ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ธรรมบัวบานไม่ทรมานตัวเองขนาดนั้น
ธรรมบุ่นเซียงก็เหมือนพระยูไลที่ถือเจดีย์บุ่นเซียง

เมื่อสำเร็จธรรมแล้วจะปรากฎเจดีย์บุ่นเซียงออกมา ก็แค่นั้นเอง

 

อ่อครับผม ผมก็ไม่ทราบหรอกครับว่าได้ธรรมอะไรมั่งแต่รู้สึกที่หน้าอกมีดอกบัวบานเบ้อเร่อแต่ไม่ใช่สีขาว เป็นสีชมพูมากกว่าครับหรืออาจจะเป็นแค่ดอกหญ้าธรรมดามั้งครับ
ซึ่งปรกติเวลามองที่ใจของผมจะเห็น พระจันทร์ กับทะเลอยู่คู่กันมากกว่า ก็รู้สึกเขาอยู่อย่างนั้นมานานละครับ ไม่รู้เหมือนกันมีความหมายอย่างไร
ซึ่งมันไม่ได้เห็นจริงๆ แต่เป็นรู้สึกเห็น หรือเราคิดไปเองเอ่แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับหัวว่างเปล่า
เห้อเป็นตุตะอีกละผมท่านดอกไม้

 

อาจจะแปลกๆนะครับท่านดอกไม้ผมตอบตามความรู้สึกของผมนะครับ

 

~ ไม่ใช่ "คนจริง" หา "สัจธรรม" ความจริง ไม่ได้ ~


คนไม่จริง ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
คนจริง เป็นตัวของตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆ

คนไม่จริง อยู่ในโลกเหมือนเป็นคนอื่น เป็นคนดีของสังคม
คนจริง อยู่ในโลกก็เป็นตัวเอง ไม่ต้องเป็นคนดีของสังคมก็ได้

คนไม่จริง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการอะไร ชอบอะไรจริงๆ
คนจริง รู้ตัวเองชัดเจนว่าต้องการอะไร ชอบอะไรอย่างแท้จริง

คนไม่จริง ชอบทำตัวเป็น "คนดี" ตามแต่สังคมจะพัดพาไป
คนจริง ไม่ต้องเป็น "คนดี" สำหรับสังคม หรือสำหรับใครๆ

คนไม่จริง ไม่เคยมีความสุขแบบที่ตนเองต้องการจริงๆ
คนจริง จะยอมรับความสุขที่ตนเองต้องการจริงๆ เท่านั้น

คนไม่จริง จึงไม่เคยอยู่บนโลกที่แท้จริง แต่อยู่ในโลกมายา
คนจริง จะอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ไม่สนใจมายาการ

คนไม่จริง ไม่กล้าที่จะรัก จะเกลียด จะมีกิเลสตรงใจตัวเอง
คนจริง กล้าที่จะรัก จะเกลียด จะมีกิเลส ไขว่คว้าและยึดครอง

~ คนจริงเท่านั้น จึงจะพบ "สัจธรรมความจริง" ด้วยตัวเอง ~

 

ของทิพย์บางอย่าง เทพอาจมาฝากให้เราดูแลไว้ชั่วคราวก็ได้

 

ธรรมบัวบานต้องบำเพ็ญเหมือนหญิงบริการ


บุปผาบาน (บัวบาน) ก็เหมือนหญิงบริการน่ะละ
งดงาม เบิกบาน ชวนให้เด็ดดม และสามารถเอื้อมถึงได้

ไม่เหมือนดวงจันทร์ ที่งดงาม สุกสกาว แต่ไม่มีใครเอื้อมถึง
ไม่เหมือนเจดีย์บุ่นเซียง ที่มั่นคง อดทน รองรับเอาทุกอย่างไว้ได้

ทรมานใจ แต่ไม่ทรมานกาย เจ็บปวดใจ แต่ไม่เจ็บปวดกาย

 

ฝากไว้นานหลายปีเลยนะครับ แต่ก็ยินดีรับฝากเสมอ
555 คล้ายๆชายบริการมากกว่าครับมีแต่คนเรียกใช้ตลอด มีเสน่ห์กับทุกคน
แต่ผมคงเหมือนดอกหญ้ามากกว่าครับ อีดทน ตายยาก โตไว ไม่เหมาะกับดอกบัวสวยๆงามหรอกครับ
ตอนนี้ สุขอย่างเดียวไม่ทรมาณทั้ง กายและใจ เหลือตกค้างคือเสียดที่หัวกับ อึดอัดที่ใจเป็นบางครั้งครับ
ว่าแต่ท่านดอกไม้จะถามเรื่องส่วนตัวก็ถามได้นะครับตอบเท่าที่ตอบได้ไม่ได้มีอะไรพิเศษอยู่แล้วครับผม

