ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ โปรดสัตว์ โดย "ไร้การโปรด" ~


    ทุกๆ สิ่งและทุกๆ การกระทำ ไม่มีสิ่งใดผิดเลย
    เพราะมันล้วนตรงไปสู่ "วิถีแห่งพุทธะ" ทั้งสิ้น

    เพียงช้า เพียงเร็ว ต่างกันแค่วาระ และยุคสมัย
    หากไม่มีเร็ว ก็ไม่มีช้า ไม่มีองค์ก่อนหน้า ก็ไม่มีถัดไป

    สัตว์ทั้งหลายจึงได้รับการโปรด โดย "ไร้การโปรด"
    เพราะการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น แท้แล้วคือการช่วยตัวเอง

    ช่วยผู้อื่นเพื่อให้ตนเองถึงโพธิจิต มิใช่เพื่อให้เขาถึงโพธิจิต
    ดังนี้ จึงกล่าวว่าการช่วยผู้อื่นนั้น แท้แล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลย

    เพราะวิถีทางของสัตว์ทั้งหลายนั้นล้วนไปสู่พุทธะอยู่แล้ว
    เมื่อเราช่วยเขา เขาไม่ได้เดินเอง เขาย่อมถึงพุทธะช้าลง

    ดังนี้ การโปรดสัตว์เพื่อไปสู่พุทธะนั้น จึงไร้การโปรด
    โปรดโดยมิต้องโปรด ว่างเปล่าจากการฉุดช่วยใดๆ

    เพราะการโปรดสัตว์นั้นเป็นเพียงอุบายในการโปรดตน
    สัตว์ทั้งหลายที่เราโปรดนั้นแล โปรดให้เราถึงโพธิจิต

    ~ พระโพธิสัตว์ที่แท้ จึงเข้าถึงการโปรดโดยไร้การโปรด ~
     
  2. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ก็เป็นในทำนองว่าการช่วยที่แท้จริงจึงมิได้เป็นการแบกอะไรให้ใคร ต้องให้เขาไปพบเจอสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง สัมผัสด้วยตัวเองเราทำได้เพียงแนะนำในบางอย่าง โพธิจึงต้องเป็นอิสระเพื่อปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นอิสระ ไม่งั้นก็ไม่โตซะที
    ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเราไม่ควรให้ใครต้องมาแบกอะไรให้ใครอีกเพื่อให้ทุกคนได้มีอิสระ ถึงต้องเก็บทุกวัด และนำมาอยู่ในพื้นที่เดียวกันถึงต้องสร้างแดนใหม่นี่เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2016
  3. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    สอบถามเพิ่มนิดหน่อยนะครับท่านดอกไม้ ถึงแม้จะเป็นโพธิอย่างที่ท่านกล่าวแล้ว ก็ยังมีการตายเพื่อกำเนิดใหม่ไปเรื่อยๆเหรอครับ
    อ้างอิงอันนี้เกิดก่อน ใจสลาย เป็นปีเหมือนกันครับ
    หรือจิตบรรลุได้แค่โพธิเดียว แล้วอีกจิตที่มาจุติใหม่ก็บรรลุโพธิอีก เพราะโพธิทั้งหลายก็ไม่ใช่เราถึงแม้จะเกิดจากเรา หรือเป็นโพธิแล้วก็ไปทำหน้าที่ของโพธิต่อไป เพราะยังไงวิญญานก็มีวิญญานเดียวอยู่ดี นอกจากพวกพิเศษที่สามารถมีหลายวิญญานได้
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    แล้วแต่เรา เราทำได้มาก ก็ได้มาก ทำได้น้อย ก็ได้น้อย
    เขาถึงมีสติปัฏฐานดูกายในกาย จิตในจิต เพราะมันมีหลายกาย หลายจิต
    แต่เวลาอยู่ในร่าง มันจะซ้อนกันเป็นชั้นๆ เหมือนเปลือกหอม ตัวนอกมาครอบขันธ์ตัวใน


    ภาษาสมัยใหม่เรียกว่า "ตัวตนหลากหลายมิติ" ซึ่งเป็นสภาวะก่อนที่จะถึงสภาวะ "อนัตตา" เท่านั้นเอง
     
  5. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ่อขอบคุณมากครับท่านดอกไม้
     
  6. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ธรรมทุกอย่างมันก็เป็นอนัตตาของมันอยู่แล้วนี่ครับท่านดอกไม้เพราะมันเป็นของมันอย่างนั้นความเป็นเราก็เกิดขึ้นโดยการรู้และเข้าใจธรรมเหล่านั้นจากอัตตาไปสู่อนัตตา
    แม้แต่ความรู้ที่ว่าแจ่มชัดก็ยังคงเปลี่ยนไปตามความรู้ที่มาใหม่เสมอ เมื่อความรู้เปลี่ยนไปโพธิย่อมเปลี่ยนไปความเป็นเราย่อมเปลี่ยนไป ของในธรรมชาติทุกอย่างย่อมเป็นเช่นนี้ความเป็นเราจึงเป็นอนัตตาเสมอ
    เมื่อเรานั้นเป็นอนัตตา ความนอบน้อมจึงควรมีไว้เสมอเพื่อปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
    ผมกล่าวเช่นนี้ยังรู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไปซักอย่างขอท่านดอกไม้ขัดเกลาด้วยครับ
     
