รอบที่ ๘๕ พระครูมานิตย์ ลพ ทรง ลป พระครูบุญศรี

รายการที่ ๑๒ วันพรุ่งนี้ จะลงรายละเอียดครับ

 

รายการที่ ๑๒-๗ ๖ ก.ย. ๖๒

รายการที่ ๑๒.๑ เหรียญหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ปี ๒๕๓๖ ................. ๒๐๐ บาท

เหรียญหลวงพ่อแพ รุ่นเขมรแดง มีประสบการณ์ยิงไม่ออกน่ะครับ น้าผมเป็นหัวหน้าผู้คุมไปยิงนักโทษที่ ปราจีนบุรี โดยศาลสั่งประหาร มีปืนแบล็คมัน ๒ กระบอก และ M16 ของตำรวจอีก ๑ กระบอก จนเอาเหรียญที่นักโทษประหารแอบเหน็บตรงจักกะแร้ออก ถึงยิงได้ครับ

เงินทุกบาทไม่มีหักค่าส่ง ค่าใช้จ่ายไป วิหารทาน วัดสันติธรรมครับ



รายการที่ ๑๒.๒ เหรียญพระแก้วมรกตทรงฤดูหนาว หลัง ภปร เฉลิมพระเกียรติ ๗๕ พรรษา พุทธศักราช ๒๕๔๕ ...... ๓๐๐ บาท

เหรียญอะไรที่มี ภปร อนาคตไกลน่ะครับ พระบารมีมากล้น กว้างไกล ผมเห็นยังชอบเลยครับ สวยงามมาก ฝีมือ กองกษาปณ์ ไม่มีใครเอาว่าจะเอาเก็บไว้เองครับ

เงินทุกบาทไม่มีหักค่าส่ง ค่าใช้จ่ายไป วิหารทาน วัดสันติธรรมครับ



รายการที่ ๑๒.๓ พระผงจัมโบ้ พ่อหลวงรัชกาลที่ ๕ ครบรอบ ๕๐ ปี องค์การโทรศัพท์ ปี ๒๕๕๐ เลี่ยมสแตนเลส กรอบลงยามาสวยงาม......๒๐๐ บาท

เลขสวยด้วยครับ ๐๒๙๙ ปี ๒๕๕๐ ยุคจตุคามกำลังดังสุดขีด

เงินทุกบาทไม่มีหักค่าส่ง ค่าใช้จ่ายไป วิหารทาน วัดสันติธรรมครับ






รายการที่ ๑๒.๔ พระขุนแผน หลวงปู่ทิม วัดพระขาว ....๓๐๐ บาท


ไม่ทราบประวัติเลยครับ แต่พระขุนแผนของท่านบางรุ่นเห็นเล่นกันแพงมากครับ

เงินทุกบาทไม่มีหักค่าส่ง ค่าใช้จ่ายไป วิหารทาน วัดสันติธรรมครับ

เนื่องจากรูปเยอะ ในเน็ทพลังจิตนี่ค่อนข้างจะโหลดยาก ไปต่อกันอีกกระทู้ครับ

 

๑๒.๕ พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อทรงรุ่นแรก เนื้อบางขุนพรหม ..... ๒๐๐๐ บาท

