ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    อันนี้ยังมีลักษณะความเป็นปัจเจกยานอยู่นะครับ
    ธรรมบัวบานจะไม่เป็นปัจเจกยาน ไม่เป็นสาวกยาน
     
  2. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    รู้สึกท่านดอกไม้จะแปลว่า ดับสนิทพึงมีแด่ปุถุชน พึงเกิดใหม่เป็นโพธิ ซึ่งทั้งหมดนั้นคือเรา เป็นไตรลักษณ์
    ส่วนของท่านวรณ์ ดับที่ตัวตน ดับที่รองรับ เข้าสู่ขั้นตอนว่าง ยังไม่ใช่อนัตตาครับ
    ซึ่งความเป็นเราผมมองว่าต้องเป็นอนัตตาครับ มีอัตตาเพื่อการเรียนรู้ พอรู้แล้ววางธรรมก็เข้าอนัตตาครับ
    ผิดถูกอย่างไรชี้แนะด้วยครับเพราะผมก็เข้ามาขัดเกลาตัวเองเช่นกัน
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    รอดูที่ผลสิ....มรคคแปดข้อ..คือธรรมบัวบาน..ให้ดูที่ผลครับ ..ดูวิธีตอนนี้ยังไม่ได้ครับ เพราะยังอยู่ในขั้นตอน..เตรียมปัญญา ปูพื้นฐานอยู่ครับ...ผล ของมรรคแปด โน่นแหล่ะ ..คือผลครับ

    มรรคแปดข้อ คือธรรมบัวบานครับ
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อนัตตาคือความไม่มีตัวตนของเรา..ครับ ไม่ไช่ว่า ทุกอย่างเป็นอนัตตาหรอกนะครับ..นี่คือ ความหมายของผมครับ...ความไม่มีตัวตน(แปลเฉพาะคนที่ทำได้) แปลว่า หมดความอยาก(แปลออกมาที่ สมมุติบัญญัติที่ทุกคนเคยมี)
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ เราให้เขาหรือเขาให้เรา? ~


    ในสภาวะนั้น การให้คือการรับอย่างหนึ่ง
    และการรับกลับเป็นการให้อีกเช่นกัน?

    แลเมื่อไม่มีเขาเราแล้ว ให้กับรับก็ว่างเปล่า
    มีเพียงสมมุติเท่านั้นที่เกิดขึ้นและดับไป

    เขาและเราแบบสมมุติ ให้และรับแบบสมมุติ
    เมื่อนั้นความว่างเปล่า ก็เป็นส่วนหนึ่งของความบริบูรณ์

    ~ เพราะความว่างเปล่านั้นก็เป็นเพียงสมมุติหนึ่งเช่นกัน ~
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อันนี้ผมเข้าใจนะครับ ระหว่าง พุทธะกับพุทธะ...แต่ระหว่างพุทธะกับ คนอื่นๆที่ยังไม่ถึงพุทธะ..มันต้องใช้มรรคแปดข้อ..ครับ เพื่อช่วยคนอื่น

    ความว่างเปล่าของผู้ให้ คือความฟรี ความไร้เงื่อนไข คือความเป็นกลางทั้งแปดข้อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2016
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    อาศัย "ความเข้าใจ"
    เอา "มรรคแปด" ไปใช้

    จะได้ยังไง?
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การเกิดใหม่..ด้วยความเป็นกลางของ..ใจ..
    ใจที่เป็นกลาง ในกายเดิม....ผมเรียกว่า..มนุษย์ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยมรรคแปดข้อ
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ ว่างเปล่าจากมรรคา แล้วมรรคแปดจะมีค่าอะไร? ~


    ธรรมะ ธรรมชาตินั้นบริสุทธิ์จากมรรคา
    ว่างเปล่าจากมรรคา และมรรคแปดใดๆ

    ก็เมื่อบุคคลมี "อวิชชา" บังเกิดขึ้นแล้ว
    พวกเขาจึงแสวงหา "มรรคแปด" เป็นทางกลับ

    หากแม้เขาได้ตืี่นแจ้งแล้วว่าอวิชชานั้นว่างเปล่า
    เช่นนี้ "มรรคแปด" นั้นก็ว่างเปล่าไปด้วยเช่นกัน

    เช่นนี้ไยต้องเหนื่อยยากกับธรรมอันเป็นเพียงอุบาย
    ในเมื่อ "ธรรมะ ธรรมชาติ" นั้น บริบูรณ์แล้วแต่ต้น?

