ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เพราะเหตุนี้ใช่ไหมครับโพธิถึงได้แต่ต่างจากคนทั่วไป
    เพราะการกระทำเพื่อผู้อื่นคือการกระทำเพื่อตัวเอง จึงแตกต่างกับคนที่คิดจะเอาอย่างเดียว
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จิตวิญญาณ "ผีดิบ" คืออะไร?


    คือ จิตวิญญาณที่ยังไม่ผ่านการตายครับ แต่เคลื่อนออกมาจากร่างสังขารก่อน
    ปกติ ร่างสังขารตายแล้ว วิญญาณจะแตกสลายแล้วกำเนิดใหม่ จิตวิญญาณก็
    นับว่าตายโดยสมบูรณ์ แต่จิตวิญญาณบางประเภทไม่ได้ผ่านการตายเพียงแต่
    เคลื่อนออกจากร่างนั้นมาเฉยๆ เหมือนคนที่สำเร็จมโนมยิทธิ ถอดจิตวิญญาณ
    ได้น่ะละครับ ทีนี้ มันมีวิชาโบราณ ตั้งแต่ยุคแอตแลนติส ที่ผู้ฝึก สามารถถอด
    จิตวิญญาณออกมาได้ ทำให้ไม่ตาย คนพวกนี้จะสอนให้ "ไม่เกิด ไม่ดับ" นะ
    ครับ แต่ถามว่านิพพานไหม? ไม่ใช่ เพราะนิพพานคือ "ดับสนิท" จะต้องผ่าน
    การดับก่อนจึงจะนิพพานได้ แต่นี่ ไม่ได้ผ่านการดับ จึงไม่นิพพานและไม่ตาย
    จิตวิญญาณของเขาจะจรไปหาร่างมนุษย์ร่างใหม่ๆ เพื่อมีชีวิตอยู่ในโลก แบบ
    อำมตะ วิชานี้สืบทอดกันมายาวนานเรียกว่า "วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล" หนึ่งใน
    นั้นที่ฝึกสำเร็จก็คือ "เตียบ่อกี้" ซึ่งจิตวิญญาณของเขายังเป็นอำมตะ ไม่ได้ไป
    เกิดครับ ยังมาในรูป "องค์" ผ่านร่างของคนบางคนอยู่เรื่อยๆ เพราะยังไม่ตาย

    จิตวิญญาณที่ไม่ยอมตายมีอยู่มาก พวกเขาต้องผ่านการตายจึงจะไม่เป็นผีดิบ!
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ผีดิบทำให้คุณเป็นอรหันต์หรือแม้แต่กษัตริย์ก็ยังได้


    เพราะอะไร? เพราะผีดิบพวกนี้ บางตนมีอายุมากเป็นพันๆ ปี หมื่นๆ ปี
    ทีนี้ ผีดิบจะมาอยู่กับเราเหมือนองค์เทพ แต่พวกเขาไม่ใช่ เทพสวรรค์
    เพราะพวกเขายังไม่ได้ผ่าน "กระบวนการภพภูมิ" หรือก็คือพวกเขายัง
    อยู่ใน "อันตรภพ" (ระหว่างภพ หรือระหว่างไปสู่ภพใหม่) พวกเขาจึง
    ยังไม่ได้ไปนรก, สวรรค์ หรือกำเนิดเกิดใหม่เลย พวกเขาส่วนใหญ่ต่าง
    มีฤทธิ์เดชมากหรือมีบริวารมาก เปรียบเทียบกับลูซิเฟอร์แล้ว ลูซิเฟอร์
    ยังต้องให้ความเคารพ ดังนั้น ลูซิเฟอร์ หรือมนุษย์ที่เป็นร่างของเขา จะ
    ยกตำแหน่งทางธรรมที่สังคมยอมรับให้ครับ เช่น ตำแหน่งอรหันต์ แต่ก็
    ไม่ใช่อรหันต์จริงๆ นะครับ เรียกว่าเกือบจะสำเร็จอรหันตผลแล้วแต่กลับ
    ถูกผีดิบเข้าแทรกขวางไว้ก่อน คนพวกนี้จะมีลักษณะ "แข็งทื่อ" เหมือน
    หินหรือพระอิฐพระปูน ทำให้ได้รับการยอมรับจากคนมาก ว่าเป็นอรหันต์
    พวกเขาจะสอนเรื่อง "การไม่เกิดอีก" ซึ่งมันผิดธรรมชาติไปนิดนึงค์ครับ
    เพราะสภาวะธรรมที่ไม่เกิด ไม่ดับ มีอยู่ นิพพานมีอยู่ นิพพานไม่เกิด ไม่
    ดับก็จริงอยู่ แต่เราซึ่งประกอบจากทั้งวิมุติธรรมและสมมุติธรรมจะปฏิเสธ
    สมมุติธรรมส่วนที่มีการเกิดดับไม่ได้ พอไม่เข้าใจตรงนี้ ผีดิบ ก็็หลอกเอา
    คือหลอกให้ไม่ได้เกิดอีกเหมือนตนเอง กลายเป็น "ทายาทผีดิบ" ตนต่อ
    ไปแถมยังจะได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ ร่ำรวยเงินทอง มีชื่อเสียงเป็นอำมตะอีก

    ผมเองก็เคยเป็นร่างของผีดิบ แต่ฝึกจนถึง "ตาย" ครับ ถึงรอดพ้นมาได้!
     