พระนี้ยุคแรกก่อนใคร หลวงพ่อทำเอง มีน้อยแค่หลักร้อยต้น แล้วไม่ได้ทำอีกครับ

พระรูปเหมือนเนื้อบางขุนพรหม
พระชุดแรกจริงๆเลยครับ แบบว่า หลวงพ่อท่านอั้นมานาน อยากทำเองที่วัด ท่านลงมือเองเลย หลังจากแช่ปูนจืด ไม่ได้รอกรองละเอียดมาก เม็ดปูนขาวๆที่เซียนเรียกเม็ดพระธาตุจะเยอะมาก จากนั้น ใส่กล้วย ใส่น้ำมันตั้งอิ้วพอประมาณไม่มาก นวดจนเหนียวหนับเอามากดพระครับ ขั้นตอนเหนื่อยๆนานกว่าจะไดสักครก
พระนี้พอแห้งแข็งแกร่งมาก น้องๆกระเบื้องเลยครับ พอผมไปหาที่วัดท่านรีบเอามาอวดทันที ท่านเรียกของท่านเอง เนื้อบางขุนพรหม ท่านเอาวางกับพื้นกระเบื้องแข็ง เสียงดังแกร็กๆเลย เดี๋ยวนี้ ( พ.ศ. ๒๕๖๒ ) ก็ยังดังแกร่งกว่าพระเนื้ออื่น พระนี้เอาใส่กรุไว้อีก ๑๐๐ ปี เนื้อบางขุนพรหมดีๆนี่เองแหละครับ ท่านบอกกว่าจะได้ นวดกันนานกว่าจะเหนียวพอกด ปริมาณไม่เกิน สองครก ถึง สามครก เพราะต่อมา พระลูกมือเหนื่อย ท่านขี้เกียจทำ ไม่ตามสูตร ผสมผง ผสมอย่างอื่นเยอะ เพราะเนื้อบางขุนพรหมทำยาก จึงมีแค่ สักครกสองครกนี่แหละ อย่างมาก ๑๐๐ ถึง สองร้อยองค์ กระจายกันไป เพราะเป็นชุดแรกคนที่วัดจ้องอยู่
ผมน่ะอยู่ไกล มาไม่ทันกับเขา เขาคว้ากันคนละหนุบหนับไปก่อน เหลือแบบ ไม่ค่อยสวยบนถาด ผมกับเซียนหมีคว้ามั่งและต้องไปตามไถตามกุฏิ พอได้มาบ้าง พระนี้ทำ ยาก จำได้ว่าพระวิโรจน์หรือพวกพระลองทำมาอีกหน่อยมีฝังตะกรุดก็ไม่ได้ทำอีก ไปถามว่าทำไมไม่ทำล่ะ ท่านบอกขี้เกียจ แบบนี้ง่ายดี
จัดว่าเป็นพระเปิดครก เปิดพิมพ์ที่วัด หลวงพ่อลงมือทำเอง แม้ตอนพิมพ์ท่านก็นั่งจับผ้า ให้พระหนุ่มกด ท่านคอยกำกับหยอดน้ำมนต์ ใครได้ไปคงไม่รู้ แต่ได้ไปเฮง เป็นรุ่นแรกจริงๆครับ มีน้อย
ผมเอามาถ่ายรูปคู่กับเนื้อขาวธรรมดา จะต่างกันเยอะน่ะครับ พระชุดต่อมาคนทำต่อมาขี้เกียจมากขั้นตอน แต่ผงปูนกรองละเอียดแล้ว ที่หยาบๆ เอาไปบดต่อ ผสมมวลสาร ปูนสี น้ำมันตั้งอิ้ว กล้วยน้ำว้า ผงรุ่นหลังจะหดตัวมากกว่าเยอะ มวลสารแยะ อ่อนปูนกว่า

ตกลงมาบอกแล้วน่ะครับ ใครมีลองดูตามที่ผมว่า หลวงพ่อทำกับมือครับ รุ่นแรกของวัดในร่วมหลายสิบปีหลังจากยุคสร้างโบสถ์มา



รายการที่๑๒.๖พระรูปหล่อรุ่นสุดท้าย ทิ้งทวนเสก ....๕๐๐๐ บาท ... ปิดครับ

พระรุ่นนี้เสกหลายทีมาก เป็นรุ่นสุดท้ายจริงๆ อยู่ในห้องที่หลวงพ่อล่ะ สังขาร นอนเสกให้ด้วย และ ฝากไปให้ทีมหมอที่วิชัยยุทธ ที่ช่วยดูแลท่าน ส่วนพวกพยายาลผมเอาพระเนื้อผง จำได้ว่าพระนักธรรมไปแจก ใต้ฐานใส่เส้นเกศาแท้ๆของท่าน

รูปหล่อ ๕ นิ้ว รุ่นทิ้งทวน ( รุ่นสุดท้าย )

