ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** หนทางเดียว ****

เมืองใด ผู้นำกล่าวสัจจะ... ประชาชน มีโอกาส
บ้านนั้น พ้นภัย

เมืองใด ผู้นำไม่ประกาศสัจจะ ....ประชาชน ขาดโอกาส
รอดพ้นกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สงสารคนใต้โลก ****

อเมริกา ไม่อดทนการยั่วยุ จะลำบาก
ความรุนแรง นำไปสู่ความพ่ายแพ้ สูญเสียใหญ่หลวง
อเมริกา ต้องมีสัจจะ จึงจะรอดพ้นกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** อย่าเอาท้องฟ้ามาเป็นสนามรบ ****

บ้านเมืองใด...ยิงอาวุธจรวดนำวิถี ทำลายกัน
ย้านเมืองนั้น....จะล่มจมหาย

ผู้มีอำนาจคนใด...ฝ่าฝืนโองการสวรรค์
ผู้มีอำนาจและบ้านเมืองท่าน....จะไม่รอดพ้นภัย

คิดก่อนทำ...จะไม่เสียใจ เมื่อตายไปแล้ว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** อนาคตเพื่อนบ้าน ****

หาก ...ใช้กำลังบุกยึดดินแดนไทยเมืองศาสนศาสตร์
ต่อไป ....จะไม่มีแผ่นดินให้ยืน
แผ่นดินจะยุบจมลงไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สันติธรรม ****

เพื่อนบ้านกัน เราควรรักกัน
ลืมเรื่องในอดีต มาจับมือร่วมกัน
พัฒนาเมืองของเรา ไปด้วยกัน
ก้าวไปพร้อมกัน เจริญพร้อมกัน

ไม่แบ่งแยก แข่งขันกัน
เราควรผนึกกำลังกัน ในภูมิภาค
บ้านเธอมีดินมีน้ำ บ้านฉันมีครัว มีรถ มีเรือ เรือบิน มีมือดี
เรามาร่วมมือกัน ทำสวนครัวโลก
ค้าขาย เติบโตไปด้วยกัน

เราพี่น้องกัน หน้าตาเหมือนกัน
ทำเลาะกันทำไม เสียเวลาและเสียหาย
อย่าหลงคารมณ์คนบ้านไกล
เขาจะหลอกใช้ ให้เราตีกัน
สุดท้าย เพื่อนก็เสียหาย
เขาก็มาครอบครอง

มาทำสวนครัวโลกกันนะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ปิดโลก เปิดธรรม ****

พระยาพิชัย...พบ โลกุตตระธรรมแล้ว
รัชกาลที่ ๑ ....พบ โลกุตตระแล้ว
ที่ ถ้ำกระบอก
ท่านต้องค้นหาเอง จึงจะเจอ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ทิเบตร้อนสุด
ธารน้ำแข็งหิมาลัยละลายเร็วขึ้น​

​

อุณหภูมิบริเวณที่ราบสูงทิเบต หลังคาโลกสูงขึ้นถึง 0.3 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มขึ้นต่อทศวรรษสองเท่า จากการศึกษาของกรมอุตุนิยมวิทยาของทิเบต อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้ธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยละลายเร็วขึ้น​

ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่สูงในเขตร้อนของโลกกำลังได้รับผลจากปรากฏการณ์เรือนกระจกอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับบริเวณขั้วโลก ซึ่งกว่า 50 ปีมาแล้วที่อุณหภูมิบริเวณอาร์กติก ขั้วโลกเหนือและแอน ตาร์กติกาขั้วโลกใต้ได้เพิ่มสูงขึ้น 0.5 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ​

เมื่อปี 2000 นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิบริเวณที่ราบสูงทิเบตซึ่งพบว่าอุณหภูมิไม่ได้สูงขึ้นเพราะองค์ประกอบเวลาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสูงขึ้นเพราะองค์ประกอบความสูงด้วย ผลการศึกษานี้สรุปได้ว่า ที่ราบสูงคือหนึ่งในบริเวณที่มีความอ่อนไหวที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การศึกษาในปี 2006 ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน​

ดร.ลอนนี ทอมป์สัน นักธารน้ำแข็งวิทยาผู้มีชื่อเสียงของ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า "ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาแอนดีส หรือในแอฟริกาก็ตาม อุณหภูมิกำลังสูงที่สุดในบริเวณที่สูงที่สุด" และว่าเรากำลังเห็นอุณหภูมิที่สูงขึ้นในอัตราเร่งซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการละลายหรือหดตัวของธารน้ำแข็งในที่สูงซึ่งเรากำลังเห็นกันอยู่​

อุณหภูมิที่สูงขึ้นในที่สูง ทำให้ธารน้ำแข็งภูเขาที่เทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้ และเทือกเขาแอลป์ในยุโรป กำลังละลายอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันกับธารน้ำแข็งที่เกาะกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกา​

การศึกษาขององค์กร World Glacier Monitoring Service (WGMS) ซึ่งเผยแพร่เมื่อต้นปี 2007 พบว่า ธารน้ำแข็งภูเขาหดตัวหรือละลายเร็วกว่าที่เคยเกิดในทศวรรษที่ 1980 ถึงสามเท่า โดยธารน้ำแข็งบางลงโดยเฉลี่ยเท่ากับ 66 เซนติเมตร ในปี 2005 คิดเป็นอัตรา 1.6 เท่าของทศวรรษที่ 1990 และสามเท่าของทศวรรษที่ 1980​

WGMS ทำการศึกษาธารน้ำแข็งกลุ่มตัวอย่าง 30 สายที่ภูเขาทั่วโลกจำนวน 9 ลูก โดยวัดความบางของธารน้ำแข็งเป็นเมตรเทียบเท่าน้ำ กล่าวคือ น้ำ 1 เมตรเทียบเท่าน้ำแข็ง 1.1 เมตร สิ่งที่พบก็คือ ธารน้ำแข็งภูเขาสูญเสียน้ำแข็งเทียบเท่าน้ำไปแล้ว 9.6 เมตรนับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา​

ไมเคิล เซมป์ นักวิทยาศาสตร์ของ WGMS บอกว่าเมื่อ 150 ปีก่อนธารน้ำแข็งมีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ธารน้ำแข็งในช่วงเวลา10,000 ปี แต่หลังจากปี 1850 ลดลงถึง 50% และน้อยที่สุดในช่วงเวลา 10,000 ปี​

สำหรับเทือกเขาแอลป์ข้อมูลบ่งชี้ว่าธารน้ำแข็งหดตัวเร็วที่สุดตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา โดยสูญเสียน้ำแข็งโดยเฉลี่ย 1 เมตรในทุกๆ ปี และสูญเสียน้ำแข็งไปแล้ว 19 เมตร ตั้งแต่ปี 1980 ปัจจุบันธารน้ำแข็งบริเวณเทือกเขาแอลป์มีความหนาโดยเฉลี่ยประมาณ 30 เมตรเท่านั้น​

