พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

1747.พระดีในตำนาน พระรอด ขรัวอีโต้ เนื้อดินลงรักปิดทอง ให้บูชา.....pm....

​

พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ "พระรอดเมืองใต้" เป็นพระเครื่องเนื้อผงขนาดเล็ก เท่ากับพระรอดเลยเรียกกันว่า พระรอดเมืองใต้ พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ(วัดราษฎร์บูรณะ) ผู้สร้างคือ สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ และนายทองด้วง


พระขรัวอีโต้ วัดเลียบ (วัดราษฎร์บูรณะ) เชิงสะพานพุทธ ฝั่งกรุงเทพฯ เป็นพระเครื่องเนื้อผง องค์เล็กกะทัดรัด ขนาดประมาณเท่ากับ พระรอด กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน อีกทั้งพิมพ์ทรงละม้ายคล้ายกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "พระรอดเมืองใต้" จากแผ่นทองแดงจารึกภาษาขอม ระบุว่า ผู้สร้างพระขรัวอีโต้นี้คือ สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ และ นายทองด้วงมหาดเล็กคนสนิทของท่าน สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ เป็นผู้มีคาถาอาคมแก่กล้า ชาวบ้านเคารพนับถือท่านมาก และต่างพากันเรียกสามัญนามของท่านว่า พระขรัวอีโต้ ตามประวัติเล่ากันว่า เมื่อครั้งสมัยไทยเสียกรุงแก่พม่าครั้งที่ ๒ เมื่อปี ๒๓๑๐ สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ได้ถูกต้อนไปอยู่เมืองพม่าหลายปี ต่อมาเมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรี (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ทรงกู้อิสรภาพได้แล้ว สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ จึงได้หลบหนีพม่ากลับมาสู่เมืองไทย พร้อมกับโยมน้องผู้หญิงของท่านคนหนึ่ง ในระหว่างทางเวลาค้างแรม ท่านจะนำ มีดอีโต้ คั่นตรงกลางระหว่างท่านกับโยมน้องผู้หญิงทุกครั้ง จนกลับมาถึงกรุงธนบุรี โดยพำนักอยู่ที่วัดราษฎร์บูรณะ (วัดเลียบ) ชาวบ้านและพระสงฆ์ต่างโจษจันกันว่า ท่านจะต้องอาบัติปาราชิกกับโยมน้องผู้หญิงของท่านอย่างแน่นอน เพราะเป็นการรอนแรมมาด้วยกันเพียง ๒ คน เมื่อมีการร่ำลือกันมากๆ ท่านจึงประกาศเชิญผู้ที่กล่าวหา และผู้ที่สงสัยในตัวท่าน มาที่ริมสระน้ำในวัด แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง โดยมี มีดอีโต้ เป็นพยานแต่ไม่มีใครเชื่อ ท่านจึงทำการเสี่ยงสัตย์ต่อพระแม่คงคา ขอให้พระแม่คงคาเป็นพยานยืนยันว่า ถ้าท่านบริสุทธิ์ อยู่ในศีลพรหมจรรย์จริง ขอให้มีดอีโต้เล่มนี้จงลอยน้ำ หลังจากนั้น ท่านได้ขว้าง มีดอีโต้ ของท่านลงไปในน้ำ ได้เกิดปรากฏการณ์เป็นที่มหัศจรรย์มาก มีดอีโต้ไม่จมน้ำ กลับลอยอยู่บนผิวน้ำทั้งๆ ที่ปกติจะต้องจมน้ำ เพราะมีดเป็นเหล็ก ย่อมมีน้ำหนักพอสมควร

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงตื่นตะลึงและโจษขานกันว่า ขรัวอีโต้ลอยน้ำ พร้อมกันนั้น ทุกคนก็เชื่อในความบริสุทธิ์ของท่าน และเรียกชื่อท่านว่า พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ หรือ พระขรัวอีโต้ จนเป็นฉายานามของท่านตลอดมา พระขรัวอีโต้ เป็นผู้มีวิชาความรู้ทางคาถาอาคมมาก ชาวบ้านต่างพากันให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใส ขณะเดียวกันท่านก็ได้เป็นที่พึ่งพาอาศัยของชาวบ้านมาโดยตลอดจนได้เป็น สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ ต่อมาท่านพร้อมกับนายทองด้วงได้สร้าง พระเนื้อผง ขนาดองค์พระเล็กกะทัดรัด ขึ้นมาเพื่อสืบพระศาสนา โดยบรรจุไว้ที่เจดีย์วัดราษฎร์บูรณะ ว่ากันว่าจำนวนพระที่สร้างมีมากถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ ตามพระธรรมขันธ์ พระเครื่องนี้ชาวบ้านเรียกตามชื่อของท่านว่า พระขรัวอีโต้ เป็นความเข้าใจที่ง่ายดี

