ยอดขุนพล ลพ.เอีย วัดบ้านด่านเสก เสมาหลวงปู่สายดอนกระต่ายทอง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระครูสุจิตตานุรักษ์ (จวน สุจิตฺโต)
    เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2458

    พ.ศ. 2473 อายุได้ 16 ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดหนองสุ่ม อยู่ 3 พรรษา ต่อมาได้ลาสิกขา เพื่อไปช่วยพี่สาวประกอบอาชีพกสิกรรม

    พ.ศ. 2475 อายุได้ 22 ปี อุปสมบทเป็นพระในพระพุทธศาสนา ณ พัทธสีมาวัดประศุก ต.ประศุก อ.อินทร์บุรี ได้มาจำพรรษาที่วัดหนองสุ่ม 1 พรรษา แล้วย้ายไปอยู่ที่วัดโพธิลังกา ต .ท่างาม อ.อินทร์บุรี เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม

    พ.ศ. 2482 ได้ลาสิกขาบทไปประมาณ 5 เดือนเศษ เพื่อไปช่วยพี่สาวที่อุปการะเลี้ยงมา

    พ.ศ. 2483 อายุได้ 26 ปี ทำการอุปสมบทใหม่ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 22483 ณ พัทธสีมาวัดประศุก และได้มาจำพรรษาอย่วัดหนองสุ่ม ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงวันละสังขาร

    หลวงพ่อจวน ได้ละสังขารเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 (แรม 8 ค่ำ เดือน 8) รวมอายุได้ 79 ปี

    พระอาจารย์ที่หลวงพ่อจวนได้ศึกษาเล่าเรียน (ที่พอหาได้) ได้แก่
    หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ วิชาเครื่องรางของขลัง
    หลวงพ่อกอง จังหวัดสุโขทัย วิชาตะกรุดโทน
    หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์
    และอาจารย์ที่เป็นฆาราวาสอีกหลายท่าน

    "หลวงพ่อจวนเป็นพระองค์หนึ่ง ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย
    เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ"

    "สมัยที่หลวงพ่อจวนยังอยู่ จะไม่ให้ทำหนังสือวัตถุมงคล ท่านบอกว่า ของ ๆ ฉันถ้าจะดังเดี๋ยวดังเอง"




    ประวัติ พระครูสุจิตตานุรักษ์ (จวน สุจิตโต) วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    109060690_1627982857365418_3703144445642162669_n.jpg

    หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม เป็นเกจิอาจารยทมเมตตาธรรมสูง และมีเอตทัคคะเป็นเยี่ยม พุทธคุณที่เด่นที่สุด ทางเมตตามหานิยม และ แคล้วคลาด หลวงพ่อเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ เป็นที่ ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป

    ชาติกำเนิด

    ท่านพระครูสุจิตตานุรักษ์ (หลวงพ่อจวน) ได้ ถือกําเนิดมาจากครอบครัวชนบท กลางท้องทุ่ง ณ ท้องที่ตําบลห้วยชัน อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์ บุรี หลวงพ่อเกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน ๙ ปีเถาะ ตรง กับ พ.ศ. ๒๔๕๘ จากต้นตระกูล “ทิพย์กรรณ” โยม มารดาชื่อ อิน โยมบิดาชื่อ เคลือบ มีพี่น้องร่วมท้อง เดียวกัน ๖ คน เป็นชาย ๓ คน หญิง ๓ คน หลวงพ่อเป็นคนสุดท้อง โยมมารดาหลวงพ่อเสียชีวิตตั้ง แต่หลวงพ่อยังเล็ก

    การศึกษาเบื้องต้น

    หลวงพ่อได้ศึกษาเล่าเรียนครั้งแรกที่โรงเรียน ประชาบาล วัดหนองสุ่ม จนจบชั้นประถมปีที่ ๓ หลวงพ่อก็ต้องออกจากโรงเรียนไปช่วยโยมบิดาและ พี่ ๆ ประกอบอาชีพ ในสมัยที่หลวงพ่อยังอยู่วัยหนุ่ม หลวงพ่อเป็นคนสงบเสงี่ยม เรียบร้อย เป็นที่รัก ของเพื่อน ๆ และผู้หลักผู้ใหญ่ โดยทั่วไป กล่าวกันว่าหลวงพ่อไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครเลย มีแต่เป็นพวกเป็นหมู่ เข้าไหนเข้าได้ ประกอบกับเป็น ผู้ที่มีรูปร่างสง่างาม และมีอุปนิสัยสุขุม เยือกเย็น มีอัชฌาสัยอันดี จึงเป็นที่รักและนับถือของประชาชน ทั่วไป นับว่าหลวงพ่อเป็นผู้ที่โชคดีมากคนหนึ่ง แทบจะหาคนเกลียดหลวงพ่อไม่ได้เลย

    สมณศักดิ์ที่ได้รับ

    หลวงพ่อจวน สีลวัณโต ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูชั้นประทวน ที่พระครูจวน เมื่อ ๕ ธันวาคม ปีกึ่งพุทธกาลพอดี และต่อมาได้รับตําแหน่งพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูสุจิตตานุรักษ์ เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๒ สําหรับตําแหน่งพระครูสัญญาบัตรของ หลวงพ่อนี้ แปลได้ความว่า ผู้รักษาจิตอันบริสุทธิ์ ซึ่งตรงกับลักษณะนิสัย และจริยาวัตรของหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อเป็นผู้มีเอตทัคคะอันแน่วแน่ และมั่นคง มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ มีเมตตาธรรมอั สูง หลวงพ่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนโดยทั่วไป ไม่เป็นผู้มีความชื่นชมยินดีในตําแหน่งหน้าที่ ลาภยศใด ๆ มีแต่ความสันโดษ มักน้อย สมถะ และถ่อมตัวอยู่เป็นนิจ

    ผลงานการก่อสร้างในอดีต

    หลวงพ่อได้ก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดขึ้นอย่างมากมาย จากวัดหนองสุ่มที่ไม่มีอะไรเลย จนเป็นวัดที่มีหน้ามีตาพอควรแก่ท้องถิ่นในที่นี้จะขอกล่าวรวม ๆ จะไม่แยกรายละเอียด เช่น การก่อสร้างพระอุโบสถที่งดงามพอควร สร้างศาลา การเปรียญ สร้างหอฉัน หอประชุม กุฏิ โรงปะรําพิธี การประปา ไฟฟ้า โรงเรียนประชาบาล สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ได้สําเร็จลุล่วงด้วยดี คิดเป็นเงินค่า ก่อสร้างประมาณไม่ต่ํากว่าร้อยสามสี่สิบหมื่น หากหลวงพ่อไม่เป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสของประ ชาชนทั่วไปแล้ว เงินจํานวนเป็นร้อยหมื่นเช่นนี้ หลวงพ่อจะหามาได้ง่ายๆ จนได้รับคําชมจากพระผู้ ใหญ่ว่า วัดสุ่มเงินลุ่มทอง

    การศึกษาวิทยาคม

    121256542_2504450079849106_2330148193645496881_n.jpg

    หลวงพ่อได้ศึกษาวิทยาคมกับพระอาจารย์ชื่อ ดังหลายท่าน เช่น หลวงพ่อแป้น พระอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ ที่ประชาชนชาวจังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดใกล้เคียงรู้จักและเลื่อมใสในพุทธคุณของหลวงพ่อแป็นเป็นอย่างดี และหลวงพ่อกอง พระภิกษุชื่อดังทางตะกรุดโทน แห่งจังหวัดสุโขทัย คุณครูโฉม แห่งบ้านบางระจัน เมืองแห่งประวัติศาสตร์ในอดีต และพระอาจารย์ทางปักษ์ใต้อีกหลายท่าน

    หลวงพ่อได้ศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ต่างๆ จนมีความ เชี่ยวชาญสามารถทําวิชาวิทยาคมได้สมใจของแต่ละอาจารย์เป็นอย่างดี หลวงพ่อได้ศึกษาด้วยตนเอง ฝึกฝนปฏิบัติฝึกอํานาจจิต ให้มีจิตมั่นคงอยู่เป็นนิจ จนเป็นที่ยอมรับนับถือ แก่เกจิอาจารย์ด้วยกัน และเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป

    จริยาวัตรของหลวงพ่อ

    หลวงพ่อจวน เป็นพระที่มีจิตสะอาดบริสุทธิ์จริงๆ มีเมตตาธรรมอันสูง ปฏิบัติตามพระธรรม วินัยโดยเคร่งครัด หลวงพ่อเป็นพระที่มีจริยาวัตรอันงดงามยิ่ง รักสันโดษ ถ่อมตัว มีปฏิปทากับประชาชนโดยสม่ําเสมอเท่าเทียมกันทุกคน