    ~ บุคคลแสวงหาธรรมนั้น ก็ด้วยอวิชชายังมีอยู่ นั่นเอง ~
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผู้เข้าถึงพุทธะ...เท่านั้น..ที่จะใช้ มรรคแปด ได้เต็ม ครับ...
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การบริบูรณ์ของผู้เข้าถึง พุทธะ ถ้าไม่พูด ก็ หมายถึง มรรคแปดก็บริบูรณ๋ไปด้วยเช่นกันครับ..กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม ที่พ้นจากกิเลสตัณหา พ้นจากการมีอัตตาตัวตน...นั่นแหล่ะ...ครับ คือความเป็นกลาง เป็นธรรมชาติ...แต่เวลาจะใช้ กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม..เพื่อช่วยเหลือคนอื่น...จึงแค่อ้างมรรคแปด หรือความเป็นสัมมาทั้งแปด มาเฉยๆครับ เพื่ออธิบายเท่านั้นครับ..เรียกว่า ธรรมชาติ เฉยๆก็ได้ครับ

    และการช่วยคนอื่น..มันจึงต้อง อาศัยความเป็นกลางมา อ้างอิงครับ..ว่าดูที่ผลของการช่วยครับ....มรรคแปดก็ไช่ว่าจะทำกันง่ายๆนะครับ.ถ้าไม่เรียนรู้การใช้
     
  12. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ที่กล่าวว่าเป็นอนัตตานั้นเพราะความเป็นเราสืบเนื่องตลอดเวลาไงครับ เมื่อไหร่ที่เราติดค้างธรรมใดนั้นคืออัตาตัวตนกำเนิดแล้วเราก็เรียนรู้เมือวางธรรมนั้นได้ก็เข้าสู่อนัตตา ส่วนว่างนั้นอันนี้แล้วแต่ครับจะเข้าออกเมื่อไหร่ตามใจเลยเพราะไม่ทำอะไรมันก็ว่างของมันอยู่แล้วอะครับ
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อนัตตาแล้ว ก็ คือ เข้าถึงอนัตตาเลยครับ ไม่มีธรรมใดใดติดค้างแล้วครับ หายสงสัยสิ้นแล้วครับ..จึงเรียกว่า อนัตตาครับ ไม่มีกลับไปกลับมาได้อีกนะครับ...เมื่ออนัตตาแล้ว ว่างแล้ว...ทำอะไรๆมันก็ว่าง ตลอดแล้วครับ...มันนิพพานไปแล้วครั.บ...
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ศึกษาธรรมด้วยความเข้าใจ
    ก็มีโอกาสได้ไป

    "ดาวพฤหัส" ครับ
     
  15. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    โพธิย่อมกลับสู่อัตตาได้...
    ด้วย "มหากรุณา"
     
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็เอาความเข้าใจมาคุยกันนี่ครับ...หรือคุณอยากคุยกับคนที่ไม่เข้าใจงั้นหรือครับ

    ผมว่าคุณ..ออกจะ คิด ไปทาง ใช้สมองแล้วล่ะครับ...ผมฝันไปมาหลายดาวแล้วครับ
    ผมเป็นมนุษย์โลกครับ...อย่าคิดแทนผมเลยนะครับ..
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ต้องให้ผมอธิบายมั้บครับว่า...กายเดิม ภพเดิม ชาติเดิม..แต่ใจบริสุทธิ์ใหม่...กายใจที่มี..อยู่แล้ว...ก็เป็นธรรมชาติเป็นกลาง เป็นสัมมา....ไม่ไช่เป็นอัตตา..นะครับ...เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็เป็นมนุษย์ ที่ประเสริฐ..ให้ได้สิครับ....จะกลับมามีอัตตาได้ยังไงกัน...ไม่ไช่เล่น ขายของนะครับ...
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เมื่อใจสว่างไสวด้วยธรรม
    ความเข้าใจก็ไม่จำเป็น...
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    อัตตาทั้งหลายนั้นแล
    คือ "นิรมาณกาย"

    แห่ง "มหากรุณา"
     
  20. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็นี่แหล่ะ ที่ผมว่า....คนที่อนัตตาจริงๆ....มันถึงจะเข้าใจว่า...การไม่มีภาชนะรองรับ...สมมุติ ใดๆ

    จะเป็นสัมมา ได้อย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...