พระขรัวอีโต้ ที่บรรจุเอาไว้ในองค์เจดีย์ ถูกชาวบ้านลักขุดอยู่เป็นประจำ จนในที่สุด พระได้แตกกรุอย่างเป็นทางการ เมื่อพ.ศ.๒๔๗๓ ช่วงที่ทางราชการได้ขยับขยายพื้นที่เพื่อก่อสร้าง สะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกต่อมาได้มีผู้นำพระขรัวอีโต้ พระพิมพ์นี้ไปใบูชาแล้วเกิดประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี จนได้รับสมญานามว่า พระรอดเมืองใต้

 

1748. เกจิคณาจารย์ เรืองวิทยาคมแห่งตะวันออก เหรียญอาร์มหลวงพ่อวงศ์ รุ่น 5 ฉลองอายุ 80 ปี วัดบ้านค่าย จ.ระยอง ให้บูชา 1450 บาท

​

เหรียญอาร์มหลวงพ่อวงศ์ รุ่น 5 ฉลองอายุ 80 ปี วัดบ้านค่าย จ.ระยอง
หลวงพ่อวงศ์วัดบ้านค่าย (พระครูวิจิตรธรรมมานุวัติ)
ท่านเป็นพระที่เก่งอีกรูปหนึ่งของ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยเฉพาะด้านโหราศาสตร์และการแพทย์แผนโบราณ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่สังข์เฒ่า
(ผู้สร้างพระเก๋งจีนระยอง) หลวงพ่อวงศ์เป็นเกจิชื่อดังรูปหนึ่งในอดีตมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักพอๆ กับ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ แต่เหรียญรุ่นที่ 5 ของท่าน มีหลายกระแสบ้างก็บอกว่าหลวงพ่อวงศ์กับลูกศิษย์ร่วมกันสร้างตอนท่านอายุครบ 80 ปี ในปี 2480 บ้างก็บอกว่าลูกศิษย์สร้างประมาณปี 2496 หรือไม่ก็ ปี 2498 โดย ลพ.ดิ่งเจ้าอาวาสองค์ถัดมาจาก ลพ.วงศ์ ซึ่งเป็นศิษย์ของท่านและมีเกจิดังๆหลายท่านร่วมปลุกเสกตามรายชื่อด้านล่าง
-ลพ.ดิ่ง วัดบ้านค่าย
-ลพ.ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
-ลป.ทิม วัดไร่วารี / วัดละหารไร่
-ลพ.โต วัดเขาชากกระโดน
-ลพ.หอม วัดชากหมากฯ
-ลพ.หิน วัดหนองสนม
-ลพ.เย็น วัดบ้านแลง
-ลป.เฮี้ยง วัดป่า
-ลพ.โด่ วัดนามะตูม

 

1749. รูปเหมือนหลังเตารีด หลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต จังหวัดกาฬสินธุ์ มูลนิธิหลวงปู่ทิมจัดสร้างถวาย ให้บูชา 450 บาท

​

อ.ชินพร ได้เพียรพยายามแสวงหาพระเกจิอาจารย์ที่จะสร้างพระกริ่งให้โด่งดังอีกครั้งหนึ่งตามคำพยากรณ์ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จนมาพบหลวงปู่ทองฤทธิ์ อุตตโม ที่วัดป่าฉันทนิมิต จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่ออายุของหลวงปู่ในขณะนั้น 97 ปี และการสร้างพระเครื่องชุดนี้ (เสาร์ 5) ก็ผ่านมาครบ 20 ปี พอดี หนึ่งในนั้นคือ รูปเหมือนหลวงปู่ทองฤทธิ์หลังเตารีด ซึ่ง อ.ชินพร กล่าวว่าหลวงปู่ทองฤทธิ์ "ท่านเมตตาเสกให้กันอาวุธได้ทุกชนิด"
งานเขียน อ.ชินพร สุขสถิตย์ ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก
...ก่อนมรณภาพหลวงปู่ทองฤทธิ์ ท่านได้อนุญาตให้ คุณ ชินพร สุขสถิตย์ สร้างพระให้ท่านหลายพิมพ์ จนลูกบุญธรรมซึ่งเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนรัฐบาลในกรุงเทพฯ ถามว่า ”หลวงพ่ออยากดังหรืออย่างไร? จึงให้นายชินพร สร้างพระ ทั้งที่รองผู้ว่าฯขอก็ไม่ให้” หลวงปู่ทองฤทธิ์ท่านบอกว่า “ชินพร เขาเจตนาบริสุทธิ์ ซื่อตรง ทำแล้วจะใช้ได้ผลดี เพราะเขาเป็นคนดี

"อิทธิฤทธิ์หลวงปู่ทองฤทธิ์"