    วันหนึ่งๆ จะมีประชาชนไปหาหลวงพ่อมิได้ขาด อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสิบๆ ราย เริ่มตั้งแต่เช้า จนเย็นเลยทีเดียว จะได้พักผ่อนบ้างก็ตอนฉันเพลเท่านั้น หลวงพ่อจะต้องนั่งรับเยี่ยมญาติโยมที่มาหาเป็นวันๆ เช่นนี้ เป็นกิจวัตร ประชาชนที่ไปหาหลวงพ่อนั้นมีสารพัดทุกข์ เช่น ให้หลวงพ่อเจิมรถ วัวหาย ควายพลัด หมู ไก่ เจ็บป่วย ก็ไปให้หลวงพ่อรักษา ท้องแก่ใกล้กําหนด ก็ไปให้หลวงพ่อประพรมน้ําพระพุทธมนต์ แต่ละรายหลวงพ่อก็ช่วย เหลือตามควรแก่ทุกท่านด้วยดี และก็ประสบผลสม ความตั้งใจ แต่ละวันจะมีแขกไปหามิได้ขาด การจะนิมนต์หลวงพ่อไปในงานมงคลต่าง ๆ นั้น ท่านจะต้องนิมนต์หลวงพ่อล่วงหน้าหลายๆ เดือนทีเดียว เพราะจะหาวันว่างในระยะใกล้ ๆ ยากเย็นเหลือเกิน ตามปกติหลวงพ่อก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่วัดนัก บางวัน ฉันเช้าที่ ชัยนาท ฉันเพลที่ ลพบุรี สวดมนต์เย็น ที่กรุงเทพฯ การที่ท่านจะนิมนต์ชนิดแบบมารับตัวไปเลยนั้น หากท่านไม่โชคดีจริงๆ แล้ว ยากเหลือเกิน ประชาชนที่ไปหาหลวงพ่อแต่ละรายไม่มีใครอยากกลับเร็ว เมื่อได้คุยกับหลวงพ่อแล้ว จะบังเกิด แต่ความปลื้มปีติ ชุ่มชื่นใจ เมื่อกลับไปแล้ว ก็อยากจะมาหาหลวงพ่ออีก

    หลวงพ่อมีวาจาสิทธิ์

    หลวงพ่อจวน เป็นพระที่สมถะ รักสงบ ใจดีมาก มีแต่ให้ศีลให้พรแก่ประชาชนทั่วไปตามควร แก่โอกาส มีอยู่ครั้งหนึ่งในงานประจําปีของวัดหนองสุ่ม มีประชาชนไปเที่ยวงานอย่างคับคั่ง ในงานนี้ คุณสุนทรและคุณประมวลก็ไปในงานนี้ด้วย เพราะเป็นผู้สร้างหอระฆังให้แก่วัดหนองสุ่ม และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ําชาอาหารแก่พระภิกษุ สามเณร อีกด้วย เหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น คือ ผู้หมู่นายหนึ่ง เป็นตํารวจอยู่ที่สถานีตํารวจภูธร อําเภออินทร์บุรี เกิดคะนองมือตั้งใจไปจับของสงวน(ที่อก) ของคุณประมวลเข้า คุณประมวลโกรธมาก เพราะการกระทําของผู้หมู่ครั้งนี้เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติของลูกผู้หญิง ต่อหน้าธารกํานัล และสามีของ นางอีกด้วย นับเป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นที่สุด คุณประมวลตั้งใจจะไปเรียนให้นายอําเภอ และผู้บังคับกองๆ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้หมู่ก็อยู่ในงานนี้ด้วย แต่คุณสุนทรห้ามปราบไว้ คุณประมวลจึงไปกราบเรียนให้หลวงพ่อทราบ หลวงพ่อนั่งนิ่ง ประชาชนก็มุ่งดูว่า หลวงพ่อจะทําอย่างไร ในที่สุด หลวงพ่อจึงพูดว่า ไอ้นี่มันบ้า อย่าไปถือสาเลย ขอเสียทีนะ คุณประมวลก็ ไม่ติดใจ ด้วยเห็นแก่หลวงพ่อ จะเป็นด้วยอํานาจกรรมเก่า หรือด้วยเหตุใดก็เหลือเดา ผู้หมู่รายนี้ก็เป็นอันถึงซึ่งความวิบัติ ถูกออกจากทางราชการ และเป็นบ้าวิกลจริตไปในที่สุด

    อีกรายหนึ่ง เป็นครูประชาบาลในละแวกนั้น ได้ไปยิงนกของหลวงพ่อ ยิงทางด้านหลัง กระสุนทะลุที่หน้าอกเป็นแผลใหญ่ นกพิราบตัวนั้นเมื่อโดนยิงเข้าก็บินหนีไปตกที่หน้าตักของหลวงพ่อพอดี และขาดใจตายต่อหน้าหลวงพ่อ หลวงพ่อนํานกตัว นั้นขึ้นมาพิจารณา แล้วพูดว่าถึงคราวก็ต้องตายนะ แม้จะไม่มีความผิดอะไร เมื่อถึงคราวก็ต้องตาย กรรมใดใครก่อ ย่อมเกิดแก่ผู้นั้น เขาทําเราฉันใด กรรมย่อมเกิดแก่เขาผู้นั้น ในที่สุด ครูประชาบาล ผู้นั้นก็ป่วยเจ็บปวดที่บริเวณหน้าอก และถึงแก่ความ ตายด้วยบาดแผลที่บริเวณอก ทําให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า หลวงพ่อเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์ โดยแท้
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระรอดสายรุ้งนื้อผงน้ำมันหลวงพ่อจวนวัดหนองสุ่ม ให้บูชาองค์ละ 250 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทมี 2 องค์ครับ

    องค์ที่๑ 250 บาท
    8338730-1470d.jpeg 8338730-25b88.jpeg

    องค์ที่๒ 250 บาท

    8338731-10db2.jpeg 8338731-2beaa.jpeg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1.พระกริ่ง วิเศษไชชาญ วัดตลาดใหม่ อ่างทอง
    พิมพ์เล็กปี43

    หลวงพ่อทรงร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก”พระกริ่งวิเศษชัยชาญ”
    ณอุโบสถวัดตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2543

    พระที่ร่วมพิธีมี ดังนี้ครับ
    1.พระครูปัญญาประโชติ (หลวงพ่อยัพ) วัดห้วยโรง
    2. พระครูโสภณจารุวงศ์วัดสิทธาราม
    3. พระครูวิบูลอาจารคุณ (ลพ.เกษม)วัดม่วง
    4. พระครูสังวรสมกิจ (ลป.ทิม)วัดพระขาว
    5. พระครูสุนทรยติกิจ วัดไผ่ล้อม
    6. พระครูสิริโพธิ์พิทักษ์วัดโพธิ์ศรี
    7. พระภาวนานุสิฐเถระ วัดบางจัก
    8. พระปาโมกข์มุนีวัดป่าโมก
    9. พระครูสุภัทรธรรมโสภณ (ลพ.ทรง)วัดศาลาดิน
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ kerry

    IMG_20230115_230706.jpg IMG_20230115_230718.jpg IMG_20230115_230734.jpg
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระผงในหลวง ครบ ๕ รอบ หลัง พระชัยหลังช้าง ปี๒๕๓๐ (พิธีเดียวกับเหรียยพระชัยหลังช้าง) หลวงพ่อฤาษีลิงดำร่วมเสก ปิดทองสวย กล่องเดิมๆ
    รายละเอียด หายากกว่าเหรียญ ส่วนใหญ่เราจะพบเจอแต่เหรียญพระชัยหลังช้าง หลัง ภปร สร้างปี 2530 เนื่องในโอกาสที่พระเจ้าอยู่หัวพระชนมายุ 60 พรรษา จัดสร้างโดยคณะสงฆ์ไทย 2 นิกาย พร้อมเหรียญพระชัยหลังช้าง เนื้อผงพุทธคุณ ผสมเส้นพระเจ้า (เกศา) ด้านล่างอุดผงจิตรลดา พระผงพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง ด้านหลังเป็นรูปพระชัยหลังช้าง พิธีมหาพุทธาภิเษกโดยพระคณาจารย์มากมาย ณ อุโบสถวัดพระแก้ว ในการปลุกเสกครั้งนี้มีพระเกจิดังๆมาร่วมมากมาย มีสมเด็จพระสังฆราชถึง 2 พระองค์ ปลุกเสก นั้นคือ สมเด็จพระสังฆราช (วาส) วัดราชบพิธฯ และสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ที่ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ.2532 และ เหรียญพระชัยหลังช้าง มีสมเด็จพระราชาคณะที่ร่วมปลุกเสกอีก คือ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา สมเด็จพระวันรัต วัดโสมนัสวิหาร สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เมื่อครั้งยังเป็นที่พระพรหมคุณาภรณ์ แล้วยังมีพระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุคนั้น อาทิ หลวงพ่อแพ แห่งวัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูสันติวรญาณ (หลวงปู่สิม) วัดถ้ำผาปล่อง พระอุดมสังวรเถร (อุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี พระครูฐาปนกิจสุนทร (เปิ่น) วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม หลวงปู่ม่น วัดเนินตาหมาก จังหวัดชลบุรี พระครูเกษมธรรมนันท์ (แช่ม) วัดดอนยายหอม พระครูปริมานุรักษ์ (พูล) วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม
    แม้แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้บอกลูกศิษย์ให้เก็บพระรุ่นนี้ไว้บูชาด้วยครับ มูลเหตุที่นำรูป พระชัยหลังช้างมาจัดสร้างเพื่อเทิดพระเกียรติล้นเกล้าทั้งสอง พระองค์ ด้วยเห็นว่าพระชัย (หลังช้าง) เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง คู่บุญญาบารมีของปฐมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ ควรที่ประชาชนจะมีไว้สักการบูชา เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในพระองค์ ดังเช่น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรุงเทพฯ ได้ลิขิตไว้ว่า เหรียญพระชัยหลังช้าง "หากอยู่กับบ้านก็คุ้มบ้าน หากอยู่กับตัวก็คุ้มตัว "
    ขอขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ kerry
    IMG_20230116_003304.jpg IMG_20230116_003319.jpg