  4. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ่าโชคดีเลยนะครับท่านดอกไม้เรื่องฝึกผมก็เคยฝึกสตินะครับ ตอนนั้นพอเข้าใจอะไรหลายๆอย่างแต่ยังออกจาก สติ สมาธิไม่ได้ก็เลยฝึกกันอยู่แค่นั้น เคยฝึกสติโดยการนำตัวรู้เข้าไปวางในส่วนที่ลึกที่สุดในสมอง เข้าไปวางแช่แบบนั้นละครับสมาธิจะสูงมาก มีอยู่คืนนึงตั้งใจจะไปให้ลึกที่สุด ปรากฏว่าเข้าไปแล้วมันค้างหายใจไม่ได้สภาพก็ค่อยๆหมดลม แต่ก็ยังพอจะจับได้ยังหายใจได้อยู่ประมาณ 1 เปอเซ็น ก็ค่อยๆประคองหายใจไปทีละน้อย ก็เลยกลายเป็นว่าหายใจได้ 2 ระบบ คือหายใจเข้าทางปากไปสมอง กับหายใจเข้าทางจมูก ไปปอดผมเรียกแบบธรรมดา กับไฮเปอร์โหมด เข้าไฮเปอร์สติสมาธิจะสูงมากๆๆๆก็แค่ลองทำดูไม่ได้ใช้ทำอะไรหรอกครับ แต่ตอนนั้นสภาพเหมือนตายไปจริงๆ คนตาทิพย์เห็นว่ากายทิพย์ผมรุ่งริ่งไม่น่าจะรอดได้ ก็ค่อยๆฟื้นตัวมาครับแต่ก็หายใจได้ประมาณ 15 % ไปประมาณ 1 ปี่ เหมือนหายใจไม่เต็มปอดนะครับ
    ตอนนี้ก็โอเคละครับ
     
  5. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อันนี้ก็หลังจากฝึกได้ก็คิดว่ามีพลังสุดยอด ก็เลยคิดถึงพระบิดาของโลกคิดว่าท่านคงจะเหนื่อย(มโนไปเอง) เลยทำสมาธิเพื่อส่งพลังงานไปให้ท่าน แต่ความบริสุทธิ์เราไม่พอพลังก็เลยสะท้อนกลับมา เกือบตายอีกรอบร่างกายแสบร้อน อยู่ได้ด้วยกำลังใจอย่างเดียว ก็คิดถึงเจ้าแม่กวนอิมแล้วนอนไปก็รู้สึกเย็นสบายขึ้นดีขึ้นเยอะเลย ท่านเมตตาสุดยอดจริงๆ คิดถึงปุ้บมาปั้บเลย ก็เรื่องในอดีตครับเล่าให้ฟังขำๆครับ เผื่อท่านดอกไม้บอกสภาวะได้ว่ามันคืออะไรครับผม
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ลมหายใจกับลมปราณปกติจะสัมพันธ์กัน

    แต่ถ้ารู้สึกว่ามีลมไปสองที่ คือ ที่ปอดกับที่สมอง แสดงว่า
    ไม่สัมพันธ์กัน คือ ลมหายใจไปที่ปอด แต่ลมปราณไปที่
    สมองแทน ซึ่งปกติเขาไม่ทำแบบนี้กันครับ

    เดินลมปราณปกติ จากจมูกไปท้อง จากท้องวนกลับขึ้นมา
    แล้วค่อยทะลวงไปที่ศีรษะเปิดจักระที่เจ็ดแบบนีี้ มีคนทำ
    อยู่บ้าง ไม่มีปัญหาแบบที่คุณทำ (จากจมูกไปสมอง)

    การรวมสมาธิที่ดี ศูนย์กลางไม่ควรอยู่ที่สมอง เพราะสมอง
    เป็นที่รวมของความคิด ปกติ จะรวมอยู่ศูนย์กลางอื่นๆ เช่น
    ท้องน้อย, กลางลำตัว (แบบธรรมกาย), หัวใจหรือหน้าอก
    ซึ่งจะทำให้ไม่มีคลื่นสมองมารบกวนครับ