คุณชินพร สุขสถิตย์ ยอมรับว่า ตั้งแต่พบพระเกจิอาจารย์มา ไม่เคยพบเกจิองค์ใดที่มีพลังจิตแรงและไวเท่าหลวงปู่ ทองฤทธิ์ อุตตโม
หลวงปู่ ทองฤทธิ์ ท่านลงอักขระเลขยันต์ไม่กี่ตัว ม้วนและยกขึ้นจบ แล้วส่งให้ผมเลย ผมเองเห็นแล้วไม่ค่อยเชื่อถือ สีหน้าผมคงแสดงออก คุณลุงที่นั่งปรนิบัติหลวงปู่ทองฤทธิ์ในวันนั้นคงจะเห็นอาการของผม แกจึงบอกผมว่า “คุณถ้าไม่เชื่อ ลองเอาออกไปยิงดู ผมรับรองว่านัดแรกไม่ออก”
คุณชินพร และนายดาบตำรวจ จุลวัฒน์ จุลสุคนธ์ พร้อมเพื่อนร่วมทางอีก ๒ ท่าน จึงทำตามคำท้าพิสูจน์ของคุณลุงท่านนั้น นายดาบจุลวัฒน์ ซึ่งมีปืนประจำตัว เอาตะกรุดไปวางไว้ในที่อับกระสุน ระลึกบอกกล่าวว่า ไม่ได้ลบหลู่ แต่ของชมอิทธิฤทธิ์ว่าจะจริงอย่างคำท้าหรือไม่แล้วก็เหนี่ยวไกลั่นกระสุนทันที ปรากฎว่ากระสุนด้าน

...คุณชินพรกล่าวว่า ผมเคยไปพบพระเกจิอาจารย์มาก็มาก ไม่เคยเห็นใครมีกระแสจิตแรงและไวเหมือนหลวงปู่ ทองฤทธิ์ เลยโดยเฉพาะเรื่องมหาอุด แทบไม่น่าเป็นไปได้เลยที่พระสายปฏิบัติจะเก่งถึงขนาดนี้ หลวงปู่ ทองฤทธิ์ อนุญาติให้มูลนิธิหลวงปู่ทิม สร้างวัตถุมงคลในวันเสาร์ ๕ ปี๒๕๓๙
ภายหลังจากที่ได้ไปรู้จักกับหลวงปู่ ทองฤทธิ์ อุตตโม เมื่อต้นปี ๒๕๓๕ แล้วยอมรับในพลังจิต และการปฏิบัติเพื่อปล่อยปละละวางของท่าน คุณชินพร สุขสถิตย์ ผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม อิสริโก จนโด่งดังก็เที่ยวบอกให้พรรคพวกเพื่อนฝูงที่สนใจทางด้านนี้ให้ไปพบหลวงปู่ทองฤทธิ์บ้าง เมื่อหลายๆ คนได้ไปพบท่านต่างก็เลื่อมใสในวัตรปฏิบัติและการไม่ถือตัวของท่าน หลวงปู่ทองฤทธิ์ จะให้ความเมตตาอนุเคราะห์สนองความต้องการแก่ผู้คนที่ไปหาทุกคนเสมอกัน ไม่เลือกชั้นวรรณะ แบ่งแยกคนมีคนจน และประการสำคัญ “ไม่มีใครคอยมาเป็นทศกัณฐ์”
ในวันเสาร์ห้า เดือนห้า ขึ้นห้าค่ำ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่แข็งที่สุดของการทำวัตถุมงคล และเครื่องรางของขลัง มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก จึงได้ขออนุญาติหลวงปู่ ทองฤทธิ์ พระเก่ง พลังจิตแก่กล้า วัตรปฏิบัติเคร่งครัด อายุพรรษาสูง สร้างวัตถุมงคล ๕ แบบ ๕ พิมพ์ ขึ้นในวันสำคัญนี้ และขอให้หลวงปู่ทองฤทธิ์ ปลุกเสกเดี่ยวเพียงองค์เดียว แม้วันเสาร์ห้า เดือนห้า ขึ้นห้าค่ำ จะเป็นวันแข็งตามสุริยคติและจันทรคติแล้ว หากจะคำนวนฤกษ์ยาม เวลาอันแข็งที่สุดของวันเสาร์ห้านี้แล้ว จะทำให้ของนั้น ใช้ได้ผลเป็นทวีคูณ ท่านอาจารย์ทองเจือ ธัมมธีโร หรือ ท่านสหัสรังษี จึงคำนวนฤกษ์เทพระกริ่ง และฤกษ์ปลุกเสกให้เป็นพิเศษ ซึ่งฤกษ์เททองหล่อพระกริ่ง ชื่อว่า เพชรฤกษ์มหาลาภ ฤกษ์ปลุกเสกในวันเสาร์ห้า ชื่อว่า เพชรฤกษ์มหาจักรพรรดิ์กายสิทธิ์ พระเครื่อง ๕ พิมพ์ที่หลวงปู่ทองฤทธิ์ อนุญาติให้สร้างนี้ประกอบด้วย
๑. พระชัยวัฒน์- พระกริ่งทองฤทธิ์
๒. พระปิดตามหาอุตตโมสก็อตจั๊ม
๓. พระนาคปรกใบมะขามทองฤทธิ์
๔. รูปเหมือนหลังเตารีด เนื้อผง
๕. รูปเหมือนหลังเตารีด เนื้อทองแดง
วัตถุมงคลทั้ง ๕ แบบ นี้ ถวายหลวงปู่ทองฤทธิ์ เพื่อหาปัจจัยสร้างเมรุเผาศพ และศาลาพักศพของวัดป่าฉันทนิมิตร และอีกส่วนหนึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะสมทบทุนมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ออกให้บูชาในวันเสาร์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๓๙

 

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

.....