     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    วัตถุมงคลหลากหลายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศครับค่าจัดส่งต่อครั้ง 30 บาทระบบflash หรือ J&Tและ 50 บาทems ไปรษณีย์ไทย 08--1--70--4--72--64 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง line ตามเบอร์โทรศัพท์
    บัญชีธนาคาร กรุงไทย 125-00-89-239
    Supachai thu
    โอนแล้วแจ้งบอก ทางข้อความ พร้อมที่อยู่จัดส่ง ป้อง กัน การเอาข้อมูลจากมิจฉาชีพครับ
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระสมเด็จเนื้อผงน้ำมัน วัดบ้านทึงสุพรรณบุรี ปี 2513 หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เสกเดี่ยว หนึ่งราตรี และพิธีเสก ตามขัอมูลในหนังสือ คุณ กนก ขำสุวรรณ ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&T หรือเคอรี่(ปิดรายการ)
    IMG_20230117_221109.jpg IMG_20230117_221127.jpg 1673968545610.jpg 1673968548075.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2023
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    เหรียญ หลวงพ่ออุไร วัดบางนมโค ศิษย์ลพ.วัดท่าซุง ตั้งแต่ยุค เป็นสมภารอยู่วัดบางนมโค
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&T หรือเคอรี่
    IMG_20230119_170457.jpg IMG_20230119_170510.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    หลวงพ่อกลั่น-อัคคธัมโมa-490x696.jpg
    หลังจากที่ได้ศึกษาอยู่กับหลวงพ่อคงที่วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง นานพอสมควร ท่านได้รับมอบหมายให้ไปรักษาการบูรณะวัดเขาอ้อ พร้อมทั้งศึกษาพระธรรมวินัยควบคู่ไปกับการศึกษาวิทยาคมสายเขาอ้อกับพระอาจารย์ปาล ปาลธมโม ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อในขณะนั้น และเป็นผู้สืบทอดวิชาจากพระอาจารย์ทองเฒ่า
    พ.ศ.2518 พระอาจารย์ปาลไปจำพรรษาที่วัดดอนศาลาชั่วคราว พ.ศ.2519 หลวงพ่อกลั่นได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และได้รับการแต่งตั้งเป็นพระใบฎีกากลั่น รวมทั้งได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโทที่พระครูอดุลธรรมกิตติ
    ตลอดเวลาหลวงพ่อกลั่นบูรณปฏิสังขรณ์ฟื้นฟูวัดเขาอ้อจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ พร้อมสร้างสาธารณประโยชน์มากมาย เป็นที่ศรัทธาของประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
    หลวงพ่อกลั่นได้ปฏิบัติงานศาสนกิจด้วยดี อบรมสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่พระภิกษุ สามเณร และศิษย์วัดในการปกครอง อบรมสั่งสอนศีลธรรมจริยธรรมแก่พุทธบริษัทอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการที่ปรึกษาหมู่บ้าน อพป.หมู่ที่ 3 บ้านเขาอ้อ โดยให้คำแนะนำปรึกษาและช่วยเหลือแก่คณะกรรมการหมู่บ้าน ร่วมปฏิบัติกิจทางศาสนาเป็นตัวอย่างแก่ภิกษุสามเณรและประชาชน
    ด้านงานสาธารณูปการ หลวงพ่อกลั่นสร้างกุฏิถาวรเป็นเรือนไม้ 1 หลัง สร้างพระประธานยืนหน้าอุโบสถ ถังน้ำประปาถาวร ห้องน้ำห้องส้วม กุฏิถาวรทรงไทย สร้างที่ประดิษฐาน รูปเหมือนพระอาจารย์ทองเฒ่า สร้างโรงครัวแบบถาวร เมรุเผาศพ แบบถาวร หอสมุดแบบถาวรลักษณะทรงไทย สร้างพระพุทธรูป และอื่นๆ อีกมากมาย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญมหาอุตย์ ลพ.กลั่น วัดเขาอ้อ ปี๒๕๓๖ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบแฟลชหรือ j&t หรือ kerryส่งด่วนครับ
    IMG_20230206_125727.jpg IMG_20230206_125715.jpg
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    FB_IMG_1675668386103.jpg
    หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ จ.สระบุรี ท่านเป็นพระเถระที่มีวิทยาคมสูงโดยท่านได้ไปศึกษาอยู่กับพระอภิญญารูปหนึ่งที่ภูเขาควายได้รับการถ่ายทอดวิชากสิณไฟและวิทยาคมต่างๆ ตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร
    พอบวชแล้วได้มาเรียนวิชากับ หลวงปู่คำ วัดบ้านโนนสวาย สุรินทร์และได้รับการถ่ายทอดวิชาปรอทสาย หลวงพ่อรอด (เสือ) ปฐมเจ้าอาวาสแห่งสำนักวัด
    ประดู่ทรงธรรม อยุธยา จากฆราวาส ชื่อ ปู่ทรัพย์
    จนท่านมีความรู้แตกฉานในการเล่นแร่แปรธาตุ ใช้วิชาปรอทรักษาคนความเชี่ยวชาญในวิชาปรอทของ ลป.อวน วัดหนองพลับ นั้นโด่งดังมากท่านสามารถเรียกปรอทเข้าตัว และสามารถเพ่งปรอทด้วยอำนาจจิตจนกลายเป็นผงได้เกจิดังๆ ในยุคปัจจุบันที่มาเป็นศิษย์เรียนปรอทจาก ลป.อวน ก็มีหลายท่าน เช่นลป.โสฬส วัดโคกอู่ทอง อาจารย์ประสิทธิ์ วิวัฒน์ชาติสุคนธ์ (ลูกศิษย์ที่ขึ้นกรรมฐานห้องธาตุกับ ลพ.สละ วัดประดู่ทรงธรรม)
    เหรียญหลวงปู่อวนวัดหนองพลับ 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&T หรือเคอรี่
    IMG_20230206_142142.jpg IMG_20230206_142156.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    FB_IMG_1675748853373.jpg
    หลวงพ่อพุฒ ธัมมิโก(สารสุข) วัดเขาไม้แดง
    ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อีกรูปหนึ่ง หลวงปู่ศุขท่านเรียกหลวงพ่อพุฒว่าเณรโด่ง เพราะจมูกโด่ง และตามประวัติแล้วหลวงพ่อพุฒนี้ละครับที่อยู่ในเรื่องหลวงปู่ศุขเสกหัวปลี เป็นกระต่ายให้เณรดู แล้วกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์มาพบแล้วฝากตัวเป็นศิษย์

