ขอปิดกระทู้ แจกฟรี ไม่มีเงื่อนไข ขุนแผนผงพรายเจ้าเงาะ หลวงปู่ทอง วัดเกาะ เท่านี้ครับ

วิธีการบูชาพระพิฆเนศอย่างถูกต้อง
การบูชาพระพิฆเนศ หากไม่สะดวกที่จะจัดเตรียมอย่างยิ่งใหญ่ ก็สามารถเตรียมแต่พอประมาณ เพื่อการสวดบูชาได้ทุกๆวัน ซึ่งหลักๆ แล้วมีสิ่งที่ต้องเตรียม เพื่อการบูชาพระพิฆเนศ ดังต่อไปนี้

อุปกรณ์
1. รูปภาพ หรือ เทวรูปพระพิฆเนศ ที่เราบูชาอยู่<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
2. ธูป หรือ กำยาน (อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้)
ถ้าใช้กำยาน ให้ใช้ 1 อัน ใช้ได้ทุกกลิ่น
ถ้าใช้ธูป จะใช้กี่ดอกก็ได้...ขอย้ำ!! กี่ดอกก็ได้นะครับ
เพราะที่อินเดียจริงๆแล้วไม่มีการกำหนดจำนวนธูปมาตั้งแต่โบราณแล้ว
หรือถ้าจะให้สบายใจ ไหว้แบบคนไทยก็ใช้ 3 ดอก 5 ดอก 9 ดอกครับ<o></o>
3. กระถางธูป หรือ แท่นวางกำยาน
ใส่ดิน หรือผงธูปลงในกระถางธูป
สำหรับแท่นวางกำยานก็มีขายหลายแบบ ส่วนใหญ่ทำจากกระเบื้องเซรามิก ดินเผา หรือจะซื้อถ้วยเล็กๆ ตื้นๆ แบบที่ใส่พริกน้ำปลา มาใช้แทนก็ได้ครับ<o></o>
3. ประทีป (ดวงไฟ เทียน หรือ ตะเกียงน้ำมัน)
ใช้เป็นไฟส่องสว่าง ควรมี 2 ดวง หรือเทียน 2 เล่ม
ถ้าใช้เทียน ก็ปักลงแท่นให้เรียบร้อย
ถ้าใช้ตะเกียงน้ำมัน ตรวจสอบน้ำมันให้มีเพียงพอ
เครื่องสังเวย <o></o>
1. ดอกไม้
ถวายได้ทุกพันธุ์ ยกเว้นพันธุ์เดียวคือดอกเยอบีร่า (คลิกที่นี่เพื่อดูรูปดอกไม้ต้องห้าม) ควรเป็นดอกไม้สด จะร้อยเป็นพวง เป็นช่อ หรือดอกเดียวก็ได้ ให้ล้างทำความสะอาดก่อน<o></o>
2. น้ำสะอาด
อันนี้ต้องมี ขาดไม่ได้เด็ดขาดนะครับ ห้ามใช้น้ำจากขวดเดียวกับที่เคยเปิดกินมาแล้ว แนะนำให้จัดขวดน้ำแยกไว้เพื่อรินถวายพระพิฆเนศโดยเฉพาะ โดยเทใส่แก้วเล็กๆ ซึ่งแก้วน้ำนี้ก็ต้องเป็นแก้วที่จะใช้ถวายพระพิฆเนศโดยเฉพาะเช่นเดียวกัน<o></o>
3. นมสด
