ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่องจริงอิงนิยาย เรื่องที่ 3 และ 4

    เรื่องของมหาภูติรูปสี่ (ชื่อเต็มยศของ ดิน น้ำ ลมไฟ)

    เรื่องของ จิต เจสิก และการก่อรูป

    อธิบายไม่ออกวุ้ย ร่อก่อนจะมาอธิบายวันหลัง



     
  2. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    ทำให้อยากรู้อีกแล้ว [​IMG]
    งั้นอธิบายเรื่องอาบน้ำทิพย์ก่อนก็ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2008
  3. blastmaster

    blastmaster สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +9
    อาจารย์ค่ะ หนูเป็นหลายโรคเลยค่ะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ

    1. ไปตรวจร่างกายประจำปี ปีนี้พบติ่งในโพรงมดลูกค่ะ ตอนนี้ไม่มีอาการอะไร หมอแนะนำให้ผ่าออก รักษาด้วยพลังจิตได้ไหมคะ ไม่อยากผ่าเลยค่ะ
    2. นิ้วชี้กับนิ้วกลางมือขวาชามาหลายเดือนแล้วค่ะ ทำอย่างไรดี
    3. เป็นผื่นตอนเย็นเกือบทุกวันเลย เป็นมากบ้างน้อยบ้าง ตรวจภูมิแพ้อย่างละเอียดแล้วไม่พบสาเหตุค่ะ
    ขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อาการผื่นขึ้น สัมพันธ์กับรอบเดือนหรือไม่ ให้สังเกตุดูดังนี้
    ก่อนมีรอบเดือน ผื่นจะมีมาก จนรอบเดือนหมดแล้วผื่นก็จะลดลง
    พอใกลมีรอบเดือน ผื่นก็เพิ่มขึ้นอีก
    หรือมีอาการตรงข้าม

    แนะนำให้ย้อนไปอ่านคัมภีร์มหาโชติรัต เริ่มเขียนไว้ที่หน้า 8
     
  5. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407

    ขอบพระคุณอย่างสูงครับท่านอาจารย์ พอดีวันนี้ผมดิ่มโกโ้ก้เย็น พอสักพัก

    รู้สึกเย็นวูบที่กลางหน้าผาก ทั้ง ๆ ที่ แต่ก่อนไม่เห็นเป็น

    ความรู้สึกหลายอย่าง เพียงแค่ 2- 3 วัน นับแต่ที่โพสต์ถามไป ตอนนี้อาการ

    ลามไปเยอะมากครับ สรุปว่าเวลากินของต่าง ๆ แถวกระหม่อม , หน้าผาก ,

    กระดูกต้นคอ (จักกระ5) , บริเวณหน้าอก , และลามแผ่มาถึงแถวหัวเหน่า ,

    แล้วลามทั่วบริเวณใก้ลจักกระ

    ขอยกตัวอย่างครับ....วันนี้ดื่มโกโก้เย็น ไม่ถึงหนึ่งนาที ที่กลางหน้าผาก

    เกิดเย็นวูบขึ้นมา มันไม่ได้เย็นแต่กลางหน้าผากอย่างเดียว ลามไปถึงบริเวณ

    หัว คล้ายซึมซับ ๆ ไปรอบ ๆ โดยมีจุดกึ่งกลางของหน้าผาก เป็นศูนย์กลาง

    ที่ซึมออกไป ผมไม่รู้จะอธิบายไงครับ ท่่านอาจารย์

    หากเกิดจากการที่ผมทำโยคะ ซึ่งศิษย์สายคุณย่าเยาวเรศ มีหลายแสนคน

    ผมก็เข้าไปดูที่เว็บไซด์แล้ว ไม่มีใครเป็นอย่างที่ผมเป็น ใจจริงแล้ว อยากใช้

    ชีวิตเหมือนคนปรกติครับ จะให้ผมกินแต่ผลไม้และน้ำ , กินแสงแดด , แสง -

    ตะวัน , เฮ้อ!คิดแล้วปลงครับ สังขารมันไม่อยู่ในอำนาจ มันไม่อยู่ในการควบคุม

    สรุปเวลานี้ว่า ลามไปเยอะมากครับ ท่านอาจารย์


     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    จะรอดเร้ออออ.... เห็นฝึกเอาฝึกเอา เกื่อบตลอดเวลา ทั้งหลับและตื่น

    ให้รออ่านความรู้อีกสองตอน แล้วใช้ปัญญาพิจารณาดู ว่าควรทำเช่นไร จึงจะอยู่ร่วมกับชาวโลกได้
    กำลังหาวิธอธิบายอยู่ให้สั้นกระชับ ครอบคลุมความรู้ทั้งหมดที่ต้องใช้
     
  7. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    โชคดีที่งูไฟ ข้าน้อยมันยังไม่ออกมาป้วนเปี้ยน มีบ้างที่มันอุ่นเองประมาณ1นาที ซัก2-3อาทิตย์อุ่นที ข้าน้อยไม่กล้าไปเพ่งมัน มีท่านพี่เป็นด่านหน้า หากวันหน้าข้าน้อยเจอมันจะมาปรึกษาอ. suwiและท่านพี่
    เป็นกำลังใจให้ พี่มังกร หายไวๆครับ
    ;aa30;aa15
     
  8. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ตอนนี้มีน้อง ๆ เข้ามาถามทาง P.M. ส่วนตัวกันมาก เรื่องการฝึกโยคะและเดินลม

    พอดีพี่มังกรหารูปไม่ได้ครับ จะอธิบายเป็นตัวหนังสือ คงไม่เข้าใจ คิดว่าอาจถ่ายรูป

    ตัวเองแล้วมาลง คงเข้าใจง่ายกว่า วิชาโยคะใช้กาย - ลม - จิต สามอย่างประกอบ

    เป็นได้ทั้งวิปัสนาและสมถ รออีกหน่อยครับ
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ผู้ฝึกปราณมากเกิน ตามักแห้ง คอแห้งด้วย เป็นเพราะธาตุไฟแปรปรวน และรู้สึกคล้ายๆจะเป็นหวัด
    ให้ดื่มน้ำช่วยมากหน่อย การกินน้ำมีเทคนิค ให้จิบทีละน้อย จิบแล้วอย่าเพิ่งกลืน
    ให้น้ำกระจายไปทั่วปากและคอ นึกภาวนา อาโป อาโป แล้วจึงกลืนให้อาโปกระจายไปทั่วกาย
    และเน้นตรงที่มีปัญหา

    มีการนวดช่วยให้มีน้ำตามาด้วย
    ให้ใช้นิ้วโป้งหงายนิ้วขึ้น แตะเบาๆไปที่หัวตาใต้คิ้วล่าง แล้วไล่เบาๆไปทางหางตา จะพบเอ่งกระดูกเล็กอยู่ใต้คิ้วค่อนไปทางหัวตา
    เพิ่มน้ำหนักที่ปลายนิ้วโป้งกดไปที่ร่องกระดูกนั้น(ประมาณ 10-15 วินาที) แล้วโยกดึงขึ้น 2 ครั้ง
    น้ำตาจะมา ท่อน้ำตาจะถูกชำระล้าง
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ในงานมินิพลังจิต ครั้งที่ ๕ วันที่ 28 กันยายน 51 ที่ โลกทิพย์
    ขอให้มังกรแนะนำวิชานี้ ให้พี่ๆ น้องๆ และผองเพื่อนด้วย
     
  11. suwinai

    suwinai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +275
    อนุโมทนาผมคนนึงที่ PM ไปถามพี่ครับ

    แบบ วิดิโอก็ดีนะครับ
    รูปก็ดี
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มังกรบูรพา [​IMG]
    ตอนนี้มีน้อง ๆ เข้ามาถามทาง P.M. ส่วนตัวกันมาก เรื่องการฝึกโยคะและเดินลม

    พอดีพี่มังกรหารูปไม่ได้ครับ จะอธิบายเป็นตัวหนังสือ คงไม่เข้าใจ คิดว่าอาจถ่ายรูป

    ตัวเองแล้วมาลง คงเข้าใจง่ายกว่า วิชาโยคะใช้กาย - ลม - จิต สามอย่างประกอบ

    เป็นได้ทั้งวิปัสนาและสมถ รออีกหน่อยครับ







    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เรื่องการวางจิต ในการฝึก ฤๅษีลีลา ที่สุวิใช้ มีสามรูปแบบ ใช้สลับกันไปมา
    ปกติจะใช้แบบที่ 2 และ 3 เป็นส่วนใหญ่ น้อยครั้งนักที่จะใช้แบบที่ 1

    แบบที่ ๑
    จิตเฝ้าดูการเลื่อนไหว หมายถึงกายเคลื่อนแล้ว จิตเฝ้าดูอยู่
    เหมือนกับเราดูหนังดูละคร เห็นนะเห็น รู้นะรู้แต่ไม่อาจหยุด หรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้
    การฝึกเช่นนี้ ปัจจุบันมีอยู่หลายที่ ภาพที่เห็น บางทีลงไปเลื้อยเป็นงู ทำท่าแปลกๆ บ้างร้องโหยหวน นั่งโยกไปโยกมา ฯลฯ
    ผู้ฝึกวิปัสนากรรมฐานดีๆรับไม่ได้ บอกว่าไม่มีสติคุมกาย
    บ้างบอกว่าเป็นปิติ บ้างบอกว่าเป็นอาการปกติของสาธิ
    บ้างบอกว่าเจ้ากรรมนายเวรมาทวงหนี้ บ้างบอกว่าผู้นั้นกำลังชดใช้กรรมอยู่ ฯลฯ
    สรุป สักษณะเหมือนผู้ดูละคร ดูและเสวยอารมณ์ไปตามเวทนาที่ได้รู้ ได้เห็น

    แบบที่ ๒.
    สติกับกาย อยูคู่กันไปเป็นปัจจุบันสมัย ทำอะไร เคลื่อนที่อย่างไร รู้อยู่ทุกขณะจิต บางครั้งคุมได้ บ้างคุมไม่ได้
    สรุป สักษณะเป็นเช่น ผู้แสดงละคร (แสดงไปตามบทบาท)

    แบบที่ ๓.
    สติอยู่ล้ำหน้าการเคลื่อนไหวนิดหนึ่ง ทำให้รู้ว่า กำลังจะทำอย่างไร ต่อไปจะทำอะไร เพื่อจุดมุ่งหมายอะไร
    เช่นการฝึกสติ แบบหลวงพ่อเทียน ยกมือหนอ ซ้ายหนอ ฯ การเดินจงกลม ย่างหนอฯ
    สรุป ลักษณะเป็นเช่น ผู้กำกับการแสดง สั่งให้ตัวแสดง เล่นไปตามบทที่กำกับให้

    ผู้ฝึกฤๅษีลีลาต้องทำให้ได้ทั้งสามแบบ โดยเฉพาะแบบที่ ๑ กับแบบที่ ๓ ต้องทำสลับกันไปมาให้ได้ (จึงจะควบคุมการเคลื่อนไหวได้)
    และต้องเก็บความรู้ที่เกิดขึ้นในทุกอริยาบทมาประยุกต์ใช้ ในการดูแลร่างกาย ให้มีสุขภาพดีมีอายุยืนยาว
     
  13. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    อาจารย์ครับ ลูกของเพื่อนอายุเกือบขวบเป็นโรคคาวาซากิ ไม่ทราบจะรักษาต้องทำยังไงบ้างครับ
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ให้ยาไทยกินเพิ่ม(ยาแผนปัจจุบันยังคงให้เช่นเดิม)

    ยาไทยแบ่งเป็นสามระยะ มียาสามสูตร
    ระยะที่ ๑. มีอาการไข้ ตาแดงปากแดง เมือเท้าแดง
    ตัวยา
    ๑.ฟ้าทะลายโจร ๕ บาท (ซื้อร้านขายยาไทย)
    ๒.ทองพันชั่ง ๕ บาท (ซื้อร้านขายยาไทย)
    ๓.ตะไคร้ (แกง) ใช้ต้นสด หั่นฝอยหนัก ๒ ขีด (หนักประมาณ ๑๓-๑๔ บาท) (ซื้อในตลาดสด)

    ใส่น้ำท่วมยา ต้ม ใส่น้ำ ๕ ส่วนต้มเหลือ ๑ ส่วน รินเอาแต่น้ำ เก็บไว้
    ใส่น้ำท่วมอีกครั้ง ต้มให้งวด ใส่น้ำ ๕ ส่วน ต้มเหลือ ๑ ส่วน รินเอาแต่น้ำ
    น้ำที่ได้ครั้งที่ ๑ และ ๒ นำมาผสมกัน กรองเอากากออก ใส่ขวดเก็บในตู้เย็น

    วิธีกิน ยาเจือน้ำเดือด ๑/๒ กินครั้งละ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหารเดี๋ยวหนึ่ง (คงต้องจับกรอก เพราะขมมาก)
    เมื่อไข้ลดลงจนปกติแล้ว(๓-๕ วัน อย่ากินเกินนี้ ด้วยเป็นยาเย็น อาจเกิดโรคอื่นแทรก) ให้เปลี่ยนยาสูตรที่ ๒ กินแทน

    ยาสูตรที่ ๒
    ๑.ฟ้าทะลายโจร ๕ บาท (ซื้อร้านขายยาไทย)
    ๒.ทองพันชั่ง ๕ บาท (ซื้อร้านขายยาไทย)
    ๓.ตะไคร้ (แกง) ใช้ต้นสด หั่นฝอยหนัก ๒ ขีด
    ๔.ขิงแก่ หนัก ๑ บาท

    กินประมาณ ๓-๕ วัน แล้วกินยาสูตรที่ ๓

    ยาสูตรที่ ๓
    ๑.ฟ้าทะลายโจร ๕ บาท (ซื้อร้านขายยาไทย)
    ๒.ทองพันชั่ง ๕ บาท (ซื้อร้านขายยาไทย)
    ๓.ตะไคร้ (แกง) ใช้ต้นสด หั่นฝอยหนัก ๒ ขีด
    ๔.ขิงแก่ หนัก ๑ บาท
    ๕.ดีปลี หนัก ๕๐ สะตังค์

    กินต่อไปอีกประมาณ ๑๐-๑๕ วัน

    ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ก่อนต้มยาชุดที่หนึ่ง ให้ทำดังนี้
    เมื่อจัดยาเสร็จแล้ว ไปในโบถส์พุทธศาสนา ไปที่เสมาองค์ที่อยู่หน้าโบถส์ เอายาวางไว้หน้าเสมา จุดธูปเทียน บูชาองค์เสมา ว่านะโม ๓ ครั้งแล้วกล่าว
    ข้าแต่เสมาอันสักศิทธิ์ อันเป็นตัวแทนแห่งองค์พุทธ ธรรม สงฆ์ และมหาเทพผู้เป็นใหญ่ทุกชั้นฟ้าข้า ชื่อ ....
    แล้วเล่าให้เสมาฟังถึงความป่วยไข้ของบุตร บอกชื่อโรค ความปรารถนาให้หายป่วย
    ขอให้ยา(บอกชื่อตัวยา)ที่วางไว้ ณ ที่นี้นี้ จงเป็นยาอันศักศิทธิ์ รักษาได้ถูกโรคที่ ด.ช.....เป็นอยู่ให้หายขาด โดยพลัน
    แล้วตัวข้าผู้เป็นบิดา มารดาจักทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เกิดการป่วยไข้นี้ (ระบุลงไปเลยว่าจะทำอะไร เช่นสังฆ์ทาน-เวลาทำจริงให้ทำให่เกินๆไว้) (ต่อลองให้ดีนา สัจจะเป็นสัจจะ)
    แล้วนั่งสวด อิติปิโส ......(บทเดียวสัก ๕-๗ จบ)
    แล้วขอลายามาใช้ บอกขอต่อเสมา ขอให้ยาอันศักสิทธิ์นี้รักษาลูกข้าให้หายโดยพลัน
    แล้วนำยามาต้มกินดังที่บอกไว้
    ไม่แน่ ยาชุดที่ ๑ชุดเดียวอาจหายแล้ว
     
  15. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    ขอบพระคุณมากครับ เดี๋ยวผมจะรีบแจ้งเพื่อน
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    บอกเพื่อน ระวังการกินยาไทยตัวนี้ เพราะยาเย็นมาก
    คอยดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้ตัวเย็นเกิน พอตัวหายร้อนแล้ว ให้ลดปริมาณยาลง
     
  17. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    แห่ะ! แห่ะ! วันนี้ศิษย์มังกร เข้าไปอาละวาดในหลายกระทู้ ตื่นเช้ามาเข้าที่คอมฯ ก่อนเพื่อน

    ยังไม่ได้ทำตัวเป็นแก่นสาร เริ่มเหลวไหล เวลาไม่คอยท่า

    พอดีผู้ใหญ่ในกระทู้ไม่มี เข้ามากราบลาผู้ที่เป็น จขกท

    มังกรไปก่อนครับ จะแปลงร่างเป็นฤาษีลีลา เห่อะ ๆ ๆ
     
  18. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    อาจารย์สุวิคะ แล้วการนอนกรนนี่เป็นโรคไหมคะ จะมีทางรักษาได้ไหม ไปหาหมอโรงพยาบาล เขาก็ให้กิน ยาไทรอยร์ กับพ่นจมูก ก็ดีขึ้นแต่พอหยุดยาก็กรนอีก ถ้าผ้าตัดก็ไม่รับรองว่าจะหายกรนแน่นอน แล้วยังมีโรคฉี่บ่อยอีก ตั้งแต่คลอดลูกคนเล็ก คืนละ 2-3 บางทีก็4ครั้ง อยากไปพบกับอาจารย์ในงาน พลังจิตค่ะ
     
  19. Nexu

    Nexu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +130
    สวัสดีครับ อาจารย์ suwi ผมอยากปรึกษาเรื่องโรคต่างๆของผม ไม่แน่ใจว่า มันเป็นโรคอะไรแน่ชัดครับ แต่ทำให้ผมใช้ชีวิตลำบากเหมือนกัน เลยอยากจะหาวิธีรักษาให้เป็นปกตินะครับ

    1.โรคไม่อ้วน <<< ผมขอเรียกแบบนี้นะครับ คือ กินเท่าไรก็ไม่อ้วนนะครับ ปกติผมเป็นคนกินเยอะนะครับ กินจุกๆจิกๆก็บ่อย แต่ไม่อ้วนเลยครับ น้ำหนักเท่าไรเท่านั้น อาจจะขึ้นมานิดหน่อย ช่วงที่กินเยอะ แต่ไม่มาก แต่พอไม่กิน กินน้อยๆ นี่มันลงไปเท่าเดิมเลยครับ อยากจะเล่นกล้ามให้ตัวใหญ่ หุ่นบึกๆกับเค้าบ้าง มันไม่มีให้เล่นเลย ออกกำลังกายเหมือนกันครับ แต่เท่าเดิม มีแต่กล้ามเล็กๆขึ้นมา น้ำหนักตัวมันไม่ขึ้นซักที

    2.แพ้ความร้อน <<< ขอพูดรวมหมดเลยนะครับ คือ ตาไม่สู้แสงครับ แสงไม่จ้าก็พอได้นะครับ แต่ถ้าจ้ามาก นี่ตาแทบจะปิดเลย (ไม่ได้จ้องดวงอาทิตย์นะครับ) เดินๆอยู่ ก็ต้องหาแว่นกันแดดมาใส่ไว้ตลอด ไม่งั้นไม่สบายตา ร่างกายก็ไม่ชอบแดด ไม่ชอบอากาศร้อน เหนื่อยง่ายมากเวลากลางวัน เหงื่อไม่ค่อยมีนะครับ แต่เวลาร้อนๆแล้วขาดน้ำไม่ได้เลย เหมือนจะแห้งตาย ต้องกินน้ำบ่อยๆ เวลากลางวัน ปกติเป็นคนกินน้ำเยอะอยู่แล้วครับ ตอนกลางวันนี่ยิ่งขาดไม่ได้ (เป็นปัญหาหลักๆเลยครับ เลยทำกิจกรรม กลางแจ้งแทบไม่ได้เลย) <<< ที่กล่าวไปทั้งหมด พอตกกลางคืน มันตรงกันข้ามเลยครับ ตาผมใช้ได้ดีตอนกลางคืน สบายมากๆ และแน่นอนว่าชอบอากาศกลางคืน เย็นๆสบายๆ หัวสมองปลอดโปร่ง เวลากลางคืนเลยชอบทำงานดึกๆดืนๆ ทำให้เป็น สาเหตุของการนอนดึกอีกอย่าง (นอนดึกก็ไม่ดีด้วยใช่ไหมครับ รู้สึกร่างกายไม่แข็งแรงเพราะนอนดึกด้วยครับ)

    3.ปวดหัวเข่าครับ เวลาเดินมาก จะมีอาการนี้ ไม่ก็นั่งนานๆ ต้องยืดแข้งยืดขา ให้มันคลายๆตลอดเวลา อาการนี้เป็นบ่อยมากครับ ไม่รู้ว่าควรรักษาอย่างไรดี

    ขอบคุณอาจารย์ล่วงหน้านะครับ ที่ช่วยแนะนำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2008
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    อาการไม่อ้วน อย่าเพิ่งไปกังวลเลย จงยินดีกับมัน เพราะอายุมากขึ้นมันจะลงพุงให้ กังวลเอง

    การฝึกพลังแบบต่างๆที่ปรากฏอยู่ใน เวป ที่เขียนเล่ากันไปเล่ากันมา เป็นการตอบคำถามและแก้ไขปัญหากันเฉพาะจุดเท่านั้น
    ผู้ที่นำไปใช้โดยไม่รู้ลึกตื้นหนาบาง จะมีปัญหา แม้ว่าจะใช้ได้จริง มีประโยชน์
    แต่สิ่งที่เราได้มามันไม่ครบถ้วน มันขาดในรายละเอียด ที่จะแก้อาการข้างเคียงที่เกิดระหว่างฝึก
    บ้างก็ได้มาส่วนหนึ่งแต่ขาดในอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะเคล็ดวิชาลึกๆ เขาจะไม่บอกกัน แม้แต่ศิษย์ที่มาเรียนด้วย
    นอกจากใครมีปัญหา แล้วมาถาม จึงบอกวิธีแก้ให้ (นั่นคือศิษย์ไปถึงจุดหักเหที่จะก้าวสูงขึ้นแล้ว)
    ซึ่งเคล็ดวิชานี้ ศิษย์ร่วมสำนักบางคนได้บางคนไม่ได้ ไม่ใช่ อ. หวง แต่เป็นเพราะศิษย์ยังไปไม่ถึง
    ทำให้ผู้ฝึกที่ได้เคล็ดวิชาไม่ครบ เลือดลมแปรปรวน ธาตุไฟตัวหนึ่งขาด แต่ธาตุไฟอีกตัวกลับเกิน
    มีอาการ ดูเหมือนร้อนใน หายาแก้ร้อนในกิน อาการยิ่งทรุดหนัก
    พวกนี้เป็พวกที่เรียกว่า ธาตุสับสน

    พวกฝึกพลังจักวาลเริ่มแรก แม้ว่าจะเปิดจักร 100% แล้ว
    แต่ถ้าหยุดเพียงนั้น ไม่ได้เรียนรู้วิธีโคจรลมปราณ ให้ทั่วตัว(การปรับลมปราณจากจักรหนึ่งสู่อีกจักรหนึ่ง)ให้เกิดความสมดุลย์ทั่วร่างกาย
    อาการธาตุไฟแปรปรวนก็จะเริ่มสะสมมากขึ้นๆ จากการฝึก จนปรากฏอาการไม่สบายให้เห็น
    เวลาฝึกสมาธิตามแบบที่เรียนมาก็สบายตัวพักหนึ่ง อีกเดี๋ยวอาการก็เริ่มอีก

    พวกที่เปิดจักร ไม่ถึง 100% จะมีอาการอีกอย่าง บางครั้งนั่งๆอยู่หน้าก็แดงขึ้นมา สลับกับ การขาวซีด
    บางครั้งก็จะมีลักษณะเป็นจ้ำแดงๆขาวๆ พร้อมกัน อันเป็นผลมาจากม้ามและตับทำงานตามจังหวะที่ปราณไหลผ่านอย่างไม่ต่อเนื่อง

    การแก้คือฝึกเดินปราณเชื่อมทุกจักระ ระบายลมปราณในแต่ละจักรให้สมดุลย์กัน และไหลอย่างต่อเนื่อง
    คำว่าสมดุลย์ไม่ได้หมายถึงทุกจุดมีพลังเท่ากัน แต่หมายถึงมีพลังมากบ้างน้อยบ้าง และไหลถ่ายเท ให้ทำงานร่วมกันอย่างสมดุลย์

    อาการปวดเข่า ปกติจะมาจากปัญหาของสะไพก เคลื่อนไปเล็กน้อย อันเกิดจากอริยาบถในการดำรงค์ชีพ
    เมื่อเดินมาก หิ้วของหนัก นั่งตะแคงนานๆ อาการปวดจะลงเข่า
    ผู้ที่ฝึกปราณมา สามารถใช้ปราณรักษาตัวเองได้ ชั่วคราว
    แต่ถ้ารู้จักใช้การเดินปราณ และการเคลื่อนไหวด้วยท่าโยคะประกอบกัน จะรักษาโรคเหล่านีได้เด็จขาด

    ท่าโยคะบางท่าฝึกแล้วอาการโรคจะมากขึ้น บางท่าจะทำให้ดีขึ้นและหายเด็จขาด
    ให้ศึกษาท่าทางของโยคะ ว่าท่าใดเกิดประโยชน์เช่นใด ท่าใดให้โทษเช่นใด
    ทุกท่ามีทั้งประโยชน์และโทษ
     

แชร์หน้านี้

Loading...