ตะกรุดเกราะเพชรไตรรัตนาธิคุณ,พระกริ่งมหามงคลวัดพระเชตุพนฯ,เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ....

281. ตะกรุดพญาเสือสมิงไฟ อ.แขก รือเสาะ หลวงปู่พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานี ปลุกเสกเต็มวิชา หายากสุดๆ (ผมบูชาโดยตรงจาก อ.แขก รือเสาะเลย ในตอนนั้น )
ความสำคัญของตะกรุดนี้
1 เป็นวิชาโบราญสายใต้
2 สร้างจากหนังพญาสมิงตายพราย
3 ลงรักและปิดทองคำแท้
4 เด่นด้านโชคลาภ เงินทอง มหาอำนาจ
5 สร้างได้เพียง 66 ดอกเท่านั้
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมานั้นเป็นวันไหว้ครูของท่านอาจารย์เขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี มีหลายท่านสอบถามถึง ตะกรุดพญาสมิง เสือไฟ ที่ ท่านอาจารย์ แขก รือเสาะ ได้สร้างกับพ่อท่านเขียว ดั่งเช่น รุ่นหนึ่งว่าได้หรือยัง จากที่ไหว้ครูผ่านมาตอนนี้ตะกรุดได้ออกให้เช่าบูชาแล้ว สมาชิกที่ลงไปงานไหว้ครูที่ผ่านก็ได้เช่าบูชาไว้คนละดอก มีบางท่านจะเอาหลายดอกแต่ก็กลับไปความเสียใจที่ได้แค่ดอกเดียวตรงนี้ต้องขอบอกสมาชิกไว้ก่อนว่าตะกรุดรุ่นนี้ ถือเป็นสุดยอดวิชาตะกรุดหนังเสือจริงๆเพราะทำตามตำราทุกประการและยังสร้างได้จำนวนน้อยเสียอีกแต่มีลูกศิษย์ลูกหาของพ่อท่านเขียวทั้ง ไทย จีน มาเลย์ ต่างแย่งเอาตะกรุดรุ่นนี้กันเป็นจำนวนมากเพราะจากการบอกเล่าของท่านอาจารย์ แขก รือเสาะ ท่านได้บอกว่าการสร้างตะกรุดพญาสมิงในวิชาสายนี้จะไม่มีสร้างอีกต่อไปแล้วสำหรับท่านอาจารย์แขก รือเสาะ เพราะได้ให้คำมันสัญญากับปู่เจ้าสมิงพราย เจ้าของวิชาไว้แล้วว่าวันใดที่ได้พญาเสือที่เป็นเจ้าแห่งเสือ(เสือไฟ)ตามตำราระบุไว้ จะหยุดสร้างตะกรุดทันที่ และในครั้งนี้หนังเสือที่ได้คือหนังเสือไฟ ที่ตำราระบุไว้ว่าเป็นพญาแห่งเสือทั้งมวลผู้ใดที่ทำการสร้างตะกรุดจนพลีเสือในป่าจนได้พญาเสือไฟแล้วไซ้จะสำเสร็จวิชาพญาสมิงตามครูบาอาจารย์ที่เรียนตำราเล่มนี้ต่อกันมา จากที่มีการสร้างตะกรุดพญาสมิงรุ่นหนึ่งนั้นเสือที่พลีได้จากป่าเป็นเสือลายเมฆ ที่ตำราระบุไว้เช่นกัน แต่ยังเป็นรองพญาเสือไฟเรื่องการหากิน เพราะเสือไฟนั้นจะไม่หาเหยื่อกินเองแต่จะมีบริวารหาเหยื่อมาให้กินถึงในถ้ำ(เพราะเป็นเจ้าแห่งเสือ) จากการบอกเล่าของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ วิชาตะกรุดนี้นั้นในสมัยอดีตได้มี บรูพาจารย์สร้างเอาไว้ในสายเขาอ้อ และได้มอบให้แก่ขุนโจรระบือนามที่มีชื่อว่า ดำหัวแพ ขุนโจรภาคใต้ในสมัยอดีต ตามที่มีการเล่าถึงขุนโจรดำหัวแพ นั้นเป็นที่ยอมรับกันมาว่าเป็นสุดยอดของขุนโจรจริงๆเพราะเป็นโจรคนเดี่ยวก็ว่าได้ที่มี อนุสาวรี ให้คนกราบไว้บูชากัน เป็นไงฟังแล้วแปลกหรือปล่าวเป็นโจร แต่มีอนุสาวรีให้คนกราบไหว้บูชา ขอบอกไว้เลยเรื่องนีเป็นเรื่องแปลกแต่จริงถ้าท่านเดินทางไปจังหวัดพัทลุง แล้วท่านสอบถามคนในจังหวัดดูท่านจะรู้ว่ามีจริง(อนุสาวรีดำหัวแพ) ตามที่ผมบอกทุกประการ ที่นี้เรามาพูดถึงดำหัวแพทำไม่หลายท่านสงสัย ผมจะตอบให้ท่านทั้งหลายรู้ไว้ ณ ที่นี้เลยว่าเหตุใดท่านอาจารย์แขก รือเสาะ จึงสนใจ วิชาตะกรุดพญาสมิงและทำไม่จึงหยุดสร้างแล้วมูลเหตุมาจากอะไรเรื่องของเรื่องคือ วิชาตะกรุดนี้เป็นตะกรุดชนิดเดียวกับที่ขุนโจรดำหัวแพ ใช้ติดตัวเพียงดอกเดียว และดอกที่พกจากการบอกเล่าของครูบาอาจารย์ของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ ดอกที่ดำหัวแพ พกนั้นเป็นหนังเสือไฟ ที่สร้างจากตำราเล่มเดี่ยวกันกับที่ท่านอาจารย์แขก รือเสาะ สร้างกับพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ เป็นไงที่นี้คงเข้าใจแล้วนะว่าทำไม่อาจารย์แขก รือเสาะให้ความสนใจวิชาพญาสมิงและเพียรพยายามในการสร้างมาแรมปีจากครั้งแรกที่พลีเสือ ได้เสือลายเมฆมาก็ยังไม่ถึงกับสุดๆในใจลึกๆของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ เพราะท่านรู้อยู่แก่ใจว่าเสือที่ดีที่สุดที่ตำราระบุไว้คือ เสือไฟ ท่านถึงได้พยายามสร้างตะกรุดพญาสมิงรุ่นสองนี้อย่างตั้งใจ และได้บอกกล่าวกลับปูเจ้าสมิงพราย เจ้าของตำราไว้ว่าถ้าได้เสือไฟ ตน(อาจารย์แขก รือเสาะ) จะหยุดการสร้างตะกรุตพญาสมิงทันที่เหมือนดังแรงครูเป็นใจและเห็นความตั้งใจของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ จึงทำให้การพลีเสือจากป่าครั้งนี้ได้พญาเสือไฟ มาทำตะกรุดพญาสมิงสมใจ ท่านจึงบอกลูกศิษย์ท่านทุกคนว่าท่านจะไม่สร้างตะกรุดพญาสมิงอีกแล้ว สรุป รุ่นสองนี้แล้วไม่มีรุ่นสาม แล้วถ้าจะหาคนมาเรียนวิชานี้แล้วพลีเสือตามตำราก็คงรอคนประเภทอาจรย์แขก รือเสาะ ที่จะเรียนให้สำเร็จนั้นคงยาก ยิ่งทุกวันนี้คนรู้จริงด้านไสยศาสตร์หายไปเกือบหมดแล้วยิ่งยาก ท่านอาจารย์แขกฝากมาบอกกับสมาชิกพุทธามหาเวท ว่า ผู้ใดที่ได้ครอบครองตะกรุดพญาสมิงไม่ว่ารุ่นหนึ่ง หรือ รุ่นสอง ให้รักและหวงแหนไว้ให้ที่สุดเพราะจะสร้างตะกรุดพญาสมิงอีกนั้นไม่มีอีกแล้ว และขอเตื่อนสมาชิกบ้านพุทธามหาเวทว่าถ้ามีใครมาบอกว่าสร้างตะกรุดพญาสมิงแบบนี้ได้อีกให้ติดตามการสร้างให้ดีว่าเป็นเหมือนท่านอาจารย์แขก รือเสาะ บอกหรือปล่าวว่าพลีมาจากป่า ไม่ใช้ยิง หรือซื้อมาจากร้านขายหนังสัตว์ สรุปเอาที่แน่ๆดีกว่า สองรุ่นนี้และ ของพ่อท่านเขียว ที่สร้างกับอาจารย์แขก รือเสาะ ดีแน่ถูกต้องตามพิธีการทุกประการ ตอนนี้จากการสอบถามราคาตะกรุดพญาสมิงรุ่นหนึ่งนั้นราคาขึ้นหลักแสนไปแล้ว คนไม่มีตังอดบูชาแน่ก็ทำไงได้ผมมาบอกท่านก็ตอนของไม่มีแล้วแต่ตอนนี้ ตะกรุดพญาสมิงรุ่นสอง และยังเป็นหนังเสือไฟอีกด้วยที่อาจารย์แขกยอมถึงขั้นว่าถ้าได้หนังเสือชนิดนี้มาจะไม่ทำอีก คือสุดๆของตำราแล้วหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเรียนจบแล้วรู้แล้วก็เรียนวิชาอื่นต่อไป พวกท่านที่อ่านพุทธามหาเวทเล่มนี้แล้วก็รีบหากันก่อนเลยรุ่นสอง ก็จริงแต่รุ่นสุดท้ายแล้วไม่มีอีกแล้วและก็สุดยอดของตำราด้วย(เสือไฟ) ความคิดส่วนตัวนะขนาดรุ่นหนึ่งราคาหลักแสนแล้ว ขนาดเสือลายเมฆ แล้วนี้รุ่นสองก็จริงแต่เป็น(หนังเสือไฟ)สุดยอดเสือราคาวันข้างหน้าไม่อยากจะคิดถึงนึกแล้วเสียวสันหลังราคาคงสูงไม่แพ้รุ่นหนึ่งหรือดีไม่ดีอาจแพงกว่ารุ่นหนึ่งอีก อันนี้เกี่ยวกับราคาก็ดูๆกันต่อไปเพราะเป็นเรื่องของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ก็ยากให้สมาชิกได้ของดีไว้ใช้ทุกคน
(เขียนโดย อาจารย์แขก รือเสาะ)
ตะกรุด รุ่นนี้ ถือเป็นสุดยอดวิชาตะกรุดหนังเสือจริงๆเพราะทำตามตำราทุกประการและยังสร้าง ได้จำนวนน้อยเสียอีกแต่มีลูกศิษย์ลูกหาของพ่อท่านเขียวทั้ง ไทย จีน มาเลย์ ต่างแย่งเอาตะกรุดรุ่นนี้กันเป็นจำนวนมากเพราะจากการบอกเล่าของท่านอาจารย์ แขก รือเสาะ ท่านได้บอกว่าการสร้างตะกรุดพญาสมิงในวิชาสายนี้จะไม่มีสร้างอีกต่อไปแล้ว สำหรับท่านอาจารย์แขก รือเสาะ เพราะได้ให้คำมันสัญญากับปู่เจ้าสมิงพราย เจ้าของวิชาไว้แล้วว่าวันใดที่ได้พญาเสือที่เป็นเจ้าแห่งเสือ(เสือไฟ)ตาม ตำราระบุไว้ จะหยุดสร้างตะกรุดทันที่ และในครั้งนี้หนังเสือที่ได้คือหนังเสือไฟ ที่ตำราระบุไว้ว่าเป็นพญาแห่งเสือทั้งมวลผู้ใดที่ทำการสร้างตะกรุดจนพลีเสือ ในป่าจนได้พญาเสือไฟแล้วไซร้จะสำเร็จวิชาพญาสมิงตามครูบาอาจารย์ที่เรียน ตำราเล่มนี้ต่อกันมา