จากรูป อันนี้โชว์มาทีหนึ่งแล้ว เป็นองค์ที่หลวงพ่อเสกซ้ำให้บนเตียง แบบนอนเสก รวมกับองค์ที่เอามาฝากให้หมอ ที่วิชัยยุทธ อีกสี่องค์ ท่านให้ผมมาด้วยความรักและเมตตาก่อนท่านจะล่ะสังขารไปแดนเกษม ประมาณ ๒ - ๓วัน ตอนผมเอารูปหล่อนี้ไปให้พวกหมอที่วิชัยยุทธ หลังจากงานหลวงพ่อแล้ว พวกหมอๆ ดีใจมาก ที่ได้รูปหล่อนี้
ที่จริงรุ่นนี้ผมควรจะเอาเรื่องนี้ไปต่อ รูปหล่อ ๕ นิ้ว รุ่น ปี ๔๒ และ ๔๙ แต่ผมกระโดดไป ผมเลยเอามาลงตอนนี้น่ะครับ เอาว่าเล่าตามสไตล์ผมก็แล้วกัน ทางนี้นิด ทางโน้นหน่อย อย่าว่ากันเลยน่ะครับ...แหะๆ
หล่อรุ่นนี้ ว่าตามตรงแบบฟันธงเลยว่า เป็นดำริห์ของหลวงพ่อเอง แบบว่าคราวนี้ไม่ใช่ของโรงเรียนเจ้าเก่า สร้างแล้วทางวัดร่วมแจม อะไรประเภทนั้นอีกต่อไป หรือ เป็นของนายทุนรายใด เป็นของบริสุทธิ์มาจากหลวงพ่อโดยตรง แต่พิมพ์ก็เดิมๆน่ะแหละครับ เพราะหลวงพ่อชอบ แต่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ท่านนั่งจับเข่าแล้วดูสง่าดี เพียงแต่ดัดแปลงโต้ะฐานสิงห์มาเป็น ฐานเขียงเรียบ ลายไทยแทน ข้างหน้าก็ลง คำว่า พระครูสุภัทรธรรมโสภณ ส่วนด้านหลัง ก็คำว่า วัดศาลาดิน อ. วิเศษฯ จ. อ่างทอง ตกลงมีทั้งคำว่า ดิน วิเศษ และ ทอง มีคำดีๆ เป็นคำมงคลทั้งนั้นน่ะครับ ดินเพื่อการงอกเงย วิเศษเพื่ออิทธิฤทธิ์ และทอง เพื่อความร่ำรวย ตกลงเป็นพรที่หลวงพ่อทิ้งไว้ให้แทนตัวท่าน เพื่อความเป็นมงคล เป็นรูปแทนตัวท่านรุ่นสุดท้ายจริงๆ

รูปหล่อนี้ จำได้ว่าสั่งทำมาตอนท่านยังไม่ป่วยแต่ใกล้ๆแล้ว แต่ทำเสร็จช่างนำมาส่งน่ะ ผมพอจำได้ว่าหลวงพ่อเริ่มป่วยแล้ว แต่ยังพูดคุยได้ เพราะผมยังได้ยิน ท่านกับหลานท่านที่เป็นฝ่ายการเงิน บ่นๆกันว่า ช่างทำเกินจำนวนมา ( ช่างเจ้านี้ ทำเกินมั่วมาประจำแบบเจตนา จะได้เก็บตังค์เพิ่ม แต่มาคิดตอนนี้ก็ดี เพราะของจะได้มีมากขึ้นเล่นหาได้มากขึ้น ....อิอิ ) ผมไม่ทราบจริงๆว่า เกินเท่าไหร่ เพราะบอกตามตรงตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องจำนวน แต่มั่นใจจำนวนทั้งหมดประมาณหลักร้อย เพราะหลังจากที่ปลุกเสกเสร็จ นำไปที่วัดผมเห็นวางซ้อนกันอยู่กองใหญ่เหมือนกัน คงจะหลายร้อยองค์ ตอนนั้น ทางวัดให้ออกบูชา องค์ล่ะ ๑,๕๐๐ บาทต่อองค์ ราคาเท่ากับรุ่นก่อนหน้านั้น

ส่วนการปลุกเสกผมไม่ได้เห็นเพราะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ถามจากผู้ที่เข้าร่วม ฟังแล้วตรงกันว่าท่านปลุกเสกแน่นอน เมื่อช่างทำเสร็จเอาเข้าไปเสกในโบถส์เหมือนรุ่น ปี ๔๒ และ ๔๙ แล้วนิมนต์หลวงพ่อ นั่งรถไป แล้วท่านลงไปเสกให้ในโบถส์ ชั่วระยะเวลาหนึ่งไม่นานเพราะท่านป่วยแล้ว อันนี้น่าจะเป็นท่านอยากไปเองเพราะเจตนาจะให้เป็นรุ่นโลหะแรกที่ท่านสั่งทำเอง แล้วเป็นรุ่นสุดท้าย ที่จะทิ้งทวนไว้แทนตัวท่านด้วย เป็นของๆท่านล้วนๆ และ คงไม่มีใครกล้าบังคับให้ท่านไปเสกให้ได้ ยกเว้นหลวงพ่อต้องการจะไปเอง

( ที่หลวงพ่อไปเสกนี่ หลังจากกลับจาก โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ครั้งสุดท้ายน่ะครับ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่หลานหลวงพ่อมาเล่าให้ฟังทีหลัง ผมเข้าใจชุดนั้นรวมกันของผู้สร้างหรือครูทางโรงเรียนด้วย พอท่านเสกเสร็จก็ แบ่งกันไปของใครของมัน เอาส่วนหนึ่งวางที่วัด และส่วนใหญ่ หลานของหลวงพ่อท่านยกกลับไปที่บ้าน ที่ที่หลวงพ่อนอนป่วยจนล่ะสังขาร พระนี้วางอยู่ด้วยกันตรงมุมห้อง ผมกะด้วยสายตาน่าจะประมาณ ๑๐๐ กว่าถึง ๒๐๐ กว่าองค์ )