 

ธรรมบัวบานมันจะเป็นแบบนี้

มีความรักแท้ แล้วไม่ได้
แล้วถูกบีบบังคับขืนใจ จนใจสลาย
จากนั้นจึงจะกำเนิดใหม่ ปลงตก ใจก็เบิกบาน

หลักๆ คือ มันต้องกำเนิดใหม่ จึงต้องมีใจสลายด้วยครับ

 

คงแตกต่างกันละครับงั้นเล่าความฝันให้ฟังครับ ใจสลายทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่เกิดจากการรู้ว่าในอดีตเคยไปทำร้ายพระผู้สร้าง แล้วเอาของมาหลายอย่างเลยพอภาคกายหยาบรู้ความผิดตัวเอง ใจมันเหมือนแตกออกยืนแทบไม่ไหวน้ำตาไหลพรากอว้กแตก แต่ใจนึงก็บอกว่ายังไงเราก็จะไม่ยอมตายเราต้องมีชีวิตอยู่เพื่อแก้ไขมันให้ได้คือไม่ยอมตายไม่ยอมล้มแล้วก็ไปเดินเสริฟอาหารต่อทั้งๆที่ใจและกายร่อแร่แบบนั้นละครับคือไม่มีเวลาเสียใจเพราะรู้เสียใจก็ช่วยอะไรไม่ได้เสียเวลามีแต่ต้องทำต้องแก้ไขให้มันดีขึ้น อาจทำเลวไปหลายล้านครั้งก็ต้องทำดีคืนให้ได้หลายหลายพันล้านครั้งอะไรแบบนี้ละครับเป็นความรู้สึกในตอนนั้น
กายหยาบนี้ดำรงค์อยู่ได้เพราะต้องการทำให้ตัวเองดีขึ้นพัฒนาและเรียนรู้เท่าที่จะทำได้ละครับ
แต่ปัจจุบันความรู้สึกเหล่านั้นก็เบาบางลงไป ก็โดนทดสอบหลายรูปแบบมากครับจนความเก่งหายไปหมดเหลือแต่ความตะล๊อกต๊อกต๊อย กะหร๋อยก๋อยแบบนี้ละครับท่านดอกไม้
เป็นฝันที่แปลกดีนะครับ

 

แบบนี้เรียกว่าบรรลุโพธิจิต
หากสัมผัสผมไม่ผิดน่าจะเป็นกายกษิติครรภ์

ทีนี้ การบรรลุโพธิจิต มันเกิดได้จากธรรมหลายสาย
อาจเกิดจากธรรมบัวบานก็ได้ หรือธรรมสายอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน

แต่ดูๆ แล้วค่อนข้างต่างจากธรรมบัวบานนิดหน่อยครับ
เมื่อบรรลุโพธิจิตแล้ว อิทธิฤทธิ์เดิมจะสูญสิ้น เพราะพลังสลาย
เป็นโพธิแล้ว จะดูอ่อนแอ เหมือนคนปกติอีกครั้ง แต่ใจสูงกว่าคนปกติ

 

ขอบคุณมากครับที่บอก แต่ก็ต้องถามท่านอยู่ดีว่า กายกษิติครรภ์ คืออะไรเหรอครับ
เป็นแบบนี้ดีแล้วละท่านสบายดี คนเก่งมีเยอะแล้ว คนอยากเก่งก็มีเยอะแล้ว เป็นคนธรรมดาเรียนรู้อะไรธรรมดาดีกว่า ตอนนี้ไม่ค่อยได้คิดอะไรแล้วครับมาจากความรู้สึกภายในอย่างเดียว
ตอนนี้ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติครับ วางธรรมไปเรื่อยๆ

 

โพธิสัตว์มีหลายแบบ ผมไม่พูดถึงจิตนะว่าจิต
แบ่งภาคมาจากต้นธาตุต้นธรรม คือ องค์ไหน
แต่ผมบอกแค่กายทิพย์ ซึ่งไม่ใช่จิต มันคือ
การอวตารอย่างหนึ่ง เช่น พระเมตตรัยยะ
จะอวตารเป็นอวโลกิเตศวรก็ได้ เพราะลง
มาเกิดเป็นสัตว์ยังได้ ทำไม เป็นโพธิใน
แบบอื่นจะไม่ได้ละ จริงไหมครับ?