(หากจัดหาไม่ได้ ไม่เป็นไร ถวายน้ำเปล่าอย่างเดียวก็ได้) นมที่ใช้ถวาย ควรเป็นนมสด (จืด) ที่ไม่ใช่รสหวานหรือรสดัดแปลง เช่น รสช็อคโกแล็ต รสสตรอเบอรี่ หรือนมเปรี้ยวดัดแปลงต่างๆ สามารถเสียบหลอดไว้ได้ หรือถ้าจะให้ดีก็เทใส่แก้วเลยครับ<o></o>
4. ผลไม้
(หากจัดหาไม่ได้ ไม่เป็นไรเช่นกันครับ) ผลไม้อะไรก็ใช้ถวายได้ ไม่ต้องแพงมากครับ ใช้ผลไม้ตามฤดูกาล สับเปลี่ยนไปเรื่อยๆก็ดี ผลไม้ที่แนะนำคือ กล้วย และ มะพร้าวผ่าซีก ใส่ถาดหรือจานสะอาด<o></o>
5. ขนมหวาน
ห้ามใช้ขนมที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ (ประมาณว่าแซนวิชหมูหยองนี่ห้ามนะครับ) ควรเป็นขนมที่ทำ
กะทิ จัดใส่ถาดหรือจานสะอาด ปัจจุบันอนุโลมให้มีส่วนผสมของไข่ได้ มิฉะนั้นจะหาขนมมาถวายยากมากๆ<o></o>
***ห้ามถวายของคาว เช่น ข้าวผัดกระเพรา ก๋วยเตี๋ยว หัวหมู เป็ด ไก่ตอน ฯลฯ เพราะไม่เหมือนกับการเซ่นไหว้เจ้าแบบจีนนะครับ
***จาน ถาด แก้วน้ำ ให้จัดไว้สำหรับบูชาพระพิฆเนศเท่านั้น ใช้เสร็จแล้วล้างให้สะอาด เก็บแยกไว้
ขั้นตอนการบูชา
เพื่อการสวดบูชาให้ได้ผลสูงสุด ควรเลือกเวลาที่เงียบสงัด เช่น เช้าตรู่ หรือ ก่อนนอน จะได้ไม่มีเสียงรบกวนจากผู้อื่น <o></o>
1. นำของสังเวยทั้งหมด (น้ำ นม ผลไม้ ขนมหวาน) จัดวางไว้หน้าเทวรูป<o></o>
2. ดอกไม้ ถ้าเป็นช่อหรือดอกเดียวให้วางไว้ข้างหน้า ถ้าร้อยเป็นพวง สามารถนำไปคล้องที่พระกรหรือศาสตราวุธของเทวรูปได้<o></o>
3. จุดกำยาน ธูป ประทีป เทียน<o></o>
4. การพนมมือ ให้พนมมือแบนราบติดกันนะครับ ไม่ใช่แบบดอกบัวตูม แล้วตั้งจิตให้สงบนิ่ง<o></o>
5. เมื่อจิตสงบนิ่งแล้ว ให้ เริ่มสวดบูชา...
การสวดมนต์นั้น ท่านสามารถใช้บทสวดใดก็ได้เพียงบทเดียว หรือจะสวดหลายๆ บทให้ต่อเนื่องกันก็ยิ่งดี
บทสวดมนต์ทั้งหลาย สามารถดูได้จากลิ้งก์ดังต่อไปนี้
- บทสวดมาตรฐาน 10 บท และบทสวดสรรเสริญ 17 บท
- บทสวดปางต่างๆ ทั้ง 32 บท
- บทสวดพระนาม 108 บท

