ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** นิทานสุวรรณภูมิ ****

    ประเทศโบราณ
    หวังครอบครองสุวรรณภูมิ ดินแดนอุดมสมบูรณ์ทรัพยากร....แต่ทำได้ยาก
    เพราะ ...
    ๑. ศาสนาพุทธ ...ที่สอนให้เมตตา ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น และ
    ๒. มีพระมหากษัตริย์ ... ผู้ทรงเมตตาธรรม แก่ประชาชน
    สถาบันทั้งสอง ... คือ ความมั่นคง
    เป็นสิ่งค้ำจุนความมั่นคง ประเทศจึงอยู่รอดปลอดภัยได้มานาน

    อดีต ... ประเทศโบราณ พยายามใช้กำลังอาวุธเข้ายึดครอง แต่ไม่เป็นผล
    ต่อมา.... จึงปรับ ยุทธศาสตร์รุกครอบครอง รูปแบบใหม่ คือ
    ...๑.... สร้างศรัทธาศาสนารูปแบบใหม่
    พยายามแทรกเรื่องการสะสมบุญ สะสมวัตถุ ความมั่งคั่ง และอำนาจ
    คนสุวรรณภูมิ จะหลงในวัตถุ ความอลังการ ความมั่งคั่งได้ง่าย
    จึงแทรกล้างสมอง เปลี่ยนแปลงระบบความคิดใหม่ ที่ไม่ใช่สัจจะธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รัสเซียทดลองยิงขีปนาวุธยุทธศาสตร์รุ่นใหม่จากเรือดำน้ำสำเร็จ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 กันยายน 2551 06:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD vAlign=top width=300 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือดำน้ำของรัสเซียขณะประจำฐานกองเรือทางตอนเหนือ (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – รัสเซียประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธยุทธศาสตร์จากเรือดำน้ำเมื่อวันพฤหัสบดี (18) นับเป็นการทดลองยิงขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์รุ่นใหม่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับระบบโล่ต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดของรัฐบาลหมีขาว

    กองทัพเรือรัสเซีย กล่าวในแถลงการณ์ว่า กองทัพเรือประสบความสำเร็จในการยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า บูลาวา จากทะเลขาวไปยังฐานทดสอบขีปนาวุธคูรา บนคาบสมุทรกัมชัตกาในตะวันออกไกลของรัสเซีย โดยขีปนาวุธตกลงที่เป้าหมายซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้

    ขีปนาวุธบูลาวา ซึ่งแถลงการณ์ระบุว่าถูกยิงจากเรือดำน้ำนิวเคลียร์ดมิทรี ดอนสกอย บริเวณนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย สามารถบรรจุหัวรบนิวเคลียร์ได้มากกว่า 10 ลูกขึ้นไป

    การทดลองครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจของรัฐบาลกรุงมอสโกที่มีต่อแผนติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ ในสาธารณรัฐเช็ก และโปแลนด์ และมีขึ้น 3 สัปดาห์หลังจากรัสเซียได้ทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปโทโพล อาร์เอส-12 เอ็ม ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับระบบโล่ต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ เช่นกัน

    นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมารัสเซียได้พัฒนาระบบขีปนาวุธขึ้นเพื่อรับมือกับระบบโล่ต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นความพยายามในการทำลายโครงการนิวเคลียร์ของรัสเซีย ขณะที่สหรัฐฯ ยืนกรานว่าระบบดังกล่าวไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะต้านรัสเซียได้ แต่เป็นระบบที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับ “รัฐอันธพาล” อย่างอิหร่าน

    ทั้งนี้รัสเซียประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธบูลาวาครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2005 ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่มีพิสัยในการทำลายล้างไกลถึง 8,000 กิโลเมตร และพัฒนามาจากขีปนาวุธโทโพล-เอ็ม ซึ่งถูกออกแบบมาให้ยิงจากเรือดำน้ำขีปนาวุธพลังงานนิวเคลียร์ชั้นบอเรของรัสเซีย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    โลกุตตระธรรม...
    ให้สติว่า.... "ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด"

    ถ้าพระพุทธเจ้าอยู่...คงให้เราเดินสายกลาง
    หยุดนิ่ง....มองอยู่เหนือปัญหา
    ก็จะรู้เหตุ รู้พ้น...รู้ทางรอดพ้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    คนที่ยังหลงความเชื่อ ความเห็น...
    เขาจะไม่เข้าใจ ความหมายของ "สัจจะธรรม"

    ถ้าเขาพบหลักสัจจะธรรม ...
    เขาจะไม่อยาก...ไปยุ่งการกระทำที่ส่งผลเบียดเบียนผู้อื่น อีกเลย
    เพราะ....มันจะย้อนกลับมา ถึงตัวเขาเองภายหลัง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ความหวังอันสูงสุด ****

    ท่านที่...อยากเป็น ประธานาธิบดี
    คงลำบาก เพราะท่านสร้างกรรมมามาก
    คนที่โกรธแค้นท่านมีมาก
    กรรมของท่าน กำลังมา เขาจะมาทวง
    ถ้าท่านไม่มีสัจจะ ทั้งกาย วาจา ใจ...ก็ไม่มีใครช่วยท่านได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๑
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ผู้ทำลายธรรม ****

    ถึง ท่านผู้ที่กำลังดำเนินการทำลายศาสนาพุทธ ทุกท่าน
    การพยายามสอดแทรก ความเชื่อ ความเห็น ...ที่ไม่ใช่ "สัจจะธรรม"
    คงส่งผลประโยชน์ต่อท่านในระดับหนึ่ง
    แต่ต่อไปชีวิตของท่านจะวิบัติ ด้วยผลการกระทำที่ท่านได้ทำไปแล้ว

    ขอให้ท่านยุติการกระทำเสีย และรีบค้นคว้าแก่นสารใน "หลักสัจจะธรรม"
    เพราะ ทุกวินาทีที่ท่านได้กระทำไป
    การกระทำเหล่านั้น จะไม่สูญสลายไหน
    แต่จะติดตัวท่านไป ตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์
    และ จะต้องมีผลตอบแทนแก่ท่าน แน่นอน

    ขอให้ท่านขอขมาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในความผิดพลาดทีทำไปแล้ว
    และ ถวายสัจจะว่า ไม่ทำลายศาสนา ตลอดชีวิต

    เวลาของท่านเหลือไม่มากนัก
    ขอให้ทำความดีทุกวันด้วยสัจจะ เพื่อไว้ใช้ในวันที่กรรมมาถึงตัว

    ถ้าท่านไม่รับความปรารถนาดีนี้
    ก็ไม่มีใครช่วยท่านได้ เพราะท่านยังไม่ช่วยตนเองเลย

    ธรรมต่อไปนี้ พระพุทธเจ้าโปรดผู้ทำลายธรรม

    *** พร จัตตุกะเทวรูป บทปราบผู้ทำลายธรรม ****

    จัตติมาสิกกา
    อุปัททิวะหา พรหมมะจัตตุกะ สัญญะโภคคะตุเมสา มันทิทะรังมะสะ
    สันทะตุมังสา จะตุกะ โทรมมนัสอุปาทา มันทิกะ อนุวะสา ไพนะตุมังสา จัตตุกะ บัททิยา
    โสวะจัตตา พรหมมะสิขขา ตุมังสิขขา พรหมมะจริยัง ตุมังมะตะ จัตตุกะ เสมหะพันชนัง
    วิสังเว โชตติเรทา อะวะเสคุมหา ตุมามะตะ สัญญะโภคคะ สุนันจะจะตุมา เสวะตุมังสา
    บันทะบุรุษ อุลุวะจัตตุมัสสา พรหมมะจริยามา เสมมะหา สุขขาอุปาทา สุชะนะจิตตัง
    ตุมามะตะ บัททิยามามามะ เสมวะตุตะ ขันธิยามา บัททะตา สมณะศึกษา จัตตุปาทา
    เสวะศึกษา อุลุนจะเทวา สุขขา จัตติมาติราชา พรหมมะจริยา ตุเมตุ อุลุวะสัทฐา สมณะจิตตา
    อุเบกคะจัตตุกะ พรหมมานะสา เสกะทะรา อุปายะสุขขา หันตะนามา สุขเขทินยา สุชะนะจิตตา
    จัตตุกะ ตุมะมะสัน สุนันทะจะ อุลุนวะจะ กัตตะปะตุมะตัง เสมมะจะคิพวะหัง โสทิทะรัง
    จัตตุกัง ตุมังวะสัง วันทะนะจะ ตุมะวิกัตกะตัง ตุมังวะสัง โสทิทะรัง จัตตุกัง โห ตุ ฯ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๑
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในปี 2551 บ้าง