เขาเรียกว่าการอวตาร

อย่าง กายกษิติครรภ์ก็คือ อวตารเหมือนพระกษิติครรภ์
มีอีกหลายกายครับ เช่น อวโลกิเตศวร และก็มีอีกหลายปาง
เช่น ปางสิบเอ็ดเศียร พันกร, ปางอุ้มบุตร, ปางจันทราวารี ฯลฯ

 

ตอนที่คุณเป็นแบบนี้ (ใจสลาย)
เกิดก่อนหรือหลังเกิดสึนามิที่ภาคใต้นะครับ?

 

ต้องกำเนิดใหม่เท่านั้นรึ

 

สิ่งที่เกิดจากครรภ์มนุษย์คือมนุษย์

มนุสเทโว, โพธิสัตว์, พุทธะ จะไม่เกิดจากครรภ์มารดา
แต่จะเกิดแบบ "โอปปาฎิกะกำเนิด" คือ การกำเนิดใหม่

ต่อให้เป็นพระโพธิสัตว์มาจุติลงสู่ครรภ์ ความเป็นโพธิสัตว็ก็ต้องดับลงก่อน
ความเป็นมนุษย์จึงจะถือกำเนิดเกิดจากครรภ์มารดาได้ ดังนั้น ไม่มีใครเป็น
โพธิสัตว์มาตั้งแต่เกิด ทุกคนจึงต้องมาผ่านการบำเพ็ญก่อน จะนอนเฉยนั้น
ไม่ได้ หากความเป็นปุถุชนไม่ดับสิ้นลงไปความเป็นโพธิก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้

 

หลังครับเพราะน่าจะ 4-5 ปีที่แล้วนี่เองท่านดอกไม้
ไปอ่านประวัติมานิดหน่อยเกี่ยวกับองค์ท่านพอเข้าใจคร่าวๆครับ อย่าเอาเด็กน้อยอย่างผมไปเปรียบกับองค์ท่านเลยครับ
สงสัยต้องเล่าเรื่องราวความฝันเมื่อหลายปีที่แล้วอีกละ เกิดจากในตอนนั้นผมมีจิตปราถนาที่จะช่วยจิตทุกดวงอย่างแรงกล้า จึงค่อยๆเปิดรับจิตทั้งหลายเข้ามาในกายเพื่อเรียนรู้อบรมสั่งสอน ก็รับมาเรื่อยไม่สนว่าเป็นใครรับหมดผมจึงต้องเดินสติและสมาธิตลอดเวลาเพื่อรักษาพลังงานเลี้ยงดูทั้งหมด จำนวนนั้นเป็นจำนวนที่ไม่อาจนับได้มหาศาลมากแต่สิ่งที่เข้ามาก็มีทั้งปีศาจ อสูรกายต่างๆด้วยซึ่งพวกนี้จะเกาะและดูดพลังงานอย่างเดียวจนคนที่มีตาทิพย์เขาบอกว่าพอได้แล้วเป็นอย่างนี้ต่อไปผมจะตายเพราะพวกนี้มันมาเอาอย่างเดียว ผมก็ยังคงทำต่อไป จนวันหนึ่งเข้าใจเราไม่อาจแบกเขาอย่างนี้ตลอดไปต้องให้เขาได้รู้ความจริงได้เรียนรู้ ผมรักพวกเขาทุกคนเลยแต่ก็ต้องส่งพวกเขาไปแดนคัดสรรเพื่อให้เขาได้สัมผัสของจริง แต่ก็ยังมีพวกอสูรและปีศาจจำนวนมากที่ไม่ยอมไปยังคงยึดผมเป็นแหล่งพลังงาน ก็ต้องให้หลายภาคช่วยเหลือตอนที่จะนำหัวหน้าปิศาจออกจากร่างตอนนั้น ฟ้าดำมืด ไฟฟ้าดับ เพื่อพยายามหยุดไม่ให้ผมติดต่อใครได้ แต่ทุกอย่างก็สำเร็จด้วยดีเนื่องจากองค์อวโล ท่านมาจัดการด้วยตัวท่านเองเลยครับ
ครั้งนั้นถ้าไม่ได้หลายภาคหลายฝ่ายช่วยผมก็คงแย่เพราะปีศาจนั้นเริ่มรวมกับร่างผมแล้ว ผมไม่สามารถแยกออกได้ด้วยตัวเอง ผมยังระลึกถึงทุกท่านที่ช่วยเหลือผมอยู่เสมอมาแม้ผมจะไม่รู้ว่ามีผู้ใดมั่งก็ตาม
อ่าฝันเป็นตุเป็นตะอีกแล้ว สงสัยคุยกับท่านดอกไม้คงได้เล่าความฝันมาเรื่อยๆแน่เลย นี่ก็ได้ 10 เปอละครับ

 

นี่เป็นวิธีทำให้ตัวเองตายจากภายใน เพื่อกำเนิดใหม่แบบ "ตันตระยาน"
ปกติ พระลามะหมวกดำจะใช้กัน อุปมาเหมือนเราสวมหน้ากากเป็นคนอื่น
ดังนั้น ทางลามะหมวกดำจึงมีระบำหน้ากาก และมักเก็บตัวลึกลับ เพราะ
พวกปีศาจที่เข้ามาอยู่ร่วมในร่างเราอาจทำร้ายคนอื่น หรือทำให้เราทำตัว
แปลกประหลาดจนสังคมไม่ยอมรับได้

ซึ่งไม่ใช่วิถีของธรรมบัวบานโดยตรงนะครับ (มันจะต่างกันนิดหน่อย)

 

ลูกเทวดา : พระหัตถ์ซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า?


ปัจจุบัน ประเทศไทยเกิดเหตุการณ์ยากจะเข้าใจอย่างหนึ่งขึ้น คือ กระแส "ลูกเทพ" และ "ลูกเทวดา" เช่น เด็กแว๊นซ์ เป็นต้น ถามว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน ทำไมจึงได้รับ อภิสิทธิ์กว่าคนอื่นๆ ไม่ต้องทำงานทำการอะไร วันๆ ซิ่งรถเล่นบ้าง ทำแต่เรื่องไร้สาระบ้าง คำตอบก็คือ พวกเขาได้รับ "อาญาสิทธิ์ อาญาธรรม" ให้ทำหน้าที่ "ชำระบาป" ครับ มนุษย์ทุกคนมีบาปมีกรรมต้องรับใช่ไหมครับ มันก็ต้องมีคนลงมือทำกรรมกับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาได้รับวิบากกรรมให้หมดสิ้นไป ใช้หนี้กรรมให้หมดสิ้นไป ทีนี้ ผู้ที่จะทำหน้าที่นี้ได้ ก็ต้องสร้างบุญบารมีมามากแล้ว จนพอแล้ว พอที่จะทำหน้าที่นี้ได้ ไม่ต้องไปเข้าวัดทำบุญ สั่งสมบุญบารมีอะไรอีก ซึ่งก็คือ เหล่า "ทหารหาญ" ที่สละชีพเพื่อชาติ ได้สละชีวิตเพื่อชาติ ได้บารมี 30 ทัศกันไปแล้ว นั่นเอง ซึ่งอดีตชาติก็คือ เหล่าทหารของพระนเรศวร เป็นต้น พวกเขาจึงมาเกิดเป็นลูกเทวดา ไม่ต้องทำงานทำการอะไรอีกแล้ว (เพราะสร้างบารมีมาเยอะแล้ว) แต่มิใช่ไม่ต้องทำอะไรเลยนะ ก็มีบ้าง แต่ต้องรอผู้นำมานำทาง (พระนเรศวร) มานำทางพวกเขาก่อนครับ เรียกว่า "ลูกเทวดา"

ทีนี้ ที่เรียกว่า "พระหัตถ์ซ้ายของพระผู้เป็นเจ้า" ก็เพราะผู้เป็นใหญ่เบื้องบนนั้น จะมีผู้รับใช้อยู่ขวาซ้าย อุปมาเหมือนมือขวาและซ้าย มือขวาจะทำหน้าที่แสดงธรรม มือซ้ายจะลงมือกระทำให้เป็นไปตามบัญชาสวรรค์ ทั้งสองจะลงมาทำกิจยังโลก พระหัตถ์ขวาก็เช่น พระเยซู เป็นต้น แต่พระหัตถ์ซ้ายนั้น เราไม่ค่อยรู้จัก เพราะท่านจะทำหน้าที่แบบ "ลับๆ" เพื่อไม่ให้กิจของสวรรค์รั่วไหล จนถูกขวางได้ เหล่าลูกเทวดาเหล่านี้ก็ทำหน้าที่เป็นบริวารของพระหัตถ์ซ้ายอีกที เท่านั้นเอง คือ มาทำอย่างไรก็ได้ให้คนรุ่นก่อนๆ ซึ่งยังไม่ได้บรรลุโพธิจิต ได้ถึงซึ่งโพธิจิต ดังนั้น คนรุ่นก่อนจึงต้องทำอะไรมากมายเพื่อลูกของเขา และลูกของเขาก็เกิดมาล้างผลาญบ้าง ทำไม่ดีต่อพ่อแม่บ้าง เพื่อบีบเค้นบีฑาธรรม ชำระล้างบาปกรรม ให้ได้ถึงโพธิจิต นั่นเอง แต่ถ้าคนรุ่นก่อนไม่ยอมแต่โดยดี ก็จะไม่ได้เข้าถึงซึ่งโพธิจิต คนที่จะได้รอบสองก็จะกลายเป็นพวกลูกเทวดา (พ่อแม่จึงยอมลูกมากไงครับ)