จากที่มีการสร้างตะกรุดพญา สมิงรุ่นหนึ่งนั้นเสือที่พลีได้จากป่าเป็นเสือลายเมฆ ที่ตำราระบุไว้เช่นกัน แต่ยังเป็นรองพญาเสือไฟเรื่องการหากิน เพราะเสือไฟนั้นจะไม่หาเหยื่อกินเองแต่จะมีบริวารหาเหยื่อมาให้กินถึงใน ถ้ำ(เพราะเป็นเจ้าแห่งเสือ) จากการบอกเล่าของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ วิชาตะกรุดนี้นั้นในสมัยอดีตได้มี บูรพาจารย์สร้างเอาไว้ในสายเขาอ้อ และได้มอบให้แก่ขุนโจรระบือนามที่มีชื่อว่า ดำหัวแพ ขุนโจรภาคใต้ในสมัยอดีต ตามที่มีการเล่าถึงขุนโจรดำหัวแพ นั้นเป็นที่ยอมรับกันมาว่าเป็นสุดยอดของขุนโจรจริงๆเพราะเป็นโจรคนเดียวก็ ว่าได้ที่มี อนุสาวรีย์ ให้คนกราบไว้บูชากัน เป็นไงฟังแล้วแปลกหรือเปล่าเป็นโจร แต่มีอนุสาวรีย์ให้คนกราบไหว้บูชา ขอบอกไว้เลยเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกแต่จริงถ้าท่านเดินทางไปจังหวัดพัทลุง แล้วท่านสอบถามคนในจังหวัดดูท่านจะรู้ว่ามีจริง(อนุสาวรีย์ดำหัวแพ) ตามที่ผมบอกทุกประการ ที่นี้เรามาพูดถึงดำหัวแพทำไมหลายท่านสงสัย ผมจะตอบให้ท่านทั้งหลายรู้ไว้ ณ ที่นี้เลยว่าเหตุใดท่านอาจารย์แขก รือเสาะ จึงสนใจวิชาตะกรุดพญาสมิงและทำไมจึงหยุดสร้างแล้วมูลเหตุมาจากอะไร
เรื่องของเรื่องคือ วิชาตะกรุดนี้เป็นตะกรุดชนิดเดียวกับที่ขุนโจรดำหัวแพ ใช้ติดตัวเพียงดอกเดียว และดอกที่พกจากการบอกเล่าของครูบาอาจารย์ของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ ดอกที่ดำหัวแพ พกนั้นเป็นหนังเสือไฟ ที่สร้างจากตำราเล่มเดียวกันกับที่ท่านอาจารย์แขก รือเสาะ สร้างกับพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ เป็นไงทีนี้คงเข้าใจแล้วนะว่าทำไมอาจารย์แขก รือเสาะให้ความสนใจวิชาพญาสมิงและเพียรพยายามในการสร้างมาแรมปีจากครั้งแรก ที่พลีเสือ ได้เสือลายเมฆมาก็ยังไม่ถึงกับสุดๆในใจลึกๆของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ เพราะท่านรู้อยู่แก่ใจว่าเสือที่ดีที่สุดที่ตำราระบุไว้คือ เสือไฟ ท่านถึงได้พยายามสร้างตะกรุดพญาสมิงรุ่นสองนี้อย่างตั้งใจ และได้บอกกล่าวกลับปู่เจ้าสมิงพราย เจ้าของตำราไว้ว่าถ้าได้เสือไฟ ตน(อาจารย์แขก รือเสาะ) จะหยุดการสร้างตะกรุดพญาสมิงทันที เหมือนดังแรงครูเป็นใจและเห็นความตั้งใจของท่านอาจารย์แขก รือเสาะ จึงทำให้การพลีเสือจากป่าครั้งนี้ได้พญาเสือไฟ มาทำตะกรุดพญาสมิงสมใจ
ท่านจึงบอกลูกศิษย์ท่านทุกคนว่าท่านจะไม่สร้างตะกรุดพญาสมิงอีกแล้ว สรุป รุ่นสองนี้แล้วไม่มีรุ่นสาม แล้วถ้าจะหาคนมาเรียนวิชานี้แล้วพลีเสือตามตำราก็คงรอคนประเภทอาจรย์แขก รือเสาะ ที่จะเรียนให้สำเร็จนั้นคงยาก ยิ่งทุกวันนี้คนรู้จริงด้านไสยศาสตร์หายไปเกือบหมดแล้วยิ่งยาก ท่านอาจารย์แขกฝากมาบอกกับว่า ผู้ใดที่ได้ครอบครองตะกรุดพญาสมิงไม่ว่ารุ่นหนึ่ง หรือ รุ่นสอง ให้รักและหวงแหนไว้ให้ที่สุดเพราะจะสร้างตะกรุดพญาสมิงอีกนั้นไม่มีอีกแล้ว และขอเตือนทุกท่านว่าถ้ามีใครมาบอกว่าสร้างตะกรุดพญาสมิงแบบนี้ได้อีกให้ ติดตามการสร้างให้ดีว่าเป็นเหมือนท่านอาจารย์แขก รือเสาะ บอกหรือเปล่าว่าพลีมาจากป่า ไม่ใช่ยิง หรือซื้อมาจากร้านขายหนังสัตว์ สรุปเอาที่แน่ๆดีกว่า สองรุ่นนี้และ ของพ่อท่านเขียว ที่สร้างกับอาจารย์แขก รือเสาะ ดีแน่ถูกต้องตามพิธีการทุกประการ
ตอนนี้จากการสอบถามราคาตะกรุดพญาสมิงรุ่นหนึ่งนั้นราคาขึ้นหลักแสนไปแล้ว คนไม่มีตังค์อดบูชาแน่ก็ทำไงได้ผมมาบอกท่านก็ตอนของไม่มีแล้วแต่ตอนนี้ ตะกรุดพญาสมิงรุ่นสอง และยังเป็นหนังเสือไฟอีกด้วยที่อาจารย์แขกยอมถึงขั้นว่าถ้าได้หนังเสือชนิด นี้มาจะไม่ทำอีก คือสุดๆของตำราแล้วหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเรียนจบแล้วรู้แล้วก็เรียนวิชาอื่น ต่อไป พวกท่านทราบแล้วก็รีบหากันก่อนเลยรุ่นสอง ก็จริงแต่รุ่นสุดท้ายแล้วไม่มีอีกแล้วและก็สุดยอดของตำราด้วย(เสือไฟ) ความคิดส่วนตัวนะขนาดรุ่นหนึ่งราคาหลักแสนแล้ว ขนาดเสือลายเมฆ แล้วนี่รุ่นสองก็จริงแต่เป็น(หนังเสือไฟ)สุดยอดเสือราคาวันข้างหน้าไม่อยาก จะคิดถึงนึกแล้วเสียวสันหลังราคาคงสูงไม่แพ้รุ่นหนึ่งหรือดีไม่ดีอาจแพงกว่า รุ่นหนึ่งอีก
(ปิดรายการนี้แล้ว)