 

1750. สุดยอดของดีของหลวงปู่ 1 ใน 1,000 องค์ พระขุนแผนชัยวรมัน เนื้อปฐวีธาตุ รุ่นไตรมาส "ฉลองมงคล 84" หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน(วัดเพชรบุรี) จ.สุรินทร์ ปี 2543 ปิดรายการครับ

​

พระขุนแผนชัยวรมัน รุ่นไตรมาส "ฉลองมงคล 84"
ตำนานการสร้างขุนแผนชัยวรมันของหลวงปู่หงษ์ เป็นรุ่นที่ระดมมวลสารผงวิเศษสำคัญของการสร้างพระรุ่นเก่าทุกชุดทุกพิธีนำมาผสมสร้างเพื่อให้เกิดความขมังฤทธิศักดิ์ตามที่ทุกท่านพึงปรารถนา
โดยเฉพาะผงบังคับแล้วครบถ้วนแล้วยังมีผงวิเศษที่นำมาผสมอีกมากมาย เช่น ผงธาตุขันธ์ ผงรวมดินรวย ดิน 7 นคร 9 บุรี ดินโปร่งทั้งห้า ดินปฐวีธาตุ
ผงเตโชธาตุ หรือผงฤาษีแปลงรูป ผงวาโยธาตุ คำหมากภาวนาดับเทียนชัย อาโปธาตุ น้ำมนต์มากกว่า 108 พิธี และน้ำพุทธมนต์จากพระพุทธรูปองค์สำคัญ ๆซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ เช่น
น้ำพุทธมนต์ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อโตวัดบางพลี หลวงพ่อวัดพนัญเชิง หลวงพ่อชินราช หลวงปู่ทวด หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)
รวมเรียกว่า ตั้งต้นรวมธาตุทั้งสี่ คือธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมผงอาถรรพ์ที่เป็นเคล็ดวิชาของหลวงปู่โดยเฉพาะ มวลสารโบราณที่ได้จากปราสาทนครวัด-นครธม
มาผสมผสานกับเอกลักษณ์พิเศษของพระเจ้าชัยวรมันมหาราชผู้เปี่ยมด้วยมหาอำนาจราชศักดิ์และเป็นมหานิยมแห่งชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวงด้วย

 

สวัสดียามเช้าครับ ^^ สนใจรายการไหน สอบถามได้ครับ

 

.........

 

1751. พระสมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์เล็ก ร.9 วัดมหาธาตุ ปี2508 จ.เพชรบุรี สุดยอดพิธีปลุกเสกและมวลสาร ลพ.แดง,ลพ.ทบ,ลพ.เงิน รวมสุดยอดเกจิฯลฯปลุกเสก ปิดรายการครับ

​

พระสมเด็จปรกโพธิ์ รัชกาลที่9 วัดพระมหาธาตุ จังหวัดเพชรบุรี เนื้อผงมหาพุทธคุณ ผสมเส้นพระเจ้า พระราชทาน(พระเกศา) หลังยันต์โต๊ะกัง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508 และมีนำมาออกบูชาในปี พ.ศ.2512 มวลสารศักดิ์สิทธิ์ เส้นพระเจ้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9, ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ ที่ท่านลบไว้สมัยที่จำพรรษาที่วัดปากทะเล เพชรบุรี, ผงพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม กรุปี 2500 ของสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี, ได้รับมอบผงพุทธคุณพระอาจารย์ชื่อดังมากมาย อาทิเช่น ผงพุทธคุณหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ผงพุทธคุณหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ผงพุทธคุณหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีเป็นต้น พระสมเด็จปรกโพธิ์ รัชกาลที่9 วัดพระมหาธาตุ สร้างตามสูตรพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2509 โดยพระครูบริหารคุณวัตร (หลวงพ่อชม) อดีตเจ้าอาวาสวัดบางขุนพรหมถวายมวลสารให้หลายปี๊บ สร้างเป็น 2 พิมพ์ คือพิมพ์พระสมเด็จและพิมพ์พระสมเด็จปรกโพธิ์ ประกอบด้วยพิมพ์พระสมเด็จ 4 บล็อก และพิมพ์สมเด็จปกโพธิ์อีก 3 บล็อก พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ. พระอุโบสถ วัดพระมหาธาตุ เพชรบุรี จัดว่ายิ่งใหญ่ พระเกจิชื่อดัง เข้าร่วม อาทิ
- หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
- หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
- หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
- หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
- หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
- หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
- หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
- หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- หลวงพ่อเขียว วัดทรงหลบน
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
- หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
- หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
- หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร
- หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต
- หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
- หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
- หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้
- หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค
- หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
- หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์
- หลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง
- หลวงพ่อตัด วัดชายนา
- หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
- หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
- หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
- หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว
- พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
- พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
- พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
- พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นต้น