นักวิทยาศาสตร์พยากรณ์ว่าหากอุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น 3 องศาเซลเซียล ธารน้ำแข็งในเทือกเขาแอลป์จะหายไปประมาณ 80% จะเหลือเพียงธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดและอยู่สูงที่สุดเท่านั้น ​

ส่วนเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาที่มีความสำคัญต่อประชากรโลกมากที่สุด เพราะเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของโลกรองจากบริเวณขั้วโลก มีธารน้ำแข็งหลายพันสายและทะเลสาบที่เกิดจากธารน้ำแข็งอีกหลายพันแห่ง ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดคือ ธารน้ำแข็งเซียเชน ยาว 72 กิโลเมตร อยู่ระหว่างแจมมูกับแคชเมียร์​

เทือกเขาหิมาลัยเป็นแหล่งน้ำให้กับประชากร 1 ใน 6 ของโลก เพราะเป็นต้นน้ำของแม่น้ำสำคัญในเอเชียถึง 7 สาย คือแม่น้ำคงคาในอินเดีย แม่น้ำอินดุสในปากี สถาน แม่น้ำบราห์มาปุตราในบังคลาเทศ แม่น้ำแยงซีและแม่น้ำเหลืองในจีน แม่น้ำอิระวดีในพม่า และแม่น้ำโขงซึ่งไหลผ่านหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้​

หากธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยละลายมากขึ้นจะเกิดอุทกภัย ในพื้นที่ของประเทศอินเดีย ภูฏาน เนปาล และเขตปกครองตนเองทิเบต เพราะทะเลสาบธารน้ำแข็งจะแตก และหากธารน้ำแข็งละลายจนหมดประชากรโลกหลายร้อยล้านคนจะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง​

ปี 2002 หน่วยงาน United Nations Environment Program (UNEP) ของสหประชาชาติร่วมกับ International Center for Integrated Mountain Develop ment (ICIMOD) เผยผลการศึกษาธารน้ำแข็งจำนวน 4,000 สายและ ทะเลสาบ 5,000 แห่งในประเทศเนปาลและภูฏาน โดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม และภาพถ่ายจากเครื่องบินเป็นเวลานาน 3 ปี ซึ่งพบว่าทะเลสาบธารน้ำแข็ง 20 แห่งในเนปาล และ 24 แห่งในภูฎานอยู่ในสภาวะอันตราย​

ทีมนักวิทยาศาสตร์พยากรณ์ว่าทะเลสาบเหล่านี้มีโอกาสแตกในกลางทศวรรษหน้า เพราะปริมาณน้ำมหาศาลจากธารน้ำแข็ง จะทำให้เกิดน้ำท่วมและทะเลโคลนในพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่า และสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหลายหมื่นคนที่อาศัยไกลออกไปกว่า 100 กิโลเมตร​

สถิติแสดงว่าทะเลสาบธารน้ำแข็งของเทือกเขาหิมาลัยจะแตกทุกๆ 500 ปี ทว่านับตั้งแต่ปี 1935 เป็นต้นมาทะเลสาบธารน้ำแข็งแตกแล้วถึง 12 ครั้ง ​

ปี 1954 ทะเลสาบธารน้ำแข็ง เชงหว่าง โช ในทิเบตแตก น้ำจากทะเลสาบไหลท่วมเมืองซึ่งอยู่ไกลออกไปถึง 120 กิโลเมตร ปี 1985 ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ดิก โช ในเนปาลแตก กระแสน้ำสูงถึง 15 เมตร ทำลายสถานีไฟฟ้า สะพาน 14 แห่ง และคร่าชีวิตประชาชนหลายสิบคน​

อนาคตของประชาชนหลายร้อยล้านคนกำลังน่า เป็นห่วง เจนนิเฟอร์ มอร์แกน ผู้อำนวยการโปรแกรมการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกขององค์กรกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) พยากรณ์ว่า การละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็งหิมาลัยในช่วงแรกจะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้นจนเกิดน้ำท่วมในบริเวณกว้าง แต่อีกไม่กี่ทศวรรษต่อมาสถานการณ์จะเปลี่ยนไป ระดับน้ำในแม่น้ำจะลดลง​

ธารน้ำแข็งซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดน้ำของแม่น้ำคงคา แม่น้ำอินดุส แม่บราห์มาปุตรา แม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวิน แม่น้ำแยงซี และแม่น้ำเหลืองจะหดตัวปีละ 10-15 เมตรต่อปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรหลายร้อยล้านคนในจีน เนปาล และอินเดีย​

ที่มา http://dek-d.com/board/view.php?id=914700​

 

ไทยยังมีผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ เตือนมีวงด่างขาวไม่เจ็บรีบรักษา

​

สธ. 3 เม.ย.- แพทย์เผยโรคเรื้อน ยังไม่หมดจากไทย ปี 2550 พบผู้ป่วยรายใหม่ 423 คน สาเหตุจากประชาชนขาดความตระหนัก มีความพิการก่อนแล้วค่อยมารักษา เตือนหากมีวงด่างขาว ชา หรือตุ่ม ผื่นนูนแดง ไม่คัน ไร้ความรู้สึก ให้รีบพบแพทย์

นพ.กฤษฎา มโหทาน นายแพทย์ 9 สถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคเรื้อนว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเรื้อนในประเทศไทยที่ขึ้นทะเบียนการรักษา 1,262 ราย คิดเป็นผู้ป่วย 1 ราย ต่อประชากรแสนราย และมีผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่เพิ่มขึ้นในปี 2550 จำนวน 423 ราย ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีความพิการและพักอยู่ในสถานสงเคราะห์มี 3,188 ราย และอยู่นอกสถานสงเคราะห์ 692 ราย ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการกวาดล้างโรคเรื้อนโดยก่อนหน้าปี 2537 มีผู้ป่วยโรคเรื้อนในประเทศถึง 150,000 ราย แต่จากการกวาดล้างทำให้ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคเรื้อนลดลงอย่างต่อเนื่อง

นพ.กฤษฎา กล่าวว่า จากความสำเร็จในการกวาดล้างโรคเรื้อน ทำให้ความตระหนักของประชาชนในการป้องกันและรักษาเมื่อมีอาการในระยะแรกเริ่มลดลง ส่งผลให้โรคเรื้อนจึงยังไม่หมดไปจากประเทศ ดังนั้น ภารกิจหลัก คือการเร่งค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ให้ได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด หากล่าช้าจะเกิดความพิการได้ โดยที่ผ่านมามีผู้ป่วยรายใหม่ที่มีความพิการระดับ 2 ถึงร้อยละ 14.2 ซึ่งเป็นผลจากความไม่รู้อาการแรกเริ่มของโรคเรื้อน จึงเพิกเฉยไม่เข้ารับการรักษา ปล่อยให้โรคลุกลามจนเกิดความพิการ

