วย พุทธานุภาพ และ แรงศรัทธาจากสาธุชนช่วยค้ำจุน วัดพระสิงห์จึงได้จำเริญการเป็นพระอารามหลวงชั้นหนึ่ง คือนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ จวบจนบัดนี้เป็นเวลา 700 ปี ฉะนี้แล

    วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2549 11:58:39 ​


    เรื่องเล่าจาก นายเม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_490754", true); </SCRIPT> (สมาชิกเว็บพลังจิต)

    คือว่าช่วง 2-3 ปีก่อนได้ไปฟังอาจารย์ผมคนหนึ่งสมัยมัธยม ท่านเล่าให้ฟังว่า แม่ของอาจารย์อายุ 80 กว่า เล่าให้อาจารย์ฟังว่า ตอนเด็กๆ (ตอน ร.5-6)หาบน้ำจากที่ท่าน้ำ ไปใช้ อาบ กิน ไปเจอฤาษีตนหนึ่ง แต่เดิมฤาษีนี้เป็นคนธรรมดาๆ แต่แกฝึกอะไรก็ไม่รู้ อยู่ดีๆแกก็ออกจากหมู่บ้านมาอาศัยอยู่คนเดียวกลางทุ่งนา ฤาษีตนนี้ก็เห็นแม่อาจารย์ ก็ทักบอกบอกว่า มึงแก่ตัวไปไม่ต้องมาหาบน้ำยังงี้อีกแล้ว เดี๋ยวน้ำกับไฟจะไปหามึงที่บ้านเอง แล้วก็บอกคำทำนายไว้ว่า สมัยมึง มังกรจะสะบัดหาง คนตายนับร้อย นับพัน ​

    ช่วงจอต่อกุนจะเกิดมิคสัญญี เลือดจะนองท้องช้าง หนูจะว่ายอยู่ในเลือด คนจะฆ่ากัน จะมีพระสิญิง(พระพุทธสิหิงค์) จะมาห้าม หากไม่ฟังจะมีหมู่ตั๊กแตนเหล็กมาฆ่าคนชั่ว ส่วนคนดีมีศีลธรรมจะรอด คนอธรรมจะตาย คนต่างชาติจะครองประเทศไทยอยู่ 7 วัน จากนั้นจะมีพระยาธรรมมิกราชจะครองบ้านครองเมือง​

    ตอนแรกผมฟังก็ไม่เชื่อ พอเกิดเหตุการณ์สึนามิ(มังกรจะสะบัดหาง คนตายนับร้อยนับพัน)ก็นึกขึ้นได้แต่ยังไม่สนิทใจ พอช่วง 31 ธ.ค.ปี 2549 จอต่อกุน เกิดเหตุระเบิด ผมยังเริ่มเกรงๆคำทำนาย แต่นึกขึ้นมาอีกที ช่วงเปลี่ยนปี สมัยก่อนมันช่วงสงกรานต์มิใช่รึ ถ้างั้นก็ยังไม่พ้นจอต่อกุนนะสิ เดือนเมษายน ก็ต้องดูกันต่อไปว่ามันจะมี เหตุการณ์ร้ายแรงรึเปล่า ​

    เคยศึกษาจากตำนานต่างๆ พบว่าคำทำนายนี้ มีแตกต่างอยู่ 2 ข้อคือ 1. มังกรสะบัดหาง 5. คนต่างชาติจะมาปกครอง 7 วัน

    เรื่องเหตุเกิดในเดือนเมษายนนั้น เคยคุยกับอาจารย์ประวัติศาสตร์ ในมหาวิทยาลัย ท่านบอกว่า ประเทศไทยนี้แปลก จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ มักจะเกิดเดือนเมษา อย่างตอนเสียกรุงศรีอยุธยา แล้วจากนั้นมันก็จะดี ​

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=71467
    <!-- / message -->​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • gp8_3.jpg
      gp8_3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.4 KB
      เปิดดู:
      1,860
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...