ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ทำไมบัวต้องมาบาน......ในช่วงนี้
หลังกึ่งพุทธกาลพอดี.....ให้ฉงน
บานสดใสบานขึ้นใน......จิตใจคน
เพื่อให้ผล ดอกบัวนี้........เป็นพยาน

ว่าธรรมะของพระสมณโคดม.....เป็นของแท้
อย่าคิดแต่ว่าเป็นกรรม............นำวิสัย
พุทธภูมิเปลี่ยนดอกบัว.........เพื่อสิ่งใด
เพื่อจะให้รู้ว่า....รักพระศรีมากนะ..เลยเสียสละตน

มันเป็น เรื่องน้ำใจ.......ใครจะรู้
ว่าอยู่ๆเปลี่ยนกันได้......ง่ายๆหรือ
พระสมณโคดมรู้ พระศรีรู้...อย่าเดา ที่เล่าลือ
เพราะมันคือ....ใจแลกใจ.....ระหว่าง.สองท่าน เท่านั้นแล

 

การทำดีเพื่อผู้อื่น............นั่นยากยิ่ง
คนไม่รู้จริงมาครหา.......ให้สับสน
คนที่ทำก็รู้อยู่.................ในใจตน
ต้องรอผล ให้คำตอบ.......นั้นออกมา

การทำดีนั้นไช่ว่า.............ทำง่ายๆ
อาจอับอายขายหน้า........พวกคิดตื้น
ถูกไส่ร้ายเข้าใจผิด..........ควรกล้ำกลืน
ต้องยั่งยืน ฝืนจิตตน........รับได้..ใน.ทุกทาง

การทำดีทุกวันนี้........................ก็แบบนี้
เพราะบางทีต้องรอผล..............ดี มาอ้าง
เพราะการกระทำ..มันไม่อาจ..แยกแยะ ..หมดทุกทาง(มันไม่อาจพิสูจน์เส้นทาง)
ก็มีบ้าง ที่ทำดี...แต่ยังไม่ได้ดี..ในตอนนี้เลย

 

ถ้าองค์อวโลท่านลงมือเองก็คงผ่านไปไม่ยากธาตุแบ่งท่านเยอะมาก ว่าแต่จะเชื่อมต่อกับธาตุแบ่งของท่านยังไงจะดึงธาตุแบ่งท่านมาช่วยกันยังไง

 

ก็ให้ตระหนักในใจตนเองเลยครับว่า..ตัวเราทุกคนคือธาตุแบ่งของ ต้นธาตุจากพระพุทธะ...เชื่อมจิตเชื่อมใจถึงท่านด้วย สภาวะทรงความดีความสุขบุญกุศลที่มีในตนที่เคยทำจำได้...(จำเอาไว้ว่า..ถ้าตนเองยังทรงสติ ให้อยู่กับ..บุญกุศล(กุศลจิต)ไม่ได้แน่นอน ชอบฟุ้งออกไปหาเรื่อง ของ อกุศล ก็อย่าพึ่งเชื่อมจิตสื่อใจถึงท่าน เพราะ ความบริสุทธิ์ของพระพุทธะ มันจะมีผล กับอกุศลในตัวเรา)

ขอมอบกายถวายชีวิตนี้แด่พระพุทธ....

 

อีกอย่างนึงที่ทุกคนต้อง ทำความเข้าใจ..ว่าหลังกึ่งพุทธกาล..สัตว์เหล่าใดที่ขออาราธนา มาเป็นผู้ ทำหน้าที่ ดำรงรักษาสืบต่อพระศาสนา...ดังนั้น..จิตของภพภูมิเหล่านี้ จึงตื่นตัว วิ่งวุ่นวาย
มันเลยทำให้..จิตใจของมนุษย์...อาจร้อนรนตาม..ไปกับสภาวะอารมณ์ของโลกภายนอก คือภพภูมิอื่น..ที่เขา..เข้ามากระทบมากมาย..อาจทำให้หลงลืมตัว...ได้ง่ายๆ...

 

และเพราะด้วย กระแสพลังงานของคลื่น 4G....จากโทรศัพท์ดาวเทียม..ก็ยิ่งเกื้อหนุนให้ จิตจากภพภูมิอื่น อาศัยเกาะเกี่ยว เป็นเหมือน เส้นทาง เครื่องนำพา เครื่องโดยสาร..เพื่อเข้าถึง จิตใจคนได้...มากขึ้น...แรงขึ้น..ตามมา....ก็ต้อง.เตือนว่า สติไม่มี....เท่ากับประมาท

 

การพัฒนาร่างโคลนนิ่ง เด็กในหลอดแก้ว....ร่างเหล่านี้..ก็เพื่อรองรับ..จิตวิญญาณ สัตว์เหล่สใดกันเล่า....อย่าลืมว่า...ความทะยานอยาก ล้วนมีในสัตว์ทุกเหล่า..ที่ตายไปแล้ว ไปนรกหรือสวรรค์....