"อาการของโรคเรื้อนในระยะเริ่มแรก จะมีผื่นขึ้นเป็นวงขาว มีอาการชาหรือตุ่ม มีผื่นนูนแดง ไม่คัน และไร้ความรู้สึก เพราะเมื่อหยิกจะไม่รู้สึกเจ็บ หากปล่อยไว้ไม่รักษาจะเริ่มลามไปทั่วร่างกาย ผื่นแดงจะหนาขึ้น จนเชื้อเริ่มจะเข้าสู่เส้นประสาทส่วนปลาย ส่งผลให้เส้นประสาทกล้ามเนื้อพิการ จนเป็นอัมพาต ทำให้นิ้วกุด หงิกงอ ซึ่งหากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตั้งแต่อาการแรกเริ่ม แพทย์จะให้เคมีบำบัด ซึ่งให้เพียงครั้งเดียวก็สามารถรักษาได้ถึงร้อยละ 99.99 ดังนั้น หากผู้ป่วยมารักษาเร็วจะสามารถลดความพิการจากโรคเรื้อนได้" นพ.กฤษฎา กล่าวและว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่มาเมื่อเกิดความพิการแล้ว ทำให้รักษาไม่ทัน เกิดความพิการ ดังนั้น หากมีอาการเริ่มแรก อย่าเพิกเฉย เพราะหากปล่อยไว้นอกจากจะทำให้เกิดความพิการแล้ว ยังส่งผลให้เชื้อแพร่ระบาดในชุมชนเป็นวงกว้างมากขึ้น ทำให้โรคเรื้อนไม่หมดจากในประเทศ.-สำนักข่าวไทย

2008-04-03 18:22:09

ราชบุรีรับซื้อลูกน้ำตากแห้ง ลดปัญหาไข้เลือดออก​

​

ราชบุรี 3 เม.ย. - นางปาลิดา ประถมภัฎ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหลักเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า จากรายงานพบว่าในเขตเทศบาลพื้นที่ตำบลหลักเมือง มีอัตราการป่วยเป็นไข้เลือดออกอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จึงจัดโครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกขึ้น เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของไข้เลือดออก ด้วยการปราบลูกน้ำยุงลายแก้ปัญหาเบื้องต้น

นอกจากนี้ เทศบาลฯ ยังนำทรายอะเบทแจกจ่ายให้ประชาชนนำไปใส่ตามแหล่งน้ำภายในบ้านทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ ปล่อยปลาสวยงามลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะในช่วงฤดูฝน จัดประกวดบ้านและชุมชนปลอดลูกน้ำยุงลาย โดยเทศบาลฯ จะรับซื้อลูกน้ำตากแห้งในราคากิโลกรัมละ 300 บาท เพื่อตัดวงจรการเกิดยุงลาย โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่อย่างดี และเทศบาลฯ จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในระยะยาว. - สำนักข่าวไทย

2008-04-03 14:36:27

ชาวอีสานเผชิญภัยแล้งหนัก พบขาดน้ำยกหมู่บ้านนับเดือน​

​

กาฬสินธุ์, ศรีสะเกษ 3 เม.ย.- ศูนย์ทรัพยากรน้ำบาดาล ภาค 3 ขอนแก่น ส่งหน่วยรถผลิตน้ำดื่มเข้าประจำพื้นที่กาฬสินธุ์ ช่วยผู้ประสบภัยขาดแคลนน้ำอย่างหนักมานานกว่าเดือนทั้งหมู่บ้าน ส่วนศรีสะเกษ เร่งช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หลังประกาศเขตประสบภัยทุกอำเภอ

นายสมเกียรติ กำจรจายฤทธิ์ ช่างขุดเจาะชั้น 3 ศูนย์ทรัพยากรน้ำบาดาล ภาค 3 จ.ขอนแก่น นำรถบรรทุกน้ำดื่มขนาด 20,000 ลิตร และรถผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่ที่สามารถผลิตได้ชั่วโมงละ 2,000 ลิตร เข้าประจำการในพื้นที่บ้านภูเงิน หมู่ 8 ต.สะอาดไชยศรี อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านถิ่นทุรกันดาร และชาวบ้านประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนักทั้งหมู่บ้านมานานกว่า 1 เดือน โดยจะประจำการอยู่ในพื้นที่จนกว่าจะพ้นวิกฤติ

ด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้วทั้ง 22 อำเภอ 210 ตำบล 2,678 หมู่บ้าน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง พร้อมกับตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกอำเภอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมวางแผนการแก้ปัญหาในระยะยาว โดยเฉพาะในพื้นที่เกิดปัญหาซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

2008-04-03 10:47:21

ผลพวงข้าวราคาแพง จิตแพทย์แนะชาวนาอย่าริษยากัน​

​

สธ. 3 เม.ย. - นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวเพิ่มขึ้น หากมองในแง่บวกถือว่าเป็นผลดีต่อชาวนา อย่างน้อยชาวนาก็ขายข้าวได้ราคาดีขึ้น มีเงินเพิ่มมากขึ้น ส่วนผลเสียอาจก่อให้เกษตรกรเกิดความโลภได้ เนื่องจากราคาข้าวสูงขึ้นอาจมีปัญหากับเกษตรกรด้วยกันเอง อาทิ มีการแย่งน้ำทำนา ขโมยข้าว รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเกษตรกรชาวนาทำให้เกิดอาการ ผิดหวัง เสียใจ หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน อารมณ์ร้อน ตัดสินใจโดยไม่ทันคิด เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน อาจนำมาถึงขั้นฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตาม ช่วงหน้าร้อนพี่น้องเกษตรกรควรหันมาดูแลสุขภาพและไม่ควรเครียด ซึ่งปัญหาแบบนี้เกษตรกรส่วนใหญ่คุ้นเคยดีอยู่แล้ว หากเข้าใจปัญหาก็ควรรีบแก้ไขโดยไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง และ ขณะนี้ยังไม่พบรายงานว่ามีผู้ป่วยที่เครียดจากปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้ารับการรักษาแต่อย่างใด ตนเห็นว่าหากเกษตรกรที่คิดจะลงทุนในขณะนี้ควรคิดให้รอบคอบเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา และขอเตือนเกษตรกรทุกคนว่าไม่ควรไปคิดอิฉฉาริษยาเกษตรกรด้วยกันเอง เพราะมีแต่จะเกิดผลเสียตามมา ควรหันหน้าพูดคุยสามัคคีกันดีกว่าทะเลาะกันให้เป็นเรื่องบานปลาย.-สำนักข่าวไทย