  7. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๒๒.๐๖

    แหม..เห็นเค้าขอขัดเกลา เราชักอิจฉาแฮะ
    ไม่ได้การ ต้องขอให้ขัดเราด้วยดิ เนอะ
    ก่อนจะขัดเรา ขอขัดคอซะหน่อย

    ว่า ก็ถ้าจะเป็นอนัตตาแล้วน่ะนะ
    ไยต้องมีความนอบน้อมด้วย
    ตัวไม่มี นอบน้อมได้รึ

    ความว่าง เหมือนจะเข้าใจง่าย
    แต่เวลาจะใช้ ก็ซับซ้อนอยู่
    มีขั้นตอน ก่อนและหลัง

    ที่สำคัญ ต้องเลือกเป้าหมายทีละหนึ่ง
    อย่าทำจิตทีเดียว ให้ได้หลายด้าน
    คัดเอาที่เลือกไว้หนึ่ง ค่อยรบ


    กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์ / โง่จริงป่ะเนี่ย

    .
     
  8. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ถึงแม้เราเป็นอนัตตา แต่ก็ยังมีเราอยู่ เราย่อมมิใช่ความว่าง เพราะเราเป็นอนัตตาเราจึงมีการพัฒนาการที่ไม่สิ้นสุด เพราะเราเป็นอนัตตาจึงมีความนอบน้อมเพื่อการเรียนรู้ เพราะเราเป็นอนัตตาเราจึงอยู่ได้ทั้งในความจริงและความฝัน
    ไม่ทราบขาดอะไรไปจริงๆท่านกระต่าย ต้องรอท่านดอกไม้เคาะให้ผมละครับ
    ผมโง่จริงๆครับ :'(
     
  9. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    การเรียนรู้ของผมอาจไม่เหมือนท่านกระต่ายป่า แม้แต่แนวความคิด เพราะผมตอบมาจากความรู้สึกไม่ใช่ความคิด การเรียนรู้มันจึงมีจริงๆเท็จๆ ตามแต่ผู้ตีความครับ
    การที่ผมใช้ชื่อนี้ย่อมหมายถึงตามนี้จริงๆ เพื่อการเรียนรู้ถึงความจริงผมโยนความเก่งทิ้งไปหมดแล้ว ผมจึงเป็นคนโง่โง่ ที่กล้าถามเมื่อผมสงสัยในสิ่งที่ทุกคนมองว่า อะไรว้าาาา
    เพราะผมเป็นคนโง่ จึงต้องนอบน้อมเพื่อเรียนรู้ไงครับไม่งั้นก็ไม่รอดซิท่าน
     
  10. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    โง่มาตั้งนาน..กว่าจะเข้าใจก็ต้องอ่วมอรทัยก่อนประมาณนั้น:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2016
  11. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ธรรมบัวบานคือธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาล

    ธรรมมีหลายสาย
    ต้นธาตุต้นธรรมต่างกัน
    (อ่านแล้วถูกจริตธรรมบัวบาน):cool:

    ปล..ช่วงนี้เป็นช่วงตายแล้วเกิดใหม่
    จิตใจต้องแจ่มใสเบิกบานเบิกบาน
    ทุกข์แค่รู้ เกิดตรงไหน ให้พิจารณาตรงนั้น
    ให้หนีทุกข์ด้วยปัญญา...อย่าโง่อีก:cool:
     
  12. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ทุกข์ย่อมไม่เกิดในความเป็นอนัตตาเมื่อมีอัตตาเท่านั้นทุกข์จึงมีที่ตั่ง เมื่อเป็นอนัตตาย่อมเกิดใหม่ตลอดเวลา จิตทั้งหลายย่อมแจ่มใสเบิกบานครับ
    แต่ก็ยังคงโง่อยู่ครับผม
     
  13. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    แล้วเมื่อไรจะหายโง่?
    โง่มานานแล้ว เมื่อไรจะหายโง่?
    เกิดมาก็โง่ ตายไปจะหายโง่มัั้ย?

    บางครั้งก็งงกับการมานะ
    มาทำอะไรกัน?..สรุป.?
    ใครตอบได้ช่วยตอบหน่อยเถอะ.?
    เราคิดว่าเราทำดีแล้วถูกแล้ว
    ปรากฎว่ามันไม่ใช่อย่างท่เราคิดนะ
    มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
    มันเป็นอย่างที่มันต้องเป็น...