 

282. ไม้ครูหลวงปู่อิ่ม วัดทุ่งนาใหม่ ศิษย์ทายาทสายเขาอ้อและพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ สร้างจากไม้เสากุฎิเก่าพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ หัวบรรจุเกษาหลวงปู่อิ่มและผ้าจีวรพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จำนวนจัดสร้างได้28อันความยาว11นิ้ว เข้าพิธีร่วม10พิธีที่หลวงปู่ปลุกเสก มีฤทธิ์อานุภาพเจิมบ้าน เจิมรถ เจิมญาติพี่น้องลูกหลานที่เป็นมงคลได้หมดครับ ชี้จี้ให้ขายของดี มีความเจริญรุ่งเรือง
วิธีใช้ นะโม 3 จบ
ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ลป.อิ่ม ลป.พ่อท่านคล้ายเป็นที่สุด
พุทธัง อรหัง พุทโธ
ธัมมัง อรหัง พุทโธ
สังฆัง อรหัง พุทโธ
หลวงปู่อิ่ม ปัญญาวุโธ
นะโมพุทธายะ
แล้วอธิษฐานเอาตามปรารถนาเถิด ประสิทธิผลนักแล
ให้บูชา 2500 รส

 

สนใจสอบถามหรือโทร 0636196155 ครับ

 

283. เหรียญลาภผลพูนทวี ลป.คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล ปี 21
ให้บูชา 499 รส

 

284. เหรียญลาภผลพูนทวี ลป.คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล ปี 21
ให้บูชา 499 รส

 