2008-04-03 18:11:56

ที่มา http://news.mcot.net/index.php

 

<CENTER>"หมอลักษณ์" ฟันธงอีก 5 ปีเมืองกรุงจมน้ำ!! ชี้ควรย้ายเมืองหลวง </CENTER>
<!--detail--><!--images-->
<CENTER>
</CENTER>
"ผมทำนายว่า จากนี้ไป 2-3 ปี กทม.จะมีการทรุดตัวของแผ่นดินมาก มีสิทธิ์ที่กทม.จะจมอยู่ใต้น้ำภายในเวลา 5 ปี ยิ่งพื้นที่ที่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา(มีโอกาสจมน้ำมาก) ถึงเวลาที่เราควรจะต้องย้ายเมืองหลวงเสียที "

(นายลักษณ์ เรขานิเทศ ได้ให้คำทำนายนี้เอาไว้เมื่อปี พ.ศ.2548)

ที่มา http://www.mthai.com/webboard/5/152731.html

หมอลักษณ์ฟันธงสมัครจะได้เป็นนายก

ดวงนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ลัคนาอยู่ในราศีมังกร ดาวพฤหัสเป็นวินาศกับนายสมัคร ถือเป็นเทวีโชค มีกำลังหนุนทางลับ ฟันธงเลยว่า พรรคพลังประชาชนจะได้รับการเลือกตั้งมากที่สุดล้านเปอร์เซ็นต์

นายสมัครจะได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว โดยอยู่บนพื้นฐานของความขัดแย้งที่น่ากลัว รัฐบาลจะอยู่ได้ไม่นาน โหรฟันธงกล่าวต่อว่า สิ่งที่นายสมัครต้องระวังที่สุดคือ เรื่องสุขภาพและปาก ดังนั้น นายสมัครควรจะเปลี่ยนบุคลิกเป็นในลักษณะสมานฉันท์

อย่างไรก็ตาม ผมเป็นห่วงว่า ปี 2551 นี้จะเกิดการนองเลือด เพราะความทุเรศทุรัง เพราะรัฐธรรมนูญเกิดในเกณฑ์มรณะ หลายคนไม่เห็นชอบด้วย ความไม่ชอบธรรมจะเกิดขึ้นมากมาย เลือกตั้งแล้วจะมีปัญหากับ กกต.หรือไม่ ที่สำคัญเลือกตั้งไปแล้วจะมีคนบางกลุ่มไม่ยอมรับกติกาของรัฐธรรมนูญ

รวมกลุ่มประท้วงแล้วจะเกิดปะทะกับอีกกลุ่ม จะเกิดนองเลือด ประชาชน ข้าราชการไม่ควรแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ควรอยู่ในฝ่ายของพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้คาถา

 

ภาพมันฟ้อง!..ชั้นน้ำแข็งขั้วโลกใต้ถล่ม ​

​

[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]เมื่อ 26 มี.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดของศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติ มหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ฟ้องว่า ชั้นน้ำแข็งวิลคินส์ ในแอนตาร์กติก ขั้วโลกใต้ แตกเป็นรอยร้าวและทรุดลงเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ในขณะที่ส่วนของภูเขาน้ำแข็งขนาด 41 คูณ 24 กิโลเมตร แตกแยกตัวออกมาในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของด้านหน้า เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์โลกร้อน[/FONT]

[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]ชั้นน้ำแข็งวิลคินส์เป็นแผ่นน้ำแข็งลอย ตั้งอยู่ห่างจากทวีปอเมริกาใต้ลงไปทางใต้ 1,609 กิโลเมตร บริเวณฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรแอนตาร์กติก การเสียพื้นที่น้ำแข็งล่าสุดนี้จากพื้นที่ใหญ่ของชั้นน้ำแข็ง 12,950 ตารางกิโลเมตร เป็นผลมาจากรอยร้าวที่เป็นแนวยาวระหว่างสองแผ่น หากมีอะไรมาสะกิดอีกนิด จะทำให้ส่วนค้ำจุนสุดท้ายถล่มลงมา และชั้นน้ำแข็งนี้จะเสียพื้นที่ไปกว่าครึ่งภายในเวลาไม่กี่ปีนี้ [/FONT]

[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]ที่มา : ข่าวสด[/FONT]
[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]27 มีนาคม 2551[/FONT]
http://www.aksorn.com/library/library_detail.php?content_id=1557&Type_id=21

 

อีกไม่นาน..ผึ้งอาจจะหมดโลก!​

​

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ในสหรัฐอเมริกา มีข่าว "สิ่งแวดล้อม" เกี่ยวกับ "ผึ้ง" ชิ้นเล็กๆ แต่นำเสนอข้อมูลเอาไว้อย่างแปลกประหลาด ว่าปรากฏการณ์ "Colony Collapse Disorder" (CCD : ซีซีดี) ได้หวนกลับมาเล่นงานผึ้งในสหรัฐอีกครั้ง หนนี้จู่ๆ เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งใน 22 มลรัฐ ก็พบว่า

ผึ้งที่ตัวเองเลี้ยงไว้กว่าร้อยละ 50 หายสาบสูญไปจาก "รัง" โดยไม่ทราบสาเหตุ!

</TD></TR></TBODY></TABLE>
"ซีซีดี" เป็นชื่อเรียกสภาวะที่ "ผึ้งงาน" ทิ้งรังไปกันหมด ปล่อยให้ "ผึ้งนางพญา" กับผึ้งวัยละอ่อนตายคารัง! ปรากฏการณ์ "ซีซีดี" พบในสหรัฐเมื่อประมาณ 30-40 ปีก่อนจนถึงทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังฟันธงให้ชัดลงไปไม่ได้ว่า มันมีสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ที่เคยมีการตั้งสมมติฐานกันไว้ก็เช่น..

1. เป็นเพราะผลกระทบจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม
2. การเกิดโรคระบาด
3. การใช้ยาฆ่าแมลง
4. ผลจากการที่พืชตัดต่อพันธุกรรมเข้าไปปนเปื้อนกับธรรมชาติ
5. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

มาล่าสุด "ซีซีดี" ได้ลุกลามไปยังหลายประเทศในทวีปยุโรป ทั้งโปแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี

เบื้องต้นหลังจากใช้เวลาวิจัยอยู่หลายเดือน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย "Landau" ได้ออกมาประกาศชัดเป็นเจ้าแรก ว่า "ซีซีดี" ที่กำลังเกิดขึ้นในเยอรมนี เป็นเพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจาก "เสารับส่งสัญญาณมือถือ" และตัว "โทรศัพท์มือถือ" เองนั้นมีคุณสมบัติในการทำลายระบบจดจำทิศทางของผึ้ง ทำให้พวกมันบินกลับรังไม่ถูก!