    มีคำถามที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในปี 2551หลั่งไหลเข้ามาหาผู้เขียนค่อนข้างมาก หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 อันเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น ขยับตัว และซ้อนเกยกันบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศไทยประมาณ 400 กิโลเมตร มีอัตราการสั่นไหว 9 ริกเตอร์ เป็นเหตุให้ประเทศไทยได้รับความสูญเสีย โดยได้คร่าชีวิตผู้คนที่พักอยู่อาศัย และมาท่องเที่ยวใน 6 จังหวัดริมฝั่งทะเลอันดามัน โดยพบศากศพมากกว่า 5,000 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 10,000 คน และยังสูญหายอีกมากกว่า 3,000 คน โดยมีผู้คนของประเทศต่างๆอีกหลายประเทศ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล เมื่อนับจำนวนซากศพผู้ที่เสียชีวิตในคราวเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งนี้ ก็มีจำนวนมากกว่า 220,000 ศพ ทั้งนี้เนื่องจากในปี 2534 ผู้เขียนเคยเขียนเตือนเกี่ยวกับ คลื่นยักษ์ซูนามิ ที่จะเกิดขึ้นโดยมีผลกระทบต่อประเทศไทย ( คำที่ถูกต้องในปัจจุบัน เรียกว่าสึนามิ) และได้เขียนบทความอีกครั้งในต้นปี2539 รวมทั้งผู้เขียนได้เคยออกรายการให้สัมภาษณ์คุณสุทธิชัย หยุ่น ที่ itv 2 เสาร์ติดกันในรายการ “ น้ำท่วมโลก ”ในปลายปี 2539 ซึ่งมีผู้เคยอ่านบทความ ในปี 2534 แจ้งว่าผู้เขียนเคยเขียนเตือนให้ระวังซูนามิที่จะเกิดในปี 2547 , 2551 หรือ 2560 ในประเทศไทยมาก่อนแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปลายปี 2547 นี้ หากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะ

    เหตุการณ์ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า “ อภิมหามหันตวิปโยคสุดแสนโศกสลด” ทั้งนี้ เพราะจะมีผู้คนเสียชีวิตมากกว่าเหตุการณ์ช่วงปลายปี 2547 ประมาณ 1,000 เท่า หรือถ้าจะพูดให้ชัดมากขึ้นคือ มีคนตายมากกว่าเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกของช่วงปลายปี 2547 นี้ถึง 1,000 เท่าทีเดียวเหตุการณ์อะไรเล่า ที่ทำให้มีคนตายประมาณ 220 ล้านคน ในปี 2551 (ปลายปี 2547 เหตุจากคลื่นสึนามิได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายประเทศรวมกัน มากกว่า 220,000 คน) เหตุการณ์ในปี 2551 หรือ ปี 2560 มิได้มา


    จากเหตุการณ์ใดเหตุการณ์เดียว แต่มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในปีเดียว คือปี 2551 หรือ ปี 2560 ตลอดทั้งปี เสมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกถูกถล่มด้วยพระราหู ทั้งนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เปลือกโลกหลายแผ่นมีการ ขยับเคลื่อนตัว และเกยทับกัน (การเกยทับกันเพียงเล็กน้อยของชั้นเปลือกโลก บริเวณเหนือเกาะสุมาตราเพียงจุดเดียว เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นเหตุให้เกิดการไหวของแผ่นดินถึง 9 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์วิ่งไปถึงชายฝั่งอัฟริกา ซึ่งมีระยะห่างกันหลายพันกิโลเมตรได้) ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะมีการเกยทับกันทั้งในบริเวณใต้ทะเลลึก และบริเวณที่เป็นพื้นแผ่นดินในหลายทวีป ความรุนแรงมีขนาดตั้งแต่ 9.5 ริกเตอร์ขึ้นไป (ปกติถ้ามีการไหวของแผ่นดินเพียง 6.5 ริกเตอร์ ก็เป็นเหตุให้อาคารบ้านเรือน ตึกรามอาคารบ้านช่อง ถนนหนทางถล่มทลาย สามารถสร้างความเสียหายได้แล้ว แต่ถ้าเกิดการไหวของเปลือกโลกบริเวณใต้ทะเลลึก ประมาณ 7.5 ริกเตอร์ จะเกิดคลื่นสึนามิ (คลื่นยักษ์) ซึ่งในปี 2551 หรือ ปี 2560 จะมีการเกิดแผ่นดินไหว ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีขนาด 9.5 ริกเตอร์ขึ้นไป)


    สำหรับในประเทศไทยเอง ผลกระทบจากการเคลื่อนตัวของชั้นเปลือกโลก
    ในปี 2551หรือ ปี 2560 นั้น จะเกิดบนพื้นแผ่นดินประมาณ 3 – 4 จุด ซึ่งในทะเลก็มีทั้งบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา และบริเวณใกล้เกาะบอร์เนีย และอีก 2 รอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งจะมีผลทำให้เขื่อนใหญ่ 2 เขื่อนแตก และ ตึกราม บ้านเรือน สะพานและถนนหนทางพังพินาศทลายลงเป็นจำนวนมาก สำหรับจังหวัดชายฝั่งทะเล ก็จะได้พบกับสึนามิ หรือคลื่นยักษ์อีกครั้ง ด้วยความรุนแรงของการเกยทับของแผ่นเปลือกโลกอีกครั้งด้วยความแรงมากกว่าเดิม คือ ขนาด9.5 ริกเตอร์ ขึ้นไป แม้ระบบเตือนภัยจะทำงานในอนาคต แต่ความเร็วของคลื่นสึนามิใช้ ความเร็วในทะเลประมาณ 500 กม./ ชั่วโมง

    นักวิชาการบางท่านบอกว่ามีความเร็วระหว่าง 600 – 800 กม./ ชั่วโมง ผู้คนจำนวนมากยังไม่ใส่ใจคำเตือน คนจำนวนมากหนีไม่รอดศพตายเป็นเบือ โผล่ให้เห็นในน้ำยิ่งกว่าดอกเห็ด แม้จะได้ทราบคำเตือน แต่ความประมาทของประชาชนที่ไม่ติดตามข่าวสารก็คงยากที่จะป้องกันความเสียหายชีวิตของผู้คนและทรัพย์สินที่อยู่ชายฝั่งทะเล ยกเว้นท่านต้องรน่ ให้อยู่หา่ งจากชายฝ่งั ทะเลให้มากหนอ่ ย โดยมีต้นไม้ใหญ่ เป็นกำแพงกั้น หรือภูเขาสูงบังไว้ ( ความจริงตามกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน บริเวณชายฝั่ง ทะเล บริเวณเกาะ บริเวณภูเขา จะต้องเป็นที่สาธารณะเท่านั้น จะไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้ แต่ด้วยความฉ้อฉล ฉ้อโกง ของบุคคลผู้มีความละโมบโลภมาก ร่วมกับข้าราชการที่มีหน้าที่ออกหลักฐานกรรมสิทธิ์ ( โฉนด) ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส. 1,2,3) ออกหนังสือแสดงสิทธิครอบครอง (ส.ค.) กลับกระทำละเมิดกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน ออกหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย จึงทำให้ข้าราชการ นักการเมืองและผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย ได้สิทธิ์ที่ผิดกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน กลายเป็นเจ้าของเกาะ เจ้าของภูเขาเจ้าของชายฝั่งทะเล ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินจริงๆนั้น ต้องเป็นที่สาธารณะ กลายเป็นสถานที่ส่วนบุคคล หากว่ากันตามกฎหมายทรัพย์สินจริงๆทุกสถานที่ดังกล่าวข้างต้น คือ ชายฝั่งทะเล

    บริเวณที่เป็นเกาะ บริเวณที่เป็นภูเขา เป็นสถานที่ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทรัพย์สิน) สิ่งสำคัญที่ทุกคนที่อยู่ริมฝั่งทะเลต้องรับทราบ คือ เมื่อใดมีเหตุการณ์ขึ้นลงของน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว ต้องรีบหนี 2 วิธี คือ วิ่งเรือออกสู่กลางทะเลลึก ถ้าขณะนั้นอยู่บนเรือ ในทะเล ห้ามกลับเข้าชายฝั่งทะเลเป็นอันขาด อีกวิธี คือให้วิ่ง หรือขับรถขึ้นที่สูงที่มีความมั่นคงแข็งแรงโดยเร็ว ซึ่งถ้ามีภูเขา ขึ้นเขาให้เร็วที่สุด ถ้ามีตึกที่มั่นคงแข็งแรงต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง ต้องอาศัยเป็นที่ยึดไว้ก่อน อาคารที่บอบบาง ที่ไม่มั่นคงแข็งแรงห้ามเข้าไปอาศัยในช่วงขณะนั้น เพราะตัวอาคารอาจพังทลายได้แม้จะขึ้นบนชั้นสูง แต่ถ้าฐานรากไม่ดี อาคารพังทลายลงมาได้ง่าย ผู้หนีไปอยู่ชั้นบนของอาคาร ก็ไม่รอด เช่นเดียวกัน ดังนั้น เมื่อใดที่อยู่บริเวณชายทะเลในปี 2551 หรือ ปี 2560 กรุณามองทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าก็มีส่วนช่วยให้อยู่รอดปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง
    กรณีที่พึงต้องระวังเพิ่มขึ้นก็คือ ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองโดยเฉพาะแม่น้ำสายใหญ่ๆ ทุกสาย เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำตาปี แม่น้ำโขง ฯลฯ ถ้ามีลักษณะ ขึ้นลงเร็วผิดปกติ ผิดธรรมชาติที่เคยมีเคยเป็น โปรดเตรียมการอพยพขนย้ายหาที่อยู่อาศัย พักพิงใหม่โดยเร็วและอีกเรื่องหนึ่ง โปรดศึกษาและสังเกตคำเตือนของคนโบราณที่ให้สังเกตดูลม ฟ้าอากาศ และอาการของสัตว์ต่างๆที่แสดงออกก่อนที่จะเกิดภยันตรายต่างๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ผู้เขียนไม่มีข้อมูลเพียงพอ จึงขอบอกกล่าวประชาสัมพันธ์ท่านผู้รู้ที่มีโอกาสอ่าน