การสวดมนต์นั้น หากยังจำบทสวดหลายๆบทไม่ได้ ก็ให้เลือกมา 1 บทที่จำได้
ส่วนใหญ่นิยมเป็น โอม ศรี คะเนศายะ นะมะห์
หากมีเวลาน้อย สวดเพียง 1 จบก็เพียงพอ
แต่ถ้ามีเวลามาก แนะนำให้ทำสมาธิด้วยการสวดมนต์ โดยวนไปเรื่อยๆ หรือจะเป็น 108 จบก็ดี
หรือจะเปิดเพลงขณะบูชาก็ดีครับ (สามารถโหลดเพลงได้ที่หน้าแรก)

6. ถวายไฟ หรือการทำ อารตี โดยใช้เทียน (หรือตะเกียงสำหรับทำอารตีโดยเฉพาะ)
ยกขึ้นหมุนวนเป็นวงกลม (ตามเข็มนาฬิกา) 3 รอบ แล้วใช้ฝ่ามืออังไฟที่วนนั้นมาแต่ที่หน้าผาก
เพื่อให้เกิดความสว่างแก่ดวงปัญญาและชีวิต หรือแตะบริเวณอื่นๆ ที่มีอาการเจ็บปวด<o></o>
7. ขอพรตามประสงค์
จากนั้นให้กล่าวคำว่า "โอม ศานติ...ศานติ...ศานติ" เพื่อขอความสันติให้บังเกิด เป็นอันเสร็จสิ้น<o></o>
8. ลาเครื่องสังเวย
ถ้าจุดเทียนไว้ สามารถเป่าเทียนให้ดับได้เลย เพื่อป้องกันอัคคีภัย (ใช้เทียนเล่มเดิมนี้ จุดบูชาในวันต่อไปได้เรื่อยๆ จนเทียนหมด)
ถ้าจุดธูปหรือกำยานไว้ ต้องรอให้หมดดอก จึงจะลาเครื่องสังเวยได้<o></o>
นำเครื่องสังเวยต่างๆ ยกขึ้นจรดหน้าผากเพื่อขออนุญาตลาเครื่องสังเวย อย่าทิ้งไว้ให้มดขึ้นหรือเน่าบูด
น้ำเปล่า - สามารถนำมาล้างหน้าหรือแต้มหน้าผากเพื่อเป็นสิริมงคล
นมสด - ให้เททิ้งครับ ปล่อยไว้ค้างคืนจะทำให้นมบูด
ผลไม้และขนม - ยกออกมาใส่จาน เพื่อมาแบ่งกันทานในครอบครัว ถือเป็นอาหารทิพย์
(ไม่ควรทานทั้งๆที่อยู่ในจานหรือถาดสำหรับถวาย เพราะห้ามใช้ปนกับของท่านนะครับ)<o></o>
องค์ท่านโปรดให้บูชาตามแต่กำลังทรัพย์และฐานะของผู้ศรัทธาจะอำนวย (และตามแนวทางของเว็บไซต์สยามคเณศ ที่ไม่ส่งเสริมให้บูชาแบบฟุ่มเฟือย)<o></o>
อาจจะเลือกถวายขนมกับผลไม้หลากหลาย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือถวายของบูชาครั้งใหญ่ๆ เฉพาะวันที่ตรงกับวันเกิดของตน แต่หากท่านใดสามารถจัดหาของบูชาได้มากๆ มีขนมหลากหลาย ผลไม้มากอย่าง ได้เป็นประจำ ก็ย่อมเป็นการดีอยู่แล้ว<o></o>
จะบูชาอย่างไรก็ตาม หลักสำคัญคือ ขณะสวดบูชาให้ตั้งสติให้แน่วแน่ สร้างบรรยากาศให้เกิดสมาธิ สวดมนต์ให้ถูกต้อง บูชาด้วยใจที่บริสุทธิ์ ไม่ขอพรด้วยความโลภ ไม่ขอพรที่มีการสาบแช่งผู้อื่น ไม่ขอพรด้วยความท้าทาย หากปฏิบัติขั้นตอนใดผิดพลาดก็ให้ขอขมา บารมีขององค์ท่านก็คุ้มครองเราได้เท่าๆกันครับ

 

ยินดีด้วยท่าน งวดนี้ไม่ได้ซื้อ ถ้าซื้อก็คง.....

















































โดน...rat_wting กินเรียบ

 

คับผมอธิษฐานขอไว้วันที่ไปหาพ่อปู่ปราจีนน่ะ ตอนที่เปิดร่าง
ต้องไปแก้บนซะแว้ว ฮิๆ

 

ดีใจด้วยๆ

 

ขอบคุณค้าบ ไว้มีโอกาสต้องเอาปัจจัยไปทำบุญๆ
เอ้อ อาจารคับ เสานี้ไป ขอนแก่น ไปหา ฤาษีคำภีร์ กับตาแดท สนจัยมั้ยค้าบ

 

สนนะ แต่ว่า ไม่ว่างอ่ะดิ มีของดีไร เอามาฝากมั่งนะ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>HellBoy, ANUSORN78, jimmyuro </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดีครับ คุณหมอจิมมี่

 

สวัสดีตอนเย็นครับอาจารย์และสมาชิกทุกท่านด้วยครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>สราวุฒิ รูปพรม </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดีครับคุณ สราวุฒิ รูปพรม

 

ท้าวราหู หลวงปู่กาหลงครับ

 

สวัสดีครับ คุณ หนึ่ง
เรื่อง ธนบัตร ขวัญถุง ขอเวลานิดนึงครับ กำลังเคลียร์ทีละเรื่องครับ
รอนิ้ดส์ครับ

 

ท่านมีนามว่าหลวงพ่ออภิชัย (ป๋อง)
วัดเขาโบสถ์ อ.เมือง ระยอง
ท่านเป็นพระที่ค่อนข้างแปลก ท่านชอบคนจริงใจ เจตนาดี (รู้ด้วยนะ จิตไวเหมือนกันหรือมีเทวดาฟ้องก็ไม่รู้ผมเองก็ยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ท่านรู้จริงๆ) ถ้าใครจะไปหาท่านตั้งใจในด้านของความดีรับรองไม่ผิดหวังแต่ต้องไปวันธรรมดา หรือวันหยุดที่ไม่ตรงกับเสาร์ อาทิตย์ เสาร์ อาทิตย์ท่านไปเรียน หรือไม่ต้องไปตอนเย็นๆครับ (ท่านชอบฉันเป๊บซี่)
ส่วนถ้าประเภทฝากพาไป เป็นธุระไม่ค่อยเป็นผลดีเท่าไหร่ ท่านชอบประเภทพึ่งตนเอง ท่านเคยบอกผมว่าท่านไม่คิดให้ใครไปนับถือท่าน แต่ท่านให้โอกาสคนทุกคน(แต่ท่านเคยบอกว่าเคยอธิษฐานไว้ว่า ณ สถานที่นี้ใครที่เคยทำบุญร่วมกันมา เป็นลูกหลาน พี่น้อง ถึงเวลาก็จะมารวมตัวที่ท่าน มาหาท่าน คล้ายท่านจะสงเคราะห์จำพวกที่ผมพูดถึงก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่า พวกอื่นท่านไม่สงเคราะห์ แต่อาจจะน้อยกว่าพวกแรก ส่วนวัตถุมงคลของท่านท่านอธิษฐานว่า ของๆฉันช่วยทุกคนที่อยู่ที่ตัว (ขนาดโจรขโมยรถยังช่วยเลยมีประสบการณ์เมื่อเร็วนี้)
ท่านเคยเล่าให้ฟังที่ท่านจะบวชเป็นเพราะชีวิตมันเจอทางตันในด้านของเกเร เพราะไม่มีใครกล้ามีเรื่องด้วยก็คงเหงามั้ง ท่านบอกมันเลวถึงที่สุดแล้ว ท่านจึงตัดสินใจบวช ก็บวชอยู่ที่ระยอง วัดปากน้ำ ระยอง โดยมีเจ้าคุณโต่งวัดเพ บวชให้ จำไม่ได้ว่ากี่พรรษาที่อยู่ระยอง บวชก็สมาทานไม่สวมรองเท้าตลอดชีวิต
มีเรื่องที่ท่านเล่าให้ฟังหลังจากบวช ท่านโดนผีหลอก หรือท่านหลอกผีก็ไม่รู้ เรื่องก็มีอยู่ว่า เพื่อนท่านชอบสวดมนต์ ท่านก็เอาก้อนหินไปโยนแกล้งทำผีหลอกเพื่อน ไปถึงกุฏิเพื่อนได้ยินเสียงเพื่อนสวดมนต์อยู่ชัดแจ๋ว โยนก้อนหิน โพะ เงียบ เสียงสวดต่อ โยนก้อนหินอีก โพะ เงียบ เสียงสวดต่อ สงสัยไม่กลัวก็เลยเลิก กลับมาเพื่อเตรียมตัวออกบิณฑบาต ผลปรากฎว่าเพื่อนที่ไปแกล้งมาตั้งนานแล้ว ท่านก็เลยบอกว่าแล้วที่สวดมนต์นะใคร กลายเป็นว่าท่านนะหลอกผีแทน