 

1752. พระผงของขวัญ พิมพ์ประทานพร พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ กทม. ปี 2506 ให้บูชา 699 บาท

​

พระรุ่นนี้ปลุกเสกพร้อมหลวงพ่อทวด วัดพระเชตุพน ปลุกโดย
อาจารย์ทิม วัดช้างให้
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฯ,
พระเกจิสายอีสานร่วมเสก
แม่ชีบุญเรือน ร่วมอธิฐานจิต
และพระคณาจารย์อีกหลายท่านร่วมปลุกเสก เนื้อหามวลสารเข้มข้น ทั้งผงเก่าผงใหม่และผงเกสร พระเนื้อผงรุ่นนี้สร้างในปี 2506 โดยมีส่วนผสมของผงวิเศษ เช่น ผงพระกรุบางขุนพรหม ผงพระกรุวัดสามปลื้ม ผงวิเศษหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ผงวิเศษหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นต้น
พระผงของขวัญ พิมพ์ประทานพร พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ปี 2506 เนื้อผงว่าน หลังยันต์ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 เนื้อหามวลสารประกอบด้วย ผงพุทธคุณ ว่าน และผงเกสรดอกไม้ พระรุ่นนี้ปลุกเสกพร้อมหลวงปู่ทวด วัดพระเชตุพน ปลุกโดย หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้ และพระคณาจารย์อีกหลายท่านร่วมปลุกเสก สภาพสวยเดิมสมบูรณ์ เนื้อหามวลสารเข้มข้น ทั้งผงเก่าผงใหม่และผงเกสร ของดีหลวงปู่ทิม วัดช้างไห้เสก หายากมาก
ท่านพระครูประกาศสมาธิคุณแห่งวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กทม. ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถหลายๆ ด้าน ท่านเป็นพระนักพัฒนาพุทธศาสนาและเป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐานท่านยังมีความรู้ความสามารถในด้านพุทธประวัติและประวัติศาสตร์ มีตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาสและเจ้าคณะ 25 ของวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กทม. เมื่อปี 2496 ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ริเริ่มให้วัดมหาธาตุมีการเรียนรู้ในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน จนมีผู้คนสนใจและมีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น ในเวลาต่อมา ท่านยังได้เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งและก่อสร้างวัดไทยสารนาทที่เมืองมฤคทายวันมหาวิหาร ที่ประเทศอินเดียเมื่อปี 2513 ด้วย ส่วนวัตถุมงคลของท่านพระครูประกาศสมาธิคุณนั้น ก็มีหลายรุ่นและแต่ละรุ่นก็ได้มีพิธีปลุกเสกอย่างดีจากพระเกจิฯ สายกรรมฐาน พระเนื้อผงรุ่นนี้สร้างในปี 2506 โดยมีส่วนผสมของผงวิเศษ ผสมเช่นผงพระกรุบางขุนพรหม ผงพระกรุวัดสามปลื้ม ผงวิเศษของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำเป็นต้นด้วย

 

สวัสดีครับ^^

 

​

 

1753.เด่นมากทางเมตตา โภคทรัพย์ พระผงเงิน พิมพ์จันลอย หลวงปู่เงิน วัดถ้ำน้ำ โพธาราม เนื้อแบงค์ /เถ้าธนบัตร/ว่านมหาเศรษฐี/ ผงพุทธคุณที่หลวงปู่ลบผงเอง ฯ ด้านหลังฝังตะกรุดโภคทรัพย์ 1 ดอก ให้บูชา 550 บาท

​

พระผงจันลอยมหาเศรษฐีเนื้อผงมวลสารจากแบงค์เถ้าธนบัตรจากธนาคารชาติที่ท่านเสกด้วยวิชาทางโภคทรัพย์มานาน๔ปี ท่านต้องการให้ลูกศิษย์ลูกหาท่าน ที่นำไปบูชาเป็นกำลังใจ เหมือนมีสื่อเรียกเงินเรียกทรัพย์ มีความคล่องตัวในการทำมาหากิน หาเงิน ท่านเห็นลูกศิษย์ลูกหาต้องทำงานกันอย่างเหนื่อยยาก ต้องอดทน กว่าจะได้เงินมากันก็เพราะต้องการเงินกัน เงินจึงเป็นที่ปราถนาของทุกคน หลวงพ่อท่านจึงเอาแบงค์ผงธนบัตรมาผสมกับพระผงจันลอยของท่านเป็นเคล็ดเป็นสื่อนำทรัพย์นำเงิน ตามนามของท่าน ที่ชื่อเงิน หลวงพ่อเงิน อันเป็นมงคลนาม ออกเเบบเป็นพระพิมพ์จันลอย(พิมพ์กลม)ให้เหมือนกับรูปลักษณะของเหรียญเงิน เนื้อผงผสมเงิน ผงเเบงค์เถ้าธนบัตร ว่านมหาเศรษฐีฯ ให้มีพลังทางด้านทำมาหากิน ค้าขายดี เรียกเงิน ด้านหลังจารึกคำว่ามหาเศรษฐี ช่วยให้เป็นเศรษฐีได้ไม่ยากเย็นนัก