นักวิจัยยอมรับว่า ปัญหานี้คงหาทางแก้ได้ยากเพราะมือถือได้กลายเป็นอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านแทบทุกคนไปแล้ว ผลกระทบที่จะตามมาแน่ๆ จากภัย "ซีซีดี" ก็คือ ระบบนิเวศจะรวน เพราะพืชบางชนิดจะขาดผึ้งมาผสมเกสรให้ตามธรรมชาติ

http://www.aksorn.com/library/library_detail.php?content_id=476&Type_id=21

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="95%">

[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]ทึ่ง! ย่างปลา..ด้วย "ฝ่ามือ" เปล่าๆ [/FONT]​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

<TABLE class=px15 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อ 9 มี.ค. นายเหอ ตี้เหิง ชาวจีน ที่อ้างตนว่า มีพลังจิตและตั้งสมญานามให้ตัวเองว่า "อัคคีเทพ" โชว์พลังจิต ย่างปลาด้วยมือเปล่า ให้ผู้ชมราว 7,000 คนในโรงละครลาร์ก ในเมืองกวางโจว ได้ตกตะลึง โดยนายเหอใช้สองมือเปล่าถือปลาสดไว้และใช้เวลารวบรวมพลังจิตไม่ถึง 1 นาที ฝ่ามือก็เกิดควันไฟขึ้นและปลาในมือเริ่มสุก[/FONT]

[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]เจ้าของสมญา "อัคคีเทพ" เผยว่า ตนรวบรวมพลังจิตด้วยวิธี "ชี่กง" เพ่งคลื่นสมองไปยังปลาในมือ และคิดว่า กำลังย่างปลาตัวหนึ่งด้วยแก๊สอุณหภูมิสูง 1,000 องศาเซลเซียส พร้อมกับกล่าวว่า "พลังจิตสามารถเอาชนะธรรมชาติได้"[/FONT]

[FONT=Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif]สำหรับ "ชี่กง" เป็นศาสตร์ของจีนที่มีมาแต่โบราณ หลักการคือ รวบรวมพลังภายใน หรือพลังลมปราณแล้วเพียงกระแสปล่อยพลังงานออกมาทางฝ่ามือ[/FONT]

ที่มา : ข่าวสด
11 มีนาคม 2551
http://www.aksorn.com/library/library_detail.php?content_id=1523&Type_id=21
</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

2 ก.ย. 2547 2 จ้าวป่า<O</O
5 ก.ย. 2547 3 ปลายักษ์<O</O
27 ก.พ. 2550 ตามหลังปลายักษ์<O</O
3 เม.ย. 2551 บทความกับความทุกข์<O</O
ผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับประเทศซาอุดิอารเบียได้เตรียมสร้างที่หลบภัยสงครามนิวเคลียร์ ก็นึกถึงบทความที่ผมได้จั่วหน้าไว้และคิดว่าสิงห์โตตัวแรกคงจะใกล้ตื่น จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่คงจะใช้เวลาในการรบ 8-9 ปี สิงห์โตตัวสุดท้ายคงจะตื่นขึ้นมา หมายถึงสงครามนิวเคลียร์และเป็นการสิ้นสุดภัยพิบัติ ในปี พ.ศ. 2561<O</O
ท่านทั้งหลายยังไม่ต้องกังวลกับเรื่องสงคราม ผมอยากให้ตั้งรับกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้นก่อน<O</O
อันดับแรก เรื่องน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ ขอให้ท่านเตรียมความพร้อมเรื่องอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ สถานที่ เผื่อน้ำท่วมขังเป็นเวลานานๆ ให้เตรียมไว้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 เดือน<O</O
อันดับที่สอง เรื่องแผ่นดินไหวจนทำให้ตึกสูงๆในกรุงเทพฯถล่ม ผมคิดว่าอาจจะเกิดขึ้นพร้อมกับซึนามิที่จะถล่มภาคใต้ (ปลายักษ์ตัวที่ 2) ดังนั้นผู้ที่อยู่ทางภาคใต้ควรเตรียมพร้อมไว้ด้วย<O</O
ส่วนปลายักษ์ตัวสุดท้ายน่าจะมาพร้อมกับสิงห์โตตัวสุดท้าย<O</O
บทความที่ผมได้ลงวันนี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้นโดยอาศัยสัญญาณที่รู้มา แต่ไม่รู้วันเวลาที่แน่นอน<O</O
<O</O
<O</O

 

โหรคมช.'หมอวารินทร์'เปิดชะตาเมืองกรรมยังไม่สิ้น รบ.อยู่ไม่เกินสิ้นปี ชี้'อนุพงษ์'ดวงถึงนายกฯ

วันที่ 04 เมษายน 2551 - เวลา 19:54:05 น.

​

'หมอวารินทร์' โหร คมช.ชี้กรรมประเทศยังไม่หมด ฟันธง พ.ค.เกิดเหตุปะทะเดือด นำสู่ทหารเข้ามาปฏิรูปอีกรอบ ชี้รัฐบาล 'สมัคร' อยู่ไม่เกินปี 2551 เหตุหลายกลุ่มจ้องล้ม ระบุนายกฯอาจยุบสภาแก้ปัญหา จับตา 'ทักษิณ' กลับประเทศรอบสามเกิดเหตุวุ่นวาย ทำนายปีนี้จะสูญเสียผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ชี้ดวงชะตา 'อนุพงษ์' ฐานบุญเสริมบารมีอาจถึงนายกฯ

นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่หมู่บ้านสุขิโต ภายในวิหารหลวงปู่เกวาลัน ถึงดวงประเทศภายหลังการเข้ามาบริหารของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า เรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับกระแสของโลก ส่วนกระแสบุญของนายสมัครขึ้นมาได้โดยอาศัยบุญจากผู้อื่น ทำให้มีปัญหาอยู่เสมอ อีกทั้งกรรมของชาติบ้านเมืองยังไม่จบสิ้น ซึ่งจะให้ดีขึ้นต้องรอถึงปี 2552 จากนั้นบ้านเมืองจะค่อยๆ พักฟื้น และค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งนี้ สาเหตุที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายมาจากฝ่ายในรัฐบาลเอง และกลุ่มกระแสข้างนอกคือพวกที่สูญเสียผลประโยชน์ทำให้เกิดความไม่มั่นคงที่สำคัญคือกรรมของแผ่นดินยังไม่หมด