    ฝึกลมปราณผิดพลาด ก็อาจทำให้กระทบกายทิพย์ได้ครับ
     
  7. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นละครับ เพราะตอนนั้นสติเยอะมันจะทำการรู้ลมตลอดเวลาแทบไม่หลับไม่นอนเลยครับ กว่าจะเข้าเรื่องรู้ลมไปทำไมรู้ใจดีกว่าก็ค่อยๆถอนออกมา เพราะเหตุการณ์เยอะแยะมากมาย เลยกลายเป็นชื่อที่ใช้นี่ละครับท่านดอกไม้ ขอบคุณความโง่ที่ทำให้เราเติบโตขึ้นขอบคุณโอ้เยอะแยะเลยบอกไม่หมด
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ผิดก็คือถูก ไม่ต่างกัน
    ผิดเพื่อจะได้ทำให้กายทิพย์ดับสลายเพื่อกำเนิดใหม่มังครับ
     
  9. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ความไม่รู้นี่สุดยอดจริงๆนะครับทำอะไรสุดโต่งมากมาย นี่ถ้าไม่มีกายหยาบรองรับนี่ไม่รู้ผลจะออกมายังไงเลยนะครับ ว่าแต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนตายหลายรอบจัง โดนทำลายแล้วทำลายอีก ธรรมชาติคงบอกไอ้นี่มันโง่แล้วโง่อีกจริงๆ แต่ก็เข้าใจนะครับว่าธรรมชาตินี่ละสุดยอดแห่งการพัฒนาตัวเองไม่มีขีดจำกัดจริงๆครับ
     
  10. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ว่าแต่ท่านดอกไม้ฝึกยังไงจากผีดิบ มาจนถึงขั้นตายได้ครับลองเล่าสู่กันฟังหน่อย
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สัจธรรมเนื้อแท้ไม่อะไรหรอก จะอะไรก็คืออุบายน่ะละ


    คนเราไม่ได้บรรลุธรรมเพราะว่าเข้าใจสัจธรรมหรอกครับ แต่เขาจะบรรลุธรรมได้ด้วย "อุบาย" เพราะอะไร? เพราะสัจธรมที่แท้จริงเป็นเช่นนั้นเอง มันเป็นกลาง ธรรมดาๆ ได้ฟัง ได้เห็นแล้วก็เฉยๆ ครับ ไม่เห็นจะต้องอะไรๆ กับมันเลย และก็มีอยู่ทั่วไป ทุกที่ ทุกเวลา มีมานานแล้ว แล้วก็ยังคงมีอยู่เช่นนั้นต่อไป ไม่จำกัดกาล มันเลยไม่พิเศษอะไรไงครับ เฉยๆ แบบนี้ ไม่ทำให้ใครบรรลุธรรมได้หรอกครับ เพราะเราเองก็เป็นธรรม จะต้องให้เราไปบรรลุธรรมที่เป็นหนึ่งเดียวกับเราอีกทำไม? พูดแบบนี้ หลายคนจะเข้าใจผิด คิดว่าทุกคนบรรลุธรรมอยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรอีก เพราะตัวเองก็เป็นธรรมะอยู่แล้ว ไม่ใช่นะครับ ท่านแค่ถูก "อัตตา" ความหลงตัวเองมันหลอกเอา กิเลสอยากบรรลุธรรมมันยังมีอยู่ ทำให้ท่านคิดไปเองว่าเช่นนี้ ท่านก็บรรลุธรรมแล้ว ไม่ใช่ครับ ท่านเป็นธรรมหนึ่งเดียวกับธรรมทั้งหลาย ถูกแล้ว แต่จะบอกว่าทุกคนบรรลุธรรมแล้ว เพราะเหตุนี้ เหตุว่าเราล้วนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรม ก็ไม่ได้ แล้วการบรรลุธรรมที่ชายจะกล่าวถึงนี้ มันคืออะไรกันแน่?

