อิสลามบิดเบือนเรื่องเวียนว่ายตายเกิดในศาสนาพุทธ

เขาใช้ตรรกะที่ว่า ชาติแรกมาจากไหนโดยการนับเลข
เขาอ้างอิงว่าได้คุยกับชาวพุทธ โดยยก
"ชาตินี้เกิดจากกรรมในชาติที่แล้ว กรรมในชาติที่แล้วส่งผลให้เกิดในชาตินี้"

เขาโต้ว่า "สมมุติตอนนี้ชาติที่100แล้วนับถอยหลังไปชาติที่1
แล้วชาติที่หนึ่งเกิดมาจากไหน?

แล้วเขาโต้ว่า ชาวพุทธตอบไม่ได้ คำสอนพุทธเป็นเท็จใช่ใหม?

 

แรกๆ มันแรนด้อม พอมีพระพุทธเจ้าจึงมีกฎแห่งกรรมใช้บุญ บาปตัดสิน หลังๆ พระเจ้ามาแรงแต่ตัดสินโหดร้ายมาก ในที่สุดเป็นจูนิเบียวผู้กล้าแห่งอาสลัน โคตรมั่วรั่วไปเรื่อย

 

ชาติที่ 1 เกิดจาก ชาติที่ 0
อย่าถามว่าทำไมตอบกวนตีนครับ

เพราะ คนถามเขาก็พูดอยู่นี่ว่า สุมมุติว่า... ผ่าม!!

เรื่องจริง ถ้าคนพุทธหรืออิสลาม เข้าใจเรื่อง ปฏิจจสุมบาท จะได้คำตอบเองว่ามันมีชาติที่ 0 อยู่จริง ๆ เพราะก่อนจะมีชาติที่ 1 มันต้องมีเหตุปัจจัยที่ทำให้สัตว์ได้เกิด

แต่ผมก็รู้จริง ๆ หรอก แค่ทราบข้อมูลมาจากตำรา


ปฏิจจสมุปบาท
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ปฏิจจสมุปบาท (/ปะติดจะสะหฺมุบบาด/) (บาลี: Paticcasamuppāda; สันสกฤต: Pratītyasamutpāda) เป็นชื่อพระธรรมหัวข้อหนึ่งในศาสนาพุทธเรียกอีกอย่างว่า อิทัปปัจจยตา หรือ ปัจจยาการ เป็นหลักธรรมที่อธิบายถึงการเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับดังนี้ คือ

• เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
• เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
• เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
• เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
• เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
• เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
• เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
• เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
• เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
• เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
• เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
• ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี

การเทศนาปฏิจจสมุปบาท ดังแสดงไปแล้วข้างต้น เรียกว่า อนุโลมเทศนา

หากแสดงย้อนกลับจากปลายมาหาต้น จากผลไปหาเหตุปัจจัย เช่น ชรามรณะเป็นต้น มีเพราะชาติเป็นปัจจัย ชาติมีเพราะภพเป็นปัจจัย ฯลฯ สังขารมีเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ดังนี้ เรียกว่า ปฏิโลมเทศนา

จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ปฏิจจสมุปบาท

 

แสดงว่าคนอิสลามเริ่มสนใจความจริงของตนเองกันบ้างแล้วล่ะค่ะ เขาคงอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องของตนเอง เหมือนกับที่ใครหลาย ๆ คนก็อยากรู้ว่าแท้ที่จริงตนเองนั่นเป็นใครมาจากไหนกันแน่ จุดริ่มแรกขอการเกิดจริง ๆ