    สารชมรมฯฉบับนี้ว่า “ ถ้าท่านทราบคำบอกเล่า หรือคำสอนสั่งของปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา คุณพ่อคุณแม่ หรือครูบาอาจารย์ พี่น้องลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย หรืออ่านพบ

    4 จากหนังสือใดๆ ที่บอกกล่าวในเรื่องดังกล่าว กรุณาช่วย E- mail แจ้งมาให้ผู้เขียนได้ทราบที่ mkrichti@ktb.co.th ด้วย จักขอบคุณยิ่ง หรือส่งทางโทรสารที่หมายเลข 0 – 2256 – 8320 ก็ได้ หรือส่งทางไปรษณีย์ที่ตู้ ปณ. 1234 นานา กรุงเทพฯ 10112 ซึ่งเป็นตู้ไปรษณีย์ของชมรมศาสนาและการกุศลได้เช่าไว้เป็นเวลา 3 ปี ( พศ. 2548 –2550 ) ด้วย ก็จักขอบคุณยิ่ง


    สัตว์มีประสาทสัมผัสบางเรื่องและหลายเรื่องดีกว่ามนุษย์ จากสัญชาติญาณจะทราบล่วงหน้าว่า ภัย หรือ ภยันตรายกำลังจะคืบคลานมาถึง ด้วยสัญชาติญาณเพื่อความอยู่รอด ก็จะกระเสือกกระสนหนีตายก่อน หรืออาจเกิดสิ่งผิดปกติบางประการที่แตกต่างกับความเป็นไปของธรรมชาติ เช่น ในเดือนพฤศจิกายน 2547 มีปลาวาฬ 165 ตัว มานอนตายเกยชายหาดของประเทศออสเตรเลีย พอเดือนถัดมา คือ เดือนธันวาคม 2547 ก็มีคลื่นสึนามิถล่มเมืองชายฝั่งทะเลอันดามันไปหลายประเทศ ซึ่งจะต้องย้อนกลับไปดูอดีต ทั้งนี้การนอน


    ตายเกยชายหาดของปลาน้ำลึก มีมาหลายครั้งหลายหน เพียงแต่ไม่มีผู้ใดโยง 2 เหตุการณ์ให้กลายเป็นเรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันเท่านั้น

    ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น นอกจากจะมีแผ่นดินไหวบนพื้นดิน และใต้ทะเลลึกแล้ว ปัญหาที่เกิดจากฝนตกหนัก โคลนถล่ม น้ำท่วม ไฟไหม้ พายุโซนร้อน ดีเปรสชั่นทอนาโด และเฮอริเคน ต่างก็มาเยี่ยมเยือนประเทศต่างๆ ไม่เพียงเท่านั้นบางประเทศแอบทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ระเบิดไฮโดรเจน อาวุธเชื้อโรคและอาวุธสารเคมี (เป็นปีที่มีการทดลองอาวุธร้ายแรงมากที่สุดในรอบพันปี) จนปรากฏความเปลี่ยนแปลงของพื้นเปลือกโลกหลายชิ้น ก่อให้เกิดแผ่นดินยุบ ธรณีสูบ เกาะแก่งสูญหาย แผ่นดินโผล่ขึ้นมาใหม่ และเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ไปทั่ว มีคนตายมากกว่า 220 ล้านคน แต่บางท่านว่าอาจถึง 1,000 ล้านคน (ผู้เขียนไม่ยืนยันตัวเลข เพราะไม่สนใจจะไปนับซากศพที่ตายเกลื่อนกลาด)


    ข่าวดี ขณะนี้ มีแนวโน้มว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดในปี 2551 (คศ. 2008) อาจ
    ขยับเขยื้อนเคลื่อนไปเกิดในปี 2560 (คศ. 2017) แต่ยังไม่มีผู้ใดกล้ายืนยันฟันธงประการสำคัญ คือ ต้องไม่ประมาท ถ้าเหตุการณ์เลวร้ายระดับ “ อภิมหามหันตวิปโยค

    5 สุดแสนโศกสลด ” ถ้าเกิดในปี 2551 โดยไม่เปลี่ยนกำหนดการล่ะ ท่านควรประพฤติปฎิบัติตนในปัจจุบันอย่างไร ?

    ผู้เขียนขออนุญาตนำผลการบันทึกของกรมอุตุนิยมวิทยา มาเรียนให้ท่านทราบว่า กรมอุตุนิยมวิทยามีบันทึกการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่วัดได้ในอดีตหลายจุด หลายจังหวัด เช่น
    - 17 ก.พ. 2518 มีแผ่นดินไหวที่บริเวณ อ. ท่าสองยาง จ. ตาก ขนาด 5.6 ริกเตอร์
    - 15 เม.ย. 2526 ” อ. ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ” 5.5 ”
    - 22 เม.ย. 2526 ” อ. ศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี ” 5.9 ”
    - 11 ก.ย. 2537 ” อ. พาน จ. เชียงราย ” 5.1 ”
    - 9 ธ.ค. 2538 ” อ. ร้องกวาง จ. แพร่ ” 5.1 ”
    - 21 ธ.ค. 2538 ” อ. พร้าว จ. เชียงใหม่ ” 5.2 ”
    - 22 ธ.ค. 2539 ” บริเวณพรมแดนไทย – ลาว ” 5.5 ”
    - 29 มิ.ย. 2542 ” บริเวณจังหวัดเชียงราย ” 5.6 ”
    - 15 ส.ค. 2542 ” บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ” 5.6 ”
    - 20 ม.ค. 2543 ” บริเวณจังหวัดน่าน, แพร่, พะเยา,เชียงราย ” 5.9 ”
    - 14 เม.ย. 2543 ” บริเวณจังหวัดสกลนคร ” 4.9 ”
    - 29 พ.ค. 2543 ” บริเวณ อ. สันกำแพง, อ.สันสันทรายจ. เชียงใหม่ ” 3.8 ”
    - 7 ส.ค. 2543 ” อ. พร้าว จ. เชียงใหม่ ” 3.0 ”


    มาตราริกเตอร์นั้นแบ่งออกเป็น 6 ระดับ คือ
    ขนาด 1.0 – 2.9 ริกเตอร์ จะเกิดการสั่นไหวเล็กน้อย ประชาชนรับความรู้สึกได้
    บางครั้งรู้สึกเวียนศีรษะ
    6 ขนาด 3.0 – 3.9 ริกเตอร์ ผู้อยู่ในอาคารจะรู้สึกสั่นไหวเหมือนมีรถไฟหรือ
    รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านข้างบ้านที่พักอาศัย
    ขนาด 4.0 – 4.9 ริกเตอร์ เกิดการสั่นไหวขนาดปานกลาง วัตถุที่แขวนไว้จะมีอาการแกว่งไกวไปมา
    ขนาด 5.0 – 5.9 ริกเตอร์ เกิดการสั่นไหวรุนแรง บริเวณกว้าง เครื่องใช้ไม้สอย และวัตถุสิ่งของเคลื่อนที่
    ขนาด 6.0 - 6.5 ริกเตอร์ เกิดการสั่นไวรุนแรงมาก อาคารบ้านเรือนจะเกิดความเสียหาย มีการพังทลาย
    ขนาด 7.0 ริกเตอร์ขึ้นไป จะเกิดความสั่นไหวรุนแรง อาคารสิ่งก่อสร้างบ้านเรือนที่
    อยู่อาศัย ถนนหนทาง สะพาน จะเกิดความเสียหายมาก แผ่นดินแตกแยก วัตถุที่อยู่บนพื้นจะถูกเหวี่ยงกระเด็นในอดีตประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา มีแผ่นดินไหวหลายครั้งที่ทำความเสียหายให้แก่ประเทศต่าง ๆ เช่น 20 ก.ค.2519 แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ ที่เมืองตังชาน มณฑลเหอเป่ยของจีน มีคนตาย 242,000 คน บาดเจ็บ 164,000 คน
    19 ก.ย. 2528 แผ่นดินไหวขนาด 8.1 ริกเตอร์ ที่ประเทศแม็กซิโก มีคนตาย
    มากกว่า 100,000 คน
    7 ธ.ค. 2531 แผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ ที่อาร์มาเนีย มีคนตายมากกว่า
    25,000 คน
    21 มิ.ย. 2533 แผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ ที่อิหร่าน มีคนตายมากกว่า
    40,000 คน
    30 ก.ย. 2536 แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ ที่อินเดีย มีคนตายประมาณ
    10,000 คน
    17 ม.ค. 2538 แผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ ที่โกเบ – โอซาก้า ญี่ปุ่น มีคนตายประมาณ 6,400 คน
    10 พ.ค. 2540 แผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ ที่ทางตะวันตกของอิหร่าน มีคน
    ตาย 16,130 คน บาดเจ็บ 37,120 คน
    4 ก.พ. 2541 แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ริกเตอร์ ที่อัฟกานิสถาน มีคนตาย
    ประมาณ 4,000 คน
    30 พ.ค. 2541 แผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ ที่อัฟกานิสถานเช่นเดิม มีคน
    ตายประมาณ 5,000 คน
    17 ส.ค. 2542 แผ่นดินไหวขนาด 7.4 ริกเตอร์ เกิดที่ตุรกี มีผู้เสียชีวิต 15,613
    คน บาดเจ็บประมาณ 25,000 คน
    26 ม.ค. 2544 แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ เกิดที่รัฐคุชราช อินเดีย มี
    ผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คน มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 160,000 คน
    25 ม.ค. 2545 แผ่นดินไหวขนาด 6.0 ริกเตอร์ เกิดที่อัฟกานิสถาน มี
    ผู้เสียชีวิตประมาณ 5,000 คน
    21 พ.ค. 2546 แผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริกเตอร์ เกิดที่เมืองแอลเจียร์ ประเทศ
    แอลจีเรีย มีผู้เสียชีวิตประมาณ 3,000 คน มีผู้บาดเจ็บประมาณ 10,000 คน
    26 ธ.ค. 2546 แผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ เกิดที่เมืองบาม ประเทศ
    อิหร่าน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 31,000 คน บาดเจ็บมากกว่า 18,000 คน
    ทั้งหมดนี้ คือตัวอย่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์เล็กๆ ที่เคยเกิดในอดีต เหตุการณ์ใหญ่ยังมาไม่ถึง จึงไม่อยากให้ท่านประมาทเหตุการณ์ต่างๆ ในปี2551
    บทส่งท้ายที่ขอให้ข้อมูลแก่ท่านผู้อ่านเพิ่มอีกนิด คือ ได้รับทราบข้อมูลจาก
    ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงของโลก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่า มีการเคลื่อนที่ของพิกัดบนเกาะภูเก็ตจริง และจากผลการศึกษาของคุณเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี พบว่าหลังจากการเกิดแผ่นดินไหว มักจะมีการยุบของแผ่นดิน หรือแผ่นดินถล่มติดตามมา