    มันก็คือ การที่เราได้รับ "อุบาย" ทำให้เห็นความหลงของเราเองนี่ละ จนมันดับสนิท นิพพานไป มายาการและความหลอกลวงที่เราหลงคิดไปเองทั้งหลาย มันก็จบลง เผยให้เห็นสัจธรรมความจริงออกมาว่าเราไม่ต้องไปบรรลุธรรมอะไรอีกเลย เพราะเรากับธรรมก็เป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้ เรายังหลงอยู่ เรายังโง่อยู่ เรายังอุปทานไปเอง คิดไปเองอยู่ จึงไม่เข้าใจได้อย่างนี้ แท้แล้วการบรรลุธรรมนั้นไม่ได้บรรลุธรรมะอะไรเลย และไม่ต้องบรรลุด้วย เพราะเราและธรรมเป็นหนึ่งเดียวอยู่แล้ว ทว่า จะบอกว่าเราไม่ต้องทำอะไรเลย เราก็บรรลุธรรมกันหมดแล้วสิ ก็หาได้ไม่ ไม่ใช่ ที่บอกว่า "บรรลุธรรม" จริงๆ มันก็แค่ "รู้ตัวเองว่าตัวเองมันโง่ หลงไปขนาดไหน จนสุดแล้วแห่งความโง่ จบลง ดับสนิท นิพพานลง" ก็เท่านั้นเอง ไม่มีธรรมะอะไรให้ต้องบรรลุเลย ที่ผ่านมาก็มีแค่อุบายล้วนๆ อุบายที่จะทำให้เราได้สติ เห็นอัตตา เห็นความหลงของเราเอง เหมือนดังศิษย์โง่ไปเรียนเซนคนหนึ่ง เฝ้าเอาน้ำรดหินทุกวัน รอให้หินงอกออกมาก็จะได้บรรลุธรรม สุดท้าย คิดได้ว่าตัวเองมันโง่ไปเองน่ะละ เรื่อง "อรหันตผล" ก็แค่นี้เอง

    ถึงนิพพานได้ก็ถึงประตูวิมุติธรรม ทว่า แค่ประตูธรรมเท่านั้นนะครับ
     
  12. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ครับบรรลุอะไรยังไม่รู้เลยท่านมันก็เหมือนเดิมรู้ก็เท่านั้นไม่รู้ก็เท่านั้น
    พูดตรงๆนะท่านอยู่ในความฝันนี่ละสบายสุดๆละ ยิ่งตอนนี้ขี้เกียจฝุดๆ เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนไม่อยากลุกจากที่นอนประมาณนั้นกำลังอยู่ในสภาวะนั้นละครับ ถ้าไม่อยู่กทม.ในตอนนี้ไปนอนกลืนสบายๆแล้ว
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    นั่นสินะ...มันง่ายแค่นี้เอง แต่...ทำไมดูเหมือนยากจัง
    ก็แค่ยอมรับว่าตนเองโง่(ผิด รู้มาผิดๆ เชื่อมาผิดๆ หลงเชื่อสิ่งอื่นนอกจากเชื่อตนเอง)
    ก็แค่ยอมรับในความเป็นกลาง เข้าถึงความเป็นกลาง(เข้าถึงธรรมชาติที่มีในตน เข้าถึงธรรมชาติที่มีนอกตน)

    วิชา...ความไม่รู้..มันเรียนเอาออกนี่ มันทำยากกว่าวิชาความรู้ที่เรียนเอาเข้ามา มี เป็น...ซะจริงๆ
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อาจารย์พุทธะหนึ่ง เคยบอกกับผมว่า...สิ่งที่มนุษย์อวิชชา ทำได้ยากที่สุด...ก็คือ การทำให้มันง่ายๆ....นั่นแหล่ะ ที่พากันทำได้ยากเหลือเกิน
     
  15. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    อาสวักขยญาณของพระอรหันต์ไม่มีไรมากครับ แค่ขณิกสมาธิก็ถึงได้
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    อาจเพราะปรารถนาสัพพัญญูญาณมังครับ เลยทำให้ยาก
     
  17. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    เมื่อความรักแท้เกิดขึ้นแล้ว
    เราอาจไม่ได้อะไรอย่างปุถุชน
    กลับต้องมาทำอะไรอีกอย่างแทน

    เราก็ทำสุดจิตสุดใจของเรา
    จนไม่เหลือจิตเหลือใจจะให้ทำอีก
    เมื่อนั้น ความดับสนิทก็พึงมีพึงเกิดแก่เราครับ
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ไช่ครับ..รู้..แต่ไม่มี ปัญญา(แรง พลัง) นำพาเราออกมาจากสิ่งที่เป็นทุกข์นั้นได้..ก็ตายเปล่า...

    ส่วนมาก ทุกคนล้วนจะรู้ดี รู้ชั่ว..กันทั้งนั้นครับ..แต่ไม่มีปัญญ่นำพาตนเองออกมาจากจุดที่ชั่วนั้น......นี่ไง....ประเด็นหลักเลย...(นำพาตนเองออกมาจากมุมอับ)
     
  19. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็อาจไช่ครับ...คงเพราะอยากเป็นเหมือนพระพุทธเจ้ากัน...จนลืมความเป็นตัวของตัวเอง....ไป
     
  20. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แปลความได้ว่า...เมื่อเราหมดความอยากสิ้นสงสัย...เราก็คงทำได้เพียง..สงเคราะห์คนที่เราเมตตา..เท่านั้น...
     

แชร์หน้านี้

Loading...