นอกจากนั้น ยังเป็นรูปหล่อที่ท่านฝากมาให้หมอ สี่ท่านที่รักษาท่านที่ วิชัยยุทธ ที่ได้ดูแลท่านอย่างดี รวมทั้งให้ผมองค์หนึ่ง ทั้งรูปหล่อคุณพุ่ม ท่านก็ให้ผมมาอีกองค์ในวันสุดท้ายที่ผมได้มีวาสนาพบกับท่าน แบบท่านยังมีลมหายใจ วันนั้นท่านให้สัญญานชัดเจนแก่ผมว่าท่านจะตายแน่ๆ( อย่างที่เล่าไปแล้ว ) และจะไม่ได้พบกันอีกซึ่งทำให้ผมได้มีโอกาศขอขมาท่านเป็นครั้งสุดท้าย หลวงพ่อท่านให้ผมไว้ เพื่อเอาไว้ให้ดูแทนตัวท่านเพราะท่านทราบว่าผมติดวัตถุ ซึ่งถ้าดูตามเจตนาทิ้งทวนของหลวงพ่อแล้ว รุ่นนี้น่าจะเก็บหา มาบูชาที่สุดครับ ในความคิดของผม เพราะเป็นของท่านจริงๆ ดำริเอง เป็นเจตนาของท่านเองแท้ๆ สั่งสร้างเอง จ่ายเงินเอง และเสกเอง และเจตนามอบให้คนบางคนที่ท่านมีโอกาศไว้แทนตัวท่าน ก่อนท่านจะสิ้นลมหายใจ

อันนี้ไม่รวมถึงรุ่นคุณพุ่ม ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นรูปหล่อเหมือนรุ่นแรกของหลวงพ่อที่เป็นของท่านเอง ที่แม้หลวงพ่อจะเป็นเจ้าภาพออกทุนเอง แต่อาจจะไม่ใช่ดำหริของหลวงพ่อโดยตรงก็ได้น่ะครับ เพราะการทำรูปหล่อเรซิ่นนี้ค่อนข้างไฮเทค มีราคาแพง ผมทราบว่าเป็นการทำของครูเจ้าเก่า และของคณะวัดไผ่ล้อม นครปฐมซึ่งดูแล้วจัดว่าเป็นมืออาชีพ พิธีใหญ่ที่สุดของหลวงพ่อทีเดียว มีเจ้าฟ้าเสด็จ มีตราพระนามประทับบนรูปหล่อ ( ทำให้ไม่มีใครกล้าปลอม หรือ เสริมออกมา ) ซึ่งก็ทำให้ รุ่นหล่อเรซิ่นรุ่นคุณพุ่ม มีราคาแพงมาก ออกจากวัด ราคา ๙,๙๙๙ บาทที่เดียว ทำให้ของเดินยาก เพราะใครจะบูชาคงคิดแล้วคิดอีก ถ้าไม่ตั๋งจริงๆ...แหะๆ และน่าจะไม่ใช่ดำริส่วนตัวของหลวงพ่อ ซึ่งเป็นคนง่ายๆ ไม่ชอบของมีราคาแพง ประหยัด คือ หลวงพ่อทรง

ผิดกับรูปหล่อทองเหลืองซึ่งต้นทุนต่ำกว่ามาก สร้างโดยช่างพื้นบ้าน เจ้าเดิมที่หลวงพ่อสั่งได้ ตอนนั้นรูปหล่อรุ่นคุณพุ่มยังเหลืออยู่ ที่วัดอีกเยอะ ถ้าจะว่าไปแล้วไม่มีความจำเป็นในแง่จำนวนที่จะต้องสั่งทำรูปหล่อขนาดบูชาเพิ่มมาอีก แต่หลวงพ่อคงมีเหตุผลของท่านซึ่งจริงๆแล้วเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามทำให้รูปหล่อรุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้ายจริงๆ ที่หลวงพ่อปลุกเสกให้ในโบถส์เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนั้น ท่านก็ไม่ได้เสกอะไรเป็นทางการอีก เพราะป่วยหนัก

รูปหล่อนี้ว่าตามตรงฝีมือช่างเดิมเจ้าเก่า ไม่ได้ละเอียดละออ พิถีพิถันอะไรมากมายนัก แต่ก็มีประพิมประพรายของหลวงพ่อทรงอยู่ หลวงพ่อท่านยิ้มน้อยๆ จัดว่ามีชีวิตชีวา ดูได้เพลินๆ ทำให้นึกถึงหลวงพ่ออันเป็นที่รักของศิษย์ เป็นเนื้อทองเหลือง อย่างเดียวแต่มีสองผิวคือ แบบ รมสีแดงเม็ดมะขาม รมไม่แน่นเท่าไหร่ แบบเปรอะๆ และแบบผิวเดิมๆ สีทองเหลือง เพื่อเอาใจกิเลสของคนที่ชอบความแตกต่าง