ที่จริงแล้วตนเองเคยไปอ่านศาสนาของอิสลาม อ่านศาสนาคริสตร์ และอ่านศาสนาของยิว ไม่ได้ศึกษารายละเอียดแบบลึกลงไปนะคะ แต่เป็นเพียงอ่านสรุปคร่าว ๆ แม้กระทั่งลัทธิขงจื้อ ลัทธิเต๋า ก็ตามค่ะ ต่างล้วนแล้วมีเป้าหมายเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ตีความหมายของสัจธรรมไปแล้วแต่บุญวาสนาบารมีของผู้ถ่ายทอด และผู้รับการถ่ายทอด และนำตีความหมายรายละเอียดต่าง ๆ กันไปตามกำลังทิฐิของตนในยุคหลัง ๆ จนเกิดสิ่งที่แปลกแยกออกจากความจริงไป ทุกศาสนาล้วนได้รับจากองค์สัจธรรมเหมือนกันหมดค่ะ ต่างกันตามกาล ตามวาระ เท่านั้น แต่สุดท้ายต่างล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือ ความพ้นทุกข์

ยิ่งในยุคขณะ ผู้ที่วาสนาบารมีไม่ได้มีแต่ชาวพุทธของเราเท่านั้นค่ะ บางคนชาติที่แล้วอาจเกิดเป็นชาวพุทธก็ได้ ชาตินี้ไปเกิดเกิดอิสลาม วนเวียนในวัฏจักรสงสารอยู่ บางทีนะคะคนอิสลามที่มีนิสัยวาสนาบารมีเขาอาจจะได้รับสัจธรรมอะไรบางประการก็ได้ค่ะ

เราล้วนทุกคนต่างล้วนมาจากจุดเดียวกันค่ะ

 

การจะมองว่าเขาบิดเบือนศาสนาพุทธผมว่ามันก็ไม่จริงเสียทีเดียวนะครับ
เขาแค่ทำไปเพราะความไม่รู้มากกว่า

เหมือนที่เรา ๆ ก็ทำ ๆ อะไรบางอย่างไปโดยไม่รู้จริงเกี่ยวกับเรื่องนั้นสักเรื่องนั่นแหละ

 

สาธุทุกท่าน
ตั้งกระทู้นี้ เพื่ออยากรับฟังความเห็นท่านอื่นบ้าง
จะได้เป็นข้อมูล เพื่อไปโต้งานดะวะห์ของ
นักวิชาการมุสสิม

พอดีงานเข้า มีนิมิตจากทีมงานให้ไปโต้พวกอิสลาม

ก็เลยติดตามนักวิชาการอิสลามมาได้สองเดือนแล้ว
ยอมรับอย่างหนึ่งเขาทำการบ้านมาดี
พวกเขากำลังดะวะห์ประเทศไทย
แขวะชาวพุทธอยู่เป็นประจำ

 

ที่เขาแขวะชาวพุทธได้มันก็ไม่แปลกหรอกครับ
เพราะถ้ามองอย่างไม่ลำเอียง ชาวพุทธอย่างเรา ๆ เองก็ไม่ค่อยจะเข้าถึงกระพี้ถึงแก่นกันหรอก
บางทีที่เขาแขวะอาจเป็นผลดีกับเราซะด้วยซ้ำ ที่จะได้กระตุ้นต่อมการเรียนรู้ของชาวพุทธอย่างเราบ้าง

แต่ถ้าเป็นผมที่ยังรู้น้อยอยู่ ในตอนนี้ก็คงจะแนะนำให้เขาลองไปสนทนาธรรมหรือฟังธรรมจากผู้ที่รู้ลึกรู้จริงมากกว่าที่จะมานั่งเถียงกะเขาล่ะครับ

ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนสัก สามสี่ปีที่แล้วนี่เถียงเอาตายไปข้างหนึ่ง 5555 คงจะว่าศาสนาเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ตอบโต้ไปล่ะมั้ง

 

มันก็มาจากเลข0นั้นแหละ
ผมมีบทความที่หลวงปู่มั่นท่านอธิบายไว้
เดี๋ยวจะยกมา

ถ้ายกปฏิจจฯมาอ้างก็น่าสนใจ
แต่พวกแขกมันฟังไม่รู้เรื่อง
ขนาดชาวพุทธด้วยกันยังเถียงกัน

 

ผมก็ไม่อยากไปโต้กับใครหลอกครับ
อยากอยู่คนเดียว

 

เขากำลังดะวะห์ประเทศไทยอยู่ครับ
แต่ตอนนี้เขากำลังรบกับอิควานไทยอยู่

ตอนนี้ประเทศไทยมีครบทุกศาสนาและลัทธิต่างๆ
มารวมกันที่แผ่นดินนี้ เพื่อส่งการบ้าน
หาสัจจธรรมที่แท้จริง..