285. เหรียญพระแก้วมรกต 3 ฤดู ฉลอง 200 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ.2525 "ชุดแรกไม่มีคำว่า พระราชศรัทธา" มีกล่อง เดิมๆ
ใน ปี พ.ศ.๒๕๒๕ เป็นปีที่มีงานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปีอย่างยิ่งใหญ่ หนึ่งในภาระกิจหลักในวาระนั้นคือการบูรณะปฏิสังขรวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯพระราชทานให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยาม บรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธาน และเพื่อเป็นทั้งที่ระลึก และสมนาคุณการระดมทุนบริจาคเพื่อการนี้ คณะกรรมการฯได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานจัดสร้างเหรียญพระแก้วมรกตหลัง ภปร ขึ้นเป็นการเฉพาะอย่างปราณีตบรรจงทั้งในรูปลักษณะและพระราชพิธีพุทธาภิเษก พระ ราชพิธีพุทธาภิเษกมีขึ้นในวันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๔ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว โดย พระมหาเถระจำนวน ๑๐ รูป ประกอบด้วย
1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ
2. พระมงคลราชมุนี (สุพจน์ โชติปาโล) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
3. พระราชสังวรญาณ (สนิท ถิรสินิทฺโธ) วัดศิลขันธาราม อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
4. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
5. หลวงพ่ออุตตมะ อุตฺตมังกโร วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
6. พระครูพิพิธพัชรศาสน์ (หลวงพ่อจ้วน) วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
7. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง อ.เมือง จ.เพชรบุรี
8. พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
9. พระครูประดิษฐ์นวการ วัดวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
10. พระครูญาณวิจักขณ์ (พระอาจารย์ผ่องจินดา) วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ
เข้านั่งปรกเจริญภาวนาอธิษฐานจิตในมณฑลพิธีราชวัตรฉัตรธง ประกอบพิธีพุทธาภิเษกต่อไป โดย ในเวลาเดียวกันนี้พระภาวนาจารย์ พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วราชอาณาจักรอีก ๙๐รูป ได้ร่วมพิธีนั่งปรกเจริญภาวนาแผ่จิตตานุภาพ รวมไว้เป็นหนึ่งส่งพลังจิตตภาวนา ณ วัดที่ประจำอยู่ เป็นการรวมกระแสพลังจิตให้เป็นหนึ่งเดียวส่งไปยัง “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” (วัดพระแก้ว)
ให้บูชา 1200 รส

 