ข้างใต้ฐานก็เทปูน ฝังเส้นเกศาทุกองค์มากบ้างน้อยบ้าง เป็นการฝังเสร็จมาจากช่าง เหมือนกับรูปหล่อทองเหลือง ปี ๔๙ ผมซูมให้ดูเส้นเกศาของหลวงพ่อ เส้นเกศาของหลวงพ่อมีจุดสังเกตุน่ะครับ แต่ผมไม่บอกที่นี้น่ะครับ เป็นการชี้ช่องไปหน่อย แต่ของแบบนี้ แบบเส้นเกศาจะเลียนแบบไม่ได้หรอกครับ มีอาถรรพ์ ทำอย่างไร จากศีรษะใครก็ไม่มีทางเหมือนได้ เพราะมีเอกลักษณ์มาจากศีรษะของคนคนเดียวกันน่ะครับ คือ ศีรษะของหลวงพ่อทรงพระผู้เฒ่าผู้ทรงศีล แล้วใครบังอาจไปเลียนแบบจะเข้าตัวคนทำเลียนแบบไปก็ได้ครับ เมื่อมาลองเล่นกับของสูงแบบหลวงพ่อทรงเข้า ตัวอย่างมีแล้วน่ะครับ ผมไม่เล่าที่นี่ ไม่ชอบซ้ำเติมใคร ใครทำอะไรไว้ กรรมอาจจะมาก่อนตายก็ได้ ตายแล้วก็ไปรับต่อ ตัวใครตัวมันน่ะครับ

จากประสบการณ์ของผม ที่ผ่านมา ของรุ่นแรก กับ รุ่นสุดท้ายนี่จะเป็นที่นิยมของนักนิยมพระเครื่อง เพราะของรุ่นแรก พระท่านตั้งใจ เพราะเป็นสิ่งแรก จะไม่ให้เสียชื่อ มีศักศรีดิ์ของรุ่นแรกอยู่ ( ในที่นี้ของหลวงพ่อทรงคือ เหรียญบิน ) และของที่เป็นรุ่นสุดท้าย เพราะเมื่อถึงตอนนั้น มีบารมีที่สร้างสะสมมา มีวิชาแก่กล้าขึ้นถึงที่สุด และพระท่านรู้ว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทำในรูปสังขารของท่าน ( ไม่ใช่กายทิพย์ ) ท่านจะทิ้งทวนใส่หมดแบบไม่กั้ก ไม่ยั้ง ทำให้รุ่นสุดท้ายนี้เป็นที่นิยมหลายอาจารย์ พวกนิยมพระเครื่องจะจ้องหากัน และสำหรับหลวงพ่อทรงก็คือรุ่นรูปหล่อ ๕ นิ้ว รุ่นนี้ครับ ปลุกเสกตอนเริ่มป่วยด้วยพลังจิตของผู้มีบุญ แจกให้คนก่อนท่านล่ะสังขารไม่กี่วัน เป็นของสั่งลาจริงๆครับ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2008

ต่อ
น่าจะเล่าไปสักที่ในกระทู้ แต่หมอที่รักษาหลวงพ่อมีเป็นทีม หัวหน้าหมอชื่อ หมอสุวิทย์ ผมจะเล่าตัดตอนไปเลย เพราะ ประมาณ ๑ เดือนที่หลวงพ่อไปอยู่ที่ รพ วิชัยยุทธ ท่านทำให้พวกหมดทึ่งมาก หลักๆก็คือ หลวงพ่อท่านไม่แสดงทุกขเวทนาใดๆเลย หมอถามกี่ครั้ง ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร ๆๆๆๆ ทุกครั้ง ทั้งๆที่ น่าจะมีทุกขเวทนามาก หลวงพ่อท่านบอกผมเอง อีกหน่อยก็ตายเหมือนกัน พอหลวงพ่อกลับ รพ หมอบอกผมว่าพระองค์นี้นิ่งมาก สมาธิ หมอท่านนี้ชำนาญมาก รักษามาหลายองค์ ทั้งพระเกจิฯและ พระสายกรรมฐาน ผมสนิทกับท่านมากพอสมควร เพราะท่านรักษาทั้งแม่ผมและครอบครัวผมหลายคน อาการอย่างไรท่านบอกตรงๆ และช่วย เล่าเรื่องพระหลายองค์ให้ผมฟังหลายเรื่อง บางเรื่องไม่สามารถเล่าต่อได้ แต่สรุปว่าหมอน่ะเลื่อมใสพระยาก ต้องเกินธรรมดาจริงๆ หมอท่านก็เห็นเป็นคนไข้ธรรมดาแก่ๆคนหนึ่ง รักษาไปตามจรรยาบรรณและตามวิชาชีพ แต่ไม่ใช่หลวงพ่อทรง เอาว่าคุณหมอชักเลื่อมใส คุณหมอบอกว่า สันติ ไปขอพระหลวงพ่อมาแจกหมอบ้างน่ะ

