><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +868
    จอง2423 2425
     
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2426.เนื้อพิเศษแก่มวลสารแร่เกศาเยอะ ของดีพ่อแม่ครูอาจารย์ศิษย์พระอุปคุต
    พระสมเด็จหลังรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่ไม อินทสิริ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    HJIrj8.jpg
    พระสมเด็จหลังรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าหนองช้างคาว จังหวัดอุดรธานี เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน,แร่พิเศษ แก่มวลสารผสมเกศาเยอะ (เนื้อธรรมดาจะสีขาวและเทา) ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2555

    พุทธคุณ
    - วัตถุมงคลของท่าน ขับไล่สิ่งที่ไม่ดี กันภูติผีปิศาจ กันคุณไสย ด้วยฤทธิ์ขององค์พระอุปคุต พร้อมทั้งพุทธคุณด้าน เมตตามหานิยม และโชคลาภ



    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ไม
    พระครูกิตติอุดมญาณ (หลวงปู่ไม อินทสิริ) อดีตเจ้าคณะอำเภอกู่แก้ว (ธรรมยุต) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าหนองช้างคาว อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี และอดีตประธานสงฆ์วัดป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ละสังขารแล้วด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 01.12 น. วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี สิริอายุ 73 ปี 7 เดือน 2 วัน 54 พรรษา

    หลวงปู่ไมเป็นชาวอุดรธานีโดยกำเนิดเกิดเมื่อปีพ.ศ 2490 มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ท่านอยากบวชตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 4 แต่บิดาขอให้ช่วยงานบ้านไปก่อนเพราะน้องยังเล็ก กระทั่งอายุราว 10 – 11 ปี ได้ไปอยู่หนองบัว ลำภู อุบลราชธานี ตอนเช้านำควายไปเลี้ยงตามทุ่งนา ท่านชอบนั่งหลับตาเป็นนิสัย มักจะเห็นสวรรค์เป็นหอปราสาทและเห็นท้าวสักกะเทวราช (พระอินทร์) ใส่โจงกระเบนเหาะลงมาสอนท่านสวดมนต์คาถาจนสามารถท่องจำได้
    จนอายุ 16-17 ปี ก็ยังเห็นพระอินทร์อยู่ ท่านจะมาสอนธรรมะ บอกคาถาป้องกันตัว อยู่ยงคงกระพันและคาถาเจ็บไข้ได้ป่วย เวลาที่พระอินทร์กลับ ท่านจะสั่งว่าเวลามีเรื่องอะไรให้นึกถึง “พ่อ” (ท่านเรียกตัวเองว่า พ่อ) แล้วท่านจะลงมาช่วย

    เมื่ออายุได้ 12-13 ปี ท่านทำงานบ้านและรับจ้างทุกอย่างจนเก็บเงินซื้อควายได้ 2 ตัวตอนอายุ 13 ปี ท่านเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้นในการแต่งตัว ใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ ไม่ชอบเที่ยวดูหนังหรือร้องรำทำเพลง แต่รำกลอนเป็น เพราะบิดาสอนให้ สามารถตอบปัญหาทางด้านประวัติศาสตร์ ธรรมะ ภาษาไทย บาลี มคธ ได้ดี

    เมื่ออายุ 14 ปี ก่อนบิดาเสียชีวิตลงได้สั่งท่านไว้ว่าให้เลี้ยงน้องจนโตก่อนแล้วบวชให้ด้วย พร้อมกำชับว่า ถ้ามารดาจะมีสามีใหม่ก็อย่าห้าม ซึ่งต่อมามารดาก็แต่งงานใหม่ พ่อเลี้ยงเป็นนักเลงเล่นการพนัน ชอบขโมยสิ่งของไปเล่นการพนัน อยู่มาวันหนึ่ง พ่อเลี้ยงขว้างไม้ถูกส้นเท้าน้องชายเป็นแผล ตอนนั้นท่านอายุ 15 ปีคิดจะทำร้ายพ่อเลี้ยง แต่ก็คิดอีกว่าถ้าฆ่าพ่อเลี้ยงแล้วจะหนีอย่างไร จึงหักห้ามจิตใจไว้

    ต่อมาทางญาติพี่น้องบ้านเก่าที่ จ.อุดรธานี พากันไปรับมาที่บ้านเกิดเพื่อไปสร้างฐานะใหม่ พ่อเลี้ยงก็ตามไปรังควาญอีก และยังเล่นการพนันเหมือนเดิม บรรดาพี่น้องจึงตั้งใจจะทำร้าย ปรากฏว่าพ่อเลี้ยงหลบหนีไปก่อน ตั้งแต่นั้นโดยไม่กลับมาอีก

    ในปีพ.ศ.2509 ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศิริวัฒนา อ.กู่แก้ว อุดรธานี ตามความประสงค์ของคุณลุง เนื่องจากที่วัดแห่งนี้ไม่มีพระเณรมาบวช เมื่อบวชได้ 1 เดือน 20 วัน ก็สามารถปฏิบัติจนรู้ธรรม เห็นธรรม สู้เป็น สู้ตาย ไม่หลับไม่นอนหลายวันหลายคืน ปฏิบัติจริงจัง ปฏิบัติแบบเอาเป็นเอาตาย พอจิตเข้าถึงธรรมแล้ว จิตยึดมั่นอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านปฏิบัติไม่ท้อถอย อดทน ต่อสู้ งานวัดไม่ว่าวัดไหนมีงานก่อสร้างศาลาการ เปรียญก็ตั้งใจช่วยงานอย่างเต็มที่

    บวชเป็นสามเณรอยู่ 2 พรรษา ต่อมาปี พ.ศ.2511 ขณะอายุ 20 ปีท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูปภัสสรศีลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์บุญเกิด ยุตฺตธัมโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญฤทธิ์ สุเมโธ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ตรงกับวันที่ 31 มกราคม 2511 ณ วัดอัมพวัน ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ได้รับฉายาว่า "อินฺทสิริ" แปลว่า "ผู้ประกอบด้วยความดี ความยิ่งใหญ่"

    หลังบวชมีโอกาสศึกษาธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์สายกรรมฐานที่เป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาทิ หลวงปู่ศรี อุจจโย, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ฯลฯ

    นับตั้งแต่หลวงปู่ไม เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านได้ดำเนินเจริญตามรอยธรรมพ่อแม่ครูอาจารย์ ในการประพฤติปฏิบัติธรรมและรักษาพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด จึงเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

    หลวงปู่ไมเป็นพระเถระที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบอีกองค์หนึ่งที่ให้ความเคารพศรัทธาหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ในงานสวดลักขีและแสดงมุทิตาจิต ณ วัดธรรมมงคล พระโขนง กทม. หลวงปู่ไมมักจะเดินทางมาร่วมแสดงมุทิตาจิตน้อมถวายแด่หลวงพ่อวิริยังค์ พร้อมออกโรงทานถวายเป็นพุทธบูชาอยู่เสมอ

    บั้นปลายชีวิตหลวงปู่ไมได้มาสร้างวัดป่าเขาภูหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว นครราช สีมา และพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้เรื่อยมาจนกระทั่งถึงกาลละสังขาร


    สภาพสวยเนื้อพิเศษเกศาเยอะ เนื้อหามวลสารเพียบไม่ธรรมดา พุทธคุณครอบครบ สมปรารถนา ดั่งอธิษฐานจิตเอาเถิด แบ่งให้บูชา 650 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณshaj จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2022
  3. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,961
    ค่าพลัง:
    +6,556
    ขอจองครับ
     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2427.The last มหากาพย์พิธีเหนือโลก(มีพลอยเสกหายาก) พระรอดปลอดภัย
    เจตนาสร้างแบบริสุทธิ์ ครูบาอินโท ร่วมอธิษฐานจิตมหาพิธี 9ราตรี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    HJM6iQ.jpg

    kyclpk-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg kycc4q-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg kycuqs-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระรอดปลอดภัย(หลัง อ. วัดสันป่ายางหลวง จังหวัดลำพูน ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2532 เนื้อดินสังเวชนียสถานและดินที่วังหัวกวงซึ่งเป็นดินสร้างพระของเมืองลำพูนแต่โบราณกาลมาผสม ผงยา,ผงว่าน,มวลสารต่าง ๆ ในสมัยที่ท่าน เดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปในสถานที่ต่างๆ ,ใบลานจารอักขระธรรมของวัดที่หักชำรุด เอามาบดทำมวลสาร

    ประวัติพระรอด
    คนส่วนใหญ่มากเมื่อพูดถึงเมืองลำพูน มักจะเล่าสู่กันฟังถึงความวิจิตรสายงามของพระธาตุภุญชัย อันตั้งเด่นตระหง่านเป็นพันปี เท่าอายุของนครหริภุญชัยหรือลำพูน ในปัจจุบัน เช่น พระเจดีย์วัดจามเทวีและกู่บรรจุอัฎฐิพระแม่จามเทวี ปฐมกษัตริย์ของหริภุญชัย ตลอดจนพระวัดวาอารามต่างๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งล้วนแต่มีประวัติอันยาวนานคู่บ้านคุ่เมือง

    วัดที่รู้จักกันดีในบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เพราะเป็นที่บรรจุพระเครื่องสำคัญเป็นอันที่รู้จัก และเป็นที่นิยมกันทั่วไปนับได้ว่าเป็นลัญญสักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองลำพูน คือ วัดพระคงฤาษี ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมืองลำพูน เป็นที่ประดิษฐานบรรจุพระคง หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าพระลำพูนดำ หรือ ลำพูนแดง แล้วแต่สีของพระ อีกวัดหนึ่งคือวัดมหาวัน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองลำพูน เป็นวัดที่ประดิษฐานบรรจุพระเครื่องสำคัญ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขว้าง ทั้งคนในเมืองลำพูน และคนทุกภาคทุกจังหวัดของประเทศไทย ต่างก็พยายามเสาะแสวงหามาไว้บูชาพกพาติดตัวเพื่อพึ่งพลังอิทธิฤทธิ์ ให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายทั้งหลายทั้งปวงอันอาจจะประสบเข้ากับตนเอง และด้วยอำนาจพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณอันบรรจุไว้ในองค์พระรอดนี้ ได้ช่วยให้ผู้ที่บูชากราบไหว้อยู่เสมอ ให้แคล้วคลาดหลุดพ้นจากเหตุการณ์อันตรายได้โดยปลอดภัยราวกับปาฎิหาริย์ มานับครั้งไม่ถ้วน มีหลักฐานบุคคลที่ประสบเหตุการณ์พอที่จะสอบถามได้อยู่มาก

    เหตุที่พระรอดเป็นพระเครื่องที่ทรงไว้ ซึ่งอิทธิปาฎิหาริย์อันยิ่งใหญ่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นเป็นเพราะ
    1. ผู้สร้างพระรอด (รวมทั้งพระคง และพระลือ) สร้างขึ้นมาด้วยจิตอันบริสุทธิ์ ประกอบด้วยเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง หวังให้บุคคลผู้มีไว้ครอบครอง และบูชาอยู่เป็นนิจ ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข รอดพ้นจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงที่จะมาเบียดเบียนชีวิต ทั้งนี้ โดยไม่หวังผลเป็นอามิสไดๆ ทั้งสิ้น
    2. นอกจะมีไว้เพื่อปกป้องประชาชนแล้ว ท่านผู้สร้าง ยังมุ่งหวังเพื่อจะให้คุ้มครองบ้านเมืองให้แคล้วคลาดปราศจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ดังนั้นการสร้างก็อธิฐานไปในทางข่มศัตราวุธและอำนายให้เกิดความแคล้วคลาด (รายละเอียดการสร้างพระรอด โปรดหาอ่านได้จากหนังสือ)

    เหตุการณ์มหัศจรรย์
    ในระยะที่ทางคณะผู้จัดสร้างพระรอด กำลังดำเนินงานกันอยู่นี้ คุณไพศาล แสนไชย ผู้สามารถติดต่อกับเทวโลกได้ และนรกได้ ทำหน้าที่ทูตจากเทวโลกและนรกโลกมาเป็นเวลานานแล้ว ได้นำข่าวจากเทวโลกมาแจ้งให้แก่พระอาจารย์อินทรว่า การสร้างพระรอดครั้งนี้ทางพระสงฆ์ที่อยู่บนเทวโลก ท่านก็ได้ทราบแล้วและทุกท่านที่ทราบ เช่น ท่านครูบาคัณธา คัณธาโล ครูบาสรีวิชัย หลวงพ่อโอภาสี ก็ขอร่วมอนุโมทนา ในเจตนารมณ์อันเป็นบุญเป็นกุศลนี้ และแจ้งด้วยว่าในวันพุทธาภิเกพระนั้น ทุกท่านก็จะลงมาร่วมด้วยพร้อมกับพระสงฆ์อีกหลายรูปที่อยู่บนเทวโลก ในโอกาสนี้ท่านครูบาคัณธา คัณธาโลก สั่งมาว่าขอหัยสาธุเจ้าอินทร ไปบอกกล่าวแก่เทวดาผู้รักษา ดอยไซและขอดินที่ดอยไซมาร่วมผสมทำพระรอดด้วย เพราะเทวดาท่านนี้ในอดีตสมัยพระนางจามเทวีท่านชื่อ ขุนเจ้าคำบุญ เคยร่วมสร้างพระรอดโดยเป็นเจ้าพิธีในการทำทุกขั้นตอน ส่วนท่านพญาพิงคราช ก็กำชับมาว่าอย่าลืมเอาว่านเพชรหลีกมาผสมด้วย จะทำให้พระรอดนี้มีอิทธิทางแคล้วคลาดหลีก พ้นจากอันตราย หลวงพ่อโอภาสี ได้ขิให้ครูบาคัณธา นำท่านไปพบกับหลวงปู่บุญ หรือพระพุทธวิถีนายก วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านเมื่อยังทรงสังขารอยู่ในมนุษย์โลก แต่ขณะนี้ได้มาสถิตอยู่บนพรหมโลก ท่านมีความรู้เรื่องการสร้างพระเครื่องดีมากเมื่อพบกันแล้วโดยไม่ต้องแจ้งความจำนง หลวงปู่กล่าวออกมาทันทีที่คณะของครูบาคัณธา ไปถึงว่า