    ตัวบ่งชื้หรือลักษณะเตือนภัยเกิด “แผ่นดินยุบ” มี 3 อย่าง
    1. สังเกตได้จากการได้ยินเสียงดังคล้ายดินถล่มมาจากใต้ดิน
    2. บริเวณนั้นมีน้ำผุดขึ้นมาจากใต้ดินโดยไม่มีสาเหตุ และ
    3. มักมีรอยแตกคล้ายร่างแห หรือใยแมงมุมยาว 3 – 5 เมตร ในบริเวณนั้น


    ผอ.เลิดสินบอกว่า ถ้าพบสิ่งบอกเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ลักษณะที่ว่าให้ผู้อยู่ในบริเวณนั้นรีบถอยห่าง และแจ้งเจ้าหน้าที่ทางการ หรือกรมทรัพยากรธรณีโดยด่วน เพราะอาจเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินยุบตัวในบริเวณนั้นได้
    ผอ.สำนักธรณีวิทยาเตือนว่า ในเมืองไทยพื้นที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงเกิดแผ่นดินยุบตัว หลังเกิดแผ่นดินไหว มีมากถึง 49 จังหวัด


    จังหวัดที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินยุบสูงมี 23 จังหวัด
    ได้แก่ กาญจนบุรี นครราชสีมาเพชรบูรณ์ สระแก้ว ขอนแก่น นครสวรรค์ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย ฉะเชิงเทรา น่าน ระนอง สุราษฎร์ธานี ชัยนาท ปราจีนบุรี ราชบุรี อุดรธานี ชุมพร พะเยา ลำปาง อุทัยธานี เชียงใหม่ พัทลุง และ เลย

    จังหวัดที่มีโอกาสเกิดแต่ไม่ถึงกับเสี่ยงสูง มี 26 จังหวัด คือ กระบี่ ตาก สตูล
    นครศรีธรรมราช เพชรบุรี กำแพงเพชร แพร่ สระบุรี จันทบุรี นราธิวาส ยะลา
    สุพรรณบุรี ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ปัตตานี ลพบุรี
    อุตรดิตถ์ เชียงราย พังงา ลำพูน ตรัง สงขลา และพิษณุโลก


    นอกจาก “แผ่นดินยุบ” เป็นปรากฏการณ์ที่อาจเกิดขึ้นภายหลังแผ่นดินไหวรุนแรง


    “แผ่นดินถล่ม” (Landslide) อาจเป็นอีกของแถมตามมา
    “แผ่นดินถล่ม” หมายถึง ภาวะการเคลื่อนที่ของแผ่นดิน เป็นกระบวนการซึ่ง
    เกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนที่ของดินหรือหินตามแนวลาดชัน โดยมีแรงดึงดูดของโลกเข้ามาเกี่ยว

    การเคลื่อนที่ของมวลดินหรือหิน อาจมีความเร็วตั้งแต่ปานกลางจนถึงเร็วมาก


    รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย วิศวกรโครงการ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากคณะ
    วิศวกรรมโยธา สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) หัวหน้าคณะวิจัยในโครงการลดภัย พิบัติจากแผ่นดินไหวของประเทศไทย (ระยะที่ 1) บอกว่าผลของแผ่นดินไหว ซึ่งมีแรงสั่นสะเทือนไปทั่วแผ่นดิน อาจก่อให้เกิดแผ่นดินถล่มในบริเวณที่มีความลาดชัน ส่งผลให้มวลดินหรือแผ่นดินเลื่อนไถลลงมายังพื้นที่ราบ หรืออาจเกิดภาวะแผ่นดินยุบ ซึ่งคนไทยมักเรียกกันว่าธรณีสูบขึ้นได้ในเมืองไทยโอกาสที่จะเกิด “แผ่นดินยุบ” เป็นหลุมกว้าง หลังเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของเพดานโพรงหินปูน ซึ่งอยู่ใต้ผิวดินแด่ละบริเวณ ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีได้ออกสำรวจ เฝ้าระวัง และติดตามตรวจสอบเป็นระยะ บริเวณนั้นมีความลาดเอียง เช่น บริเวณที่ราบสูงต่างๆ

    ทั้ง 2 กรณี อาจทำให้ก้อนธรณีหรือมวลดินมหึมาทรุดตัวลงมา ยิ่งถ้าเกิดขึ้นบริเวณริม ถนนหรือชุมชน ซึ่งมีสิ่งปลูกสร้างหนาแน่น ถือว่าอันตราย
    แต่ปัญหาเฉพาะหน้าที่น่าเป็นห่วงกว่าและหลายคนมองข้าม ก็คือผลของแผ่นดินไหวที่มีต่ออาคารซึ่งถูกต่อเติมหรือก่อสร้างผิดแบบ“เรามักจะย่ามใจกันว่า ดูจากประวัติการเกิดแผ่นดินไหวในเมืองไทยผ่านมามักจะไม่รุนแรง และมักเกิดตามรอยเลื่อนที่สำคัญ เช่น ในภาคเหนือ เคยมีแผ่นดินไหวขนาด 5 – 6
    ริกเตอร์ เกิดขึ้น 8 ครั้ง ในรอบ 30 ปีมานี้”
    “แต่หารู้ไม่ว่า แผ่นดินไหวขนาดกลางเพียง 5 ริกเตอร์กว่าๆ ซึ่งคิดกันว่าไม่น่า
    อันตราย เป็นความเข้าใจผิดมหันต์ เพราะหากศูนย์กลางการเกิดอยู่ที่ภาคเหนือ หรือแถวกาญจนบุรี ซึ่งยังมีรอยเลื่อนมีพลังอยู่ จะก่อความเสียหายอย่างมโหฬาร เพราะมีรัศมีการ ทำลายที่อาจแผ่กว้างไปไกลถึง 20 กิโลเมตร”
    ดร.เป็นหนึ่งบอกว่า เรามักสนใจแต่เพียงว่ารอยเลื่อนหรือรอยแตกของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งมีการเคลื่อนตัวได้และเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว มีอยู่ 2 แบบหลักๆ แบบแรก รอยเลื่อนที่ตายแล้ว (ไม่มีพลัง) ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน และภาคใต้ของ ไทย อีกแบบ รอยเลื่อนที่ยังไม่ตาย (มีพลัง) อยู่ในภาคเหนือ และภาคตะวันตก “เราคิดว่ารอยเลื่อนพวกนั้นอยู่ไกลตัว และในรัศมีใกล้ กทม. ไม่มีแหล่งกำเนิด แผ่นดินไหว แต่หารู้ไม่ว่า ยังมีความเสี่ยง จ่อคอหอย เพราะระยะห่างจาก กทม.โดยรอบ 200 – 400 กม. มีรอยเลื่อนใหญ่อันดามัน ซึ่งอาจเกิดแผ่นดินไหวได้รุนแรงถึง 8 ริกเตอร์ และรอยเลื่อนย่อยที่กาญจนบุรี มีโอกาสเกิดได้เกิน 7 ริกเตอร์”

    “คุณรู้มั้ย ถ้าเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7 ริกเตอร์กว่าที่เมืองกาญจน์ อาคารสูงที่มีโครงสร้างอ่อนแอในกรุงเทพฯ มีโอกาสโยกไหวรุนแรงหรือพังโครมลงมาได้ทั้งหลัง”ดร.เป็นหนึ่งบอกว่า แม้ “แผ่นดินยุบ” และ “แผ่นดินถล่ม” สร้างความน่าสะพรึงให้แก่ ผู้อยู่ในบริเวณที่ล่อแหลม แต่เมื่อเทียบระดับความน่าสะพรึงกันแล้ว ทั้งรอยเลื่อนใหญ่ในทะเลอันดามัน และรอยเลื่อนแขนงที่ จ.กาญจนบุรี เปรียบเสมือนระเบิดเวลากลางเมืองกรุงที่ น่าสะพรึงกว่า เขาบอกว่า ทุกวันนี้อาคารสูงส่วนใหญ่ใน กทม. ไม่มีการออกแบบเพื่อต้านทานแผ่นดินไหว ส่วนในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวในภาคเหนือ แม้ปัจจุบันมีกฎหมายบังคับให้ออกแบบอาคารสูง รองรับแผ่นดินไหว แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครสนใจปฏิบัติ


    ดร.เป็นหนึ่งว่า ทางออกที่ดีในการล้อมคอก ก่อนเกิดปัญหาไม่คาดคิด สำหรับอาคาร สูงในกรุงเทพฯ หรือบางจังหวัดในภาคเหนือตอนบน ที่จะสร้างขึ้นใหม่ ควรนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มงวด ให้มีการออกแบบโครงสร้างเผื่อรองรับกรณีแผ่นดินไหว ส่วนอาคารสูงสำคัญหรือมีผู้ใช้งานมาก ที่สร้างขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่มีระบบรองรับ แผ่นดินไหว แก้ไขได้โดยออกมาตรการบังคับให้เจ้าของอาคาร เสริมตัวโครงสร้างทั้งคานและเสา โดยใส่เฟรมเหล็กเพิ่มเข้าไป หรือปรับปรุงเสาและคานบางจุดให้แข็งแรงขึ้น ไม่ก็ทำเป็นกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) เข้าช่วยในบางจุดเพื่อลดความอ่อนแอของตัวอาคาร “ถ้าคิดจะป้องกันแก้ไขจริงจังตอนนี้ ยังไม่สายเกินไป แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย วันหน้าอาจสายเกินแก้ และต้องเสียใจกว่าเหตุการณ์สึนามิ”

    ดร.เป็นหนึ่งฝากประโยคทิ้งท้าย นั่นคือ สิ่งที่ผู้เขียนขอนำข้อมูลด้านวิชาการมาฝากเพิ่มเติมครับ

    มงคล กริชติทายาวุธ
    ศุกร์ที่ 14 มกราคม 2548
    23.59 น.
    ท่านใดต้องการรับข่าวสารชมรมศาสนาและการกุศล ฟรี! ไม่มีเงื่อนไข
    กรุณาแจ้งหมายเลข E-mail Address ของท่านไปที่ประธานชมรมฯ ที่
    mkrichti@ktb.co.th ท่านจะได้รับข่าวสารก่อนการพิมพ์สารชมรมฯ
    ล่วงหน้าประมาณ 1 – 2 เดือน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2008
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
     
  9. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    หมู่นี้ คุณหนุมาน ส่งสารมาถี่จังนะคะ
    เหมือนเห็นสัญญานเตือนภัย ในระดับสีส้มๆแดงๆยังงัยไม่รู้
     
  10. พลังใจพิชิตภัยพิบัติ

    พลังใจพิชิตภัยพิบัติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +94
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"สนธิญา"ฟ้องศาล ปค."สมิทธ"ปูดข่าว"สตอร์มเสิร์จ"ทำ ปชช.แตกตื่น
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 กันยายน 2551 17:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายสนธิญา สวัสดี กรรมการบริหารแผนป้องกันอุทกภัย จ.สมุทรสาคร เดินทางไปยังศาลปกครองกลาง เพื่อยื่นฟ้องนายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีที่
    นายสมิทธ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ สตอร์ม เสิร์จ (Storm Surge) ที่ระบุว่า น้ำทะเลจะยกตัวสูงท่วมในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรสาคร ภายในเดือนสิงหาคม-กันยายน เป็นต้นไป สร้างความตื่นตระหนกและกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ขณะที่หน่วยงานราชการ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยาทางทะเล มีข้อมูลไม่ตรงกับนายสมิทธ โดยแม้จะมีหนังสือเรีอกร้องให้นายสมิทธ ยุติให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าว แต่นายสมิทธ กลับไม่ฟัง และยังให้สัมภาษณ์พาดพิงว่าตนมีผลประโยชน์ทับซ้อน และต้องสูญเสียผลประโยชน์ไป พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายสมิทธ ยุติการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนกรณีการเกิด สตอร์ม เสิร์จ (Storm Surge) ในทันที ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000111499
     
  11. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    โธ่ นี่ละหนามารมีรูปโฉมหลายแบบ..
    แล้วใครจะยืนเคียงข้างประชาชนอีก...
    ส่งดอกไม้ให้ดร. สมิทธ ค่ะ

    ;aa20
     
  12. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    ขออนุโมทนากับข้อมูลที่ทุกท่านได้โพสมาให้อ่านค่ะ
    ดิฉันได้อ่านข้อความหนึ่งในเว็บพลังจิตพิชิตภัยพิบัติและได้กล่าวถึง ตัวลิ้นทะเล ริ้นดำ หรือที่คนทางเหนือเรียกว่า ตัวคุ่น นี้เป็นอย่างไร ผู้ใดมีภาพให้ดูมั๊ย?
    ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post1513245 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 05:24 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #55 <INPUT id=plist_1513245 style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px 0px 0px 5px; VERTICAL-ALIGN: middle; PADDING-TOP: 0px" type=checkbox value=0 name=plist[1513245] inlineModID="inlineMod"> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Little Duck<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1513245", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2008
    ข้อความ: 294
    ได้ให้อนุโมทนา: 1,779
    ได้รับอนุโมทนา 6,052 ครั้ง ใน 296 โพส
    <IF condition="1"><!--############### AWCoding Back-End created by Adam Ellis ########################################### Version 3.0.2 ##############################-->[​IMG] <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 34 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1513245 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->;aa58..บทความนี้.... .ทำไมถึงทำให้คน ใจดำ เปลี่ยนแปลงตัวเอง.....เพราะอะไร??

    เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชิตแกเป็นคนใจดำครับชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับแต่ แม่แกบอกมันบาปนะลูก (ไม่สนโว้ย)
    เมื่อราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป ครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งครับมันมักวิ่งไปหาของกินแถวๆ บ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด พี่แกกินหมาอยู่บ่อยๆ แต่ กรณีหมาขี้เรื้อนแกบอก 'กูกินไม่ลงว่ะ'
    แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง (สงสัยมีของ) มันไปหาของกินทีบางทีก็ได้บางทีก็ไม่ได้
    คราวนั้นเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนวิ่งหลุนๆ ไป แกเดือดทันทีครับวิ่งตามไป คราวนี้ทันครับเพราะหมาขี้เรื้อนวิ่งช้ามาก แกทุบไปทีเดียวหมานั่นล้มลงชักทันที (แกบอกว่าหากตีตรงจุดแค่ไม้บรรทัดก็ตาย) แกทิ้งไว้ตรงนั้นไม่อยากจับแต่จะทำกินตรงนั้น จึงกลับบ้านไปเตรียมของ (แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน) ให้ผมเฝ้าไว้ (ยังเด็กอายุแค่ 12) ผมก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู (ในใจอยากให้มันรีบไปจะได้ไม่ตาย) มันไปจริงครับหายวับไป พี่ชิตแกโกรธมากคงอยากเตะผมเต็มแก่ แต่ลุงผมแกเป็นนักเลงใหญ่และเป็นคนสอนวิธีฆ่าหมาให้ ก็ต้องวิ่งตามอย่างเดียวพร้อมบ่น 'ทำไมมันไม่ตายวะ'
    พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหมาเห่า
    แกตามทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็น ...............................................

    หมาขี้เรื้อนกำลังจะตายมันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังหย่านมบางตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก (เห็นกับตา) ที่มันยังไม่ยอมตายเพราะต้องกลับไปให้นมลูก แม้น้ำนมแห้งกรัง เอาอาหารไปให้ลูกมัน เรียกลูกๆ เพื่อให้นม ให้อาหาร เป็นครั้งสุดท้าย แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุด
    มันมองผมกับพี่ชิตอย่างขอร้อง ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ( T T )

    "ไม่อยากเชื่อนั่นคือน้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย"

    พี่ชิตไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดูแม่หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูก แกไม่พูดอะไรทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอสายตาอ่อนโยนลง
    ลูกหมาตัวหนึ่งวิ่งไปหาแกกระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า 'ขอโทษ' พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย เราช่วยกันฝังแม่หมา
    แกรับเลี้ยงหมานั่นไว้ ทั้ง 5 ตัวตั้งแต่นั้นแกกลายเป็นคนใจดีไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีกแกบอก 'มันอาจมีลูกรออยู่ก็ใด้'

    เมื่อ 12 สิงหา 2 ปีที่แล้ว แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำ พูดกับแม่ว่า 'แม่ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผมยังไงนะสอนอีกหนใด้ไหมครับ'


    แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก ไม่อยากเชื่อแม่หมาขี้เรื้อนตายไป 1 ตัว กลับทำให้คนใจดำอย่างแกเปลี่ยนไปขนาดนี้

    … รักแม่ . . . _heart+love_

    ขอขอบคุณเจ้าของเรื่องที่ copy ส่งมาให้
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    Welcome to UFO Thailand Website
    www.ufothailand.net
    Little Duck.. LD411