ผมไปเยี่ยมหลวงพ่อบอกหลวงพ่อตามนั้น จำได้ว่าท่านให้เอารูปหล่อตรงมุมห้อง เท่าจำนวนหมอ และ แถมให้ผมมาองค์ ท่านเสกให้ เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนั่น ท่านก็ล่ะสังขารไป

พระที่อยู่มุมห้องหลังจากเสก โดยหลวงพ่อที่โบสถ์และ เอาไว้ที่ท่านนอนพัก มีเรื่องเล่าจากหลานในตอนที่ รอหลวงพ่อในขณะที่หลวงพ่อนอนป่วยที่ โรงพยาบาลว่า ..... ก็อย่างว่า เขาก็ลุ้นเหมือนกันเพราะหลวงพ่อป่วยหนักมากคราวนี้ กลัวพระที่ทำมาจะไม่มีคนเสกลงทุนไปแล้วตั้งเยอะ ( ทุนประมาณองค์ล่ะ ๗๐๐ บาท ถ้าผมจำไม่ผิดพลาด ) พอดี ที่วัด หลวงพ่อมี วัดม่วงคันมีงานพุทธาภิเศก พวกหลานๆหลวงพ่อเลยเอาพระใส่หลังรถไปบอกหลวงพ่อมีให้เมตตา หลวงพ่อมีให้ต่อสายสิญญ์มาที่ตัวรถยังรูปหล่อ เพราะของมีเยอะหลายร้อยองค์ องค์ใหญ่ไม่ใช่องค์เล็ก จะได้ยกลังมายังในพิธี ใช้ต่อสายสิญญ์มาวงเอาตลอดพิธีพุทธาภิเศก เรียกว่าหลวงพ่อมี ท่านรับรู้ .... พระชุดนี้ว่าเสกกันมารอบ แล้ว โดยพระคณาจารย์ผมไม่ทราบว่าท่านใดบ้าง รวมทั้งหลวงพ่อมี ที่วัดม่วงคัน แล้วหลวงพ่อกลับมาเสกในโบสถ์ เอามาวางที่ห้องหลวงพ่อท่านก็คงสวดมนต์เสกให้มาเรื่อยๆ จนผมไปรับพระมา

หลังจากหลวงพ่อล่ะ สังขาร ผมไปช่วยงาน หลานหลวงพ่อมาเปรยๆว่าพระรูปหล่อ เหลือเยอะเลย รวมทั้งเหรียญจากศูนย์ ตะโพนหนังก็มี พระกริ่งบูชาก็มี อยู่ที่บ้านผมเลยบูชา พระรูปหล่อ ตะโพนใหญ่ และพระกริ่งบูชา มาจำนวนหนึ่งเพราะเห็นประวัติดี พวกของศูนย์ผมไม่สนใจ เพราะผมเห็นพระวางอยู่กับตากับหลวงพ่อ หลวงพ่อเสกมาตั้งนาน แบบทิ้งทวนให้ พวกชิ้นสุดท้ายนี่หลวงพ่อเสกให้เต็มที่ครับ

..............................



รายการที่ ๑๒.๗ แผ่นปั้มแม่พิม รุ่นนี้เสกนาน ปิดครับ ......๒๐๐๐ บาท

ที่จริงรุ่นนี้ว่าจะเก็บยาว มีคนถามมานานแล้ว ต่างชาติก็มี ผมเอามาแบ่ง ถ้าเผลอไม่มีใครเอาผมจะเก็บยาวหลายปีครับ เหลืออีกไม่กี่แผ่น คนมาแบ่งไป เพราะหลวงพ่อเสกให้หลายที มีโค็ดเรียบร้อย ผ่านพิธีใหญ่มาซ่ะด้วย แผ่นนี้ตอนผมเจอหลวงพ่อแรกๆ ม้วนทำตะกรุดพกอยู่ ใช้ดีมากครับ แม่เขารับรู้และใจดี



สามรายการหลังผมเอาเข้า กองทุนสตูดิโอเหรียญบินฯ ไปเป็นค่าใช้จ่ายครับ

 