    #ประวัติคร่าวๆ
    ท่านเกิดเมื่อปี 2445 เมื่ออายุประมาณ 3-4 ขวบ
    (ราวๆ ปี 2447) ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าได้ล่องเรือไปรับท่านจากตำบลพระประแดง สุมทรปราการตามคำร้องขอของโยมพ่อลป.พุฒว่า หากท่านเสียชีวิตขอให้ลป.ศุขรับลป.พุฒมาเลี้ยงดูแทน
    หลัง จากลป.ศุขรับท่านมาอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าก็ได้ให้(ลป.พุฒ)บวชเณร มีหน้าที่คอยต้มยารักษาโรคให้กับญาติโยม และยังได้เรียนคาถาอาคมจากลป.ศุขด้วย
    ในช่วงที่ลป.พุฒอยู่ที่วัด ยังได้เคยพบเห็นกรมหลวงชุมพรฯขณะที่เสด็จมาที่วัดปากคลองและยังได้รับแจกเงิน(ค่าขนม)จากกรมหลวงฯอีกด้วย
    ........#หลวงพ่อพุฒ เมื่อไปอยู่กับหลวงปู่ศุขแล้ว เด็กชายพุฒก็ได้รับการเลี้ยงเป็นอย่างดีในฐานะเด็กวัด ได้อยู่ช่วยกิจการงานในวัดตามที่จะพอทำได้ และเมื่อเติบโตขึ้น พอจะร่ำเรียนอะไรได้ หลวงปู่ศุขท่านก็ได้สอนให้ เริ่มตั้งแต่อักษรสมัยเรียน ไทย ขอม จนทางด้านคาถา อาคมและก็เรียนวิชาการต่างๆ เท่าที่มีสอนในสำนักวัดปากคลองมะขามเฒ่า จนกระทั่งมีอายุได้ประมาณ11 - 12 ปี หลวงปู่ศุข ท่านก็จัดการให้เด็กชายพุฒได้บวชเป็นสามเณร เมื่อบวชแล้วหลวง พ่อพุฒท่านอยู่รับใช้หลวงปู่ศุขตั้งแต่เป็นเณรอยู่ทำหน้าที่ต้มยาต้มชาถวาย ท่านอยู่ที่วัดอินทรีย์ศรีสังวร และก็ได้อยู่ศึกษาพระธรรมวินัย และเรียนทางด้านวิปัสสนา กัมมัฎฐานรวมตลอดไปถึงวิชาพระเวทย์ต่างๆในสำนักวัดปากคลองมะขามเฒ่าต่อไป.....#เหรียญหลวงพ่อพุฒสุดยอดทุกเหรียญด้านอุดปืนยิงไม่ออก
    .......#หลวงพ่อพุฒสารสุข ยังเป็นอาจารย์และยังเป็นสหายธรรมมิกแลกเปลี่ยนต่อวิชากับ #หลวงพ่อยงยุธ อีกด้วย ขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาอย่างสูงครับ
    พระนาคปรก ลพ.พุฒิ เขาไม้แดงพระบูชา 300 บาท ค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash j&t หรือเคอรี่
    IMG_20230119_133347.jpg IMG_20230119_133321.jpg
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    เหรียญพระพุทธปิยังคุโณ นายประยงค์ตั้งตรงจิตปี ๒๕๐๘ ศิษย์หลวงพ่อปานวัดบางนมโค ที่ได้รับถ่ายทอดคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทครับ

    IMG_20230310_155025.jpg IMG_20230310_155014.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    2w.jpg
    มีคนพากันยกย่องหลวงปู่หล้าว่า ท่านสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้มีเรื่อง
    เล่าว่าวันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนักหลวงปู่หล้าู่บอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ
    เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่า
    วันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพังพระเณรที่อยู่ในวัดทุกคน
    ปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์
    นอกจากนั้นพระพิชิต สมหิโต รองเจ้าอาวาสวัดป่าตึง (2554)เล่าให้ฟังว่า
    เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี 5 หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหาร
    เพราะจะมีแขกมาหาที่วัด พอถึงเวลา 6 โมงในหลวงทรงเสด็จมาที่วัดป่าตึง
    ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่าหลวงปู่หล้า ตาทิพย์
    เหรียญ จีวร รูปถ่าย ลป หล้า ให้บูชา200บาท ค่าจัดส่งด่วน30บาทครับปิดรายการ
    IMG_20230310_164041.jpg IMG_20230310_164056.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2023
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    วิธีอาราธนาedited.jpg
    หลวงพ่อจวน เป็นพระองค์หนึ่ง ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ
    มีอยู่เที่ยวหนึ่งหลวงพ่อท่านบอกกับพวกเรา บอกว่า " เฮ้ย ! พวกแกลองสืบดูซิ มีหลวงตาองค์หนึ่งขาว ๆ ท้วม ๆ ล่ะนะ ชื่อ จวน อยู่สิงห์บุรี ลองดูสิว่ามีพระชื่อนี้อยู่สิงห์บุรีวัดไหน ช่วยบอกให้ด้วยหาไม่ยากหรอก ท่านดังด้วย หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม"
    ถาม : หลวงพ่อหาทำไมครับ
    ท่านบอกว่า : "วันก่อนขึ้นไปพระจุฬามณีเห็นหลวงตาจวนเดินตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ อยู่ เขาเก่งว่ะ เขาไปทั้งตัวเลย ไม่ได้ใช้มโนมยิทธิถอดจิตไปนะนั่น เล่นไปทั้งตัวเลยล่ะ"
    ถาม : ยังอยู่ไหมครับ ?
    ตอบ : เรียบร้อยไปแล้ว ถ้าอยู่ไม่กล้าเล่ากลัวท่านเหยียบเอา (หัวเราะ) วัดหนองสุ่ม ขาว ๆ ยิ้มทั้งวันน่ะ น่ารักมาก....
    "สมัยที่หลวงพ่อจวนยังอยู่ จะไม่ให้ทำหนังสือวัตถุมงคล ท่านบอกว่า ของ ๆ ฉันถ้าจะดังเดี๋ยวดังเอง"
    คัดลอกจาก กระโถนข้างธรรมาสน์ หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน ครับ. ที่มา
    พระสมเด็จรุ่นมหาเศรษฐีเสาร์ 5 ปี 36 หลวงพ่อจวนวัดหนองสุ่ม ให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่งด่วน30บาท(ปิดรายการ)
    IMG_20230310_171530.jpg IMG_20230310_171549.jpg IMG_20230310_171601.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2023
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ หรือ พระครูสุนทรธรรมกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดแก้วเจริญ ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากไหม ๗ สี หรือ ไหมเบญจรงค์ ซึ่งเป็นที่เสาะแหวงหากันเป็นอันมาก

    หลวงพ่อหยอด พื้นเพท่านเป็นชาวราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๔ ที่ตำบลตาหลวง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี มีชื่อจริงว่าสนุทร ชุติมาศ มีชื่อเรียกกันโดยทั่วไปว่า หยอด โยมบิดาชื่อนายมุ่ย แซ่อึ้ง มีโยมมารดาชื่อนางเหมือน แซ่อึ้ง ต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้นามสกุล ชุติมาศ เมื่อยังเล็กท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดแก้วเจริญ โดยมีหลวงพ่อเปลี่ยน เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆกับหลวงพ่อเปลี่ยน

    6W8di9X_myoTgJLaGRKY8iScXmSM6-OZQ77pQjjn-aGtD5gkflpinox2sCsMuHsr87hJUfZ1uX1CXffCVFRVSg=w434-h640.jpg
    หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม
    ปี พ.ศ. ๒๔๗๔ หลวงพ่อหยอดมีอายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดแก้วเจริญ ตำบลวัดประดู่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ได้รับฉายาว่า "ชินวังโส" โดยมี

    พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ เมื่อครั้งยังเป็นที่ ‘พระครูสุทธิสารวุฒาจารย์’ เป็นพระอุปัชฌาย์

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญสตางค์หลวงปู่หยอดวัดแก้วเจริญปี 37 ปั๊มจากเหรียญ 50 สตางค์ให้บูชา
    100 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาท
    IMG_20230310_175352.jpg IMG_20230310_175402.jpg


     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    _6_104.jpg
    นามเดิม

    แว่น ทุมกิจจะ เป็นบุตรของนายวันดี และนางคำไพ ทุมกิจจะ

    ๏ เกิด

    วันเสาร์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ตรงกับแรม ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีจอ ณ บ้านบัว ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร

    ๏ บรรพชา

    เมื่ออายุ ๑๘ ปี พ.ศ. ๒๔๗๑ ณ วัดศรีรัตนาราม บ้านบัว ตำบลสว่าง อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร โดยมีพระอาจารย์สีทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้นได้พบกับ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร (เป็นญาติลูกผู้พี่ผู้น้องใกล้ชิดท่าน) ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก จึงสนใจการปฏิบัติสมาธิภาวนาทางสายพระธุดงค์กัมมัฏฐาน

    ๏ อุปสมบท

    อุปสมบทสายธรรมยุต เมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยมี พระเทพสิทธาจารย์ (หลวงปู่จันทร์ เขมิโย) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระสารภาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ เคยรับการศึกษาอบรมธรรมกับ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ที่วัดป่าคลองกุ้ง ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ก่อนที่จะเข้ามาเป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น