    เริ่มดำเนินงาน
    การดำเนินการสร้างพระรอดในครั้งนี้ พระอาจารย์อินทร ปัญยาวัฑฒโน และบรรดาผู้ร่วมงานได้ตกลงจะจะปฏิบัติตามแบบฉบับเดิมของพระแม่เจ้าจามเทวีได้ปฏิบัติมา ซึ่งองค์พระแม่เจ้าได้เล่าเรื่องการสร้างพระรอด พระคง พระลือ อย่างละเอียดผ่านคุณไพศาล แสนไชย และได้จัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเรื่อง
    การอธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้แก่แบบพิมพ์พระ
    แบบพิมพ์พระรอดนี้ ได้จ้างผู้ที่มีความรู้เรื่องพระรอดและเคยแกะต้นแบบพระรอดมาแล้วจนชำนาญ เป็นผู้แกะต้นแบบจัดทำพิมพ์พระให้แต่ก่อนที่จะนำแบบพิมพ์ทั้งหมดมาทำการพิมพ์พระ ท่านอาจารย์อินทร ได้นำเอาแบบพิมพ์เหล่านั้น ไปขอความเมตตาจากครูบาสังฆะที่มากด้วยพรรษา และเปี่ยมด้วยบารมีธรรมช่วยแผ่พลังจิตอธิษฐาน เพื่อให้พระรอดทุกองค์ที่กดออกจากแบบพิมพ์นั้น ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ครูบาสังฆะที่พระอาจารย์อินทร ได้ไปขอความเมตตาจากพระคุณท่าน คือ
    1. ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไว อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
    2. ครูบาอิ่นแก้ว วัดวาลุการาม (ป่าแงะ) อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
    3. ครูบาคำตั๋น อารามดอย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
    4. พระครูวรวุฒิคุณ (ครูบาอินทร) วัดฟ้าหลั่ง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วได้ฝากแบบพิมพ์ทั้งหมด ไว้กับท่านครูบาอิน อินโทเป็นเวลา5 วัน กับ 5 คืน เพื่อขอรับบารมีจากครูบา

    การกดพิมพ์พระ
    พระรอดวัดสันป่ายางหลวง ได้ฤกษ์ลงมือกดพิมพ์พระตามแบบโหราจารย์ภาคเหนือ ในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 3 เหนือ ยามเช้า พระเณรในวัดสันป่ายางหลวงและคณะศรัธธาผู้ร่วมสร้างพระรอด ได้ช่วยกันนำวัตถุมงคลทุดอย่าง ที่ต้องใช้ในการกดพิมพ์พระรอด เช่น ดินผสม ผงยา และผงว่าน ที่จะนำมาคลุกดินอีกครั้งหนึ่งก่อนการกดพิมพ์พระรอด น้ำทิพย์ที่นำมาผสมดินให้อ่อนนิ่ม ทั้งหมดได้นำมารวมไว้กลางพระอุโบสถ แล้ววางรูปพระเกจิอาจารย์สำคัญๆ อันเป็นที่รู้จักและเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศไว้รอบๆ กองวัตถุมงคลนั้น เพื่ออธิษฐานของความเมตตาจากพระคุณท่าน ช่วยแผ่พลังบารมีมาปกป้องคุ้มครองพร้อมกับร่วมประจุพลังลงในวัตถุมงคลนั้นด้วย พระสงฆ์ภายในวัดสันป่ายางหลวง อันมีพระอาจารย์อินทร ปัญญาวัฑฒโน เจ้าอาวาสเป็นประธาน ได้ร่วมกันสวดชยันโต ประพรมน้ำทิพย์ซึ่งนำมาทำน้ำพระพุทธมนต์ลงไปตามวัตถุมงคลเสร็จแล้วจึงลงมือกดพิมพ์พระ โดยพระอาจารย์อินทร เริ่มประเดิมเป็นองค์แรกพิมพ์ละองค์ทุกๆ พิมพ์ การสร้างพระครั้งนี้ ท่านพระอาจารย์อินทร ได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ได้ แปดหมื่นสี่พันองค์ เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ และเท่ากับจำนวนที่พระนางจามเทวีได้เคยสร้างไว้ครั้งแรก

    การอาบว่านยา
    การอาบว่านยาเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2532 ไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2533 รวมเวลา 9 วัน เริ่มด้วยพิธีการด้วยการเทศน์หนึ่งกันฑ์พระสงฑ์สวดชัยมงคลคาถา อุบาสกพิธีกรรมร่วมกับพระเณร ช่วยกันนำรพะลงอาบแช่น้ำว่านยา เป็นเวลาพอสมควร ให้เนื้อพระดูดซับเอาน้ำว่ายาไว้ แล้วนำขึ้นผึ่งบนแท่นที่ปูลาดด้วยผ้าเหลืองภายในปริมณฑล พระสงฑ์สวดชยันโตแล้วคลุมทับด้วยดอกไม้นานาชนิด ประพรมด้วยน้ำมนต์ น้ำอบน้ำหอม ทำพิธีเช่นนี้ติดต่อกันทุกเช้าเวลา 09.09 น. เป็นต้นไป จนถึงวันครบกำหนดคือ วันที่ 5 มกราคม 2533 และในตอนกลางคืนทุกคืน ได้รวมพระรอดกองไว้แล้วพระสงฑ์ภายในวัด สวดชัยมงคลคาถาเป็นประจำจนเสร็จพิธีอาบว่านยา หลังจากนั้นวันสุดท้ายคือ วันที่ 5 มกราคม 2533 ได้นำพระรอดทั้งหมดมาประพรมและคลุกด้วยน้ำมันมนต์ อันประกอบด้วยน้ำมันงา , น้ำมันจันทน์ , น้ำมันมะพร้าว , น้ำมันมะกอก , น้ำมันละหุ่ง , น้ำมันหมื้อ , ชมด , ผงจันทร์เทศ , และกฤษณา น้ำมันนี้ได้เก็บไว้ในโบสถ์ และทำพิธีสวดด้วยธรรมจักร ทุกวันพระตลอดพรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 จนกระทั่งเนื้อพระดูดซับเอาน้ำมันมนต์ฉ่ำทั่วองค์พระแล้ว จึงนำออกผึ่งให้แห้ง พอพระรอดทั้งหมดแห้งพอดี ก็ลำเลียงเข้าสู่บริเวณพิธีที่จะทำพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตาต่อไป

    การอธิฐานจิตแผ่เมตตา
    เมื่อขั้นตอนทั้งหลายผ่านพ้นไป และได้สำเร็จเป็นองค์พระตามที่ต้องการแล้ว พิธีสำคัญยิ่งคือพิธีพุทธาภิเษก หรือการอธิฐานจิตแผ่เมตตาประจุไว้ในองค์พระ สถานที่ประกอบพิธีกรรมภายในโบสถ์ วัดสันป่ายางหลวง ด้วยเห็นว่า โบสถ์นั้น เป็นสถานที่ของสงฑ์โดยเฉพาะการทำพิธีกรรมของสงฑ์ เช่น การอุปสมบท การปลงอาบัติ ฟังพระปาฏิโมกข์ ก็ทำได้เอาเฉพาะในโบสถ์เท่านั้น ดังนั้น โบสถ์จึงเป็นสถานที่หมดจดสะอาดปราศจากสิ่งเลวร้ายและมลทิน

    การจัดสถานที่ได้จัดเอาบรรดาศาสตราวุธทุกชนิดเท่าที่จะจัดหาได้บางอย่างก็ต้องใช้ของสมมุติแทนสิ่งมีพิษทั้งหลาย เช่น บรรดายาพิษทั้งหลายที่ชาวบ้านใช้กัน สัตว์มีพิษ และดุร้าย เช่น งูพิษ ตะเข็บ ตะขาบ ฯลฯ เสือ สิงโต กระทิง ควายป่า ช้าง ฯลฯ สัตว์ร้ายเหล่านี้ต้องใช้ของประดิษฐ์แทนของจริง ของทั้งหมดจัดนำมาเพื่อข่มพิษร้ายโดยจัดวางไว้ใต้แท่นที่วางพระแล้วปูทับด้วยผ้าขาวโรยทับด้วยดอกไม้อันมีดอกพุธ ดอกมะลิ และดอกไม้หอมอื่นๆ อีกมาก หมายถึงการลดความเลวร้ายลงและเปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดีในที่สุด ชั้นบนเป็นชั้นที่จัดวางพระรอดที่จะนำมาเข้าพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา ปูลาดด้วยผ้าขาวแล้วจึงวางเกลี่ยพระลงบนชั้นนั้น ประพรมด้วยน้ำอบ น้ำหอมจนทั่วกองพระ แล้วปูทับด้วยผ้าขาวอีกชั้นหนึ่ง ชั้นบนสุดก็โรยด้วยดอกไม้อันเป็นมงคล และมีกลิ่นหอม การโรยดอกไม้ชั้นนี้ ได้โรยทับขึ้นไปทุกคืน ตลอดระยะเวลา 9 คืน
    พิธีสำคัญนี้ได้ฤกษ์เริ่มพิธีในวันที่ 6 มกราคม 2533 ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 เหนือ ไปจนถึงวันที่ 14 มกราคม 2533 พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเที่ยงคืน หลังเที่ยงคืนไปแล้ว ก็ยังคงเปิดโบสถ์จุดเทียนชัยไว้ แล้วกล่าว อัญเชิญเทพเทวาทั้งหลาย และพระสงฑ์จากพรหมโลก เทวโลก ขอให้มาร่วมแผ่เมตตาและอนุโมทนาในกองกุศลนี้ด้วย พิธีกรรมนี้ทำติดต่อกันไปรวมเวลาได้ 9 คืน ในพิธีอธิฐานจิตครั้งนี้ ทางวัดได้นำพระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว จำนวน 205 องค์ พระพุทธรูปใหญ่ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 69 นิ้ว 1 องค์ พระพุทธรูป ยืนปางห้ามมารสูง 4 ศอก 1 องค์ พระพุทธรูปปางประธานพรแบบอินเดีย ขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว 2 องค์ เข้าร่วมพิธีด้วย พระเกจิอาจารย์หรือครูบาสังฆะ ที่นิมนต์มาร่วมในพิธีอธิฐานจิตครั้งนี้ทั้งหมด 32 รูป ส่วนมากจะมีอายุ 70 พรรษาขึ้นไป และได้บำเพ็ญจิตภาวนาสั่งสมบารมีมาตลอด แม้บางองค์จะมีอายุพรรษาน้อยกว่านั้น แต่ก็เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และสั่งสมบุญบารมีด้วยการบำเพ็ญจิตเรื่อยๆมาไม่ขาดสาย นับได้ว่าเป็นบุญอย่างยิ่งของคณะผู้ดำเนินการสร้างพระ ที่ได้รับความเมตตาอย่างสูงจากพระคุณเจ้าทุกรูป บางองค์ แม้จะสูงอายุสังขารร่างกายก็ทรุดโทรมตามปกติไม่รับนิมนต์ที่ไหนไกลๆ แต่ก็ยินดีมาร่วมพิธีกรรมครั้งนี้โดยเฉพาะ

    รายนามพระสงฆ์ที่มาร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา
    วันที่ 6 มกราคม 2533
    1. พระมหาเจติยารักษ์ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร แสดงธรรม “ไชยะสังคะหะ “ เริ่มพิธีกรรม
    2. ครูบาดวงจันทร์ จันวโร วัดป่าเส้า อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาปั๋นคำ วัดสวนลำไย อ.เมือง ลำพูน
    4. พระมหาบุญช่วย วัดสวนลำไย อ.เมือง ลำพูน

    วันที่ 7 มกราคม 2533
    1. ครูบาสิงห์แก้ว สิริวิชโย วัดป่าขาม อ.เมือง ลำพูน
    2. พระครูสุทธิธรรมสุนทร วัดบ้านหลุก อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาอินตา ธนักขันโธ วัดวังทอง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาต่วน อริยวังโส วัดหนองปลาขอ อ.เมือง ลำพูน

    วันที่ 8 มกราคม 2533
    1. พระครูสังวรญาณ วัดพระเจ้าสะเลียมหวาน อ.บ้านโฮ่ง ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดห้วยแทง อ.บ้านโฮ่ง ลำพูน
    3. พระครูศิรินันทคุณ วัดช้างค้ำ อ.ป่าซาง ลำพูน
    4. ครูบาซอน ธันมชโย วัดดอนหลวง อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 9 มกราคม 2533
    1. พระครูชยาลังการ วัดทาดอยแช่ อ.แม่ทา ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดปทุมสราราม อ.ป่าชาง ลำพูน
    3. ครุบาจันทร์ จันทวังโส วัดสันเจดีย์ริมปิง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาสุจินดา สุมังคโส วัดม่วงชุม อ.พาน เชียงราย

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1. พระครูชยาลังการ วัดทาดอยแช่ อ.แม่ทา ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดประทุมสราราม อ.ป่าซาง ลำพูน
    3. ครูบาจันทร์ จันทวังโส วัดสันเจดีย์ริมปิง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาสุจินดา สุมังคโล วัดม่วงชุม อ.พาน เชียงราย

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1. ครูสิงหวิชัย สิริวิชโย วัดฟ้าฮ่าม อ.เมือง เชียงใหม่
    2. ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซ อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาแสง วัดล้อมก่องข้าว อ.สันกำแพง เชียงใหม่
    4. พระครูพิทักษ์ปัจจันตเขต วัดพระชินธาตุดอยตุง อ.แม่สาย เชียงราย

    วันที่ 11 มกราคม 2533
    1. พระครูคันธวงศ์วิวัฒน์ วัดหนองผำ อ.ป่าซาง ลำพูน
    2. ครูบาสม โสภโน วัดเจดีย์สามยอด อ.ป่าซาง ลำพูน
    3. ครูตุ่น ปัญญาวิลาโส วัดบ้านล้อง อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 12 มกราคม 2533
    1. พระครูญาณภิรัต วัดป่าเจริญธรรม อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    2. พระครูศรียูรมงคล วัดทุ่งแป้ง อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    3. พระครูบวรสุขบท วัดป่าซางน้อย อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 13 มรกราคม 2533
    1. พระครูวรวุฒิคุณ วัดฟ้าหลั่ง อ.จอมทอง เชียงใหม่
    2. พระครูธรรมภาณี วัดดอยชัย อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    3. พระครูญาณภิรัต วัดป่าเจริญธรรม อ.สันป่าตอง เชียงใหม่

    วันที่ 14 มกราคม 2533
    1. พระครูสุขบทบริหาร วัดห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร ลำปาง
    2. พระครูโถมมณียคุณ วัดบ้านเป้า อ.ห้างฉัตร ลำปาง
    3.พระครูรัตนาคม วัดพระธาตุเสด็จอ.เมือง ลำปาง
    4.พระครูรักขิตคุณ วัดม่อนพญาแช่ อ.เมือง ลำปาง
    นอกจากพระเถระที่นิมนต์มาแล้ว ทุกคืนพระสงฆ์ภายในวัดสันป่ายางหลวงอันประกอบด้วย
    1.พระปลัดอินทร ปัญญาวัฑฒโน เจ้าอาวาส
    2.พระมหาเจริญ ชุตินธโร
    3.พระอุทัย อภิญญาโณ
    4.พระชัยพร สิริปัญโญ
    5.พระคัชเชน โชติธัมโม
    ได้ร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา กับพระเถระเป็นประจำทุกคืน ตั้งแต่คืนเริ่มต้นจนถึงคืนสุดท้าย พระภิกษุรูปอื่นที่ไม่เข้าร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา ก็เข้าไปสวดพระคาถาพุทธาภิเษก ร่วมกันกับสามเณร ตั้งแต่เริ่มพิธีจนจบพิธีกรรมทุกๆ คืน