เมื่อถามว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จะมีปฏิวัติรัฐประหารหรือเหตุนองเลือดหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า จะมีบุคคลที่จะเข้ามาประคองชาติบ้านเมือง ดูแล้วสีเขียวยังไม่หมด ยังต้องกลับเข้ามาดูแล แต่จะมาดูแลในลักษณะที่ไม่เหมือนกับการปฏิวัติที่ผ่านมา แต่เหมือนเข้ามาทำการปรับเปลี่ยนคล้ายกับการปฏิรูป ต่อจากนี้จึงยังเป็นสีเขียวอยู่ เพราะมันเป็นเวลาของกลุ่มนี้ที่เขายังดูแลอยู่ ตนเคยบอกมาแล้วว่าถึงอย่างไรกลุ่มนี้ก็ยังไม่หลุดไปยังต้องอยู่อีกหลายปี

'เป็นกลุ่มสีเขียวที่อยู่ในปัจจุบัน และกลุ่ม คมช.ด้วย คือยังเหมือนไม่หมดหน้าที่ ครั้งก่อนที่ทำก็เพื่อประคอง ไม่ได้ทำจริงๆ ผมบอกท่านสนธิ (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) แล้วว่า ขึ้นไปทำปฏิวัติเถอะ เวลาปีเดียวไม่พอในการที่จะทำอะไรต่ออะไรให้เรียบร้อย เห็นหรือไม่ว่าพอขึ้นต้นไม่ทันไรก็ลงแล้ว คือทำตรงนั้นท่านต้องการยุติไม่ให้เกิดการประหัตประหาร ผมเห็นตั้งแต่แรกในช่วงเดือนมกราคม 2549 ว่า แผ่นดินจะเดือดร้อนจะวุ่นวาย คนจะประหัตประหารกัน และผมเห็นผู้นำรัฐบาลจะถูกปองร้าย ท่านสนธิก็ถามว่าถ้าอย่างนั้นมันไม่ยุ่งเหรอ แต่ผมเห็นท่านถือธงนำออกมา ดังนั้น จะต้องมีการปฏิวัติ ท่านก็ถามผมว่าใครจะปฏิวัติ ผมก็บอกว่าก็ท่านไง เพราะผมเห็นท่านถือธง ซึ่งมีความหมายว่า ท่านคือผู้นำชัยมาสู่บ้านเมือง' นายวารินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า คนที่จะปฏิรูปรอบใหม่เป็นกลุ่มคนในเครื่องแบบหรือกลุ่มใหม่ เจ้าของสำนักสุขิโต กล่าวว่า เป็นการปฏิรูปจากคนกลุ่มใหม่และกลุ่มเก่าประคองกัน ซึ่งขณะนี้ไม่สามัคคีกัน ผนวกกับกรรมของแผ่นดินยังมี ดังนั้น เหตุตรงนี้เกิดแน่นอน จึงทำให้มีการทำบุญเพื่อแก้กรรมประเทศวันที่ 7 เมษายนนี้ โดยเชิญพระพุทธรูปปางพิชิตมารนำขึ้นประดิษฐาน ณ ฐานพุทธมณฑลล้านนา เพื่อเป็นการแก้เคล็ด เราก็พยายามช่วยเต็มที่ ตนคงช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่คงไม่ได้ทั้งหมด

เมื่อถามว่า การเผชิญหน้าของกลุ่มเก่าและกลุ่มรัฐบาลนี้จะเกิดการนองเลือดใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า กำลังจะเกิด แต่ต้องดูอานิสงส์หลังการแก้กรรมประเทศในวันที่ 7 เมษายนนี้ สาเหตุคงไม่ได้เกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่น่าจะมาจากคนในกลุ่มของท่าน ทั้งรัฐมนตรีที่อยู่ในรัฐบาลนี้ และผู้ที่เสียประโยชน์ไปด้วย รวมถึงคนใน 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยด้วย แต่เป็นบางคนไม่ใช่ทุกคน กลุ่มเหล่านี้ก็เสียประโยชน์ อีกทั้งความแตกแยกของรัฐบาลกับกลุ่มของเขาเองมีมาก ซึ่งเป็นลักษณะของการคุกรุ่นพร้อมที่จะระเบิด

'อย่างคุณสมัครเข้ามาเป็นนายกฯได้อย่างไร เราก็รู้กันอยู่ โดยดูที่จิตสำนึกของท่านต่อบ้านเมือง ท่านก็มีอยู่ ท่านพยายามปรับหลายอย่าง แต่ไม่ได้ผล ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกว่านายสมัคร บารมีสู้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ แต่พอหลังจากที่คุณสมัครไปทำบุญกับหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ ผมก็มานั่งดูอีกครั้งเห็นว่าท่านเป็นนายกฯ จากนั้นไม่เกินอีก 2-3 สัปดาห์ เขาก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นมหัศจรรย์ของบุญ ซึ่งไม่รู้ใครที่แนะนำท่าน เป็นการเปิดฐานบุญ ตรงกันข้ามกับคุณอภิสิทธ์ที่ลอยไปเลย' นายวารินทร์ กล่าว

นายวารินทร์ กล่าวว่า อย่างกรณีของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กับพล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในอดีตมีการชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. ความจริง ฐานบุญ พล.อ.มนตรี นำมา แต่ก่อนเข้าพรรษา พล.อ.อนุพงษ์ ไปทำบุญ แล้วท่านมาทำบุญที่วัดลำปางเหนือ พอกลับมาผมจับมือท่านเลยบอกว่า ดีใจด้วยท่าน ผบ.ทบ. ซึ่งวันนั้นมีพยานอยู่ 4-5 คน ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ 28 กรกฎาคม ตัวท่านเองยังบอกว่า คงไมได้เป็นหรอก คงเป็นพี่พรั่ง (พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม) แต่ที่สุดแล้วท่านก็ได้เป็น อย่างที่บอกว่าเรื่องบุญ ต้องทำให้ถูกที่ถูกทาง คนที่ทำบุญก็หมดบุญได้ ต้องมีการเติมบุญอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถามว่า นายสมัครจะแก้ปัญหาที่กำลังปะทุได้อย่างไร นายวารินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าลำบาก ตอนนี้ก็พยายามหาทางแก้ไข ท่านเข้ามาตัวคนเดียว ตอนนี้บอกตรงๆ ว่า นายสมัครมีแต่กองทัพเท่านั้นที่ให้การสนับสนุน เวลานายสมัครไปไหนต้องมีผบ.ทบ.ไปด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านกลัวว่าจะมีปฏิวัติ แต่เพื่อเป็นการพึ่งพิงกัน เพราะอย่างไรแล้วแต่ อำนาจเต็มก็อยู่ที่นายสมัคร อย่างน้อยเป็นนายกฯ ก็มีอำนาจยุบสภาได้ และทำได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุมีทางเดียว คือยุบสภา ซึ่งโอกาสเป็นไปได้สูง