286. เครื่องรางแพะมหาลาภมหาเสน่ห์มหาเศรษฐี แกะจากเขาควายเผือก สืบต่อตำนานแพะหลักแสนหลวงปู่อ่ำพระบูรพาจารย์ อ.บ้านค่าย ระยอง เครื่องรางแพะหนึ่งเดียวที่แพงที่สุดในเมืองไทย
#สู่แพะมหาลาภหลวงปู่สิน ภทฺทาจาโร วัดละหารใหญ่ อำเภอบ้านค่าย ระยอง
ครูบาอาจารย์ผู้สืบสายวิชาการสร้างแพะโดยตรง จากพระบูรพาจารย์ ต้นตำนาน หลวงพ่ออ่ำวัดหนองกระบอก - หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ตกสู่ทอดมาถึงหลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ครูบาอาจารย์สายหลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อลัด ที่สร้างเครื่องรางแพะที่มีอาวุโสสูงสุดในปัจจุบันนี้
#อานุภาพใช้ทางด้านปกครอง ป้องกัน เสน่ห์ชั้นสูง เมตตามหานิยม ตามคุณลักษณะของ แพะ ที่อดทน ปรับตัวได้ทุกสภาวะ เพศเมียหากินเก่ง เพศผู้เป็นนักปกครอง แพะเป็นสัตว์ที่ตายยาก หากินเก่ง มีเมตตามหาเสน่ห์ จึงมีตัวเมียเป็นฝูง ที่สำคัญคือ ป้องกันคุณไสย รับเคราะห์แทนผู้บูชา ดังคํา แพะรับบาป
ตำนานประวัติความเป็นมาของเครื่องรางแพะมหาลาภมหาเสน่ห์
“แพะ” ถือเป็นเครื่องรางของขลังขนิดหนึ่งที่มีผู้นิยมพกพาบูชากันมาก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คือแพะของหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องราง “แพะ” อันดับหนึ่งของเมืองไทย
สำหรับที่มาของเครื่องราง “แพะ” นั้น ก็มาจากความเชื่อที่สังเกตมาจากพฤติกรรมของแพะว่าแพะตัวผู้ 1 ตัว มักจะมีเมียหลายตัว คนเจ้าชู้ในสมัยก่อนก็มักจะเรียกกันว่า “เจ้าชู้อย่างแพะ” เพราะฉะนั้นโบราณจารย์จึงนำเอารูปลักษณ์ของแพะมาทำเป็นเครื่องรางที่เน้นความศักดิ์สิทธิ์ไปในทางเมตตามหานิยม นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าเขาของแพะนั้น เป็นเขาที่มีความแหลมคมและมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว บางคนก็จะเอาเขาแพะมาทำเป็นมีดหมอหรือเครื่องรางต่างๆพกติดตัวอีกด้วย
ส่วน “แพะ” ของหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก นั้น ท่านจะนำเขาควายเผือกที่โดนฟ้าผ่าตาย ด้วยความเชื่อว่าสัตว์เผือกที่มีผิวขาวบริสุทธิ์นั้น เป็นสัตว์ที่มีบุญบารมีมาก มีเทวดาดูแลรักษา อีกทั้งการโดนฟ้าผ่าตาย ถือเป็นการตายพราย คือ ตายตามธรรมชาติ ไม่ได้เจตนาฆ่าให้ตายเพื่อนำเขามาทำเครื่องราง จึงทำให้เขานั้นไม่มีพลังงานความอาฆาตแค้นซึ่งจะส่งผลลบต่อพลังงานในการปลุกเสกแต่อย่างใด
อีกทั้งการโดนฟ้าผ่านั้น คนโบราณเชื่อว่าสายฟ้าคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เทพยดาดลบันดาลให้เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจากควายที่โดนฟ้าผ่า จึงเป็นดั่งเขาวิเศษที่ได้รับการประสิทธิ์พลังงานความศักดิ์สิทธิ์จากเทพเบื้องบน ผนวกรวมกับความหายากที่จะมีควายที่ต้องผิวเผือกด้วย แล้วยังต้องโดนฟ้าผ่าตายด้วย จึงทำให้เขาควายเผือกโดนฟ้าผ่าตายกลายเป็นเหมือนของที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง เชื่อกันว่าหากนำมาแกะแล้วปลุกเสกสร้างเป็นเครื่องรางต่างๆก็จะมีพลังงานเข้มขลังเป็นอย่างมาก
ส่วนตำราการสร้างแพะนั้นมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงพ่ออ่ำได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งอาจารย์ของท่านได้ไปเรียนวิชาพร้อมกับหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ผู้โด่งดังในการปลุกเสกสร้างเขี้ยวเสืออันดับหนึ่งของเมืองไทย โดยท่านได้เรียนวิชาการทำเขี้ยวเสือพร้อมกันแล้วอาจารย์ผู้สอนก็ได้ทำการทดสอบโดยให้แกะเขี้ยวเสือปลุกเสกแล้วโยนเข้าไปในป่า แล้วให้ใช้วิชาเรียกเขี้ยวเสือให้กลับมาหาตัวเองให้ได้ ปรากฏว่าหลวงพ่อปานสามารถเรียกกลับมาได้ แต่ว่าอาจารย์ของหลวงพ่อเรียกกลับมาไม่ได้ หลวงพ่อปานจึงได้วิชาเขี้ยวเสือที่โดดเด่นทางคงกระพันมหาอำนาจไป ส่วนอาจารย์ของหลวงพ่อก็ได้วิชาการทำแพะที่โดดเด่นทางเมตตามหานิยมมา และถ่ายทอดวิชาให้แก่หลวงพ่ออ่ำจนมีชื่อเสียงในการสร้างแพะสืบต่อมา
อย่างไรก็ดีเขาควายเผือกโดนฟ้าผ่าตายนั้นคงจะหาได้ยากแล้วในยุคปัจจุบัน จึงเริ่มมีการใช้วัสดุอื่นๆมาสร้างแพะแทน เช่น ไม้มงคลต่างๆ โลหะอาถรรพ์ต่างๆ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะใช้วัสดุใดในการสร้าง หากผู้สร้างจิตถึงจริงแล้วก็สามารถปลุกเสกแพะนั้นให้มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่ต่างกันนั่นคือ เริ่มต้นการปลุกเสกโดยใช้รูปลักษณ์ของแพะเป็นต้นพลังงานซึ่งเป็นรูปลักษณ์ที่โดดเด่นทางเมตตา ดังนั้นจิตที่ใช้ในการปลุกเสกต้องชุ่มเย็นมีเมตตาเป็นหลัก ต้องทรงพรหมวิหารสี่ไว้ตลอดเวลา ตั้งต้นพลังงานจากแพะโน้มไปสู่สายใยพลังงานที่จะเชื่อมโยงไปยังพลังงานงานสูงสุดแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ นั่นก็คือโน้มไปยังแพะโพธิสัตว์ ทั้งในชาติที่พระพุทธองค์เคยเสวยพระชาติเป็นแพะเองก็ดี หรือ พระโพธิสัตว์ที่กำลังบำเพ็ญบารมีเสวยชาติเป็นแพะทุกๆพระองค์ก็ดี ซึ่งนี่ถือเป็นเคล็ดลับในการปลุกเสกเครื่องรางที่มีรูปลักษณ์เป็นสัตว์
เพราะถ้าใช้แค่พลังงานของสัตว์หรือเทวดาอาจจะเสื่อมได้ ดังนั้นต้องโน้มไปให้ถึงพลังงานแห่งพระรัตนตรัยอันเป็นพลังงานสูงสุด ซึ่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายในสมัยบำเพ็ญบารมีล้วนเคยเกิดเป็นสัตว์มาทุกชนิด เราจะปลุกเสกสัตว์ชนิดใดก็โน้มไปถึงพระโพธิสัตว์ที่เสวยพระชาติเป็นสัตว์ชนิดนั้น ก็จะสามารถโน้มพลังงานไปถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ซึ่งเป็นพลังงานสูงสุดได้ และยังสามารถขยายเครือข่ายพลังงานโน้มไป ยังเทวดาที่เกี่ยวข้องกับพระโพธิสัตว์ที่เสวยพระชาติเหล่านันทั้งหมดทั้งปวง เราก็จะได้ทั้งพลังงานแห่งพระรัตนตรัย พลังงานแห่งพระโพธิสัตว์ พลังงานแห่งเทวดาทั้งหลายเข้ามาผนวกรวมกันในการปลุกเสกให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ ปลุกเสกแล้วก็จะมีเทวดาดูแลรักษา มีพุทธคุณใช้ได้ครบทุกทาง ไม่ใช่แค่ด้านเมตตามหานิยมอย่างเดียว แต่ยังทำให้เครื่องรางเหล่านั้นมีตัวมีตน ขยับเคลื่อนไหวได้ หรือแม้แต่ปรากฏตัวให้เห็นได้
(ขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูล มา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
ประวัติหลวงพ่อสิน ภัททาจาโร วัดละหารใหญ่
พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงพ่อสิน ภทฺทาจาโร) เจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง (ปัจจุบันอายุ 93 ปี) เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เพ่ง สาสโน อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ และหลวงพ่อรัตน์ วัดหนองกระบอก ผู้สืบทอดพุทธาคมจากหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก เจ้าตำรับแพะเมตตาอันลือลั่นแห่งเมืองระยอง
วัดละหารใหญ่ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัดละหารไร่ ดังนั้น หลวงพ่อสินจึงมีโอกาสไปกราบนมัสการ และรับใช้หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เจ้าตำรับพระขุนแผนพรายกุมาร อยู่เสมอในสมัยที่หลวงปู่ทิมยังมีชีวิตอยู่
หลวงพ่อสินเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย ไม่ยึดติดใน ลาภยศสรรเสริญใดๆ ท่านมักจะพร่ำสอนญาติโยมที่เข้ามากราบไหว้เสมอๆ ว่า
"คนเราจะมีความสุขสงบในสังคมได้ ต้องถือศีล ๕ เพราะทำให้สังคมสงบสุข ปิดกั้น ภัยเวรต่างๆ ได้ แต่ที่พวกเรารู้สึกว่าทำได้ยาก หรือขัดกับชีวิตประจำวัน เป็นเพราะตาใจ ของเรามันบอดแสง หรือเจ้ากรรมนายเวรมาบังจิตบังใจเรา"
ให้บูชา 1800 รส