    พระสงฆ์จากเทวโลก พรหมโลกที่มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตา ทุกคืน หลังจากพิธีกรรมทางมนุษย์โลกจบสิ้นแล้วเวลาตั้งแต่ 24.00 น.เป็นต้นไป ได้มีพระสงฆ์จากพรหมโลก เทวโลก มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตาต่อไปอีก จนถึงเวลา 05.00
    พระสงฆ์จากเทวโลก พรหมโลก ที่มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตา พระรอดปลอดภัย

    วันที่ 6 มกราคม 2533
    1.ครูบาคัณธา คัณธาโล วัดเมืองสร้อย ตาก
    2.ครูบาศรีวิชัย วัดบ้างปาง ลี้ ลำพูน
    3.ครูบาบุญทา วัดสันป่ายางหลวง ลำพูน
    4.ครูบาอภัยสะระทะ วัดฝานหิน เชียงใหม่

    วันที่ 7 มกราคม 2533
    1.ครูบาอุปาละ วัดดอยเต (บ้านทา)ลำพูน
    2.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    3.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร
    4.หลวงปู่เขียว วัดหลงบน นครศรีธรรมราช

    วันที่ 8 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน อยุธยา
    2.หลวงพ่อปาน วัดคลองด่วน สมุทรปราการ
    3.หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
    4.หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง อุบล

    วันที่ 9 มกราคม 2533
    1.สมเด็จลูน ประเทศลาว
    2.หลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด
    3.หลวงปู่บุญ นครปฐม
    4.หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1.ครูบาสุริยะ วัดเท้าบุญเรือง เชียงใหม่
    2.ครูบาเถิ้ม วัดแสนฝาง เชียงใหม่
    3.ครูบาอินทรจักร วัดป่าลานห้วยยาบ ลำพูน
    4.ครูบาอุปาละ วัดดอยแต (บ้านทา) ลำพูน

    วันที่ 11 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาตะแคงตะวันตก พัทลุง
    3.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีน
    4.ครูบาอุปาละ วัดดอยแต (บ้านทา) ลำพูน

    วันที่ 12 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง นครปฐม
    2.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    3.ครูบาอ้าย อินทรปัญโญ วัดสะปุ๋งน้อย (ป่าซาง) ลำพูน

    วันที่ 13 มกราคม 2533
    1.ครูบาดง ชวโน วัดดงเหนือ แพร่
    2.ครูบาแก้ว อินทรจักโก วัดเขื่อนคำลือ แพร่
    3.พระครูเนกขัมมะวิสุทธิ์ วัดดอนตัน น่าน
    4.ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน

    วันที่ 14 มกราคม 2533
    1.ครุบาคำแสน วัดสวนดอก เชียงใหม่
    2.ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่
    3.หลวงปู่คำปัน วัดสันโป่ง เชียงใหม่
    4.หลวงปู่ภู วัดอินทร์วิหาร กรุงเทพ

    พระมหาเถระที่มีชื่อประจำวันนี้ ท่านจะมาร่วมอธิฐานจิต ตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง 5โมงเช้า ตามรายการ นอกจากนี้ยังมีพระเถระอีกนับร้อยรูปจากพรหมโลก ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมาร่วมอธิฐานจิต องค์ละประมาณ10-15 นาที แล้วกลับ ตลอดระยะเวลาพิธีอธิฐานจิต ตั้งแต่วันเริ่มต้นจนวันสุดท้าย แต่ไม่อาจจะนำรายนามท่านมาลงได้ทั้งหมด เพราะมีจำนวนมากและบางองค์คุณไพศาล ก็ไม่รู้จัก
    ในคืนเริ่มต้นและคืนสุดท้ายของพิธีกรรม พระแม่เจ้าจามเทวี ได้เสด็จมาร่วมอนุโมทนา และแผ่เมตตาด้วยแต่อยู่ภายนอกโบสถ์ พระแม่เจ้าได้ตรัสกับไพศาลว่า พระรอดปลอดภัยนี้ดีเท่ากับพระรอดในสมัยที่แม่หม่อน(พระแม่จามเทวี)สร้างสามารถปราบแป๊ (ชนะ)ภูตผี เงือกหงอน ได้ด้วย ใครมีบูชาก็จะอยู่เย็นเป็นสุข จำเริญรุ่งเรือง แม่หม่อนขออนุโมทนากับผู้ใดก็ตามที่ได้ไว้บูชาทุกผู้ทุกคน ขอให้เคารพนบยำอย่าได้เหยียบย่ำข้ามกลายเป็นอันขาด(นี่คือคำยืนยันจากดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางจามเทวี)

    ในปีพุทธศักราช 2529 พระอาจารย์อินทรปัญญาวัฑฒโน (พระครูปัญญาธรรมวัฒน์) ได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าซึ่งชำรุด ในปีนั้นท่านได้พิจารณาว่า ในงานฉลองอุโบสถหลังใหม่จะเอาอะไรเป็นที่ระลึกแก่ญาติโยมตลอดจน พุทธบริษัทที่ได้ร่วมกันสร้างพระอุโบสถ

    ในคืนวันหนึ่งท่านนั่งสมาธิและได้เห็นรูปพระรอดปรากฏขึ้นในนิมิตนั้น รุ่งเช้าหลังจากฉันภัตตาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านได้คำนึงถึงนิมิตนั้น ท่านได้พิจารณาว่า ถ้าสร้างพระรอดเลียนแบบของเก่าก็จะไม่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อีกทั้งจะกลายเป็นว่ารูปแบบซ้ำกันเหมือนเลียนแบบของเดิม ท่านจึงเอาสัญญาลักษณ์ อ. ซึ่งเป็นตัวอักขระสำคัญที่ทุกคนจะต้องใช้ตัว อ. นี้ รวมเข้าไปในชื่อของทุกคน คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ โอม ซึ่งเป็นอักขระนะโม มี 9 ตัว เท่ากับโลกุตระธรรมของพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า อีกทั้งเป็นชื่อของท่านด้วย พระอาจารย์อินทรปัญญาวัฑฒโนจึงได้รวบรวมมวลสารต่าง ๆ ในสมัยที่ท่าน เดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปในสถานที่ต่าง ๆ ใบลานจารอักขระธรรมของวัดที่หักชำรุด เอามาบดรวมกันเพื่อทำผงพระรอด ผสมกับดินสังเวชนียสถานและดินที่วังหัวกวงซึ่งเป็นดินสร้างพระของเมืองลำพูนแต่โบราณกาลมา ได้สร้างพระรอดหลัง อ. ขึ้นจนสำเร็จและทำพิธีพุทธาภิเษก โดยได้นิมนต์พระสงฆ์คณาจารย์แห่งเมืองลำพูนมาทำพิธีพุทธาภิเษก เป็นเวลาหนึ่งเดือนกับเก้าวันเก้าคืน และได้แจกให้ญาติโยมในพิธีฉลองพระอุโบสถหลังใหม่

    หลังจากที่ญาติโยมได้รับแจกพระกันไปโดยทั่วถึงแล้ว เกิดปรากฏการณ์อภินิหารแก่ผู้ที่ได้รับแจกไป ดังนี้

    เรื่องที่หนึ่ง ตำรวจถูกยิง
    นายดาบตำรวจวิสูตร ประจำสถานีตำรวจภูธรแม่ทา จังหวัดลำพูน ถูกยิงด้านหลังขณะเข้าจับกุมยาบ้า หมดสติไป
    สองวัน ในวันที่สามจึงพื้นคืนสติเหมือนคนนอนหลับ ไม่ปรากฏแผลตามร่างกายแต่อย่างใด

    เรื่องที่สอง คนจะคลอดบุตร
    นางนภาภรณ์ บ้านกอม่วง อำเภอเมือง ลำพูน ตั้งครรภ์ เลยกำหนดคลอดมาเป็นเวลานานพอสมควร ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาลแมคคอมิค ผลกาตรวจปรากฏว่าเด็กขวางลำตัว ขณะเตรียมตัวรอเจ้าห้องผ่าตัด แม่ของนางนภาภรณ์ได้ระลึกถึงพระรอดหลัง อ.ได้ เพราะได้ยินท่านอาจารย์พูดว่า ถ้าใครมีปัญหาอะไรที่สาหัส ให้เอาพระรอดตั้งสัจจะอธิษฐาน ทำน้ำพระพุทธมนต์ น้ำไปดื่ม กิน อาบ โดยเอาพระรอดแก่วงลงไปในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ มารดาของนางนภาภรณ์ก็ทำเช่นนั้น เพราะพระรอดได้ผ่านการอาบน้ำว่าน ๑๐๘ ชนิดและน้ำมันมนต์ผ่านการทำพิธีมาเรียบร้อยแล้ว แม่ของนางนภาภรณ์จึงนำน้ำมนต์นั้นมาให้นางนภาภรณ์ดื่ม กิน ลูบหัว ลูกหน้า ลูบท้องของนางนภาภรณ์ ปรากฏเป็นที่อัศจรรย์ว่า ลูกของนางนภาภรณ์คลอดออกมาอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด

    เรื่องที่สาม อุบัติเหตุรถชน
    นายสวัสดิ์ สันตติภัค คนบ้านพระคงฤาษี ในเมืองลำพูน อายุ ๖๐ ปีถูกรถกระบะชนกลางลำตัวขณะขับขี่จักรยานสองล้อตัดหน้ารถ เพราะไม่เห็นรถกระบะด้วยสายตาไม่ดี รถกระบะชนเต็มที่ ปรากฏว่า ขาหัก ๓ ท่อน โดยไม่มีบาดแผลอื่นใด หมดสติ ไปรู้สึกตัวที่โรงพยาบาล พอรู้สึกตัวก็คลำหาพระรอดหลังอ. ยกมือท่วมหัวพรางนึกในใจว่า รอดตายพระบารมีพระรอดหลังอ.คุ้มครอง หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ยังโดนรถมอเตอร์ไซด์ชนอีก ๒ ครั้ง แต่ก็รอดมาได้โดยไม่เป็นอะไร

    เรื่องที่สี่ พระรอดช่วยคนฟันปลอมติดคอ
    นายบุญชื่น บ้านต้นเหียว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ รับประทานอาหารเสร็จในวันหนึ่งแล้วลุกมาบ้วนปาก ขณะกรั้วคอล้างปาก ฟันปลอมที่ใส่อยู่ประจำเกิดหลุดออกจากเหงือกที่ยึดอยู่ แล้วไหลลงไปติดอยู่ที่หลอดลม เจ็บปวดสุดแสนสาหัส ทำอย่างไรก็ไม่อาจสามารถเอาออกมาได้ ภรรยาจึงนำส่งโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ แพทย์ได้ทำการ x - ray ผลปรากฏว่าฟันปลอมไปติดค้างอยู่ที่หลอดลม หมอลงความเห็นว่าต้องผ่าตัดลำคอเพื่อเอาฟันปลอมออกมา ในขณะที่กำลังรอการผ่าตัด นายบุญชื่นได้รับความทรมานอย่างสุดแสนสาหัส จึงลงความเห็นให้ผ่าตัดด่วน ขณะที่รอหมอภรรยานายบุญชื่นซึ่งแขวนพระรอดหลังอ.ไว้ นึกขึ้นมาได้ จึงเดินไปเอาน้ำจากที่ดื่มน้ำบริการของโรงพยาบาลมหาราช แล้วนำพระรอดหลังอ. มาอธิษฐานว่า “ถ้าพระรอดแน่จริง ศักดิ์สิทธิ์จริง ของให้ฟันปลอมของนายบุญชื่นหลุดออกมาโดยปาฏิหารย์” ภรรยาจึงนำพระรอดหลังอ.แก่วงลงไปในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้นายบุญชื่นอธิษฐานดื่ม ประมาณครู่หนึ่งหลังจากที่นายบุญชื่อดื่มน้ำเข้าไปแล้ว มีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียรอย่างรุนแรง นายบุญชื่นจึงเดินไปที่ถังขยะ ด้วยความทุรนทุรายแล้วอาเจียรออกมาอย่างหนัก ปรากฏว่า ฟันปลอมได้หลุดมากับการอาเจียรในครั้งนั้นโดยอัศจรรย์ นายบุญชื่นได้หยิบเอาฟันปลอมมาทั้งน้ำหูน้ำตา แล้วนำออกมาเพ่งดู ขณะนั้นพอดีกับพยาบาลเรียกให้ไปเข้าห้องผ่าตัด นายบุญชื่นจึงเดินไปหาพร้อมกับยื่นฟันปลอมให้พยาบาลที่จะนำเข้าห้องผ่าตัดดู แล้วบอกว่า “ผมไม่ผ่าแล้ว ฟันผมหลุดออกมาแล้ว” พยาบาลมองดูดด้วยความงุนงงว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไร? จึงถามนายบุญชื่นว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไร? ภรรยาจึงเล่าเรื่องเอาพระรอดหลังอ.ทำน้ำมนต์ให้พยาบาลฟัง เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาและเล่าขานกันมากในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

    เรื่องที่ห้า ตำรวจได้ลาภ
    รตต.รัตน์ บุญชู ประจำกองกำกับการตำรวจภูธร จว.ลำพูน เป็นผู้มีความศรัทธาในตัวพระอาจารย์อินทรเป็นอย่างยิ่ง ตอนพักกลางวันของทุกวัน หลังจากรับประทานอาหารแล้วก็จะมาไหว้พระสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิภาวนาเป็นประจำทุกวัน วันหนึ่ง ได้ยินกิตติศัพท์พระรอดหลังอ. จึงมาขอต่อท่านอาจารย์ ไป ๑ องค์ จึงนำไปใส่กรอบติดตัว ในขณะที่รับพระไปนั้น ตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ขอให้ได้เลื่อนยศภายในเร็ววัน ต่อมาอีก๒ อาทิตย์ รตต.รัตน์ ได้มาที่วัดเพื่อถวายสังฆทาน แล้วบอกท่านอาจารย์ว่า “ ใครว่าพระรอดหลังอ. รอดจากจากโชคจากลาภ ผมไม่เชื่อเด็ดขาด ท่านอาจารย์ครับ วันนี้ผมได้เลื่อนเป็นรตท.แล้วครับ”

    เรื่องที่หก พระธาตุเสด็จอยู่ในกรอบพระรอด
    นายถวิล ท้าวรอม (ร้านถวิลท้าวรอม) บ้านป่าซาง ได้มาช่วยกดพิมพ์พระรอดหลัง อ. ได้นำพระรอดหลังอ.ที่พระอาจารย์อินทรเป็นผู้กดเอง ใส่กรอบแขวนติดตัวไว้ อุปนิสัยของนายถวิลเป็นใจบุญสุนทานหมั่นปฏิบัติภาวนาเป็นประจำทุกวัน หลังจากนั้นไม่นาน พระธาตุได้เสด็จมาอยู่ในกรอบกับองค์พระรอดหลังอ. เป็นที่น่าอัศจรรย์ (เมื่อมองดูจะเห็นแต่เศียรพระรอดหลังอ. ส่วนองค์พระมองไม่เห็น เห็นแต่พระธาตุ)

    เรื่องที่เจ็ด แสงเลเซอร์ยิงไม่เข้า
    คุณวิภา องค์มหัสมงคล ผู้พิพากษาศาลสมทบจังหวัดนนทบุรี ได้บูชาพระรอดหลังอ.ทองคำไป ๑ องค์ วันหนึ่งได้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจรักษาต้อกระจก หมอนัดวันให้มาทำการรักษา เมื่อถึงวันนัดก่อนออกจากบ้าน คุณวิภาได้ยกพระขึ้นจบพร้อมกับอธิฐานขอบารมีพระรอดหลังอ.คุ้มครอง อย่าได้มีอันตรายใดใดต่อดวงตาเลย ที่โรงพยาบาล หมอทำการรักษาโดยการยิงแสงเลเซ่อร์เพื่อรักษาต้อกระจก พอเริ่มทำการรักษา หมอยิงเลเซ่อร์ ๒ - ๓ ครั้ง ปรากฏว่าเครื่องยิงหยุดการทำงาน เป็นที่อัศจรรย์ หมอได้ตรวจสอบเครื่องยิ่งเลเซ่อร์ก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติแต่อย่างใด
    หมอจึงถามคุณวิภาว่า “คุณแขวนพระอะไรไว้?”
    คุณวิภาตอบว่า “แขวนพระรอดหลังอ. และได้อธิษฐานก่อนออกจากบ้านมาพบหมอ” สร้างความงุนงงให้กับวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นอย่างยิ่ง!!