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะอยู่บริหารประเทศผ่านพ้นปี 2551 หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า คิดว่าไม่พ้นปีนี้ แค่พ้นเดือนพฤษภาคมไปให้ได้ก่อน แต่ขณะนี้ยังมีปัจจัยในการต่อบุญได้อยู่ อิทธิฤทธิแพ้บุญ แต่บุญแพ้กรรม ซึ่งกรรมคือตัวกำหนด กรรมจะหมดหรือจะคลายไปต่อเมื่อมีการอโหสิกรรม บ้านเมืองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเราต้องแก้เป็นช่วงๆ ถามว่าชีวิตที่สูญสิ้นในแผ่นดินนี้มากเท่าไหร่ พวกตายโหงก่อนอายุขัยมากมาย พวกนี้มันเป็นพลังที่เรามองไม่เห็น รวมกันเมื่อใดก็ย่ำแย่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองเป็นหลักเช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเช็คบิล ใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า ใช่ แล้วอาจจะมีการสูญเสียบุคคลสำคัญระดับผู้ใหญ่ที่รู้จักกันทั่วประเทศ นอกจากนั้น ปัญหาความขัดแย้ง รอยร้าวต่างๆ จะปรากฏขึ้นมา ก่อนที่จะเกิดตรงนี้จะเกิดจากภัยธรรมชาติต่างๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่เหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ น้องๆ สึนามิ ลักษณะคล้ายแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ก่อให้เกิดความวุ่นวาย มันจะพลิกสถานการณ์ต่างๆ อย่างที่บอกว่า คนเราทำลายธรรมชาติ แล้วธรรมชาติก็จะกลับมาทำร้ายเราแต่ตนจะดูผลบุญอานิสงค์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 เมษายนนี้อีกครั้ง เพราะตรงนี้เราทำให้กับบ้านเมืองโดยเฉพาะ เหมือนที่เราเคยทำในตอนนั้นที่มันจะเกิด แต่พอทำแล้วก็ดีขึ้น แต่ความสูญเสียก็ยังต้องมี

'พระปางพิชิตมารที่เรามาสร้าง มีพลังจากผู้ที่มีอำนาจมาสร้างคือทหาร เพราะทหารถือเป็นเสาหลักของบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองเข้มแข็ง แต่ถ้าหากบ้านเมืองไม่มีผู้ที่ปกป้องแล้วก็พังเลย เหมือนเป็นสัญลักษณ์ เอกลักษณ์ของบ้านเมือง แล้วต่อไปหลังจากปีนี้หลังจากเกิดความสูญเสียก็จะเกิดความสั่นคลอนของสถาบันต่างๆ แล้วสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องกรรมของแผ่นดิน' เจ้าสำนักสุขิโต กล่าว

เมื่อถามว่า ประชาชนกลัวเรื่องปฏิวัติอยากให้ท่านฟันธงว่าจะมีหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวย้ำว่า มีการปฏิรูปฯ แต่ครั้งนี้จะต่างจากครั้งที่แล้วจะวุ่นวายหนัก อาจจะมีการปะทะเสียเลือดเนื้อ ส่วนจะมากหรือน้อยไม่รู้ ต้องดูก่อน แต่ในภาพที่เห็นช่วงต้นปี ตนเห็นว่ามีการตายเป็นเบือ แต่ทั้งนี้ต้องดูจากวันที่ 7 เมษายนก่อน หลังจากที่เราต่อบุญ ตอนนี้เราต้องต่อบุญเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมัคร จะแตกแยกกัน นายวารินทร์ กล่าวว่า มีแน่นอนเหมือนกับคนละทางเลย ตอนแรกประกอบกันได้ แต่พอช่วงหนึ่งสถานะของกรรมทำให้ต้องแยกกัน เพราะผลบุญทั้งคู่หมดกัน และผลกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมด นอกจากนั้น อำนาจเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้การไม่ยอมทำตามเกิดขึ้น แต่วิบากกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมด เพราะยังต้องอาญาแผ่นดิน ผลกรรมยังมีอีกมากตอนเป็นนายกฯ ฆ่าไก่ไปไม่รู้เท่าไหร่ในช่วงไข้หวัดนกระบาด รวมถึงคนตายไปเท่าไหร่ในการฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติด ทำให้กรรมยังไม่หมดต้องเผชิญกรรมอีกนาน วิบากกรรมท่านหนัก ไม่น้อยเลย

'กลับมาครั้งแรกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มีอะไร และครั้งที่สองลูกน้องก็เข้ามาเหมือนเดิม สถานการณ์เริ่มนิ่ง แต่คอยดูการกลับมาครั้งที่สาม ให้คอยดูว่ามันจะเริ่มวุ่น ความจริงน่าจะเข้ามาต่อสู้คดี อย่าเพิ่งไปเดินสาย เห็นกลุ่มที่มาสนับสนุนก็มา กลุ่มที่สูญเสียประโยชน์จากคุณทักษิณที่ท่านไปทำเขาไว้เยอะก็มา กลุ่มที่คุณทักษิณเองก็ไม่รู้ว่าไปทำ แต่บริวารไปทำก็มีจำนวนมากเยอะมาก' นายวารินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า อนาคตหลังจากนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป นายวารินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นใครมีบารมีพอที่จะมาเป็นนายกฯ หากขึ้นมาก็ดำรงตำแหน่งไม่นาน นายอภิสิทธิ์ ก็มีสิทธิ์ได้ขึ้น แต่ขึ้นมาแล้วก็ไม่นาน ความเป็นไปได้ที่นายสมัคร ยุบสภาแล้วจับมือ พล.อ.อนุพงษ์ ช่วยกันดูแลบ้านเมืองยังมีอยู่

เมื่อถามว่า อาจจะเป็นการปฏิรูปฯ ที่ให้ทหารมาปกครองแผ่นดินใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า เป็นไปได้

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.อนุพงษ์ อาจขึ้นมาเป็นนายกฯ ได้ใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า อาจจะเป็นได้ แต่ตอนนี้บารมียังไม่ถึง ต้องดูการต่อบุญของท่านในอนาคต ตนจะดูเรื่องบุญและกรรมเสริมกัน ตนเคยบอกว่าท่านอยู่ในเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไม่ครบ 3 ปี อาจจะเป็นการพลิกขึ้นหรือย้ายออก ยังแกว่งอยู่ ยังมีบุญค้ำอยู่ ซึ่งไม่เกินปี 2552 ตอนนี้บุญขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ต่อบุญ