 

1754.สุดยอดมวลสาร และพืธีเสก พระสมเด็จวัดทด จ.ฉะเชิงเทรา ผสมผงอิทธิเจ หลวงปู่ภูวัดอินทร์ ปลุกเสกพร้อมหลวงพ่อโสธร2หน้าปี2497ที่วัดโสธร ปิดรยการครับ

เป็นวัดที่มีพระเนื้อผงที่สร้างจากผงเก่าของลป.ภู วัดอินทรวิหาร โดยผงนี้ได้จากอาจารย์เย็น จิ๋วเกษม ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดของลป.ภู โดยเริ่มสร้างในปี พศ.2495 มีพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ และพิมพ์นางพญา เนื่องจากใส่ผงมวลสารมากและน้ำมันตังอิ๊วน้อยทำให้ส่วนมากพระรุ่นนี้จะมีรอยรานแตกปริที่ผิวองค์พระ ที่ไม่แตกรานก็มีแต่ก็พบน้อยกว่า พระรุ่นนี้เมื่อสร้างเสร็จได้นำเข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกับพระลพ.โสธร รุ่น พศ.2497 อันโด่งดัง และแจกแก่ผู้ที่มาร่วมทำบุญสร้างพระอุโบสถ​

 

1755. พระปิดตารุ่นแรก เนื้อว่านผสมผง หลวงพ่ออบ อินทวิริโย วัดถ้ำแก้ว จ. เพชรบุรี ปี ๒๕๑๗ ปิดรายการครับ

​

"หากฉันตายให้ไปหาหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เขาสามารถแทนฉันได้ " เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ที่กล่าวไว้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ไปกราบมนัสการท่าน

พ่อท่านเป็นชาวบ้านหนองช้างปลัก ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เกิดปีระกา ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พุทธศักราช ๒๔๕๒ นามบิดา ผึ่ง กลีบจงกล นามมารดา เพี้ยน กลีบจงกล มีพี่น้องร่วมกัน ๖ คน หลวงพ่ออบเป็นคนหัวปี หลวงพ่ออบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ อุโบสถวัดถ้ำแก้ว มีพระอุปฌายย์ คือหลวงพ่อทิม วัดโคก ,หลวงพ่อเช้า วัดเวียงคอย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่ออยู่ วัดถ้ำแก้วเป็นพระนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงพ่ออบก็จำพรรษาอยู่วัดถ้ำแก้ว ศึกษาวิปัสสนาธุระ และพุทธคมกับหลวงพ่ออยู่ ด้วยความพากเพียรเป็นเวลาถึง ๕ พรรษา จากนั้นจึงเดินออกธุดงค์อยู่ทุกปี ร่ำเรียนวิชากับพระอาจารย์ต่าง ๆ คือ อาจารย์วัดลาดบัวขาว จังหวัดปราจีนบุรี หลวงปู่นาค วัดหัวหิน อาจารย์อยู่ อาจารย์หยอย เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว และปู่แสง(โยมพระอาจารย์หยอดญ)ซึ่งเป็นฆราวาสถือศีลกินเพล ซึ่งเรืองวิทยาคมและมีชื่อเสียงดังมากในจังหวัดเพชรบุรีสมัยนั้น
หลวงพ่ออบ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิทยาคมเก่งกล้าด้านคงกระพันชาตรี จากประวัติคำบอกเล่ามีว่า ครั้งหนึ่งมีคนบ้าถือมีดพร้าเข้ามาฟันท่านในวัด เสียงดัง บึกๆ แต่ ไม่ระคายผิวท่านเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสอดคล้องกับที่หลวงพ่อแดง เคยบอกผู้ที่ไปกราบท่านว่า"ถ้าจะเอาเหนียว ต้องไปหาท่านอบ วัดถ้ำแก้ว" หลวงพ่ออบ ท่านเป็นพระเถระที่ประพฤติปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก
ส่วนเรื่องที่ท่านมรณภาพด้วยการที่ซุงบนรถบรรทุก หล่นลงมาทับร่างของท่านจนถึงแก่มรณะภาพนั้น ในความรู้สึกส่วนตัวของผมนั้น คิดว่า “นั้นเป็นกรรมที่หลวงพ่อท่านจะต้องเจอครับ” ซึ่งท่านน่าจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะก่อนเกิดเหตุนั้น ท่านได้บอกกับคนอื่นๆที่ต้องไปช่วยงานท่านในการตีตราซุงเหล่านั้นให้หลบออกไปจากบริเวณดังกล่าวให้หมด เหมือนกับว่าท่านรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นก่อนล่วงหน้า และที่แปลกคือ ร่างกายของพ่อท่านไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลย จะมีก็เพียงรอยเลือดที่มุมปากเท่านั้น ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาใครศรัทธามันนะครับ เราไม่ว่ากัน
วัตถุมงคลที่ท่านทำนั้น มี ตระกรุด ,ผ้ายันต์ ส่วนเหรียญนั้นมี ๓ รุ่น ยังมีพระกริ่งถ้ำแก้ว พระผงรูปเหมือนแช่น้ำว่าน พระปิดตาแช่น้ำว่าน พระปรกใบมะขาม พระผงเม็ดยา และพระบูชารูปเหมือน ปัจจุบันวัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านเริ่มจะหาค่อนข้างยากแล้ว เนื่องจากมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด คงกระพัน เป็นที่ประจักษ์

 

1756. พระขุนแผน รุ่นจงสำเร็จ ปี 2555 หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ปิดรายการครับ

​

เป็นการระดมมวลสารผงวิเศษสำคัญของการสร้างพระรุ่นเก่าทุกชุดทุกพิธีนำมาผสมสร้างให้เกิดความขลัง ส่วนผงที่นอกเหนือจากนี้แล้ว เช่น
ผงธาตุขันธ์
ผงรวมดินรวย
ผสมพระธาตุ สิวลี ดิน 7 นคร 9 บุรี
ดินโปร่งทั้งห้า
ดินปัถวีธาตุ
ผงเตโชธาตุหรือผงฤาษีแปลงรูป
ผงวาโยธาตุ
คำหมากวาวนาดับเทียนชัย
อาโปธาตุน้ำมนต์มากกว่า 108 พิธี
และน้ำพุทธมนต์จากพระพุทธรูปองค์สำคัญ ๆ

เข้าพิธีพุทธาภิเษกในรุ่น "จงสำเร็จ" ในวันเสาร์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๕
ขุนแผนรุ่นสุดท้ายที่ทางกองทุนปลูกป่าสร้างถวาย
ขุนแผนรุ่นนี้นับว่าเป็นที่สุดของขุนแผน ซึ่งได้รวบรวมมวลสารต่างๆตั้งแต่
ขุนแผนชัยวรมัน,
ขุนแผนบายน,
ขุนแผนเพชรสุรินทร์
สมเด็จมหาปรารถนาเพิ่มน้ำมันช้างตกมันชะมดเช็ด
รุ่นนี้อาจารย์ได้ขอหลวงปู่รวมโลหิตของท่านเข้าไปครั้งที่อยู่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ขุนแผนชุดนี้ก่อนที่จะนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ในรุ่น "จงสำเร็จ" ได้นำไปให้หลวงปู่อธิษฐานจิตก่อนหนึ่งครั้งในกุฎิ เมื่อหลวงปู่ได้หยิบขึ้นดู หลวงปู่กล่าวว่า
"นี่คือแก้วสารพัดนึก ยังไม่ทันได้เสก ก็ดีเยี่ยมแล้ว อธิษฐานได้ตามใจปรารถนา"

 

1757.พระดีพิธีใหญ่ เหรียญรัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธ ครบรอบ 100 ปี (รุ่นปืนแตก) ให้บูชา 700 บาท

​

ชนวน มวลสาร ต่าง ๆ มากมาย และเมื่อเหรียญรุ่นนี้ เนื้อกลับดำ แล้วจะมีลักษณะออกไปทาง เนื้อสำริด มิใช่ เนื้อทองแดง จึงตรงกับข้อมูลของช่างและทางวัดว่าเป็น เนื้อทองผสม ที่เจือ โลหะมงคล ที่เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเททองเป็น ปฐมฤกษ์ และเจือด้วย “โลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่าของวัดราชบพิธฯ” และ “แผ่นโลหะลงอักขระ” ของพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วพระราชอาณาจักร ๑๐๘ รูป ที่ระลึกงานฉลองครบรอบร้อยปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ ปี 2513