    เรื่องที่แปด รถชนที่มาเลเซีย
    มิสเตอร์กูบูเซ็ง เจ้าของบริษัท ประเทศมาเลเซีย ได้ส่งจดหมายเป็นภาษาอังกฤษถึงท่านอาจารย์อินทรว่า มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งไปออกกำลังกายตอนเช้าที่ Park หลังจากเสร็จกิจกรรมแล้วได้ขี่จักรยานสองล้อเพื่อเดินทางกลับบ้าน ขณะเดินทางกลับบ้านถูกรถยนต์ชนอย่างแรง ด้วยแรงกระแทก มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งกระเด็นไปไกลหลายตลบเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งจึงให้มิสเตอร์เซ็งเขียนจดหมายเล่าเรื่องประสบการณ์เหลือเชื่อให้ทางวัดสันป่ายางหลวงได้ทราบ พร้อมทั้งขอบคุณบารมีพระรอดหลังอ. ที่ช่วยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

    ปาฏิหารณ์ที่เกิดจากมีมากมายหลายเรื่องหลายประการจนไม่สามารถนำมากล่าวได้หมด ผู้ที่นำไปบูชาแล้วเท่านั้นจึงได้พบความอัศจรรย์และปาฏิหารย์ต่าง ๆ ของพระรอดหลัง อ

    ข้อความทั้งหมดนี้คัดลอกมาจากหนังสือ แม่หม่อนเล่าและย้อนอดีตวัดสันป่ายางหลวง จากนิมิตของคุณ ไพศาล แสนไชย เรียบเรียงโดย คุณ ประสิทธิ์ เพชรรักษ์ ทั้งหมด
    ....เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูบให้ทุกท่านได้ทราบถึงพระรอดซึ่งทรงคุณค่าและได้รับการรับรองจากดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่จามเทวี(แม่หม่อนหรือคุณทวด)ว่ามีคุณเปรียบดังพระรอดที่ท่านได้สร้างไว้เมื่อ 2000 กว่าปีมาแล้วครับ


    สภาพสวยผิวหิ้งเดิมเก่าเก็บ พุทธคุณหายห่วง นี้แหละครับของดีราคาเยาว์ เนื้อดีพิมพ์ดีของท่านที่ทุกคนสามารถมีไว้ในครอบครองได้ แบ่งให้บูชา 432 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณShoo-2561 จองแล้วครับ)







    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2022
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2428.ของดีเนื้อดีปีลึกขึ้นคอแทนพระกรุเนื้อชินได้เลย
    พระยอดขุนพล หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร ศิษย์พุฒาจารย์นวม,พระสังฆราชแพ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    HLPfe2.jpg

    HLPQbR.jpg

    พระขุนแผนยอดขุนพลเล็ก หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร ธนบุรี กทม. เนื้อชินจากพระกรุเก่ากรุวัดราชบูรณะและกรุอื่นๆที่ชำรุด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2527

    พุทธคุณ
    - ทั้งทางด้านค้าขาย เมตตามหานิยมและ แคล้วคลาด สามารถบูชา ขึ้นคอได้ โดยสนิทใจ

    หลวงพ่อฑูรย์
    ท่านเป็นเกจิเก่งอีกองค์หนึ่งในยุคกึ่งพุทธกาล ท่านเป็นศิษย์พุฒาจารย์นวม วัดอนงฯ และสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ท่านเป็นพระเถระที่ทรงกิตติคุณและเรืองไปด้วยพระเวทวิทยาคมท่านหนึ่ง ท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งงานพุทธาภิเศกพระเครื่องของท่านส่วนใหญ่หลวงปู่โต๊ะจะมาช่วยปลุกเสกด้วย และหลวงพ่อฑูรย์ท่านได้รับนิมนต์ไปงานพิธีพุทธาภิเศกสำคัญ ๆ เสมอ



    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บ ผิวปรอทเต็มๆเดิมๆ พุทธคุณหายห่วง นี้แหละครับของดีราคาเยาว์ เนื้อดีพิมพ์ดีของท่านที่ทุกคนสามารถมีไว้ในครอบครองได้ แบ่งให้บูชา 280 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2429.สุดยอด Rare item คุ้มครองได้ทั้ง 3 โลก
    เหรียญพระแก้วมรกตนิราศภัย ลป.ดู่,ลพ.เกษม,ลป.บุดดา เมตตาอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    HehB9N.jpg
    เหรียญพระแก้วมรกตนิราศภัย คุณสุธันย์ สุนทรเสวี เนื้อทองแดงรมดำ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2529 - 2530

    " ได้อัญเชิญพุทธบารมีขององค์พระแก้วมรกตมาบรรจุให้ และอัญเชิญพระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ทั้งแสนโกฏิจักรวาลมาร่วมปลุกเสก พระแก้วมรกตนี้คุ้มครองได้ทั้ง 3 โลก"


    วาระการอธิษฐานจิต
    1.หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา โดยหลวงปู่ดู่ได้อธิษฐานจิตให้เป็นพิเศษในวันเกิดของท่าน ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา ( 11 พฤษภาคม 2530 ) พร้อมกับเหรียญพระแก้วมรกตนิราศภัย ในขณะปลุกเสกและอธิษฐานจิตท่านได้กล่าวว่า ได้อัญเชิญพุทธบารมีขององค์พระแก้วมรกตมาบรรจุให้ และอัญเชิญพระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ทั้งแสนโกฏิจักรวาลมาร่วมปลุกเสก พระแก้วมรกตนี้คุ้มครองได้ทั้ง 3 โลก

    2.หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง โดยหลวงปู่ได้เมตตามนต์ให้ ณ โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2530 โดยท่านได้เมตตามนต์ให้เป็นการเจาะจง โดยท่านได้สั่งให้เปิดกล่องเหรียญออกและได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิมาบูชาพระแก้วมรกตทั้งเหรียญและพระผงนี้ด้วย

    3.หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรีฯลฯ
    จัดได้ว่าเป้นพระเครื่องดีอีกรุ่นหนึ่งที่หลวงปู่ออกปากการันตีด้วยตนเอง ( นอกเหนือไปจากเหรียญและพระผงดวงยันต์ดวง พระเหนือพรหม พระขุนแผน และเหรียญเศรษฐี ) ใครมีไว้เสมือนหนึ่งมีพระแก้วมรกตองค์จริงติดตัวเพราะหลวงปู่ดู่ได้ขออัญเชิญพระพุทธบารมีจากองค์จริงมาเต็มๆ

    ครูบาอาจารย์อีกรูปหนึ่งก็บอกว่า ประเทศใดที่มีพระแก้วมรกต ประเทศนั้นจะไม่ว่างเว้นจากพระอริยเจ้า และประเทศใดที่มีพระแก้วมรกตประเทศนั้นจะรอดพ้นจากภัยพิบัติ(อาจจะมีบ้างตามวาระกรรมแต่ถ้าเทียบกันทั่วโลกเราจะปลอดภัยสุด) เพราะพระแก้วมรกตเป็นพระบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และพระแก้วมรกตก็เป็นพระคู่บุญบารมีของพระมหากษัตริย์ไทย

    จัดได้ว่าเป้นพระเครื่องดีอีกรุ่นหนึ่งที่หลวงปู่ออกปากการันตีด้วยตนเอง ( นอกเหนือไปจากเหรียญและพระผงดวงยันต์ดวง พระเหนือพรหม พระขุนแผน และเหรียญเศรษฐี ) ใครมีไว้เสมือนหนึ่งมีพระแก้วมรกตองค์จริงติดตัวเพราะหลวงปู่ดู่ได้ขออัญเชิญพระพุทธบารมีจากองค์จริงมาเต็มๆ

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    คัดลอกมาจากเวปพุทธานุภาพ



    สภาพผิวปรอทดเดิมๆ ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาสบายกระเป๋า แบ่งให้บูชา 2,555 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2022
  7. Shoo-2561

    Shoo-2561 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +1,068
    ** บูชารายการนี้
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2430.เล็กดีรสโต พุทธคุณมหาศาล มหาลาภโภคทรัพย์ มหาอุตม์
    เหรียญเม็ดแตงสมเด็จองค์ปฐมหลังพระสิวลี พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    Hm5z1v.jpg
    เหรียญเม็ดแตงสมเด็จองค์ปฐมหลังพระสิวลี พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อโลหะผสมรมดำ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2555 - 2556

    รุ่นนี้ท่านเคยนำไปแจก ตชด. คนรับทักท่านว่า เหรียญเล็กจัง ท่านตอบกลับว่าเหรียญเล็กแต่ พุทธคุณไม่เล็ก หลวงพี่เล็กท่านบารมีสูงมาก ปลุกเสกสมเด็จองค์ปฐมได้ พุทธคุณสูงมาก สุดยอดแห่งพระมหาลาภ ด้านโชคลาภ พระเล็กแต่พุทธคุณไม่เล็ก พุทธคุณด้านโภคทรัพย์มหาลาภ ที่วัดหมดไปนานแล้ว


    สภาพสวเดิมเก่าเก็บ ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาสบายกระเป๋า แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณshaj จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2022
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,961
    ค่าพลัง:
    +6,556
    ขอจองครับ
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112



    $$$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$$$






    2431.
    เล็กดีรสโต มหาพิธี ฝนพายุฟ้าแลบฟ้าร้องเสียงกึกก้อง
    พระสมเด็จองค์บดินทร์ ลพ.แพ,ลพ.สุด,ลพ.ทองสุข พิเศษ ลป.แหวน เสก6เดือนเต็ม

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    Hm2OLa.jpg
    Hm2EAf.jpg

    พระสมเด็จพระพุทธมหาบดินทร์ วัดสามปลื้ม กทม. พิมพ์ใหญ์ปกติ เนื้อผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2525 โดยจอมพลประภาส จารุเสถียร เพื่อเป็นเกียรติแด่เจ้าพระยาบดินทรเชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) แม่ทัพทหารเอกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราวฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200ปี

    ออกแบบปั้นแบบโดย อาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์ อดีตนายช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร

    โดยมีมวลสารที่ผสมอยู่ดังนี้

    - ชิ้นส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหม วัดใหม่อมตรส
    - ชิ้นส่วนพระกรุต่างๆ เช่น พระคง พระวัดสามปลื้ม
    - ผงพระวัดปากน้ำ
    - ผงงาช้างโบราณ
    - ผงธนบัตรชำรุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยย่อยทำลายเป็นเศษ
    - ผงตะไบอาวุธ หอก ดาบ ง้าวโบราณ
    - ผงว่าน108
    - ผงอัญมณีต่างๆ
    - ผงทรายเสกพระเกจิอาจารย์ 108รูป
    - ผงพุทธคุณพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ฯลฯ


    พิธีพุทธาภิเษก
    ณ พระอุโบสถวัดจักรวรรดิราวาสหรือวัดสามปลื้ม โดยหลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรดิฯ ร่วมกับพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงสมัยนั้น โดยพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมหลายรูป อาทิ
    - หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    - หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยาฯ
    - หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร
    - หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    - หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง
    - หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
    - หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    - หลวงพ่อสมชายวัดเขาสุกิม ฯลฯ


    วาระอธิษฐานจิตพิเศษ
    - หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง อธิษฐานจิต นาน 6 เดือนเต็ม

    '' ขณะประกอบพิธีปลุกเสก มีลมพายุพัดเข้ามาในพระอุโบสถหมุนอยู่เหนือกล่องบรรจุพระเครื่องเป็นเวลานาน ทั้งปรากฏมีงูเหลือมขนาดใหญ่ตกลงมาจากเพดานโบสถ์ มีลม ฝน พายุ ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง เสียงกึกก้อง ''



    สภาพสวเดิมเก่าเก็บ ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาสบายกระเป๋า แบ่งให้บูชา 280 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • HmsVi9.jpg
      HmsVi9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      159.1 KB
      เปิดดู:
      182
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2022
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,514
    ค่าพลัง:
    +30,847
    AW303602_00.gif
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2432.เดิมๆจากวัดยันลูกแม็ก(เต็มองค์๒) เหรียญฟ้าผ่า
    ประทานพรจงเป็นแก้วสารพัดนึก หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    HF7KWv.jpg

    image-0a8e_5954a6cd-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg image-8fc6_5954a6cd-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    image-0a9e_5954a6cd-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    เหรียญรุ่นประทานพร จงเป็นแก้วสารพัดนึก หรือ รุ่นฟ้าผ่า หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม อ.ตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี พิมพ์เต็มองค์ เนื้อทองแดง ตอกโค๊ด จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2549 " สภาพซองเดิมพร้อมสูจิบัตรเดิมจากวัดไม่เคยแกะออกมาเลย ก็เลยต้องถ่ายแบบนี้ รับประกันความสวยเดิมๆไม่เคยถูกสัมผัส "