'เหมือนกับ พล.อ.สนธิ ให้ท่านมาต่อบุญ แต่ท่านไม่มาเองให้คนอื่นมาก็ดวงตก ส่วนประชาชนที่จะช่วยบ้านเมืองให้รอดพ้นวิกฤติไปได้นั้น ต้องพยายามปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้ คือการเดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อย่าทะเยอทะยาน รุกล้ำผู้อื่น อย่าไปคดโกง อยู่ในศีลธรรม ก็จะช่วยกันประคับประคองไปด้วย' นายวารินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 6-7 เมษายน 2551 สำนักสุขิโตจะประกอบพิธีทำบุญสืบชะตาประเทศ และมีพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปปางพิชิตมาร เพื่อนำขึ้นประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลล้านนา จ.เชียงใหม่ รวมถึงการหล่อพระประจำวันเกิดทั้งหมด 9 ปาง โดยมีตัวแทนจากเหล่าทัพ และอดีตสมาชิก คมช. เข้าร่วมพิธีอย่างคึกคัก อาทิเช่น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นตัวแทนของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รวมถึง พล.ท.สำเริง ศิวาดำรงค์ แม่ทัพภาคที่ 3

ที่มา http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=1742

 

ผมคิดว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อตอนเกิดเหตุการณ์ 9/11 เมื่อปี ค.ศ.2001 จน"บุช" ได้ประกาศจะทำสงครามศาสนากับพวกอาหรับ เมื่อมาพิจารณาดูจากคำทำนายว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 จะกินเวลาประมาณ 8-9 ปี ก็น่าจะมาสิ้นสุดลงในปี ค.ศ.2009 (2+9=11) ซึ่งเป็นปีที่มีการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ และจะตรงกับคำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล ที่กล่าวเอาไว้ว่าปีที่รวมกันได้เป็นเลข 11 คือปีที่จะเกิดเหตุการณ์วันพิพากษาโลก ซึ่งก็คือปี พ.ศ.2552 ตามที่ผู้รู้หลายท่านได้ทำนายเอาไว้ครับ

​

 

อืมมมม น่ากลัวจัง

 

เป้าหมายการพัฒนาประเทศ ด้วย GDH
น่าจะเป็นแนวทางที่ดี มีโอกาส ในทศวรรษนี้ น่ะ
อันเป็นหนทางไปสู่ สังคมที่ดี มีอารยธรรมขั้นสูง ต่อไป
สุดท้าย จะไม่นิยมทุน หรือ เห็นทุน เป็นเพียง เกมกีฬา เท่านั้นเอง

 

สิ่งที่คาดการณ์กันว่าจะต้องเกิดขึ้นในปี 2551-2552 นี้​

​

ข่าวจากทริปภูทับเบิกพระสุปฏิปันโน (หลวงพ่อในป่า) บอกว่าทุกอย่างเป็นธรรมดา ถ้าภัยพิบัติจะเกิด เราไม่ทำอะไรมันก็เกิด เราทำดีมันก็เกิด เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา น้ำท่วมโลก ไฟบัลลัยกัลป์ ก็เคยมีมาหมดแล้วแต่ถ้าเราทำดีบุญกุศลก็เป็นของเรา ติดตัวเราไปตลอด ท่านบอกลูกศิษย์ให้เตรียมจิต ฝึกสมาธิภาวนา (เขาได้ลมสบายกันหมดแล้ว) เตรียมที่อยู่อาศัยที่ในที่สูง เตรียมอพยพได้เมื่อท่านสั่งมา

น้ำมหาศาลจะมาจากเมืองจีน สึนามิจะมาใหญ่กว่าเดิม แต่เวลาใดไม่ใช่กาลที่จะรู้ในขณะนี้ ฟ้าจะแดงแปลกๆ แล้วรีบอพยพเสีย เวลาจะเหลือไม่เกิน ๒๔ ชม.(หลังจากท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง) อาจมีสงครามหรือจราจลก่อนนั้น ใครลังเลสงสัยชักช้า ไม่มีพระและครูอาจารย์ชี้นำจะไม่มีโอกาสอีก ท่านบอกลูกศิษย์ให้ช่วยตัวเองก่อน ท่านบอกว่าคนกลุ่มพลังจิตจะตัดสินใจได้ดี เรื่องบอกให้คนอื่นเชื่อนั้นตามบุพกรรม เพราะถ้าเราช่วยคนอื่นได้ คนเป็นพ่อแม่เขาเอาบุญเขาช่วยลูกให้เป็นคนดีได้หมดทั้งโลกแล้ว ถ้าบอกแล้วเขาปรามาสก็อุเบกขา ขณะนี้เป็นเวลาเตรียมความเชื่อและความพร้อมของตนเอง เพราะภัยอยู่ใกล้มากแล้ว

ผู้ที่เชื่อก็ให้หาที่ปลอดภัยในที่สูง ไปเตรียมน้ำ อาหาร ที่พักไว้ ยึดมั่นในพุทธคุณ ทำจิตให้สะอาด ถ้าตัวเราเองได้สัญญาณจากท่านจะรีบโพสต์ทันที (ถ้าเน็ตยังอยู่)เปิดเผยชื่อท่านไม่ได้เพราะยังไม่ถึงเวลา อย่าถามเลย หลวงพ่อในป่า

 

โลกร้อนก็เป็นสัญญาณแล้วนะครับ

 

*ภัยธรรมชาติจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและเกิดถี่ขึ้นในที่ไม่เคยเกิด น้ำแข็งขั้วโลกเลื่อนตัวมาใกล้ศูนย์สูตรมากขึ้นทำให้กระแสอากาศและแม่เหล็กโลกแปรปรวน จน cg.โลกเคลื่อนตัว ข้อสังเกตฟังข่าวแกนโลกเอียงมากขึ้น กลางวันกลางคืนน้อยลง ลองจับเวลาดูมืด-สว่าง
เส้นแรงแม่เหล็กโลกเริ่มแปรทิศทาง บางแห่งอาจทำให้เข็มทิศชี้ผิด เครื่องบินหลงทิศ สัตว์หลงทางเช่นนก หลงทาง ปลาน้ำลึกเกยตื้น<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
* มหาวาตภัยจะโถมทลายประเทศมหาอำนาจจนเมืองทั้งเมืองหายไปจากแผนที่โลกในเวลาไม่ทันข้ามคืน
*เกิด นักบุญ องค์ใหม่เป็นที่ศรัทธาของคนทั้งโลกโดยปรากฏตัวในเวทีโลก ในนามทูตสันติภาพ แต่ยังไม่ใช่ของจริง
* การรบราฆ่าฟันของมนุษย์จะขยายอาณาเขตทวีความรุนแรงจนลืมความเป็นมนุษย์ ลงมือฆ่ากันเอง อย่างสัตว์ป่ากระหายเลือด
*สถานที่สำคัญทางศาสนาจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นในเวลาใกล้เคียงและพร้อมกันเกือบทั่วโลกเป็นสัญญาณเตือนครั้งสุดท้ายให้รีบกลับตัวเข้าหาศีลธรรมที่แต่ละศาสนาสั่งสอนเพื่อสันติสุขมวลมนุษย์ก่อนการพิพากษาจากธรรมชาตินอกระบบ .