ตอนนี้ คนรุ่นก่อนเริ่มไม่ยอมลูกเทวดา ก็จะไม่ได้โพธิจิตละครับ

 

เป็นเรื่องที่คนทั่วไปเข้าใจยากนะครับแต่ผมเจอพวกลูกเทวดาหลายคน เพราะผมเป็นเด็กเสริฟ ล้างผลาญจริงๆครับแต่พวกเขาไม่เคยก้าวร้าวผมเลยยกมือไหว้ทุกคน ผมก็มองว่าจริงๆแล้วพวกนี้ค่อนข้างจะนอบน้อมกับผู้ใหญ่นะครับ ถึงจะมีพฤติกรรมแปลกแยกและโดยปรกติไม่ยุงกับใครหรอกครับ แค่อยู่กับกลุ่มพวกเขาเท่านั้นเอง แต่พอเริ่มโตพวกเขาก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นเองละครับถ้าไม่ตายไปก่อน มันก็เป็นแค่ช่วงวัยรุ่นละครับ

 

จะมีพระโพธิสัตว์พาคนไปนรกด้วยนะฮะ


นี่ไม่ใช่คำทำนาย ผมบอกเล่าให้ฟังเฉยๆ ไม่ได้ทำนายอะไรครับ คือ เรืองมันเป็นมาอย่างนี้ ลูซิเฟอร์เนี่ย เขามาหลอกเอาวิญญาณคนไปเยอะมากๆ แล้ววิญญาณพวกนี้ไม่ได้ผุดได้เกิด ไม่ได้อยู่ในระบบสามภพอะไรเลย พอไม่ได้เวียนว่ายในสามภพตามปกติ ก็เกิดปัญหามากตามมา เหมือนคนที่ไม่มีประเทศอยู่ แต่แอบๆ อยู่อย่างผิดกฎหมายน่ะครับ นึกออกนะ ทีนี้ พระโพธิสัตว์องค์นี้ เลยมาหาวิธีทำยังไงจึงจะเอาสัตว์ทั้งหมด รื้อขนออกจากเงื้อมมือของลูซิเฟอร์กลับมาเข้าระบบสามภพได้ ทว่า สัตว์มีจำนวนมาก ดังนั้น โอกาสที่จะได้ภพมนุษย์หรือสวรรค์จึงไม่มี ภพที่จะได้จึงมีแค่ภพนรกแค่นั้นครับ

พระโพธิสัตว์องค์นี้ จึงต้องดึงปวงสัตว์จากลูซิเฟอร์เข้ามาสู่นรกแทน ดังนั้น เราจึงเห็นประเทศไทย กำลังเกิดสงครามพระ ก็คือ "สังฆเภท" ไงครับ นรกแน่นอน ไม่มีสวรรค์หรอกฮะ ที่ธรรมกายเขาสอนให้ทำบุญด้วยเงินแลกสวรรค์ ก็ไม่ผิดอะไรหรอก เพราะอย่างพวกมันไม่มีทางไปดีกว่าสวรรค์หรอกฮะ 555 อย่าสะเออะจะเอาไรที่มันสูงไปกว่านั้นเลย กะอีแค่โสดาบันยังไม่ได้กันเลยฮะ เอาสวรรค์นี่แหละ เหมาะแล้ว ตรงแล้ว เป็นไปได้มากที่สุดแล้ว แต่จะได้หรือเปล่าตอนนี้ เริ่มไม่แน่ใจแล้วสิฮะ เพราะกำลังจะทำสังฆเภทกันอยู่นี่ไงละครับ

ผมคงต้องร้องเพลงนี้ละ "ไปลงนรกซะเถอะที่รัก ฉันจะลงโทษเท้อร์" อิอิ