    เหรียญรุ่นนี้ หลวงปู่ญาท่านสวนท่านได้เมตตาทำพิธีปลุกเสกชนวนแผ่นยันต์ แม่พิมพ์ ต้นแบบเหรียญรูปเหมือนของท่านพร้อมพิจารณาด้วยตัวท่านเองถึง 2 ครั้ง
    - ครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2549
    - ครั้งที่สองเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2549


    และเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายที่หลวงปู่ปลุกเสกเดี่ยว จึงเป็นมงคลอันสูงสุด เพื่อให้ระลึกถึงความเมตตาของท่านตลอดกาล เหตุที่เรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า เหรียญฟ้าผ่าเนื่องจาก มีประสบการณ์จากการที่ฟ้าผ่าคนที่แขวนเหรียญนี้ติดตัวไว้ ผลปรากฏว่าไม่เป็นอะไรเลย

    สภาพสวยซองเดิมพร้อมสูจิบัตรเดิมจากวัดไม่เคยแกะออกมาเลย พิมพ์และโค๊ดคมชัดลึก เก่าเก็บไม่ได้ใช้ พุทธคุณเมตตา คลาดแคล้ว และศิริมงคลดีนักแล รับประกันความสวย คราบเบ้าเขม่าไฟเดิมๆ ได้ไปไม่สวยส่งคืนได้เลยครับผม แบ่งให้บูชา 550 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณเด็กบางบัว จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2022
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2433.หายากสร้างน้อยประวัติชัดเจน(๑)
    ล็อกเก็ตรุ่นแรก หลวงปู่เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง

    yyg3-jpg.jpg

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    yyg2-jpg.jpg
    ล็อกเก็ต รุ่นแรก หลวงปู่เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง อ.บ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 สร้างพร้อมล็อกเก็ตจัมโบ้รุ่นแรก สร้างน้อยเพียง 2000 องค์
    *** ล็อกเก็ตรุ่นนี้ผ่านการแผ่เมตตาจิตจาก หลวงปู่เพียร แล้วจริงๆไม่ได้ทำขึ้นมาลอย ซึ่งข้อมูลนี้ลึกๆแล้วศิษย์สายวัดบ้านตาดรู้กันดี ต่างหาเก็บกันเงียบเลย ***

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้า : เป็นล็อกเก็ตหินอ่อนรูปเหมือนหลวงปู่ สีซีเปีย
    ด้านหลัง : ประกบด้วยแบบพิมพ์ด้านหลังเหรียญรุ่นแรก ปี2545 เนื้อทองแดง
    ภายใน : บรรจุของมงคล คือ เกศา, จีวร และผงพุทธคุณ


    ประวัติโดยย่อ หลวงปู่เพียร วิริโย
    อายุ 83 ปี 61 พรรษา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2469 ที่บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ จ.ยโสธร บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดป่าศรีฐาน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2490

    เมื่ออายุครบ 22 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ที่วัดเดียวกัน มีพระครูวิศาล ศีลคุณ เป็นอุปัชฌา หลังศึกษาพระธรรมมาระยะหนึ่ง ได้ออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ จนมาพบกับหลวงตาบัว ที่วัดป่าหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และได้ปรนนิบัติ อ.มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐาน

    ครูบาอาจารย์ที่ท่านได้อบรมข้อธรรม อาทิ
    - หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
    - หลวงปู่ขาว อนาลโย
    - หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
    - หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
    - หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
    - หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    - หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น


    หลวงปู่เพียร เริ่มมีอาการอาพาธ เมื่อปี 2546 จนกระทั่งปี 2548 ได้รับการตรวจรักษา ที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอด และโรคหัวใจ และมาในปี 2552 ได้รับการตรวจรักษาบ่อยขึ้น
    ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา ลูกศิษย์นำหลวงปู่เพียร ส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และได้ส่งต่อไปที่ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น กระทั่งเวลา 01.28 น. วันที่ 23 มิถุนายน หวงปู่เพียร ได้มรณภาพไปด้วยอาการสงบ

    ขอขอบคุณประวัติโดยละเอียดจาก
    - http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-pien-hist-01.htm



    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์ ไม่แตกไม่ร้าว มีคราบกาวเปื้อนบางเล็กๆน้อย หายากสร้างน้อย แบ่งให้บูชา 800 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2434.แบบลองพิมพ์สร้างน้อย พระขุนแผนพรายกุมาร สายกรรมฐาน(๓)
    ลป.หา,ลป.แปลง,ลป.สวาท,ลป.บุญส่ง,ลพ.เยื้อน,ลป.บุญมา ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    HIXDSb.jpg

    hpq1x0-jpg-jpg-jpg.jpg
    hpqgui-jpg-jpg-jpg.jpg
    hpqimp-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระขุนแผนพรายกุมาร ปางเพชรกลับ (กลับร้ายกลายเป็นดี) หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร( พระวิมลศีลจาร ) วัดบรมนิวาส กทม. ดำเนินการจัดสร้างเมื่ออปี พ.ศ.2562 เพื่อเป็นที่ระลึกเรื่องในโกาสเจริญอายุวัฒนมงคล 79 ปี *** ในชุดจะมี 2รายการ รพะขุนแผน+รูปมหายันต์ของหลวงพ่ออำนวย ***

    พระขุนแผนลองพิมพ์ ( องค์สีดำ )
    เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผสมผงโสฬสมหาพรหมหลวงตาบุญหนา และผงกะลาตาเดียว (โรยชิ้นส่วนวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม) จำนวนการสร้างเพียง 509องค์


    หมายุ::มวลสารหลักส่วนใหญ่ได้รับเมตตาจาก อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์

    จำนวนการสร้าง
    1.พระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม(ของอ.ชินพร ผงพรายล้วน) สร้าง 5 องค์(สีเทา)
    2.พระขุนแผนลองพิมพ์ เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ และผงกะลาตาเดียว สร้าง 79 องค์(สีขาวฝังตะกรุดหลวงปู่หา สุภโร)
    3.พระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อสาคร ผสมว่านดอกทองครกแรก สร้าง 169 องค์(สีชมพู)
    4.พระขุนแผนเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และหลวงพ่อสาคร ผสมว่านดอกทองครกแรก สร้าง 1,250 องค์(สีชมพู ปัดทอง)(ฝังเม็ดผงพรายล้วน)
    5.พระขุนแผนลองพิมพ์ เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผสมผงโสฬสมหาพรหมหลวงตาบุญหนา และผงกะลาตาเดียว สร้าง 509 องค์(สีดำ)(โรยชิ้นส่วนวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม)
    6.พระขุนแผนลองพิมพ์ เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ สร้าง 509 องค์(สีขาว)(ฝังเม็ดผงพรายล้วน)
    7.พระสีวลีเนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และพระลงกรุแตกหัก หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ และผงกะลาตาเดียว สร้าง 3,000 องค์(สีขาว ปัดทอง)


    พิธีอธิษฐานจิตแผ่เมตตา
    โดยพ่อแม่ครูบาอาจารย์จำนวนหลายรูป ณ ศูนย์อบรมภาวนาสิริจันโท วัดบรมนิวาส กทม.
    ◦ หลวงปู่หา สุภโร(พระญาณวิสาลเถร) วัดสักกะวัน(ภูกุ้มข้าว) จ.กาฬสินธุ์
    ◦ หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    ◦ หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ◦ หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนมประชาคม ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ◦ หลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย(พระเทพมงคลญาณ) วัดพุทธบูชา กรุงเทพฯ
    ◦ พระราชสุเมธี (หลวงพ่อเหลี่ยม สุจินโน) วัดภูตูมวนาราม จ เลย
    ◦ หลวงพ่อสวาท ปัญญาธโร วัดป่าโป่งจันทร์ จันทบุรี
    ◦ หลวงปู่ดำ สีลคุโณ วัดป่ามณีศรีโคตมวงศ์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
    ◦ หลวงพ่อสุวัฒน์ คัมภีรปัญโญ วัดถ้ำเขาปรางค์ ลพบุรี
    ◦ หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ วัดป่าวุฒฑาราม หนองบัวลำภู
    ◦ หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    ◦ หลวงพ่อดาด สิริปุญโญ วัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
    ◦ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย(พระครูเกษมวรกิจ) วัดถ้ำผาจม เชียงราย
    ◦ หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา อ.เขาสมิง จ.ตราด
    ◦ หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
    ◦ หลวงพ่อไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    ◦ หลวงตาเลื่อน โอภาโส วัดพระธาตุฝุ่น อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ◦ หลวงพ่อหนูพิณ ฐานุตฺตโม วัดป่าโนนศรีทอง ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
    ◦ พระอาจารย์สุชิน ปริปุณโณ วัดธรรมสถิต จ.ระยอง
    ◦ พระอาจารย์จิรวัฒน์ อัตตรักโข วัดป่าไชยชุมพล อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
    ◦ พระวิชัยมุนี (พระอาจารย์ไพฑูรย์ เมตตจิตโต) วัดสำราญนิเวศ ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ.
    ◦ หลวงพ่อรุ้ง รุจฺจโน วัดหนองบำหรุ จ.อุทัยธานี
    ◦ หลวงพ่อสังวาล วัดป่าประดู่ จ.นครราชสีมา
    ◦ พระบูรพาคณาจารย์(หลวงพ่อน้อม) วัดบ้านโง้ง จ.ปราจีนบุรี
    ◦ พระราชวิสุทธิมุนี (เยื้อน ขนฺติพโล) วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์
    ◦ พระราชวิสุทธิญาณ (ฤทธิรงค์ ญาณวโร) วัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่
    ◦ พระอาจารย์สมคิด ญาณทีโป วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    ◦ พระประชาธรรมนาถ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร) วัดสมานวราราม จ.ฉะเชิงเทราและพระติดตามรวมประมาณ 19รูป


    ประวัติ หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส
    หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร มีนามเดิมว่า อำนวย รตนเพชรมณี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2483 ที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 12 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเตี่ยอู๋ และนางเงียบ รตนเพชรมณี ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา

    จนกระทั่งอายุ 26 ปี เดินทางกลับมาบ้านเกิด และได้ทดแทนพระคุณบุพการีด้วยการเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2509 ณ พัทธสีมาวัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระวรพรตปัญญาจารย์ (หลวงปู่เฮี้ยง) วัดป่าอรัญญิกาวาส อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ , พระสมุห์เอี่ยม สุสังวโร วัดสมานรัตนาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดผิน สุทธาภิมุข วัดสมานรัตนาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบทมุ่งศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งนักธรรมและบาลีอย่างจริงจัง แม้สภาพความเป็นอยู่ในขณะนั้นจะไม่เอื้ออำนวยต่อการศึกษาเท่าใดนัก แต่อาศัยความมุมานะท่องหนังสืออ่านตำราอย่างขะมักเขม้น

    พระวิมลศีลาจาร เล่าถึงประสบการณ์ในการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานว่า ได้เริ่มศึกษาการปฏิบัติกัมมัฏฐานจากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา, หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เป็นต้น

    "เวลาอาตมาเกิดปัญหาข้อติดขัดในการปฏิบัติกัมมัฏฐาน อาตมาจะได้เข้าไปกราบขอคำชี้แนะจากครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่าน ซึ่งท่านล้วนมีเมตตาถ่ายทอดประสบการณ์และชี้แนะหลักคำสอนอันทรงคุณค่าให้อาตมาได้ลองกลับไปทบทวนฝึกปฏิบัติ ได้ปฏิบัติเดินจงกรม ฝึกภาวนา พิจารณากัมมัฏฐานตามที่พระอาจารย์บอก เกิดความรู้สึกปีติยินดียิ่ง"
    พระวิมลศีลาจาร แนะนำการนั่งสมาธิภาวนาว่า "ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นแต่อย่างใด อยู่ที่ตัวเราและจิตเป็นสำคัญ กำหนดจิต กำหนดลมหายใจ ให้จิตใจอยู่กับเรา อย่าไปคิดถึงเรื่องอื่น ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อเรามานั่งปฏิบัติแสวงหาความสงบในจิตใจ หน้าที่การงานหรือภาระทุกสิ่งให้ทิ้งไปให้หมด"

    พระวิมลศีลาจาร ยังได้ชี้แนะว่า "การควบคุมอารมณ์ของจิตเป็นเรื่องยาก ในขณะนั่งสงบอยู่เพียงพักเดียวจะมีสิ่งที่จูงใจดึงจิตเราเตลิดไปตลอด ให้เราปล่อยวาง อย่าไปสนใจ ละวางกิเลส ให้จิตอยู่ที่พุทโธ รู้แล้วละ รู้แล้วปล่อย รู้แล้ววาง รู้อย่างมีสติ รู้ด้วยตัวของมันเอง"

    ทุกวันนี้ "พระวิมลศีลาจาร" หรือ "หลวงพ่ออำนวย ภูริสุนทโร" ยังคงดูแล "ศูนย์อบรมภาวนาสิริจันโท" อย่างต่อเนื่อง มีศิษยานุศิษย์ตลอดจนผู้ที่อยากปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานแวะเวียนไปขอคำแนะนำไม่ขาดสาย เป็นสายธารวิปัสสนาธุระใจกลางกรุงอีกแห่งหนึ่ง !!


    สภาพสวยเดิมพร้อมภาพถ่ายซองเดิมๆ ไม่เคยผ่านการบูชา ของดีราคาเบา พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 270 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2435.พลังแห่งพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่(๑) พระรอดชัยฤทธิ์
    พิธีใหญ่มหามงคล พระสังฆราช,ลป.ฝั้น,ลป.โต๊ะ,ลพ.ฤาษีลิงดำ ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    hwtggy4dhz3piutnepod-jpg-jpg.jpg

    b8nszn-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    b8nypv-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    b8nn9s-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    b8nbbn-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    6dfd-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระรอดชัยฤทธิ์ วัดบุพพาราม จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อดินผสมชิ้นส่วนชำรุด ของพระรอด กรุวัดมหาวันกรุเก่า, พระคง, พระเปิม,พระเลี่ยง พระซาว, พระสิบสอง ซึ่งเป็นพระกรุอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวล้านนา หลังกดโค้ดยันต์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 เนื่องด้วยทางวัดมีความต้องการจัดหาทุนในการจัดสร้างหอมณเฑียรธรรม และประจวบกับ

    วาระมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 49พรรษา ในปี 2519 ทางวัดบุพผารามจึงได้จัดสร้างพระพุทธบุพพาภิมงคล เพื่อเป็นที่่ระลึกแก่พระองค์ท่าน ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงเสด็จเททองหล่อพระพุทธบุพพาภิมงคล ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่ และทางวัดได้จัดให้มีพิธีมหาพุทธถิเษกอย่างยิ่งใหญ่ โดยพระราชาคณะและพระคณาจารย์ดังแห่งยุค

    **** พระรอดชัยฤทธิ์ พระรอดหนึ่งเดียวที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จ ทำพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษกด้วยพระองค์เอง มีพลังแห่งพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ****



    พิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันที่ 13 พค 2519 (วันวิสาขบูชา) ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททอง ในหลวงทรงจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่

    รายชื่อพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก 49 องค์
    1.สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธฯ
    2.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศฯ
    3.สมเด็จพระธีรญาณ วัดจักวรรดิ์ฯ
    4.พระวิสุทธิวงศ์ศาจารย์ วัดสุทัศน์ฯ
    5.พระวิสุทธาธิบดี วัดไตรมิตรฯ
    6.พระธรรมวโรดม วัดปทุมคงคา
    7.พระพุทธวงศ์มุนี วัดเบญจมบพิตร
    8.พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
    9.พระเทพวิสุทธิโสภณ เชียงราย
    10.พระเทพวิสุทธี วัดเจดีย์หลวง
    11.ครูบาคำแสน อินทจักโก วัดสวนดอก
    12.ครูบาคำแสน คุณารังกาโร วัดป่าดอนมูล
    13.ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
    14.ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    15.หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาบ่อง
    16.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง
    17.ครูบาอินถา วัดเชียงมั่น
    18.ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง
    19.พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม
    20.ครูบาบุญมี วัดท่าสต๋อย
    21.ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง
    22.ครูบาปั๋น วัดกู่คำ
    23.ครูบาแก้ว วัดวิเวกวนาราม
    24.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    25.ครูบาจินะ วัดท่าข้าม
    26.ครูบาคำตัน วัดดอนจืน
    27.พระอาจารย์ทองบัว วัดโรงธรรม
    28.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    29.พระประสาท วัดจามเทวี
    30.พระราชสุมนต์มุนี วัดราชบพิธฯ
    31.ครูบาชุ่ม วัดวังมุย
    32.พระญาณวีราคม วัดดอนเจดีย์
    33.ครูบาเมือง วัดท่าแหน
    34.ครูบาคำแสน วัดท่าแหน
    35.พระอินทวิชยาจารย์ วัดคะตึก
    36.ครูบาอินโต วัดบุญยืน
    67.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    38.ครูบาหล้า วัดดอยคู่ค้าง
    39.พระราชรัตนมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง
    40.พระชยานันทมุนี วัดพญาภู
    41.พระญาณมงคล วัดมหาวัน
    42.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    43.หลวงพ่อนอ วัดกลาง
    44.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
    45.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุรามณี
    46.หลวงพ่อถีร วัดป่าเรไลย์
    47.หลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง
    48.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    49.พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา

    ผ่านพิธีสวดอุปสานติ :
    - เป็นพิธีเพื่อสงบเคราะห์กรรม เพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน เสริมบารมีแก่ผู้อาราธนาแขวน นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน

    ข้อมูลข่าววัดบุพผาราม
    - https://www.thairath.co.th/content/937420


    สภาพสวยเดิมๆมีกดไม่ติดไม่เต็มบ้าง เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ **** พระรอดชัยฤทธิ์ พระรอดหนึ่งเดียวที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จ ทำพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษกด้วยพระองค์เอง มีพลังของพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ **** นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน แบ่งให้บูชา 380 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณshaj จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2022
  16. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,961
    ค่าพลัง:
    +6,556
    ขอจองครับ
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112



    $$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$$






    2436.
    สุดยอดมหาลาภโชคลาภมหาอุตม์
    เหรียญพระโพธิสัตว์มหาลาภ
    ลป.โต๊ะ,ลพ.นำ,ลพ.เงิน,ลพ.คง,ลพ.ปาล,ท่านขุนพัน,อ.ชุม ร่วมประจุมหาพลัง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    เหรียญพระโพธิสัตว์มหาลาภ (พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตร) หลังพระสีวลี ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ประกอบพิธีที่ วัดชำนิหัตถการ กรุงเทพฯ เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้า รูปพระโพธิ์สัตว์ศรีอริยเมตไตร
    ด้านหลังรูปพระสิวลี มหาเถระ
    ขนาด 1.7 X 3.2 c.m.

    พิธีพุทธาภิเษก
    เมื่อวันที่ 25-28 ก.พ. พ.ศ. 2515 ณ. วัดชำนิหัตถการ กรุงเทพฯ โดยพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณทางลาภหลายองค์ รวมถึงพระคณาจารย์เจ้าผู้ทรงคุณในภาคใต้ ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ อาทิ
    - สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส กรุณาเป็นประธานจุดเทียนชัย
    - เจ้าคุณสังวรวิมลเถร (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)
    - เจ้าคุณพุทธมนต์วราจารย์ (หลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์)
    - พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม )
    - พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    - หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง,
    - พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ,
    - หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง
    - ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช
    - อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุง
    - พระครูวิจิตรสารโสภณ เจ้าอาวาสวัดชำนิหัตถการ อุปถัมภ์พิธี


    รุ่นนี้ลูกศิษย์จะรู้จักกันในนาม "เหรียญเต่ามหาลาภ"

    มีผลดีในทางลาภผล พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตร จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต และออกเผยแพร่ธรรมะ ถัดจากองค์พระสมณโคดม องค์ปัจจุบัน พระสีวลีมหาเถระ พุทธสาวก ได้รับยกย่องในทางผู้มีลาภมาก ด้วยอำนาจผลบุญของพระสีวลีที่ได้สั่งสมมาตั้งแต่ชาติก่อน เป็นปัจจัยส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ โดยมีเทพยดานาค ครุฑ มนุษย์ นำมาถวายอย่างไม่ขาดตกบกพร่องไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ด้วยเหตุ นี้พระสีวลีจึงได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านลาภสักการะ เป็นหนึ่งในมหาสาวก ซึ่งได้ช่วยแบ่งเบาภาระพระศาสดาและได้ช่วยงานพระศาสนาเป็นอย่างมาก



    สภาพสวยเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 500 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • VWgdbZ.jpg
      VWgdbZ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      325.8 KB
      เปิดดู:
      229
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2023
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2437.สวยคราบแป้งลองพิมพ์เดิมๆ พระผงสามสมัย ครูบาธรรมชัย
    ลูกศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย พระอัครสาวกของพระศรีอาริย์ ในกาลข้างหน้า

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    VWOOUy.jpg

    พระผงสามสมัย ครูบาธรรมชัย ธรรมชัยโย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่ เนื้อผงพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522

    ประวัติครูบาธรรมชัย โดยย่อ

    ครูบาธรรมชัย นามเดิมว่า กองแก้ว เมืองศักดิ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2457 ตรงกับเดือน 9 เหนือ ขึ้น 14 ค่ำ ปีขาลฉะศก ทางเหนือเรียกว่า ปีกาบยี่ รศ.133 จุลศักราช 1276 ถือกำเนิดที่หมู่บ้านสันป่าสัก หมู่ที่ 6 ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของนายสุจา หรือหนามพรหมเสน มารดาชื่อนางคำป้อ บิดามารดามีอาชีพแพทย์แผนโบราณและช่างไม้ ทำสวน ทำนา มีพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกัน 7 คน ท่านเคารพบูชาในบิดา มารดามาก เชื่อฟังคำสั่งสอนอยู่ในโอวาทของผู้บังเกิดเกล้าอย่างเคร่งครัด ท่านเป็นผู้มีนิสัยพูดจริง ทำจริง ไม่เหลาะแหละเหลวไหล สนใจในธรรมะ ชอบเข้าวัดเข้าวามาตั้งแต่เล็ก ๆ เพราะบิดาเคยบวชเรียนมาแล้วรอบรู้ในอรรถในธรรม จึงได้อบรมปลูกนิสัยลูกทุก ๆ คนให้ยึดมั่นในพระรัตนตรัย

    ท่านได้เข้ารับการศึกษาจากโรงเรียนประชาบาล ณ บ้านสันป่าสักจบชั้นประถมปีที่ ๓ มีความประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนกิริยามารยาทเรียบร้อยมีความอุตสาหพยายามเป็นผู้มีความเสียสละกตัญญูกตเวทีตาต่อบุพการี
    สามเณรกองแก้ว

    เมื่อท่านเรียนจบชั้นประถม 3 อายุได้ 15 ปี ครูบาธรรมชัย ได้เข้าอบรมเป็นศิษย์วัดสันป่าสักอยู่ 3 เดือน หัดท่องเรียนเขียนอ่านตัวอักขระพื้นเมืองเหนือและเรียนสวดมนต์สิกขาสามเณร โดยมีพระบิดา และพระอินหวันเป็นผู้สอน เมื่อท่องเรียนเขียนอ่านได้คล่องแล้ว จึงได้บวชเป็นสามเณรในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2471 เดือน 6 เหนือ ขึ้น 6 ค่ำ ปีมะโรงสัมฤทธิศก ทางเหนือเรียกว่าปีเบิกสี เจ้าอธิการคำมูล ธัมวงฺโส วัดแม่สารบ้านตอง เป็นอุปัชฌาย์
    เป็นสามเณรอยู่ได้ 1 พรรษา มีความสนใจในสมถกรรมฐานมาก ไม่ว่าจะทำงานอะไรอยู่ที่ไหน จิตใจคอยครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องการธุดงค์ของพระสงฆ์องค์เจ้า รุ่นครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่บวชเรียนแล้วนิยมพากันเข้าป่าบำเพ็ญเพียรภาวนา แสวงหาธรรมวิเศษ เราเป็นสามเณรน้อยก็ได้ชื่อว่าบวชเรียนเข้ามาอาศัยในพระศาสนา ควรจะออกเดินทางเข้าป่าดูบ้างเพื่อแสวงหาพระธรรมอันวิเศษ

    หลังจากครุ่นคิดไตร่ตรองอยู่หลายวัน ท่านจึงได้เข้าไปกราบลาสมภารเจ้าวัดว่า ขอลาเข้าไปบำเพ็ญกรรมฐานในป่าสักหนึ่งพรรษา สมภารเจ้าวัดตกใจ เพราะยังเห็นว่าเป็นสามเณรอ่อนพรรษา ไม่ประสีประสาในเรื่องอรรถธรรมตลอดจนวัตรปฏิบัติของพระธุดงค์ดีพอ ขืนเข้าไปอยู่ป่าอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้โดยง่าย จึงได้ห้ามปราบไว้ แต่ครูบาธรรมชัย หรือสามเณรกองแก้วในสมัยนั้น ก็ยืนกรานที่จะเดินธุดงค์เข้าป่า ไปกระทำความเพียรแต่เพียงผู้เดียวให้จงได้ สมภารเจ้าวัดอ่อนอกอ่อนใจเลยอนุญาตให้ไปได้ตามปรารถนาไม่อย่างชัดศรัทธาให้เป็นบาป และยังได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติกรรมฐานในป่าให้หลายอย่างด้วยความเมตตาเอ็นดู

    ธุดงค์โดดเดี่ยว
    เมื่อกราบลาสมภารเจ้าวัดแล้ว สามเณรกองแก้วก็ออกจากวัดไป มีบริขารเท่าที่จำเป็น ตามถ้ำ ตามเพิงผา ไม่จำเป็นต้องใช้กลดใช้มุ้งให้ยุ่งยาก ถ้ายุงจะกัด ทากจะดูดกินเลือดก็ให้มันกินเลือดตามต้องการ ไม่อาลัยใยดีในสังขาร แต่สำหรับบาตรนั้นจำเป็นต้องมีเพื่อใช้ในการออกบิณฑบาต หาปัจจัยมาหล่อเลี้ยงสังขารตามความจำเป็น เมื่อเดินทางไปถึงป่าห้วยดิบแต่ลำพังผู้เดียว ได้พบชาวบ้านวัยกลางคนผู้หนึ่งออกมาจากป่า ชายผู้นั้นแสดงความตกใจ เมื่อรู้ว่าสามเณรองค์น้อยจะเข้าป่าไปบำเพ็ญเพียรภาวนา เขาได้กล่าวเตือนอย่างหวาดกลัวว่า เวลานั้นมีเสือเย็นหรือเสือสมิงตัวหนึ่งกำลังออกอาละวาดหากินอยู่ในป่า เสือดุร้ายตัวนี้โตใหญ่เกือบเท่าควายหนุ่ม เป็นเสืออาคม คือ มีตุ๊เจ้าหรือพระองค์หนึ่งแก่กล้าวิชาไสยศาสตร์ เกิดร้อนวิชามีอาเพศให้เป็นไปด้วยบาปกรรม ชอบแปลงร่างเป็นเสือตัวใหญ่ลักเอาวัวควายชาวบ้านไปกินบ่อย ๆ นานวันเข้าถึงกับคาบเอาคนไปกิน มีชาวบ้านที่ออกป่าไปเก็บฟืนและสมุนไพรในป่าแล้วถูกเสืออาคมตัวนี้คาบไปกินหลายรายแล้ว ขอให้สามเณรรีบกลับวัดเสียเถิด ขืนเข้าไปอยู่ในป่ามีหวังเจอเสือเย็นตัวนี้แน่

    สามเณรไม่กลัวเสือ บอกว่าอันคนเรานี้ ไม่ว่าจะยากดีมีจน เมื่อเกิดมาก็ดิ้นรนกันไปต่าง ๆ นานา แล้วในที่สุด ก็สิ้นสุดปลายทางที่ความตายเหมือนกันหมด ไม่มีใครที่จะหลีกหนีความตายไปได้พ้น เราเกิดมาในชาตินี้ ได้บวชเรียนในพระศาสนา ถือได้ว่าเป็นบุญกุศลใหญ่ จะต้องปฏิบัติกิจพระศาสนาด้วยการลงมือปฏิบัติธรรมให้รู้แจ้งเห็นจริง ด้วยการเข้าไปปฏิบัติกรรมฐานในป่า ขออุทิศชีวิตให้กับป่าดงพงพี เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายอันพึงจะมี มิได้อาลัยเสียดายต่อชีวิต ถ้าจะตายก็ขอให้มันตายไปเถิด ขอให้ปฏิบัติธรรมบำเพ็ญเพียงสร้างสมบารมีเป็นพอ ชีวิตคนเรานี้สั้นนัก วันตายจะมาถึงเมื่อไรไม่มีใครรู้ ดังนั้นจึงอยากจะเร่งรีบสร้างความดีด้วยการปฏิบัติธรรมเพราะการรีรอผัดวันประกันพรุ่งย่อมถือได้ว่า เป็นผู้อยู่ในความประมาท ปัจฉิมโอวาทหรือพระวาจาครั้งสุดท้ายของพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ทรงรวบรวมซึ่งโอวาททั้งปวงที่ได้ประทานไว้ตลอด 45 พรรษา ลงในจุดใหญ่ใจความคือ ความไม่ประมาท อันเดียวเท่านั้นพระพุทธองค์ตรัสว่า

    "ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราผู้ตถาคตเตือนท่านทั้งหลายให้รู้ สังขารมีความเสื่อมความฉิบหายไปเป็นธรรมดา"

    "ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ตนและผู้อื่นให้สมบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"ชายชาวบ้านได้สดับตรับฟังถ้อยวาจาของสามเณรกองแก้วดั่งนี้ ก็ยกมือโมทนาสาธุให้กับความตั้งใจอันอาจหาญเด็ดเดี่ยวของสามเณร และกล่าวสรรเสริญว่า สามเณรแม้จะอายุยังน้อยแต่มีจิตเคารพศรัทธาเลื่อมใสในหลักธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างไม่มีวิจิกิจฉา คือไม่มีความสงสัยในพระรัตนตรัยสามเณรเป็นผู้เจริญโดยแท้ เป็นนักบุญที่มนุษย์และเทวดาจะพึงสรรเสริญ กล่าวแล้วชายชาวบ้านป่าก็กราบลาไป

    ป่าห้วยดิบ
    สามเณรกองแก้วได้ธุดงค์เข้าไปในป่าห้วยดิบด้วยจิตตั่งมั่นไม่หวั่นไหว ป่าใหญ่แห่งนี้ชุกชุมด้วยสัตว์ร้ายอาศัยหากิน เช่น เสือ ช้าง หมี งู กระทิง เป็นต้น สามเณรเลือกได้ทำเลเหมาะสมใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นเป็นที่พักอาศัยสำหรับนั่งบำเพ็ญสมาธิและเดินจงกรม ธรรมชาติของป่าอันสงัดเงียบวังเวงใจ ทำให้อารมณ์ความรู้สึกเบาสบายถูกกับนิสัยรักสงบของท่านมาก ความรู้สึกหวาดกลัวภัยอันตรายในป่าไม่มีเลย เพราะได้ตั้งจิตที่จะอุทิศตนต่อการปฏิบัติกรรมฐานอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะเสียชีวิตก็ไม่อาลัยเสียดาย เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าตนเองมีศรัทธาในธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างเด็ดขาด ไม่สงสัยหวั่นไหว เมื่อไม่หวั่นไหวมีใจตั้งมั่นในการปฏิบัติจนถึงที่สุดจักต้องพบธรรมวิเศษ อันเป็นพระธรรมที่พ้นจากโลก อยู่เหนือโลกและไม่ถูกจำกัดด้วยกาลเวลาอย่างแน่นอน คืนแรกในป่าห้วยดิบ

    สามเณรนั่งสมถภาวนาอยู่จนค่อนคืนจิตตั้งมั่นในสมาธิยังไม่เป็นที่พอใจ เพราะยังมีถีนะมิทธะความง่วงเหงาหาวนอนบ้าง ความคิดฟุ้งซ่านของอารมณ์บ้าง (อุทธัจจะกุกกุจจะ) ซึ่งเป็นสิ่งกั้นความดีมิให้เกิดที่เรียกว่า นิวรณ์คอยรบกวนจิตไม่ให้รวมตัวสงบได้ ทำให้ได้ความรู้ว่า ความตั้งใจของคนเรานี้ พอทำเข้าจริง ๆ มันไม่ค่อยจะได้ผลดังใจเลย ต้องมีอุปสรรคขัดขวางเป็นธรรมดา จิตคนเรานี่มันเหมือนลิงหลุกหลิกยิ่งพยายามจะบังคับให้อยู่นิ่ง ๆ ยิ่งหลุกหลิกไปกันใหญ่ ทำให้รู้สึกนึกขำ และตั้งใจว่าจะต้องเพ่งเพียรเอาชนะจิต บังคับมันให้สงบอยู่ในอำนาจของตนให้จงได้ หลังจากเดินจงกรมแล้วก็นั่งหลับในงีบหนึ่งก็พอดีสว่าง ตลอดคืนไม่มีสัตว์ป่าเข้ามาแผ้วพานรบกวนเลย ลงไปอาบน้ำเย็นเฉียบชำระกายในห้วย แล้วจึงออกไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ได้อาหารพอสมควรตามศรัทธาของชาวบ้าน นำมาขบฉันในป่าแต่พออิ่ม เพื่อยังชีพ ไม่พยายามติดใจในรสชาติเอร็ดอร่อยของอาหาร เห็นว่าอาหารเป็นสิ่งปฏิกูลที่จำใจต้องขบฉันเข้าไปก็เพื่อให้สังขารร่างกายพอดำรงอยู่ได้เท่านั้น เพื่อที่จะมีแรงบำเพ็ญสมณธรรมต่อไป ขณะที่นั่งขบฉันอาหารในบาตรอยู่ใต้ต้นไม้นั้น สังเกตเห็นว่า ตรงที่นั่งอยู่มีรอยบุ๋มกดลงไปในดิน เมื่อเพ่งดูก็รู้ว่าเป็นรอยตีนเสือขนาดใหญ่เท่าจานข้าว รู้สึกแปลกใจจึงลุกขึ้นเดินสำรวจดูก็ได้พบอีกว่า มีรอยเสือใหญ่อยู่ทั่วบริเวณนั้น เป็นรอยใหม่ ๆ แสดงว่า เสือตัวนี้มันมาเดินวนเวียนอยู่โคนต้นไม้ตอนที่สามเณรเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน

    พอรู้ว่าเสือขนาดใหญ่มาปรากฏในบริเวณที่นั่งสมาธิบำเพ็ญบารมี พลันมีอาการขนลุกซู่ไปทั้งตัว จิตใจหวั่นไหวรู้สึกกลัวจนตัวสั่นขาดสติไปชั่วขณะ แต่แล้วก็ตั้งสติได้ และนึกขำตัวเองทีแรกบอกว่าไม่กลัวอะไร พร้อมแล้วที่จะยอมตายในป่า แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เห็นแค่รอยเสือก็ตกใจกลัวขาดสติเสียแล้ว นี่แสดงอีกว่า จิตคนเรานี้มันชอบหลอกหลอนตัวเราเอง เหมือนลิงหลอกเจ้าจริง ๆ เมื่อรู้แน่ว่า เสือมาเยี่ยมจริง ๆ ไม่ได้ตาฝาดหรือฝันไป สามเณรก็พยายามสงบใจลงนั่งที่โคนต้นไม้ใหญ่ ดำรงสติให้ตั้งมั่นรำพึงถึง "สติปัฎฐาน 4" อันเป็นหลักสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่าภิกษุในพระธรรมวินัยไปอยู่ในป่าหรือว่าอยู่ที่โคนต้นไม้ หรือ ไปอยู่ที่ว่างบ้านเรือนสกปรกโสโครกทั้งข้างนอกข้างใน ชวนให้อาเจียนเหียนรากแท้ ๆ เราเบื่อหน่ายในร่างกายเราปรารถนาจะทำจิตให้สะอาดบริสุทธิ์ตัดขาดจากกิเลส ถ้าเราตัดขาดจากกองกิเลสตัณหาคือร่างกายสังขารนี้ได้แล้ว เราก็จะไปอยู่แดนนิพพานซึ่งเป็นแดนสุขอย่างยิ่ง สามเณรกองแก้วเล่าว่า ท่านได้พิจารณาอย่างนี้ไปตามความรู้ความเข้าใจของสามเณรวัยเยาว์ที่ยังอ่อนต่อการศึกษาในหลักพระธรรม พิจารณาไปตามที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนจะผิดจะถูกอย่างไรไม่คิดถึง คิดอย่างเดียวว่าครูบาอาจารย์สอนมานี้เป็นของจริงแท้ เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าแน่ เมื่อพิจารณาอย่างนี้กลับไปกลับมาเป็นเวลานานพอสมควร ปรากฏอัศจรรย์ว่า จิตรวมตัวเข้าสู่ความสงบอย่างไม่รู้ตัวเป็นสมาธิในเอกจิต ลืมเรื่องเสือ ลืมทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตและปัจจุบันหมดสิ้น แต่มีสติรู้ตัวว่า มีอารมณ์โพรงสว่างไสวสภาพจิตมีความเยือกเย็นแช่มชื่นอย่างพรรณนาไม่ถูก


    #เรื่องเล่าจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    “..หลวงปู่พระครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านมรภาพเมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ก่อนหน้านี้มีคนแจ้งข่าวให้อาตมาทราบว่า หลวงปู่ธรรมชัยท่านไม่สบายมาก เข้าโรงพยาบาล อาตมาฟังแล้วก็คิดในใจว่าวันนี้ตรงกับวัน ๑๒ ค่ำ ตามตำราโบราณถ้าป่วยวันนี้มันหายยาก หลังจากนั้นถัดไปอีก ๑ วัน จากวันที่ได้รับข่าวว่าท่านมรภาพแล้ว ก็คิดว่าเคยทำงานคู่กันในด้านสาธารณประโยชน์เหมือนกันแต่คนละด้าน ท่านไปแล้วก็เหลือแต่เรา จึงคุมกำลังใจตนเอง นอนภาวนาบ้างพิจารณาบ้าง พอจิตรวมตัว จิตรวมตัวนี่ไม่ต้องบงคับ พอจิตทรงตัวดีก็ไปหาพระ พอไปถึงก็กราบพระ ถ้าจิตมีกำลังอย่างนี้ตายเมื่อไรก็มาที่นี่

    นึกถึงหลวงปู่ธรรมชัยขึ้นมาได้ จึงกราบเรียนถามพระท่านว่า “เวลานี้หลวงปู่ธรรมชัยอยู่ไหน” ท่านก็ตอบว่า "หลวงปู่ธรรมชัยอยู่ชั้นดุสิต" ก็ตกใจเพราะว่าหลวงปู่ธรรมชัยเดิมท่านเป็นพุทธภูมิ ต่อมาก็ลาพุทธภูมิต้องการเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์ ท่านเคยบอกว่า

    "ขอเกิดอีกชาติ ต้องการเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์" อาตมาจึงกราบถามพระว่า "ในเมื่อหลวงปู่ธรรมชัยไม่ได้เป็นพุทธภูมิ ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าชั้นดุสิต เพราะชั้นดุสิตผู้ที่จะเข้าได้ต้องเป็นพระอริยเจ้าขั้นพระโสดาบันขึ้นไป และในเมื่อหลวงปู่ธรรมชัยปรารถนาเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์ ก็เป็นพระอริยเจ้าไม่ได้จึงไม่มีสิทธิ์เข้าชั้นดุสิต

    และอีกประการหนึ่งหลวงปู่ธรรมชัยลาจากพุทธภูมิแล้ว และไม่ใช่บิดามารดาของพระโพธิสัตว์ ทำไมเข้าชั้นดุสิตได้" พระท่านก็บอกว่า "งานของหลวงปู่ธรรมชัยเป็นงานพุทธภูมิ มีเมตตา ความรัก กรุณา ความสงสาร ไม่มีขอบเขต ใครไปก็สงสารมีเงินหรือไม่มีไม่สำคัญ ต้องการสงเคราะห์อย่างเดียว ด้านมุทิตา ท่านไม่เคยอิจฉาริษยาใคร ใครได้ดีพลอยยินดีด้วย อุเบกขา วางเฉย คนที่ไม่ชอบใจเขาก็ว่าท่าน เขานินทาท่าน ท่านก็เฉย รวมความว่าท่านครบถ้วน บริบูรณ์ด้วยพรหมวิหาร ๔ ไม่มีขอบเขต อย่างนี้เขาเรียกเป็น อัปปมัญญา อัปปมัญญา นี้ไม่มีขอบเขต ถือว่างานประเภทนี้เป็นงานพุทธภูมิไม่ใช่งานสาวก และทำไมจะถือว่าเขาไม่มีสิทธิ์เข้าชั้นดุสิต"

    พอพูดจบท่านก็เรียกหลวงปู่ธรรมชัยเข้าไปนั่งคู่กับอาตมา อาตมาถามหลวงปู่ธรรมชัยว่า "หลวงปู่ออกจากร่างกายแล้ว รู้สึกเสียดายร่างกายไหม อยากกลับเข้าไปไหม" หลวงปู่ทำหน้าเบ้ปั้นไม่ถูกเลยตอบว่า "รังเกียจร่างกายจริงๆ" ถามว่า "อายุกาลมันสมควรหรือเปล่าในการตายครั้งนี้" ท่านบอกว่า "เป็นการตายที่ไม่สมควรแก่เวลาที่ควรจะตาย" พระท่านบอกว่า "สงสารเธอ กาลเวลามันเลยมาแล้ว เรื่องการก่อสร้างก็เหลือไม่มาก คนอื่นเขาทำต่อไปได้ ควรไปให้ได้มีความสุขบ้าง" หลังจากนั้นพระท่านก็เรียกพระศรีอาริยเมตไตรยขึ้นไป พอท่านขึ้นไปอาตมาก็กราบเรียนถามว่า "เวลานี้วิมานของหลวงปู่ธรรมชัยอยู่ที่ไหน" ท่านบอกว่า "เขาปรารถนาเป็นอัครสาวกของฉันก็อยู่ที่ฉัน"

    ใครฝึกมโนมยิทธิได้ก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง เวลาจะพิสูจน์ก็ต้องทิ้งความจำที่รู้มาก่อน อย่างพระท่านบอกว่า "หลวงปู่ธรรมชัยอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต" ต้องทิ้งอารมณ์นี้เสียก่อน ให้จิตมีความทรงตัวเป็นอุเบกขา อย่าให้อารมณ์เก่าที่เราได้ยินมามีในจิต จึงเริ่มภาวนา แล้วขึ้นไปหาพระแล้วก็กราบถามท่าน อย่างนี้จะไม่ผิด.."
    เรื่องที่ ๔๓ หลวงปู่ธรรมชัย มรภาพแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต

    ที่มา https://sites.google.com/site/sphrathewtheph/

    ประวัติโดยสมบูรณ์
    * http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/kb-dharma-chai/kb-dharma-chai-hist-01.htm



    สภาพสวยเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 260 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณJae จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2022
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2438.สวยกริ๊บพร้อมกล่องเดิมๆ พระพิฆเณศ
    หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน พระอริยเจ้าแห่งภูกุ้มข้าว

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    VddTqS.jpg
    พระพิฆเณศ หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน จังวหัดกาฬสินธุ์ เนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ ฝังพลอยและแร่ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2562 ดำเนินการสร้างโดย วิเชียร พรมงคล รังสรรค์ผลงาน โดย อ.อำพล เจน

    จำนวนสร้างเนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ
    1. เนื้อว่านน้ำตาล1,000องค์
    2. เนื้อว่านดำพิเศษ 500องค์