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. สุธรรมพจน์

    สุธรรมพจน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +157
    อย่าลืม

    ไหว้พระ สวดมนต์ ทุกวันนะครับ และก็ตั้งจิตอธิฐานกันด้วยครับ


    คำอธิฐานบารมี

    <!-- Main --> ข้าพเจ้าทั้งหลายขอตั้งจิตอธิษฐานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระพุทธพจน์ พระสัจธรรม ทั้งพระอรหันต์ พระอริยะสงฆ์เจ้าทุกพระองค์
    ได้โปรดประทานพระเมตตาบารมี พระฉัพพรรณรังสี พุทธบารมีทุกประการ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรมา เพื่อเป็นตบะเดชะ ประสิทธิ์ประสาทรักษา ผืนแผ่นดินไทย น่านน้ำของไทย พระบวรพุทธศาสนา อภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ให้ทรงพระเกษมสำราญ รักษาชีวิตผู้ปฏิบัติการรักษาผืนแผ่นดินไทยทั้งมนุษย์และวิญญาณ ตลอดทั้งปวงประชา ข้าราชการผู้ซื่อสัตย์สุจริต

    รวมทั้งข้าพเจ้าและครอบครัวให้รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงให้ประเทศชาติผู้คนพลเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ให้พืชพันธุ์ธัญญาหาร ทรัพยากรธรรมชาติงอกงามอุดมสมบูรณ์

    ขออันเชิญพลังพระสัจธรรม น้ำทิพย์ น้ำอมฤต พระคาถาจุนโลก และจักรวาล โปรดหมู่มวลมนุษย์ วิญญาณทั้งหลายทั่วสากลโลก ให้พ้นทุกข์มีความสุข ขอบารมีพระเมตตาปรานีของพระพุทธเจ้าทั้งหลายนับตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน

    จงบันดาลให้มนุษย์ทั้งหลายมีหิริโอตตัปปะ รักธรรมะไม่เห็นแก่ตัว เลิกทุจริต ไม่พยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน ให้มีจิตเมตตาปราณี ประพฤติปฏิบัติธรรมะ ผู้หลงผิด ขอให้คิดกลับใจ และขอให้พระสัจธรรมที่พระองค์ทรงประกาศไว้ว่า ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว ให้ได้รับผลปรากฏเด่นชัดแก่ตาโลกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    ขอบารมีทุกประการที่กล่าวแล้วแผ่กระจายขยายออกไปทั่วทุกภพมนุษย์ไตรโลกาหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาลพิภพ จบเจ็ดคาบสมุทรตลอดสุดก้นบาดาล ให้เนื่องแน่นไปด้วยบารมี ให้มนุษย์ทั้งหลายพากันมานับถือพระพุทธศาสนา
    โลกนี้จงได้อยู่เย็นเป็นสุข

    ขอพระพุทธบารมีโปรดบันดาลให้คำอธิษฐานทั้งปวงนี้จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ทุกประการเทอญ
     
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post1512112 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Falkman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1512112", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    สถานที่: Falkland
    ข้อความ: 4,830
    ได้ให้อนุโมทนา: 18,987
    ได้รับอนุโมทนา 53,805 ครั้ง ใน 4,828 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 3562 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1512112 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เออ ตอนนี้พายุน่ากลัวมากนะ ลูกที่อยู่ข้างๆ เวียดนาม คงกระทบกับเราไม่มากก็น้อย น้ำยิ่งเยอะๆ อยู่ นี่น้ำทะเลยังไม่ได้หนุนซักเท่าไหร่

    ตอนนี้ถนนหนทางเสียหมดแระ เนี่ยะถ้าเกิดอะไรขึ้น จะอพยพกันจริงๆ แป่วแน่ๆ
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    มี "สติ" รู้กาย รู้ใจ อย่างเนืองๆ
    "1784" ศูนย์บรรเทาภัยภิบัติ กระทรวงมหาดไทย
    <!-- / sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    [​IMG]
    คมชัดลึก ๑๙ กย ๕๑

    น้ำท่วมจันทบุรี
    น้ำป่าจากเทือกเขาเกลือและจากน้ำเขื่อนคีรีธาร ไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่ ม.4 , ม.5 ,ม.8 ,ม.10 และ ม. 12 ของ อบต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี สูงกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร วันที่ 19 ก.ย.
     
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันนี้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพุทธ ที่ตอม่อสะพานพระปกจะมีการทำสี ขาวแดงแสดง ระดับวิกฤตของระดับน้ำเอาไว้ เช้านี้ 10.00 น. น้ำเลยระดับขึ้นมาประมาณ 10 ซ.ม.แล้วครับ

    ซึ่งหากไม่มีการสร้างแนวกั้นน้ำเอาไว้ท่วมไปหลายแห่งแล้วครับ

    หากนำเวลาน้ำขึ้นลงของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือมาลงเอาไว้จะช่วยให้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ได้ดีขึ้นครับ
     
  18. Ghosty Rat

    Ghosty Rat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +364
    ถึงท่านหล่อลากดิน พวกเขาถ้ารู้จริงคงบอกพวกเรานานแล้ว พวกเขา่ก็มนุษย์อาศัยข่าวแล้วนำมาเผยแพร่ก็เห็นแก่น้ำใจพวกเขาอย่าถากถางพวกเขาเถอะ
    ดีกว่าไม่มีอะไรเป็นสัญญาณอะไรหรือรู้แล้วอมพะนำ. เราต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยเกิดมันมีอันไหนหลุดมาจริงถึงบ้านท่านก็ได้มีอะไรเตือนก่อนเพราะสื่อบ้านเรามันไม่ค่อยให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่
    เกี่ยวกับดร. สมิทธ ทุกอย่างมันต้องใช้เงิน
    ไม่มีระบบอะไรได้มาฟรีๆหรือท่านว่าเศษเงินเมื่อเทียบกับงบอื่นๆที่ถลุงอย่างไร้แก่นสารมีคุณค่ามากกว่าชีวิตประชาชน และการที่ท่านว่าเขา เกิดเขาตั้งใจทำเพื่อส่วนรวมจะทำให้ท่านได้บาปเปล่า
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้ำท่วมทำพื้นที่เกษตรเสียหายแล้วกว่า 7 แสนไร่ ใน 36 จังหวัด

    [​IMG]

    ก.เกษตรฯ 19 ก.ย. - สศก.พบพื้นที่เกษตรกว่า 7 แสนไร่ ใน 36 จังหวัด ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม มีพื้นที่เสียหายสิ้นเชิงแล้ว 121,142 ไร่ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยัน ไม่มีนโยบายระบายน้ำลงสู่พื้นที่เกษตร

    นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้ประเมินสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 36 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 13 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด ภาคกลาง 4 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด และภาคใต้ 1 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ เลย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัยสระบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี และตราด มีพื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 724,931 ไร่

    โดยจังหวัดที่มีเนื้อเพาะปลูกเสียหายมากที่สุดคือ จังหวัดลพบุรี อย่างไรก็ตาม คาดว่า มีเนื้อที่การเกษตรเสียหายสิ้นเชิงประมาณ 121,142 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากผลผลิตการเกษตรเบื้องต้นประมาณ 686 ล้านบาท ในส่วนของพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรง คือ จังหวัดลพบุรี และขอนแก่น โดยที่ลพบุรี กรมชลประทานได้ให้ความช่วยเหลือส่งเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือเพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ แล้ว 32 เครื่อง ส่วนขอนแก่น ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่แล้วจำนวน 10 เครื่อง

    นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการนำพื้นที่เกษตรกรรมมารองรับน้ำ ว่า กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีนโยบายนำพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งหรือพื้นที่เกษตรมาเป็นพื้นที่รับน้ำ เนื่องจากเชื่อมั่นว่า การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพ สามารถรับมือกับสภาวะปัจจุบันได้ เพราะระดับน้ำในลุ่มเจ้าพระยาหรือลุ่มน้ำต่างๆ ยังสามารถรองรับและระบายน้ำได้ในระดับหนึ่ง จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องระบายลงสู่พื้นที่เกษตรให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด. - สำนักข่าวไทย

    2008-09-19 18:04:14

    ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มี 73%

    [​IMG]

    ก.เกษตรฯ 18 ก.ย. -สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 31 แห่ง มีปริมาณน้ำร้อยละ 73 แต่ต้องจับตาหลายเขื่อนที่เก็บกักน้ำเกินร้อยละ 80 แล้ว กรมชลประทานยืนยันยังไม่วิกฤติ

    นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 31 แห่งในวันนี้ว่า มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมกันทั้งหมด 50,062 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 73 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด ยังรองรับปริมาณน้ำได้อีกกว่าร้อยละ 27 หรือประมาณ 18,427 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเขื่อนที่สำคัญ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำในอ่างฯ ร้อยละ 54 ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก 6,126 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำร้อยละ 80 รองรับได้อีก 1,918 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำร้อยละ 57 ทั้งนี้ เขื่อนที่เก็บกักน้ำเกินร้อยละ 80 อาทิ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนน้ำอูน เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนขุนด่านฯ เขื่อนประแสร์ และเขื่อนหนองปลาไหล เป็นเขื่อนที่กรมชลประทานเฝ้าระวังแต่ยังไม่วิกฤติ กรมชลประทาน ได้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนเหล่านี้ในปริมาณที่น้อยกว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯ โดยมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะของฝนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