 

287. เครื่องรางแพะมหาลาภมหาเสน่ห์มหาเศรษฐี แกะจากเขาควายเผือก หลวงพ่อสิน ภัททาจาโร วัดละหารใหญ่ บ้านค่าย ระยอง (หายาก สร้างน้อย นานๆท่านจะทำออกมาให้บูชาทีหนึ่ง คนก็แย่งกันบูชาจนหมด)
ให้บูชา 1600 รส

 

288. แพะเขาควายเผือกตัวใหญ่บรรจุในสีผึ้ง ของหลวงปู่สินวัดละหารใหญ่ แต่ว่าเลี่ยมบรรจุอยู่ในสีผึ้งเจ็ดจันทคราสของหลวงปู่ลัดวัดหนองกระบอก ซึ่งหายากกว่าสีผึ้งเจ็ดจันทคราสของหลวงปู่เริ่มวัดจุกกะเฌออีก 1 เท่า ซึ่งหลวงปู่ลัดวัดหนองกระบอก ผู้เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่สินวัดละหารใหญ่ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่สิน และผู้ถ่ายทอดวิชาการเสกแพะให้หลวงปู่สินโดยตรง ทั้งหลวงปู่เริ่มวัดจุกกะเฌอ และ หลวงปู่ลัดวัดหนองกระบอก ล้วนแต่เป็นหลานของหลวงปู่อ่ำวัดหนองกระบอกทั้งสองรูป ล้วนแต่ได้รับการถ่ายทอด วิชาการทำสีผึ้ง 7 จันทร์ และการทำแพะการเสก ไปทั้งสองท่าน สีผึ้ง7จันทร์ คงมีเพียงแค่หลวงปู่เริ่มวัดจุกกะเฌอกับหลวงปู่ลัดวัดหนองกระบอก ที่ทำได้สำเร็จ ส่วนเรื่องแพะนั้น ทั้งของหลวงปู่เริ่ม และ ของ หลวงปู่ลัด ในปัจจุบันเป็นของที่หาได้ยากและราคาสูง ที่เรายังเก็บกันได้อยู่นั้นคือของหลวงปู่สินวัดละหารใหญ่ผู้ร่ำเรียนและสืบทอดมาโดยตรง สีผึ้งเจ็ดจันทร์ล้วนๆของหลวงปู่ลัดนั้นถือเป็นของหายากครับ กว่าจะตามหาสีผึ้งชุดนี้มาได้ นานโขอยู่ และได้ในจำนวนที่น้อยนิด จึงนำมาบรรจุในแพะหลวงปู่สิน ผู้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ลัด
ให้บูชา 2000 รส

 

289. เบี้ยแก้สารพัดพิษ รุ่นแรก หลวงพ่อชิต เตชธัมโม วัดบ้านสนวน ศรีสะเกษ บรรจุปรอทแท้ เป็นปรอทป่าที่หลวงพ่อท่านไปดักจับเอง ซึ่งเดี๋ยวนี้หาเบี้ยที่บรรจุปรอทแท้ๆตามสายวิชายากมาก
ให้บูชา 2800 รส

 