 

พระเจ้าโปรดอภัยให้ลูกและพวกเขาด้วยเถอะ เขาทำไปเพราะความไม่รู้ รู้แล้วก็ขี้ลืม ปัญหาส่วนตัวก็เยอะแล้ว โปรดอย่าแช่งกันอีกเลย

 

ที่พระเจ้าไม่ชอบศาสนาพุทธเพราะบุญ บาปเริ่มซื้อกันได้ คนเห็นแก่เงินมากขึ้น ตัวปัญหาในปัจจุบัน
ที่ศาสนาพุทธไม่ชอบพระเจ้าเพราะนรกโหดเกินตลอดกาลกันเลยนะ มันเป็นคำสาปทำให้เป็นโรคจิตได้

 

บุญ บาป ซื้อไม่ได้นะครับ คนรวยคนจนเพราะกรรม(การกระทำ) แล้วคนรวยก็ไม่ได้มีอภิสิทธ์ไปสวรรค์มากกว่าคนจนเลยซักนิด

และศาสนาพุทธก็ไม่ได้ไม่ชอบพระเจ้า แต่ไม่ชอบเพราะให้ "เชื่อ" โดยไร้เหตุผลและไม่ได้ทดลอง ซึ่งผมนับถือคริสต์และได้เข้าถึงและรู้แล้วด้วยว่าพระเจ้าจริงๆคืออะไร เมื่อวิชชา(รู้)กลายเป็นอวิชชา(ไม่รู้)จึงสร้างสรรพสิ่งขึ้นมาจนเป็นตนยันปัจจุบัน สรุปแล้วพระเจ้าคือใคร? พระเจ้ามีองค์เดียวหรือไม่? ผู้ปฏิบัติย่อมได้รับคำตอบด้วยตนนั่นแล นี่แลอสังขตะธรรม(ธรรมชาติที่ไม่เคลื่อนยังไงก็มีอยู่)
อย่างนายนิรบาลตัวแดง? ภาษาอังกฤษและชาวคริสต์เรียก imp นะครับ
นาคในไทยภาษาอังกฤษเรียกไฮดร้านะครับ นรกสวรรค์มันก็อันเดียวกันหมดนั้นแหละครับ

 

รุ่นพี่ที่เป็นมุสลิมก็เคยถามผม...ผมตอบว่าผมตอบว่าไม่รู้และไม่สนใจจะบ้าเอามันเป็นอจินไตย การย้อนชาติเหมือนถามหารอยล้อเกวียนเริ่มจากตรงไหนต้องย้อนไปแค่ไหนจะเจอเราเดินมาตั้งไกล สนใจแค่ว่าจะหยุดรอยล้อยังไงนี่คือคำสอนของศาสนาผม...ถามกลับว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์แล้วใครสร้างพระเจ้า พระเจ้าเกิดขึ้นมาได้ไง คำตอบอาจจะเหมือนกันก็ได้

 