    ส่วนสภาพน้ำท่าในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (18 ก.ย.) มีปริมาณไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 1,305 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ประมาณ 1,759 ลบ.ม./วินาที และปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 369 ลบ.ม./วินาที โดยรวมแล้วขณะนี้จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอยู่ในเกณฑ์ 2,482 ลบ.ม./วินาที ซึ่งยังไม่มีผลกระทบต่อกรุงเทพมหานคร (กรุงเทพมหานครรับน้ำได้ประมาณ 3,000 ลบ.ม./วินาที) และได้เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำนครนายก วันละ 1.79 ล้านลูกบาศก์เมตร แม่น้ำบางปะกง วันละ 7.31 ล้านลูกบาศก์เมตร และระบายลงอ่าวไทย 15.18 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนในทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกตอนล่าง มีการระบายรวมกันทั้งหมด 6.98 ล้านลูกบาศก์เมตร แยกเป็นการระบายลงแม่น้ำท่าจีน วันละ 3.90 ล้านลูกบาศก์เมตร แม่น้ำเจ้าพระยา วันละ 3.08 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ กรมชลประทานได้ใช้ประโยชน์จากโครงการลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงจังหวะน้ำทะเลลง ประมาณวันละ 17.12 ล้านลูกบาศก์เมตรด้วย

    ทั้งนี้ เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง และที่ผ่านกรุงเทพมหานคร สำหรับการระบายน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด. -สำนักข่าวไทย

    2008-09-18 17:48:19

    เรือปู่เย็นพลิกคว่ำ

    [​IMG]

    เพชรบุรี 19 ก.ย.-เรือปู่เย็นพลิกคว่ำในน้ำ หลังเกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมขังในเรือ โชคดีชาวบ้านเห็นและช่วยขึ้นมาได้ทัน แต่ต้องลอยคอในน้ำนานนับชั่วโมง

    ชาวบ้านต่างพากันช่วยเหลือปู่เย็น หรือ นายเย็น แก้วมณี เฒ่าทรนงแห่งลุ่มน้ำเพชรบุรีขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพอิดโรยอ่อนแรง เนื่องจากต้องจับเชือกผูกโยงเรืออยู่ในน้ำนานนับชั่วโมง หลังเกิดเหตุเรือนอนที่จอดอยู่ริมสะพานลำไย ในจังหวัดเพชรบุรีพลิกคว่ำ เพราะทานน้ำหนักน้ำที่ท่วมขังในเรือไม่ไหว แพทย์โรงพยาบาลพระจอมเกล้าได้ช่วยกันปฐมพยาบาล และพยายามนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ปู่เย็นไม่ยอมห่างจากเรือเพราะเป็นห่วง จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันกู้เรือขึ้นจากน้ำลากกลับเข้าริมฝั่งอย่างทุลักทุเล ทำให้ปู่เย็นยอมไปบ้านญาติหน้าวัดลานในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี

    ขณะที่เพื่อนของปู่เย็นเล่าว่า ปกติเรือจะมีช่องสำหรับวิดน้ำ แต่ก่อนหน้านี้เรือได้ไปชนตอม่อสะพาน ทำให้เปิดช่องวิดน้ำไม่ได้ เมื่อเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมขังในเรือ ประกอบกับเรือติดเครื่องหางยาวไว้ ส่งผลให้เรือทรงตัวไม่ดีและล่มลงน้ำดังกล่าว แต่โชคดีที่มีคนเห็นและสามารถช่วยปู่เย็นขึ้นมาได้โดยปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

    2008-09-19 23:25:58

    ห่วงยาง เรือจำเป็นช่วงน้ำท่วมสูง

    [​IMG]

    ลพบุรี 19 ก.ย. - ชาวบ้านในจังหวัดลพบุรี แม้จะเป็นทุกข์กับภาวะน้ำท่วม แต่ก็น่าดีใจที่พยายามช่วยเหลือตนเองไม่ได้รอความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเดียว

    ในพื้นที่น้ำท่วมสูงถูกตัดขาด เริ่มติดต่อพื้นที่ภายนอกได้แล้ว เพราะชาวบ้านสร้างเรือยาง บรรเทาความเดือดร้อนได้เอง.- สำนักข่าวไทย

    2008-09-19 19:28:06

    ชายฝั่งอ่าวไทยตอนในและตะวันออกวิกฤติหนัก กัดเซาะ 5 ม./ปี

    [​IMG]

    ระยอง 19 ก.ย.- นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า จากการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งของไทย พบว่า พื้นที่ที่มีการกัดเซาะมากที่สุด คือ ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนใน ซึ่งประกอบด้วยชายฝั่ง จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร ถูกกัดเซาะประมาณ 82 กิโลเมตร หรือร้อยละ 67.49 ของพื้นที่ทั้งหมด รองลงมาคือชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ตั้งแต่ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการถมทะเลเพื่ออุตสาหกรรม ถูกกัดเซาะประมาณ 63 กิโลเมตร หรือร้อยละ 13.05 ของพื้นที่ทั้งหมด ในขณะที่ชายฝั่งทะเลตะวันตก ตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร มีพื้นที่ถูกกัดเซาะน้อยที่สุด คือ ประมาณ 45 กิโลเมตร หรือร้อยละ 10.03 ของพื้นที่ทั้งหมด

    นอกจากนี้ยังพบมีหลายพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทยตอนใน ตั้งแต่บ้านแหลมสิงห์ถึงเขตบางขุนเทียน และอ่าวไทยด้านตะวันออก เพราะมีอัตราการเกาะเซาะรุนแรงมากกว่า 5 เมตร ต่อปี ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้ปัญหาการเกาะเซาะชายฝั่งทวีความรุนแรงขึ้น มาจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น การลดลงของตะกอนแผ่นดิน และการทรุดตัวของพื้นดินอ่อนในพื้นที่รับน้ำติดชายฝั่งทะเล.- สำนักข่าวไทย

    2008-09-19 18:04:37

    อีสานมีฝนต่อเนื่อง หนองบัวลำภูพบศพรายที่ 4

    [​IMG]

    ภูมิภาค 19 ก.ย.- ผู้ว่าฯ ยโสธรประกาศพิบัติภัย 3 อำเภอ หลังลำน้ำเอ่อท่วมกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะนาข้าวเสียหายมาก ด้าน ปภ.อุบลฯ ไม่วางใจเปิดศูนย์รับมือ 24 ชม. แม้พื้นที่มีน้ำท่วมเสียหายเล็กน้อย ขณะที่หนองบัวลำภูพบศพน้ำท่วมเพิ่มเป็นรายที่ 4

    นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า พื้นที่ลุ่มริมฝั่งลำน้ำชี ลำน้ำโพง และลำน้ำเซบาย ของ 3 อำเภอ ถูกน้ำเอ่อท่วมแล้วสูงกว่า 1 เมตร คือ อ.เมือง อ.ป่าติ้ว และ อ.คำเขื่อนแก้ว หลังมีฝนตกหนักมากว่าสัปดาห์ โดยเฉพาะนาข้าวเสียหายมากที่สุด คือที่ ต.ศรีฐาน ต.โพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว และ ต.ตำบลเหล่าไห อ.คำเขื่อนแก้ว ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนเหนือ มีน้ำป่าไหลหลากมาจาก จ.มุกดาหาร ลงมาตามลำน้ำเซบาย และลำน้ำโพง จนล้นตลิ่ง อย่างไรก็ดี กำชับให้แต่ละพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและรายงานมายังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร เพื่อจัดงบประมาณให้การช่วยเหลือเบื้องต้น

    ด้านนายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ความเสียหายน้ำท่วมพื้นที่จากฝนตกหลายวันและแม่น้ำโขงเอ่อท่วมนั้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางการเกษตร 9 ตำบล ของอำเภอเขมราฐ ซึ่งเป็นความเสียหายไม่มากนักเหมือนที่ผ่านมา และขณะนี้แม่น้ำมูล ระดับน้ำต่ำกว่าขอบตลิ่ง 2 เมตร จึงไม่ส่งผลกระทบกับบ้านเรือนทั้งสองฝั่ง และสถานการณ์น้ำท่วมปีนี้คาดว่าไม่รุนแรง เพราะเขื่อนที่ใช้รองรับน้ำขนาดใหญ่ทั้งเขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนลำปาว ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำเหนือได้มาก แต่เพื่อความไม่ประมาท จังหวัดตั้งศูนย์ป้องกันภัยน้ำท่วมระดับอำเภอและระดับ อบต. เพื่อเฝ้าระวังและรับสถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง

    ที่ จ.หนองบัวลำภู น้ำท่วมถนนสายหนองบัวลำภู-ศรีบุญเรือง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือเพียงถนนวงแหวนรอบเมืองยังมีน้ำท่วมขัง รถยนต์สัญจรได้ ส่วนลำน้ำพะเนียงยังเอ่อท่วมไร่นาเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าไม่กี่วันน้ำจะไหลลงสู่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งสามารถรับน้ำได้อีกมาก อย่างไรก็ตาม วันนี้ (19 ก.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู รับแจ้งพบศพนายจักคำ พรมต๊ะ อายุ 68 ปี ลอยติดกับคันนา ห่างจากจุดที่ถูกน้ำพัดหายไปขณะปั่นจักรยานฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกราก เมื่อ 2 วันก่อน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ประดาน้ำเร่งค้นหาร่างของ น.ส.อุทัย เฮ้าวัล อายุ 33 ปี ชาวบ้านบ้านกุดฉิม ม.11 ต.นาคำไฮ อ.เมือง บริเวณลำห้วยสาขาของลำพะเนียง หลังจมหายไปเมื่อเย็นวานนี้ และช่วงบ่ายที่ผ่านมา (19 ก.ย.) จึงพบศพ น.ส.อุทัย บริเวณหลังโรงเรียนบ้านกุดฉิม ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 4 ของเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดหนองบัวลำภู.- สำนักข่าวไทย