    ถ้าเรารู้อดีต เราก็จะทำปัจจุบันตามอดีตที่เรารู้
    เพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์และลงตัว
    แต่ปัญหามันอยู่ที่เราจำอดีตอะไรไม่ได้นี่สิ
    เรื่องมันก็เริ่มต้นตรงนี้แหล่ะ...
    เริ่มต้นการแสดงตามบทละครที่เราเลือกมา
    แต่เราดันไม่รู้พล้อตเรื่องทั้งหมด
    เราแค่ดำเนินไปตามช้อทแต่ละช้อท
    เรื่องมันแย่ตรงนี้แหล่ะ:'(
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    อุบาย คือ อะไรที่ไม่จริง แต่เพื่อให้เกิดผลจริง


    เพราะอดีตชานตินานมา เราทำมาเยอะแล้ว มาถึงชาตินี้ เราแค่ทำให้เกิดผลเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปเริ่ม 0 ใหม่เลย ถ้าเราไม่ใช้อุบาย เราไปทำอะไรจริงๆ จังๆ มากไป มันจะกลายเป็นการสร้างเหตุไป แล้วผลก็จะไม่เกิดครับ เพราะผลมันจะไปเกิดชาติหน้าแทน ดังนั้น หากเรามุ่งผล ให้เกิดผลลัพธ์ขึ้นมาในชาตินี้ เราจึงไม่ต้องไปทำแบบจริงจังมากไป ไม่ต้องไปสร้างเหตุมากไป เพื่อไม่ให้มันไปส่งผลชาติหน้า เราก็ทำส่วนที่จะทำให้เกิดผลชาตินี้ คือ ทำแค่พอสะกิดเปิดทางผลกรรมดี ให้ผลกรรมดีในอดีตออกดอก ออกผล แค่ทำนิดหน่อย ก็คือ อุบาย นั่นเอง การทำสมาธิจิตอะไรก็ได้ ทำแค่พอเป็นอุบายเท่านั้น

    อย่าให้กรรมฐานเป็น "มโนกรรม" ตอกย้ำ ซ้ำจิต สร้างชาติภพให้ยืดยาวเลยครับ
     
  15. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ธรรมเป็นเช่นนั้นเอง อยู่แล้ว
    อนัตตาก็เป็นเช่นนั้นเอง เช่นกัน

    เพียงแต่ "เรายังไม่ตื่น" ก็จะคิดไป
    ดำเนินไปตาม "อัตตา" ที่ไม่มีอยู่จริง

    เมื่อ "ตื่นแจ้ง" แล้ว อัตตาที่ไม่มีอยู่ก็สลายไป
     
  16. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เมื่อถึงเวลานั้นย่อมรู้เองครับ ตอนนี้ผมก็เลยโง่อยู่
    ถ้าเรารู้อดีต เราไม่จำเป็นต้องทำตามที่อดีตเรารู้
    เพราะมันสมบูรณ์ลงตัวอยู่แล้ว การที่มีท่านอยู่ตรงนี้นัน่ละมันสมบูรณ์ของมันฝุดๆแล้ว น่าดีใจจะตาย
    เมื่อเป็นนักแสดงย่อมแสดงไปตามบท ถ้ารู้ตอนจบมันก็ไม่สนุกซิท่าน
    แต่การแสดงไปตามบทมันสู้การแสดงสดไม่ได้หรอกท่าน มันส์กว่าเยอะเลย
    ที่มันแย่คือท่านไปอยากรู้มันเอง ท่านก็บอกผมเองไม่ใช่เหรอเกิดตรงไหนแก้ตรงนั้น แล้วท่านไปแก้ที่ไหนมาละครับ
     
  17. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    คิดซะว่ามันคือการปลดกระดุม สาวๆทีละเม็ดละกันครับ ครบทุกเม็ดก็น่าจะรู้อะไรมั่งละครับ
     
  18. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    มันก็คือการตื่นแจ้งแล้วแจ้งอีกไปเรื่อยๆ มันก็คือการวางธรรมเดิมไปเรื่อยๆ
    แต่ก่อนวางขอเรียนรู้หน่อย(อัตตา)เป็นแบบนี้เหรอครับท่านดอกไม้
    ถึงแม้เราเข้าใจว่ามันไม่มีอยู่จริง แต่คนที่เข้าใจว่ามันมีอยู่่จริงๆและก็อยู่กับมันจริงๆก็มีเยอะ ผมก็เลยยังเป็นคนโง่โง่ต่อไป
     
  19. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ไม่ชัดแหะ
    เอาเป็นว่าเราว่างจากธรรมทั้งหลายเหล่านั้นแต่เราก็ไม่ได้ว่างจากธรรมใดเลย
    เอาเป็นแบบนี้ละกันท่านดอกไม้
     
  20. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ตอนนี้ไม่มีกระดุมแล้ว
    มาถึงเม็ดสุดท้ายแล้ว
    รู้แล้วเข้าใจแล้ว:'(
     

แชร์หน้านี้

Loading...