เหรียญ ออกแบบโดยกรมศิลปากร และ กองกษาปณ์กรมธนารักษ์ เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓ เซนติเมตร ด้านหน้าเป็นพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ครึ่งพระองค์มีตัวอักษรล้อมรอบพระบรมรูปมีใจความว่า (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างวัดราชบพิธฯ ๒๗ มกราคม ๒๔๑๒) ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏ คือบางเหรียญมีรอย แตกร้าว และเมื่อเหรียญรุ่นนี้ เนื้อกลับดำ แล้วจะมีลักษณะออกไปทาง เนื้อสำริด มิใช่ เนื้อทองแดง จึงตรงกับข้อมูลของช่างและทางวัดว่าเป็น เนื้อทองผสม ที่เจือ โลหะมงคล ที่เสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเททองเป็น ปฐมฤกษ์ และเจือด้วย “โลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่าของวัดราชบพิธฯ” และ “แผ่นโลหะลงอักขระ” ของพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วพระราชอาณาจักร ๑๐๘ รูป ส่วนด้านหลังเป็น “ตราวัดราชบพิธฯ” มี “พระเจดีย์” อยู่ตรงกลางแวดล้อมด้วย “พระอุโบสถ” และ “พระวิหาร” มีก้อนเมฆและสุมทุมพุ่มไม้ประกอบเป็นทิวทัศน์และมีอักษรล้อมรอบว่า “ที่ระลึกงานครบรอบร้อยปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ๒๗ มกราคม ๒๕๑๒” ทั้งนี้ ก็เพราะเป็นรุ่นที่จัดสร้างขึ้นในโอกาสที่ “วัดราชบพิธฯ” ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนา เป็น “พระอารามที่ ๑” ในรัชกาลของ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕” โดยพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ วันที่ ๒๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๑๒ และ วันที่ ๒๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๓ จึงมีอายุครบ ๑๐๐ ปี บริบูรณ์ ดังนั้นในศุภวาระมหามงคลดิถีพิเศษนี้ “ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ)” สมเด็จพระสังฆราชลำดับที่ ๑๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๕๑๗-๒๕๓๑) ครั้งยังทรงดำรงพระสมณศักดิ์ที่ “สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์” และทรงเป็น “เจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ” ได้ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนั้น “จอมพลประภาส จารุเสถียร” (ครั้งครองยศพลเอก) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นเป็นประธานกรรมการอำนวยการจัดงานสมโภช จึงได้ตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนสำหรับบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบพิธฯ โดยจัดสร้าง “ปูชนียวัตถุ” หลายชนิดเพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์ในการปฏิสังขรณ์และโดยที่ “วัดราชบพิธฯ” เป็นพระอารามที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สถาปนาเป็น “วัดประจำรัชกาล” จึงได้กราบบังคมทูลขอพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญ “ตราสัญลักษณ์” พระปรมาภิไธยย่อ “จ.ป.ร.” ประดิษฐานไว้ที่ปูชนียวัตถุที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษในครั้งนี้

 

​

​

 

1758. พระดีพิธีใหญ่ เหรียญท่านพ่อลี ธมฺมธโร รุ่นวางศิลาฤกษ์ วิหารวัดอโศการาม ๒๕๒๑ ให้บูชา 650 บาท

​

พิธีมหาพุทธภิเษก ระหว่างวันที่ ๒๔ -๒๖ เมษายน ๒๕๒๑ ณ ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
โดยมีหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี เป็นผู้จุดเทียนชัยในพิธีมหาพุทธาภิเษก
.....รายชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์เมตตานั่งปรก
๑. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
๒. หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์
๓. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
๔. หลวงปู่คำพอง ติสฺโส วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี
๕. หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี
๖. พระญาณวิศาลเถร วัดทรายงาม จ.จันทบุรี
๗. พระครูสันตยาธิคุณ วัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่
๘. พระครูญาณภิรัติ วัดป่าเจริญธรรม จ.เชียงใหม่
และมีคณะสงฆ์วัดอโศการาม นำโดยพระเทพโมลี (สำรอง คุณวุฒฺโฑ) และคณแม่ชี, คณะอุบาสก, คณะอุบาสิกา ร่วมภาวนาตลอดคืน
ทีมสวดพุทธาภิเษก นำโดยหลวงปู่บุญกู้ อนุวฑฺฒโน วัดอโศการาม, หลวงปู่สวาท ปญฺญาธโร วัดโป่งจันทร์ จ.จันทบุรี
หลวงปู่ทอง จนฺทสิริ เป็นผู้จุดเทียนพุทธาภิเษก
พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาร่วมแผ่เมตตาจิตปลุกเสกเหรียญท่านพ่อลี ธมฺมธโร รุ่นวางศิลาฤกษ์วิหารวัดอโศการาม ปี ๒๕๒๑
๑. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู แผ่เมตตาจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส ๓ เดือน (ปีพรรษา ๒๕๒๐)
๒. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย
๓. หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ จ.ขอนแก่น
๔. หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย
๕. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
๖. พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม จ.สกลนคร
๗. พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ วัดภูทอง จ.หนองคาย
๘. หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
๙. พระอ.มหาพุทธา วุฒิสาโร วัดพระบาทภูพานคำ จ.ขอนแก่น
๑๐. หลวงปู่ซามา อจุตโต วัดป่าอัมพวัน จ.เลย
๑๑. หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ วัดสำราญนิวาส จ.ลำปาง