290. ท้าวเวสสุวรรณเนื้อแร่กายสิทธิ์สุริยันราชา หลวงพ่อพิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่ อยุธยา เข้าพิธีอธิฐานจิต ปลุกเสกจากหลวงพ่อ พระผู้ทรงด้วยอภิญญา และเข้าพิธีพุทธาภิเษกกว่า 7 วาระ ขนาดความสุงประมาณ 5 ซ.ม. ฐานกว้างประมาณ 2.3 ซ.ม. พิมพ์สวย คมชัด เข้มขลังดูศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสสุวัน) หรือในภาษาพราหมณ์เรียกว่า "ท้าวกุเวร" เป็นเทพองค์หนึ่งอยู่ในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ผู้คุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ประทับทางทิศเหนือมีอสูร รากษส และภูตผีปีศาจเป็นบริวารพร้อมถือว่าท่านเป็นหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาล อันประกอบไปด้วย "พระอินทร์" (ท้าวธตรฐ) ปกครองโลกด้านทิศตะวันออก , "พระยม" (ท้าววิรุฬหก) ปกครองโลกด้านทิศใต้ และ "พระวรุณ" (ท้าววิรูปักษ์) ปกครองโลกด้านทิศตะวันตก ท่านเป็นผู้ใจบุญ บุญมาก มีโทสะกล้า เป็นผู้ครองนคร....... มีอานุภาพมาก มีอาวุธวิเศษของเทวโลก
พุทธคุณ
1.กันภัยเรื่องที่มาจากอมนุษย์และสิ่งชั่วร้ายที่มองไม่เห็น
2.ช่วยอำนวยความสำเร็จ ความโชคดี มั่งมีสมบัติ
3.ช่วยอำนวยพรอำนาจ ยศ ศักดิ์ วาสนา บุญบารมี ได้รับความช่วยเหลือ
พระผู้ปลุกเสกทรงด้วยอภิญญา
1. หลวงปู่แผ้ว ปวโร
วัดรางหมัน เมตตาอธิฐานจิต ชนวน
2. หลวงปู่พ่อท่านผอม ถาวโร วาจาสิทธิ์
สำนักปฎิบัติธรรม วัดไทรขาม เมตตาอธิฐานจิต ชนวน และองค์ท้าวเวสสุวรรณ
3. หลวงปู่พันวัดอภัยเขตตาราม เมตตาอธิฐานจิต ชนวน
4. ท่านพ่อครูบากฤษณะสำนักรัตนแก้วมณี เมตตาอธิฐานจิต ชนวน
5. พระอาจารย์เอราวัณ อุทธยานธรรมโกศล
6. พระครูปลัดพิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่ อยุธยา
7. พระครูสมุห์อานนท์ วัดบึงลาดสวาย
8. หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
9. หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์
............................
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕
https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=8717
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคล ให้กับทางหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เนื่องด้วยไปก่อนเวลา หลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์จึงพาไปพักที่กุฏิของท่านก่อน เมื่อเข้าไปก็ต้องกราบพระประธาน ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติมาในทุกที่ ก็สะดุดตากับพระประธานที่สีแดงอร่าม คล้าย ๆ กับนาก แต่ดูแล้วก็ไม่ใช่นาก จึงได้เรียนถามหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ว่า "ใช่เนื้อเหล็กไหลสุริยันราชาหรือไม่ ?" หลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์บอกว่า "ใช่ครับ ผมใช้เวลาค่อย ๆ สะสมอยู่ถึง ๒ เดือนกว่า จึงสร้างได้ ๑ องค์ ก็เลยเก็บเอาไว้บูชาเอง ถือว่าเป็นการสร้างพระประจำตัวไปด้วย"
คำว่า เหล็กไหลสุริยันราชานั้น เป็นโลหะธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ที่ร่ำเรียนวิชาเกี่ยวกับการเรียกเหล็กไหล จะต้องไปทำการเรียกจากสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งสามารถดูออกได้ตามตำราว่า สถานที่นั้นมีเหล็กไหลชนิดนี้หรือไม่ ?
บรรดาเนื้อโลหะเมฆสิทธิ์ เมฆพัตร ชินนพรัตน์ ซึ่งเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ ตลอดถึงเหล็กไหลสุริยันราชา จะเป็นโลหะธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว สามารถที่จะแผ่พลังงานออกไปรอบด้านมากน้อยตามแต่ขนาด สามารถที่จะช่วยในการตัดเคราะห์ ตัดกรรม โดยเฉพาะใช้ในการทำน้ำมนต์เพื่อเสริมดวง หรือว่าอธิษฐานรักษาโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดียิ่ง
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าวิชาการเหล่านี้ คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ค่อยได้ศึกษากัน ที่เห็นมีทางด้านหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ก็ดี หลวงพ่อพระครูสมุห์ อภิสิทธิ์ อภิญาโณก็ดี ได้พากเพียรพยายามศึกษาและปริวรรตตำราเก่า ๆ ออกมาเป็นของใหม่ให้คนรุ่นหลังอ่านรู้เรื่อง
---------------------------------------------------------------
ให้บูชา 1500 รส

 

291. ปู่ฤาษีตาไฟ ลป.หงษ์
(ปิดรายการนี้แล้ว)

 

292. พระพิฆเนศ ลป.หงษ์ เนื้อเมฆพัตร เดิมๆ นอนกล่อง
ให้บูชา 1500 รส

 

ปิดครับ

 

ปิดครับ

 

293. ลูกอมปถวีธาตุ ลป.หงษ์ เสก 1 ไตรมาส กล่องเดิม
ให้บูชา 1800 รส

 

294. หนุมาน มัจฉานุ ลป.หงษ์
ให้บูชา 1500 รส

 

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน