ทุกสิ่งอยู่ที่จิต รู้เห็นด้วยจิต ยึดติดด้วยจิต หลุดพ้นด้วยจิต

เจริญสัญญา(ภูมิคุ้มกัน) เพื่อจะได้มีทั้งสมถะและวิปัสสนา เพราะกสิณได้แต่สมาธิ(สมถะ)เท่านั้น

 

อ้อ เป็นกสินนี่เอง งั้นแนนขอผ่านค่ะ ไม่น่าจะใช่เส้นทางที่ถูกจริตกับแนน

 

เจริญสัญญาเพื่อวิปัสสนา น่าจะหมายถึงฝึกสัญญาในการการระลึกรู้ใช่มั้ยคะ

 

ทีนี้ สำหรับ น้องๆ หนูๆ ที่ ระลึกถึงแสง โดย เหตุ

เน้นว่า โดยเหตุ

ย้ำว่า โดยเหตุ

ไม่ใช่พูดเพื่อให้ไป มุ่งสาระวนจะยังไงกับ แสง
( อันเป็นของ เดียรถีย )

หาก เข้าใจ โดยเหตุ ปั๊ป มานะ มานี ปิติ ชูใจ ทิฏฐิ
มาครบ ไปห้ามมันไม่ได้

แต่เนื่องจาก เหตุ ของ แสง ของ จิก กุ๊ก สน มันมี

มันจะเห็น เหตุนั้น ดับไป ง่ายกว่า หญิงรักษาครรภ์
( ฌาณ ดับไปง่ายกว่า หญิงรักษาครรภ์ เพราะ เหตุ
มันดับทันที วิบากนาน ไม่นาน แล้วแต่กรณี บาง
เหตุสว่างข้ามสี่พุทธันดร เช่น มัจจุริน 4แก้ว 4ถาด
แต่ดับง่ายไหม ง่าย แม้นว่าวิบาก จะนาน4ถาด

ต้องแม่นเห็น เหตุ ดับ ก็จะ แจงแวง !!!

ก็เห็นว่า ไม่ใช่เพื่อ สัญญา หรือ ขัน กะละมัง อะไร ทั้งนั้น )

 

เลือกไม่ได้

หาก ยังสำคัญว่า เลือกได้ แปลว่า ยังไม่เคยเป็น
ปุปุชนเคยสดับธรรมของผู้มีพระภาค

พึง ทราบ และ ห้ามตำหนิจิต ก็จะเป็นผู้ชื่อว่าสดับธรรมของผู้มีพระภาค

 

เคยลองละค่ะ รุ้สึกไม่อิน ไม่ไปหน้ามาหลังหรือ ทำผิดวิธีไม่รู้ค่ะ

 

จะไป ฝึก ทำแปะ อะไร

สัญญา มันจะปรากฏ ตาม สัจจ ตามธรรมชาติ พร้อมกับ สิ่งที่เรียกว่า จิต

หากยังสำคัญใน ขันธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง

ก็จะ เกิดอาการแล่นไป ว่า เอาขันธ์นั้น ขันธ์นี้ มาทำให้เกิด นิพพาน

โอ้ลาพ่อ ทันที

เขาให้เน้น สดับสัจจ

หากสำคัญตน มีอุปทานขันธ์ใดขันธ์หนึ่งกำเริบ
ก็จะสะระตะ ทำอย่างงั้น อย่างงี้ จะถูก

กั๊กๆๆๆๆ

 

ฝนเทลงมา เทลงมา 55

 

โดยเหตุที่ว่า ในความหมายของคุณปัง คือการเห็นเกิดดับ หรือเห็นไตรลักษณ์ ใช่มั้ยคะ?

 

ธรรมะ ไม่ได้ มีไว้เพื่อ จ๊ะจ๋า

ถามตอบ

ใช่ ไม่ใช่

 

นั่นไงล่ะ

 

น อุจฺจาวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ.

[คำอ่าน : นะ, อุด-จา-วะ-จัง, ปัน-ดิ-ตา, ทัด-สะ-ยัน-ติ]

“บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้นลง”

(ขุ.ธ. ๒๕/๒๖)

ธรรมดาบัณฑิตย่อมเป็นผู้ที่มีจิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว เพราะบัณฑิตเป็นผู้มีปัญญา เข้าใจธรรมชาติทั้งปวงตามความเป็นจริง เข้าใจอย่างที่มันเป็น ไม่ได้เข้าใจอย่างที่ตัวเองอยากให้เป็น

โลกของเรานี้มีธรรม ๘ อย่างเป็นธรรมดา ที่เรียกว่า โลกธรรม ๘ ประการ คือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข และทุกข์

 

เพราะไม่เจริญสัญญา ว่าไฟ(ทุกข์)มันร้อน สดับสัจจะ ไปก็เท่านั้น สุดท้ายเป็นงัย รู้เลย ยังวนเวียนไม่สิ้นสุด 55

 

สมมติ นะ สมมติ

สมมติว่า มี บางคน ชัก เอ๊อะ

ก็ต้องแยกให้ดีๆ

สัมมาทิฏฐิ จาก การสดับ [ มาลุงกยาบุตร สดับซึ่งความจริง ]

สัมมาทิฏฐิ ที่ มนสิการ [ รักษาซึ่งความจริง ]

สัมมาทิฏฐิ ที่ สัมผัส หรือ "รู้ชัด" [ ถึงซึ่งความจริง ไม่ต้องรักษา ]

แยกออก บอกถูก ก็ 7วัน !!! [ กิจอื่นมี หรือไม่มี ]

 

ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

ก็แหง หละ เห็นเป็นเรื่อง สัญญา

ไม่เคยเห็น สัญญาดับ(สัจจที่เขาให้สดับ) มันก็ พาวนเวียน
เป็นเพียง ปรัชญา ตรรกะ ร่ำไป


ปล ลิง : น้อๆ หนูๆ อย่าลืม การเห็นไปที่เหตุ
หากกล่าวว่า สัญญาดับ แต่ไม่มีการ สาวไปเห็น
เหตุ ได้แต่ พยักหน้า เอ๊อะ ลืม ก็ โอ้ลาพ่อ นะฮับ

กาย กาย กาย

กาย ลูก มาช่า สุด sexy <----

 

สัญญาดับได้ เพราะสิ่งใดรึขอรับ 55

 

สัญญาที่คุณกุ๊กพูด น่าจะเพื่อเป็นเครื่องมือเจริญสติมั้งคะ แต่พอถึงจุดนึง แม้แต่สัญญาใดๆก็ไม่เหลือ

 

กั๊กๆๆๆ

ธรรมะจ๊ะจ๋า ไม่เลิก


ปายดีกั่ว

 

อย่าเพิ่งไป ยังไม่จบ ขอดีเทลตรงนี้เพิ่มค่ะ

 

ก็ตอบแบบเดิม

ธรรมะ ไม่ได้มีไว้เพื่อ จ๊ะจ๋า ถาม ตอบ

ธรรมะ ไม่ได้มีไว้เพื่อ ผ่อนรับผ่อนสู้อุ้มชู จานลาย