    ต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส บ้านคำสะอาด ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร อยู่ ๖ ปี แล้วจึงได้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำพระสบาย ตำบลนาครัว อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง จนกระทั่งได้มรณภาพ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงปู่แว่นทำพระสบายให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาท(ปิดรายการ)ิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิ
    IMG_20230311_125239.jpg IMG_20230311_125251.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2023
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    2w.jpg
    มีคนพากันยกย่องหลวงปู่หล้าว่า ท่านสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้มีเรื่อง
    เล่าว่าวันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนักหลวงปู่หล้าู่บอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ
    เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่า
    วันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพังพระเณรที่อยู่ในวัดทุกคน
    ปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์
    นอกจากนั้นพระพิชิต สมหิโต รองเจ้าอาวาสวัดป่าตึง (2554)เล่าให้ฟังว่า
    เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี 5 หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหาร
    เพราะจะมีแขกมาหาที่วัด พอถึงเวลา 6 โมงในหลวงทรงเสด็จมาที่วัดป่าตึง
    ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่าหลวงปู่หล้า ตาทิพย์
    เหรียญ จีวร รูปถ่าย ลป หล้า ให้บูชา 200 บาท ค่าจัดส่งด่วน30บาทครับ(ปิดรายการ)


    IMG_20230311_191421.jpg IMG_20230311_191433.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2023
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    หลวงพ่อสังวาลย์-เขมโก.jpg
    พระพุทโธคลัง ทองคำสงเคราะห์โลก2 พระอริยะเจ้า หลวงตามหาบัว หลวงปู่สังวาลย์ เขมโกข้อมูลจากสายตรง ยืนยันว่า ไม่ทัน หลวงปู่สังวาลย์ แต่ องค์ อธิฐานจิต คือ หลวงตา บัวครับ
    นิยม กันในสายครับ..ของดี หลวงตา..
    งานระดมทุนทองคำหลวงพ่อสังวาลย์ถวายแด่องค์หลวงตามหาบัวในสมัยนั้น เจตนาบริสุทธิ์ สุดยิ่งใหญ่เพื่อช่วยชาติพ้นภัย หลวงตาอนุโมทนาเต็มที่



    เมื่อครั้งที่ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เคลื่อนทัพพระกรรมฐานจากทั่วสารทิศออกมาบิณฑบาตกู้เศรษฐกิจชาติที่กำลังประสบหายนะในปีพ.ศ. 2540 นั้น ท่านได้ยกย่องพระเถระรูปหนึ่งว่าเปรียบเสมือนแขนซ้าย ที่ช่วยบิณฑบาตทองคำนับหมื่นล้านบาทเข้าคลังหลวง ขณะที่เปรียบองค์ท่านเองเป็นแขนขวาที่คอยพาดำเนินการ
    พระเถระรูปนั้นคือ หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก หรือ หลวงพ่อใหญ่ แห่งวัดทุ่งสามัคคีธรรม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
    #คำสอนของหลวงปู่สังวาลย์ที่เมตตาเทศน์สอนศิษย์นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคำสอนสั้นๆ เพียงไม่กี่ประโยค แต่กินความหมายลึกซึ้งยิ่งนัก วันหนึ่งท่านเทศน์สอนพระเณรว่า
    “เราต้องสำรวมกายวาจาใจ กายสำรวมง่าย เดินอย่างมีสติไว้ ตาเพ่งไปแค่แอกเกวียน ส่วนใจสิยาก อะไรๆ ใจนั้นสำคัญนะมองให้เห็นความสกปรกไม่งาม แค่หน้าไม่ได้ล้าง เท้าไม่ได้ขัดถูสัก 23 วัน เป็นไง พิจารณาว่าไม่งามเหม็นสาบสาง เมื่อไม่ได้ฉาบทาปรุงแต่ง ฟันไม่ได้แปรงแค่วันสองวัน พูดทีมันเหม็นไม่รู้จักเท่าไร
    กำหนด รู้หนอคิดหนอ ไว้ ถ้าปล่อยไม่ทำสติมันจะเพลินในอารมณ์ กายสงบวาจาสงบแล้ว เหลืออีกอย่างเดียว ทำใจให้สงบให้ได้ การบวชของเราจะมีอานิสงส์มาก เราบวชแล้วไม่สำรวมใจ แม้มองตีนผู้หญิง กามคุณปรุงแต่งว่ามันสวยมันดี เป็นพระเขากราบไหว้ ถ้าคิดรักชีรักสตรีเพศแม่ไม่ดีหรอก เจ้าของเขารู้อายเขาตายเชียวนะ!”
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระพุทโธ ให้บูชา 120บาท ค่าจัดส่งด่วน30 บาทครับ

    IMG_20230317_135923.jpg IMG_20230317_135938.jpg
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    upload_2019-5-15_11-40-34.jpeg
    สถานเดิมพระศีลวุฒาจารย์ (บาง จนฺทสรเถร) เดิมชื่อ บาง นามสกุล ศรีตัณฑ์ เกิดเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 2 ปีเถาะ วันที่ 21 มกราคม 2433 บิดา พระธรรมโรง(ต้น) มารดา พลอย บ้านเลขที่ 1 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองฯ จังหวัดสระบุรี จบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 4 ณ โรงเรียนศาลาแดง (วัดศาลาแดง) ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
    อุปสมบทเมื่อวันศุกร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม 2455 วัดหนองพลับ ตำบลหนองควายโซ อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี พระอุปชฌาย์ พระอธิการหล้า เจ้าคณะหมวดและเจ้าอาวาสวัดบ้านโดน ตำบลหนองสีดา อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี พระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดธรรม เจ้าอาวาสวัดหนองนกชุม พระอานุสาวนาจารย์ พระอธิการบัว ปุณณธรรมโน เจ้าอาวาสวัดหนองพลับ
    วิทยฐานะสอบได้นักธรรมเอกและสอบได้เปรียญธรรมประโยค 2 พ.ศ. 2457 สำนักเรียนวัดปทุมคงคาราม กรุงเทพมหานคร
    งานปกครอง
    พ.ศ.2458 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองพลับ
    พ.ศ.2461 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะหมวด ตำบลเมืองเก่า ตำบลหนองพลับ แขวงเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
    พ.ศ.2477 ได้สถาปนาจากกรมการศาสนาแต่งตั้งให้เป็น พระครูกรรมการศึกษาที่พระครูบางในสมัยนั้น็็น
    พ.ศ.2479 ทางราชการคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้พระครูบาง ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวง กิ่งอำเภอหนองแซง อำเภอเสาให้ จังหวัดสระบุรี ในตำแหน่งพระครูบาง มีการทำอุโบสถสังฆกรรม(สวดพระปาฎิโมกข์) ตลอดทั้งปี ทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็นตลอดทั้งปี
    งานการศึกษา
    พ.ศ. 2461 เป็นผู้จัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดหนองพลับ
    พ.ศ.2507 เป็นผู้จัดหาที่ดิน 13 ไร่2 งานเศษ เพื่อจัดสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษา
    งานเผยแผ่
    พ.ศ.2510 ตั้งศูนย์พัฒนาวัด ซึ่งวัดหนองพลับ ได้รับเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง จังหวัดสระบุรี และจัดตั้งมูลนิธิศีลวุฒาจารย์
    สาธารณูปการพ.ศ.2457 เป็นผู้ดำเนินก่อสร้างอุโบสถต่อจากเจ้าอาวาสสององค์เดิมได้ก่อสร้างไว้จนแล้วเสร็จสมสมบูรณ์
    สมณศักดิ์พ.ศ.2477ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูกรรมการศึกษาที่ พระครูบาง และให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวงกิ่งอำเภอหนองแซง อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
    พ.ศ.2487 ได้รับเป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูสิริธรรมสาร ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอหนองแซง ชั้นโท ปกครองคณะสงฆ์อำเภอหนองแซง
    พ.ศ.2498 ได้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษชั้นพิเศษในพระราชทินนามเดิมที่พระครูสิริธรรมสาร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ
    พ.ศ. 2515 เจ้าคณะจังหวัดสระบุรีได้ขอยกขึ้นไปดำรงที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี
    พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นสามัญ ที่พระศีลวุฒาจารย์
    อวสานแห่งชีวิตพระศีลวุฒาจารย์ ท่านล้มป่วยด้วยโรคปอดบวม และโรคถุงลมโป่งพอง เข้าพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมิตรภาพเมโมเลี่ยน ถนนมิตรภาพ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสระบุรี ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2534 สิริอายุรวม 101 ปี 2 เดือน 19วัน พรรษาได้ 80 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสได้ 76 ปี เป็นเจ้าคณะอำเภอได้ 28 ปี เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดได้ 19 ปี เป็นพระอุปัชฌาย์ได้ 47 ปี คณะสงฆ์ได้ขอน้ำพระราชทานน้ำสรงศพหีบทองทึบประกอบเกียรติยศ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2534 และพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2535
    ความสำคัญเป็นพระเกจิอาจารย์ มีวิชาความรู้หลากหลายด้าน เป็นเจ้าคุณองค์แรกของอำเภอหนองแซง ถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญทางศาสนาของอำเภอหนองแซง ที่สร้างชื่อเสียงให้ชาวอำเภอหนองแซงเป็นที่รู้จัก นอกจากนี้ท่านได้สร้างวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของหลวงปู่บาง คือ ตะกุดที่คาดเอว เหรียญรูปเหมือน ปัจจุบันวัดได้จัดสร้างวิหารชื่อว่า “วิหารศีลวุฒาจารย์”ภายในวิหารจะมีรูปปั้นของท่านไว้ให้ศิษย์ยานุศิษย์ ประชาชนที่ผ่านไปมา ได้กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว และในอาทิตย์สุดท้ายเดือนพฤษภาคม ของทุกปี วัดหนองพลับโดยพระครูสุวรรณธรรมวัตร เจ้าอาวาสพร้อมด้วยศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนชาวอำเภอหนองแซง จะแสดงมุฑิตาท่านด้วยการทำบุญครบรอบวันมรณภาพของท่านเป็นประจำทุกปี
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญใบโพธิ์ ลป.บางวัดหนองพลับ 2517 ให้บูชา300 บาท ค่าส่งด่วน30บาท
    IMG_20230317_141227.jpg IMG_20230317_141242.jpg