หลังจากนั้นท่านก็ออกจากวัดโดยไม่ได้บอกใครตั้งใจไปเรื่อยๆ ไม่พกเงิน ไม่ขึ้นรถใช้เดินอย่างเดียวท่านเล่าให้ฟังว่าท่านไปฝึกมาหลายที่ที่ดังในสมัยนั้น หลวงปู่ชา สวนโมกข์ ธุดงค์ไปทั่วประเทศ ไม่มีเงิน ไม่มีรองเท้า ป่ากาญจนบุรีท่านอยู่นานสุด 10 ปีได้ ท่านบอกว่าตอนอยู่ในป่าอยู่องค์เดียวตั้งใจว่าถ้าไม่สำเร็จ เห็นสัจธรรมประการหนึ่งประการใดจะไม่ออกจากป่าเด็ดขาด
ในระหว่างที่อยู่ป่าระยะทางที่ท่านจะไปทำวัตรสวดมนต์หมู่คณะท่านบอกต้องเดินไปกลับหลายกิโล ขึ้นเขาลงเขาทุกวัน วันไหนนำป่าไหลหลากท่านต้องถอดเครื่องแต่งกายเทินหัวท่าน กลางคืนก็เดินแบบมืดๆ ท่านทั้งหลายถ้าใครเคยไปป่าจะรู้ว่ามืดแค่ไหน ท่านบอกว่าครั้งหนึ่งเคยฝึกเอาชนะความกลัวด้วยการนั่งบนหน้าผาห่างหุบเหวไม่ถึง 1 เซ็น นั่งอยู่อย่างนั้นจนชินท่านบอกว่าแค่สัปงกก็คงจะตกหน้าผาแน่
หลังจากนั้นท่านก็ท่านก็ธุดงค์เข้าป่าลึกเจอรอยเสือเดินนำหน้าท่านไปใหม่ตัววัดจากรอยเท้าเห็นจะใหญ่มาก ถามท่านว่ารู้สึกอย่างไร ท่านก็บอกเฉยๆ บางทีก็เจอบ้านคน มาใส่บาตร มีข้าว กับดอกไม้ เสียดายท่านเล่าไว้เยอะแต่จำได้บ้างไม่ได้บ้าง
ท่านเล่าต่อไปว่าเคยธุดงค์ไปพักที่วัดถ้ำผาจม เจอท่านอาจารย์วิชัย ท่านบอกท่านชอบไปนั่งในถ้ำ มีความรู้สึกเหมือนมีน้ำไหลผ่านถ้ำใต้ที่ท่านนั่ง มีอยู่ครั้งหนึ่งก็คุยกันถึงหลวงปู่ครูบาอาจารย์ ผมก็คุยถึงหลวงปู่ผมว่าใจดี อย่างนั้น อย่างนี้ ท่านก็คุยบ้างว่าหลวงปู่ที่ท่านไปเรียนมาก็ใจดีเหมือนกัน เก่งเหมือนกัน อยากรู้มั้ยว่าท่านพูดถึงองค์ไหน หลวงปู่เจือไง ตอนนั้นที่ท่านไปหลวงปู่เจือยังไม่ดัง ท่านเคยไปอยู่กับหลวงปู่เจือ เรียนทำเบี้ยแก้ กับยาจินดามณี
ความเก่งของหลวงปู่เจือ ท่านเคยกลืนปรอทให้ท่านเห็นด้วย ต่ออีกนิดตอนไปวัดท่านใหม่ๆได้คุยกับโยมป้าที่นิมนต์ท่านอยู่ที่วัด ป้าเล่าว่าตอนที่ท่านจะมาที่วัดเขาโบสถ์ ป้าฝันว่ามีคนกลิ้งธรรมจักรมาให้ป้ารับไว้
ในด้านของธรรมะ บางทีท่านอารมณ์ดีท่านจะบอกกล่าวให้ฟัง เรื่องอภิญญาสมาบัติเฉยเลย ไอ้เราก็รู้บ้างไม่รู้บ้าง บางทีก็ได้แต่นั่งอ้าปากหวอ แต่ก็ประดับความรู้ไว้
เอาเรื่องวัตถุมงคลซักนิดหนึ่งจะได้รู้ว่าท่านก็ขลังสุดๆเหมือนกัน หนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน องค์เล็กลอยองค์จิ๋วแต่แจ๋ว
เรื่องนี้ผมอยู่ในเหตุการณ์ ผมนั่งทำงานอยู่ที่ศาลาพอดี ก็เห็นมีรถโดยสารเช่าเหมาลำมาจอด ส่วนใหญ่ที่เห็นมีแต่ผู้หญิง ก็ขึ้นมาพบหลวงพ่อ พอคณะกลับไปก็ได้มีโอกาสสนทนากับหลวงพ่อ ท่านก็เล่าให้ฟังว่า มาขอหนุมานท่าน ท่านก็ไล่เลียงถามก็ได้ความว่าเพื่อนกันถูกรุมข่มขืนโดนแก้ผ้าหมดแล้ว ผลปรากฏว่าไอ้พวกนั้นเห็นอะไรไม่รู้ตกใจหน้าตาตื่นกลัววิ่งป่าราบเลย ในคอมีเพียงหนุมานหลวงพ่ออยู่องค์หนึ่งเท่านั้น วันนี้ก็เลยชวนสมัครพรรคพวกมาขอหนุมานหลวงพ่อ

ก๊อปมาให้อ่านครับ จากเวปสวนขลัง เข้าไปอ่านประวัติของอ.ธรรมนูญ น่าทึ่งมากครับ อาทิตย์นี้จะลองไปกราบท่านดู ส่วนวัดเขาโบสถ์ตัวผมเคยไปวัดท่านเหมือนกันเลยสี่แยกทับมาไม่ไกล

 

ของดีจากหลวงพ่อ รอได้เสมอครับ

 

:VO:VO:VO

 

สวัสดี...ทุกท่านครับ

อ่านจากที่คุณหนึ่งcopyมาให้อ่านดู เห็นท่านพูดเกี่ยวกับหลวงปู่เจือ และท่านเจ้าคุณโต่งแล้ว เรื่องความกตัญญู เทิดทูน ครูบาอาจารย์ ท่านไม่เป็นสองรองใครเลยครับ...ผมเองไม่ค่อยทราบรายละเอียดของท่านได้ยินแต่ว่าหนุมานของท่านดี...
;aa41

 

ไชโย log In ได้แล้วครับ แทบแย่
สวัสดีครับทุกๆท่าน

 

ขอถามคุณโดเร่
ผมมีพระพิคเนศวรอยู่หน้ารถ สูงประมาณ 2 นิ้ว
ควรบูชาอย่างไรให้ถูกต้องครับผม

ดีใจด้วยที่ถูกหวยครับ เล่นเอาตาผมร้อนเลย เพราะผมโดนกินไป 320 บาท

 

รำลึกถึงท่านคับ ถ้าบูชาก้ดอกดาวเรืองหรือมาลัยก้ดีคับ
บทบูชา ก้ โอม ศรีคเณศายะ นะมะห์

 

ฮือฮาไม่เลิก ตะกรุดกาสะท้อน


ฮือฮาไม่เลิก ตะกรุดกาสะท้อน สมาชิก อบต.ไทรย้อย จ.แพร่ ถูกคนร้ายใช้ปืนลูกซองยาว 5 นัด ลอบยิงระยะห่างเพียง 10 เมตร กระสุนเพียงถากหนังศีรษะผมหลุดกระจุย รอดตายราวปาฏิหาริย์ เจ้าตัวงงรอดตายมาได้อย่างไร เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 กย.50 นายถาวร นาจักร อายุ 59 ปี สมาชิก อบต.ไทรย้อย อยู่บ้านเลขที่ 176 ม. 4 ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้เดินทางมากราบนมัสการครูบาน้อย เตชปุญญฺโญ

พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา เจ้าของตะกรุดกาสะท้อนกลับ พร้อมทั้งให้ครูบาน้อยเป่ากระหม่อม พร้อมได้โชว์บาดแผลที่ถูกกระสุนปืนลูกซองยาวยิงถากศีรษะจนหนังศีรษะและผมหลุดไปกระจุกหนึ่ง และบริเวณหัวไหล่ด้านขวากระสุนฝังใน พร้อมทั้งได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับครูบาน้อยได้รับทราบ โดยครูบาน้อยก็ได้นำตะกรุดของนายถาวร นาจักร มาดูพบว่าเป็นตะกรุดมหากาสะท้อนที่ครูบาน้อยทำขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2532 ซึ่งตัวตะกรุดเป็นด้ายสายสิญจน์และพันด้วยคลั่งพุทธา แบบรุ่นเดิม จากนั้นครูบาน้อยก็ได้นำตะกรุดมหากาสะท้อนกลับรุ่นใหม่เพิ่มให้กับนายถาวร อีก พร้อมทั้งเตือนสติให้ศีลให้พร

นายถาวร นาจักร สมาชิก อบต.ไทรย้อย ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 สค.50 ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ที่บ้านของตนเลขที่ 176 หมู่ 4 จ.แพร่ หลังจากที่ตนกลับจากงานศพก็ได้มีเพื่อนๆ ของตนมานั่งพูดคุยสนทนากันที่บ้านของตน ขณะนั้นได้มีคนร้ายได้เดินเข้ามาในบริเวณบ้าน ตนคิดว่าเป็นชาวบ้านปรากฏว่าคนร้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาและยิงมายังตนทันที ระยะประมาณ 10 เมตร กระสุนถูกที่หน้าอกขวาของตนทะลุ จำนวน 2 นัด และอีก 2 นัด

ถากศีรษะของตนผมหลุดเป็นกระจุกเป็นแผล เพื่อนของตนได้ตระโกนว่าตนโดนยิงจากนั้นก็พากันวิ่งไล่จับคนร้าย คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ เพื่อนๆ ได้นำตนส่ง ร.พ.สาเหตุของการลอบยิงครั้งนี้ตนเชื่อว่าน่าจะมาจากเรื่องที่ตนเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนหาตัวคนร้ายและผู้บงการอยู่ นายถาวรได้เปิดเผยอีกว่า ในตอนนั้นตนได้พกตะกรุดกาสะท้อนของครูบาน้อย ซึ่งตนได้เคยมาเช่าบูชาครั้งแรกสมัยที่ครูบาน้อยทำตะกรุดกาสะท้อนนี้ออกมาครั้งแรกเป็นรุ่นแรก เป็นด้านสายสิญจน์พันด้วยคลั่งพุทธาสีดำ เมื่อประมาณปี 2532 ตอนนั้นยังจำได้กุฏิไม้สักของครูบาน้อยเพิ่งสร้างเสร็จ หลังจากนั้นมาตนก็ได้พกตะกรุดกาสะท้อนของครูบาน้อยตลอด พร้อมกับพระเครื่องอีกหลายองค์