ขอจองเช่าบูชา รายการที่ ๑๒.๖ พระรูปหล่อรุ่นสุดท้าย ครับ

 

รับทราบครับ ปิดไปครับ รายการนี้

 

ปิดรายการ 12.7 ครับ

 

รับทราบ ปิดครับ

 

พระรูปเหมือนรุ่นแรก เนื้อบางขุนพรหม

เนื้อบางขุนพรหม เป็น ชื่อที่หลวงพ่อท่านเรียกเองน่ะครับ เป็นเนื้อปูนเปลือกหอยล้วนๆนี่แหละ แต่ทำคล้ายวิธีการพระบางขุนพรหม ( หลวงพ่อท่านจะแอบใส่ผงบางขุนพหรมลงไป อันนี้นอกเหนือความรู้ผมน่ะครับ )
หลวงพ่อเป็นพระเถราจารย์ ผู้ใหญ่ ชีวิตก็ผ่านมาเยอะ เห็นมาเยอะ จะมีทีเด็ดเก็บไว้บ้าง เพราะท่านก็ทำพระสมเด็จมาหลานรุ่น ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ ที่ท่านมีผงวิเศษ ของเด็ดๆแอบไว้แล้วเอามาลงที่พระผงชุดทำที่วัดครับ
เรื่องที่ผมเล่านี่ มีพยานน่ะครับ อย่างน้อยสี่คนที่ผมจำได้ มีพระ สามท่าน หลวงน้า ส พระ ว. และ พระ ส ( ในตอนนั้น ) แล้วอดีค คนขับรถผม เซียน หมี เมืองนนท์ ตอนนี้เป็นเสี่ยขายอะหลั่ยรถ และ พระ กับ คนที่วัดที่ผมไม่รู้จัก อีกครับ แต่พวกท่านจะสนใจรายละเอียดเหมือนผมไหม อันนี้ไม่ทราบ
เป็นครั้งแรกที่ทำพระกันเองที่วัด ก็ตื่นเต้นหน่อยมาช่วยกันเยอะ เพราะฉนั้นผมไม่ได้ทราบและมั่วคนเองคนเดียว มีคนรู้เห็น เนื้อบางขุนพรหมก็โชว์มาสิบกว่าปีแล้วในเว็บพลังจิต แต่ เล่าไม่หมด กั้กไว้ ก็ไม่เห็นมีใครมาเล่าอีก ที่ไม่เล่ามาก เพราะพระก็มีแค่นั้น ไม่ได้ทำมาอีก เพราะขั้นตอนออกแรงเยอะกว่าปกติ นวดกันนาน ขนาดตอนหลังมีเครื่องนวดแป้งขนมจีนที่ผมซื้อไปถวาย ก็นวดกันธรรมดา พอเข้าเนื้อก็เอามากด นวดมาก เดี๋ยวแข็งกดไม่ได้ ก็จบกัน ต้องทิ้งเอาไปบดกันใหม่
ผมเล่า เนื้อหาก็มาอย่างนั้นจริงๆ แต่สำนวนอาจจะดราม่าก็มีบ้างตามหลักการเขียนให้มันมีอรรถรส ตามหลัก ครูบาอาจารย์ บราเดอร์ เกียรติ ท่านสอนมาในวิชาภาษาไทย และความจริงก็ยังเป็นความจริง
ว่านี่คือพระชุดแรก เปิดพิมพ์รูปเหมือน ที่หลวงพ่อทรงลงมือแทบจะทำเอง คือท่านอายุมากแล้ว ไม่งั้นตำปูนเอง นวดเอง กดเอง แต่ขั้นตอนนี้พระองค์อื่นช่วยทำตามที่หลวงพ่อสั่งและคุมอยู่ในสายตา ก่อนทำท่านก็จุดธูปเทียนบวงสรวงครูบาอาจารย์ของท่าน ...ว่าอนุญาตให้ทำพระได้ แม้ตอนกดหลวงพ่อก็นั่งจับผ้าที่คันโยก คอยหยดน้ำมนต์ที่ท่านเสก ตามตำหรับท่าน ส่วนแรงกระแทกพระองค์อื่นกดกระแทก หลวงพ่อคงทำเองคงไม่ไหว ....แต่มีที่ท่านกระแทกกดพิมพ์เองเป็นพระ โพธิ์ ๙ ใบ ผมก็โชว์ในพลังจิตไปแล้ว
พระรูปเหมือนเนื้อบางขุนพรหมนี่ ทำแค่ ครก สองครก มีไม่มากสักร้อย สองร้อน ต้นๆ ทำเสร็จคว้ากันคนล่ะหนุบหนับ ผมกว่าจะไปไปถึงเหลือแต่ไม่สวยแล้วก็มีนิดเดียว แต่มีพระเนื้ออื่นทำต่อมาแล้ว ที่บางขุนพรหมจริงน่าจะ พระ ว ทำมาอีกครก อย่างมาก แล้วก็เลิกทำ
เป็นชุดแรก เนื้อวัด พิมพ์วัด หลวงพ่อทำเองครับ
ผมเอามาโชว์ ๔ องค์เลย มีที่จาร ๒ องค์ไว้เป็นที่ระลึก พระทำมาชุดเดียวกัน เนื้อเหมือนกัน ขนาดก็ขนาดเดียวกัน กว้าง หนา ยาว จะหดตัวมาสิบกว่าปี น่าจะประมาณ ๑๕ ปี ก็หดมาพอๆกัน เนื้อแก่ปูน มีผงน้อย จึงหดน้อย ส่องดูมีเนื้อมวลสารที่น่าจะเป็นดอกไม้บูชาพระที่หลวงพ่อเสกสะสมไว้บ้าง แต่มีขนาดเม็ดปูนมีหลายขนาด เป็นเม็ดพระธาตุหลายเม็ดครับ เพราะไม่ได้กรองจนละเอียดเหมือนรุ่นหลังๆ
และมีฝังตะกรุดที่หลวงพ่อจารด้วย ...แหะๆ องค์นี้ว่าจะใส่ทอง ลืมมาตั้งนาน
ผมเอาเนื้อผงขาวที่ทำต่อมา เป็นแทบจะปูนล้วนๆแต่กรองละเอียดแล้ว แล้วผสมปูนแม่พิมพ์แบบถุงๆ บดละเอียด ทำให้เหลว กดง่าย พิมพ์สวยและ แข็งตัวได้ดีไม่มีย้วย แต่จะบางกว่า ประหยัดเนื้อ ...ต่างกันเยอะครับ