     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    b12-08-13-01-05-47-1.jpg พ. พาน มหัศจรรย์ ของหลวงปู่เย็น ประสบการณ์โดดเด่น ทั้งด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม และเรียกโชคเรียกลาภ เลื่อนขั้น หนุนดวง
    และผู้ที่รับไปต่างก็เล่ากันไปปากต่อปากว่ามีอภินิหาร ตั้งจิตอธิษฐานขอสิ่งใดก็มักจะสมหวังในสิ่งนั้นเสมอ วิธีใช้ให้ตั้ง นะโม 3 จบ คาถาให้บริกรรมภาวนาว่า อิสวาสุ คาถาบูชา “ยังกิจจิ ระตะนังโลเก วิชชะ ติคิคิตัง ปุถุระตะนัง พุทธะสะมัง นัตติตัสษมา โสตถีภะวันตุเม” หากท่านเข้าสู่ยามคับขันจริงและลืมคาถาให้พูดว่า พ่อช่วยลูกด้วยนะพ่อ ให้ว่าคำนี้ซ้ำๆ ก็จะเกิดผล
    ประวัติความเป็นมาของ "ตัว พ. พาน มหัศจรรย์" ของ หลวงปู่เย็น ทานรโต วัดสระเปรียญ
    หลวงปู่เย็น ท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมกับ "หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์" และ "หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา" หลวงปู่เย็นท่านเป็นสหธรรมมิกกับ "หลวงพ่อกวย" โดยท่านจะเรียกหลวงพ่อกวยว่า "หลวงพี่" ซึ่งหลวงปู่เย็นอายุมากกว่าหลวงพ่อกวย แต่เรียกแบบนั้นเพราะ "อ่อนพรรษากว่า”ซึ่งท่านบวชเรียนทีหลังหลวงพ่อกวย
    สมัยเมื่อครั้งที่ หลวงปู่เย็นได้เคยจำพรรษาอยู่ ที่ "วัดระฆัง" มีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่เย็นได้พบกับ "พระรูปหนึ่ง" ซึ่งเดินผ่านหน้ากุฏิของท่าน หลวงปู่เย็นเห็นแล้วเกิดความเลื่อมใจจึงนิมนต์พระรูปนั้นมานั่งพักฉันน้ำชา ระหว่างนั้นก็พูดคุยกันเรื่องบวชเรียน
    พระรูปนั้นบอกว่า ท่านได้ถือธุดงค์ มีประสบการณ์มากมาย หลวงปู่เย็นจึงบอกว่า หลวงปู่เย็นไม่ได้ธุดงค์ แต่อยากจะ "สร้างวัด" ไม่รู้จะทำอย่างไร พระรูปนั้นเลยแนะนำว่า ถ้าอยากสร้างวัดท่านจะบอกวิธีให้ ท่านให้หลวงปู่เย็นไปหยิบ "ก้านธูป" มา แล้วท่านจะสอนให้
    จากนั้นพระรูปนั้นก็นำ "ก้านธูป" มาหักเป็นห้าท่อนแล้วพันด้วยด้ายสายสิญจน์ ให้มีรูปร่างเป็นตัว "พ. พาน"ของพยันชนะไทยพร้อมกับว่า พระคาถา ลงอาคมกำกับ แล้วทำการปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง
    พระรูปนั้นได้สอนวิธีการทำ "ตัว พ. พาน มหัศจรรย์" นี้ทั้งหมดทุกขั้นตอนให้กับหลวงปู่เย็นเป็นการส่วนตัว หลวงปู่เย็นก็สามารถทำได้ จึงรู้สำนึกในบุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้ ท่านจึงก้มลงกราบพระรูปนั้นเพื่อแสดงการขอบคุณ แต่เมื่อท่านกราบเสร็จ เงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เห็นพระรูปนั้นซะแล้ว นับแต่วันนั้นหลวงปู่เย็นมิเคยลืมเลือน ยังคงจำรูปพรรณสัณฐานของพระรูปนั้นได้อย่างดีด้วยความประทับใจ
    หลังจากนั้นไม่นานหลวงปู่เย็นได้ไปกราบ "หลวงปู่บุดดา" เมื่อครั้งนั้นท่านยังจำพรรษาอยู่ที่ "วัดอาวุธ" ท่านได้เล่าเรื่องนี้ให้หลวงปู่บุดดาฟัง ในขณะที่เล่านั้นหลวงปู่เย็นได้เหลือบมองไปที่โต๊ะบูชาพระของหลวงปู่บุดดา หลวงปู่เย็นก็ได้เห็นรูปของพระภิกษุรูปหนึ่ง หลวงปู่เย็นบอกหลวงปู่บุดดาว่า พระที่มาสอนหลวงปู่เย็นทำ "ตัว พ. พาน มหัศจรรย์" คือ พระในรูปนั้น ท่านจำได้ดี หลวงปู่บุดดาได้บอกว่า พระรูปนี้คือ "หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร"
    จากนั้นหลวงปู่เย็น ท่านก็เริ่มทำ พ. พาน มหัศจรรย์ แจกให้กับลูกศิษย์ลูกหา ซึ่งผู้รับ พ. พาน มหัศจรรย์ ของท่านมาบูชา หลายคนต่างมีประสบการณ์กันมากมาย กับ พ. พาน มหัศจรรย์ ที่ท่านปลุกเสก ต่อมา หลวงปู่เย็นท่านก็ได้มาจำพรรษาอยู่ที่ "สำนักสงฆ์การเปรียญ" และท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาส และ ได้ก่อตั้งเป็น "วัดการเปรียญ" ขึ้นมา และต่อมาภายหลังก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "วัดสระเปรียญ"
    พ. พาน มหัศจรรย์ ของหลวงปู่เย็น เด่นมากทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม และเรียกโชคเรียกลาภ เรียกทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดมือ ได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังมีอานุภาพแปลกและเด่นกว่า "เครื่องรางของขลัง" อื่นๆอีก นั่นคือ ยังสามารถเตือนภัยได้ เวลามีภัย พ. พาน มหัศจรรย์ นี้ จะส่งเสียงร้อง ถ้า พ. พาน มหัศจรรย์ร้อง เขาบอกต้องระวังตัว
    มีเรื่องเล่ากันว่า มีลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่เย็นท่านหนึ่ง เคยมีประสบการณ์กับ พ. พาน มหัศจรรย์" กับตัวท่านเองถึงสองครั้ง ครั้งแรกนั่งซ้อนรถเครื่องไปอำเภอสรรค์บุรี ขณะนั่งรถ ได้ยินเสียง "จี๊ดๆ" ร้องได้สองครั้ง พยายามสังเกต รู้สึกว่า เหมือนเสียงดังมาจาก พ. พาน มหัศจรรย์ที่เหน็บอยู่ ก็เลยนึกถึงคำพูดของหลวงปู่เย็นว่า ให้ระวังอย่าให้ พ. พาน มหัศจรรย์ร้องถึงสามครั้ง แต่ก็สายไปแล้ว เมื่อ พ. พาน มหัศจรรย์ ร้องครั้งที่สาม รถเครื่องเสียหลักพลิกคว่ำทันที เพราะฝนตกถนนลื่น ดีที่เหตุการณ์นั้นท่านไม่เป็นอะไรมาก
    ครั้งที่สองท่านไปสิงห์บุรี ขณะเดินทาง คราวนี้ พ. พาน มหัศจรรย์ ร้องอีก ท่านรู้ทัน เลยบอกให้คนขับรถหยุดรถ และแวะพักหาซื้อน้ำกินกัน สักพักก็ค่อยเดินทางต่อ แต่พอไปถึงสี่แยกก่อนเข้าสิงห์บุรี ท่านบอกว่า ท่านเห็นรถเพิ่งชนกันหมาดๆ ตั้งสามสี่คัน เลยนึกขอบคุณ พ. พาน มหัศจรรย์ของหลวงปู่เย็น
    ความศักดิ์สิทธิ์ พ. พาน มหัศจรรย์ของหลวงปู่เย็น นั้นเมตตามหานิยม เรียกโชคลาภดีมากๆๆๆ เป็นของดีมากจริงๆ นอกจากเมตตาแล้ว ยังเตือนภัยได้ด้วย อานุภาพคล้ายกับมี "หุ่นพยนต์" คุ้มครองตัวเราเลยทีเดียว
    พระคาถากำกับบูชา พ. พาน มหัศจรรย์"ของหลวงปู่เย็น
    (ตั้งนะโมฯ ๓ ครั้ง)
    ให้น้อมระลึกถึง คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และ หลวงปู่เย็น อย่างหาที่สุด ไม่มีอะไรเปรียบประมาณได้
    และให้กล่าวคำว่า "พ่อจ๋าช่วยลูกด้วย" (๓ ครั้ง) "ให้เจ้านายลูกเขารักลูกด้วยน่ะ”"(๓ ครั้ง)
    "ให้ทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา อย่าให้ขาดสายมีใช้ไม่ขาดมือน่ะพ่อน่ะ และลูกคิดสิ่งใดก็ให้ลูกสมความปรารถนาด้วยน่ะพ่อน่ะ" (๓ ครั้ง)
    หมายเหตุ: อย่าแขวนกลับบนเป็นล่าง หรือกลับหัวกลับหางอย่างเด็ดขาดน่ะครับ มิฉะนั้นจะใช้ ตัว พ. พาน ไม่ได้ผล
    "พ. พาน มหัศจรรย์" ของหลวงปู่เย็น นี้จึงมีพลังอานุภาพที่แรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก (ตนนี้ร้องเตือนภัย จนกรอบเดิมระเบิดแตก!!! จนต้องนำไปเปลี่ยนกรอบพลาสติกใหม่) จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการเมือง นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเดินทางรอบโลก นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง เด็กเสี่ย ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกอาชีพ มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม ผู้มีอิทธิพล พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระผงรูปเหมือนเนื้อผงน้ำมันรุ่นแรกหลวงปู่เย็นวัดสระเปรียญ หลัง มียันต์ และตัว พ.พาน ให้บูชา 300 บาท ค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20230317_143015.jpg IMG_20230317_143045.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2023
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,713
    ค่าพลัง:
    +21,337
    FB_IMG_1679047686431.jpg


    ประวัติหลวงพ่อบุญชู
    ประวัติพระครูวิชาญพัฒนกิจ (บุญชู ธมฺมรโต) อดิตเจ้าอาวาสวัดหัวว่าว ตำบลบางมัญ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
    ชาติภูมิ นับแต่บรรพบุรุษ (รุ่นแรก) นับแต่กำนันทองก้อนเป็นต้นมาแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาโดยกำเนิดและสืบสานเรื่อยมา จนถึงรุ่นคุณปู่ย้อย เปรมปรี และ คุณย่าใคร (เทียนมงคล) เปรมปรี มีบุตร-ธิดา 5 คน โดยมีนาย ละเมียด เปรมปรี (ซึ่งเป็นโยมบิดา) เป็นบุตรชายคนโต
    คุณตาจาน บางขาม และ คุณยายสี บางขาม มีบุตร-ธิดา 7 คน โดยมี : นาง ละมูล (บางขาม) เปรมปรี (ซึ่งเป็นโยมมารดา) เป็นบุตรสาวคนโต
    นายละเมียด เปรมปรี ได้สมรสกับ นาง ละมูล (บางขาม) เปรมปรี มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 6 คน คือ 1 นาย บุญชู เปรมปรี (ท่านพระครูวิชาญพัฒนกิจ (บุญชู ธมฺมรโต)) 2 นาย ชั้น เปรมปรี 3 นายช้อน เปรมปรี 4 นางประนอม แจ่มกระจ่าง 5 นางสละ ตาระเกตุ 6 นายจันทร์ เปรมปรี
    พระครูวิชาญ พัฒนกิจ : (บุญชู ธมฺมรโต) นามเดิมบุญชู นามสกุล เปรมปรี ฉายาธมฺมรโต เกิดวันที่ 7 เมษายน 2480 ตรงกับ ปีฉลู ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 วันพุธ
    สถานที่เกิด ณ บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 4 ตำบลบางมัญ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
    การศึกษา เมื่อเยาว์วัยได้เล่าเรียนอักษรสมัยภาษาไทยตามความนิยม ในสมัยนั้นจาก ปู่-ย่า ญาติ-ตลอดจนโยมบิดา-มารดาเป็นต้นจนอ่านออกเขียนได้พอประมาณ ต่อมาได้เข้าเรียนที่ชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดหัวว่าว จนจบหลักสูตรชั้นประถมศึกษาบริบูรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2493 ในระหว่างเรียนสายสามัญอยู่นั้น ก็ได้มีความสนใจศรัทธา ทางธรรมะ และคลุกคลีอยู่กับพระภิกษุ-สามเณร มาตลอด
    บรรพชา จากที่ท่านเป็นผู้มีความสนใจ และเสื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เยาว์วัยนั้น ทางญาติ-โยม จึงได้ปรึกษาหารือกัน และเห็นว่ามีแววที่จะเป็นช้างเผือกในวงการศาสนาได้ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยก้าน-หน้าตา โดยมีเฉพาะเสียงที่ดังกังวาน น่าจะเป็นนักเทศน์ที่ดีได้ จึงตกลงให้การสนับสนุนและได้ถาม ความสมัครใจและในที่สุดจึงได้นำไปฝากหลวงพ่อทองอดีตเจ้าอาวาส ในขณะนั้น และได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ก็ได้เข้าศึกษา ในโรงเรียนพระปริยัติธรรมและหลักสูตรการศึกษาพิเศษเรื่อยมา 4. อุปสมบท เมื่อวันที่ 24 เมษายน ปี พ.ศ. 2500 ท่านอายุครบ 20 ปี ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดสังฆราชาวาส ตำบลบางมัญ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีพระราชสิงหวรมุณี (ทรัพย์) อดีตเจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี เป็นอุปัฌชาย์ หลวงพ่อทอง วัดหัวว่าวเป็นพระกรรมวาจาจารย์พระครูสิทธิ์วรคุณ วัดสังฆราชาวาส เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า “ธมฺมรโต” เมื่ออุปสมบทแล้ว ในระยะแรกได้ไปจำพรรษา ณ วัดเสาธงทอง เพื่อนเข้าศึกษาโรงเรียน ปริยัติธรรม หลักสูตรนักธรรม จนจบนักธรรมเอกในปะ พ.ศ.2504 และหลังจากนั้นได้ย้ายมาจำพรรษา ที่วัดหัวว่าว เพื่อมาปรนนิบัติหลวงพ่อทองเจ้าอาวาส ขณะนั้นซึ่งกำลังอาพาธอยู่ และต่อมาได้ถึงแก่มรณภาพลง จึงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส และเป็นเจ้าอาวาสในที่สุดเมื่อปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา
    การศึกษาพระปริยัติธรรม และการศึกษาพิเศษ ดังได้กล่าวแล้ว ท่านได้เข้าศึกษาโรงเรียนปริยัติธรรม หลักสูตรนักธรรมสำนักเรียนวัดเสาธงทอง มาตั้งแต่เริ่มอุปสมบทใหม่ ๆ และได้ศึกษาเพิ่มเติมหลักสูตรพิเศษอื่น ๆ พร้อมกันไปด้วย จนจบหลักสูตรและได้รับวุฒิบัตรดังนี้
    พ.ศ. 2502 – สอบนักธรรมชั้นตรีได้ สำนักเรียนวัดเสาธงทอง
    พ.ศ. 2503 – สอบนักธรรมชั้นโทได้ สำนักเรียนวัดเสาธงทอง
    พ.ศ. 2504 – สอบนักธรรมเอกได้ สำนักเรียนวัดเสาธงทอง -ประกาศนียบัตร หลักสูตรพระอภิธรรมแผนกปรมัตถธรรม 2 สำนักเรียนวัดมหาธาตุวิทยาลัย (กทม.) ฃ
    วิทยฐานะ
    พ.ศ. 2493 – สำเร็จการศึกษา ชั้นประถมศึกษาบริบูรณ์จากโรงเรียนวัดหัวว่าว ตำบลบางมัญ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
    พ.ศ. 2504 – จบหลักสูตรนักธรรมเอก สำนักเรียนวัดเสาธงทอง อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี -ประกาศนียบัตรหลักสูตรพระอภิธรรมแผนกปรมัตถธรรม สำนักเรียนวัดมหาธาตุวิทยาลัย (กทม.)
    การศึกษาพิเศษ มีความชำนาญในด้าน นวกรรมการก่อสร้างโดยเฉพาะงานไม้ งานก่ออิฐถือปูนและงานโครงสร้างต่าง ๆ
    สมณศักดิ์
    พ.ศ. 2512 –ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูประทวน สมณศักดิ์ ที่ “พระครูวิชาญพัฒนกิจ”
    พ.ศ. 2521 –ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้น ตรีที่ “พระครูวิชาญพัฒนกิจ”
    พ.ศ. 2527 –ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูวิชาญพัฒนกิจ เจ้านอาวาสราษฎร์ชั้น โทที่ “พระครูวิชาญัฒนกิจ”
    พ.ศ. 2540 –ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูวิชาญพัฒนกิจ (5 ธันวาคม 2540) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอกที่ “พระครูวิชาญพัฒนกิจ”