    2008-09-19 15:18:08

    น้ำป่าทะลักท่วมแหล่งพันธุ์ไม้ใหญ่สุดของปราจีนฯ

    [​IMG]

    ปราจีนบุรี19ก.ย.-นายธีระชาติ ชื่นบาล นายก อบต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ระดมเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังเกิดน้ำป่าจากเขาอีโต้เขตติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หลากทะลักท่วม 3 หมู่บ้าน

    และเช้าวันนี้ (19 ก.ย.) ระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะฝนตกตลอดเวลา พร้อมขยายวงกว้างท่วมอีก 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 9 หมู่ 6 บ้านดงบัง ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายพันธุ์ไม้และสมุนไพรแหล่งใหญ่ที่สุด โดยพันธุ์ไม้จมน้ำสูง 50-80 เซนติเมตร รวมถึงถนนสายสุวรรณศร ช่วง ก.ม.ที่ 114
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    Typhoon SINLAKU (15W) Cat1 : พายุโซนร้อน “ซินลากอ” ทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 อีกครั้ง
    Typhoon SINLAKU (15W) Cat1 : พายุโซนร้อน “ซินลากอ” ทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 อีกครั้ง
    ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ฮาวาย, สหรัฐฯ (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    สภาวะโดยทั่วไปของพายุหมุนเขตร้อนเมื่อเวลา 13.00น.
    ประจำวันที่ 19 กันยายน 2551 ออกประกาศเวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

    ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ ทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย วันที่ 19 กันยายน 2551 / 07.30 น. ปรากฎพายุหมุนเขตร้อน 2 ลูก / หย่อมความกดอากาศต่ำ 1 ลูก
    1) Typhoon SINLAKU (15W,33.2N 136.0E,65kts): เมื่อเวลา 07.00น. วันนี้ (19ก.ย.51) พายุโซนร้อน SINLAKU “ซินลากอ” ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น ระดับ 1 อีกครั้งอย่างรวดเร็ว และเมื่อเวลา 13.00น.วันนี้(18ก.ย.51) ไต้ฝุ่น SINLAKU(ซินลากอ) ได้อ่อนกำลังลงเล็กน้อย แต่ยังคงระดับไต้ฝุ่นอยู่ ศูนย์กลางพายุลูกนี้ ปกคลุมบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้เมืองเกียวโต หรือด้านตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น ที่ละติจูด 33.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 136.0 องศาตะวันออก. มีศูนย์กลางอยู่ห่ างประมาณ 436 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น . กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 17 นอต(32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว. พายุ ซินลากอ ได้ถูกยกระดับให้เป็นไต้ฝุ่นและอย่างรวดเร็วในช่วง 6-9 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่กำลังเคลื่อนตัวเลียบชายฝั่งเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น. จากภาพถ่ายดาวเทียมแบบผสมเคลื่อนไหวและภาถ่ายดาวเทียมชนิดแถบความร้อนเมื่อ ช่วงเช้า(ประมาณ07.00น.วันนี้19ก.ย.51)บ่งบอกว่า ที่แกนกลางพายุมีการก่อตัวของเมฆฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง และปรากฏตาพายุอย่างไม่เป็นระเบียบในช่วงระยะเวลา 1-2 ชั่วโมง เส้นผ่าศูนย์กลางตาพายุประมาณ 22 กิโลเมตร. ไต้ฝุ่น ซินลากอ ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่ากระแสลมในแนวดิ่งจะมีกำลังแรงมากก็ตาม และยังคงเคลื่อนตัวไปตามกระแสลมนี้ และกระแสลมในแนวดิ่งประมาณ 30-40 นอต(56-74กิโลเมตรต่อชั่วโมง). พายุลูกนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือตามลิ่มความกดอากาศที่แผ่ มาจากด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพายุ. การขยายตัวของเมฆฝนฟ้าคะนองที่ศูนย์กลางพายุยังคงมีกำลังต่อไป ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65นอต(120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 974 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 4 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด ไต้ฝุ่น SINLAKU (ซินลากอ/15W) เนื่องจากลิ่มความกดอากาศสูงเหนือเขตร้อนระดับกลางที่พัดมาด้านตะวันตกเฉียง เหนือของพายุประกอบกับกระแสลมตะวันตกที่พัดมาจากเขตละติจูดกลาง(ช่วงประมาณ 30-40องศาละติจูด)ทำให้มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกฉียงเหนือต่อไปใน อีก 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า. และจะเคลื่อนตัวขนานชายฝั่งด้านตะวันออกประเทศญี่ปุ่นในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า ก่อนที่ศูนย์กลางจะเริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งกรุงโตเกียว ในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า(หรือตั้งแต่ 01.00น.พรุ่งนี้(20ก.ย.51) เป็นต้นไป โดยจะเริ่มเคลื่อนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นลงสู่ทะเลอีกครั้ง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นระดับโซนร้อนและกลายเป็นพายุนอกเขตร้อนในอีก 6-12 ชั่วโมงข้างหน้า(หรือตั้งแต่ 19.00น.วันนี้(19ก.ย.51) เป็นต้นไป : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    2) Tropical Disturbance 94W(13.0N 114.0E,15kts): เมื่อเวลา 13.00น. วันนี้ (18 ก.ย.51) หย่อมความกดอากาศต่ำ 94W ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง อยู่ที่ละติจูด 13.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.0 องศาตะวันออก. มีศูนย์กลางอยู่ห่ างประมาณ - กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองนาตรัง ประเทศเวียตนาม . กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็ว - นอต(- กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 15นอต(28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 1010 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ - เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด หย่อมความกดอากาศต่ำ 94W จะมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางตะวันตะวันตกค่อนทางเหนือต่อไปในอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียตนามตอนบนในอีก 2-3 วันข้างหน้า หรือตั้งแต่ 20ก.ย.51 เป็นต้นไป. โดยศูนย์กลางหย่อมฯจะอ่อนกำลงไปอีกใน 6-12 ชั่วโมงข้างหน้า หรือตั้งแต่ 19.00น.วันนี้(19ก.ย.51) เป็นต้นไป และยังไม่มีความเป็นไปได้ว่าจะทวีขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อนในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    3) Tropical Storm HAGUPIT (18W,14.1N 134.1E,40kts): เมื่อเวลา 13.00น. วันนี้ (18 ก.ย.51) พายุดีเปรสชัน 18W ได้ทวีกำลังขึ้นเป็น พายุโซนร้อน HAGUPIT (ฮากุปิต/18W) แล้ว ปกคลุมบริเวณทะเลด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ อยู่ที่ละติจูด 14.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 134.1 องศาตะวันออก. มีศูนย์กลางอยู่ห่ างประมาณ 1,297 กิโลเมตร ทางตะวันออกของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ . กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนทางใต้ ด้วยความเร็ว 11 นอต(20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 40นอต(74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวประมาณ 993 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 2 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา / คาด พายุโซนร้อน HAGUPIT (ฮากุปิต/18W) ฯ : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )
    <เพิ่มเติม> สำหรับพายุ ไต้ฝุ่น ซินลากอ ที่ได้ทวีกำลังอีกครั้งนั้นสืบเนื่องมาจากการที่กระแสลมในแนวดิ่งมีกำลังลด ลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ประกอบกับการที่ได้รับอิทธิพลความอุ่นจากน้ำทะเล และระดับความสูงของน้ำทะเลที่ผิดปกติบริณทะเลชายฝั่งด้านใต้ของประเทศ ญี่ปุ่น
    [​IMG]

    ภาพถ่ายดาวเทียม INFRARED ทุกๆ 1 ชม.
    [​IMG]
    http://agora.ex.nii.ac.jp/digital-typhoon/latest/globe/2048x2048/ir.jpgCLICK เพื่อดูภาพขนาดใหญ่
    http://agora.ex.nii.ac.jp/digital-typhoon/latest/animation/MPEG-2/last-120h.mpgCLICK เพื่อดูภาพถ่ายดาวเทียมเคลื่อนไหว 120 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือ เมื่อ 5 วันที่ผ่านมา UPDATE ทุกๆ 1 ชั่วโมง

    *******

    ภาพการคาดหมายเส้นทางการเดินพายุ ล่วงหน้า 5 วัน ทุกๆ 6 ชม.
    บริเวณพื้นที่ตาข่ายสีดำ รูปกรวย(โคน) แสดงถึง ความไม่แน่นอน/ความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบหรือศูนย์กลางพายุอาจจะพัดผ่าน
    ***เครื่องของท่านอาจไม่ปรากฏภาพดังกล่าว ให้ CLICK ขวา > Show Picture***
    ที่มา Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC *ต้นฉบับ*
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    http://cimss.ssec.wisc.edu/tropic/real-time/westpac/storm/storm15W.html
    http://www.solar.ifa.hawaii.edu/Tropical/Gif/nwp.latest.gif
     

แชร์หน้านี้

Loading...