ตอนที่ถูกยิงนั้นตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะพระเครื่องที่ตนพกติดตัวร่วมกับตะกรุดกาสะท้อน เข้าใจผิดไปหลายวันและเดินทางไปกราบนมัสการพระเกจิเจ้าของพระเครื่องนั้นๆ ที่ตนพกติดตัวมา กระทั่งต่อมาตนได้เห็นข่าวเรื่องของตะกรุดกาสะท้อนสำแดงเดช มีคนรอดตายหลายคน รวมทั้งยังมีทหารและหน่วยงานต่างๆ แห่มาบูชาตะกรุดกาสะท้อนกลับ ตนจึงคิดว่าสาเหตุที่กระสุนปืนลูกซองยาวยิงถากศีรษะตนนั้นคงเป็นเพราะบารมีของตะกรุดกาสะท้อนเป็นแน่ จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาหาครูบาน้อย เพื่อขอพรจากท่านพร้อมทั้งได้บูชาตะกรุดกาสะท้อนรุ่นใหม่ของครูบาน้อยติดตัวคู่กับตะกรุดกาสะท้อนที่ตนมีอยู่ ห้อยคู่ติดตัวกันทั้งสองตะกรุดเลย วิถีกระสุนลูกซองยาวระยะขนาดนั้น หากใครโดนก็ศีรษะแบะแล้ว

แต่นี่กระสุนกลับแฉลบถากแค่ศีรษะ ถือว่าเป็นบุญของตนที่ตนรอดชีวิต เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีครูบาน้อยและตะกรุดกาสะท้อน ตนจึงได้เดินทางมากราบนมัสการครูบาน้อยในวันนี้ที่วัด ด้านครูบาน้อย เตชปุญญฺโญ พระเกจิชื่อดัง ได้เปิดเผยว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตใจความบริสุทธิ์ การมีเครื่องรางของขลังไว้กับตนก็เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ หากใจบริสุทธิ์หมั่นทำความดีรักษาศีล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครองเอง เหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์เรานั้นเกิดจากความตื่นเต้น ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ ความอิจฉาริษยา ความรักและความชัง คือเป็นความรุ่มร้อนวุ่นวาย ดังนั้นเราต้องนำพาซึ่งความสัจธรรมของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติให้เห็นพ้อง คือให้มีทั้งเมตตา กรุณา อุเบกขา ยิ่งเก็บก็ยิ่งหาย ยิ่งให้ก็ยิ่งมา ยิ่งเก็บก็ยิ่งหาย

ยิ่งให้ก็ยิ่งมี และสุดท้ายเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แล้วจะทำให้เราสุขกายสุขจิต ตะกรุดกาสะท้อนที่นายถาวรนำมาให้อาตมาดูแล้วเขาบอกว่าเขารอดตายราวปาฏิหาริย์ นั้น ตะกรุดที่เขาได้เช่าบูชาไปนั้นเป็นรุ่นแรกที่อาตมาได้เริ่มทำขึ้นจะเป็นด้ายสายสิญจน์พันด้วยคลั่งพุทธา เมื่อประมาณ 10 ปีกว่า ซึ่งรูปแบบของตะกรุดกาสะท้อนก็ได้พัฒนามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันอยู่ในหลอดแก้วมีห่วงห้อยอย่างดี แต่การปลุกเสกตัวอักขระที่ลงในตะกรุดเหมือนเดิมทุกอย่าง ก็แล้วแต่ศรัทธาและความเชื่อของ


จัดเป็นตระกรุกที่จิ๋วแต่แจ๋วครับ ราคาเยาวชนอีกต่างหาก รู้มาว่ามีคนไปเหมาทีเดียว 200 ดอก สุดยอดๆ