    วาระสุดท้าย ด้วยความที่มีความมานะมุ่งมั่นในงานไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากไม่ห่วงใย สุขภาพนี้เอง ทำให้เป็นเหตุในระยะหลัง ๆ 3-4 ปีมานี้ ด้วยวัยอันสูงอายุท่านเริ่มอาพาธด้วยโรคหลอดเลือดหรือไขมันในเลือดสูง ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกายบ่อยขึ้น ครั้นเมื่ออาการเป็นปกติออกจากโรงพยาบาลแล้ว ด้วยความรักงานและนิสัยเกรงใจ ก็ยังไม่งดกับกิจนิมนต์ ทุกอย่างกลับเหมือนเดิมปฏิบัติศาสนกิจต่อไปมิได้ขาด การพักผ่อนมีน้อย ในระยะหลังต้องเข้าโรงพยาบาลถี่ขึ้น กระทั้งในคืนวันที่ 6 อาการของโรคได้กำเริบขึ้นอย่างฉับพลัน มีอาการแน่นหน้าอก ไม่รู้สึกตัว จึงได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเช่นเคย แพทย์และพยาบาล ได้พยายามช่วยชีวิตจนสุดความสามารถ อาการเริ่มทรุดโทรมจนไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ และได้มรณภาพลง ณ โรงพยาบาลสิงห์บุรี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 ตรงกับปี มะเมีย เดือน 12 ขึ้น 14 ค่ำ วันศุกร์ สิริรวมอายุได้ 66 ปี 7 เดือน
    เจ้าอาวาสและอดีตเจ้าอาวาส นับตั้งแต่การสร้างเป็นต้นมา ได้มีเจ้าอาวาส ผู้ครองวัดหลายรูป ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ว่ามีเจ้าอาวาสครองวัดมาแล้วกี่รูป แต่เท่าที่ได้สอบถามผู้เฒ่าทั้งหลายและมีหลักฐานแน่ชัดนี้
    หลวงพ่อฉายปัญญา (วิสน ปัญโญ) เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงในด้านพระนักเทศน์เผยแพร่ธรรม และเป็นเกจิอาจารย์ ทางด้าย อิทธิ สีผึ้ง และเสน่ห์มหานิยม และเป็นผู้ริเริ่มโรงเรียนปริยัติยธรรมและโรงเรียนสามัญ จนถึงยุคปัจจุบัน
    หลวงพ่อทอง (โสภติสส) ซึ่งเป็นน้องชายของ หลวงพ่อฉาย ปัญญา ซึ่งก็เป็นเกจิอาจารย์ที่ทรงวิทยาคมอีกรูปหนึ่ง ชื่อเสียงโด่งดังมากจนเป็นที่เล่าลือไปยังจังหวัดและวัดต่าง ๆ จนมีศิษยานุศิษย์ เดินทางเข้ามาศึกษาพุทธคมอยู่ตลอดเวลาเช่นกันใจยุคนั้น
    หลวงพ่อบุญชู (พระครูวิชาญ พัฒนกิจ) หลังจากหลวงพ่อทองได้มรณภาพแล้ว หลวงพ่อบุญชู ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส สืบต่อมานับแต่ปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมาก จนถึงปี พ.ศ. 2546 นับเป็นเวลาเกือบ 40 ปี ซึ่งนับว่านานมาก ในระหว่างที่ได้ครองวัดเป็นเจ้าอาวาส อยู่นั้นได้มีผลงานมากมายทั้งงานด้านบริหารและการปกครอง งานบูรณปฏิสังขรณ์ งานเผยแพร่งานก่อสร้าง งานพัฒนาต่าง ๆ งานอบรม งานช่วยเหลือการสนับสนุนการศึกษา และยังเป็นพระเถระที่ทรงวิทยาคมอีกรูปหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันดีในด้าน “ผู้สร้างผงอิทธิเจ จากกระดูกผีเจ็ดป่าช้า” อีกด้วย ตามประวัติดังกล่าวไว้แล้ว
    พระสนิท นนทิโย เป็นพระที่มีพรรษาอาวุโสสูงสุดเมื่อท่านพระครูวิชาญพัฒนกิจอดีตเจ้าอาวาสได้ มรณภาพลง จึงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส มาตั้งแต่ วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 ไปพลางก่อนจนหว่า จะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูวิชาญ พัฒนกิจ (อดีตเจ้าอาวาส) แล้วเสร็จและจะได้มีการพิจารณาคัดเลือกและถามความสมัครใจในการจะเป็นอาวาส องค์ใหม่ต่อไป
    หลวงพ่อบุญชู มีลักษณะเฉพาะของท่านคือ พูดน้อย เอาจริงเอาจังและดุดัน จึงมีน้อยคนที่จะรู้จักและทราบประวัติความเป็นมาของท่าน ถึงท่านจะเก็บตัวเงียบสักเท่าใด ก็ปิดบังได้แต่คนธรรมดาเท่านั้นครับ แต่สำหรับสายตาอันเฉียบคมของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วยกันนั้น ปิดยังไง ก็ไม่มิด ...เพราะเราจะสังเกตุเห็นว่า หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง พระสุปฏิปันโณ แห่งเมืองสิงห์ ยังมาขอผงของหลวงพ่อบุญชู ไปเป็นมวลสารในพระสมเด็จของท่านเลยครับ
    หนึ่งในพระเวทย์วิทยาคมที่ท่านชำนิชำนาญเป็นพิเศษ คือวิธีการทำผงอิทธิเจ แบบพิเศษ ที่ท่านลบผงเอง พร้อมทั้งใส่ผงเถ้ากระดูกผีเจ็ดป่าช้า ลงไปในผงอีกด้วย..
    ว่ากันว่า วัดหัวว่าวเป็นวัดที่ผีดุที่สุดในสิงห์บุรี...แต่หลวงพ่อกลับเอากระดูกผี มาผสมผงฯ ด้วย..จึงนับเป็นของที่เหนือธรรมดาแน่นอน..ผงฯ ของท่าน จึงเข้มขลัง และแรง...ด้วยพุทธคุณ (สายขาวมิใช้สายพราย)
    ประสบการณ์มากมายครับ สำหรับคนในพื้นที่ ทั้งแคล้วคลาด ปลอดภัย ตีรันฟันแทง..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มหาเสน่ห์ มหานิยม....ที่ใช้แทน ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หรือ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ได้อย่างสบายใจ
    หลวงพ่อบุญชู ไม่ต้อนรับการเข้ามาจัดสร้างวัตถุมงคลของศูนย์พระเครื่อง ศูนย์พระเครื่องหลายแห่งเข้ามาขออนุญาตจัดสร้างพระเครื่อง เพราะได้ยินเรื่องราวของท่าน แต่ท่านไม่ต้องการให้นำวัตถุมงคลของท่านไปขาย ใครเข้าไปถามหาเช่าวัตถุมงคลจากท่าน ท่านก็จะตอบทันทีว่า ที่นี่ ไม่มีขาย...มีแต่แจก แล้วท่านก็แจก ๆๆ อย่างถูกใจผู้ให้และถึงใจผู้รับ.. วัตถุมงคลของท่าน จึงไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายสักเท่าใด
    พระคาถาที่ท่านสอนลูกศิษย์เสมอๆ ..คือ นะโมตัสสะ ถอยหลัง..ท่านว่า สวดนะโมถอยหลัง 3 รอบ คลุมได้หมด
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อบุญชูวัดหัวว่าวให้บูชา 100 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20230317_170233.jpg IMG_20230317_170242.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2023

แชร์หน้านี้

Loading...