...........................................

 

รูปหล่อ ๕ นิ้ว รุ่นทิ้งทวน
ก่อนจะห่อส่งให้เขา ถ่ายรูปแบบสตูดิโอหน่อย เป็นที่ระลึก ผิวแบบเหลือบไม่เคลือบขัดมัน

 

มีดพร้อมแล้วน่ะครับ ผมตอกโค็ดเรียบร้อย




โค็ด ม หยดน้ำที่ด้าม ให้มีสังกัด มีสามแบบ แต่แบบด้ามดำซื้อมาลองดู เป็นมีดพับสปริง แต่พอดี ใบจะคลอนนิดนึง นิดเดียว ต้องใช้ฝีมือช่างจึงจะแก้ได้ แต่ดีที่มีปุ่ม ทุบกระจกรกได้ ใบมีดตัด สาย safety belt เหมาะกับโลกปัจจุบันมากในการช่วยตัวเอง หรือ คนอื่น ถ้าคับขันขึ้นมาครับ



แบบ Buck เป็นมีดขาดใบเล็ก ๒.๕ นิ้วที่ผมพอใจ ทำปราณีต คม เหล็กดี ตอกโค็ดไม่เข้า



ส่วนด้ามฟ้าไม่มีบริการ เนื่องจากล็อคไม่ดี ล็อคใบไม่แน่น แต่ใบดี ใช้งานได้จริง เหล็กสแตนเลส ไม่ผ่านคุณภาพจากผม แต่ใช้งานได้ จะเอาไปปลุกเสกเหมือนกันและ ผมจะเอาไว้แจก สมณาคุณครับ

 

ปิด 12.2 เหรียญพระแก้ว
12.3 พระผง ร.5 ครับ

 

กราบโมทนาครับ ทั้งสองชิ้นนี่เก็บดีมาก สภาพสวยเลยล่ะ ส่วน พ่อหลวง ร ๕ ไม่เคยเห็นใครทำเนื้อผงขนาดใหญ่แบบนี้ครับ

 

แจ้งการโอนเงินรายการที่12.7ครับ
เมื่อเวลา18.22น. จำนวน 2,000.-บาท
ส่งที่อยู่เดิมครับ

 

จัดให้เลยครับ ขอบคุณครับ

 

ช่วยดู inbox ด้วยน่ะครับ

 

ดูใน inbox ด้วยน่ะครับ

 

แถม พระทุ่งเศรษฐี หลวงพ่อเกษม วัดม่วงให้น่ะครับ เล่นเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่แถมฟรีครับ ขอให้รวย

 

คุณ MAY06

 

ส่งของหมดรอบนี้ จะมีรายการที่ ๑๒ ต่อน่ะครับ

 

พรุ่งนี้ถ่ายรูปชัดๆ ของดังสุดขีดประจำปี