อจิณไตย = สิ่งที่ไม่ควรคิด หากจะย้อนต้อง ทำ ถ้าคิดนี่บ้าแน่นอน

ส่วนที่ว่าใครสร้างพระเจ้านั้นไม่มีคนสร้างมนุษย์ก็ไม่มีเช่นกัน ทุกสิ่งล้วนเกิดด้วยเหตุและปัจจัย เหมือนที่พราหมณ์เชื่อ เรื่องพระพรหม พระนารายณ์ พระศิวะ ความหมายจริงๆคือ เกิด ,ตั้งอยู่ , ดับไป สามพระบุคคลรวมเป็น 1 = ตรีมูรติ ส่วนคริสต์ใช้คำว่าร่วมธรรมชาติเดียวกับพระบิดา สามพระบุคคลรวมเป้ยหนึ่ง สัจธรรมใดๆทั้งมวลล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันนั่นแล ซึ่งถ้าตีความนั้นเละแน่นอนมันเป็นอจิณไตย แต่ถ้าทำตามหลัก โพชฌงค์ 7 สติปัฏฐาน 4 และ มหาปัฏฐานสูตร ทำไปเรื่อยๆก็จะรู้เองว่าครับ ที่ผมพิมพ์มาไม่ต้องเชื่อครับให้ทดลองปฏิบัติไปเรื่อยๆจะได้คำตอบเองครับ

 

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา

วัฏรสงสาร

ลึกซึ้งละเมียดละไม

 

ชาติที่ 1 ไม่มี ชาติที่ 100 จึงไม่มี
เมื่อชาติที่ 1 มี ชาติที่ 100 จึงมี

เพราะเหตุ เพราะกรรม เพราะปัจจัย จึงเกิดเป็นผล
เมื่อเป็น ผล จึงมีการส่งผล และเกี่ยวร้อยรัด เป็น
ภพ เป็น ชาติ ติดตาม หาต้นและชนปลายไม่ได้ เพราะ เมื่อควานหาต้น ก็ยาวเป็นนับแสนอสงไขย
และนับปลายก็ยาวออกไปหาที่สิ้นสุดไม่ได้

การตัดภพตัดชาติ คือ พระนิพพาน จึงเป็นการตัดกิเลส ตัดมูลเหตุทั้งปวง คิดเมื่อไร ตัดได้เมื่อนั้น

อิสลาม เป็นความเชื่อ ที่พยายามเป็นรูปธรรม
เป็นการปกครองรูปแบบมนุษย์ สังคมวิทยา
คริสต์ก็เช่นกัน เป็นระบอบกลุ่มก้อนทางโลกียวิสัย

แต่ พุทธะ คือธรรมมะ ธรรม มะ ชาติ เกิดผู้เดียว ตายผู้เดียว ผู้สันโดษจึงจาริกไปดุจนอแรด พุทธะสอนให้เราช่วยตนเอง ให้ตนเป็นที่พึ่งของตนเอง ไม่มีระบอบผลิตลูกหลาน มีแต่ตัดวงจรการเกิดแก่เจ็บตาย

หากใครถือ การดำริสันโดษวิถีพระโพธิสัตว์ ไปเปรียบเป็นการเสพกามได้ทั่ว ผู้นั้นจักเสมือนบัวใต้ตม เป็นผู้มีเปรตเป็นวิสัย ที่ยังกระหายกามอยู่
มิสมควรจะใช้คำว่า สัตตบุรุษ
พระโพธิสัตว์ท่านอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้ไม่รู้ ทั้ง คน ผี เทวดา ท่านอยู่เพื่อ บำเพ็ญบารมีคือชนะกิเลสสร้างมหาทานกำลังใจ ไม่ใช่ผลิตลูกหลานมีภรรยาเยอะๆ
เพราะท่านดำริเพื่อตัดกรรม ข้อนี้ พุทธะ จึงต่างจากหลักอิสลามโดยสิ้นเชิง

 

ขอบคุณเช่นกันครับ

 

ชาติแรกๆ ของ มนุษย์
มนุษย์ได้เกิดเป็น อรูปพรหม อาศัยอยู่ในโลกนี้
พอ อรูปพรหม หมดไป ก็จะมี รูปพรหม มาเกิดในช่วงแรก
หมดจาก รูปพรหม ก็เป็น เทวดา ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้
หลังจากนั้น พอหมดจากเทวดา ก็เป็น มนุษย์ตัวเป็นๆ นั่นเอง

 

คาราวะข้อธรรมขอรับกระผมท่านนิล
“ เทวดาเดินดิน” อย่าหลงเพลิน ใช่ไหมขอรับ