ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

แผ่นดินไหวที่จีนทำบ้านเรือนเสียหายมากกว่าแสนหลัง​

​

​

ปักกิ่ง 31 ส.ค.- สื่อทางการจีนรายงานว่า แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนและยูนนาน นอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คนแล้ว ยังทำให้บ้านเรือนเสียหายมากกว่า 100,000 หลัง มีประชาชนเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 440,000 คน

แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.30 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 14.30 น.วันเสาร์ตามเวลาในไทย สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐระบุว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากพื้นที่ใกล้ชายแดนเสฉวน-ยูนนานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 30 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ดิน 10 กิโลเมตร มีความรุนแรง 5.7 ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แผ่นดินไหวมีความรุนแรง 6.1 โรงเรียนเสียหาย 656 หลัง การเข้าไปบรรเทาทุกข์เผชิญอุปสรรคจากฝนตกหนัก และสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ขาด ๆ หาย ๆ .- สำนักข่าวไทย

2008-08-31 11:16:01

น้ำท่วมมณฑลหูเป่ยของจีน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน​

​

จีน 31 ส.ค. - มณฑลหูเป่ยของจีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมหนัก พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน

มณฑลหูเป่ยทางภาคกลางของจีนต้องเผชิญกับฝนตกหนักและน้ำท่วม ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 3 คน โดยที่เขตฮองอันนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก ถนนหลายสายถูกน้ำท่วม ทำให้ทั้งรถยนต์และชาวบ้านต้องลุยน้ำที่สูงท่วมหัวเข่า และในบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ฝนที่ตกหนักในช่วงนี้ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 4 ล้านคน และสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่พื้นที่ทำการเกษตรทั่วมณฑลหูเป่ย และมีรายงานว่าเกิดดินถล่มในหลายจุด อย่างไรก็ดี ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าให้การช่วยเหลือและนำเต็นท์ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนไปอยู่ในที่ปลอดภัย. -สำนักข่าวไทย

2008-08-31 14:06:26

ญี่ปุ่นจัดซ้อมรับเหตุแผ่นดินไหวประจำปี​

​

โตเกียว 31 ส.ค.- ญี่ปุ่นจัดการซ้อมรับเหตุแผ่นดินไหวประจำปีในกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่นวันนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในกรุงโตเกียว และทหารญี่ปุ่นหลายร้อยนาย ร่วมการซ้อมพร้อมกับกองกำลังสหรัฐ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากเกาหลีใต้ และไต้หวัน

ในการรำลึกถึงเหตุแผ่นดินไหว เกรท คันโตะ เมื่อวันที่ 1 กันยายนปี 2466 ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 200,000 คน ฝ่ายบริหารกรุงโตเกียวจึงได้จัดการซ้อมรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีประชาชนราว 15,000 คน ร่วมการซ้อมที่จัดขึ้นในหลายพื้นที่ของกรุงโตเกียว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 600 คน ทหารญี่ปุ่นอีก 650 นาย ตำรวจ และพลเรือนจำนวนมากร่วมซ้อมกู้ชีพประชาชนจากซากปรักหักพังของอาคาร ที่ท่าเรือกรุงโตเกียว ขณะที่กองทัพสหรัฐระดมทหารเรือ 700 นาย และเรือยูเอสเอส เอสเซ็กซ์ ไปที่อ่าวโตเกียวเพื่อซ้อมการอพยพประชาชน

นายโตชิโอะ วาตานาเบะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารกรุงโตเกียว กล่าวว่า การซ้อมรับเหตุแผ่นดินไหวร่วมกับหน่วยกู้ภัยต่างชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเหล่านั้นเข้าไปกู้ภัยในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวในกรุงโตเกียว ขณะเดียวกันญี่ปุ่นจะส่งหน่วยกู้ภัยไปช่วยเหลือ หากเกิดแผ่นดินไหวในประเทศเหล่านั้น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวร้อยละ 20 ของแผ่นดินไหวทั่วโลก ทำให้ชาวกรุงโตเกียวหลายคนหวั่นเกรงว่า จะมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเร็วนี้.-สำนักข่าวไทย

2008-08-31 15:16:49

ประชาชน 20,000 คน ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมที่บังกลาเทศ​

​

ธากา 31 สค. - สื่อในบังกลาเทศรายงานว่า ประชาชนอย่างน้อย 20,000 คน ทางภาคเหนือของบังกลาเทศ ติดค้างอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ภายหลังแม่น้ำหลายหลายเอ่อล้นฝั่ง โดยมีประกาศเตือนสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจรุนแรงขึ้น

หนังสือพิมพ์ยูไนเต็ด นิวส์ ออฟ บังกลาเทศ รายงานว่า พืชผลบนพื้นที่ 62,500 ไร่ จมอยู่ใต้น้ำในพื้นที่ทางภาคเหนือ ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะ เดลี่ สตาร์ รายงานว่า คนงานอย่างน้อย 60,000 คน ต้องตกงานเพราะน้ำท่วม
ด้านศูนย์พยากรณ์อากาศรายงานว่า พื้นที่ต่ำทางภาคเหนือและภาคกลางของบังกลาเทศ มีแนวโน้มจะเผชิญกับภาวะน้ำท่วมมากขึ้น ภายใน 2-3 วันนี้ ขณะที่เขตตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีพรมแดนติดต่อกับอินเดียก็เสี่ยงถูกน้ำท่วมเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

2008-08-31 15:38:34

ที่มา http://news.mcot.net

 

ใช่ๆ ถ้าชลบุรีหายไป ภัทรก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหนเหมือนกันค่ะ อยู่นี่จนชินแล้วไปอยู่ที่อื่นมีหวังตายกับตายลูกเดียว :'''(

 

ประเทศไทยไม่มีภัยพิบัติใดๆ

ไม่มีเลยใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นปีนี้ ปีหน้า ปีต่อไป จนถึงปีไหนๆที่เขาแจ้งข่าวกันมา คุณพลพรรคตระกูลหล่อช่วยกันคอนเฟิร์มดีป่ะ



ถ้าไม่มีก็ดีแล้ว มีใครเขาอยากให้เกิดบ้างล่ะน้อ

 

​

[music]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=2998[/music]​

รัตนสูตร ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ​

บทสวดมนต์เพื่อปกป้องรักษาประเทศ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ​

ให้พ้นจากภัยต่าง ๆ ด้วยการสวดมนต์ รัตนสูตรและธัมมจักกัปปวัตตนสูตร​

รัตนปริตร (รัตนสูตร)​

เป็นบทสวดเพื่อป้องกันภัย ๓ ประการ ​

ที่เกิดในเมืองเวสาลี คือ ๑. โรคภัย ๒. อมนุษย์ ๓. ความทุกข์ยาก​

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วายานิวะ อันตะลิกเข,สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ,อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ
ภาสิตัง, ตัส์มา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ, เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ, ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง,
ตัสมา หิ เนรักขะถะ อัปปะมัตตา, ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา, สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง, นะโม สะมัง
อัตถิ ตะถาคะเตนะ, อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ, ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง,
ยะทัชฌะคา สัก์ยะมุนี สะมาหิโต, นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ, อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ
สุวัตถิ โหตุฯ​

ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ, สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ, อิทัมปิ ธัมเม
ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯเต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา, เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ,
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ​

เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ, นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ, เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัย์หะ ลัทธา มุธา นิพพุติง
ภุญชะมานา, อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ​

เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ, คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ กิญจาปิ เตโหนติ ภุสัปปะมัตตา นะ เต ภะวัง อัฏฐมะมาทิยันติ,
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ​

สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ, ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ, สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิกิญจิ,
จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต จะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง, อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ​

กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง, กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ, อะภัพพะตา
ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา, อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ ​

วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค, คิมหานะมาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห, ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ นิพพานะคามิง
ปะระมังหิตายะ, อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ​

วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร, อะนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ, อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจจนะ
สุวัตถิ โหตุฯ ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัส์มิง, เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา นิพพันติ
ธีรา ยะถายัมปะทีโป,อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุฯ​

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข, ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุฯ​

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข, ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุฯ​

ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะอันตะลิกเข, ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุฯ​

 

ครั้งหนึ่ง ณ พระนครไพสาลี อันไพบูลย์ไปด้วยขัตติยะตระกูล มีพระยาลิจฉวีเป็นประธาน

ได้บังเกิดทุพภิกขภัย ข้าวแพงฝนแล้ง พืชพันธุ์ธัญชาติ ปลูกเท่าไหร่ก็ตายหมด

หมู่คนยากจนทั้งหลาย พากันอดยาก ล้มตายลงเป็นอันมาก หมู่ญาติที่ยังมีชีวิตอยู่

ก็พากันเอาศพไปทิ้งไว้นอกพระนคร กลิ่นซากศพนั้น เหม็นตลอดไปทั่วพระนคร

กาลนั้น หมู่อมนุษย์ทั้งหลาย ก็เข้ามากินซากศพ แล้วตรงเข้าไปสู่พระนคร เป็นเหตุให้ชนผู้คนในพระนคร ติดอหิวาตกโรค

และโรคนานา จนผู้คนล้มตายลงเป็นอันมาก สืบเนื่องมาจากบ้านเมืองสกปรก ปฏิกูลไปด้วย เฬวรากซากศพ จากคนและสัตว์

ขณะนั้นกล่าวได้ว่า นครไพสาลี มีภัยเกิดขึ้น ๓ ประการ คือ

๑. ทุพภิกขภัย ข้าวแพง มนุษย์ล้มตายลงเพราะอดอาหาร

๒. อมนุษย์ภัยเบียดเบียน ตายด้วยภัยของอมนุษย์

๓. โรคภัย ผู้คนล้มตายด้วยโรคภัยต่าง ๆ มีอหิวาตกโรค เป็นต้น

ขณะนั้น ผู้คนในพระนคร ต่างได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า จึงชวนกันเข้าไปเฝ้า สภากษัตริย์ลิจฉวี แล้วทูลว่า แต่ก่อนแต่ไรมา

ภัยอย่างนี้มิได้เคยมี เหตุไรจึงมาเกิดภัยเช่นนี้ หรือว่า จะ

มาจากเหตุ ราชะสภามิได้ตั้งอยู่ในธรรม หรือว่าผู้คนมหาชนทั้งหลาย ในไพสาลีนคร หมกมุ่นมัวเมาประมาทขาดสติ

มิมีธรรมะ หรือว่า จะมาจากเหตุ นักบวช สมณะ สงฆ์ มิได้ทรงศีลสิกขา จึงเป็นเหตุให้เกิดกาลกิณี แก่ปวงประชา


ฝ่ายสภากษัตริย์ หมู่เจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ก็มิอาจจับต้นชนปลาย หรือจะรู้สาเหตุก็หาไม่ ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันไปมา

ได้แต่ทำตาลอกแลกแล้วส่ายหน้า จนมีท้าวพระยาลิจฉวี พระองค์หนึ่ง ลุกขึ้นตรัสว่า เห็นทีภัยร้ายครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

มิอาจจะระงับได้ด้วย กำลังทหาร กำลังทรัพย์ หรือกำลังปัญญา คงต้องอาศัยกำลังของพระโพธิบวร

แห่งองค์สมเด็จพระชินศรีศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

เสด็จมาโปรด ชาวไพสาลีให้พ้นภัยพิบัติครั้งนี้คงจะได้ ในที่สุดประชุมราชะสภา ต่างเห็นพ้องต้องกัน จึงมอบให้พระยาลิจฉวี ๒

พระองค์พร้อมไพร่พลนำเครื่องบรรณาการ ไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร ทูลขอให้พระองค์ทรงอนุญาต ให้เชิญเสด็จ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามายังนครไพสาลี

กล่าวฝ่ายพระราชาพิมพิสาร เมื่อได้ทรงทราบถึงความทุกข์ร้อนของชาวนครไพสาลี และวัตถุประสงค์ของพระยาลิจฉวี

จึงทรงอนุญาตชาวนครไพสาลีไปทูลอาราธนา องค์สมเด็จพระบรมศาสดา ตามประสงค์

องค์พระผู้มีพระภาค พร้อมภิกษุบริษัทอีก ๕๐๐ รูป ได้เสด็จพระดำเนิน ไปสู่นครไพสารี ในเวลาที่เสด็จนั้น พระราชาลิจฉวี หมู่มุขมนตรี

ชาวพระนคร องค์อินทรเทวะพรหมินทร์ทั้งหลาย ได้พากันเฝ้ารับเสด็จระหว่างทาง ด้วยการโปรยทราย ดอกไม้ของหอม พร้อมยกฉัตรกางกั้น

แสงพระสุริยะฉาย จัดตั้งราชวัตรฉัตรธง จตุรงค์เสนาขุนทหารทั้งหลาย ต่างพากัน ยืนแถวถวายพระเกียรตินานาประการ

ในขณะเดินทาง ทรงหยุดพักระหว่างทางวิถี พระราชาและหมู่ชนต่างพากันจัดสรรสรรพผลาหารอันเลิศ ประเสริฐรส

นำมาถวายแด่พระบรมศาสดาและหมู่สงฆ์ ครั้นเสด็จพระดำเนินมาถึง ริมฝั่งคงคา พระยานาคราช ผู้สถิตอยู่ในแม่น้ำคงคา

ก็ขึ้นมาถวายเครื่องสักการะ แล้วเนรมิตวงกายให้เป็นเรือใหญ่ แล้วทูลอาราธนาองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ขึ้นประทับบนรัตนบัลลังก์

ที่เนรมิตถวาย พร้อมภิกษุสงฆ์ทั้ง ๕๐๐ ส่วนหมู่มนุษย์พระยาลิจฉวี และชาวพระนคร ก็ให้ขึ้นเรือแพ ที่จัดเตรียมมา แล้วเรือนาคา

ก็บ่ายหน้าแล่นตรงไป ยังนครไพสาลี สิ้นระยะทาง ๘ โยชน์ กินเวลา ๘ วัน ระหว่างทางองค์นาคราช และบริวารได้ถวายอภิบาล

พระบรมศาสดา และหมู่สงฆ์ มิให้สะดุ้ง สะเทือนระหว่างทาง ไม่ว่าคลื่นจะซัด ลมจะพัด น้ำจะแรง เรือนาคราชนั้นก็บรรเทาผ่อนแรง

บดบังลมแดดแรงเป็นอันดี ประดุจดัง ทางประทับ อยู่บนยอดขุนเขาคีรีษี มิได้มีหวั่นไหวฉะนั้น

ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาค เสด็จพระดำเนินถึงเขตนครไพสาลี เมฆฝนก็ตั้งเค้า ลมทั้งหลายก็พัดหอบเอาเมฆมารวมไว้บนท้องฟ้า

เหนือนครไพสาลี ครั้นสมเด็จพระชินศรี ทรงย่างพระบาทเหยียบยืนบนแผ่นดินไพสาลี เม็ดฝนก็ตกลงมาในทันที

องค์สมเด็จพระชินศรี เมื่อเสด็จประทับภายในพระนครไพสาลี เป็นอันดีแล้ว ฝนที่มิได้เคยตกมาเจ็ดปี ก็พลูไหลริน จนท่วมภาคพื้นปฐพี

กระแสน้ำได้พัดพาเอาซากอสุภ และสิ่งปฏิกูลทั้งปวง ไหลลงไปสู่แม่น้ำคงคาจนหมดสิ้น

ครั้นเม็ดฝนหยดสุดท้ายหมดสิ้น หมู่อมรนิกรเทพพรหมินทร์ และอินทรราช ก็เข้าเฝ้ากราบเบื้องยุคลบาทพระผู้มีพระภาค

ฝ่ายฝูงอมนุษย์ทั้งหลาย ครั้นเห็นหมู่มหาเทพ ได้เสด็จมาเข้าเฝ้าพระผู้พระภาคเจ้า ต่างตนต่างก็เกรงกลัวเดช กลัวจะเกิดอาเพศ

จึงพากันหลีกลี้หนีไปเป็นอันมาก พระผู้มีพระภาค จึงทรงมีพุทธฎีกาตรัสเรียกพระอานนท์ว่า


ดูกรอานนท์ เธอจงเรียนมนต์รัตนสูตรนี้ แล้วจงถือเอาเครื่องพลีกรรม เที่ยวไปในระหว่างแห่งกำแพงทั้งสามชั้นของพระนคร

แล้วจงสาธยาย มนต์รัตนสูตร เวียนเป็นประทักษิณให้ครบ ๓ รอบ แล้วนำบาตรของเราตถาคต

ใส่น้ำที่สำเร็จด้วยมนต์รัตนสูตร สาดรดไปทั้งพระนคร อมนุษย์ทั้งหลายที่ยังมิได้หนี จักได้พากันหนีไปสิ้น

ประชาชนผู้คนในพระนคร จักได้ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน

ครานั้น พระบรมสุคตเจ้า ได้ทรงแสดง รัตนสูตร โปรดหมู่อมรนิกรพรหมินทร์ อินทราธิราชทั้งหลาย กาลเมื่อทรงแสดงธรรมจบสิ้น

ความสิริสวัสดิ์พิพัฒน์มงคล ก็บังเกิดแก่ชาวไพสาลีทั้งปวง อุปัททวภัยทั้งหลายก็ระงับสิ้น หมู่มนุษย์และเทพทั้งหลาย

มีประมาณแปดหมื่นสี่พัน ได้บังเกิดธรรมจักษุ ต่างพากันรู้ทั่วถึงธรรมนั้น ตามแต่อุปนิสัย วาสนาบารมีธรรมของตนที่สั่งสมมา

เมื่อหมู่อมรเทพนิกร พรหมินทร์ อินทรา เสด็จกลับไปแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ทรงพระกรุณาโปรดแสดงธรรมเทศนา รัตนสูตร

โปรดชาวพระนครไพสาลีอยู่อีก ๖ วัน รวมสิ้นเวลาที่พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ภายในพระนครไพสาลีสิ้นเวลา ๑๕ วัน จึงเสด็จ

ระหว่างทางขณะเสด็จมาถึงริมแม่น้ำคงคา พญานาคาและเหล่าบริวาร ผู้เฝ้ารอคอยเสด็จกลับ ก็ได้เนรมิตกาย ให้เป็นเรือพระที่นั่งถวาย

พร้อมภิกษุสงฆ์ทั้ง ๕๐๐ ระหว่างทางได้ทรงแสดงธรรม โปรดพญานาคและบริวาร จนเสด็จถึงกรุงราชคฤห์

หมู่ชนชาวพระนครราชคฤห์พร้อมพระราชาพิมพิสาร ต่างรอคอยถวายเครื่องสักการะต้อนรับ ยิ่งกว่าตอนเสด็จไป


http://gotoknow.org/blog/dhamma-every-day/199036

 

<TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#cc3333 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=600 border=1><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 bgColor=#c92344 height=145>
"ภัยพิบัติทั้งหลายถูกสร้างขึ้นจาก
ความคิดที่ไม่ดีของเรา"

</TD></TR><TR><TD vAlign=top>

​

รายงานโดยทีมบันเทิงลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

​

เมื่อเร็วๆ นี้ภัยพิบัติ อย่างเช่น เฮอริเคน น้ำท่วม แผ่นดินไหว และสงคราม ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นและรุนแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน มหันตภัยเหล่านี้ทำให้ชีวิตไม่มั่นคงและมีอันตรายต่อพลเมืองจำนวนมากของโลก สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของโลก ปาฐกถาธรรมที่ชื่อ

 

ธรรมะกับภัยพิบัติ<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>​

<O></O>​

 

ไกล้ๆบ้านของเราเลย มีด้วยเหรอเนี้ย

 

เรา คือ สิ่งเดียวกัน


ที่มาจากที่เดียวกัน


และจะกลับไปเป็นหนึ่งเดียวกัน


หลังจากที่เเยกจากกันมานานแสนนาน​

 

แป่ว!!!....ไปอยู่ตรงที่ Nirvna นั่งอยู่นี่ก็ได้ ครับ ;aa21
รับประกันปลอดภัยหายห่วง เพราะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 650 เมตร ครับ.....
มีถ้ำให้หลบภัยอีก ตะหากด้วย.....

 

รับรู้แรงสั่นสะเทือน

กทม. เมื่อวันที่30/8/51 เวลา 14.45-15.15น. กำลังนั่งอยู่ได้รับรู้แรงสั่นสะเทือน2-3 ครั้งเว้นห่างกัน5-6 นาที มาอ่านดูในเวป ว่าเกิดแผ่นดินใหวในจีน เวลาใกล้เคียงกัน กทม.

 

เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว พระอาจารย์จากชัยภูมิลงมากทม. มาสอนวิชาดวงธรรม

ผมลองถามท่านว่า เรื่องน้ำจะท่วมกทม.ปลายดือนกันยายนนี้ ยังเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ ท่านบอกว่า รู้สึกว่า ในหลวงทรงกำลังทรงงานเพื่อป้องกันภัยน้ำท่วมครั้งนี้อยู่นะ แต่พวกเราไม่รู้เพราะไม่เป็นข่าว ถึงช่วยได้เยอะแต่ท่านก้ยังรู้สึกว่า น่าจะท่วมอยู่หลายพื้นที่ กันได้ไม่หมด แถวบางขุนเทียนจะท่วมสูงราวน่องของผู้ใหญ่นะ ( ท่านทำมือให้ดูว่าสูงประมาณนั้น ) บริเวณอื่นก็ต้องแล้วแต่ว่าจะทรงช่วยไว้ได้แค่ไหน มันเป็นไปตามธรรมชาติ

คราวนี้ท่านอธิบายเพิ่มเติมว่า น้ำที่จะท่วมครั้งนี้ น่าจะมาจากน้ำทะเลหนุนขึ้นมาจากอ่าวไทย และพอดีกับช่วงเวลาที่น้ำจากทางเหนือไหลลงมาเจอกันพอดี เลยไม่รู้จะระบายน้ำไปไหน สุดท้ายก็ท่วม เห็นท่านว่าน่าจะหลายวัน แต่ไม่นานมาก ไม่ต้องห่วง ถ้าช่วยกันสวดมนต์เยอะๆก็จะดีขึ้น ส่งบุญไปให้กับในหลวงท่าน จะได้อาศัยบารมีของท่านคุ้มไว้

ก็เล่าสู่กันฟังเฉยๆ ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะครับ

 

ไม่ต้องห่วงคะ พวกเรา ช่วยตลอดเวลาคะ ช่วงนี้ ผลัดเวรกัน

สวดมนต์แผ่เมตตาตลอดเลยคะ สันโดษไม่ได้โกหก

หลายๆคนในเว็บพลังจิต ช่วยกัน เเผ่เมตตา มา 3 วัน เเล้วคะ

จะเข้าวันที่ 4 เเล้วด้วย ดูได้คะ เฉพาะตอนนี้ .....มีคนเข้าไปฟังบทสวดมนต์




ทำนองทิเบต บาลี อังกฤษ และไทย จาก ธรรมคีตะ ( 279 คน กำลังดูอยู่ )

 

เท่าที่อ่านมาจาก อ.ปริญญา นี่ท่านบอกว่าชลบุรี จะโดนหมด ยกเว้น บริเวณสัตหีบ นี่ครับ ที่เหลือ น่าจะเหลือ วัดญาณ...ที่สัตหีบ(จำชื่อไม่ได้) น่าจะใช่น่ะครับ ผมอยู่บางนาครับ ตอนนี้ TT

 

วันนี้ (31 ส.ต.51) ได้เกิดแผ่นดินไหวที่มณฑลยูนนานในประเทศจีน ขนาด 5.4 ริกเตอร์ครับ มณฑลยูนนานนี้มีเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงอยู่หลายเขื่อนอีกด้วย ถ้าเขื่อนเหล่านี้มีปัญหาจากแผ่นดินไหว ก็จะทำให้แม่น้ำโขงไหลทะลักลงมายังประเทศไทยได้ครับ ในช่วงนี้ได้เกิดอุทกภัยและแผ่นดินไหวในประเทศจีนบ่อยมาก ต้องช่วยกันจับตาและระวังภัยจากแม่น้ำโขงนี้เอาไว้ด้วยครับ

 

มะกันผวาเฮอร์ริเคน

 

เริ่มแตะฝั่ง

 

ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรม​

ขอให้ท่านทำงานของท่านตามสมควร​

จงเป็นไปตามที่ควรจะเป็น​

เราทำได้ก็เพียงพยานเเห่งธรรมชาติ​

<!-- / message --><!-- sig -->

 

เตือนภัย...(ด่วน)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตและอันตรายอย่างยิ่ง ผมอยากจะขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายใช้สติ...โปรดอย่าใช้กำลัง...โปรดอย่าได้ยั่วยุ , โปรดอย่าทำให้เกิดรายการ “คนชนคน” เกิดขึ้นเลย มันน่ากลัวมากผมไม่รู้ว่าผมจะขอร้องกับฝ่ายไหนและกับใคร แต่อยากจะขอร้องให้ทุกคนได้คิดด้วยว่าเราทุกคนก็คือ “คนไทย” ด้วยกันทั้งนั้น หากผู้ที่เป็นผู้นำกลุ่มประชาชนไม่สนับสนุนหรือส่งเสริมยั่วยุให้คนของกลุ่มตนเอง “ลุย” กับใคร ผมขอกราบขอบคุณทุกๆท่าน...ผมไม่อยากเห็นการ “นองเลือด” ผมอยากให้ทุกอย่างอยู่ในขบวนการยุติธรรม ใครถูกใครผิดไปต่อสู้กันที่ศาลจะเหมาะสมที่สุด ผมขอร้องผมไม่อยากเห็นรถพยาบาลวิ่งเปิดหวอ!! ผมไม่อยากเห็นรถดับเพลิงวิ่งพล่าน!! ไม่อยากฟังการร้องขอบริจาคเลือดด่วน!!! ผมอยากจะให้ทุกอย่างที่ผมได้เขียนไปแล้วนี้ “ผิดหมด” และไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยและผมยินดีรับฟังคำด่าจากทุกๆท่านด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ผม “ผิดหมด” ทุกข้อและจะไม่มีการแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ทุกอย่างมันจะเกิดหรือไม่เกิดขึ้นอยู่กับคนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถต่อสายหรือสั่งการได้ ถ้าเห็นแก่ชาติบ้านเมืองจริงๆ การชนะบนซากปรักหักพังหรือการชนะบน...? มันคงไม่น่าภูมิใจ...การยอมแพ้ในบางครั้งก็เป็นวีรบุรุษได้เช่นกัน มิจฉาทิฐิย่อมขาดด้วยสติเพราะเอาแต่อารมณ์ของตนเป็นใหญ่ ซึ่งจะแตกต่างกับสัมมาทิฐิที่ต้องมีเหตุมีผลและที่สำคัญคือต้องมี “สติ” ในการไตร่ตรอง การยอมแพ้ในวันนี้เพื่อเป็นผู้ชนะในวันหน้า...ดีกว่าที่จะเอาชนะในวันนี้แล้วจะเป็นผู้แพ้ตลอดกาล คตินี้ผมขอให้ทุกคนนำไปใช้และนำไปคิดก่อนทำ หากประชาชนคนไทยทุกคนรักและเทิดทูน “พ่อหลวง” ของเราจริงควรจะทำให้พระองค์ท่านทรงสบายพระทัย (หากผมใช้คำผิดผมต้องขอโทษด้วยนะครับ) นับจากวันนี้เป็นต้นไปภายใน 5 วันนับว่าเป็น “วันอันตราย” อย่างยิ่ง ผมคิดอยู่นานว่าจะเขียนบทความนี้ลงเว็บดีหรือไม่ เพราะมันเป็นดาบสองคมแต่ผมเป็นห่วงประชาชนที่มีทั้งเด็ก,ผู้หญิง,คนแก่ และไม่มีอาวุธที่จะไปสู้กับใครนอกจาก “สติและปัญญา” เท่านั้นที่เป็นอาวุธที่แหลมคมบวกกับความอดทนที่ประวัติศาสตร์ทั่วโลกจะต้องจารึกไว้ว่า คนไทยกลุ่มใหญ่ส่วนหนึ่งของประเทศไทยมีความอดทนและมี “ใจ” เป็นอาวุธสู้กับอำนาจรัฐ ผมคิดว่าหากไม่มีคนชั่วหรือคนเลวในบ้านเมืองนี้ทุกคนทุกภาคของประเทศก็จะมีความสุขสงบโดยทั่วหน้ากัน และหากจะให้เลือกข้างเลือกฝ่ายผมจะขอเลือกอยู่กับ...ฝ่ายที่รัก “พ่อหลวง” ด้วยความบริสุทธิ์ใจครับท่านผู้นำ<o></o>
ด้วยความเคารพ<o></o>
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ) <o></o>
1 กันยายน 2551

 

​

Message From Water​

http://vdo.palungjit.org/video/22/มหัศจรรย์แห่งผลึกน้ำ ​

หากคนมีศีลบริบูรณ์ จิตใจสะอาด​

เเรงอธิษฐานที่เกิดจากศรัทธา​

แสดงเป็นคำพูด หรือ คำเขียน​

จะศักดิ์สิทธิ์คะ​