ซึ่ง เหล่าที่จิตใจ ยังมีอวิชชา..เป็นเชื้อ...ถ้ามันมีปัญญามาก..มันจะเอาปัญญาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง แน่นอน......ดาบ.จะอยู่ในมือ..คนดี หรือ คนชั่ว...

 

อ่าครับโดยส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นอย่างที่ท่านกล่าวแต่กว่าจะเจริญเป็นธาตุพุทธะได้ก็ยาวนานอยู่ละครับ ทั้งองค์พระพุทธเจ้า ทั้งองค์อมิตาภะ ก็เคยเชื่อมใจทั้งช่วยงานทั้งช่วยสร้างปัญหากันอยู่พักนึงครับ

 

ก็ขัดกันเอง...ได้ไง....มันขึ้นอยู่กับ สติปัญญาของสาวกครับ...
แดนพระนิพพาน...มี
แดนสุขาวดี...........มี

ดอกบัวบานน่ะ...บานในใจของมนุษย์ครับ..แดนโลกพุทธภูมิ..ไม่ไช่แดนพุทธเกษตรครับ

 

ไม่ไช่ว่า มนุษย์ทุกคนจะต้องปฏิบัติธรรมเพื่อให้ตนเองกลายเป็นพระธาตุ นะครับ...อันนี้ ล้วนเข้าใจผิดครับ

แค่ชำระอวิชชา...ออกจากกายใจ...เมื่อกายบริสุทธิ์ ตอนตาย กายก็กลับคืนสู่โลกธาตุเหมือนเดิม.....เมื่อใจบริสุทธิ์..ใจก็ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่ามีอะไรเป็นของตนเอง..ใจก็รู้นิพพาน คือ ถึงพระนิพพาน คือเปรียบว่า กลับคืนสู่ความบริสุทธิ์.เหมือนเดิม....พูดว่า กลับคืน...แต่มันไม่ได้กลับคินไปหาใครที่ไหน...มันแค่ หายไปดุจ..เปลวเทียนที่หมดไส้หมดขึ้ผึ้ง....นั่นเอง

 

พระธาตุ...เกิดได้ยังไง...
เช่นเดียวกัน....เพชรเกิดได้ยังไง..เอาอะไรไปหลอมในอะไร

กายใจหลอมด้วยอะไร กระดูกถึงกลายเป็นพระธาตุ...ขันติธรรม...

 

พระสงฆ์สมมุติ..ศีล..คือ กำแพงล้อมรอบ.กายใจ ล้อมรอบ ตาหูจมูกลิ้นกายใจ..ไม่ให้ มีสิ่งใด..(ทุกสภาวะอารมณ์)..ส่งออกไปข้างนอกได้เลย...เปรียบเหมือนกายใจคือเตาหลอม..ที่มีขันติธรรม..เป็นเหมือน ไฟร้อนที่ต้องร้อนกว่ากิเลสตัณหาที่เกิด...เพื่อหลอมละลาย กิเลสตัณหา...ให้..เย็นลง ดับลง..ในแกนกลางของร่างกาย..นั่นก็คือ กระดูก...นั่นเอง

 

ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา
ขันติคือความอดกลั้น...เป็นธรรมเครื่องเผา กิเลสอย่างยิ่ง

 

อ่า หมายถึงผมเคยช่วยชำระบางอย่างที่ตกค้างให้อดีตของพระพุทธเจ้าเมื่อพระองค์ออกจากวัดและช่วยเชื่อมต่อไปยังดินแดนพุทธเกษตรของท่านอมิตาภะเพื่อสาวกสามารถเรียนรู้ต่อไปได้ครับเป็นเรื่องของอีกภาคครับ
ฟังธรรมของท่านศากยมุณีดีกว่าครับ ผมเองก็อยากเห็นทุกอย่างเจริญขึ้นงอกงามขึ้นในทุกๆที่ก็ต้องใช้บารมีขององค์ท่านละครับถึงจะทันยุคทันสมัย
คนรุ่นเก่าแก่ ก็ใช้ชีวิตไปวันๆรอเก็บกระเป๋ากลับบ้านครับ

 

และไม่ได้หมายถึงพระธาตุนะครับ หมายถึงพัฒนาการจากธาตุรู้ เป็นธาตุพุทธะ และยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

ท่านเข้าใจ ว่าธาตุรู้เป็นธาตุอย่างไรกันล่ะ..มันถึงจะพัฒนาการไปเป็นธาตุพุทธะได้

แล้วมันแตกต่างกันตรงไหนครับ...ขอคำอธิบาย

 