    ได้นำพระส่วนหนึ่งมาอุดพิเศษเป็นส่วนกรรมการ
    1. อุดหอยปะการังแดง เพชรตาเสือ พลอยเสก เพชรหน้าทั่ง จีวร เกศาหลวงปู่หา จำนวน 94 องค์เท่าอายุวัฒนะหลวงปู่หา สุภโร
    2. อุดปรกน้ำโขงเนื้อทองเหลือง จีวร เกศาหลวงปู่หา จำนวน 29 องค์
    3. อุดปรกน้ำโขงหน้ากากเงิน จีวร เกศาหลวงปู่หา จำนวน 9 องค์


    มวลสารประกอบด้วย
    - ผงหลวงปู่ทวดคุณสุชิน ฯ

    - ผงมหามงคลต่างๆของอ.เบิ้ม (สุวัฒน์ พบร่มเย็น)ประกอบด้วย
    ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ผงหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    ผงหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    ผงหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    ผงหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    ผงหลวงปู่เทียมวัดกษัตราธิราช
    ผงหลวงปู่ศุข วัดปากคลองฯ
    ผงหลวงพ่อเกษม วัดสุสานไตรฯ
    หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวกฯ
    ผงท่านเจ้าคุณนรฯ
    ผง อ.รอด สุขเจริญ
    ผงหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    ผงบางขุนพรหม
    ผงดินพระธาตุพนม
    ผงดินใต้ฐานพระฤๅษี คู่บ้านคู่เมือง
    ผงแร่ลาวาจากทั่วโลก
    ผงธูปพระพิฆเณศที่ศาลหลักเมืองพระประแดง
    ทรายเสก32พระอาจารย์ ฯลฯ

    - ผงพุทธคุณ108อ.อนันต์ สวัสดิ์สวนีย์ ประกอบด้วย.....
    ผงบางขุนพรหม
    ผงจิตรลดา
    ผงสมเด็จวัดระฆัง
    ผงกรุวัดสามปลื้ม
    ผงชันเพชรบุษบกพระแก้วมรกต
    ผงมงคลยิ่งของปวงชนชาวไทย
    ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ผงหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    ผงหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    ผงหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์
    ผงหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
    ผงหลวงปู่พรหมมา วัดสวนหินฯ
    ผงหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย
    ผงวัดปากน้ำรุ่น1-3
    ผงวัดเกศไชโย
    ผงและทรายเสกของครูบาอาจารย์พระสายปฏิบัติในยุคก่อนๆ ฯลฯ


    ประวัติหลวงปู่หา สุภโร
    พระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร) หรือ หลวงปู่ไดโนเสาร์ เป็นพระธรรมยุติ ซึ่งถ้าพูดภาษาโลกๆ บ้านๆ ก็ต้องว่า เป็นหลานศิษย์ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ตามประวัติที่เผยแผ่กันนั้น ก่อนบวชเดิมท่านชื่อ หา เกิดในครอบครัว ภูบุตตะ เป็นบุตรของ นายสอ และนางบัวลา ภูบุตตะ เกิดเมื่อวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู หรือวันศุกร์ที่ 2 เดือน ก.ค. ปี พ.ศ. 2468 ที่บ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีพี่น้องรวม 7 คน

    ครอบครัวของท่านมิได้เป็นคนกาฬสินธุ์โดยกำเนิด หากแต่อพยพมาจาก จ.อุบลราชธานี มาปักหลักทำไร่ทำนาจนมีฐานะ

    ตัวท่านเองนั้นในสมัยเป็นเด็กหนุ่มนอกจากจะมีความสามารถในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวได้ตามประสาลูกชาวไร่ชาวนาแล้ว ยังเป็นนักมวยอีกต่างหาก แต่ไม่อาจจะเติบโตไปตามเส้นทางนี้ได้เพราะโยมบิดาห้ามค้ากำปั้น ท่านครองชีวิตอยู่ในโลกฆราวาสได้เพียง 19 ปี ก็เกิดความเบื่อหน่าย จึงออกบวชขณะอายุ 19 ปี ที่วัดสุวรรณชัยศรี จ.กาฬสินธุ์ นั่นเอง

    ปีรุ่งขึ้นก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในยุคนั้นยังไม่มีการแยกการทำสังฆกรรมกันเด็ดขาดระหว่างคณะธรรมยุติและคณะมหานิกาย พระอุปัชฌาย์ของท่านจึงเป็นคณะมหานิกาย ขณะที่พระกรรมวาจาจารย์ พระอนุสาวนาจารย์เป็นธรรมยุติกนิกาย ต่อมาในวันที่ 21 ก.พ. 2490 ท่านได้ญัตติเป็นคณะธรรมยุติอีกครั้งหนึ่ง ที่พัทธสีมาวัดสุวรรณชัยศรี จ.กาฬสินธุ์ โดยมี พระครูประสิทธิ์สมณญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อ่อน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่สุข เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้ฉายาว่า สุภโร แปลว่า ผู้เลี้ยงง่าย

    ขณะจำพรรษาที่วัดสุวรรณชัยศรีนั้นเองท่านก็สอบได้นักธรรมตรี โท เอก จากนั้นถึงเข้า กทม.ไปพำนักที่วัดนรนาถสุนทริการามกับ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จันทปัชโชโต) ระหว่างนั้นก็ไปศึกษากรรมฐานจาก พระครูญาณวิริยะ ซึ่งปัจจุบันคือ พระธรรมมงคลญาณ หรือ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล และ พระสุทธิธรรมรังสี หรือ ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ แต่เส้นทางคู่ขนานของการศึกษาภาษาบาลีกับกรรมฐานต้องหยุดลงเมื่อโรคดีซ่านกำเริบจนท่านต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อรักษาตัว

    การเจ็บป่วยครั้งนั้นเป็นจุดหักเหที่สำคัญ เพราะขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์นานราว 3 เดือนนั้น ท่านได้ปลงใจว่า ใจใช้ชีวิตในร่มผ้ากาสาวพัสตร์จนกว่าชีวิตจะหาไม่

    หลังมาพักรักษาตัวที่ภูมิลำเนาจนหายขาดแล้ว ได้ออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ รวมทั้งไปฝากตัวศึกษาปฏิบัติในสำนักพ่อแม่ครูอาจารย์หลายรูป ซึ่งทั้งหมดก็เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อาทิ พระสุธรรมคณาจารย์ (แดง ธัมมรักขิตโต) วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ พระครูประสิทธิ์สมณญาณ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณชัยศรี หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสิปาลิวัน จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้ง หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ.ร้อยเอ็ด

    ต่อมาท่านได้รับภาระพระศาสนาทั้งด้านการบริหาร การศึกษาและการปฏิบัติ กล่าวคือเป็นพระฐานานุกรมในพระสุธรรมคณาจารย์ที่พระสมุห์หา สุภโร เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมชั้น เอก โท ตรี เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวงในคณะธรรมยุติภาคอีสาน เป็นเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ท่าคันโทกุฉินารายณ์ เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) กระทั่งอายุ 80 ปี จึงเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) สมณศักดิ์ปัจจุบันคือ พระญาณวิสาลเถร

    ก่อนจะมาตั้งวัดสักกะวัน ณ บริเวณซึ่งเรียกว่า ภูกุ้มข้าว ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ ในปัจจุบันนั้น หลวงปู่ท่านเคยตั้งวัดชื่อ “วัดป่าสักกะวัน” ที่บ้านคำคา อ.สหัสขันธ์ แต่ในปี 2501 รัฐบาลได้สร้างเขื่อนลำปาว และวัดดังกล่าวอยู่ในเขตน้ำท่วม นายอำเภอสหัสขันธ์จึงนิมนต์ท่านนั่งรถตระเวนไปเลือกพื้นที่สร้างวัดใหม่ กระทั่งมาถึงภูกุ้มข้าว ท่านจึงลงมาสำรวจและเลือกเอาบริเวณนี้เป็นที่ตั้งวัดใหม่ในนามเดิม

    เหตุที่ท่านเลือกเอาบริเวณนี้ทั้งๆ ที่เป็นที่กันดารไม่มีตาน้ำ และไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีแต่ต้นไผ่ขนาดเล็ก เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ห่างไกลผู้คน มีความสัปปายะ แต่ในกาลต่อมาภูกุ้มข้าวก็โด่งดังไปทั่วโลก และแม้แต่ชื่อของท่านซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงปู่หรือหลวงตาสา ก็ถูกเปลี่ยนแปลง

    เหตุเกิดจากวันหนึ่งในปี 2534 ขณะนั่งสมาธิอยู่บนยอดภูกุ้มข้าวนั้น เกิดนิมิตโอภาส มีแสงสว่างทั่วโลกธาตุ แล้วมีสัตว์ขนาดใหญ่ คอยาว เดินกินยอไม้ กินน้ำอยู่ที่ภูกุ้มข้าว สัตว์นั้นแสดงให้เห็นถึงการกินการอยู่แล้วก็ล้มตายลง

    ท่านมักจะเข้าสมาธิครั้งหนึ่งนานหลายๆ วันที่บนยอดภูกุ้มข้าว และในปี 2534 นั้นก็เกิดนิมิตเช่นว่าซ้ำๆ อยู่ 23 ครั้ง และเกิดอีกในปี 2536-2537

    ครั้งสุดท้ายในปี 2537 นั้น พอเห็นสัตว์ที่ว่าล้มตายลงแล้ว ก็มีเสียงขึ้นว่า “จะมาขออยู่ด้วย เตรียมตัวไว้พรุ่งนี้จะมีฝนมาจากทิศอุดรห่าใหญ่ จะมากับฝน”

    หนนั้นท่านเข้าสมาธิอยู่เพียง 3 วันก็ออกจากที่แล้วลงมาสั่งให้พระเณรเก็บข้าวของต่างๆ ไว้บนกุฏิ

    พอเที่ยงฝนเริ่มตั้งเค้า แล้วก็เทลงมา พอท่านกางร่มเดินออกไปตรวจดูโดยรอบ ฝนก็กระพือจนร่มหักเหลือแต่ด้าม ฟ้ามืดฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ท่านนั่งลงภาวนาบริเวณที่เห็นในนิมิตว่า สัตว์นั้นตาย

    ฝนหนัก 3 ชั่วโมงได้เซาะเอาหน้าดินออก ชิ้นกระดูกขนาดใหญ่หลายสิบชิ้นโผล่ออกมาจากใต้ดิน

    ท่านสั่งให้คนไปแจ้งนายอำเภอซึ่งส่งข่าวต่อไปยังศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น

    จากการตรวจสอบพบว่ามันคือซากไดโนเสาร์พันธุ์กินพืชที่ใหญ่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา และได้รับการขนานนามเทิดพระเกียรติในเวลาต่อมาว่า อีสานโนซอรัส สิรินธรเน

    หลวงปู่ได้ชี้จุดให้เจ้าหน้าที่ขุดค้นตามที่ท่านเห็นในนิมิตทำให้พบซากไดโนเสาร์อีกหลายตัว

    ต่อมามีการตั้งชื่ออาคารหลุมขุดค้นไดโนเสาร์ตรงนั้นว่า “อาคารหลุมขุดค้นไดโนเสาร์พระญาณวิสาลเถร” อันเนื่องจากท่านเป็นค้นพบครั้งแรก

    เมื่อมีการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์โลกล้านปีขึ้นที่นั่นก็ได้รับพระราชทานนามว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” ขณะที่ใครต่อใครก็เลิกเรียกหาท่านในนามเดิมคือ หลวงปู่ หลวงตาสา มาเรียกในนามใหม่ว่า “หลวงปู่ไดโนเสาร์”

    ท่านพบซากไดโนเสาร์อันเป็นการเผยประวัติศาสตร์สำคัญของภูกุ้มข้าวและประเทศไทย แต่ก็มีคนพบว่า เกศา เล็บ ฯลฯ ของท่านเองก็เป็นพระธาตุ เมื่อมาสักการะท่านจึงได้เอ่ยปากขอเกศาท่านบ้าง บางคราวก็มีคนมาขอซากไดโนเสาร์ไปทำพระซึ่งท่านก็ได้เทศน์ให้สติ พิจารณา ให้เกิดปัญญาดังนี้


    สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 300 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณPeterbn จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2023
  21. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,842
    ค่าพลัง:
    +14,112
    2439.สวยเดิมดุจแรกสร้างพิมพ์หายาก เหรียญหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา
    สมเด็จพระบรมครูผู้อยู่เหนือ 3โลก อาจารย์หลวงพ่อโอภาสี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    Vdevi8.jpg
    เหรียญพิมพ์เต็มองค์ เพ่งกสิณไฟ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ออกในนามวัดประดิษฐาราม กทม. เนื้อทองแดงรมน้ำตาล จัดสร้างขึ้นด้วยกัน 2แบบ คือ แบบครึ่งองค์ และ เต็มองค์

    เป็นเหรียญปั๊มรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนครึ่งรูปที่คอสวมลูกกระพวน ด้านล่างรูปเหมือนมีอักษรว่า "หลวงพ่อกบ สมเด็จพระบรมครู" ด้านหลังของเหรียญเป็นยันต์เฑาะว์และอุณาโลม มีอักษรไทยว่า "รุ่น 1 ที่ระลึกสร้างศาลาการเปรียญวัดประดิษฐาราม กรุงเทพมหานคร"

    พระครูพิมลสรภาณ วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2514 เพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างศาลาการเปรียญวัดประดิษฐาราม กทม. นอกเหนือจากจะได้แจกจ่ายเมื่อครั้งวันงานฉลองศาลาการเปรียญวัดราชประดิษฐานไปแล้ว ส่วนหนึ่งนำทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อประมาณปี พ.ศ.2516

    ประกอบพิธีพุทธาภิเษกอย่างเข้มขลังพิธีหนึ่ง ซึ่งจัดขึ้น ณ อุโบสถวัดประดิษฐาราม แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ปีพ.ศ. 2514 พระเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกล้วนเกริกไกรในชื่อเสียง อาทิ
    - สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์มหาเถร) วัดราชบพิธ
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    - หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    เป็นต้น

    ขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูล : คอลัมน์ มุมพระเก่า ข่าวสด

    - https://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538682297&Ntype=40
    ประวัติสมเด็จพระบรมครู หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา
    แสดงกระทู้ - สมเด็จบรมครูหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา • ลานธรรมจักร


    สภาพสวยใหม่กริ๊บรมน้ำตาลเต็ม ผิวปรอทคราบน้ำยาเขม่าไฟผิวรุ้งเดิม เก่าเก็บรักษาอย่างดี พิมพ์คมชัดลึก ของดีราคาเบาที่วัดออกเหรียญละ 299บาทครับ ได้มาไม่แรงแบ่งกันไว้บูชาครับ พุทธคุณเมตตาคลาดแคล้ว แลโภคทรัพย์ดีนักแล แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณktv จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2022

แชร์หน้านี้

Loading...