คนแต่ละคนมีพลังธรรมเชื่อมโยงทั้งนั้น สวรรค์ไม่เคยละทิ้งผู้ใด


ต่างกันเพียง พลังธรรมที่เชิื่อมโยงมานั้นจะเป็นสายไหน ของผู้ใดเท่านั้นเอง เช่น
พลังธรรมสายพระอามิตภะ เชืิ่อมโยงลงมาที่ "ตู่" และ "ทักษิณ" ผลคือ ทำให้มี
การบำเพ็ญบารมีเข้าสู่โพธิจิตแบบสุขาวดี อย่างที่คุณเห็น เหมือนเราดูหนังจีน ที่มี
พระเอกเป็นคนดี และตัวร้ายก็จะร้ายมากๆ ในยุคทักษิณเขาเล่นบทเป็นพระเอกไง
แต่ในยุคของตู่ เขาก็เล่นบทเป็นตัวร้าย แต่คนทั้งคู่นี้ ก็ไม่มีใครเดินธรรมบัวบานเลย
ผลคือ หากประสบผลสำเร็จก็จะได้ความเจริญยิ่งใหญ่แบบปณิธานของพระอามิตภะ
แต่หากไม่ประสบผลสำเร็จก็จะได้รับภัยพิบัติ ซึ่งเป็นพลังธรรมของ "จิตจักรวาล" ที่
แทรกเข้ามาแทน ปัจจุบัน งานของตู่ถูกแทรกด้วยพลังของจิตจักรวาลเยอะมากครับ


ดังนั้น การใช้ธรรมบัวบานช่วยในการแก้ไข และนำทางคนในยุคปัจจุบันได้ดีที่สุดครับ

 

ประเทศไทยจะดีขึ้นได้อย่างไร?


1 หนุนให้ผู้มีพลังธรรมบัวบานมีบทบาทมากขึ้น
2 เคลียร์ให้ผู้ที่มีพลังธรรมอื่นๆ ลดบทบาทลงไป
3 เฝ้าระวังพลังธรรมของจิตจักรวาล (ภัยพิบัติ)


จริงๆ ทางแก้มี ไม่ยาก ที่ยากอยู่ที่คนไม่ยอมแก้ไขครับ

 

ธาตุรู้......ธาตุ เป็นสมมุติบัญญัติที่ใช้เรียก สังขารของการมีคำว่า รู้...จะรู้เฉยๆ เดี๋ยวก็มีคนมาถามหา ตัวตนของผู้รู้..อีกว่า ใครกันคือ ผู้รู้

ธาตุรู้...ความจริง..ผู้ที่เขาเข้าถึง อนัตตาธรรม เขาจะไม่มาถามหาธาตุ หรือ สังขาร หรือตัวตน ของผู้รู้..ว่า ..ใครหรือที่รู้....ถ้าถึงที่สุดของการชำระอวิชชา..มันจะเหลือแค่..รู้ที่ เป็นอยู้
ของมันอยู่อย่างนั้น..ตามปกติของการมีกายใจ..มีชีวิตที่ยังไม่ตาย

อาจมีคนตั้งคำถามว่า...รู้..นั้น รู้อะไร
คำตอบคือ...เมื่อแต่ก่อน มันมีตัวตน มีสังขาร เป็นธาตุรู้..เมื่อเข้าถึง อนัตตาธรรม..เหลือรู้...มันก็คือ..รู้ตัวเอง..หนือเรียกได้ว่า...จากธาตุรู้..กลับมาเป็น..รู้ธาตุ...รู้สรรพธาตุ รู้ความจริวของสรรพธาตุ รู้ความจริงของสรรพสังขาร...เพื่อ

ก็ต้องอาจมีคน ถามต่อว่า...เพื่ออะไรกัน
คำตอบ...ก็เพื่อใช้ธาตุที่รู้.นั้น..ตามมรรคแปดข้อ


รู้ธาตุ เพื่อใช้ธาตุให้ หมาะสม สมควร ถูกต้อง..ตามโลกธาตุ.ตามมรรคแปดข้อ..นั่นเอง

 

ภัยพิบัติในประเทศไทยเกิดขึ้นเพราะอะไร?


เพราะ "คนที่มีพลังเชื่อมโยงกับจิตจักรวาล" (ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนภัยพิบัติ)
เข้ามามีอำนาจ ยึดอำนาจ มีบทบาทสำคัญ แล้วขับดันให้คนอื่นๆ ที่มีพลังธรรม
สายอื่นๆ ลงไป หมดบทบาทลงไป เช่น ปู ก็มีพลังธรรมสายพุทธเกษตรก็หมด
บทบาทลงไปด้วย เรียกว่าการยึดครองอำนาจโดยฝ่ายของจิตจักรวาล (มารฟ้า)
ทางออกที่จะเป็นไปได้คือ ต้องให้ฝ่ายที่มีพลังธรรมบัวบานทั้งหลายต่อสู้เพื่อให้
ฝ่ายที่มีพลังธรรมของจิตจักรวาล ออกไป ถอยออกไป หรือลดบทบาทลงไปครับ


ตอนนี้ พลังภัยพิบัติก็รุนแรงขึ้น เช่น ประเทศไทยพบภัยแล้งอย่างหนัก เป็นต้น